Skip to content

King of Gods 1148

King Of Gods

บทที่ 1148 สำแดงพลัง

“ท่านอาชิง!”

“ท่านอาชิง ท่านไม่เป็นอะไรกระมัง?”

คนเผ่าพันธุ์แพะหยกเขียวมีสีหน้าร้อนรน รีบไปรวมตัวกันทางท่านอาชิง

สีหน้าท่านอาชิงเคร่งขรึมเล็กน้อย มองไปที่ชายหนุ่มเกราะดำผู้นี้ ขมวดคิ้วมุ่น ดวงตาฉายแววร้อนรน

ขอบเขตพลังของฝ่ายตรงข้ามน่าจะเป็นเทวาเร้นลับชั้นต้น แต่ในฐานะที่เฮยซานเป็นยอดฝีมือในขอบเขตเทวาเร้นลับของเผ่าพันธุ์แพะเพลิงทอง และยังเป็นองครักษ์ประจำตัวของซือจินหวา พลานุภาพย่อมต้องอยู่เหนือเทวาเร้นลับชั้นต้นทั่วไป

และอาการบาดเจ็บของท่านอาชิงยังไม่หายดี ย่อมไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเฮยซาน

แต่สิ่งที่ท่านอาชิงคาดคิดไม่ถึงก็คือเฮยซานจะลงมือทำร้ายพวกเขาทันที ซึ่งกระบวนท่าเมื่อครู่โหดร้ายอย่างยิ่ง ไม่ออมมือแม้แต่น้อย

นี่พิสูจน์ได้ว่าสิ่งที่ซือจินหวาเอ่ยเมื่อครู่เป็นเรื่องจริงทั้งหมด ซือซูหานผู้อาวุโสที่พวกเขามาพบเพื่อขอรับความคุ้มครองที่นี่ ไม่ได้เห็นพวกเขาอยู่ในสายตาแม้แต่น้อย ถึงขนาดที่คิดจะฉวยโอกาสนี้สร้างเรื่องเพื่อลดเกียรติของเผ่าพันธุ์แพะหยกเขียว

ในตอนนี้ ท่านอาชิงยังครุ่นคิดอยู่ว่าซือจินหวาผู้นี้จงใจมาหาเรื่องเผ่าพันธุ์แพะหยกเขียว จะเป็นเพราะการชี้นำจากซือซูหานหรือไม่

ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ท่านอาชิงได้เข้าใจเหตุผลข้อหนึ่ง นั่นก็คือพวกเขาไม่อาจอยู่ที่เผ่าพันธุ์แพะเพลิงทองได้แล้ว

ในโลกใบนี้ คนไม่มีพลังก็จะไม่มีสายสัมพันธ์ใดกับใคร

“ต้องขอโทษด้วย เผ่าพันธุ์แพะหยกเขียวไม่ควรจะรบกวนพวกท่าน!”

ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ทำอะไรผิด ท่านอาชิงเองก็ทำได้เพียงเอ่ยปากขอโทษพวกเฮยซานและซือจินหวา

“คุณหนู คุณชาย พวกเราออกไปจากที่นี่กันเถอะ!”

ท่านอาชิงเอ่ยทันที

คนที่เหลือเองก็ไม่ใช่คนโง่ พวกเขาย่อมล่วงรู้ได้ว่าอยู่ที่นี่ต่อก็ไม่ต่างอะไรกับตอนอยู่ในเผ่าพันธุ์กวางยักษ์

“เหอะ เมื่อครู่พวกเจ้าเตรียมจะลงมือทำร้ายคุณชายของข้า พอถูกข้าขัดขวางเอาไว้ ก็คิดจะหนีไปแบบนี้หรือ?”

เฮยซานหัวเราะเสียงเย็น พูดจาข่มขวัญ

ลูกศิษย์ที่มองดูอยู่รอบบริเวณเหมือนสังเกตเห็นอะไรบางอย่าง จึงรีบถอยไปทันที

“อะไรกัน?” คนของเผ่าพันธุ์แพะหยกเขียวมีสีหน้าตื่นตะลึง

ซือจินหวาจงใจทำให้เผ่าพันธุ์แพะหยกเขียวลำบากใจตั้งแต่แรก ตอนนี้ท่านอาชิงเป็นคนเอ่ยปากขอโทษก่อน ฝ่ายตรงข้ามกลับไม่ปล่อยให้พวกเขาจากไป

“ไปยอมรับผิดต่อผู้อาวุโสซือกับข้า!”

เฮยซานเผยสีหน้าเหยียดหยาม ทะลักพลังศักดิ์สิทธิ์เทวาเร้นลับสีแดงฉานออกมาจากมือทั้งสองข้าง อุณหภูมิรอบบริเวณเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลัน

“หัตถ์เพลิงค้ำนภา!”

มือสองข้างของเฮยซานพลันขยายออกกลายเป็นกรงเล็บสัตว์สีแดงฉาน ปลดปล่อยเพลิงร้อนระอุที่ชวนให้คนหวาดกลัว

สีหน้าท่านอาชิงลนลานทันที ขอบเขตพลังของเฮยซานอยู่เหนือเขาระดับขั้นหนึ่ง อีกทั้งตอนนี้ตนเองก็ไม่ได้อยู่ในสภาวะสมบูรณ์พร้อม ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฝ่ายตรงข้ามแม้แต่น้อย

ยิ่งไปกว่านั้น ที่นี่ยังเป็นถิ่นของเผ่าพันธุ์แพะเพลิงทอง ทันทีที่เขาลงมือ คาดว่าทั้งเผ่าพันธุ์แพะหยกเขียวคงหนีความผิดไม่พ้น

ฟู่! ร่างเฮยซานขยับวูบวาบ โบกสองกรงเล็บสีแดงฉานตรงดิ่งไปโจมตีท่านอาชิง

และในเวลานี้เอง เบื้องหน้าท่านอาชิงปรากฏแสงอัสนีสีเหลืองเข้มสว่างวาบ

โครม! แก่นแท้พลังสายฟ้าที่แกร่งกล้ายิ่งใหญ่ระเบิดออกในทันที

คนทั้งหมดในสนามประลองรู้สึกได้ถึงแรงกดดันน่าพรั่นพรึงที่หนักอึ้งราวขุนเขา ขยับร่างกายไม่ได้ ปราณแท้จริงในสายเลือดเกือบจะแข็งค้างไป

“อ๊าก…”

เฮยซานร้องลั่นอย่างเจ็บปวด แขนถูกแก่นแท้พลังบริสุทธิ์กระแทกจนแหลก ร่างกายลอยกระเด็นไปปะทะกำแพงที่ไกลออกไปหลายร้อยจั้งด้านหลัง

อั่ก! เฮยซานกระอักเลือดอออกมา มองที่จ้าวเฟิงด้วยใบหน้าตื่นตระหนก

ถึงแม้เขาจะมีกายศักดิ์สิทธิ์ แต่ในเวลานี้มือสองข้างของเขากลับไม่มีสัญญาณว่าจะฟื้นฟู

ต้องรู้ว่า ระดับขั้นชีวิตจ้าวเฟิงก้าวสู่ขั้นเทพแท้จริงแล้ว และยังมีคุณสมบัติอัสนีเทวะทำลายล้าง ก็แค่กายศักดิ์สิทธิ์ของเทวาเร้นลับชั้นต้นเท่านั้น จะมีประโยชน์อะไรเมื่อถูกโจมตีจากจ้าวเฟิง

“นี่…ผู้อาวุโสจ้าว!”

ท่านอาชิงมองจ้าวเฟิงอย่างตื่นตกใจ หวาดกลัวในพลังของจ้าวเฟิงอย่างยิ่ง

แต่ต่อมาท่านอาชิงก็ทอดถอนใจอย่างเศร้าสลด

ที่นี่เป็นฐานที่ตั้งของเผ่าพันธุ์แพะเพลิงทอง จ้าวเฟิงลงมือทำร้ายคนของพวกนั้นที่นี่ ก็กำหนดไว้แล้วว่าพวกเขาไม่สามารถมีชีวิตรอดออกไปจากที่นี่ได้ และจ้าวเฟิงเป็นคนที่เผ่าพันธุ์แพะหยกเขียวนำมา เผ่าพันธุ์พวกเขาจึงย่อมสลัดความรับผิดชอบนี้ทิ้งไปไม่ได้

แต่ทว่าถึงจ้าวเฟิงจะไม่ลงมือ วันนี้เผ่าพันธุ์แพะหยกเขียวก็ยากจะรอดพ้นจากเคราะห์กรรมครั้งนี้

“เจ้าเป็นใคร? คิดไม่ถึงว่าเจ้าจะกล้าลงมือทำร้ายคนของเผ่าพันธุ์แพะเพลิงทอง!”

ซือจินหวาเอ่ยอย่างตื่นกลัว

สามารถเอาชนะเฮยซานได้ในกระบวนท่าเดียว ไม่อาจประมาทพลังของมนุษย์ตรงหน้าได้

และในเวลานี้เอง กลิ่นอายทรงพลังหลายกลุ่มทะลักออกมาจากในเผ่าพันธุ์แพะเพลิงทอง

ฟิ้ว ฟิ้ว!

ได้ยินเพียงเสียงแหวกอากาศหลายเสียง ผู้แข็งแกร่งเทวาเร้นลับของ เผ่าพันธุ์แพะเพลิงทองหกคนโบยบินมาสนามประลองแห่งนี้

“ใครกัน? กล้าโอหังที่เผ่าพันธุ์แพะเพลิงทอง…”

ผู้เฒ่าคนหนึ่งที่เป็นผู้นำ ดวงตาสองข้างแดงฉาน ลูบเคราแพะขณะจ้องจ้าวเฟิงด้วยสายตาเกรี้ยวกราด

สามารถเอาชนะเฮยซานได้ในกระบวนท่าเดียว ชายผมทองคนตรงหน้าน่าจะอยู่ในขอบเขตเทวาเร้นลับชั้นสูงหรือบริบูรณ์เป็นอย่างน้อย อีกทั้งพลังน่าจะสูงส่งกว่าปกติ

ทว่าที่นี่เป็นถิ่นที่ตั้งของเผ่าพันธุ์แพะเพลิงทอง ข้างกายเขายังมีผู้แข็งแกร่งเทวาเร้นลับห้าคน ต่อให้ชายผมทองผู้นี้จะแข็งแกร่งเท่าไหร่ ก็ไม่มีทางเป็นคู่ต่อสู้ของพวกเขาไปได้

“ผู้อาวุโสที่ห้า รีบสังหารคนผู้นี้เร็ว มันถึงกับกล้าหยามเกียรติของเผ่าพันธุ์แพะเพลิงทอง!”

ขณะนี้ ซือจินหวารีบเอ่ยพลางชี้ไปที่จ้าวเฟิง

คนของเผ่าพันธุ์แพะหยกเขียวฉายแววผิดหวังออกมา คิดไม่ถึงว่าทันทีที่จ้าวเฟิงลงมือ จะดึงดูดยอดฝีมือเทวาเร้นลับหกคนของเผ่าพันธุ์แพะเพลิงทองให้แห่กันมา

ส่วนผู้เฒ่าเคราแพะคนนี้เป็นผู้อาวุโสลำดับที่ห้าของเผ่าพันธุ์แพะเพลิงทอง มีพลังอยู่ในขอบเขตเทวาเร้นลับระดับบริบูรณ์ พลังลึกล้ำเกินคาดเดา

แต่จุดที่ทำให้พวกเขาคิดไม่ถึงก็คือ จ้าวเฟิงจะใช้อำนาจบาตรใหญ่เสียยิ่งกว่าผู้อาวุโสที่ห้า

“แค่พวกเจ้า ยังกล้ามาโอ้อวดต่อหน้าข้างั้นรึ?”

เรือนผมสีทองของจ้าวเฟิงโบกสะบัด ดวงตาสองข้างเย็นชา ทอดสายตาไปด้านหน้า

มาถึงดินแดนเทพรกร้างเป็นระยะเวลาหนึ่ง จ้าวเฟิงเริ่มจะคุ้นชินกับที่นี่แล้ว

พลังต่างหากคือทั้งหมด ผู้อ่อนแอย่อมถูกรังแกและเหยียดหยาม

เช่นนั้น นี่จึงเป็นเวลาที่จ้าวเฟิงต้องแสดงพลังออกมา เพื่อเก็บเกี่ยวผลประโยชน์และช่วงชิงอำนาจให้ตนเอง ณ เผ่าพันธุ์แพะเพลิงทอง

อย่างไรเสีย จ้าวเฟิงก็เลี้ยงดูมังกรวารีล้างโลกาที่เป็นน้ำไม่เต็มแก้วจนทรัพยากรเริ่มขาดแคลนเล็กน้อยแล้ว

“อะไรกัน…เจ้า!”

ผู้อาวุโสที่ห้าตื่นตะลึงเล็กน้อย ตะโกนก้องด้วยความโมโห

ประโยคนี้ของจ้าวเฟิงลอกเลียนคำพูดของเขาตอนเพิ่งมาถึงชัดๆ อีกทั้งยังดูเย่อหยิ่งยโสกว่ามาก

กระทั่งคนของเผ่าพันธุ์แพะหยกเขียวที่อยู่ข้างๆ ยังอึ้งงัน มองจ้าวเฟิงอย่างตะลึง

เมื่อเผชิญหน้ากับผู้แข็งแกร่งเทวาเร้นลับทั้งหก จ้าวเฟิงยังคงเยือกเย็น เย่อหยิ่งทระนงตน

พวกเขาไม่รู้ว่าจ้าวเฟิงไม่รู้จักตัวกลัวตายหรือลึกล้ำเกินจะคาด

“คนผู้นี้เป็นใครกัน? ไม่รู้ว่าในร่างมีสายเลือดประเภทใด ถึงแข็งแกร่งกล้าหาญขนาดนี้!”

“แต่เขาไม่รู้ฟ้าสูงแผ่นดินต่ำมากเกินไป กล้าล่วงเกินผู้อาวุโสที่ห้าเช่นนี้!”

ลูกศิษย์ของเผ่าพันธุ์แพะเพลิงทองที่มุงดูอยู่รอบๆ ต่างถกกัน บ้างหวาดกลัว บ้างก็เยาะเย้ย

“ได้ ในวันนี้ข้าจะให้พวกเจ้าได้ลิ้มลองผลของการยโสต่อหน้าข้า!”

สีหน้าผู้อาวุโสที่ห้าโกรธเกรี้ยว ตะโกนเสียงกร้าว

ฟิ้ว ฟิ้ว! ผู้แข็งแกร่งเทวาเร้นลับห้าคนโคจรพลังศักดิ์สิทธิ์ ตรงมาลงมือในทันที

กลิ่นอายที่น่ากลัวทรงพลังค่อยๆ กระจายตัวในสนามประลอง

คนโดยรอบที่ขอบเขตพลังต่ำกว่าเทวาเร้นลับถอยร่นไปหลายร้อยจั้ง หลบเข้าไปในสิ่งปลูกสร้างอื่นๆ

ทั้งสนามประลองเหลือเพียงคนของเผ่าพันธุ์แพะเพลิงทองหกคนที่ประจันหน้ากับจ้าวเฟิงจากไกลๆ

“เหอะ มนุษย์ เจ้าตายแน่!”

ซือจินหวาแค่นเสียงเย็น มองจ้าวเฟิงอย่างเหยียดหยาม

แต่วินาทีต่อมา สีหน้าเขาพลันเปลี่ยนไป ร่างกายค้างแข็งอยู่ที่เดิม

ผัวะ โครม!

ผู้แข็งแกร่งเทวาเร้นลับทั้งห้าของเผ่าพันธุ์แพะเพลิงทองเพิ่งจะเข้าใกล้จ้าวเฟิง ก็ถูกแรงกดดันจากอัสนีที่หนักอึ้งราวขุนเขากดให้หมอบราบคาบลงกับพื้น

ไม่ว่าพวกเขาจะดิ้นรนอย่างไร ก็ไม่สามารถกระดิกตัวได้

ส่วนอีกด้าน ผู้อาวุโสที่ห้าก็ถูกจ้าวเฟิงโจมตีด้วยหมัดสายฟ้าจนพ่นละอองเลือดออกมา

ผู้อาวุโสทั้งหกของเผ่าพันธุ์แพะเพลิงทองถูกจ้าวเฟิงกำราบได้ด้วยกระบวนท่าเดียวอีกครั้ง

ทั้งสนามประลองปกคลุมไปด้วยแก่นแท้พลังสายฟ้าสีเหลืองเข้ม แม้แต่พื้นหินหยกอันแข็งแกร่งทนทานยังปริร้าวทีละน้อย

ชาวเผ่าคนอื่นที่หลบซ่อนอยู่ในสิ่งปลูกสร้างรอบๆ ตื่นตะลึงตาค้าง ไม่อาจเชื่อสิ่งที่สายตาตนเองเห็น

“ผู้อาวุโสจ้าว…”

อวี้หลินเอ๋อร์หน้าถอดสี ยกมือนวลเนียนปิดปากตนเอง

สายตาเลื่อมใสของหลิวอวิ๋นที่อยู่ด้านข้างจับจ้องจ้าวเฟิงไม่วางตา

“นี่เป็นไปได้อย่างไรกัน…เจ้า?”

ผู้อาวุโสที่ห้ากุมหน้าอก ความตื่นตะลึงระบายทั่วใบหน้า

ลงมือเพียงครู่เดียวก็สามารถปราบผู้แข็งแกร่งเทวาเร้นลับชั้นต้นทั้งห้าได้ และยังทำร้ายเขาผู้อยู่ในขอบเขตเทวาเร้นลับระดับบริบูรณ์จนบาดเจ็บด้วยหมัดเดียว นี่เป็นไปได้อย่างไรกัน

จากประสาทสัมผัสของผู้อาวุโสที่ห้า ขอบเขตพลังของชายผมทองตรงหน้าก็แค่เทวาเร้นลับชั้นสูงเท่านั้น

หรือว่าขอบเขตพลังที่แท้จริงของเขาจะอยู่ในขอบเขตเซียนสวรรค์ แต่เก็บงำพลังอยู่ตลอด?

แต่เขาจะล่วงรู้ได้อย่างไรว่าหลายปีก่อนนี้จ้าวเฟิงก็เอาชนะครึ่งเทพระดับกลางในดินแดนทวีปได้แล้ว

และก่อนที่จะเข้าไปในดินแดนเทพรกร้าง ระดับขั้นชีวิตของจ้าวเฟิงไปถึงขั้นเทพแท้จริงแล้ว เพราะเหตุนี้พลานุภาพและกลยุทธ์การต่อสู้ทางกายของจ้าวเฟิงจึงแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นด้วยเช่นกัน

จ้าวเฟิงไม่ใส่ใจผู้อาวุโสที่ห้าผู้นี้ เขาปลดปล่อยพลังเจตจำนงที่ไร้รูปร่างหลอมรวมเข้าไปในอากาศ

ฟู่! ก้อนเมฆและสายลมปั่นป่วน พลานุภาพในฟ้าดินกลุ่มหนึ่งรวมตัวกันเป็นมือสายฟ้าสว่างแปลบปลาบ จับซือจินหวาที่อยู่ไม่ไกลนักเอาไว้

“ผู้อาวุโส…ไว้ชีวิตด้วย!”

ในตอนนี้ ซือจินหวาสัมผัสได้ถึงอันตรายที่ร้ายแรงถึงแก่ชีวิต

พลังน่ากลัวที่จ้าวเฟิงปลดปล่อยออกมาทำให้เขาตื่นตกใจอย่างมาก อย่างไรเสียพลังฝึกตนของเขาก็อยู่แค่ขอบเขตแก่นก่อกำเนิดระดับสูงเท่านั้น

“เจ้ากล้าทำร้ายจินหวา!”

ยามนี้เอง เสียงตะโกนดังกึกก้องมาจากภายในแสงสีทองใหญ่ยักษ์

ฟู่! ร่างสีเขียวเข้มร่างหนึ่งปรากฏกายขึ้นตรงกลางระหว่างจ้าวเฟิงและซือจินหวา

ตู้ม! ผู้เฒ่าคนนี้ลงมือทันที เตรียมจะช่วยซือจินหวาให้รอดพ้นจากเงื้อมมือของจ้าวเฟิง

“ผู้อาวุโสที่สอง!”

ผู้อาวุโสที่ห้าเผยสีหน้ายินดี

ในเผ่าพันธุ์แพะเพลิงทอง นอกจากเขาที่เป็นขอบเขตเทวาเร้นลับ ผู้อาวุโสอีกสี่คนที่เหลือล้วนมีพลังในขอบเขตเซียนสวรรค์ หรืออาจจะถึงครึ่งเทพเสียด้วยซ้ำ

ส่วนผู้อาวุโสที่สองซือซูหานยิ่งเป็นยอดฝีมือในหมู่ยอดฝีมือที่เป็นครึ่งเทพ

“เหอะๆ!” จ้าวเฟิงหัวเราะเสียงเย็น ห้วงความคิดขยับเล็กน้อย

เดิมซือจินหวาคิดว่าแค่ท่านปู่มาถึง เขาจะต้องรอดปลอดภัยแน่

ผัวะ! แต่ในวินาทีต่อมา ร่างกายของเขาก็ระเบิดออกทันที

ภาพเหตุการณ์นี้สะกดให้คนทั้งหมดรอบๆ บริเวณตะลึงค้าง

“ผู้อาวุโสจ้าว…” เสียงของท่านอาชิงสั่นเทาไม่หยุด

แต่เดิม จ้าวเฟิงแสดงพลังแข็งแกร่งอย่างที่สุดออกมา เอาชนะผู้อาวุโสที่ห้าไปได้ บางทีอาจยังพอมีคุณสมบัติต่อรองกับเผ่าพันธุ์แพะเพลิงทองอยู่บ้าง เผ่าพันธุ์แพะหยกเขียวอาจหลุดพ้นไปได้

แต่ตอนนี้ ซือซูหานเพิ่งมาถึง จ้าวเฟิงกลับสังหารทายาทของเขาต่อหน้าต่อตาอีกฝ่าย

การกระทำเช่นนี้เป็นการกระตุกหนวดซือซูหาน ยั่วยุเขาให้โมโห เหตุใดผู้อาวุโสจ้าวจึงทำเรื่องโง่งมเช่นนี้ได้?

ทว่าเรื่องที่ท่านอาชิงคาดเดาไว้กลับไม่ได้เกิดขึ้น

“นี่หมายความว่าอย่างไร?”

ซือซูหานถามจ้าวเฟิงด้วยใบหน้านิ่งสงบ มองอีกฝ่ายอย่างระแวดระวัง

ขณะที่เขามาถึง ชายผมทองผู้นี้ก็ยังสังหารซือจินหวา นี่ทำให้ซือซูหานตื่นกลัวอยู่บ้าง

ถึงแม้ซือจินหวาจะเป็นทายาทของเขา แต่ก็ยังคงเป็นคนอ่อนแอที่ไร้ประโยชน์ ช่วยอะไรเขาไม่ได้ ไยซือซูหานต้องทำเรื่องโง่เง่าเพราะการตายของทายาทผู้นี้ด้วย

ในขณะนั้นเอง มีเสียงชราทรงอำนาจดังออกมาจากตำหนักสีทองเข้มในพื้นที่ต้องห้ามของเผ่าพันธุ์แพะเพลิงทอง

“ให้เขาเข้ามาพบข้า!”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!