บทที่ 1173 เพิ่มกำลังรบ
ถึงจะสัมผัสได้ถึงพลังชั่วร้ายที่ลุกโชนอยู่เบื้องหลัง
แต่เว่ยเคอและหม่าหลิงซือกลับเย็นวาบทั้งร่างราวตกลงไปในถ้ำน้ำแข็ง
“ไม่นึกเลยว่าหูเฉิงจะเป็นคนแบบนี้!”
ดวงตาหม่าหลิงซือฉายแววผิดหวัง
หากพวกเขาสี่คนร่วมแรงร่วมใจ บางทีอาจจะยังพอมีโอกาสจัดการเผ่าพันธุ์โบราณขั้นสามได้ แต่ในช่วงเวลาหน้าสิ่วหน้าขวาน หูเฉิงไม่ไยดีพวกเขา หนีเอาตัวรอดไปคนเดียว และถึงขั้นลงมือทำร้ายกัน
ทำให้หม่าหลิงซือกับเว่ยเคอต้องคอยยื้อเสือเพลิงฟ้าคราม ส่วนตนเองหนีไป
นางตาบอดจริงๆ ถึงได้รู้จักกับคนประเภทนี้ อีกทั้งในตอนแรกหม่าหลิงซือยังคิดว่าหูเฉิงคนนี้ไม่เลวเลย ทุกครั้งที่เจอสัตว์อสูรเขามักจะเสนอตัวออกไปรับมือ
“ขอโทษด้วย พี่เฟิง เป็นข้าทำร้ายท่านเอง!”
เว่ยเคอเอ่ยอย่างสำนึกผิด เป็นเพราะเขาเชื้อเชิญให้จ้าวเฟิงเข้าร่วมกับกลุ่มของเผ่ามังกรเกล็ดฟ้า ถึงทำให้อีกฝ่ายต้องมาเจอเรื่องเช่นนี้
และขณะนี้ เว่ยเคอได้รับบาดเจ็บสาหัส พึ่งพาเพียงหม่าหลิงซือและจ้าวเฟิง จะรับมือกับเสือเพลิงฟ้าครามที่มีพลังเทพแท้จริงขั้นสามได้อย่างไร
“ไปตายซะเถอะ พวกมนุษย์น่ารังเกียจ!”
ดวงตาแดงฉานของเสือเพลิงฟ้าครามจ้องที่คนทั้งสามด้านหน้า โบกกรงเล็บยักษ์ที่มีเพลิงสีครามโอบล้อมลงมา
เคร้ง เคร้ง!
จู่ๆ ก็ปรากฏโล่เหล็กสีดำขึ้นในมือจ้าวเฟิง กรงเล็บเพลิงครามขนาดยักษ์ของเสือเพลิงฟ้าครามถูกจ้าวเฟิงต้านเอาไว้ได้
“ข้าจะยื้อมันเอาไว้ พวกเจ้าสองคนรีบหนีเร็ว!”
ในตอนนี้ เสียงร้อนรนของจ้าวเฟิงดังขึ้นในหัวของคนทั้งสอง
“นี่มันอาวุธเทพป้องกัน!”
หม่าหลิงซือมิงมองโล่เหล็กดำในมือของจ้าวเฟิง กระจ่างขึ้นในทันที
ด้วยความสามารถของจ้าวเฟิง จะครอบครองอาวุธเทพสักชิ้นก็เป็นเรื่องธรรมดานัก
“รีบไป ข้ารวดเร็วว่องไว เว่ยเคอ เจ้าเองก็รู้นี่!”
จ้าวเฟิงฝืนรับการโจมตีของเสือเพลิงฟ้าคราม ระบายยิ้มออกมาเล็กน้อย
“ไปเถอะ!” หม่าหลิงซือโคจรพลัง ม้วนตัวเว่ยเคอถอยไปในทันที
บางทีจ้าวเฟิงอาจจะว่องไวจริงๆ จนสามารถหนีรอดจากเสือเพลิงฟ้าคราม ถ้าหากพวกเขาสองคนยังอยู่ที่นี่ รังแต่จะเกะกะจ้าวเฟิงเปล่าๆ แล้วพาจะตายที่นี่กันหมด
“พี่จ้าว ท่านอย่าตายเชียวนะ!”
เว่ยเคอกำหมัดสองข้างเอาไว้แน่น นึกชังตัวเองนักที่อ่อนแอ
ฟิ้ว! ทั้งสองคนหายตัวไปอย่างรวดเร็วในป่าที่มืดสลัว
“เจ้ามนุษย์ ต่อให้เจ้ารวดเร็วอีกเท่าไหร่ คิดหรือว่าจะไวกว่าข้า?”
เสือเพลิงฟ้าครามมองไปที่จ้าวเฟิง แววตาสงบนิ่ง เอ่ยเยาะเย้ยดูแคลน
“แต่อาวุธเทพของเจ้าสูงส่งไม่ธรรมดา ยกให้ข้าแล้วกัน!”
เสือเพลิงฟ้าครามเอ่ยพลางยิ้ม
“ฮ่าๆ เจ้าหลงตัวเองมากเกินไปแล้วกระมัง!”
จ้าวเฟิงหัวเราะเสียงเย็น กลิ่นอายแก่นแท้พลังที่น่าสะพรึงกลัวพลันแผ่กระจาย จ้าวเฟิงคลี่คลายพลังที่กดดันเขาออกไป
“หืม? ซุกซ่อนพลังเอาไว้งั้นหรือ?”
เสือเพลิงฟ้าครามชักจะไม่เข้าใจชายหนุ่มผมทองตรงหน้าผู้นี้แล้ว คนผู้นี้ก็แค่ขอบเขตเทวาเร้นลับที่สมบูรณ์ แต่กลับสาดซัดกลิ่นอายที่ใกล้เคียงกับเทพแท้จริงขั้นสองออกมา
“ไม่ว่าจะอย่างไร ในวันนี้เจ้าต้องตายเสีย!”
เพลิงสีเขียวครามทั่วร่างเสือเพลิงฟ้าครามลุกโชติช่วงขึ้นอีกครั้ง
แต่ในเวลานี้เอง จ้าวเฟิงที่อยู่ด้านล่างกลับเก็บโล่และถอยร่นไป
วู้ม แซ่ด แซ่ด!
ปีกแสงอัสนีศักดิ์สิทธิ์สีทองปรากฏขึ้นบริเวณหลังของเขา ปลดปล่อยแสงทองแสบตาออกมา
ฟิ้ว! จ้าวเฟิงบินหนีไปอีกทิศหนึ่งทันที
โครม!
เสือเพลิงฟ้าครามย่อมไม่อาจปล่อยจ้าวเฟิงไปเช่นนี้ มันกลายร่างเป็นแสงสีครามไล่ตามอีกฝ่ายไป แต่สุดท้ายแล้วมันก็ยังทิ้งห่างจากจ้าวเฟิงระยะหนึ่ง ไม่อาจไล่ตามอีกฝ่ายได้ทัน
ยามนี้ ในใจเสือเพลิงฟ้าครามเกิดรู้สึกไม่ชอบมาพากล จู่ๆ มันก็รู้สึกว่าเด็กหนุ่มตรงหน้านี้ลึกล้ำเกินจะคาดเดา อีกทั้งมันไล่ตามมานาน ทิ้งห่างจากพื้นที่ของมันมาไกลแล้ว
ในตอนที่เสือเพลิงฟ้าครามคิดจะย้อนกลับ จู่ๆ จ้าวเฟิงก็เปิดปากเอ่ย
“ข้าเคยบอกแล้วว่าข้ารวดเร็วว่องไว ต่อให้เจ้ามีพลังของเทพแท้จริงขั้นสามก็ไล่ตามข้าไม่ทัน!”
จ้าวเฟิงเผยรอยยิ้มบางอย่างลำพองใจ
“ฮึ ข้าจะให้เจ้าได้เห็นพลังที่แท้จริงของเผ่าพันธุ์เสือเพลิงฟ้าคราม!”
เสือเพลิงฟ้าครามที่โกรธแค้นจากคำพูดยั่วยุของจ้าวเฟิงกระตุ้นพลังสายเลือด ความเร็วเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว แต่มันก็พบว่าต่อให้ตนเองกระตุ้นพลังสายเลือด ระยะห่างระหว่างมันกับจ้าวเฟิงก็ไม่ได้เปลี่ยนไป
“แย่แล้ว!”
ความหวาดกลัวเกิดขึ้นในใจเสือเพลิงฟ้าคราม คนหนุ่มตรงหน้านี้ลึกล้ำเกินคาดเดา เขาจงใจรักษาระยะห่างกับตน ล่อลวงให้มันไล่ตามมา
ฟู่!
เสือเพลิงฟ้าครามถอยออกมาทันที แต่สายตาของมันกลับพลันหนักอึ้ง
“ยอมแพ้ต่อนายท่านเถอะ!”
ด้านหลังของเสือเพลิงฟ้าคราม มีเผ่าพันธุ์โบราณที่ไม่แข็งแกร่งมากนักขวางเอาไว้ แต่จำนวนของฝ่ายมีมากกว่า ประมือกับเสือเพลิงฟ้าครามได้
แต่ในเวลานี้เอง รอบบริเวณก็เริ่มมีเผ่าพันธุ์โบราณหรือฝูงสัตว์ทยอยเข้ามาล้อมมันเอาไว้
“เป็นไปได้อย่างไรกัน? เจ้ามนุษย์…”
เสือเพลิงฟ้าครามมองจ้าวเฟิงด้วยท่าทีตื่นตะลึง
เขาไม่อาจจะคาดคิดได้เลยว่า เหตุใดจ้าวเฟิงเพียงคนเดียวจึงสามารถควบคุมเผ่าพันธุ์โบราณได้มากมายเช่นนี้ กำลังรบมหาศาลกลุ่มนี้มากพอจะทำลายเผ่าพันธุ์โบราณที่ค่อนข้างแข็งแกร่งของที่นี่ได้แล้ว
“ลงมือ!”
จากคำสั่งของจ้าวเฟิง เผ่าพันธุ์โบราณทั้งหมดจึงเริ่มล้อมอีกฝ่าย
ไม่นานนัก เสือเพลิงฟ้าครามก็สูญเสียความสามารถในการต่อสู้ ถูกจ้าวเฟิงกำราบอย่างช้าๆ
“ตอนนี้ข้าต้องการกำลังรบที่แข็งแกร่ง ถ้าหากไม่เห็นว่าพลังเจ้าไม่เลวละก็ คงไม่ล่อเจ้ามาที่นี่!”
จ้าวเฟิงยืนอยู่บนหัวของเสือเพลิงฟ้าคราม ทอดมองไปไกลด้วยแววตาลุ่มลึก
ในตอนนี้ผู้แข็งแกร่งจำนวนมากบุกรุกเข้ามาในพื้นที่ของเขา พลังของจ้าวเฟิงอ่อนแอเกินไป จำต้องเร่งเพิ่มทาสรับใช้เพื่อเพิ่มพลังให้ได้
“นายท่านเห็นความสำคัญข้าเช่นนี้ ข้าย่อมไม่ทำให้ท่านผิดหวัง!”
เสือเพลิงฟ้าครามเอ่ยอย่างเคารพนบนอบ
ฟุ่บ! จ้าวเฟิงปลดปล่อยวิชาปีกแสงอัสนีทอง และโบยบินจากไปทันใด
ส่วนเสือเพลิงฟ้าครามตามหลังจ้าวเฟิงโดยทิ้งระยะห่างไว้เล็กน้อย
“หาเจอแล้ว!”
เว่ยเคอและหม่าหลิงซือได้รับบาดเจ็บสาหัส ไม่มีทางจะหนีไปได้ไกล ประสาทสัมผัสและการมองเห็นของจ้าวเฟิงในห้วงฝันบรรพกาลแข็งแกร่งยิ่งนึก จึงหาคนทั้งสองเจออย่างรวดเร็ว
……
เว่ยเคอใช้โอสถรักษาส่วนหนึ่งรักษาอาการบาดเจ็บของตนเอง
ระดับขั้นชีวิตของเขาไม่สูงมากนัก แต่อาวุธที่หูเฉิงใช้คืออาวุธเทพ อาการบาดเจ็บที่เกิดขึ้นจึงไม่อาจฟื้นฟูโดยง่าย
“ต่อไปพวกเราจะทำอย่างไรกันดี?”
หม่าหลิงซือท่าทางท้อแท้เล็กน้อย
หูเฉิงที่อยู่ในเผ่าเดียวกันทอดทิ้งพวกเขาไปแล้วเมื่อเผชิญหน้ากับอันตราย ส่วนจ้าวเฟิงก็ล่อเผ่าพันธุ์โบราณขั้นสามไปเพื่อเปิดทางให้พวกเขาหนีออกมาก่อน สองฝ่ายไม่อาจเปรียบเทียบกันได้
“รอพี่จ้าวก่อน เขาจะต้องไม่เป็นอะไร!”
เว่ยเคอเอ่ยง่ายๆ
หม่าหลิงซืออึ้งไปเล็กน้อย นางไม่รู้ว่าเหตุใดเว่ยเคอจึงเชื่อในจ้าวเฟิงถึงขนาดนี้ ตามปกติจ้าวเฟิงต้องตายไปแล้ว เสือเพลิงฟ้าครามตัวนั้นเป็นถึงเทพแท้จริงขั้นที่สามเลยเชียว
แต่ในเวลานี้เอง ด้านหลังพลันปรากฏระลอกวายุอัสนีขึ้น
“จ้าวเฟิง!”
สีหน้าหม่าหลิงซือตื่นตะลึง ก่อนจะยิ้มกว้างออกมา คิดไม่ถึงว่าจ้าวเฟิงจะกลับมาจริงๆ
“ข้าบอกแล้ว ข้าว่องไวนัก เสือเพลิงฟ้าครามไล่ตามข้าไม่ทันเลย!”
จ้าวเฟิงเอ่ย
จากนั้นคนทั้งสามพักผ่อนอยู่ตรงนั้นครึ่งวัน พื้นที่ลับรกร้างโบราณมีอันตรายมากมาย จำเป็นต้องรักษาสภาพให้สมบูรณ์ไว้
คนทั้งสามแทบจะฝึกตนตลอดระยะเวลาครึ่งวัน
เว่ยเคอและหม่าหลิงซือรับรู้ถึงอันตรายของที่นี่อย่างลึกซึ้ง พลังที่แข็งแกร่งเท่านั้นถึงจะรักษาชีวิตเอาไว้ได้ คนทั้งสองผ่านช่วงความเป็นความตายมาแล้ว การฝึกครั้งนี้จึงพัฒนาไปไม่น้อย
ส่วนจ้าวเฟิงจำต้องเพิ่มพลังฝึกตนให้เร็วที่สุด เมื่อทำเช่นนี้จึงจะรักษาทรัพยากรของตนเอง และไปช่วงชิงเอาทรัพยากรในครอบครองของผู้แข็งแกร่งคนอื่นได้
เพื่อไม่ให้คนทั้งสองจับสังเกตได้ จ้าวเฟิงดูดซึมและหลอมรวมพลังอัสนีเทวะเท่านั้น ในเวลาเดียวกันก็ทำความเข้าใจและฝึกฝนวิชา ปรับ ‘วิชาปีกแสงอัสนีทอง’ ให้สมบูรณ์ และพัฒนา ‘วิชาแยกวิญญาณ’ เป็นต้น
ห้วงฝันบรรพกาลกว้างใหญ่เหลือคณนา จ้าวเฟิงจึงเดินทางได้แต่ในอาณาเขตที่จำกัด แต่จ้าวเฟิงมีร่างแยกสองร่าง ถ้าหากแบ่งร่างที่สามออกมาได้แล้ว พื้นที่ที่จ้าวเฟิงจะยึดครองได้ก็จะกว้างขึ้นไปด้วย
แม้ยามนี้จ้าววั่นและจ้าวหวางจะไม่ได้ลงมือทำอะไร เพราะจ้าวเฟิงสั่งให้พวกเขาตั้งหน้าตั้งตาเพิ่มพลัง ทะลวงผ่านขอบเขตพลังขั้นครึ่งเทพให้ได้
ผู้แข็งแกร่งที่มาถึงที่นี่แทบจะเป็นปฐมเทพ หรือก็ขอบเขตพลังในขั้นครึ่งเทพกันหมด มีเพียงขอบเขตพลังขั้นครึ่งเทพถึงจะไม่ถูกสงสัยหรือถูกจับจ้อง และสามารถประมือกับผู้แข็งแกร่งคนอื่นๆ ได้
สายเลือดของจ้าวหวางและจ้าววั่นแข็งแกร่งขึ้นอีกในห้วงฝันบรรพกาล ถ้าหากทะลวงผ่านขั้นครึ่งเทพไปได้ พลังที่แท้จริงน่าจะอยู่เหนือเว่ยเคอ
ตอนเช้าตรู่ คนทั้งสามจึงเริ่มออกเดินทาง
ในตอนนี้จ้าวเฟิงกลายมาเป็นผู้นำของคนทั้งสอง เว่ยเคอและหม่าหลิงซือต่างตั้งใจตอบแทบทุกคำถามของจ้าวเฟิง
นี่ก็เป็นเป้าหมายในตอนนี้ของจ้าวเฟิง พยายามทำความเข้าใจเรื่องราวของพื้นที่ลับรกร้างโบราณในดินแดนเทพรกร้างให้ได้มากที่สุด ถึงขั้นที่เว่ยเคอมอบแผนที่ที่เผ่ามังกรเกล็ดฟ้าได้มาอย่างยากลำบากให้แก่จ้าวเฟิง
แผนที่พวกนี้กระจัดกระจาย แต่สถานที่จำนวนมากในนั้น ขนาดจ้าวเฟิงยังไม่เคยไปมาก่อน สถานที่บางส่วนบนแผนที่มีโอกาสหรืออันตราย ในแผนที่นั้นก็มีเขียนไว้พอควร
ทันใดนั้นเอง เสียงสู้รบพลันลอดเข้ามาในหูของทุกคน
“ทางนั้น ไปดูเร็ว!” จ้าวเฟิงเอ่ยทันที
อันที่จริง ทัศนวิสัยของจ้าวเฟิงมองเห็นเหตุการณ์ที่อยู่ไกลออกไปแสนกว่าลี้แล้ว เขาเองก็จงใจชี้นำทั้งสองคนมาแถวนี้
ทั้งสามค่อยๆ เข้าไปใกล้จุดที่เสียงจากการต่อสู้ลอยมา
เห็นแค่บุรุษหนุ่มสองคนต่อสู้กับหนูเพลิงเขาทองหลายตัวอยู่ที่ปากถ้ำ
หนูเพลิงเขาทองโคจรเพลิงโลกันตร์อย่างว่องไว เขายาวสีเหลืองทองที่คล้ายคลึงกับเขาวัวเป็นอาวุธในการต่อสู้
กลางอากาศ เปลวเพลิงหลายสายที่ร้อนแรงหมุนวนรอบตัวคนทั้งสาม กลิ่นอายแต่ละเส้นสายแข็งแกร่งอย่างยิ่ง
“บัดซบ หนูเพลิงเขาทองดุร้ายจริงๆ!”
ทั้งสองคนต่างเป็นปฐมเทพ หนึ่งในนั้นมีพลังแตะเทพแท้จริงขั้นสอง อีกคนอ่อนแอเล็กน้อย
“พวกเจ้าสองคนมุ่งการโจมตีไปตรงช่วงท้องของหนูเพลิงเขาทอง!”
สีหน้าผู้เฒ่าชุดเขียวเคร่งขรึม เอ่ยเสียงเย็น
ขวับ!
ผู้เฒ่าชุดเขียวแกว่งหมัดทั้งสองข้าง ปลดปล่อยลำแสงสายฟ้าหลายสาย พร้อมกับตรึงกำลังหนูเพลิงเขาทองสามตัวเอาไว้
“สังหารพวกมันเสีย!”
หนูเพลิงเขาทองที่เขาส่องประกายเจิดจ้าตะโกนทันใด
ในป่า เว่ยเคอและหม่าหลิงซือมองเห็นคนทั้งสามที่ต่อสู้กับหนูเพลิงเขาทอง สีหน้าตกตะลึง
“พี่จ้าว ผู้เฒ่าคนนั้นคือเทพแท้จริงขั้นสาม พวกเรารีบหนีไปจากที่นี่เถอะ!”
แววตาของเว่ยเคอหยุดอยู่ที่ร่างผู้เฒ่าชุดเขียว สายตาหวาดเกรงอย่างลึกซึ้ง
ถึงแม้ในถ้ำแห่งนั้นมีกลิ่นหอมประหลาดโชยออกมา แต่ทั้งสองฝั่งแข็งแกร่งเกินไป เป็นคนที่พวกเขาไม่สามารถจะรับมือได้
“พวกเราต้องตามหาผู้แข็งแกร่งอาวุโสในเผ่าก่อน เมื่อทำเช่นนี้ถึงจะสามารถช่วงชิงโอกาสของที่นี่ได้!”
หม่าหลิงซือเอ่ยแนะนำ
สองในสามคนนั้นคือศิษย์ของเผ่าปีกเพลิง ผู้เฒ่าชุดเขียวคือก็คือมนุษย์ที่มองไม่เห็นเผ่าพันธุ์สายเลือด แต่พลังของทั้งสามคนแข็งแกร่งกว่าพวกเขามากนัก
ผู้เฒ่าชุดเขียวคือเทพแท้จริงขั้นสาม ส่วนชายหนุ่มอีกสองคน มีคนหนึ่งแกร่งกว่าหูเฉิง ส่วนอีกคนเทียบเท่ากับหม่าหลิงซือ
“พวกเจ้าจะไปก็ไปเถอะ ข้าต้องการของในถ้ำ!”
จ้าวเฟิงเอ่ยอย่างตรงไปตรงมา
อันที่จริง จ้าวเฟิงเข้าหาพวกเว่ยเคอเพียงเพื่อให้ได้รับแผนที่และข้อมูลมากขึ้น แต่ต่อมาจ้าวเฟิงก็ต้องเข้าไปสนิทสนมกับผู้แข็งแกร่งคนอื่นๆ เพื่อให้ได้ข้อมูลแผนที่ของพวกเขาอีก
ในเวลานี้ แววตาผู้เฒ่าชุดเขียวที่กำลังสู้กับหนูเพลิงเขาทองทอประกาย ตะโกนออกมาทันที “สหายที่หลบซ่อนตัวอยู่ หากยินดีให้ความช่วยเหลือละก็ พวกเราแบ่งโอกาสในถ้ำแห่งนี้ให้ได้ครึ่งหนึ่ง!”
บุรุษหนุ่มอีกสองคนมีท่าทีระแวดระวังในทันที มองซ้ายมองขวาในป่าทึบ
ไม่นานจ้าวเฟิงและพวกก็ปรากฏตัวขึ้น
“พวกเจ้าไปเสียเถอะ พลังแบบนี้ช่วยอะไรพวกเราไม่ได้เลย!”
ผู้เฒ่าชุดเขียวปรายตามองพวกจ้าวเฟิงเล็กน้อย แล้วจึงเอ่ยเสียงเรียบ จากนั้นลงมือสังหารหนูเพลิงเขาทองต่อ
หนูเพลิงเขาทองเองก็ไม่ได้ใส่ใจพวกจ้าวเฟิง เดิมพวกเขาคิดว่าจะมีมนุษย์ที่เก่งกล้าสามารถปรากฏตัวขึ้น หากเป็นเช่นนั้นพวกมันก็คงตกที่นั่งลำบาก
แต่คนทั้งสามที่ปรากฏกายอ่อนแอเกินไป ต่อให้ร่วมมือกับพวกผู้เฒ่าชุดเขียวเบื้องหน้าก็ไม่ส่งผลกระทบอะไรต่อพวกมัน