Skip to content

King of Gods 252

King Of Gods

บทที่ 252 : มูลค่าของแมวขโมยตัวน้อย

เมี้ยว เมี้ยว

บางทีอาจเป็นเพราะมันได้กลิ่นของเงินตรา แมวขโมยตัวน้อยจึงได้กระโจนออกจากกำไลมิติและมองออกไปรอบๆ ด้วยดวงตากลมโต

“เป็นแมวที่น่ารักอันใดเช่นนี้!”

“ฮะฮะ มิคิดว่าแมวตัวเล็กๆ เช่นนี้จะดูฉลาดเฉลียวนัก”

การปรากฏตัวขึ้นของแมวขโมยตัวน้อยได้ดึงดูดความสนใจของสตรีบนเรือหลายคนในทันที

เมี้ยว เมี้ยว

แมวขโมยตัวน้อยกอดอก ท่าทีเย่อหยิ่ง กลั่นแกล้งหยอกล้อดรุณีเหล่านั้นอยู่พักหนึ่ง ทำให้พวกนางยิ้มไม่หยุด

หัวใจของจ้าวเฟิงบีบรัดแน่น แอบก่นด่าสัตว์เลี้ยงตัวจ้อยอยู่ในใจ เจ้าจะออกมาเล่นอันใดตอนนี้ อย่างแย่ข้าอาจจะต้องจ่ายผลึกเริ่มต้นเพิ่ม

แต่โชคดี

แมวขโมยตัวน้อยนั้นมีขนาดเพียงหนึ่งฝ่ามือ เป็นเพียงสัตว์เลี้ยงขนาดเล็กชนิดหนึ่ง จึงไม่ถูกเก็บผลึกเริ่มต้นเพิ่ม

บุคคลในชุดทองปรากฏความสนใจในตัวของจ้าวเฟิงและแมวขโมยตัวน้อยขึ้นพอประมาณ ทว่าไม่ได้เอ่ยสิ่งใดเพิ่ม

เสียงตะโกนดังขึ้น

หลังจากที่เรือข้ามนภาบรรทุกคนทั้ง 49 คนแล้ว ลูกเรือทั้งสี่ก็ได้กางใบเรือ สายลมรอบด้านได้ผลักดันให้เรือแล่นออกจากท่าเรือ

คลื่นพายุรุนแรงของสายธารกราดเกรี้ยวนั้นน่ากลัวยิ่งนัก แม้ว่าจะเป็นผู้ที่อยู่ในนภาที่เจ็ดแห่งขอบเขตก่อกำเนิดปราณ หากตกลงไปก็มิอาจทนอยู่ได้นาน ต้องจมลงสู่ก้นแม่น้ำ สังเวยชีวิตให้กับมัน

ท่ามกลางพายุนั้น การที่เรือข้ามนภาจะสามารถแล่นไปได้อย่างรวดเร็วนับว่ายากนัก

“ความกว้างของสายธารกราดเกรี้ยวนั้นเกือบจะมากถึงร้อยลี้ นี่คือบริเวณที่ค่อนข้างแคบ ด้วยความเร็วเท่านี้ ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 4-5 วัน มิเช่นนั้นเกรงว่าจะไม่มีวิธีเข้าไปยังฝั่งได้”

จ้าวเฟิงคาดคำนวณ

เวลา 4-5 วันนั้น หากใช้เวลาในช่วงนี้ฝึกฝน มันย่อมผ่านไปอย่างรวดเร็ว

ทว่าปัญหานั้นคือกระแสคลื่นที่รุนแรงของสายธารกราดเกรี้ยว เรือข้ามนภามักจะสั่นรุนแรงจากกระแสคลื่นเหล่านั้น จะอย่างไรคลื่นที่สาดซัดเข้าหาเรือก็หนักนับล้านจิน

ไม่เพียงเท่านั้น

เมื่อพายุได้สร้างคลื่นยักษขึ้นบ่อยครั้ง เรือข้ามนภาจึงมักจะโคลงเคลงรุนแรง มีโอกาสที่จะพลิกคว่ำ

ในสถานการณ์เช่นนี้ ไม่ต้องเอ่ยถึงการฝึกตนเลย เพียงแค่การได้หลับสักงีบก็นับว่ายอดเยี่ยมแล้ว

เมื่อเรือข้ามนภาโคลงเคลง เหล่ามนุษย์ที่อยู่บนเรือต่างก็เผชิญกับความยากลำบาก ต้องโคจรพลังปราณแท้ในร่างเพื่อที่จะยืนได้อย่างมั่นคง

ผู้ที่แสดงอาการได้สุขุมเยือกเย็นที่สุดในยามนี้ย่อมเป็นบุคคลชุดทองผู้อยู่ในขอบเขตจิตวิญญาณที่แท้จริง

เขานั่งนิ่งอยู่บนเรือราวกับตะปูที่ตอกลงเนื้อไม้ ไม่ว่าสายลม สายฝน และพายุจะสาดซัดเพียงใดก็ยังคงไร้ซึ่งอารมณ์ใด

จากนั้นจึงเป็นผู้ที่อยู่ในขั้นครึ่งก้าวสู่ขอบเขตจิตวิญญาณที่แท้จริงที่มีทีท่าผ่อนคลายเช่นกัน

ความแข็งแกร่งของผู้ที่อยู่ในขั้นครึ่งก้าวสู่ขอบเขตจิตวิญญาณที่แท้จริงเหล่านี้มากมายนัก ทั่วทั้งร่างปรากฏปราณกึ่งจิตวิญญาณแท้ครอบคลุม เมื่อเทียบกับผู้ที่อยู่ในขั้นครึ่งก้าวสู่ขอบเขตจิตวิญญาณที่แท้จริงที่จ้าวเฟิงพบในสิบสามแคว้นแล้วนับว่าแข็งแกร่งกว่ามากนัก

โชคดีที่เรือข้ามนภานั้นไม่ได้โคลงเคลงตลอดเวลา ในบางครั้งผืนน้ำก็เงียบสงบ

เมื่อเรือข้ามนภาเริ่มมั่นคง เหล่ายอดฝีมือบนเรือมักจะพูดคุยกันหรือกระทั่งทำธุรกิจเล็กๆ น้อยๆ

“น้องชายผู้นี้ ‘นางแอ่นมรกต’ ของเจ้านี่ขายหรือไม่ ข้าจะจ่ายผลึกเริ่มต้นระดับต่ำสองพันผลึกให้เป็นการแลกเปลี่ยน”

ชายร่างอ้วนวัยกลางคนในชุดสีเทามาถึงยังข้างกายของจ้าวเฟิงอย่างเงียบงันก่อนจะเอ่ยขึ้นอย่างราบเรียบ

ผลึกเริ่มต้นระดับต่ำสองพันผลึก?

จ้าวเฟิงแสดงสีหน้าประหลาดใจเล็กน้อย หากที่แห่งนี้คืออาณาเขตของสิบสามสำนัก มันก็เทียบเท่าได้กับผลึกเริ่มต้นจำลองสองหมื่นผลึก ซึ่งมิใช่จำนวนน้อยๆ

ทว่า เด็กหนุ่มส่ายศีรษะ “ข้าไม่ขาย”

ในสถานการณ์เช่นนี้ เขายังต้องการนางแอ่นมรกตในการเดินทาง นอกจากนั้นเขามิคิดว่านางแอ่นมรกตตัวนี้จะมีค่าเพียงเท่านี้

บนเรือ นอกจากเสือดาวสีปีกของชายในชุดสีทองผู้นั้นแล้วก็ไม่มีผู้ใดมีสัตว์วิเศษชนิดนกที่เหนือกว่าจ้าวเฟิงอีก บางคนนั้นกระทั่งไม่มีนกเป็นสัตว์พาหนะเสียด้วยซ้ำ

“เช่นนั้นเอาอย่างนี้เป็นเช่นไร ข้าจะให้ผลึกเริ่มต้นระดับต่ำสามพันผลักที่เทียบเท่าได้กับผลึกเริ่มต้นจำลองสามหมื่นผลึก ซึ่งนับว่าเยอะมากแล้ว”

ชายวัยกลางคนชุดเทาขบฟันแน่นก่อนจะเอ่ยเสียงเบา

จ้าวเฟิงส่ายศีรษะ

“3,500”

“4,000”

“5,000 นี่เป็นราคาสุดท้ายที่ข้าจะให้เจ้าได้”

ไม่ว่าชายวัยกลางคนชุดเทาจะเอ่ยอย่างไร จ้าวเฟิงก็ส่ายศีรษะ

คนที่อยู่ใกล้เคียงหลายคนมองด้วยสีหน้ารังเกียจหรือไม่ก็ดูถูก

คนฉลาดเห็นได้ว่าชายวัยกลางคนชุดเทานั้นต้องการที่จะหลอกเด็กบ้านนอกจากนอกอาณาเขตอาณาจักรนภาผู้นั้น

ทว่าสิ่งที่คาดไม่ถึงนั้นคือเด็กหนุ่มผู้นี้กลับไม่ดูคล้ายจะหวั่นไหวไปกับเงินจำนวนมหาศาลนั้น

บริเวณนอกอาณาจักรนภานั้นมักจะขาดแคลนทรัพยากร ไอสวรรค์เบาบาง ปริมาณของผลึกเริ่มต้นเองก็น้อยนิด

โดยปกติแล้ว ผู้ที่มาจากนอกเขตอาณาจักรนภามักจะหวั่นไหวโดยง่ายกับผลึกเริ่มต้นหลายพันหลายหมื่นผลึก ทว่าเด็กหนุ่มผู้นี้กลับไม่เป็นเช่นนั้น

ชายวัยกลางคนร่างอ้วนเอ่ยเสนอราคาไปถึงแปดพันผลึกเริ่มต้น ทว่าจ้าวเฟิงยังคงไม่หวั่นไหวเช่นเดิม

“ ‘นางแอ่นมรกต’ ของข้านี้มีค่าถึงเพียงนั้นเชียวหรือ?”

จ้าวเฟิงรู้สึกประหลาดใจและคาดไม่ถึงเล็กๆ

ในอาณาจักรนภา ไอสวรรค์นั้นหนาแน่น ปริมาณของผลึกเริ่มต้นก็มหาศาล ราคาของสิ่งที่อยู่ที่นี่จึงเพิ่มสูงขึ้นไปตามๆ กัน

ทว่าเมื่อสิ่งนั้นหายาก มันย่อมมีค่ามากขึ้น

อาณาจักรนภานั้นแต่เดิมเป็นแดนแห่งผู้ฝึกตนที่ถูกพัฒนาขึ้น สัตว์ปีศาจในผืนป่าใกล้เคียงได้ถูกฆ่าล้างไปจำนวนมาก ปักษาวิเศษที่มีถิ่นฐานที่สิบสามแคว้นจึงค่อนข้างหายาก

หากคนทั่วไปต้องการที่จะครอบครองนกเป็นพาหนะสักตัวก็มีเพียงแต่ไปยังเขตอันตราย

ราคาสูงล้ำ ในขณะที่ สิ่งนั้นมีปริมาณน้อยนัก

มันคือสองเหตุผลที่ทำให้สัตว์ขี่ประเภทนกในอาณาจักรนภานั้นหายากและล้ำค่าเป็นพิเศษ

“หึ ผลึกเริ่มต้นระดับต่ำแปดพันผลึก เจ้าจะขายหรือไม่ขาย”

สายตาของชายวัยกลางคนชุดเทาทะมึนขึ้น สีหน้าหดหู่

กลิ่นอายของเขาอยู่ในนภาที่เจ็ดแห่งขอบเขตก่อกำเนิดปราณ เมื่อเทียบกับผู้ที่อยู่ในสิบสามแคว้นนับว่าแข็งแกร่งกว่ามากนัก

จ้าวเฟิงคาดเดาความแข็งแกร่งของอีกฝ่ายว่าสามารถเทียบเคียงได้กับสวีจึเสวียนและอ้าวเยว่เทียน ทั้งยังมีประสบการณ์ที่มากกว่า

เด็กหนุ่มเพียงเตรียมจะเอ่ยปฏิเสธก็ได้ปรากฏเสียงเสียงหนึ่งดังขึ้นจากใกล้ๆ “เฮ้? ฮุยเหมาอิง เจ้าจะบังคับเขาให้ขายหรืออย่างไร?”

เด็กหนุ่มผมเงินเดินเข้ามาอย่างเชื่องช้า

เด็กหนุ่มผู้นี้จ้าวเฟิงเคยเห็นมาก่อน ก่อนหน้าที่จะขึ้นมาบนเรือ คนผู้นี้ได้ใช้ ‘หมัดเหมันต์นภา’ ในการบีบบังคับให้ผู้ที่อยู่ในนภาที่เจ็ดหนึ่งคนและนภาที่หกสองคนล่าถอย แข็งแกร่งยิ่งนัก

หากไม่ใช้พลังสายเลือด เมื่อเผชิญหน้ากับคนผู้นี้ จ้าวเฟิงย่อมไม่มีโอกาสชนะมากนัก

“ฉีจิ่ว เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเจ้า”

ผู้ที่ถูกเรียกว่าฮุยเหมาอิงสีหน้าน่ากลัว มองไปยังเด็กหนุ่มผมเงินอย่างตักเตือน

“หากค้าขายอย่างสุจริต ผู้ใดให้ราคาสูงกว่าก็ย่อมได้ของไป หรือว่าสกุลฉีของข้าไร้ซึ่งคุณสมบัติในการซื้อขาย?”

ฉีจิ่วเค้นเสียงเย็น

ด้วยพลังในนภาที่เจ็ดแห่งขอบเขตก่อกำเนิดปราณ พลังของฉีจิ่วอาจเทียบเคียงได้กับชางหยูเว่ ทำให้คนที่อยู่ใกล้เคียงต่างก็ค่อยๆ หลบหลีกออกไป

ชายวัยกลางคนชุดเทาชะงักงัน เขาไม่อาจขัดขวางมิให้อีกฝ่ายจ่ายในราคาที่สูงกว่าได้

ทั้งพลังและพรสวรรค์ของอีกฝ่ายล้วนเหนือกว่าเขามากนัก

“ข้าจะให้ผลึกเริ่มต้นระดับต่ำหนึ่งหมื่นผลึกสำหรับนางแอ่นมรกตของเจ้า”

เสียงของฉีจิ่วบางเบา ทว่าปรากฏความทรงพลังประการหนึ่งที่ทำให้ผู้รับฟังยากที่จะปฏิเสธ

ผลึกเริ่มต้นระดับต่ำหนึ่งหมื่นผลึกนั้นแทบจะเท่ากับผลึกเริ่มต้นในมือของจ้าวฟิงทั้งหมดรวมกันแล้ว

“ข้าให้ 11,000 ผลึก”

ชายวัยกลางคนชุดเทาไม่ยอมแพ้

“ท่านทั้งสอง ข้าบอกแล้วว่านกนางแอ่นมรกตตัวนี้ไม่ขาย”

สีหน้าของจ้าวเฟิงยังคงเรียบนิ่ง ส่ายศีรษะโดยไม่เอ่ยสิ่งใด

เมื่อเห็นเช่นนั้น ผู้คนต่างก็รู้สึกคาดไม่ถึง

เด็กหนุ่มผู้นี้มาจากนอกเขตอาณาจักรนภา ทว่าสามารถเมินเฉยต่อผลึกเริ่มต้นจำนวนมหาศาลได้อย่างง่ายดาย

“ได้ยินมาว่าผู้ฝึกตนที่นอกอาณาจักรนั้นยากจนนัก หรือว่ามันมิใช่ความจริง?”

“เป็นไปได้หรือไม่ว่าเด็กหนุ่มผู้นี้จะเป็นนายน้อยของสำนักใดสำนักหนึ่ง หรืออาจจะเป็นลูกหลานของอาณาจักรสักแห่ง?”

ผู้ที่อยู่ใกล้ๆ ต่างมองหน้ากัน

ฉีจิ่วและฮุยเหมาอิงสบตากันครั้งหนึ่งก่อนที่จะเมินหน้าหนีออกจากกันอย่างรวดเร็ว

ฉีจิ่วไม่มีท่าทีใดๆ ในขณะที่ดวงตาของฮุยเหมาอิงปรากฏประกายเย็นเยียบ

ในยามนี้ บนเรือข้ามนภา ไม่มีผู้ใดกล้าสร้างปัญหาขึ้น แม้ว่าพวกเขาจะเป็นศัตรูกันก็จะไปตกลงกันหลังจากขึ้นไปบนฝั่ง

สีหน้าของจ้าวเฟิงยังคงเรียบเฉยเช่นก่อนหน้า แมวขโมยตัวน้อยบนไหล่อ้าปากหาวออกมาครั้งหนึ่ง

ทันใดนั้น

ความวุ่นวายครั้งนี้เพียงเพิ่งจะสิ้นสุดลง อีกฝั่งหนึ่งก็เรือก็ได้ปรากฏคนกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามา

“แมวของเจ้าตัวนี้ค่อนข้างน่ารักเสียจริง เจ้าขายให้ข้าได้หรือไม่?”

เด็กสาวชุดสีฟ้าผู้หนึ่งเดินตรงมา ในดวงตาเจิดจ้าคู่นั้นส่องประกายเจ้าเล่ห์เย็นเยียบ อายุราวๆ 14-15 ปี ผิวสีขาวอมชมพูราวหยกน้ำงาม ชายเสื้อประดับลายรากบัวสีขาวสะอาด

เด็กสาวชุดสีฟ้านั้นอายุน้อยกว่าจ้าวเฟิง ทว่าพลังฝึกตนนั้นได้เข้าสู่ขั้นสุดยอดของนภาที่หกแล้ว

ข้างกายนั้นเป็นเด็กหนุ่มอารมณ์ร้อนชุดดำผู้หนึ่ง อายุราวๆ เดียวกับจ้าวเฟิง

เด็กสาวและเด็กหนุ่มทั้งสองที่เดินเคียงข้างกันมานั้นเยาว์วัยนัก ทว่าพลังฝึกตนกลับมากถึงขั้นนี้

สองคนเบื้องหลังเองก็อยู่ในขั้นครึ่งก้าวสู่ขอบเขตจิตวิญญาณที่แท้จริง ชายชราในชุดผ้าฝ้ายสั่นศีรษะออกมาอย่างช่วยไม่ได้

“ไม่ขาย”

จ้าวเฟิงเอ่ยสองคำออกมาอย่างเย็นชา

เด็กหนุ่มรู้สึกสับสนอยู่บ้าง เหตุใดพวกคนอาณาจักรนภาเหล่านี้จึงได้ต้องการค้าขายกับคนนอกอาณาจักรเช่นเขานัก?

หรือเป็นเพราะคนนอกนั้นง่ายที่จะหลอกและกลั่นแกล้ง?

“เจ้าเด็กผมเขียว เราคือคนจากตระกูลหลิวผู้ดูแลเขตหลินหลาน หากเจ้าสนใจก็จงเอ่ยราคาที่ต้องการมาแล้วขายมันให้กับเรา”

เด็กหนุ่มชุดดำเอ่ยขึ้นอย่างเย็นชา ตัดสินอีกฝ่ายจากรูปลักษณ์ภายนอก

“ตระกูลหลิวผู้ดูแลเขตหลินหลาน?”

“ตระกูลหลิวนี่ หรือว่าเกี่ยวข้องกับหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ของอาณาจักร?”

ผู้คนบนเรือชะงักงันไปเล็กๆ

“ตระกูลหลิว? สามคนนี้มาจากตระกูลหลิวที่เป็นเป้าหมายที่ข้าตามหา นี่เป็นเรื่องบังเอิญหรืออย่างไร?”

จ้าวเฟิงคิดอยู่ในใจ

เด็กหนุ่มรักษาสีหน้า ก่อนจะลองเอ่ยขึ้น “เจ้าบอกให้ข้าเอ่ยราคาเช่นที่ต้องการ?”

“ใช่”

เด็กหนุ่มอารมณ์ร้อนโอ้อวด

เด็กสาวชุดฟ้ามองไปยังแมวขโมยตัวน้อย มือขาวอมชมพูกำแน่น “แมวนี่ฉลาดนัก มีสัตว์วิเศษที่ฉลาดเช่นนี้ วันนี้ข้าจะต้องซื้อมันให้ได้”

“อืมม เอาเช่นนี้แล้วกัน… ข้าจะให้ส่วนลดพวกเจ้ากึ่งหนึ่ง”

จ้าวเฟิงเอ่ยอย่างสบายอารมณ์

เมี้ยว เมี้ยว

แมวขโมยตัวน้อยกวัดแกว่งอุ้งมือของมัน แสดงท่าทีประท้วง ความฉลาดนี้ได้ทำให้เด็กสาวชุดฟ้าชื่นชอบมันยิ่งขึ้นไปอีก

“ไม่ว่าจะเท่าใดก็เอ่ยมา”

เด็กหนุ่มชุดดำค่อนข้างพึงพอใจ เด็กผมเขียวผู้นี้ย่อมเคยได้ยินถึงชื่อเสียงของตระกูลหลิวมาก่อน การให้ส่วนลดกึ่งหนึ่งนั้นนับว่าเป็นสิ่งที่ดี

“ผลึกเริ่มต้นหนึ่งพันล้านผลึก”

จ้าวเฟิงเอ่ยราคาออกมาอย่างช้าๆ

ราคานั้นได้ทำให้ร่างของคนหนาวเยือกขึ้นในทันใด

“พันล้าน เด็กหนุ่มผู้นี้นับว่าพูดจาใหญ่โตเสียจริง”

“แม้ว่าจะใช้ทรัพย์สมบัติทั้งหมดของตระกูลหลิวก็ไม่อาจจ่ายผลึกเริ่มต้นจำนวนมากเช่นนั้นได้”

ผู้คนที่อยู่ที่นั่นหลังจากรู้สึกประหลาดใจก็แสดงสีหน้าชื่นชมออกมา

เด็กหนุ่มชุดดำและเด็กสาวชุดฟ้าชะงักไปชั่วครู่

“เจ้า…”

เด็กหนุ่มชุดดำใบหน้าเดี๋ยวขาวซีดเดี๋ยวม่วงคล้ำ ร่างกายสั่นสะท้านอย่างรุนแรง

เขาคิดว่าแมวขนาดเท่าฝ่ามือตัวหนึ่งจะมีราคาค่างวดสักเท่าใด อย่างมากก็คงมากกว่าหนึ่งแสนผลึกเริ่มต้นไปไม่เท่าใด

ผู้ใดเล่าจะคาดคิดว่าจ้าวเฟิงจะพูดจาใหญ่โตเช่นนั้น

เด็กหนุ่มตระกูลจ้าวไม่รอให้อีกฝ่ายตั้งตัวได้ เขาแย้มยิ้มก่อนจะเอ่ย “สิ่งที่ข้าเอ่ยหมายถึงผลึกเริ่มต้นระดับสุดยอด”

ผลึกเริ่มต้นระดับสุดยอด

ไม่เพียงแค่เด็กหนุ่มชุดดำ แต่คนอื่นๆ บนเรือเองก็นิ่งอึ้ง

บุคคลในชุดทองผู้อยู่ในขอบเขตจิตวิญญาณที่แท้จริงสั่นศีรษะพร้อมด้วยรอยยิ้มอย่างช่วยไม่ได้“ผลึกเริ่มต้นระดับสุดยอดนั้นหายไปจนหมดสิ้นแล้ว กระทั่งผลึกเริ่มต้นระดับสูงยังไม่เห็นแม้แต่เงา แม้จะเป็นเพียงผลึกเริ่มต้นระดับกลางยังหายากยิ่งนัก”

ยอดฝีมือที่อยู่ในขอบเขตจิตวิญญาณที่แท้จริงต่างก็พูดขึ้นเช่นกัน

ชัดเจนว่าจ้าวเฟิงนั้นไม่ต้องการที่จะขาย เขาจึงได้เอ่ยเริ่มต้นที่ ‘ราคาสูงเทียมฟ้า’

“ไอ้เด็กหัวเขียวนี่กล้าล้อเล่นกับพวกเรา คอยดูเถอะ…”

เด็กหนุ่มชุดดำร่างสั่นสะท้านอย่างหนัก เขาหมุนตัวเดินจากไป

เขาไม่คิดว่าไอ้เด็กบ้านนอกที่มาจากนอกเขตอาณาจักรจะไม่ไว้หน้าตัวเขา อีกสองคนเองก็ต้องระงับอารมณ์ของตนเช่นกัน

เมี้ยว เมี้ยว

ใบหน้าของแมวขโมยตัวน้อยเต็มไปด้วยความยินดีขณะที่มองไปยังจ้าวเฟิงอย่างพึงพอใจ ก่อนที่จะมองไปยังเด็กหนุ่มชุดดำด้วยสายตาเหยียดหยามครั้งหนึ่ง

“แมวนี่ ข้าชอบมันยิ่งนัก…”

เด็กสาวชุดฟ้ากัดริมฝีปากสีแดงของนาง ดวงตาใสกระจ่างปรากฏความฉลาดเฉลียว มองไปยังชายชราในชุดผ้าฝ้ายผู้อยู่ในขั้นครึ่งก้าวสู่ขอบเขตจิตวิญญาณที่แท้จริงเบื้องหลังด้วยสายตาที่ราวกับขอความช่วยเหลือ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!