บทที่ 1170 แดนศักดิ์สิทธิ์แห่งเทพ
ในห้วงฝันบรรพกาล จ้าวเฟิงนั่งขัดสมาธิอยู่บนยอดเขาแห่งหนึ่ง ทั่วร่างเปล่งแสงสว่างเจิดจ้า สายฟ้าปกคลุมหนาแน่น
ผลึกเทพและทรัพยากรบรรพกาลล้ำค่าหลายชิ้นเบื้องหน้าเขาปลดปล่อยพลังประหลาด ทะลักเข้าไปในแสงวนพลังศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเฟิง
ดวงอาทิตย์สีทองเจิดจ้าปรากฏขึ้นในผืนฟ้าไกลออกไป แผ่ลำแสงร้อนระอุมากมายส่งมาที่ร่างจ้าวเฟิง เพิ่มความเร็วในการฝึกตนให้เขา
ในวินาทีหนึ่ง ในร่างของจ้าวเฟิงพลันเปล่งแสงอัสนีสีทองสว่างไสวออกมา รอบๆ ตัวมีสายฟ้าทองปั่นป่วน ทิ้งรอยแผลจำนวนนับไม่ถ้วนไว้
วู้ม แซ่ด!
วายุอัสนีทองที่ทะลักทั่วร่างจ้าวเฟิงในตอนนี้ส่องแสงสว่างมากขึ้นเรื่อยๆ ปลดปล่อยแสงสีทองแสบตาออกมา
จ้าวเฟิงในตอนนี้เป็นประหนึ่งอาทิตย์ทองดวงหนึ่ง เปล่งแสงสว่างแข่งกับดวงอาทิตย์กลางอากาศ
ทว่ากลุ่มแสงระยิบระยับและกลิ่นอายที่แกร่งกล้าค่อยๆ หดกลับเข้ามา และรวมเข้าไปในร่างของจ้าวเฟิงอย่างช้าๆ
“ ‘วิชาวายุอัสนีห้าสาย’ ขั้นที่สิบ วายุอัสนีธาตุทองผ่านระดับสูงแล้ว!”
จ้าวเฟิงเปิดดวงตาสุกสกาวขึ้น ก่อนจะเอ่ยอย่างร้อนรน
“แต่พลังเพียงเล็กน้อยเท่านี้ ยังขาดไปอีกมากมายนัก!”
วายุอัสนีธาตุทองพัฒนาขึ้น แต่จ้าวเฟิงไม่มีท่าทียินดีมากนัก
ถึงแม้เขาฝึกตนอยู่ในห้วงฝันบรรพกาล ก็ยังคงรู้ชัดแจ้งเกี่ยวกับอันตรายภายนอก
อาณาเขตของเจ้าเกาะเทียนอวี่ว่างเปล่าไม่มีใคร แต่จ้าวเฟิงกลับรู้ดีว่าคนพวกนี้ยังซ่อนตัวอยู่รอบๆ รวมไปถึงเทพแท้จริงกุ่ยซาและเจ้าเกาะเทียนอวี่ด้วย
สามารถพูดได้ว่า จ้าวเฟิงในตอนนี้เผชิญหน้ากับการปิดล้อมจากผู้แข็งแกร่งทั้งหมดของเกาะเทียนอวี่ ทันทีที่ออกไปจะต้องเผชิญหน้าการล้อมโจมตีจากคนเหล่านั้น ต่อให้เป็นเทพแท้จริงขั้นห้ายังต้องตาย
ทว่าโอกาสก็ยังมีอยู่ จ้าวเฟิงนึกวิธีการแก้ปัญหาไว้สองทางแล้ว
ทางแรก จ้าวเฟิงรีบทะลวงขอบเขตเซียนสวรรค์ อย่างน้อยๆ ก็น่าจะถึงเทพแท้จริงขั้นที่สอง จากนั้นก็ให้จ้าววั่นกับจ้าวหวางทะลวงขอบเขตเซียนสวรรค์ให้หมด
หลังจากผ่านขั้นเทพสำเร็จแล้ว พลังของพวกจ้าวเฟิงก็จะเพิ่มขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง บางทีอาจจะสามารถบุกฝ่าการปิดล้อมนี้ไปได้
ทางที่สอง ใช้ทรัพยากรจำนวนมหาศาลบ่มเพาะมังกรวารีล้างโลกา ช่วยให้เขาฟื้นฟูพลังความสามารถ มังกรวารีล้างโลกาในยามรุ่งโรจน์เทียบเท่าได้กับเทพโบราณ แกร่งกล้าทรงพลัง จนไม่จำเป็นต้องเห็นเจ้าเกาะเทียนอวี่อยู่ในสายตา
แต่จุดบอดของวิธีการทั้งสองมีมากมายนัก วิธีแรกจะทำให้จ้าวเฟิงและร่างแยกทั้งสองจะสูญเสียศักยภาพ เส้นทางการฝึกในภายหน้าจะยากลำบากมากยิ่งขึ้น ส่วนวิธีการที่สองจะนำพาอันตรายมาให้จ้าวเฟิง อย่างไรเสีย พลานุภาพของมังกรวารีโลกาก็แข็งแกร่งเกินไป หลุดจากการควบคุมได้อย่างง่ายดายยิ่ง
“เพิ่มพลังก่อน น่าจะยังมีวิธีการอื่นอีก!”
จ้าวเฟิงไม่คิดเรื่องพวกนี้อีก
เขายังเพิ่งคิดอีกวิธีใหม่ออกมาได้เมื่อครู่ แต่ยังคงมีจุดอ่อนมาก
ดังนั้นจ้าวเฟิงจึงตัดสินใจฝึกตนไปพลาง ครุ่นคิดไปพลาง พยายามจะหาวิธีแก้ไขปัญหาที่ดีกว่า มิฉะนั้นคงทำได้เพียงเลือกวิธีที่มีจุดบอดน้อยที่สุด
วู้ม แซ่ด!
ปรากฏปีกแสงสีทองคู่หนึ่งเกาะกลุ่มกันที่หลังของจ้าวเฟิง เป็นปีกแสงศักดิ์สิทธิ์ที่เต็มไปด้วยเส้นอัสนี
วูบ! ร่างจ้าวเฟิงกลายเป็นแสงเพลิงสีทองสายหนึ่งหายไปในอากาศ
ในตอนนี้ ขอบเขตที่จ้าวเฟิงจะพัฒนาไปได้มีมากมายนัก หากตัดวายุอัสนีธาตุทองที่เพิ่งจะทะลวงผ่านออกไป ยังมีกายสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ วิชาดวงตา วิชาปีกแสงอัสนีทอง และพลังเลือดเทพในดัชนีเป็นต้น
จ้าวเฟิงฝึกฝนอยู่ในพื้นที่ของตนเองภายในห้วงฝันบรรพกาลอยู่ทุกวัน เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในแต่ละด้าน
เพียงพริบตาเดียวเวลาก็ผ่านไปครึ่งปี ผู้แข็งแกร่งขั้นเทพแท้จริงในเกาะเทียนอวี่ยังคงเฝ้าอยู่ด้านนอก สำหรับผู้แข็งแกร่งขั้นเทพแท้จริงแล้ว ระยะเวลาครึ่งปีอาจจะเป็นเวลาชั่วพริบตาเดียวเท่านั้น เทพแท้จริงจำนวนมากในที่นั้นต่างก็มีอายุมากกว่าห้าหมื่นปีขึ้นไป และยังมีบางส่วนที่แก่ยิ่งกว่านั้น
แต่ในตอนนั้น คนทั้งเกาะเทียนอวี่ยังไม่รู้เลยว่าสถานที่แห่งอื่นในดินแดนเทพรกร้างเกิดสั่นสะเทือนขึ้น พายุรุนแรงม้วนกวาดจากขั้วอำนาจที่แข็งแกร่งที่สุดลงมายังขั้วอำนาจระดับล่าง
ในวังงดงามที่แกะสลักจากหยกสีฟ้าทอง ณ อ่าวทะเลคราม
วู้ม!
บนแท่นหินเก่าแก่แห่งหนึ่งพลันปรากฏทางเดินสีขาวเปล่งประกาย สาดซัดกลิ่นอายโบราณที่เหมือนจะเข้มข้นยิ่งกว่าดินแดนเทพรกร้างหลายส่วน
“พื้นที่ลับรกร้างโบราณ บรรจบสำเร็จ!”
เสียงแก่ชรากระจ่างชัดดังสะท้อนในอากาศ ผู้แข็งแกร่งมากมายแถวแท่นหินต่างใจสั่นด้วยความหวาดกลัว
เสียงเมื่อครู่คือเสียงของเทพโบราณกวงอวี้ (หยกทอง) ผู้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดของเผ่าหยกทอง
ตอนนี้ ผู้แข็งแกร่งขั้นเทพแท้จริงผู้มีใบหน้าแก่ชราต่างมายังข้างแท่นหิน ในมือถือเครื่องดนตรี
แสงหลากสีจากเครื่องดนตรีเหล่านี้ปกคลุมทั่วอุโมงค์ทางเดิน
“รายงานผู้อาวุโสสูงสุด ระดับพลังสูงสุดที่อุโมงค์รับไหวก็คือเทพแท้จริงขั้นที่ห้า!”
ดวงตาของผู้อาวุโสผู้นี้เปล่งประกาย
พื้นที่ลับรกร้างโบราณ หมื่นปีจะเปิดออกครั้งหนึ่ง และในทุกๆ ครั้งผู้แข็งแกร่งที่สามารถเข้าไปภายในจะมีขอบเขตพลังสูงสุดอยู่แค่ที่ขั้นสามหรือสี่ พื้นที่ห่างไกลอย่างอ่าวทะเลคราม ศิษย์ที่สามารถเข้าไปได้จะมีพลังฝึกตนต่ำอยู่สักหน่อย
ว่ากันว่าสามหมื่นปีก่อน เคยมีเทพแท้จริงขั้นห้าของขั้วอำนาจบางส่วนในดินแดนเทพรกร้างเข้าไปในพื้นที่ลับ หลังจากนั้นเป็นต้นมา ผู้แข็งแกร่งที่เข้าไปในพื้นที่ลับรกร้างโบราณ อย่างมากก็มีขอบเขตพลังสูงสุดอยู่ที่เทพแท้จริงขั้นสี่
แต่ไม่รู้เพราะเหตุใด ครั้งนี้อุโมงค์ทางเดินในพื้นที่ห่างไกลเช่นอ่าวทะเลครามจึงอนุญาตให้เทพแท้จริงขั้นห้าเข้าไปภายในได้
“ขนาดเทพแท้จริงขั้นห้าก็สามารถเข้าไปได้!”
“ดี คิดไม่ถึงเลยข้าเทพแท้จริงเทียนหวาจะมีโอกาสเข้าไปในพื้นที่ลับรกร้างโบราณด้วย!”
ท่ามกลางกลุ่มคน ชายชราชุดเขียวมรกตผู้หนึ่งที่ใบหน้าไร้ริ้วรอยใดๆ ทั้งร่างเปล่งแสงสว่างเรืองรอง ท่าทางตื่นเต้นเหลือคณนา
เขาก็คือเทพแท้จริงขั้นห้าผู้แข็งแกร่งที่สุดในเผ่า ถ้าหากเทพแท้จริงขั้นห้าเข้าไปในพื้นที่ลับรกร้างโบราณได้จริงๆ เขาต้องเป็นคนแรกแน่
ผู้อาวุโสสูงสุดของเผ่าหยกทองทอดถอนหายใจอย่างเงียบงัน “ถ้าหากกระทั่งแถวอ่าวทะเลคราม เทพแท้จริงขั้นห้ายังเข้าไปได้ เช่นนั้นเกรงว่าขั้วอำนาจใจกลางแผ่นดิน คงจะมีเทพแท้จริงขั้นหกหรือเทพโบราณเข้าไปได้กระมัง!”
ดังนั้น สำหรับผู้อาวุโสสูงสุดเผ่าหยกทอง นี่ไม่ใช่เรื่องที่ดีนัก
“ให้ศิษย์ขั้นปฐมเทพที่มีรายชื่อเข้าไปก่อน!”
เมื่อผู้อาวุโสสูงสุดเอ่ยจบ กลุ่มศิษย์รุ่นเยาว์ที่อยู่ไม่ไกลจากแท่นหินมากนักก็อดรนทนไม่ไหว
โอกาสในพื้นที่ลับรกร้างโบราณมีมากมายมหาศาล และยังมีการจำกัดขอบเขตพลัง ดังนั้นพื้นที่ลับแห่งนี้จึงแทบกลายเป็นพื้นที่ของศิษย์ขั้นปฐมเทพโดยเฉพาะ
จะถูกเรียกว่าปฐมเทพได้นั้นต้องมีพลังเทพที่สมบูรณ์ สามารถทะลวงขอบเขตเซียนสวรรค์ได้ทุกเมื่อ และยังต้องเป็นครึ่งเทพที่มากความสามารถ
ถึงแม้ขอบเขตพลังของเขาจะอยู่ในขั้นครึ่งเทพเท่านั้น แต่พลังก็สูงส่งเกินจะเปรียบ ยกตัวอย่างเช่นปฐมเทพที่แข็งแกร่งที่สุดของเผ่าหยกทองอย่างผู้ถูกเลือกตี้หลิน ก็เคยสังหารเทพแท้จริงขั้นสองมาก่อน
ถึงแม้ล่วงรู้ว่ากระทั่งเทพแท้จริงขั้นห้าก็เข้าไปในพื้นที่ลับได้ แต่ศิษย์ขั้นปฐมเทพเหล่านี้ได้รับรายชื่อมาแล้ว ในตอนนี้ย่อมไม่อาจชิงรายชื่อของพวกเขามาได้
“คนแรก ปฐมเทพตี้หลิน!”
จากเสียงประกาศของพวกผู้อาวุโส ผู้แข็งแกร่งขั้นปฐมเทพของเผ่าหยกทองค่อยๆ เข้าไปพื้นที่ลับ
ผู้แข็งแกร่งขั้นปฐมเทพของเผ่านี้มีทั้งหมดสิบหกคน เด็กหนุ่มชุดขาวผู้จัดอยู่ในลำดับสามจากท้ายในบรรดาสิบหกคน ใบหน้าหล่อเหลาในตอนนี้กลับตื่นตระหนกเล็กน้อย
คนผู้นี้ก็คือซีเฟิงที่คิดว่าตนเป็นอัจฉริยะลำดับแรกในเกาะเทียนอวี่ เพราะเส้นสายของอาจารย์ เขาจึงได้รับรายชื่อมา แต่ในบรรดาศิษย์ปฐมเทพที่เข้าไปในพื้นที่ลับรกร้างโบราณ พลังของเขากลับจัดอยู่ในลำดับที่สามจากท้ายสุด
ไม่นาน ศิษย์ขั้นปฐมเทพก็เข้าไปภายในจนหมด
“เทพแท้จริงเทียนหวา อย่าลืมคุ้มครองดูแลศิษย์ขั้นปฐมเทพในเผ่าด้วย!”
ผู้อาวุโสสูงสุดเผ่าหยกทองเอ่ยเสียงเรียบ
“ขอรับ ผู้อาวุโส!”
เทพแท้จริงเทียนหวาเป็นถึงยอดฝีมือที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดาเทพแท้จริงขั้นห้าของเผ่าหยกทอง ให้เขาเข้าไปเป็นคนแรก คนในเผ่าไม่มีใครเห็นเป็นอื่น
แต่เดิมเขาไม่มีรายชื่อใดๆ เพราะเผ่าหยกทองไม่เคยมีเทพแท้จริงขั้นห้าเข้าไปในพื้นที่ลับ หรือจะเทพแท้จริงขั้นสี่ก็ยังไม่เคยเข้าไปในนั้น
แต่ครั้งนี้ไม่รู้เพราะเหตุใดจึงเกิดเหตุการณ์ประหลาดเช่นนี้ จากที่เทพแท้จริงเทียนหวาดูแล้ว นี่คือสิ่งที่เบื้องบนประทานให้กับเขาแน่
ฟิ้ว! เทพแท้จริงเทียนหวาย่างเท้าเข้าไปภายในทันที
แต่ในตอนนั้นเอง จู่ๆ อุโมงค์ทางเดินก็สั่นสะเทือน เหมือนจะพร่าเลือนเล็กน้อย
ทุกคนต่างรู้ว่าอุโมงค์อยู่ในสถานการณ์ที่ไม่มั่นคง เกรงว่าเทพแท้จริงขั้นห้าคงจะเข้าไปในพื้นที่ลับได้ยากแล้ว
“เทพแท้จริงขั้นสี่!”
ผู้อาวุโสสูงสุดของเผ่าหยกทองเอ่ย
จากนั้นเทพแท้จริงขั้นสี่ผู้แข็งแกร่งที่สุดในเผ่าก็เดินทางต่อ อุโมงค์สีขาวยิ่งพร่าเลือนขึ้นไปอีก ในทุกครั้งที่มีคนเข้าไป อุโมงค์จะยิ่งอับแสงลงไป ดังนั้นจึงมีเพียงเทพแท้จริงขั้นสี่สองคนเท่านั้นที่เข้าไปด้านใน
“เทพแท้จริงขั้นสาม!”
เทพแท้จริงขั้นสามผู้หนึ่งย่างเท้าเข้าไปภายใน แต่เพิ่งเข้าไปในอุโมงค์เท่านั้น รอบๆ ตัวก็พลันปรากฏรอยปริร้าวจำนวนมาก จากนั้นจึงมีลมหนาวเยือกพัดจนเขาแตกออกเป็นชิ้นๆ
เฮือก! ทั่วทั้งเผ่าหยกทองตกอยู่ในความเงียบงัน เมื่อเทพแท้จริงขั้นสามตายอย่างง่ายดายเช่นนี้
“เทพแท้จริงขั้นสอง!”
เทพแท้จริงขั้นสองที่ได้รับรายชื่อค่อยๆ เข้าไปอย่างระแวดระวัง และผ่านเข้าไปในอุโมงค์อย่างปลอดภัย
จนกระทั่งอุโมงค์อ่อนแสงและสลายไปอย่างไร้ร่องรอย ผู้แข็งแกร่งในเผ่าถึงไม่ได้เข้าไปในพื้นที่ลึกลับอีก
แต่เทพแท้จริงที่อายุค่อนข้างมากส่วนหนึ่งตรงนั้นรู้สึกได้ทันที จำนวนคนของเผ่าหยกทองที่สามารถเข้าไปในพื้นที่ลับรกร้างโบราณครั้งนี้มีมากนัก แทบจะเป็นสองเท่าของครั้งก่อนเลยทีเดียว
เขตผาเก่า
ในพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ได้รับความเคารพนับถือจากคนนับหมื่น กลางอากาศในพื้นที่นั้นปรากฏกลุ่มแสงสีขาวขนาดยักษ์ลูกหนึ่ง ภายในกลุ่มแสงนั้นมีสิ่งปลูกสร้างและวังที่เรียงรายจำนวนมากลอยล่อง
ในตอนนั้น เงาคนที่ใบหน้ามีรอยจารึกประหลาด ดวงตาดุดันเย็นชา เหยียบย่างเข้าไปในแผ่นกลมเก่าแก่
“ปฐมเทพทุนเทียน (กลืนสวรรค์) เข้าไปแล้ว!”
สายตาของเทพแท้จริงและปฐมเทพนับไม่ถ้วนด้านหลังฉายแววเคารพยำเกรงอย่างลึกซึ้ง
“ว่ากันว่าปฐมเทพทุนเทียนมีคุณสมบัติที่จะทะลวงเทพแท้จริงขั้นสี่แล้ว เกรงว่าโอกาสในครั้งนี้จะทำให้เขาพัฒนาขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง ในภายหน้าคงจะกลายเป็นจอมเทพได้ และกลายเป็นหนึ่งในผู้อาวุโสของแดนศักดิ์สิทธิ์กลืนนภา!”
หญิงสาววงหน้างดงามมากมายด้านหลัง ดวงตาสองข้างที่เปล่งประกายดูเหม่อลอย
ถ้าหากมีคนของขั้วอำนาจอื่นในเขตผาเก่าได้ยินคำพูดเช่นนี้ จะต้องตื่นตะลึงเกินจะเปรียบ ผู้แข็งแกร่งขั้นจอมเทพที่เหนือกว่าเทพโบราณ เมื่ออยู่ภายในเผ่ากลืนนภากลับเป็นได้แค่ผู้อาวุโสเท่านั้น!
แต่หากมีผู้แข็งแกร่งของขั้วอำนาจห้าดาวหรือสี่ดาวระดับสุดยอดได้ยินคำว่า ‘แดนศักดิ์สิทธิ์’ บางทีคงจะไม่ตื่นตะลึงเช่นนี้อีกแล้ว
แดนศักดิ์สิทธิ์แห่งเทพเป็นสิ่งต้องห้ามในดินแดนเทพรกร้าง
ขั้วอำนาจสี่ดาวหรือสี่ดาวครึ่งล้วนไม่เคยได้ยินชื่อนี้
แดนศักดิ์สิทธิ์แห่งเทพเป็นพื้นที่ระดับสูงสุดในสิบแปดเขตของดินแดนเทพรกร้าง เป็นพื้นที่ต้องห้ามลึกลับเกินคาดเดา แต่ไม่ใช่ทุกเขตที่จะมีแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งเทพ
หลังจากที่ปฐมเทพทุนเทียนเข้าไปภายในแล้ว ศิษย์คนอื่นๆ เริ่มทยอยเข้าไปตาม
“ถอยเถอะ!”
ผู้เฒ่าร่างกายโปร่งแสงผู้หนึ่งที่อยู่ด้านหลังเอ่ยเสียงเรียบ
ณ เวลานี้เอง ในมือของเขาปรากฏตราคำสั่งแผ่นหนึ่งขึ้น ข้อมูลเรื่องหนึ่งเข้าไปในหัวเขา
“ในตอนนี้มีเพียงพื้นที่บางส่วนในเขตผาเก่าที่สามารถเข้าไปในพื้นที่ลับรกร้างโบราณได้? พื้นที่อื่นในดินแดนเทพรกร้างยังไม่มีแม้แต่สัญญาณของอุโมงค์ด้วยซ้ำ!”
เมื่อได้รู้ข่าวสารที่สำคัญเช่นนี้ สีหน้าของผู้เฒ่าพลันเปลี่ยนไป ก่อนจะจากไปอย่างรีบร้อน
ต่อมา แดนศักดิ์สิทธิ์แห่งเทพอื่นๆ ในดินแดนเทพรกร้างก็ค่อยๆ รับทราบข่าวที่ว่านี้ มีเพียงพื้นที่บางส่วนของเขตผาเก่าที่เชื่อมต่อกับพื้นที่ลับรกร้างโบราณสำเร็จ
ทว่าพวกเขากลับไม่รู้สึกประหลาดใจแม้แต่น้อย
ดินแดนเทพรกร้างกว้างใหญ่ไพศาล ในครั้งนี้ พื้นที่ลับรกร้างโบราณอาจจะเริ่มจากเขตผาเก่า และค่อยๆ บรรจบเข้ากับดินแดนเทพรกร้างทั้งหมด บางทีอาจจะใช้เวลาไม่นาเท่าไหร่นัก พื้นที่อื่นในดินแดนเองก็อาจจะเชื่อมต่อเป็นผลสำเร็จ
พูดได้ว่า ครั้งนี้เขตผาเก่าได้เปรียบ ส่วนขั้วอำนาจในพื้นที่อื่นทำได้เพียงรอ รอให้พื้นที่ลับรกร้างโบราณค่อยๆ บรรจบเข้ามา บางทีอาจจะหลายวันหรือหลายเดือน…
ในห้วงฝันบรรพกาล
จ้าวเฟิงยังคงฝึกฝนวายุอัสนีธาตุทอง ส่วนนิ้วชี้ซ้ายยังหลอมรวมพลังเลือดเทพไม่หยุด ในหัวกำลังสรุป ‘วิชาแยกวิญญาณ’ ขั้นสาม และยังมีห้วงความคิดบางส่วนกำลังทำเรื่องอื่นๆ ไปพร้อมกัน แต่ฉับพลันทันใด ภายในขอบเขตการรับรู้ของจ้าวเฟิงมีเผ่าพันธุ์รูปร่างมนุษย์ผู้หนึ่งปรากฏกายขึ้น ทำให้จ้าวเฟิงตื่นตะลึง
อยู่ในห้วงฝันบรรพกาลมายาวนานขนาดนี้ เผ่าพันธุ์บรรพกาลที่จ้าวเฟิงเจอส่วนมากจะอยู่ในรูปลักษณ์ดั้งเดิม นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นเผ่าพันธุ์โบราณที่เปลี่ยนรูปลักษณ์ไป