Skip to content

King of Gods 1233

King Of Gods

บทที่ 1233 ป้ายค้นหา

ก่อนหน้านี้ไม่รู้ว่าจ้าวเฟิงใช้ค่ายกลส่งข้ามเดินทางไปที่ไหน แต่ขั้วอำนาจมากมายพอจะยืนยันพื้นที่คร่าวๆ ได้ จากนั้นจึงตั้งหน้าตั้งตาตรวจค้นอย่างเข้มงวดในขั้วอำนาจใหญ่หลายแห่งแถวหอดารา เพียงแต่ว่าขั้วอำนาจเหล่านี้ได้ข้อมูลมาค่อนข้างช้า หนำซ้ำจ้าวเฟิงยังชำนาญการเคลื่อนย้ายชั่วพริบตา ดังนั้นเลยหนีไปได้ระยะหน่ึงนานแล้ว

การค้นหาในเวลาครึ่งปีจึงไร้ผล

พอถึงตอนที่ร่องรอยการเดินทางของจ้าวเฟิงปรากฏบริเวณรอบนอกของเขตผาเก่า ทุกขั้วอำนาจในเขตผาเก่าที่กำลังไล่ล่าเขาจึงใช้มาตรการจับกุมทันที

ทั้งหมดนี้จ้าวเฟิงได้คาดเดาเอาไว้นานแล้ว แต่นี่ก็เป็นเรื่องที่ทำอะไรไม่ได้ เขาต้องรีบออกจากเขตผาเก่าโดยเร็วที่สุด

อายุขัยผู้แข็งแกร่งขั้นเทพแท้จริงยืนยาวมากจนเกินไป เมื่อไปถึงขั้นเทพโบราณก็แทบจะเป็นอมตะ ดังนั้นต่อให้จับจ้าวเฟิงไม่ได้ในเวลาร้อยปี แรงในการค้นหาก็ไม่ลดลง บางทีอาจต่อเนื่องไปอีกพันปี หมื่นปี หรืออาจนานกว่านั้น อีกทั้งพอถึงตอนนั้น เพิ่มคนบริเวณขอบชายแดนเขตผาเก่า ต่อให้จ้าวเฟิงรอนานหลายหมื่นปีก็ไม่มีโอกาสจะหนีไป ในช่วงนั้นอาจถูกเจอตัวด้วย อีกอย่าง หากให้จ้าวเฟิงหลบอยู่หลายหมื่นปี เขาเองก็ทำไม่ได้ เขาฝึกฝนมาจนถึงตอนนี้ยังไม่ถึงห้าสิบปีด้วยซ้ำ!

ไม่สู้ฉวยโอกาสตอนที่กลุ่มผู้ตามล่าจำนวนมากยังมาไม่ถึงรีบเร่งเดินทาง เช่นนี้ยังพอจะมีโอกาสหนีออกจากเขตผาเก่าได้

ขอแค่ออกไปจากเขตผาเก่า พวกเขาคิดจะไล่ตามจับจ้าวเฟิงก็ไม่ใช่เรื่องง่ายแล้ว

ขั้วอำนาจเหล่าสามารถเรียกลมเรียกฝนได้ในเขตผาเก่า แต่ในเขตพื้นที่อื่นกลับยากจะทำเรื่องใหญ่อะไรได้

ชายหนุ่มผู้หนึ่งเดินทางเพียงลำพังอยู่บนธารน้ำแข็งหนาวเหน็บที่ทอดยาวไร้สิ้นสุด

ชายผู้นี้ใบหน้าเย็นชา เรือนผมสีทองอ่อนราวระลอกแสงทองสะบัดพลิ้วอยู่ด้านหลัง

“เจ้ามนุษย์ กล้าบุกรุกเข้ามาในดินแดนของข้า ช่างไม่กลัวตายจริงๆ!”

ทันใดนั้น ภูเขาน้ำแข็งยักษ์ที่อยู่ไกลออกไปมีเสียงโกรธเกรี้ยวดังขึ้น

“ข้าเพียงผ่านมาทางนี้เท่านั้น ไม่ได้มีจุดประสงค์อื่น!”

สีหน้าจ้าวเฟิงเย็นชา พูดไปตามตรง

พื้นที่ตลอดทางที่เขาผ่านมาล้วนแต่เป็นพื้นท่ีต้องห้ามอันตราย สิ่งแวดล้อมภายในไม่เพียงแต่โหดร้าย ยังมีฝูงสัตว์อสูรจำนวนมากเป็นเจ้าถิ่นด้วย ทุกครั้งจ้าวเฟิงจะพูดเช่นนี้ แต่ทุกครั้งสัตว์อสูรที่เจอจ้าวเฟิงก็ยังคงโจมตีเขาอยู่ดี

ครั้งนี้ก็ไม่ยกเว้นเช่นกัน

โครม ครืน ครืน! ภูเขาน้ำแข็งสั่นไหว เงาขนาดยักษ์ที่หนาวเหน็บหลายเส้นสายขยับวูบไหวออกมา

เมื่อจ้องไป ด้านหน้าจ้าวเฟิงมีสัตว์ปีกยักษ์สามตัว ปีกสีขาวใหญ่ยักษ์บดบังแสงอาทิตย์ แต่ส่วนหางกลับเป็นหางมังกรยาว

“อสูรขั้นที่สามหรือ?” จ้าวเฟิงไม่ได้ตื่นเต้นมากนัก

ตลอดทางที่ผ่านมาเขายังเคยเจออสูรขั้นที่สี่มาก่อน

อสูรขั้นสี่เพียงตัวเดียว จ้าวเฟิงยังพอรับมือไหว แต่หากอสูรขั้นสี่พาบริวารมาด้วยเป็นจำนวนมาก จ้าวเฟิงทำได้เพียงใช้ไพ่ตายถึงจะหนีรอดมาได้

“รนหาที่ตาย ในหมู่พวกมนุษย์ เจ้าเป็นแค่ปฐมเทพทั่วไปคนหนึ่งเท่านั้น ยังกล้าดูถูกพวกเรา!”

ปีศาจปีกขาวตัวนั้นโกรธเกรี้ยวทันใด มันสยายปีก กระตุ้นพลังเสวียนอ้าว

ตูม! ฟ้าดินเปลี่ยนสี อุณหภูมิลดลงอย่างรวดเร็ว ในครรลองสายตาเหลือเพียงลูกเห็บแน่นขนัดที่ปลิวว่อน

“สังหาร!”

จ้าวเฟิงกำตราเทพบรรพกาล กระตุ้นกายสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ จากนั้นพุ่งออกไปทันที

โครม! จ้าวเฟิงฟาดมือไปส่งเดชก็ปรากฏคมแสงสายฟ้าห้าสีชวนสะพรึงขวัญออกมา

แสงห้าสีขนาดใหญ่นั้นมีอานุภาพมหาศาล เหมือนจะผ่าแยกโลกหิมะทั้งหมด

“เจ้าคนนี้ทรงพลังนัก!”

อสูรปีกขาวสามตัวลงมือพร้อมกัน แสงขนนกเหมันต์เต็มฟ้าหมุนกวาดมาหาจ้าวเฟิง

ขนนกแสงเหมันต์ไม่เพียงแหลมคมเกินจะเปรียบ แต่ยังหอบพลังเหมันต์มาด้วย เทพแท้จริงขั้นสามทั่วไปเมื่อถูกโจมตีจากอสูรปีกขาวสามตัว หากไม่บาดเจ็บสาหัสก็ต้องตาย

จ้าวเฟิงไม่ถอยหนีแต่กลับรุกโจมตี ทุ่มเทพลังทั้งหมดกระตุ้นกายสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ เข้าปะทะอสูรสามตัวภายใต้การปกคลุมจากแสงสายฟ้าห้าสี

เมื่อได้โอกาสเหมาะ จ้าวเฟิงจึงใช้วิชาสายเลือดดวงตากับอสูรสามตัว

เหล่าอสูรตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบทันที หลังจากที่ตัวหนึ่งในนั้นถูกโจมตีจนตาย อสูรที่บาดเจ็บหนักอีกสองตัวก็หนีไปทันที

จากนั้นจ้าวเฟิงรีบเดินทางต่อทันที

หลังจากเคลื่อนย้ายหนีไปแล้ว จ้าวเฟิงก็ไม่หยุดพักอีกเลย กระทั่งเวลาจะเสริมขอบเขตพลังฝึกตนให้มั่นคงยังไม่มี บางครั้งจ้าวเฟิงก็จะใช้การสู้จริงมาขัดเกลาตนเอง

แน่นอนว่าเขาไม่ได้ตั้งใจจะสู้รบตบมือกับใคร อย่างไรเสียเขาก็ยังโดนไล่ล่าสังหารอยู่

“ระยะทางข้างหน้าไม่มีแผนที่อย่างละเอียดแล้ว!”

สีหน้าจ้าวเฟิงเรียบเฉย

เดินทางไปเรื่อยๆ ไม่รู้ว่านานเท่าไหร่คนทั้งสองถึงจะออกจากพื้นที่อันตรายแห่งนี้ได้

ยามนี้จ้าวเฟิงมักต้องเพ่งมองไกลๆ เพื่อสำรวจสถานการณ์

ไม่รู้ว่าเดินทางมานานเท่าไหร่ มาถึงที่ไหน ที่สุดแล้วจ้าวเฟิงจึงมองเห็นกลุ่มคนสี่คน

ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในกลุ่มเป็นถึงเทพแท้จริงขั้นสาม ส่วนรุ่นเยาว์อีกสามคนที่เหลือเป็นปฐมเทพ

“ผู้อาวุโสฟาน จ้าวเฟิงเป็นใครกันแน่? ถึงกับก่อเรื่องแบบนี้ กระทั่งตำหนักรัตติกาลม่วงยังไม่กล้ามีปัญหาด้วย!”

บุรุษหนุ่มที่ส่วนหน้าผากมีลายก้นหอยสีเขียวเอ่ยอย่างประหลาดใจ

“พวกเราเพียงแค่ไปส่งของ เรื่องอื่นไม่ต้องสนใจ!”

ชายชราหัวล้านที่เป็นผู้นำเอ่ยขึ้นทันที

คนที่ทำให้ทั้งเขตผาเก่าสั่นสะเทือน หนำซ้ำยังไม่ใช่คนของขั้วอำนาจใด ผู้เฒ่าฟานย่อมสนใจอย่างยิ่ง

ในเวลานี้เอง ผู้เฒ่าฟานก็สังเกตเห็นระลอกประหลาดในมิติเก็บของ

“นี่มัน?” ประสาทสัมผัสเทพของผู้เฒ่าฟานดำดิ่งลงไปในนั้น

ในนั้นมีอาวุธสีเงินลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมสามชิ้น ในแต่ละชิ้นมีผลึกสีเงินชิ้นหนึ่ง

แต่ยามนี้ เม็ดผลึกสีเงินนั้นกลับเปล่งแสงประกายเจิดจ้าออกมาไม่หยุด หนำซ้ำความถี่ก็เร็วขึ้นเรื่อยๆ

“นี่คือ ‘ป้ายค้นหา’ ที่เบื้องบนมอบให้กับข้า เมื่อของชิ้นนี้เปล่งแสงแปลว่าสิ่งของที่ตามหาปรากฏขึ้นในรัศมีหนึ่ง!”

สีหน้าผู้เฒ่าฟานหวาดหวั่น

เขาย่อมรู้ว่าป้ายค้นหาสามชิ้นนี้สร้างขึ้นเพื่อใช้หาจ้าวเฟิงโดยเฉพาะ

วูบ! ผู้เฒ่าฟานสูดลมหายใจเข้าลึก แววตาจ้องไปไกลๆ

เห็นเพียงบัณฑิตหนุ่มที่ค่อนข้างอ่อนแอ เดินเข้าไปใกล้เขาช้าๆ ดูท่าทางมีพลังเทียบเท่ากับขอบเขตเทวาเร้นลับระดับบริบูรณ์

“ท่านผู้อาวุโส ข้าอยากจะแลกเปลี่ยนข้อมูลแผนที่บริเวณแถวนี้!”

ใบหน้าบุรุษผู้นี้ประดับด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน

คนผู้นี้คือร่างแยกที่จ้าวเฟิงไม่เคยเจอมาก่อน…จ้าวหุย!

คาดว่ากระทั่งลูกเล็กเด็กแดงทั้งเขตผาเก่าก็น่าจะรู้จักใบหน้าของจ้าวเฟิง ในทุกครั้งที่จ้าวเฟิงจะทำอะไรจึงให้จ้าวหุยออกหน้าแทน

เสียดายก็เพียงพลังของจ้าวหุยไม่แข็งแกร่งมากนัก มิฉะนั้นอาจจะพอใช้จ้าวหุยไปหยิบยืมค่ายกลส่งข้ามของขั้วอำนาจขนาดเล็กส่วนหนึ่งได้

“หึ เจ้าจะเอาอะไรมาแลกแผนที่ของข้า?”

บุรุษหนุ่มผู้หนึ่งเห็นท่าทางจ้าวหุยอ่อนแอบอบบางก็เอ่ยเหน็บแนมทันที

เป็นแค่เทวาเร้นลับระดับบริบูรณ์ จะเอาของดีอะไรมาแลกกับแผนที่ในมือผู้เฒ่าฟาน

“หุบปาก!”

ผู้เฒ่าฟานตะโกนออกมา บุรุษหนุ่ผู้นั้นตกใจจนชะงัก ละล้างละลัง

“น้องชายผู้นี้น่าจะมาที่นี่ครั้งแรก หากเขาต้องการข้อมูลแผนที่ในบริเวณใกล้ๆ นี้ สามารถเอาแผนที่ในตัวเจ้ามาแลกได้!”

ดวงตาสองข้างที่ผู้เฒ่าฟานมองจ้าวหวังดูสงสัยเล็กน้อย มองประเมินจ้าวหุยตลอดเวลา แต่ในเวลานี้เอง ระลอกมิติก็เปล่งประกาย เงากลิ่นอายขนาดยักษ์หลายสายพุ่งลงมา

ฟิ้ว! ฟิ้ว! ฟิ้ว!

จ้าวเฟิง จ้าวหวัง จ้าววั่นและยังมีมังกรวารีล้างโลกา ล้อมคนของผู้เฒ่าฟานเอาไว้

“มอบแผนที่มา แล้วบอกด้วยว่าเจ้าเห็นข้าได้ยังไง!”

จ้าวเฟิงเอ่ยเสียงเย็น

ตลอดทางที่ผ่านมา จ้าวเฟิงประมาทอยู่หลายครั้ง เกือบจะสร้างข้อผิดพลาดมากมาย ดังนั้นตอนนี้จ้าวเฟิงจึงทำทุกอย่างอย่างระมัดระวัง ไม่ปล่อยให้เกิดข้อผิดพลาดใด

แต่เมื่อครู่ชายชรากับแพร่งพรายความลับของเผ่าตนเองกับคนนอก เห็นได้ชัดว่าในใจลนลานไม่น้อย จากนั้นเขาประเมินจ้าวหุยอย่างละเอียด สีหน้าเคร่งขรึม เห็นได้ว่ากำลังครุ่นคิดอะไรอยู่

“ผู้อาวุโสฟาน นี่มันอะไรกัน?”

ปฐมเทพสามคนลนลานทำอะไรไม่ถูก

สี่คนที่จู่ๆ ปรากฏกายขึ้นเบื้องหน้าสายตา มองดูแล้วพลังฝึกตนไม่แข็งแกร่งนัก แต่แต่ละคนทรงพลังอย่างยิ่ง

“ท่านไว้ชีวิตพวกเราเถอะ รับรองจะไม่แพร่งพรายร่องรอยการเดินทางของท่าน!”

ผู้เฒ่าฟานรีบอ้อนวอน

เขาได้ยินข่าวลือของจ้าวเฟิงมาไม่น้อย ดังนั้นจึงพอรู้ว่าตนเองไม่ใช่คู่ต่อสู้อีกฝ่าย

“รีบออกของออกมา!”

สีหน้าจ้าวเฟิงเย็นชา มีทีท่าเหนื่อยหน่าย

“ทราบแล้ว ทราบแล้ว…”

ผู้เฒ่าฟานรีบส่งข้อมูลแผนที่ชิ้นหนึ่งให้จ้าวเฟิง และมอบป้ายค้นหาสามชิ้นออกมาพร้อมกัน

สวบ! ตอนที่ป้ายค้นหาลอยมาเบื้องหน้าจ้าวเฟิง แสงด้านบนส่องประกายเกินจะเปรียบ ความถี่ในการส่องแสงมากจนเกือบถึงระดับที่ตาเนื้อไม่สามารถจะจำแนกได้

จ้าวเฟิงรับป้ายค้นหามา เมื่อดำดิ่งประสาทสัมผัสเทพลงไปด้านในจึงได้รู้สาเหตุ

ป้ายค้นหาสามชิ้นเหมือนจะมีกลิ่นอายวิญญาณของจ้าวเฟิง ขอแค่กลิ่นอายวิญญาณที่ต้องกันปรากฏขึ้นในละแวกใกล้เคียงก็จะส่งสัญญาณ

เมื่อพลังฝึกตนแตะขั้นเทพแท้จริง ใบหน้าของคนจะเปลี่ยนแปลงได้ง่าย แต่กลิ่นอายวิญญาณกลับไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้

ตูม! ป้ายค้นหาสามชิ้นเบื้องหน้าจ้าวเฟิงแตกละเอียดออกทันที

หลังจากได้ข้อมูลแผนที่มา จ้าวเฟิงก็จากไปทันที

“ผู้อาวุโสฟาน เขาก็คือจ้าวเฟิงเช่นนั้นหรือ?”

หญิงสาวตาโตคนหนึ่งในกลุ่มเอ่ยถามหลังจากที่จ้าวเฟิงจากไป

“เขาปล่อยพวกเราไป!” บุรุษหนุ่มอีกคนเอ่ยอย่างเกรงกลัว

“ถึงป้ายค้นหาจะส่งข่าวไม่ได้ แต่เส้นทางการเดินทางของพวกเขาก็ถูกเปิดเผยไปแล้ว ดังนั้นต่อให้สังหารพวกเราก็ไม่มีประโยชน์อะไร!”

ผู้เฒ่าฟานเอ่ยตามตรง

……

หลังจากที่จ้าวเฟิงได้ข้อมูลแผนที่มาแล้ว ก็เริ่มเดินทางทันที

“นายท่าน ป้ายค้นหาประเภทนี้น่าจะสร้างขึ้นจากมรดกของเผ่าความลับสวรรค์ ขั้นตอนค่อนข้างยุ่งยาก ตอนนี้พลังยังไม่สูงมากนัก แต่ทันทีที่เลื่อนขั้นขึ้นมา แค่อยู่ที่เขตผาเก่า ไม่ว่าจะหลบที่ไหนก็ยังจะโดนหาเจออยู่ดี”

มังกรวารีล้างโลกาส่งเสียงบอก ในตอนนี้เขาก็หวังให้จ้าวเฟิงรีบเดินทางออกจากเขตผาเก่าเสีย

มังกรวารีล้างโลกาย่อมรู้จักป้ายค้นหาที่พิเศษประเภทนี้ ต่อให้ซ่อนตัวอยู่ในมิติอื่นๆ ทันทีที่ป้ายค้นหาเข้าใกล้จนถึงระยะหนึ่งก็ยังโดนหาเจออยู่ดี เพราะว่าซ่อนอยู่ในมิติอื่น แต่โดยเนื้อแท้แล้วยังถือว่าอยู่ในโครงสร้างของมิติดินแดนเทพรกร้าง

รวมไปถึงมิติในชุดคลุมมิติ หรือกระทั่งห้วงฝันบรรพกาลก็เหมือนกัน

“ข้ารู้!” สีหน้าจ้าวเฟิงเคร่งขรึมลงไปเล็กน้อย

ทั้งสี่คนนั้นเป็นแค่ขั้วอำนาจเผ่าแถวนี้เท่านั้น

เชื่อว่าขั้วอำนาจสี่ดาวระดับสุดยอดที่ไล่ตามจับเขาเช่นตำหนักรัตติกาลม่วงก็น่าจะมีป้ายค้นหาเช่นนี้อีกเป็นจำนวนมาก

ทันทีที่ป้ายค้นหาเพิ่มระดับขึ้น ต่อให้จ้าวเฟิงหลบเข้าไปในชุดคลุมมิติหรือจะห้วงฝันบรรพกาล ก็ยังถูกจับได้อยู่ดี

“ดีที่หนทางเหลืออีกไม่ไกลแล้ว!” จ้าวเฟิงบอกให้ตัวเองสงบจิตใจ

หลังจากได้ข้อมูลแผนที่มาใหม่ จ้าวเฟิงจึงสามารถยืนยันเส้นทางได้

พรึ่บ! เขาคลุมชุดคลุมมิติ และเลือกเดินทางในพื้นที่ต้องห้ามอันตรายที่ไม่มีคน

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!