บทที่ 1150 เผ่าพันธุ์จิ้งเหลนลิ้นดำ
จ้าวเฟิงหยิบป้ายหยกออกมา กระตุ้นพลังพลังธาตุอัสนีเทวะที่แฝงอยู่ในกายสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ ทำลายตราประทับด้านบนทันที
สตินึกคิดดำดิ่งเข้าไปภายใน ข้อมูลแผนที่โดยละเอียดจำนวนมหาศาลพลันทะลักเข้าไปในหัวของจ้าวเฟิง
“พื้นที่ป่าไม้แดง เกาะเทียนอวี่ อ่าวทะเลคราม…”
แผนที่ชุดนี้มีขนาดใหญ่กว่าแผนที่ของเผ่าพันธุ์แพะหยกเขียวมากกว่าสิบเท่า หนำซ้ำเนื้อหาบนนั้นยิ่งละเอียดยิบมากขึ้น และใหม่ยิ่งกว่า
จากที่จ้าวเฟิงรู้มา ขั้วอำนาจสี่ดาวในเกาะเทียนอวี่มีทั้งหมดเกือบยี่สิบแห่ง ส่วนเกาะเทียนอวี่เป็นเพียงหนึ่งในสมาชิกของอ่าวทะเลครามอันกว้างใหญ่ ผู้ปกครองทั้งอ่าวทะเลครามเป็นขั้วอำนาจเผ่าพันธุ์สี่ดาวครึ่งที่แข็งแกร่งเผ่าหนึ่ง
นอกจากนั้น จ้าวเฟิงเองก็ล่วงรู้ว่าในเกาะเทียนอวี่มีค่ายกลขนส่งเก่าแก่ขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง สามารถส่งไปจนถึงขอบชายแดนแต่ละแห่งของอ่าวทะเลคราม
พูดได้ว่า ถ้าหากจ้าวเฟิงคิดจะเดินทางออกจากที่นี่ ใช้ค่ายกลขนส่งเก่าแก่ของเกาะเทียนอวี่จะสะดวกที่สุด
แต่ทว่า ค่ายกลขนส่งเก่าแก่แห่งนี้อยู่ในกำมือเจ้าเกาะเทียนอวี่
“จ้าวเฟิง อาวุธเทพที่จะมอบให้เจ้าอยู่กับยอดผู้อาวุโส เจ้าต้องไปรับเอาด้วยตนเอง!”
ซือซูหานเอ่ยเสียงเย็นชา
“ตอนนี้ยอดผู้อาวุโสอยู่ที่ไหน?”
จ้าวเฟิงเอ่ยถามอย่างตรงไปตรงมา
ตอนที่มาถึงเผ่าพันธุ์แพะเพลิงทอง นอกจากเทพแท้จริงเทียนหั่วและซือซูหาน จ้าวเฟิงไม่เห็นผู้แข็งแกร่งในระดับขั้นนี้คนอื่นอีก
“อยู่ที่ป่าเพลิงสมุทร ที่นั่นคือสนามรบระหว่างเผ่าพันธุ์แพะเพลิงทองและเผ่าพันธุ์จิ้งเหลนลิ้นดำ!”
ซือซูหานระบายยิ้มเย็นเยือกออกมา
แผนที่ของเผ่าพันธุ์แพะเพลิงทองล้ำค่าอย่างมากแล้ว แต่จ้าวเฟิงยังต้องการอาวุธเทพชั้นรองอีก จึงย่อมต้องทำอะไรบ้างถึงจะเหมาะสม
ดังนั้น เทพแท้จริงเทียนหั่วจึงให้จ้าวเฟิงไปที่สนามรบเพื่อเอาอาวุธเทพชั้นรองมา เมื่อไปถึงที่นั่น จ้าวเฟิงจะไม่ออกแรงเพื่อเผ่าพันธุ์แพะเพลิงทองได้อย่างไรกัน
“แบบนี้ก็พอดีเลย ได้เวลาไปยืดเส้นยืดสายบ้างแล้ว ในช่วงนี้ยังไม่เจอคนที่รับมือข้าได้เลย!”
จ้าวเฟิงหัวเราะเสียงเย็น จากนั้นส่งซือซูหานกลับไปทันที
ซือซูหานออกจากที่พักของจ้าวเฟิงด้วยใบหน้าเคร่งขรึม
ประโยคนี้ของจ้าวเฟิงบ่งบอกอย่างชัดเจนว่า เขาไม่มีความสามารถจะรับมือกับกระบวนท่าของจ้าวเฟิง
“ยโสโอหังเสียจริง ถึงเวลานั้นเจ้าก็รอลำบากได้เลย!”
ซือซูหานเผยยิ้มเจ้าเล่ห์
ในเผ่าพันธุ์แพะเพลิงทองมีผู้อาวุโสอยู่ทั้งหมดห้าคน ยอดผู้อาวุโส ผู้อาวุโสที่สาม และผู้อาวุโสที่สี่อยู่ที่สนามรบ
ส่วนลูกศิษย์อัจฉริยะส่วนมากในเผ่าพันธุ์แพะเพลิงทองอยู่กันที่นี่
แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้น เผ่าพันธุ์แพะเพลิงทองก็ยังอารักขากันอย่างแน่นหนา ไม่กล้าปะทะกับเผ่าพันธุ์จิ้งเหลนลิ้นดำอย่างซึ่งหน้า
“ป่าเพลิงสมุทร”
จ้าวเฟิงค้นหาสถานที่แห่งนี้จากแผนที่ในหัวตนได้อย่างรวดเร็ว
ป่าเพลิงสมุทรอยู่ในป่าใบไม้แดง เพียงแต่ที่นั่นมีทรัพยากรล้ำค่าธาตุไฟจำนวนมหาศาล เมื่อมองจากไกลๆ จะเหมือนคลื่นมหาสมุทรสูงต่ำทอดตัวยาว จึงได้รับสมญานามนี้มา
ส่วนครั้งนี้ เหตุผลที่ขั้วอำนาจเผ่าพันธุ์สี่ดาวแย่งชิงสถานที่แห่งนี้ก็เพราะพบทรัพยากรล้ำค่าใต้ป่าเพลิงสมุทร…โสมเพลิงสวรรค์
โสมเพลิงสวรรค์เป็นทรัพยากรล้ำค่าเก่าแก่ในธาตุไฟที่แฝงด้วยไอสวรรค์หนาแน่น หนำซ้ำยังมีประโยชน์อย่างมหาศาลต่อระดับขั้นชีวิตของผู้แข็งแกร่งขั้นเทพ รวมไปถึงครึ่งเทพด้วย
หลังจากยืนยันจุดหมายปลายทางแล้ว จ้าวเฟิงจึงออกเดินทางโดยลำพัง
ที่จริงแล้วป่าเพลิงสมุทรเป็นพื้นที่ของเผ่าพันธุ์แพะเพลิงทอง ด้วยเหตุนี้ระยะทางจึงไม่นับว่าไกลมากมาย ด้วยความเร็วของจ้าวเฟิง ใช้เวลาเพียงสองเดือนก็เดินทางไปถึง
ถึงแม้ว่าจ้าวเฟิงจะรีบร้อนเดินทาง แต่จ้าววั่นกับจ้าวหวางในมนตราอากาศกลับฝึกตนและทำความเข้าใจอยู่ตลอด ทำให้เกิดการบรรลุและประสบการณ์การฝึกมากมายไม่หยุดในหัวจ้าวเฟิง
“ถึงแล้ว!” จ้าวเฟิงหยุดฝีเท้า
มองเห็นป่าไม้สีแดงฉานจนผิดปกติผืนหนึ่งอยู่ไกลๆ ในนั้นตลบอบอวลด้วยหมอกสีแดงหนาแน่น
“สภาพแวดล้อมที่นี่เอื้อต่อผู้ฝึกตนในศาสตร์ไฟอย่างยิ่ง!”
จ้าวเฟิงสัมผัสได้ถึงไอสวรรค์ธรรมชาติและกลิ่นอายทรัพยากรล้ำค่าธาตุไฟที่อัดแน่นอยู่ในอากาศ พลังศักดิ์สิทธิ์วายุอัสนีธาตุไฟในร่างเขาปั่นป่วนขึ้นทันที
จ้าวเฟิงพบคนเผ่าพันธุ์แพะเพลิงทองจำนวนหลายร้อยในพื้นที่รกร้างแห่งหนึ่ง
ณ พื้นที่ไกลออกไปหลายร้อยลี้ เป็นที่รวมตัวของเผ่าพันธุ์จิ้งเหลนลิ้นดำจำนวนมาก
“คนที่มาก็คือจ้าวเฟิง?”
ตอนนี้ มีผู้เฒ่าเคราแดงยาวเกือบถึงเข่าคนหนึ่งเดินออกมาจากกลุ่มเผ่าพันธุ์แพะเพลิงทอง
ฟิ้ว! จ้าวเฟิงร่อนลงไปทันที
รอบบริเวณซากปรักหักพังมีสมาชิกเผ่าพันธุ์แพะเพลิงทองมากมาย สีหน้าของพวกเขาอิดโรยยิ่งนัก สมาชิกส่วนหนึ่งในนั้นยังได้รับบาดเจ็บสาหัสอีกด้วย
เมื่อเห็นจ้าวเฟิงมาถึง สมาชิกเผ่าพันธุ์แพะเพลิงทองคิดว่าเป็นยอดฝีมือที่เผ่าพันธุ์ส่งมาเป็นกำลังเสริม จึงเผยแววยินดีออกมา แต่ตอนที่พวกเขาสัมผัสถึงขอบเขตพลังของจ้าวเฟิง ก็เปลี่ยนเป็นสิ้นหวังและดูแคลนอย่างรวดเร็ว
“ผู้อาวุโสเป็นอะไรกันแน่? เหตุใดจึงส่งเทวาเร้นลับชั้นสูงคนหนึ่งมา!”
“มนุษย์ในขอบเขตเทวาเร้นลับชั้นสูงคนหนึ่งจะมีประโยชน์อะไร?”
สมาชิกของเผ่าพันธุ์แพะเพลิงทองในสนามรบทอดถอนใจติดๆ กัน
กระทั่งยอดผู้อาวุโสยังชะงักไปเล็กน้อย มองไปที่จ้าวเฟิงอย่างสงสัยหวาดระแวง
ตอนที่เทพแท้จริงเทียนหั่วส่งข่าวมา บอกเพียงว่าผู้แข็งแกร่งคนใหม่ในเผ่าพันธุ์จะมารับอาวุธเทพชั้นรอง และจะช่วยเหลือพวกเขาจากเผ่าพันธุ์จิ้งเหลนลิ้นดำ
แน่นอนว่าหลังจบเรื่อง ทางเผ่าจะมอบอาวุธเทพชั้นรองอีกชิ้นหนึ่งให้ยอดผู้อาวุโส
แต่เทพแท้จริงเทียนหั่วกลับไม่ได้บอกเขาว่าจ้าวเฟิงมีพลังในขอบเขตเทวาเร้นลับชั้นสูงเท่านั้น
“ยอดผู้อาวุโส ข้าได้รับคำสั่งจากเทพแท้จริงเทียนหั่วให้มาเอาอาวุธเทพชั้นรอง!”
จ้าวเฟิงเดินไปยังเบื้องหน้ายอดผู้อาวุโสและเอ่ยตามตรง
“อะไรนะ? เจ้าเด็กนี่มาเอาอาวุธเทพชั้นรองงั้นหรือ?”
“ตอนนี้สองเผ่าพันธุ์ทำศึกกัน เขามาเอาอาวุธเทพชั้นรองไป แล้วพวกเราจะยังมีความหวังอะไรอีก!”
สมาชิกเผ่าพันธุ์แพะเพลิงทองจ้องจ้าวเฟิงด้วยสีหน้าเกลียดชัง
“ท่านยอดผู้อาวุโส ทำแบบนี้คงจะไม่ค่อยเหมาะสมกระมัง!”
ยามนั้น ผู้อาวุโสที่สามแห่งเผ่าพันธุ์แพะเพลิงทองเดินออกมา
“หุบปาก!”
ยอดผู้อาวุโสตะโกนทันที กลิ่นอายที่น่ากลัวมหาศาลกระจายตัวในฉับพลัน
รอบบริเวณตกอยู่ในความเงียบ ไร้ซึ่งสรรพเสียงใด
นอกจากเทพแท้จริงเทียนหั่ว ยอดผู้อาวุโสก็เป็นครึ่งเทพที่แข็งแกร่งที่สุดในเผ่าพันธุ์แพะเพลิงทอง ในยามที่ผู้อาวุโสสูงสุดปิดด่านฝึกตน ยอดผู้อาวุโสจะเทียบเท่าได้กับผู้อาวุโสสูงสุดของเผ่า
“นี่คือคำสั่งของผู้อาวุโสสูงสุด!”
ยอดผู้อาวุโสเอ่ยอย่างเข้มงวด ปรากฏกระบี่ยาวที่เต็มไปด้วยอักษรสีทองขึ้นในมือ
จ้าวเฟิงหยิบอาวุธเทพชั้นรองชิ้นนี้มาวางไว้ในมือ และกะเกณฑ์พลังอยู่ครู่หนึ่ง
“ไม่เลวเลย!”
จ้าวเฟิงยังนับว่าพออกพอใจ จนถึงตอนนี้ อาวุธเทพชั้นรองชิ้นนี้เป็นอาวุธเทพชั้นรองระดับขั้นสูงสุดตั้งแต่ที่เขาเคยเห็นมา
“ต่อจากนี้ ต้องลำบากสหายจ้าวช่วยเผ่าพันธุ์แพะเพลิงทองต้านทานศัตรูแล้ว!”
ยอดผู้อาวุโสสีหน้าราบเรียบ สายตาจ้องจ้าวเฟิงอย่างลึกล้ำ
ถึงแม้ว่าจ้าวเฟิงจะอยู่แค่ขอบเขตเทวาเร้นลับชั้นสูง แต่ยอดผู้อาวุโสมองออกถึงความพิเศษของจ้าวเฟิง และเขาเองก็เชื่อมั่นในกลยุทธ์ของผู้อาวุโสสูงสุด เทพแท้จริงเทียนหั่วจะส่งคนที่ไร้ประโยชน์มาช่วยพวกเขาได้อย่างไรกัน
“ย่อมเป็นเช่นนั้นอยู่แล้ว!”
จ้าวเฟิงเอ่ยตอบทันที
เขามาถึงที่นี่ หนึ่งคือเพื่อขัดเกลาความสามารถ สองคือเพื่อเอาของรางวัลส่วนหนึ่งด้วย
“ด้านหน้าไม่ไกลจากพวกเรามีโสมเพลิงสวรรค์ล้ำค่า และฝั่งตรงข้ามเป็นเผ่าพันธุ์จิ้งเหลนลิ้นดำ…”
ผู้อาวุโสสูงสุดอธิบายสถานการณ์คร่าวๆ ให้จ้าวเฟิงฟัง
โสมเพลิงสวรรค์มีประโยชน์ต่อเผ่าพันธุ์แพะเพลิงทองที่ฝึกฝนเคล็ดวิชาธาตุไฟเป็นหลักอย่างมหาศาล พวกเขาถึงให้คุณค่ากับทรัพยากรประเภทนี้ถึงขนาดนี้
“ในตอนนี้ ขอแค่พวกเรายืนหยัดอยู่ที่นี่ก็พอแล้ว!”
ยอดผู้อาวุโสเอ่ยอีกครา
ถึงแม้เผ่าพันธุ์แพะเพลิงทองจะค่อนข้างอ่อนแอ แต่สภาพแวดล้อมที่นี่เอื้อประโยชน์ต่อพวกเขามาก ด้วยเหตุนี้พวกเขาถึงยืนหยัดจนถึงตอนนี้ได้
“เข้าใจแล้ว!”
จ้าวเฟิงหาสถานที่แห่งหนึ่ง เร้นกายเข้าไปในมนตราอากาศ
วูบ วูบ!
ในมือจ้าวเฟิงปรากฏอาวุธเทพชั้นรองสองชิ้น คือหอกเพลิงทองและกระบี่ริ้วทอง
จ้าวเฟิงมอบหอกเพลิงทองให้แก่จ้าวหวาง มอบกระบี่ริ้วทองให้จ้าววั่น
“พลังธาตุทองในกระบี่ริ้วทองเล่มนี้บริสุทธิ์ยิ่งนัก ในภายหน้ายังสามารถใช้เป็นทรัพยากรในการฝึกฝนวายุอัสนีธาตุทองด้วย!”
จ้าวเฟิงวางแผนเอาไว้เช่นนี้
ถ้าหากเผ่าพันธุ์แพะเพลิงทองได้ยินคำพูดของจ้าวเฟิง เกรงว่าคงจะกระอักเลือดตาย
คิดไม่ถึงว่าจ้าวเฟิงวางแผนจะเอาอาวุธเทพชั้นรองที่สำคัญขนาดนี้มาใช้เป็นทรัพยากรฝึกฝน สิ้นเปลืองของเป็นอย่างยิ่ง
อันที่จริง แต่ไหนแต่ไรจ้าวเฟิงก็ไม่ขาดอาวุธเทพสำหรับสู้ระยะประชิด จ้าวเฟิงฝึกฝน ‘กายสายฟ้าปฐพีทอง’ ถึงขั้นที่เจ็ดแล้ว ร่างกายของเขาคืออาวุธที่ดีที่สุด และยังผสานดัชนีของพลังเลือดเทพเอาไว้ จึงเป็น ‘อาวุธเทพ’ ที่เหนือกว่าอาวุธเทพชั้นรองไปไกล
สิ่งที่จ้าวเฟิงขาดไปก็คืออาวุธเทพระยะไกล ระดับของธนูเหนือนภาไม่อาจทำให้จ้าวเฟิงพอใจได้อีกต่อไป
ส่วนตราเทพบรรพกาล จ้าวเฟิงยังไม่คิดจะเปิดเผยความลับเร็วเกินไปนัก
อย่างไรเสีย อาวุธเทพชิ้นนี้ก็เป็นรางวัลภารกิจของเทพแท้จริงเทียนฝาที่มาดินแดนทวีปในตอนนั้น จากจุดนี้พอจะมองออกว่า ‘ตราเทพบรรพกาล’ เป็นอาวุธล้ำค่าอย่างมากในบรรดาอาวุธเทพ
จ้าวเฟิงนั่งขัดสมาธิ เริ่มการฝึกฝน
ลำดับแรก จ้าวเฟิงเริ่มฝึกฝน ‘วิชาวายุอัสนีห้าสาย’ และ ‘วิชาแปลงเทพ ‘
ถัดจากนั้นจึงเริ่มฝึกฝน ‘วิชาแยกวิญญาณ’ ขั้นที่สาม
ในมิติดวงตาเทพเจ้า ลูกทรงกลมสีทองลึกลับเริ่มคัดลอกทรัพยากรล้ำค่าโบราณ ส่วนรอบผลึกเทพอัสนีเต็มไปด้วยห้วงความคิดจำนวนมากเกาะกลุ่มกัน ก่อนจะค่อยๆ ดึงพลังอัสนีเทวะหลอมรวมเข้าไปในกายวิญญาณอัสนี
เมื่อมาถึงดินแดนเทพรกร้าง ด้วยความสามารถของจ้าวเฟิง หากคิดจะเดินทางออกจากเกาะเทียนอวี่หรืออ่าวทะเลครามก็ลำบากมากแล้ว ไม่ต้องพูดถึงเขตผาเก่าหนึ่งในสิบแปดอาณาเขตเลย
อีกอย่างดินแดนเทพรกร้างก็อันตรายอย่างยิ่ง มีแต่ต้องเพิ่มพลังไม่หยุดเท่านั้น จ้าวเฟิงถึงจะมีชีวิตรอดปลอดภัยไปเจอจ้าวหยูเฟย รวมทั้งซินอู๋เหินที่ไม่รู้ว่าตอนนี้แข็งแกร่งไปถึงระดับไหนแล้ว
ดังนั้นจ้าวเฟิงจึงต้องรีบเพิ่มพลังของตนเองให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
ฝั่งตรงข้ามของเผ่าพันธุ์แพะเพลิงทองก็คือฐานที่มั่นของเผ่าพันธุ์จิ้งเหลนลิ้นดำ
“ยอดผู้อาวุโส คนเมื่อครู่ต้องเป็นกำลังเสริมของเผ่าพันธุ์แพะเพลิงทองแน่!”
ผู้เฒ่าผิวเขียวหยาบหนา ดวงตาเปล่งประกาย
แต่เดิมขอแค่เผ่าพันธุ์จิ้งเหลนลิ้นดำโจมตีไปอีกสักสองสามครั้ง ก็จะสามารถเอาชนะเผ่าพันธุ์แพะเพลิงทองได้อย่างราบคาบ
เผ่าพันธุ์จิ้งเหลนลิ้นดำไม่เห็นความสำคัญของทรัพยากรพวกนี้แม้แต่น้อย สิ่งที่พวกเขาให้ความสำคัญคือเผ่าพันธุ์แพะเพลิงทองต่างหาก
เผ่าพันธุ์แพะเพลิงทองในขณะนี้ตกต่ำลงและโดดเดี่ยวขึ้นเรื่อยๆ ส่วนเทพแท้จริงเทียนหั่วก็ถึงขีดกำจัดแล้ว เผ่าพันธุ์จิ้งเหลนลิ้นดำไม่มีทางปล่อยให้มียอดฝีมือขั้นเทพแท้จริงถือกำเนิดขึ้นในเผ่าพันธุ์แพะเพลิงทองขึ้นอีก
“เปาลี่ ก็แค่เทวาเร้นลับชั้นสูงเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องกังวล!”
ยอดผู้อาวุโสของเผ่าพันธุ์จิ้งเหลนลิ้นดำมีสีหน้าเย็นชา
“แต่ทำไมเผ่าพันธุ์แพะเพลิงทองจึงส่งมนุษย์เทวาเร้นลับชั้นสูงคนหนึ่งมา?”
เปาลี่ตกอยู่ในห้วงความคิด
“ยอดผู้อาวุโส ที่เปาลี่เอ่ยมาก็ถูกต้อง เรื่องนี้จะต้องมีเงื่อนงำอะไรแน่!”
ในตอนนี้ มียอดฝีมือขั้นครึ่งเทพสวมชุดเกราะสีน้ำเงินคนหนึ่งเดินออกมา
“เช่นนั้นแล้วพวกเจ้าไปลองสืบเรื่องของเผ่าพันธุ์แพะเพลิงทองมา!”
แววตายอดผู้อาวุโสเคร่งขรึมลง เอ่ยขึ้นในฉับพลัน
“ได้ พวกเราลองไปหยั่งเชิงสถานการณ์ก่อนแล้วกัน!”
จากนั้น ชายชุดเกราะสีเข้มและเปาลี่จึงจัดแจงให้คนเผ่าพันธุ์จิ้งเหลนลิ้นดำสามร้อยคนค่อยๆ รุกคืบเข้าไปใกล้ เผ่าพันธุ์แพะเพลิงทอง
จนถึงช่วงเวลาหนึ่ง คนของเผ่าพันธุ์จิ้งเหลนลิ้นดำก็ทะยานออกมา
“สังหารคนเผ่าพันธุ์แพะเพลิงทองทั้งหมดอย่าให้เหลือ!”
ชายเกราะน้ำเงินเข้มตะโกนเสียงกร้าวด้วยแววตาโหดร้าย
“ศัตรูลอบโจมตี เผ่าพันธุ์จิ้งเหลนลิ้นดำลอบโจมตีแล้ว!”
“รีบเตรียมตัวป้องกันเร็ว!”
สมาชิกเผ่าพันธุ์แพะเพลิงทองอยู่ในสภาวะพร้อมรบอย่างรวดเร็ว
“หืม? ไม่มีวี่แววของยอดผู้อาวุโสฝ่ายจิ้งเหลนลิ้นดำ?”
ยอดผู้อาวุโสของเผ่าพันธุ์แพะเพลิงทองตื่นตกใจเล็กน้อย
“ในที่สุดเริ่มรบแล้วงั้นหรือ?”
จ้าวเฟิงเปิดดวงตาสองข้างที่เต็มไปด้วยจิตกระหายการต่อสู้
“จ้าวเฟิง เจ้าเข้ามาในกลุ่มของข้าก็ต้องฟังคำสั่งข้า!”
ในเวลานี้เอง ผู้อาวุโสที่สามของเผ่าพันธุ์แพะเพลิงทองเอ่ยปาก
ผู้อาวุโสที่สามและผู้อาวุโสที่สองมีความสัมพันธ์แนบชิดสนิทสนมกับซือซูหาน ก่อนนี้เขาเคยได้รับสารจากผู้อาวุโสที่สองให้จัดการจ้าวเฟิงอย่างสาสม