บทที่ 1129 อันตรายของหลิ่วฉินอิน
“นายท่าน เกี่ยวกับร่องรอยของมังกรวารีล้างโลกา มีรายงานข่าวบางอย่างมา…”
ปี้ชิงเยวี่ยส่งข่าวผ่านตราผนึกดวงใจทมิฬ
สีหน้าจ้าวเฟิงพลันตื่นตะลึง ผ่านไปนานถึงเพียงนี้
ในที่สุดก็มีข่าวของมังกรวารีล้างโลกาเสียที
แต่ว่าจ้าวเฟิงก็ไม่ได้หวังว่าจะเป็นข่าวที่น่าเชื่อถืออะไร
มิฉะนั้นหน่วยข่าวกรองของตำหนักไท่หวงก็อาจจะกุมข่าวนี้อยู่เช่นกัน ตำหนักไท่หวงไม่มีทางเมินเฉยมังกรวารีล้างโลกา หากพบจะต้องล้อมจับกุมอย่างแน่นอน
“เหมือนมังกรวารีล้างโลกาจะผ่านมาแถบชายฝั่งทะเล!”
ปี้ชิงเยวี่ยพูด
แถบชายฝั่งทะเลก็คือสถานที่เริ่มต้นของตำหนักราชัน ทุกตารางนิ้วของดินแดนแถบนั้นล้วนอยู่ในการควบคุมของพวกเขา แม้กระทั่งหน่วยข่าวกรองมุมมืดทมิฬและโครงข่ายราชวงศ์ก็ยังยากจะแทรกซึมเข้าไปได้
“ผ่านแถบชายทะเล!”
จ้าวเฟิงตื่นตะลึง แววตาคลางแคลงสงสัยเล็กน้อย
“นายท่าน รายงานข่าวนี้ไม่ยืนยันแน่ชัด มังกรวารีล้างโลกาขอบเขตพลังสูงมาก คนทั่วไปยากจะสัมผัสถึงตัวตนของเขา…”
ปี้ชิงเยวี่ยเอ่ยขึ้นอีก
หน่วยข่าวกรองเข้มงวดกับข้อจริงเท็จของข่าวเป็นอย่างมาก ปี้ชิงเยวี่ยไม่กล้าให้ข่าวปลอมกับจ้าวเฟิง
เพียงแต่จ้าวเฟิงฝากฝังเรื่องนี้หลายครั้ง ดังนั้นปี้ชิงเยวี่ยจึงบอกข่าวที่ไม่แน่ใจนี้กับจ้าวเฟิง
“ชายฝั่งทะเล หรือว่า….”
สีหน้าของจ้าวเฟิงเปลี่ยนไป
มังกรวารีล้างโลการ่วมมือกับป๋ายหลิน เป้าหมายมีเพียงหนึ่งเดียวนั่นก็คือจ้าวเฟิง
แต่ว่าช่วงนี้จ้าวเฟิงมีชื่อเสียงโด่งดังมากในราชวงศ์ต้าเฉียน อีกทั้งตัวยังอยู่ในตำหนักราชัน มังกรวารีล้างโลกาไม่กล้ามาตอแยจ้าวเฟิงอย่างแน่นอน
ทว่ามังกรวารีล้างโลกามีป๋ายหลินช่วยเหลือ ป๋ายหลินจะต้องหาจุดอ่อนมาสังหารตนเป็นแน่
ด้วยพลังของเนตรทำนาย หากจะทำนายถึงหลิ่วฉินอินก็ไม่ยาก
ดังนั้นมังกรวารีล้างโลกาจะต้องคิดจับตัวหลิ่วฉินอิน จากนั้นนำมาใช้ข่มขู่ตน
“หากหลิ่วฉินอินกลับบ้านเกิด ทวีปบุปผาครามจะไม่เผชิญความวินาศหรอกหรือ…”
จิตใจของจ้าวเฟิงสั่นสะท้าน ไม่อาจสงบได้อีกต่อไป
จากการคาดเดาของจ้าวเฟิง หลิ่วฉินอินมีโอกาสมากที่จะกลับไปยังทวีปบุปผาคราม เช่นนี้เเล้วมังกรวารีล้างโลกาจะต้องไปที่นั่นตามการชี้นำของป๋ายหลินอย่างแน่นอน
“มังกรวารีล้างโลกา ป๋ายหลิน!”
ดวงตาของจ้าวเฟิงฉายแววเหี้ยมโหดวาบผ่าน
นับจากที่ออกจากทวีปบุปผาครามมา จ้าวเฟิงไม่เคยพูดถึงบ้านเกิดของตนที่โลกภายนอกเลย
นั่นเป็นเพราะทวีปบุปผาครามระดับชั้นต่ำเกินไป เล็กน้อยด้อยค่า จักรพรรดิผู้หนึ่งของชางไห่หรือดินแดนทวีปก็สามารถทำลายได้จนสิ้น
“ปี้ชิงเยวี่ย ข่าวนี้พบมานานเท่าใดแล้ว!”
จ้าวเฟิงถามขึ้นอย่างรีบร้อน
“สิบวันก่อนหน้านี้!” ปี้ชิงเยวี่ยตอบ
“บางทีอาจจะยับยั้งมังกรวารีล้างโลกาเอาไว้ได้!”
จ้าวเฟิงตกอยู่ในภวังค์ความคิด
หากก่อนหน้านี้ครึ่งเดือนมังกรวารีล้างโลกาผ่านแถบชายฝั่ง จ้าวเฟิงคิดไล่ตามไปก็ไม่ยาก แต่ประเด็นก็คือชางไห่กว้างใหญ่ไพศาล ตัวเองไม่รู้ว่ามังกรวารีล้างโลกาผ่านเส้นทางไหน
“แต่ขอเพียงไปถึงทวีปบุปผาครามก่อนมังกรวารีล้างโลกาก็ได้แล้ว!”
จ้าวเฟิงพลันลุกยืนขึ้น ดวงตาทั้งสองเปล่งประกายเด็ดขาด
“ทวีปบุปผาคราม ควรจะกลับไปสักครั้งหนึ่งแล้ว!”
จ้าวเฟิงพึมพำ
หากในวันข้างหน้าต้องพิสูจน์ตำแหน่งเทพ ผสานกับเทพโบราณแล้วเข้าไปในดินแดนเทพรกร้าง ทั้งชีวิตอาจจะกลับไปยังทวีปบุปผาครามไม่ได้แล้ว
จากนั้นจ้าวเฟิงสั่งการบางเรื่องกับปี้ชิงเยวี่ย
“ลูกศิษย์ห้าคนของตระกูลเถี่ยก็ฝากเจ้าด้วย!”
จ้าวเฟิงนำยาบางส่วนที่เตรียมไว้มอบให้กับปี้ชิงเยวี่ย
“ไม่รู้ว่าจ้าวหยูเฟยอยากกลับไปยังทวีปบุปผาครามหรือไม่”
ในเมื่อที่นั่นก็คือบ้านเกิดของจ้าวหยูเฟยเช่นเดียวกัน
ประสาทสัมผัสวิญญาณของจ้าวเฟิงกวาดไปยังที่ที่จ้าวหยูเฟยปิดด่าน
ทว่าจ้าวหยูเฟยเหมือนจะอยู่ในช่วงที่สำคัญเป็นอย่างมาก ไม่ตอบรับกับสถานการณ์ใดๆ ของโลกภายนอก
ในเมื่อเป็นเช่นนี้ จ้าวเฟิงจึงกลับไปคนเดียว
ขวับ! แขนซ้ายของจ้าวเฟิงสะบัด กายอยู่ในเงาซ้อนทับสีเงินแล้วหายวับไป
เสี้ยวขณะต่อมา จ้าวเฟิงก็ออกจากมณฑลอวี่ที่ตำหนักราชันตั้งอยู่
แต่เมื่อใช้มนตราอากาศเดินทาง อย่างมากจ้าวเฟิงก็กลับมาถึงยังหอควันสมุทรที่แถบชายฝั่ง
วันหนึ่ง
จ้าวเฟิงสำแดงปีกแสงศักดิ์สิทธิ์อัสนีสีชาด บินไปอย่างรวดเร็วในทะเลหมอกบนท้องฟ้า
ไม่นานนัก จ้าวเฟิงก็ออกจากดินแดนแถบชายฝั่ง เข้าสู่ทะเลแดนใต้
ด้วยความเร็วของจ้าวเฟิงในวันนี้ ชั่วพริบตาก็ไปไกลหมื่นลี้ในทะเลหมอกความว่างเปล่า
แน่นอน หลักๆ จ้าวเฟิงยังคงพึ่งตำหนักวิญญาณที่กระจายอยู่ในทะเลหมอกความว่างเปล่าเพื่อทำการส่งข้าม ด้วยขอบเขตพลังของจ้าวเฟิง เขาแผ่กระจายกลิ่นอายไปตามอารมณ์เสี้ยวเดียว ก็สามารถทำให้เจ้าตำหนักวิญญาณทะเลความว่างเปล่าตกใจขวัญหาย ออกมาส่งจ้าวเฟิงใช้ค่ายกลเคลื่อนย้ายด้วยตนเอง
แน่นอนว่าระหว่างทางจ้าวเฟิงก็ใช้มนตราอากาศทิ้งสัญลักษณ์มิติไว้มากมายเพื่อให้กลับไปสะดวก
หลายสิบวันหลังจากนั้น
จ้าวเฟิงปรากฏกายขึ้นณ ตำหนักวิญญาณทะเลความว่างเปล่าแห่งหนึ่งที่อยู่สุดชายขอบดินแดนศักดิ์สิทธิ์ฝูเมิ่ง
“เอ๋?” ดวงตาเทพเจ้าของจ้าวเฟิงพลันสัมผัสอะไรได้
“นายท่าน ท่านมาแล้วรึ?”
อีกด้านหนึ่ง เฒ่าประหลาดสวีส่งเสียงยินดีออกมา
จ้าวเฟิงตอบรับคร่าวๆ พบว่าเฒ่าประหลาดสวีก็อยู่แถวดินแดนศักดิ์สิทธิ์ฝูเมิ่ง
“หลิ่วฉินอินไม่ได้กลับทวีปบุปผาคราม?”
จ้าวเฟิงถามทันที
“ใช่ขอรับ ครึ่งปีก่อนนางมาถึงที่นี่ จากนั้นเข้าไปในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของตำหนักเซียนพิณสวรรค์ แล้วก็ไม่ได้ออกมาอีกเลย!”
เฒ่าประหลาดสวีรายงานทุกอย่างกับจ้าวเฟิง
“อะไรนะ?” สีหน้าจ้าวเฟิงตื่นตระหนก
หลิ่วฉินอินก็เข้าไปในตำหนักฟั่นหลุนกู่อินด้วย
ในตอนนั้นหลิวฉินซินก็ตายอยู่ที่ชั้นสี่สิบเก้าของตำหนักฟั่นหลุนกู่อิน
วันนี้ ในที่สุดจ้าวเฟิงก็เข้าใจ จุดสิ้นสุดของความฝันที่หลิ่วฉินอินพูด ก็คือจุดสุดท้ายของความทรงจำนางหรือตำหนักฟั่นหลุนกู่อิน ความทรงจำภพที่แล้วของนางก็จบลงในตำหนักฟั่นนี้
แต่ว่าสิ่งที่จ้าวเฟิงกังวลจริงๆ ก็คือหลิ่วฉินอินจะสามารถทะลวงไปถึงชั้นสี่สิบเก้าได้อย่างราบรื่นหรือไม่!
ตอนนั้นจ้าวเฟิงเคยบุกตำหนักฟั่นหลุนกู่อินไปพร้อมกับคนของตำหนักเซียนพิณสวรรค์ ความยากในนั้นเขาย่อมรู้เป็นอย่างดี
“แย่แล้ว!”
จู่ๆ จ้าวเฟิงก็นึกอะไรได้ ใบหน้าพลันเปลี่ยนสี
หากเป้าหมายของมังกรวารีล้างโลกาคือทวีปบุปผาคราม จ้าวเฟิงสามารถกลับไปถึงก่อนหน้ามังกรวารีล้างโลกาอย่างแน่นอน
แต่หากเป้าหมายของมังกรวารีล้างโลกาคือตำหนักเซียนพิณสวรรค์ เช่นนั้นก็ไม่แน่แล้ว!
“เฒ่าประหลาดสวี เก็บซ่อนกลิ่นอาย ช่วงเวลาสำคัญ…”
จ้าวเฟิงส่งกระแสจิตให้เฒ่าประหลาดสวีทันที
ฟิ้ว แซ่ด แซ่ด!
คิดถึงตรงนี้ ปีกข้างหลังของจ้าวเฟิงส่องประกายแสงวายุอัสนีระยิบระยับทันที
“ปีกอัสนีผ่านฟ้า!”
พรึ่บ!
กายของจ้าวเฟิงอยู่ในเส้นโค้งวายุอัสนีสีชาด หลบเข้าในท้องฟ้าแล้วหายวับไป
……
ดินแดนพิณสวรรค์
ชายเกล็ดมังกรดำทั่วตัวผู้หนึ่งลอยอยู่กลางอากาศ
“คนที่ตามหาอยู่ที่นี่?”
บนใบหน้าเย็นยะเยือกของมังกรวารีล้างโลกา รอยยิ้มอำมหิตปรากฏขึ้น
“ที่ที่คนผู้นี้อยู่เหมือนถูกพลังประหลาดสกัดกั้นเอาไว้!”
เสียงของป๋ายหลินที่อยู่ในกายมังกรวารล้างโลกาดังขึ้น
“อะไรนะ? ตอนนี้เจ้าจะบอกว่าไม่อาจยืนยันตำแหน่งของคนผู้นี้ได้รึ?”
มังกรวารีล้างโลกามีสีหน้าเคืองขุ่น
“เอ๋ กลิ่นอายยุคบรรพกาล?”
มังกรวารล้างโลกาพลันค้นพบบางสิ่ง ประสาทสัมผัสวิญญาณกวาดออกไป
ประสาทสัมผัสวิญญาณของเขาทะลุผ่านตำหนักเซียนพิณสวรรค์ กวาดไปยังส่วนลึกแห่งหนึ่ง
จากนั้นตำหนักโอ่อ่าใหญ่โตที่ลึกลับโบราณก็ปรากฏขึ้นในหัวของเขา
ตำหนักนั้นใหญ่โตงดงาม มีถึงสี่สิบเก้าชั้น ทั่วทั้งตำหนักอยู่ในกระแสสีรุ้งรางเลือน แผ่กระจายกลิ่นอายบรรพกาลเข้มข้น
ต่อให้เป็นมังกรวารีล้างโลกา แต่เพียงชั่วขณะเดียวก็ไม่อาจมองสภาพภายในของสิ่งก่อสร้างได้
“น่าจะเป็นที่นี่กระมัง!”
มังกรวารีล้างโลกาส่งภาพของสิ่งก่อสร้างนี้ให้กับป๋ายหลิน
ทั่วทั้งดินแดนพิณสวรรค์ ที่แห่งเดียวที่มังกรวารีล้างโลกาไม่อาจมองได้อย่างชัดเจนก็คือตำหนักฟั่นหลุนกู่อิน
“บางทีอาจจะอยู่ในนี้!” ป๋ายหลินพูดเสียงต่ำ
ตำหนักเซียนพิณสวรรค์ที่สุขสงบ หอตำหนักตั้งตระหง่าน งามแปลกแบบโบราณ ได้ยินส่งเสียงพิณแผ่วดังแว่วมา
ทันใดนั้น พลังน่าหวาดหวั่นแผ่มายังที่แห่งนี้
ภายในบริเวณหมื่นลี้ของตำหนักเซียนพิณสวรรค์ สรรพชีวิตนับไม่ถ้วนถูกปกคลุมอยู่ในพลังดุจผู้ครองฟ้าดิน กายใจเย็นเยือกและแข็งค้าง ล้มลุกคลุกคลานไปบนพื้น
แม้กระทั่งเจ้านายของตำหนักที่เป็นถึงจักรพรรดิปราณเทวะก็ยังคุกเข่าลงไปกับพื้น ขยับเขยื้อนไม่ได้ในพลังกลุ่มนี้
“ท่านอาจารย์!” ด้านข้าง หลีเสวี่ยอี้จิตใจหวาดหวั่น
พรึ่บ! เสี้ยวขณะต่อมา เหนือตำหนักเซียนพิณสวรรค์มีเงาหนึ่งปรากฏขึ้นทันที
“ไม่ทราบว่าผู้อาวุโสมาเยือนตำหนักเซียนพิณสวรรค์ด้วยธุระอันใด?”
เจ้าตำหนักพิณสวรรค์ถามอย่างยากลำบาก
นางสามารถสัมผัสได้ว่าแค่เพียงความคิดเดียวของคนผู้นี้ เกรงว่าก็สามารถทำลายทั้งตำหนักเซียนพิณสวรรค์ลงได้ นางไม่อาจจินตนาการได้เลยว่าชายผู้นี้แข็งแกร่งถึงเพียงใด
มังกรวารีล้างโลกาไม่สนใจเจ้าตำหนักพิณสวรรค์ ร่างกายกะพริบวูบมายังหน้าตำหนักฟั่นหลุนกู่อิน
“หรือว่าคนผู้นี้จะเกี่ยวข้องกับสตรีนางนั้น?”
เจ้าตำหนักพิณสวรรค์เผยสีหน้าขื่นขมจนปัญญา
ครึ่งปีก่อน สตรีงดงามหยาดเยิ้มผู้หนึ่งมาเยือนตำหนักเซียนพิณสวรรค์ เอาชนะยอดฝีมือในตำหนักทั้งหมด และเข้าไปในตำหนักฟั่นหลุนกู่อินโดยที่ไม่ใช้ป้ายคำสั่ง
ชายต่างเผ่าพันธุ์ผู้นี้จะต้องมาหานางอย่างแน่นอน
“หืม? เปิดไม่ออก!”
มังกรวารีล้างโลกาอยู่หน้าตำหนักฟั่นหลุนกู่อิน สีหน้าตื่นตะลึง
ด้วยพลังของเขา แค่เพียงชั่วขณะก็สามารถทำลายทั้งตำหนักเซียนพิณสวรรค์นี้ได้ ในยามนี้กลับไม่อาจเปิดประตูของตำหนักแห่งนี้ได้
“ผู้อาวุโส ตำหนักฟั่นหลุนกู่อินต้องใช้ป้ายคำสั่งนี้จึงจะเปิดได้!”
จ้าวตำหนักเซียนพิณสวรรค์มอบป้ายคำสั่งสีเงินโบราณป้ายหนึ่งให้เอง
พรึ่บ! ป้ายคำสั่งป้ายนั้นมายังเบื้องหน้าของมังกรวารีล้างโลกาทันที
วู้ม! พลังของมังกรวารีล้างโลกาไหลเข้าไปในป้ายคำสั่งป้ายนี้
บนป้ายคำสั่งโบราณสีเงินพลันเปล่งแสงพร่างพรายพุ่งสู่ฟ้า
ครืน ครึ่ก ครึ่ก~
ประตูโลหะของตำหนักฟั่นหลุนกู่อินเปิดออก
ประสาทสัมผัสวิญญาณของมังกรวารีล้างโลกากวาดเข้าไปข้างใน ใบหน้าพลันเคร่งเครียด
“ยังต้องทะลวงด่าน?” มังกรวารีล้างโลกาเคืองขุ่น
วู้ม ฟู่! ท้องฟ้าสั่นสะเทือนรางๆ ในบริเวณหมื่นลี้ ผู้แข็งแกร่งทั้งหมดรวมทั้งจักรพรรดิปราณเทวะ ในหัวมีเสียงอัสนีบาตฟาดผ่า กระอักเลือดสดๆ ออกมาทันที
ด้วยขอบเขตพลังของมังกรวารีล้างโลกา ย่อมมองออกว่าเนื้อหาที่ตำหนักมรดกแห่งนี้ทดสอบก็คือศาสตร์ดนตรี
และมังกรวารีล้างโลกาไม่เชี่ยวชาญศาตร์ดนตรีอย่างสิ้นเชิง ไม่มีทางทะลวงด่านได้อย่างราบรื่นแน่
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ข้าก็จะขุดออกไป!”
เจตจำนงของมังกรวารีล้างโลกาขยับเล็กน้อย
วู้ม ครืน ครืน!
ทันใดนั้น ตำหนักฟั่นหลุนกู่อินถูกมังกรวารีล้างโกถอนออกมาทั้งตำหนัก
“อย่า…” เจ้าตำหนักพิณสวรรค์คิดอยากจะส่งเสียงแต่กลับหยุดไว้
เพื่อทั้งสำนัก นางจะทำให้ผู้อาวุโสเบื้องหน้าผู้นี้ไม่พอใจไม่ได้
และในยามนี้เอง ที่ชายขอบไกลโพ้นของตำหนักเซียนพิณสวรรค์ พลังแข็งแกร่งไร้เทียมทานกลุ่มหนึ่งพวยพุ่งมา
“เอ๋? ที่นี่มีเซียนด้วยงั้นรึ?”
มังกรวารีล้างโลกาเผยสีหน้าสงสัย ประสาทสัมผัสวิญญาณกวาดออกไป
ดินแดนเกาะระดับล่างเช่นนี้ จะมีเซียนเทวาเร้นลับปรากฏขึ้นได้อย่างไร ในนี้จะต้องมีลับลมคมในอะไรแน่
ตอนนี้เอง เฒ่าประหลาดสวีแปลงเป็นประกายแสงสีขาวหลบออกมาทันใด
พรึ่บ! มังกรวารีล้างโลกาม้วนเอาตำหนักฟั่นหลุนกู่อินไป ก่อนแปลงเป็นประกายสีดำตามเฒ่าประหลาดสวีไปในทันที
“เป็นถึงเซียน หลบซ่อนอยู่ในนี้มีจุดประสงค์อะไร?”
มังกรวารีล้างโลกาคำรามโกรธเกรี้ยว กลิ่นอายพลังมหาศาลกักขังเฒ่าประหลาดสวีเอาไว้บนท้องฟ้าจนขยับไม่ได้
ในตำหนักเซียนพิณสวรรค์ ผู้อาวุโสระดับสูงบางคนใจสั่นสะท้าน มองไปยังภาพบนท้องฟ้าไกล
“เป็นผู้แข็งแกร่งขั้นเซียนเทวาเร้นลับ!”
“นั่นเป็นพลังไร้เทียมทานที่สำนักสามดาวถึงจะมีเชียวนะ!”
ในตำหนักเซียนพิณสวรรค์ ผู้อาวุโสทั้งหลายทอดถอนใจอย่างตื่นตระหนก
เซียนเทวาเร้นลับจะมาซ่อนตัวอยู่แถวตำหนักเซียนพิณสวรรค์ได้อย่างไรกัน?
“แต่เซียนเทวาเร้นลับผู้นี้อยู่ต่อหน้าชายต่างเผ่าพันธุ์กลับไม่มีพลังต้านทานแม้แต่น้อย!”
เจ้าตำหนักพิณสวรรค์สั่นเทิ้มไปทั้งกาย สูดลมหายใจเย็น
หลีเสวี่ยอี้ที่อยู่ข้างนางมองภาพนี้ด้วยใจที่หวาดผวาเช่นกัน
ไกลออกไปหลายหมื่นลี้
“มังกรวารีล้างโลกา เจ้ามีชีวิตอยู่จนเบื่อแล้วรึ จึงคิดที่จะจัดการกับนายของข้า!”
เฒ่าประหลาดสวีที่ถูกมังกรวารีล้างโลกากังขังไว้ จู่ๆ ก็หัวเราะขึ้น
“อะไรนะ? นายของเจ้า…จ้าวเฟิง!”
สีหน้าของมังกรวารีสั่นสะท้าน
ในยามนี้เอง
กลางอากาศเหนือเฒ่าประหลาดสวี เนตรสวรรค์สีทองอำพันข้างหนึ่งปรากฏขึ้น ราวกับฝังเอาไว้ในฟ้าดิน เสวียนอ้าวล้ำลึกประกายทองลอยเอ่อ มองลงมาเบื้องล่างอย่างเย็นชา