บทที่ 1518 ปลิดชีพทูตสวรรค์
อีกฟากหนึ่ง ชายชุดขาวที่สู้กับมู่กู่สังเกตเห็นสถานการณ์ในสนามรบที่เหลือ สีหน้าก็ตกตะลึง
ในบรรดาทูตสวรรค์ เป่ยหมิงฮุยก็ถือได้ว่าเป็นคนค่อนข้างแข็งแกร่ง คิดไม่ถึงว่าตอนนี้จะบาดเจ็บสาหัส และในบรรดาเจ้าตำหนักทั้งสาม มีคนตายไปแล้วถึงสองคน สตรีดำทะมึนที่เหลืออยู่ก็ตกอยู่ในสถานการณ์เสี่ยงอันตราย
“เป่ยหมิงฮุยเป็นอะไรไป?” ชายชุดขาวร้องถามด้วยความตระหนก
เป่ยหมิงฮุยเงียบงันทันที ไม่รู้จะพูดอย่างไรดี
ตามหลักเหตุผลแล้ว ขอแค่ตอนนี้พวกเขายื้อจ้าวเฟิงเอาไว้ รอให้พวกผู้คุมกฎรีบเดินทางมา ทุกอย่างก็จบลงแล้ว แต่เมื่อเห็นจ้าวเฟิงที่เคยอ่อนแอพัฒนามาจนถึงขั้นนี้ ครอบครองพลังบริสุทธิ์ที่เหมือนกันกับเขา เป่ยหมิงฮุยก็หลงลืมเป้าหมายเดิม ต้องการจะเอาชนะจ้าวเฟิงให้ได้เพื่อพิสูจน์ตนเอง
ผลสุดท้ายกลับเป็นตัวเขาที่พ่ายแพ้ไป สามารถพูดได้ว่า สถานการณ์ในตอนนี้เกิดขึ้นด้วยน้ำมือของเขา แต่สำหรับเป่ยหมิงฮุย เรื่องทั้งหมดนี้ล้วนเป็นเพราะจ้าวเฟิง
“พลังบริสุทธิ์สังเวยเทพ!” เป่ยหมิงฮุยตะโกนกร้าว เผาผลาญพลังเทพและสายเลือด
โครม! เขาผลักฝ่ามือสองข้างออกมาอย่างรุนแรง ส่งพลังบริสุทธิ์ที่ยิ่งใหญ่ออกมาหลายสาย พลังบริสุทธิ์จำนวนมากรวมตัวกันอยู่ด้านล่างของจ้าวเฟิง ก่อเป็นระลอกน้ำวนพลังบริสุทธิ์ สาดแรงดึงดูดที่แก่กล้าออกมา ดูดรับพลังทั้งหมดในฟ้าดินเอาไว้
เหนือระลอกน้ำวนพลังบริสุทธิ์ จ้าวเฟิงรู้สึกถึงแรงฉุดดึงที่ทรงพลัง ยากเกินจะสลัดทิ้งได้
น้ำวนที่เกิดขึ้นจากพลังบริสุทธิ์ดูดซึมพลังทั้งหมดและขยายใหญ่ไม่หยุด ทั้งยังพุ่งขึ้นไปในอากาศ เหมือนจะฝังจ้าวเฟิงเอาไว้ในน้ำวนนั้น
วู้ม! จ้าวเฟิงกระตุ้นเศษเสี้ยวอาวุธบรรพชนสามชิ้นทันที ปลดปล่อยระลอกแสงมิติกลุ่มหนึ่งไปยังด้านล่าง
พลังมิติที่แข็งแกร่งพุ่งปะทะบนพลังบริสุทธิ์ ส่งผลขัดขวางอย่างมากและมีผลกระทบอื่นๆ ต่อพลังนั้น พลานุภาพของน้ำวนพลังบริสุทธิ์อ่อนลงช้าๆ ความเร็วของการหมุนวนก็เชื่องช้าลงไปหลายส่วน
ในเวลาเดียวกัน จ้าวเฟิงกำกระบี่อัสนีเทวะจากพลังบริสุทธิ์ ฟันคมกระบี่ที่รุนแรงอย่างที่สุดมาหลายสาย
โครม ตูม~ ทันใดนั้นเอง ทั้งน้ำวนพลังบริสุทธิ์ระเบิดออก
เมื่อเห็นภาพเหตุการณ์นี้ เป่ยหมิงฮุยถอยร่นไประยะหนึ่งอีกครั้ง
ตอนนี้เขาบาดเจ็บสาหัส สำแดงเคล็ดวิชาสายเลือดที่แก่กล้าที่สุดออกมา ก็ยังทำอะไรจ้าวเฟิงไม่ได้ หากจ้าวเฟิงได้โอกาส ตัวเขาเองก็อาจต้องตาย
อีกฟากหนึ่ง เจ้าตำหนักทั้งสามเหลือเพียงแค่สตรีมืดดำเพียงคนเดียว ซินอู๋เหินและร่างแยกของจ้าวเฟิงร่วมมือกัน ฝ่ายตรงข้ามจึงไม่มีกระทั่งโอกาสจะหนีเอาชีวิตรอดด้วยซ้ำ
ไม่นานเท่าไหร่นัก สตรีมืดดำก็ถูกพวกเขาร่วมมือสังหารลง
ตอนนี้ เจ้าตำหนักทั้งสามต่างก็ตายตกกันทั้งหมด!
“สังหาร!” จ้าวเฟิงมองไปยังทูตสวรรค์ชุดขาวที่สู้รบกับมู่กู่อยู่
ขอแค่จัดการทูตสวรรค์ผู้มีสายเลือดเผ่าแสงคนนี้ได้ ทุกคนก็จะสามารถจากไปได้อย่างปลอดภัย
“ไม่…เป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร?”
ชายชุดขาวที่กำลังสู้กับมู่กู่สัมผัสได้ว่ากลิ่นอายหลายกลุ่มเข้ามาใกล้อย่างรวดเร็ว หน้าจึงเปลี่ยนสีทันควัน
“คุกกาลเวลา!” มู่กู่ปลดปล่อยพลังออกมาทันที
สำหรับคนเผ่าความลับสวรรค์ที่ผสานสายเลือดเผ่าแสงเข้าไป เขาทนไม่ได้ที่จะฉีกฝ่ายตรงข้ามเป็นชิ้นๆ ให้สาสมกับความผิดที่ทำ
วู้ม! ระลอกแสงสีขาวพลันปรากฏขึ้นรอบตัวชายชุดขาว แล้วค่อยๆ ยืดขยายกลายเป็นคุกสีขาวแห่งหนึ่ง หากคนทั่วไปติดอยู่ในคุกแห่งนี้ จะต้องเชื่องช้าลงไม่ต่างจากเต่าแน่นอน แต่ชายหนุ่มชุดขาวเองก็เป็นเผ่าแสง ครอบครองกฎเกณฑ์แห่งแสงกับพลังเวลา จึงมีแรงต้านต่อเคล็ดวิชานี้แกร่งมาก
โครม ตูม! ฝ่ามือสองข้างของเขาส่งพลังเวลาออกมาติดต่อกัน จนสุดท้ายระเบิดทำลายคุกกาลเวลาลงไปได้
แต่ตอนนี้เอง จ้าวเฟิงกับพวกซินอู๋เหินตามมาสมทบแล้ว
“ฝ่ามือห้าธาตุทลาย!” ซินอู๋เหินยื่นฝ่ามือออกมา รวบรวมพลังห้าธาตุ ฟาดฝ่ามือแสงน้ำวนห้าสีขนาดยักษ์ทิ้งดิ่งลงมาจากกลางอากาศ
จ้าวเฟิงเหวี่ยงแขน ส่งกระบี่อัสนีเทวะพลังบริสุทธิ์ในมือออกไป
ร่างแยกหลายร่างของเขารีบโคจรสายเลือดดวงตาอย่างพร้อมเพรียงกัน ทำการบุกโจมตีชายชุดขาว
โครม ตูม บึ้ม!
เพิ่งจะทำลายคุกกาลเวลาได้ ชายชุดขาวก็ถูกการโจมตีหลากประเภทของคนจำนวนมากกลบจนมิด แต่ยังไม่รุนแรงมากพอจะทำร้ายชายชุดขาว อย่างไรเสียเขาก็เป็นถึงเผ่าแสง ครอบครองร่างเวลา จึงสามารถต่อต้านพลังประเภทใดๆ ก็ตามได้ดีเยี่ยม
เปรี๊ยะ! ชายชุดขาวพุ่งออกมาพายุการโจมตีที่น่ากลัวนั้น
“เป่ยหมิงฮุย เจ้าทำอะไรอยู่? หากทำภารกิจครั้งนี้ไม่สำเร็จ เจ้าได้คิดถึงผลที่จะตามมาหรือไม่? ” ชายชุดขาวตะโกนบอกทันใด
ในความคิดเขา เรื่องกลายมาเป็นแบบนี้เป็นความรับผิดชอบของเป่ยหมิงฮุยทั้งสิ้น
“ผลที่จะตามมา!” ร่างเป่ยหมิงฮุยสั่นเทิ้มทันที
แผนการของเจ้าสวรรค์ดำเนินมาถึงขั้นสุดท้ายแล้ว เขาจับตาดูเรื่องนี้อยู่ และอยากจะครอบครองเนตรเทพเจ้าดวงที่เก้าจนทนไม่ไหว หากเรื่องนี้ล้มเหลวลงเพราะเขา ผลที่ตามมาน่ากลัวยิ่งกว่าความตายเสียอีก
เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ เป่ยหมิงฮุยสูดลมหายใจเข้าลึก และมองไปที่พวกจ้าวเฟิงจะต้องขวางพวกเขาเอาไว้ รอให้ผู้คุมกฎรีบเดินทางมา
“สหายซิน วานเจ้าช่วยขวางเป่ยหมิงฮุยเอาไว้ให้ชั่วคราวด้วย!” จ้าวเฟิงเอ่ยเสียงต่ำ
เป่ยหมิงฮุยบาดเจ็บสาหัสแล้ว กำลังรบเสียหายหนัก ซินอู๋เหินและร่างแยกทั้งสามของจ้าวเฟิงร่วมมือกันขัดขวางเขาคงไม่ใช่เรื่องยากอะไร
“ผู้อาวุโสมู่กู่ ลงมือเลย!” จ้าวเฟิงตะโกนบอกโดยพลัน
ชายชุดขาวจากเผ่าแสงค่อนข้างปราดเปรียวว่องไว หากไม่ทำให้บาดเจ็บสาหัสหรือสังหารเสีย ก็ยากจะสลัดความยุ่งยากออกไปได้
“ดาบแห่งกาลเวลา!” มู่กู่ส่งสองฝ่ามือไปไม่หยุด ดาบแสงขาวพุ่งออกมาอย่างต่อเนื่อง ดุจสายธารสีขาวไร้พรมแดนสายหนึ่ง
ฟุ่บ! จ้าวเฟิงจับกระบี่อัสนีเทวะ พุ่งตรงไปต่อสู้ในระยะประชิด
“สังหาร!” ชายชุดขาวตะโกนเสียงต่ำ กวัดแกว่งแขนสองข้าง ปลดปล่อยคมดาบเวลาขนาดใหญ่สองสายออกมา
ทุกแห่งที่คมดาบนั้นผ่านจะเงียบสงัด อากาศแทบแข็งค้าง
เห็นภาพเหตุการณ์เช่นนี้ จ้าวเฟิงก็รวบรวมกระบี่อัสนีเทวะพลังบริสุทธิ์สองเล่มแล้วส่งออกไปเช่นกัน
โครม ตูม! คมดาบเวลาและกระบี่อัสนีเทวะปะทะเข้าหากันอย่างจัง พลังเวลาและพลังบริสุทธิ์พุ่งชนกันและกัน ทำให้ผืนอากาศในจุดที่ระเบิดเกิดบิดเบี้ยวขึ้นมา
‘พลังบริสุทธิ์ทรงพลังยิ่งนัก มิน่าเป่ยหมิงฮุยถึงพ่ายแพ้ได้!’
ชายชุดขาวตื่นตกใจ
เมื่อครู่ตนทุ่มแรงทั้งหมดโจมตีแล้ว แต่การประมือนี้เขากลับเป็นฝ่ายเสียเปรียบด้านหน้า พายุพลังบริสุทธิ์อันน่าสะพรึงกลัวหมุนวนตรงมาหาเขา
วูบ วูบ! ชายชุดขาวโบกมือติดต่อกัน สำแดงพลังเวลาชั้นหนึ่ง ระเบิดกลุ่มพายุนั้นแตกกระจายไป แต่ตอนนี้ ใจกลางของพายุพลังบริสุทธิ์ปรากฏแสงอัสนีที่แปลกประหลาดสะดุดตาขึ้น
เปรี๊ยะ~
เมื่อแสงอัสนีปรากฏ กระบี่สายฟ้าพลังบริสุทธิ์เล่มหนึ่งพุ่งไปหาชายชุดขาว
“รวดเร็วเหลือเกิน!” สีหน้าชายชุดขาวเปลี่ยนแปลงไปทันที
การโจมตีจากวิชาดวงตาของจ้าวเฟิงรวดเร็วจนเกินไป เขายังไม่ทันสัมผัสได้สิ่งผิดปกติ การโจมตีวิชาดวงตาก็มาถึงแล้ว
ชายชุดขาวกระตุ้นพลังเวลา ส่งผลกระทบต่อการโจมตีของจ้าวเฟิง ในเวลาเดียวกันตนเองก็ดิ้นรนหนีสุดแรง
จ้าวเฟิงมองภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างเงียบๆ จากที่ไกลๆ
กระบี่อัสนีของเขาก่อนนี้ พูดได้ว่าพุ่งตรงเข้าเป้าทุกครั้ง แต่เมื่อเผชิญหน้ากับเผ่าแสงผู้ครอบครองพลังเวลาก็จะต่างออกไป
พลังเวลาของเผ่าแสงสามารถตัดทอนการโจมตีจากศัตรูให้เชื่องช้าลง และยังสามารถเพิ่มความเร็วของตนเองได้ที่บอกว่าเป็นเผ่าพันธุ์ที่เร็วที่สุดของหมื่นเผ่าพันธุ์โบราณไม่ได้ได้มาเปล่าๆ
แต่เนตรเทพเจ้าดวงที่เก้าของจ้าวเฟิงมีดีแค่ชื่อเท่านั้น
“เพิ่มความเร็ว…โดน…” จ้าวเฟิงกระตุ้นพลังดั้งเดิม พลังความคิดโคจรจนเกิดเป็นความปรารถนาที่แรงกล้า
ดวงตาซ้ายของเขาจดจ้องไปที่กระบี่อัสนีพลังบริสุทธิ์ ในตอนนี้เขาคาดหวังเพียงว่ากระบี่อัสนีจะโจมตีโดนชายชุดขาว
พลังแปรฝันให้เป็นจริงระเบิดออกในทันที!
จากการเปลี่ยนแปลงของเนตรเทพเจ้าและพลังฝึกตนที่เพิ่มขึ้น พลังความคิดของจ้าวเฟิงแข็งแกร่งขึ้นไม่หยุด พลังการแปรฝันให้เป็นจริงจึงทรงพลังมากกว่าเดิม
เปรี๊ยะ! การโจมตีที่เดิมไม่มีทางโดนชายชุดขาวกลับเปลี่ยนเส้นทางการโจมตีไปทันที หนำซ้ำยังรวดเร็วมากขึ้นด้วย
“อะไรกัน?” ท่าทางชายชุดขาวเปลี่ยนไป ไม่อยากเชื่อสิ่งที่เห็น
ปกติแล้วการโจมตีที่รวดเร็วและหมายมั่นจะเอาชีวิตในกระบวนท่าเดียว จะเปลี่ยนแปลงเส้นทางได้ยากนัก แต่ตอนนี้เขากลับเจอภาพเหตุการณ์ที่ประหลาดเหลือเกินเช่นนี้
กระบี่อัสนีเทวะพลังบริสุทธิ์ไม่เพียงแต่เปลี่ยนแปลงเส้นโคจรได้ หนำซ้ำยังหักเหไปมาก ความเร็วก็เพิ่มขึ้นตามไปด้วย ขัดต่อหลักตรรกะใดๆ
ฉัวะ โครม! กระบี่อัสนีพลังบริสุทธิ์พุ่งทะลุผ่านทรวงอกของชายชุดขาว ถึงจะเป็นกายเวลา เมื่อต้องเจอการกัดกร่อนจากพลังอัสนีเทวะบริสุทธิ์ก็ยังรู้สึกทรมาน
ในเวลาเดียวกัน ดาบกาลเวลาของมู่กู่ระเบิดออก ฟันฉับไปบนร่างโปร่งใสราวแสงของชายชุดขาว
“โซ่ตรวนพลังบริสุทธิ์!” จ้าวเฟิงผลักฝ่ามือทั้งสองข้าง ส่งพลังบริสุทธิ์จำนวนมากออกมา
พลังบริสุทธิ์กลุ่มนี้กลายร่างเป็นกระแสแสงบริสุทธิ์นับไม่ถ้วน หมุนวนรอบๆ ร่างชายชุดขาวจนเป็นวงล้อมอันหนึ่ง
“ไม่…” ชายชุดขาวหายบาดเจ็บจากการโจมตีของจ้าวเฟิงและมู่กู่ แต่กลับพบว่าตนเองตกที่นั่งลำบากแล้ว
“เล็งเป้าหมาย!” จ้าวเฟิงประสานฝ่ามือเข้าหากัน กระแสพลังบริสุทธิ์นั้นก็หดเล็กลงทันที กลายเป็นกลุ่มแสงสีมืดล้อมเอาชายชุดขาวไว้ภายใน
ฟิ้ว ฟิ้ว!
ชายชุดขาวหลับตาลงเล็กน้อย แสงสว่างเปล่งออกจากร่างกาย พลังเวลาที่ทรงอานุภาพกลุ่มแล้วกลุ่มเล่าทะลักออกมา
“จ้าวเฟิง มันจะหนีออกมาแล้ว!” มู่กู่ร้องเตือน
กายเวลาของเผ่าแสงพิเศษอย่างยิ่ง หลังจากกระตุ้นเคล็ดวิชาสายเลือดแล้ว ก็สามารถทะลุผ่านสิ่งของต่างๆ ได้ โซ่ตรวนพลังบริสุทธิ์ย่อมไม่สามารถพันธนาการเอาไว้ แน่นอน เป็นเพราะการกลืนกินของพลังบริสุทธิ์ไม่ได้ส่งผลแน่ชัดต่อพลังเวลา มิฉะนั้นโอกาสเอาตัวรอดของชายชุดขาวก็จะลดลงไปมาก
“ทำไม่ได้หรอก!” ดวงตาจ้าวเฟิงจ้องเขม็ง กระตุ้นพลังดั้งเดิมออกมา
จ้าวเฟิงสร้างห้วงฝันแห่งหนึ่งขึ้นในหัวเขา
“สู่ห้วงความฝัน!” ดวงตาซ้ายจดจ้องที่ชายชุดขาว เกิดเป็นแรงฉุดดึงที่ทรงพลังอย่างยิ่ง
ฉับพลันนั้น ชายชุดขาวที่กำลังสำแดงเคล็ดวิชา จิตสำนึกไม่สามารถรวมเป็นจุดเดียวได้ ถูกดวงตาซ้ายของจ้าวเฟิงดึงเอาไว้
ในเวลาเดียวกัน โซ่ตรวนพลังบริสุทธิ์ปลดปล่อยพลังกลืนกิน สูบเอาพลังในร่างชายชุดขาวไม่หยุดหย่อน
อีกฟาก มู่กู่ก็ฉวยโอกาสบุกเข้าไปโจมตี
การโจมตีเวลาที่เขาใช้สามารถทะลวงผ่านโซ่ตรวนพลังบริสุทธิ์ ระเบิดบนร่างชายชุดขาว ถึงแม้ว่าพลานุภาพจะอ่อนแอลงตามไปด้วย แต่ก็ดีกว่าไม่มีอะไรเลย
ร่างชายชุดขาวสั่นเทิ้มติดต่อกัน
ฟากหนึ่ง จิตสำนึกของเขาถูกสู่ห้วงความฝันของจ้าวเฟิงดึงดูดเอาไว้ อีกฟากพลังในร่างก็ถูกโซ่ตรวนพลังบริสุทธิ์กัดกร่อนไปช้าๆ ในเวลาเดียวกันเขายังต้องเผชิญหน้ากับการโจมตีจากมู่กู่ด้วย
ชายชุดขาวอ่อนแอลงช้าๆ จากการโจมตีทั้งสามทาง
ในวินาทีหนึ่ง จิตสำนึกของเขาฟุ้งซ่าน ถูกจ้าวเฟิงดูดเข้าไปในมิติห้วงฝัน ขอแค่เข้าไปในมิติห้วงฝัน ต่อให้เป็นราชาเทพจ้าวเฟิงก็สังหารได้ทั้งนั้น
โครม ตูม! ชายชุดขาวที่ถูกขังเอาไว้ในโซ่ตรวนพลังบริสุทธิ์ ร่างกายแหลกละเอียดอย่างไม่มีปี่ไม่ขลุ่ย กระทั่งดวงวิญญาณก็ยังแหลกสลายลงไปด้วย
“ไม่ ทูตสวรรค์ฉาง…” เป่ยหมิงฮุยร้องอุทานจากที่ไกลๆ
เขาคาดคิดไม่ถึงเลยว่าทูตสวรค์ฉางที่มีสายเลือดเผ่าแสงจะถูกจ้าวเฟิงปลิดชีพ
“ไป!” จ้าวเฟิงตะโกนเสียงต่ำ
เมื่อไม่มีการตรึงกำลังจากเผ่าแสง เป่ยหมิงฮุยที่บาดเจ็บสาหัสก็ไม่อาจขัดขวางพวกเขาได้
เปรี๊ยะ~ ซินอู๋เหินและร่างแยกของจ้าวเฟิงถอยหลังเตรียมหนี
แต่ในเวลานั้นเอง ฟ้าดินก็แข็งค้างไปในทันที!
แรงกดดันอย่างหนักกลุ่มหนึ่งระเบิดออกมา
วินาทีต่อมา ทั้งมิติก็ย้อมไปด้วยสีแดงฉาน และยังเกิดเพลิงลุกโชนขึ้น ฟ้าดินกำลังเผาไหม้ อากาศในนั้นก็กำลังลุกไหม้ด้วย ทุกสิ่งที่เห็นในครรลองสายเหมือนกำลังมอดไหม้
ทุกคนที่อยู่ที่นั่นประหนึ่งกำลังจะถูกเผาไหม้ไปด้วยเช่นกัน
“ความรู้สึกแบบนี้…ราชาเทพ!” สีหน้าจ้าวเฟิงค้างแข็ง
กว่าจะจัดการความยุ่งยากตรงหน้าลงได้ก็ยากเย็นแสนสาหัส ตอนที่กำลังจะหนีไปได้ กลับมีราชาเทพมาถึง จะใช่กำลังเสริมของพวกฝืนชะตาฟ้าหรือไม่?
“ไม่ใช่ผู้คุมกฎ!”
เป่ยหมิงฮุยที่อยู่ไกลออกไปก็สัมผัสได้ถึงความร้อนระอุจากพลังกลุ่มนี้ด้วยเช่นกัน
“พวกเจ้ารีบร้อนจะไปไหน?” เสียงเจือหัวเราะดังมา
ในวินาทีต่อมา ผู้อาวุโสคนหนึ่งก็ปรากฏกายขึ้นเบื้องหน้าทุกคน ร่างของเขาอยู่ในแสงเพลิงอันร้อนระอุ กวาดตามองทุกคนด้วยรอยยิ้มละมุน