บทที่ 1275 วารีศักดิ์สิทธิ์ชำระวิญญาณ

หลังนำชายแขนขาดเข้าไปในมิติภายในชุดคลุม จ้าวเฟิงและมังกรวารล้างโลกาก็เข้าไปข้างในเช่นกัน

“บัดซบ มาอยู่ในมิติของชุดคลุมมิติงั้นรึ?”

ชายแขนขาดที่ฟื้นจากวิชาดวงตาวิญญาณมองประเมินไปรอบด้านด้วยสีหน้าเคร่งเครียด รอบด้านเป็นผืนดาราเวิ้งว้าง ด้านล่างเป็นกระดานหินสีเทาใหญ่มหึมา บนกระดานหินมีชายหนุ่มชุดดำไร้ความรู้สึก จากนั้นก็เป็นไข่ใบหนึ่ง!

ชายชุดดำคนนั้นถึงแม้กลิ่นอายจะเย็นเยือกน่ากลัว แต่ระดับพลังฝึกตนต่ำ จึงไม่อยู่ในสายตาชายแขนขาด

สิ่งที่ทำให้เขาประหลาดใจก็คือ ที่นี่ทำไมถึงมีไข่อยู่ใบหนึ่งด้วย! แต่ทว่าตอนนี้เขาไม่มีเวลาไปสนใจเรื่องอื่น

“ตอนนี้เจ้าจะหนีอย่างไร?” จ้าวเฟิงยิ้มหยอกเย้า

เขาเป็นผู้ครอบครองชุดคลุมมิติ สามารถควบคุมศัตรูได้มากในมิติของชุดคลุม

แต่เช่นเดียวกัน ศัตรูอยู่ที่นี่ก็สามารถทำลายศูนย์กลางของชุดคลุมมิติและสร้างความเสียหายมหาศาลให้ได้โดยง่ายเช่นกัน

ฟุ่บ! ร่างของจ้าวเฟิงเพียงกะพริบก็มาปรากฏตัวอยู่เยื้องไปทางขวาของชายแขนขาด แล้วซัดฝ่ามือออกไปทันที อีกด้านหนึ่ง มังกรวารีล้างโลกาก็สำแดงการโจมตีประเภททำลายล้าง

‘แรงกดดันแข็งแกร่งนัก!’ ชายแขนขาดมีสีหน้าเคร่งเครียด

จ้าวเฟิงคือนายของชุดคลุมมิติ ที่นี่ชายแขนขาดโดนสะกดด้านมิติอย่างหนักหน่วง เสวียนอ้าวมิติก็ยิ่งไม่ต้องพูดถึงแล้ว

ครืน ฟู่ ฟู่! ชายแขนขาดเพียงแค่กระตุ้นกายวิญญาณแล้วทำการป้องกันเท่านั้น

“ที่ที่โครงสร้างของชุดคลุมมิติตั้งอยู่ น่าจะเป็นกระดานหินสีเทาที่อยู่เบื้องล่างนี่!”

สายตาของชายแขนขาดดุจคบเพลิง มองไปยังด้านล่าง แค่เพียงสร้างความเสียหายให้กับโครงสร้างของชุดคลุมมิติ เขาก็จะออกไปจากมิติแห่งนี้ได้โดยง่าย

“อย่าได้ดิ้นรนทำอะไรที่ไร้ประโยชน์เลยที่จริงแล้วข้างนอกข้าก็สามารถสังหารเจ้าได้ ตอนนี้เข้ามาในมิติชุดคลุม เจ้ายิ่งไม่มีพลังต้านทาน…”

ตาซ้ายของจ้าวเฟิงจ้องชายแขนขาด พลังเจตจำนงดวงตาที่แข็งแกร่งพร้อมด้วยเสวียนอ้าวมิติสูงส่งกระจายออกมา

“มิติพันธนาการ!”

เสวียนอ้าวมิติเลือนรางสอดประสานสมจริง แผ่มายังร่างของชายแขนขาดทันใด

“นี่มัน…วิชาดวงตา…มิติเวลา!” ชายแขนขาดตื่นตะลึง แม้กระทั่งความเร็วในการพูดก็ช้าลง

เสวียนอ้าวมิติคือเสวียนอ้าวสูงส่ง ยากที่จะบรรลุได้เป็นอย่างยิ่ง

เทพแท้จริงทั่วไปล้วนบรรลุเสวียนอ้าวมิติเล็กน้อยเพื่อความสะดวก ส่วนเสวียนอ้าวเวลาโดยพื้นฐานแล้วจะไม่สนใจเลย แต่ขณะนี้ จ้าวเฟิงกลับสำแดงวิชาดวงตามิติเวลาออกมา อีกทั้งวิชาดวงตานี้ยังล้ำลึกเป็นที่สุด พันธนาการชายแขนขาดที่เป็นเทพโบราณไว้แน่นหนา

“โจมตีเร็ว!” จ้าวเฟิงตะโกนทันใด

“ลมหายใจมังกรล้างโลกา!”

มังกรวารีล้างโลกากระตุ้นพลังสายเลือด พ่นอาทิตย์ทำลายล้างสีดำออกมาดวงหนึ่ง หุ้มล้อมชายแขนขาดไว้ข้างใน

“พันธนาการคำสาปมรณะ!”

จ้าวหวางที่อยู่เบื้องล่างก็หยิบเไม้เท้าคำสาปมรณะออกมา ก่อนสำแดงวิชาต้องห้าม ไม้เท้าคำสาปมรณะก็เหมือนกับชุดคลุมมิติ ข้างในจดบันทึกชุดเคล็ดวิชาลับและกลยุทธ์บางอย่างเอาไว้

ขอบเขตพลังของจ้าวหวางต่ำ หลักๆ คืออาศัยพลังของไม้เท้าคำสาปมรณะสร้างความบาดเจ็บให้กับชายแขนขาด

จ้าวเฟิงก็ไม่หยุดมือ ใช้พลังตาซ้ายปลดปล่อยวิชาดวงตาวิญญาณสามกระบวนท่าออกมาในชั่วพริบตา

“บัดซบ…ข้าจะทำลาย…ชุดคลุมมิติ…ของเจ้า!”

ใบหน้าของชายแขนขาดค่อยๆ ฉายแววสิ้นหวัง

“เขาจะระเบิดตัวเอง!” จ้าวเฟิงมองความคิดของชายแขนขาดออกในชั่วพริบตา

แต่ตอนนี้ตัวเขาตกอยู่ในวิชาดวงตามิติเวลา แม้แต่เวลาที่ใช้ระเบิดก็ยังยืดยาวออกไปเยอะ

“เพลิงดวงตาอัสนีเทวะ!”

จ้าวเฟิงโคจรตาซ้ายทันที รวมตราอัสนีเทวะให้มากยิ่งขึ้น

ครืน ฉึก!

เพลิงดวงตาอัสนีเทวะบิดเบี้ยวระเบิดบนชั้นวิญญาณของชายแขนขาดไม่หยุดหย่อน ทำให้การเคลื่อนไหวช้าลงอีกครั้ง

มังกรวารีล้างโลกาและจ้าวหวางทำตามคำสั่งของจ้าวเฟิง โจมตีต่อไป

“เนตรเพ่ง…เทพเจ้า!”

ตอนที่จ้าวเฟิงพบว่าชายแขนขาดจะระเบิดตัวเอง วิญญาณของเขาก็ดึงวิชาดวงตามาใช้ทันที

ภายใต้สภาพของ ‘มิติพันธนาการ’ ความคิดต้านทานของชายแขนขาดช้าลงไปมาก อ่อนแอลงไปไม่น้อย ไม่นานนักก็เห็นวิญญาณสีทองของชายแขนขาดค่อยๆ หลุดออกมาจากร่าง

การควบคุมร่างกายของวิญญาณอ่อนกำลังลงเรื่อยๆ คิดอยากจะระเบิดตัวเองก็ยิ่งไม่มีทางเป็นไปได้แล้ว

ครืน บึ้ม! อาศัยจังหวะนี้ มังกรวารีล้างโลกาและจ้าวหวางโจมตีร่างชายแขนขาดอย่างบ้าคลั่ง สร้างบาดแผลใหญ่ให้กับเขา

“ผลของมิติพันธนการใกล้จะสลายไปแล้ว!”

จ้าวเฟิงสัมผัสได้ถึงความคิดต้านทานของชายแขนขาดที่กำลังแกร่งขึ้นอย่างรวดเร็ว สุดท้ายก็ต้านทานเนตรเพ่งเทพเจ้าได้อย่างสมบูรณ์

“เช่นนั้นก็ไสหัวกลับเข้าไปในร่างของเจ้าเถอะ!”

จ้าวเฟิงอดหัวเราะขึ้นไม่ได้ หยุดใช้เนตรเพ่งเทพเจ้า

ชายแขนขาดคนนี้ไม่รู้ว่ามีชีวิตอยู่มากี่ปีแล้ว พลังวิญญาณแข็งแกร่งมากนัก คิดอยากจะดูดวิญญาณก็ค่อนข้างจะยาก

นอกจากนั้น ร่างของเขาก็ถูกมังกรวารีล้างโลกาและจ้าวหวางทำลายไปประมาณหนึ่งแล้ว ต่อให้ชายแขนขาดกลับเข้ามาในร่างของตัวเอง ก็ยากที่ใช้พลังระเบิดตัวเองที่รุนแรงขนาดนั้น

“บัดซบ เผ่าเปลวทองไม่ละเว้นพวกเจ้าแน่!”

ชายแขนขาดตวาดด้วยความโกรธแค้น

ตอนนี้ร่างของเขาแหลกเละไม่เป็นร่างคน

จ้าวเฟิงและคนอื่นๆ สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน เลือดสีทองในร่างเขากำลังไหลเวียนอย่างรวดเร็ว พยายามฟื้นฟูอาการบาดเจ็บ

“ตอนนี้ต่อให้เจ้าระเบิดตัวเองก็ไม่อาจสร้างภัยคุกคามให้กับข้าได้!”

นัยน์ตาที่เย็นชาของจ้าวเฟิงมองลงมายังชายแขนขาด พร้อมด้วยรอยยิ้มเย้าหยอก

“เจ้าจะเอาอย่างไร?” ในใจของชายแขนขาดเกิดความรู้สึกไร้เรี่ยวแรง

บาดแผลของเขาสาหัสเกินไป ต่อให้อาศัยสายเลือดและเคล็ดวิชาลับ ก็ไม่อาจฟื้นฟูภายในระยะเวลาอันสั้น แต่ว่าจ้าวเฟิงไม่ได้ลงมือในตอนนี้ พิสูจน์ว่าเขายังมีโอกาสรอดชีวิตต่อไป

“มาเป็นข้ารับใช้ของข้า!” คำพูดของจ้าวเฟิงเด็ดขาด ไม่ยอมให้ต่อรอง

“ฮ่าๆ เจ้าช่างละเมอเพ้อพก…” ชายแขนขาดเงยหน้าหัวเราะลั่น

เผ่าพันธุ์วิญญาณและเผ่าเปลวทองคือขั้วอำนาจที่เป็นปฏิปักษ์ต่อกัน หากเขาศิโรราบต่อจ้าวเฟิงก็เท่ากับเข้าเผ่าพันธุ์วิญญาณ ก่อนอื่นเผ่าพันธุ์วิญญาณไม่มีทางไว้ใจเขา ต่อมาเผ่าเปลวทองจะต้องกำจัดเขาที่เป็นตัวอัปยศแน่นอน

ทว่าประโยคนี้ของชายแขนขาดยังพูดไม่ทันจบ

ฟุ่บ! จ้าวเฟิงไหววูบมาข้างกายเขาทันที ตาซ้ายโคจรขึ้น จากนั้นจ้าวเฟิงและชายแขนขาดก็หายไปจากที่นี่

เสี้ยวขณะต่อมา ทั้งสองคนก็มายังมิติอีกแห่งหนึ่ง

ที่นี่เป็นเทือกเขาเพลิงที่ทอดตัวเป็นแนวยาว รอบด้านภูเขาไฟและส่วนยอดมีตำหนักใหญ่โตโอ่อ่าตั้งอยู่

“ที่นี่คือที่ไหน เจ้าพาข้ามาที่นี่ทำไม?” ชายแขนขาดตวาดขึ้นทันที

ในความทรงจำของเขาไม่มีที่แห่งนี้อยู่ เป็นเพราะไม่คุ้นเคยจึงเกิดความหวาดกลัว

ในตอนนี้เอง พลังกดดันอันร้อนระอุสะท้านฟ้าแผ่ขยายมา

“นายท่านผู้ปกครอง!”

ผู้อาวุโสสูงสุดเผ่าพันธุ์กิเลนเพลิงโลหิตปรากฏขึ้นข้างกายชายแขนขาด จากนั้นก็มองจ้าวเฟิงอย่างนอบน้อม

“นี่มัน…เจ้าคือนายท่าน…ผู้ปกครอง?”

ชายแขนขาดมองไปยังผู้อาวุโสสูงสุดเผ่าพันธุ์กิเลนเพลิงโลหิต ตื่นตะลึงในพลังของอีกฝ่าย จากนั้นมองจ้าวเฟิงอย่างตกใจ

ทำไมผู้แข็งแกร่งที่น่าหวั่นเกรงคนหนึ่งจึงเรียกจ้าวเฟิงว่านายท่านผู้ปกครอง?

นายท่านผู้ปกครอง? ชายแขนขาดพลันนึกอะไรขึ้นได้ สีหน้าเปลี่ยนไปทันที จากนั้นก็จ้องเขม็งไปยังตาซ้ายของจ้าวเฟิง ท่าทางตะลึงพรึงเพริด

“อย่าให้เขาตาย ที่เหลือแล้วแต่เจ้า!”

จ้าวเฟิงพูดไปตามอารมณ์

“ขอรับ!” ผู้อาวุโสสูงสุดเผยรอยยิ้มเหี้ยมเกรียม

เสี้ยวขณะต่อมา พลังที่ผนึกผืนฟ้าโอบล้อมชายแขนขาดเอาไว้ ทำให้สายเลือดและพลังเทพของเขาแข็งตัว ความคิดหยุดนิ่ง ไม่อาจขัดขืนได้

“ของที่ข้าสั่งเล่า?” จ้าวเฟิงพูดขึ้นหลังจากนั้น

“อยู่ที่นี่!” ผู้อาวุโสสูงสุดหยิบเอาขวดสีแดงเล็กๆ ขวดหนึ่งออกมา

ขวับ! จ้าวเฟิงรับมา ก่อนออกไปจากห้วงฝันบรรพกาล

……

ดินแดนเทพรกร้าง ที่ซึ่งจ้าวเฟิงและชายแขนขาดเคยต่อสู้กัน เปลวเพลิงสีดำและทองยังคงลุกไหม้ รัศมีอำนาจสะเทือนฟ้า กลิ่นอายที่ลุกไหม้น่าหวาดกลัว ทำให้สิ่งมีชีวิตละแวกนั้นไม่กล้าเข้าใกล้

ฟุ่บ! ร่างของมังกรวารีล้างโลกาพลันปรากฏขึ้น

“นายท่านพูดไม่ผิดเลย มีคนจริงๆ ด้วย!”

มังกรวารีล้างโลกาไปจากที่นี่อย่างรวดเร็ว

ในตอนที่สู้กับชายแขนขาดก่อนหน้านี้ ตาซ้ายของจ้าวเฟิงพบสมาชิกเผ่าเปลวทองคนอื่น ระดับพลังฝึกตนของพวกเขาไม่สูง น่าจะเป็นลิ่วล้อของชายแขนขาด

เพื่อไม่ให้พลังและไพ่ตายบางส่วนเผยแพร่ออกไป จ้าวเฟิงจึงย้ายการต่อสู้ไปยังมิติของชุดคลุม

พื้นที่ด้านนอกที่ห่างจากเปลวเพลิงผืนนี้ไปไกลลิบ มีเงาคนสี่คนซ่อนอยู่

“ชายเกล็ดดำคนนั้นเป็นใครกัน?”

“ไม่ใช่จ้าวเฟิง และก็ไม่ใช่เทพโบราณเผ่าเรา!”

……

หลังไปไกลจากที่นี่อย่างสมบูรณ์แล้ว จ้าวเฟิงจึงออกจากชุดคลุมมิติ

เมื่อคลุมผ้าคลุมสีขาวเสร็จ เขาก็ออกเดินทางต่อ

“เผ่าพันธุ์วิญญาณเกิดเรื่องอะไร?”

จ้าวเฟิงพูดพึมพำ

เมื่อมาถึงอาณาเขตเผ่าพันธุ์วิญญาณ ในยามที่ผ่านขั้วอำนาจทั้งหลาย เขาพบว่าบรรยากาศของขั้วอำนาจเหล่านี้ตึงเครียดยิ่งนัก

หลังจากนั้นหนึ่งเดือนกว่า จ้าวเฟิงกลับมายังเผ่าพันธุ์วิญญาณอย่างราบรื่น

“จ้าวเฟิงกลับมาแล้ว!”

การปรากฏกายของจ้าวเฟิงสร้างความฮือฮาขึ้นในพื้นที่ของศิษย์รับใช้ ศิษย์นอกเผ่า และศิษย์ในเผ่า

“จ้าวเฟิง จากนี้อย่าได้จากไปโดยพลการ เจ้าในตอนนี้คืออัจฉริยะที่ทุกคนในเขตเทพสวรรค์จับจ้อง อาจจะเจอกับการลอบสังหารของขั้วอำนาจทั้งหลาย!”

บนท้องฟ้า เทพโบราณเผ่าพันธุ์วิญญาณทั้งหลายรีบพูดกำชับ

พวกเขาก็ได้ยินข่าวว่าจ้าวเฟิงเผยตัวในแดนศักดิ์สิทธิ์ชีวิต ถึงได้รู้ว่าเขาจากไปแล้ว

“จ้าวเฟิง หลังจากนี้หนึ่งเดือน เผ่าพันธุ์วิญญาณจะแจกจ่าย ‘วารีศักดิ์สิทธิ์ชำระวิญญาณ’ เจ้าเพิ่งทะลวงขั้น วารีศักดิ์สิทธิ์นี้มีประโยชน์กับเจ้าอย่างมหาศาล ถึงตอนนั้นอย่าได้พลาดเสียเล่า….”

เทพโบราณฝูหลิงพูดเนิบช้า

“ทราบแล้ว!” จ้าวเฟิงตอบรับไปส่งๆ จากนั้นกลับไปยังที่อาศัยของตน

“ท่าทางเขาไม่ได้รับคำเชิญของแดนศักดิ์สิทธิ์ชีวิต!”

ผู้อาวุโสเทพโบราณทั้งหลายมองตากันไปมา นิ่งเงียบไปขณะหนึ่ง

ตอนที่พวกเขารู้ว่าจ้าวเฟิงปรากฏตัวขึ้นในแดนศักดิ์สิทธิ์ชีวิต สิ่งที่พวกเขาคิดเป็นสิ่งแรกก็คือ จ้าวเฟิงทิ้งเผ่าพันธุ์วิญญาณ เลือกแดนศักดิ์สิทธิ์ แต่ผลกลับเกินความคาดหมายของพวกเขา

……

หลังจากกลับมายังที่พักอาศัยของตน จ้าวเฟิงเตรียมติดต่อจ้าวหยูเฟยทันที แต่กลับพบว่าตำหนักของนางมีค่ายกลสกัดกั้นอยู่ เห็นได้ชัดว่าจ้าวหยูเฟยกำลังปิดด่าน

ขวับ! จ้าวเฟิงหยิบขวดสีแดงออกมา

“เลือดของเผ่าพันธุ์กิเลนเพลิงโลหิต ไม่รู้ว่าสรรพคุณจะเป็นเช่นไร!”

จ้าวเฟิงเปิดจุกขวดอย่างอดใจรอไม่ไหว เทของเหลวสีแดงออกมาจำนวนหนึ่งแล้วทาไปยังท่อนแขน จากนั้นจ้าวเฟิงก็เข้าสู่สภาวะฝึกฝน กระตุ้นสายเลือดเพลิงมารโลหิตโบราณ ดูดซับและหลอมรวมของเหลวสีแดงนี้

ครืน! ชั่วพริบตา เพลิงอาทิตย์สีโลหิตบนร่างเขาเพิ่มพุ่งพรวดไม่ใช่เพียงแค่สองเท่า

เปลวเพลิงสีโลหิตบิดเบี้ยวไม่ขาดสาย ราวกับกำลังต่อสู้โรมรัน อีกนานหลังจากนั้น ของเหลวสีโลหิตบนท่อนแขนของจ้าวเฟิงก็หายไปหมด เขาจึงลืมตาขึ้น

“เพียงเล็กน้อยเท่านั้น สายเลือดเพลิงมารโลหิตโบราณของข้าพัฒนาขึ้นอย่างน้อยสิบกว่าอันดับ!”

สายเลือดบรรพกาลที่สามารถผสานกับสายเลือดของจ้าวเฟิงได้มีไม่มากนัก เผ่าพันธุ์กิเลนเพลิงโลหิตนี้ก็เป็นหนึ่งในนั้น

“ใช่แล้ว อีกสิบกว่าวันก็จะมีการแจกจ่าย ‘วารีศักดิ์สิทธิ์ชำระวิญญาณ’!”

จ้าวเฟิงพลันนึกอะไรขึ้นได้ แต่ตอนนี้เขายังไม่รู้ว่าวารีศักดิ์สิทธิ์ชำระวิญญาณคือสิ่งใด