Skip to content

King of Gods 1272

King Of Gods

บทที่ 1272 สระน้ำแห่งชีวิต

“เขตเทพสวรรค์ยังมีขั้วอำนาจที่กล้าเป็นศัตรูกับแดนศักดิ์สิทธิ์ชีวิต?”

จ้าวเฟิงถามข้อสงสัยในใจออกมา

ในเขตเทพสวรรค์ แดนศักดิ์สิทธิ์ชีวิตคือขั้วอำนาจปกครอง

คนที่สังหารทายาทเนตรชีวิตเป็นขั้วอำนาจใด กลับกล้ามาเป็นศัตรูกับแดนศักดิ์สิทธิ์ชีวิต?

ต่อให้อีกฝ่ายอาจเป็นคนของแดนศักดิ์สิทธิ์อื่น แต่สองดินแดนศักดิ์สิทธิ์คงไม่ท้าทายกันซึ่งหน้าเช่นนี้กระมัง หากเกิดสงครามแดนศักดิ์สิทธิ์ขึ้น นั่นไม่ใช่เรื่องเล็กๆ เลย

“เรื่องนี้ยังต้องตรวจสอบ ตอนนี้ยังไม่อาจมั่นใจว่าใครเป็นคนทำ แต่ท่านอย่าได้คิดว่าแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งเทพก็คือขั้วอำนาจที่แข็งแกร่งที่สุดในเขตหนึ่ง”

หลิวข่ายส่ายหน้า จากนั้นพูดขึ้นอย่างจริงจัง

“หมายความว่าอย่างไร?” จ้าวเฟิงตะลึงไป

ในเขตหนึ่ง แดนศักดิ์สิทธิ์ก็คือขั้วอำนาจปกครอง หรือยังมีขั้วอำนาจที่แข็งแกร่งกว่าแดนศักดิ์สิทธิ์อีก?

“ดินแดนเทพรกร้างกว้างไกลไม่มีสิ้นสุด ขั้วอำนาจที่แอบซ่อนในที่มืดมีมากมายนับไม่ถ้วน และก็มีขั้วอำนาจหลายแห่งที่ล้ำหน้าระดับห้าดาว จนไปถึงระดับของแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งเทพ…”

หลิวข่ายพูดต่อ

จ้าวเฟิงพยักหน้า คำพูดนี้ไม่ยากเกินความเข้าใจ

ฟ้าดินผืนใดก็ตามล้วนมีขั้วอำนาจแข็งแกร่งที่ผู้คนไม่รู้ซ่อนอยู่ในเงามืด สถานที่ใหญ่โตเช่นดินแดนเทพรกร้างนี้ จะไม่มีไปได้อย่างไร เพียงแต่ขั้วอำนาจที่พัฒนาในเงามืดกลับพัฒนาได้เทียบเคียงกับขนาดของแดนศักดิ์สิทธิ์ เช่นนั้นก็ชวนให้ตกตะลึงแล้ว

ต่อมา พวกจ้าวเฟิงทั้งสองก็ตามหลิวข่ายเข้ามาจากทางเข้าพิเศษ ผ่านการตรวจสอบแต่ละขั้นๆ จึงเข้ามาในแดนศักดิ์สิทธิ์ชีวิตได้อย่างรบรื่น

‘ไอสวรรค์ฟ้าดินเทียบเคียงได้กับพื้นที่ใจกลางของเผ่าพันธุ์วิญญาณ อีกทั้งพลังชีวิตของที่นี่เข้มข้นเป็นอย่างมาก เผ่าพันธุ์วิญญาณไม่อาจเทียบเคียงได้เลย!’

จ้าวเฟิงปลงอนิจจังในใจ

หากถือกำเนิดในสภาพแวดล้อมเช่นนี้ ตั้งแต่เริ่มก็ได้รับผลจากที่นี่ คุณสมบัติกายหรือพลังชีวิตด้านอื่นๆจะล้ำหน้าเกินคนทั่วไป

หากในตอนแรกที่จ้าวเฟิงฝึกร่างกายสามารถฝึกฝนอยู่ที่แดนศักดิ์สิทธิ์ที่ดีเช่นนี้ เช่นนั้นอย่างน้อยๆ ความเร็วในการฝึกและผลประโยชน์จะมากกว่าสิบเท่าขึ้นไป

“เอ๋? กลิ่นอายกลุ่มนี้?”

สีหน้าของหลิวข่ายเปลี่ยนไปทันที มองไปยังหานหนิงเอ๋อร์ที่อยู่ข้างจ้าวเฟิง เห็นเพียงพลังชีวิตในฟ้าดินไหลเข้าไปในดวงตาทั้งสองของนางอย่างไม่รู้ตัว พลังชีวิตบริสุทธิ์แผ่กระจายออกมาจากข้างใน ราวกับมีพลังที่จะฟื้นคืนชีวิต

“นี่คือเนตรชีวิต?” หลิวข่ายพูดอย่างตื่นตะลึง

ถึงแม้แดนศักดิ์สิทธิ์ชีวิตจะเป็นที่พักพิงของเนตรชีวิต แต่ทายาทแปดเนตรเทพเจ้าก็ไม่ได้มีมากเหมือนที่คิดเอาไว้

ทายาทเนตรชีวิตคนหนึ่งมีตัวตนอยู่น้อยนิดเป็นอย่างมากในแดนศักดิ์สิทธิ์ชีวิต

“ระดับความเข้มข้นสายเลือดของนางเปลี่ยนไป!”

ตาซ้ายของจ้าวเฟิงมองทุกอย่างเอาไว้ในสายตา

หานหนิงเอ๋อร์เป็นเพียงแค่ลูกศิษย์ขั้วอำนาจสี่ดาวครึ่งทั่วไปในเขตผาเก่า สายเลือดเพิ่งจะตื่นขึ้น ยังไม่ผ่านการขุดค้นออกมา ตอนนี้นางเพิ่งจะเข้ามาในแดนศักดิ์สิทธิ์ชีวิต ความเข้มข้นของสายเลือดเนตรชีวิตก็เกิดการเปลี่ยนแปลง เห็นทีการมาครั้งนี้จะไม่เปล่าประโยชน์ ที่นี่เป็นที่ที่เหมาะกับหานหนิงเอ๋อร์อย่างแน่นอน

“จ้าวเฟิง นางคือ?” เวลานี้ หลิวข่ายเพิ่งจะถามขึ้น

“สหายของข้า!” จ้าวเฟิงพูดง่ายๆ

สีหน้าของหลิวข่ายชะงักไป จ้าวเฟิงเป็นลูกศิษย์คนสำคัญเผ่าวิญญาณ ส่วนสตรีนางนี้มาแดนศักดิ์สิทธิ์ชีวิตกับจ้าวเฟิง ความสัมพันธ์น่าจะไม่ธรรมดา หรือก็คือสตรีนางนี้เป็นไปได้อย่างมากว่าจะเป็นลูกศิษย์เผ่าพันธุ์วิญญาณ

เขาอดทอดถอนใจไม่ได้ ช่วงนี้ไยเผ่าพันธุ์วิญญาณจึงโชคดีเช่นนี้

“ไป ไปข้างบนกันเถอะ!” หลิวข่ายพูดขึ้น

จ้าวเฟิงและหานหนิงเอ๋อร์มองไปข้างบน

ต้นไม้โบราณใหญ่โตแผ่ปกคลุมฟ้าดิน กลายเป็นผืนสีเขียวมรกตวาววับ

บนต้นไม้โบราณมหึมามีวังตำหนักเล็กใหญ่มากมายตั้งอยู่ และยังมีคุ้งน้ำลึกลับ น้ำตก สายธาร ยิ่งบินสูงขึ้นไป ไอสวรรค์ฟ้าดินและพลังชีวิตก็ยิ่งเข้มข้น สิ่งก่อสร้างยิ่งบางตา

เห็นเพียงเบื้องหน้าตำหนักสีเขียวใหญ่โตหลังหนึ่งมีคนรวมตัวเกือบสิบคน ในนั้นมีชายหนุ่มคนหนึ่ง ซึ่งก็คือเซี่ยโหวอู่ที่จ้าวเฟิงรู้จักนั่นเอง

“เขาก็คือจ้าวเฟิง?”

ชายคนหนึ่งที่คลุมชุดคลุมสีทองมองมายังจ้างเฟิงด้วยแววตาวาวโรจน์

เขาก็คืออัจฉริยะปฐมเทพที่แข็งแกร่งที่สุดของแดนศักดิ์สิทธิ์ชีวิต ปฐมเทพก้วนหลง

แต่เดิมเขาเป็นอัจฉริยะที่โดดเด่นที่สุดในเขตเทพสวรรค์ เป็นบุคคลที่เทียบเคียงกับอัจฉริยะแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งอื่น

แต่เผ่าพันธุ์วิญญาณจู่ๆ ก็มีจ้าวเฟิงโผล่มา ทะลวงเทพแท้จริงขั้นหกในทันที เข้ามาแทนที่ชื่อเสียงของเขา

“เป็นพลังฝึกตนขั้นหกจริงๆ แต่ก็ไม่รู้ว่าทะลวงถึงขั้นหกในทันทีจริงหรือไม่!”

ในกลุ่มคน ศิษย์รุ่นเยาว์ไม่น้อยประเมินจ้าวเฟิงด้วยสายตาสงสัย นอกจากวัยรุ่นพวกนี้ ในกลุ่มคนยังมีผู้อาวุโสอีกสามคน พลังฝึกตนสูงส่งลึกล้ำเกินหยั่ง

“ผู้เยาว์จ้าวเฟิง คารวะผู้อาวุโสแดนศักดิ์สิทธิ์ชีวิต!”

สายตาของจ้าวเฟิงหยุดลงที่ร่างของผู้อาวุโสทั้งสาม สำหรับข้อสงสัยของศิษย์รุ่นเยาว์ เขาไม่สนแม้แต่น้อย

ในตอนนี้ สายตาของผู้อาวุโสทั้งสามเปล่งประกาย ทั้งหมดล้วนเพ่งมายังร่างของจ้าวเฟิง ราวกับจะจ้องให้ทะลุอย่างไรอย่างนั้น

“เผ่าพันธุ์วิญญาณรับคนเช่นเจ้าไว้ได้ ช่างชวนให้อิจฉาเสียจริง!”

ทันใดนั้น ผู้อาวุโสใบหน้าเหี่ยวย่นที่สวมเสื้อคลุมยาวสีเงินเทาลูบเครายิ้มพูดขึ้น

“ผู้อาวุโสชมเกินไปแล้ว!” จ้าวเฟิงเอ่ยอย่างเกรงใจ

“เซี่ยโหวอู่ เจ้าพาจ้าวเฟิงกับสหายของเขาไปเยี่ยมชมแดนศักดิ์สิทธิ์ชีวิตสักหน่อยก็แล้วกัน!”

ผู้อาวุโสใบหน้าแห้งเหี่ยวยิ้มพูด

“ขอรับ ท่านอาจารย์” เซี่ยโหวอู่เอ่ยอย่างนอบน้อม จากนั้นเดินออกมา

“จ้าวเฟิง ข้าจะพาเจ้าเยี่ยมชมแดนศักดิ์สิทธิ์ชีวิต!”

ท่าทีของเซี่ยโหวอู่ค่อนข้างเป็นมิตร แต่เมื่อพูดถึงแดนศักดิ์สิทธิ์ชีวิตสี่คำนี้ เขาเผยความภาคภูมิใจออกมาอย่างไม่รู้ตัว หลังจากพวกจ้าวเฟิงทั้งสามจากไปแล้ว ผู้อาวุโสใบหน้าเหี่ยวเอ่ยขึ้นทันที “ข้าสามารถบอกพวกเจ้าได้อย่างมั่นใจ จ้าวเฟิงทะลวงตำแหน่งเทพขั้นหกได้ในทันที!”

เมื่อคำพูดนี้ออกไป ศิษย์วัยรุ่นหลายคนที่เหลือรอบกายมีสีหน้าแข็งทื่อ ดูย่ำแย่เป็นอย่างยิ่ง ในพวกเขาบางคนยังเป็นปฐมเทพ บางคนเป็นเทพแท้จริง บางคนกระทั่งถึงเทพโบราณแล้ว

พวกเขาล้วนเป็นอัจฉริยะที่แข็งแกร่งที่สุดในแดนศักดิ์สิทธิ์ชีวิต แต่เสี้ยวขณะนี้ พวกเขาล้วนคอตกกันหมด

“บัดซบ!” มุมปากของปฐมเทพก้วนหลงเค้นสองคำนี้ออกมา แต่เดิมเขาวางแผนว่าผ่านไปอีกช่วงหนึ่งแล้วค่อยทะลวงตำแหน่งเทพ

แต่ตอนนี้เขาคิดอยากลองดู คิดอยากทะลวงขั้นหก อยากจะเอาเกียรติยศที่เคยเป็นของตัวเองคืนมา

ภายใต้การนำทางของเซี่ยโหวอู่ จ้าวเฟิงและหานหนิงเอ๋อร์เดินอ้อยอิ่งอยู่ในแดนศักดิ์สิทธิ์ที่งดงามวิจิตรดุจงานฝีมือชิ้นมหึมา

‘เอ๋? พลังชีวิตเปลี่ยนไปเข้มข้นขึ้นในพริบตา!’

สีหน้าของจ้าวเฟิงตะลึงไปเล็กน้อย

“อืม ด้านตะวันออกของแดนศักดิ์สิทธิ์ชีวิตคือที่ฝึกฝนและที่อยู่อาศัย ส่วนด้านตะวันตกคือที่เพาะปลูกทรัพยากรและเพาะเลี้ยง…”

เซี่ยโหวอู่ยิ้มพูด

วัตถุดิบล้ำค่าของแดนศักดิ์สิทธิ์ชีวิต คุณสมบัติขึ้นชื่อว่าเยี่ยมยอดที่สุดในดินแดนเทพรกร้าง ทรัพยากรล้ำค่าหายากจากโลกภายนอกมากมาย แดนศักดิ์สิทธิ์ชีวิตมีทั้งสิ้น

เซี่ยโหวอู่พาจ้าวเฟิงมายังเขตพื้นที่เพาะเลี้ยงวัตถุดิบชั้นดีบางอย่าง กระทั่งไม่ปิดบังแม้แต่น้อย พาจ้าวเฟิงมาเยี่ยมชมเขตทรัพยากรล้ำค่าที่สูงค่าเป็นอย่างยิ่ง

วัตถุดิบยาล้ำค่านับไม่ถ้วนข้างใน ต่อให้เป็นจ้าวเฟิงก็รู้จักเพียงแค่ส่วนน้อยส่วนเดียวเท่านั้น

ส่วนหานหนิงเอ๋อร์ที่ตัวเป็นแพทย์ ตลอดทางมานี้ก็ตื่นเต้นลิงโลดเป็นอย่างยิ่ง ดวงตาส่องประกายสีเขียวมรกต จับจ้องทุกสิ่งอย่างรอบด้าน

“แดนศักดิ์สิทธิ์เป็นที่ที่ดีจริงๆ!” จ้าวเฟิงพูดรำพึง

วัตถุดิบยาที่นี่แบ่งประเภทได้มากมายหลากหลาย มีแทบจะทุกประเภท อีกทั้งวัตถุดิบยาชนิดเดียวกัน แต่ของแดนศักดิ์สิทธิ์ชีวิตจะเหนือกว่าที่อื่นๆ มากนัก และวัตถุดิบล้ำค่าประเภทจิตวิญญาณที่โลกภายนอกมีน้อย ที่นี่จะมีมากมาย

“จ้าวเฟิง ข้าจะพาเจ้าไปที่ดีๆ!” จู่ๆ เซี่ยโหวอู่ก็พูดขึ้น

พูดจบเขาก็พาพวกจ้าวเฟิงทั้งสองเลี้ยวไปเลี้ยวมา สุดท้ายมาถึงยังสิ่งก่อสร้างแปลกประหลาดขนาดมหึมาที่ก่อจากเถาวัลย์ ที่นี่มีค่ายกลที่แข็งแกร่งปกป้องอยู่รอบด้าน

ในสิ่งก่อสร้างมีกิ่งไม้มากมายค้ำยันอยู่ บนกำแพงรอบด้านสิ่งก่อสร้างนี้มีวงแสงสีเขียวมากมายฝังประดับอยู่

เพียงแวบแรกจ้าวเฟิงก็มองมอกว่าวงแสงสีเขียวทุกวงที่นี่ล้วนเชื่อมกับมิติเอกเทศแห่งหนึ่ง

“ไป พวกเราไปตรงนั้น!” เซี่ยโหวอู่ชี้ไปยังวงแสงสีเขียวที่สีค่อนข้างคล้ำวงหนึ่ง

ขวับ! ทั้งสามคนมาถึงยังโลกส่วนตัวที่สร้างจากพรรณไม้แปลกประหลาด มิติเดี่ยวนี้มีพื้นที่ค่อนข้างเล็ก มองปราดเดียวก็มองได้รอบ และเบื้องหน้าของทุกคนมีสระน้ำที่สร้างจากดินและเถาวัลย์ ข้างในมีของเหลวสีเขียวกลิ่นหอมฉุนไหลเวียน มองเพียงแวบเดียวก็รู้ถึงความล้ำค่าของของเหลวพวกนี้

“ที่นี่คือ ‘สระน้ำแห่งชีวิต’ เจ้าลองลงไปดูสิ!” เซี่ยโหวอู่ยิ้มพูด

ตูม! จ้าวเฟิงกระโดดลงไปทันที

ทันใดนั้น เขารู้สึกว่าทุกอณูในร่างกายราวกับถูกปลุกให้ตื่นขึ้น ดูดพลังชีวิตในของเหลวอย่างเอาเป็นเอาตาย สภาพทุกด้านก็ฟื้นฟูอยู่ในระดับดีเยี่ยมที่สุด ไม่นานนัก จ้าวเฟิงก็รู้สึกว่าระดับขั้นชีวิตของตนยกระดับขึ้น

“นี่คือสระน้ำแห่งชีวิต สถานที่ฝึกฝนที่แดนศักดิ์สิทธิ์ชีวิตสร้างขึ้น ศิษย์ของแดนศักดิ์สิทธิ์ชีวิตคิดอยากจะแช่ครั้งหนึ่ง อย่างน้อยต้องสะสมคุณูปการหลายปี ส่วนสระน้ำแห่งชีวิตที่เจ้าแช่อยู่ในตอนนี้เข้ากับเทพโบราณขั้นเจ็ด มีประโยชน์กับเจ้าเป็นอย่างมาก!”

เซี่ยโหวอู่ที่อยู่ด้านข้างอธิบาย

“ขอบใจมาก!”

จ้าวเฟิงแน่นอนว่ารู้ดีถึงความล้ำค่าของสระน้ำแห่งชีวิต

ในสิ่งก่อสร้างเมื่อครู่นั่น วงแสงสีเขียวทั้งหมดรวมกันทุกวงแล้วก็ไม่ถึงร้อยวง

ศิษย์นับไม่ถ้วนของแดนศักดิ์สิทธิ์ชีวิต สระน้ำแห่งชีวิตมีเพียงแค่หนึ่งร้อยแห่ง อีกทั้งยังสอดคล้องกับพลังฝึกตนที่ระดับต่างกัน

ในตอนที่มาถึง ประกายแสงตรงทางเข้าหลายที่ค่อนข้างมืด เห็นได้ชัดว่าไม่มีลูกศิษย์เข้ามาในนี้ แน่นอน ไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่อยากเข้ามา แต่เพราะราคาที่ต้องจ่ายสูงมาก จึงไม่อาจเข้ามาได้

และในตอนนี้ จ้าวเฟิงผู้เป็นแขกที่มาจากข้างนอกคนหนึ่งสามารถแช่ในสระน้ำแห่งชีวิตที่สอดคล้องกับเทพโบราณขั้นเจ็ด

“มาที่นี่ครั้งหนึ่ง เจ้าสามารถแช่ในสระน้ำแห่งชีวิตได้สามวัน ต้องใช้มันให้คุ้มเล่า ส่วนสหายของเจ้า ข้าจะพานางไปเยี่ยมชมที่อื่น…”

เซี่ยโหวอู่พูดจบก็พาหานหนิงเอ๋อร์จากไปทันที

“เป็นสถานที่ที่ดีจริง ห้ามพลาดเลยทีเดียว!” จ้าวเฟิงเผยสีหน้ายินดีเป็นอย่างยิ่ง

เขาเพิ่งทะลวงเทพโบราณขั้นเจ็ดได้ ทุกๆ ด้านยังไม่มั่นคงโดยสมบูรณ์ ยังห่างจากขั้นแปดอีกไกลระยะหนึ่ง

ตอนนี้เขามีวาสนาได้เข้ามาในสระน้ำแห่งชีวิต สามารถถือโอกาสยกระดับขั้นชีวิต ทั้งยังฝึกฝนเสวียนอ้าวธาตุดินและไม้ได้

วู้ม วู้ม! ดวงตาทั้งสองของจ้าวเฟิงปิดลงเล็กน้อย แผ่กระจายพลังเสวียนอ้าวดินและไม้ออกมาตลบอวลไปทั่ว

เขาทะลวงตำแหน่งเทพขั้นเจ็ดได้ในทันที ช่วงระยะห่างกว้างมาก พลังเสวียนอ้าวทุกประเภทยังมีช่องว่างให้ยกระดับอีกมากนัก

“ภายในสามวันนี้ อย่างน้อยต้องยกระดับเสวียนอ้าวธาตุดินและไม้ให้ถึงขั้นสี่สุดยอดถึงจะได้!”

จ้าวเฟิงพูดพึมพำ ถือโอกาสหยิบผลึกเสวียนอ้าวจำนวนหนึ่งมาช่วยฝึกฝนด้วย

……

สามวันหลังจากนั้น รอบกายจ้าวเฟิงตลบอบอวลไปด้วยหมอกบางๆ สีเหลืองเขียวกึ่งโปร่งแสง ดินและต้นไม้รอบกายสั่นไหวเบาๆ ดอกตูมบางดอกเบ่งบานออกมาเลยทีเดียว ทันใดนั้น จ้าวเฟิงก็ลืมตาทั้งสองที่สุกสว่างขึ้น

“อาศัยสระน้ำแห่งชีวิต เสวียนอ้าวธาตุไม้และดินถึงขั้นสี่สุดยอดได้อย่างราบรื่น!”

จ้าวเฟิงพูดอย่างตื่นเต้น

นอกจากนั้น ระดับขั้นชีวิตของเขาก็ยกระดับขึ้นไม่น้อย

ในตอนนี้เอง เซี่ยโหวอู่และหานหนิงเอ๋อร์ปรากฏกายขึ้นในมิติแห่งนี้

“จ้าวเฟิง ผู้อาวุโสแดนศักดิ์สิทธิ์ชีวิตอยากจะคุยกับเจ้า!”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!