Skip to content

King of Gods 709

King Of Gods

บทที่ 709 ช่วงชิงตำแหน่งจักรพรรดิโจรสลัด

“มาช้าไป!”

เรือเภามรณะสีทองหยุดชะงักอยู่ในละแวกใกล้เคียงน้ำวนขนาดยักษ์ ยากที่จะเข้าใกล้ได้อีก

ราชาอินหยาง เวินลั่วอัน รวมไปถึงบรรดาองครักษ์แห่งความตายทั้งหลาย ต่างพากันจ้องมองใจกลางคลื่นที่มีความสูงหนึ่งพันจั้งด้วยความรู้สึกไร้สิ้นเรี่ยวแรง

น้ำวนลูกใหญ่เชื่อมโยงกับพลังฟ้าดินที่ยิ่งใหญ่ของทั้งดินแดนศักดิ์สิทธิ์โจรสลัดอย่างแนบแน่นจนไม่มีผู้ใดต้านทานได้

“พวกเราพลาดโอกาสแล้ว จ้าวเฟิงนั่นกลายเป็นหนึ่งในราชาโจรสลัด แล้วยังเข้าไปดินแดนศักดิ์สิทธิ์จักพรรดิโจรสลัดแล้ว” ราชาอินหยางสืบหาข้อมูลมาได้อย่างรวดเร็ว

เหล่าองครักษ์แห่งความตายที่อยู่บนเรือเภามรณะจับโจรสลัดแห่งทะเลความว่างเปล่าที่หลงเหลือแถวนั้นเอาไว้

จากการซักถาม ราชาอินหยางและเวินลั่วอันจึงได้รับข้อมูลของมรดกดินแดนศักดิ์สิทธิ์จักพรรดิโจรสลัดมาไม่น้อย

จนถึงวันนี้ยังไม่มียอดฝีมือจากภายนอกคนไหนสามารถฝืนบุกเข้าไปภายในมรดกจักรพรรดิโจรสลัดมาก่อน

ต่อให้เป็นจักรพรรดิชั้นยอดอย่างระดับของจักรพรรดิแห่งความตาย ก็ไม่อาจบุกทะลวงเข้าไปในมรดกดินแดนศักดิ์สิทธิ์จักพรรดิโจรสลัดได้

“เมื่อเทียบกับอุทยานครึ่งเซียนแล้ว มรดกจักรพรรดิโจรสลัดถือว่าเป็นเพียงมรดกเล็กๆ เท่านั้น จ้าวเฟิงผู้นั้นเองก็ไม่ใช่โจรสลัดอย่างแท้จริง จึงยากที่จะมีโอกาสได้รับมรดกที่แท้จริงมา”

เวินลั่วอันยิ้มอย่างอบอุ่น เขามั่นใจอย่างมาก

ระยะครึ่งปีมานี้ เวินลั่วอันได้ฝึกตนฟื้นฟูกลับมานานแล้ว เมื่อผ่านการฝึกปรือและผลประโยชน์จากอุทยานครึ่งเซียน ความสามารถของเขาในตอนนี้จึงเหนือกว่าเดิมไปอีกขั้นหนึ่ง แต่เดิมอยู่ในขอบเขตแก่นก่อกำเนิดระดับสูง เขาจึงเข้าใกล้ขั้นครึ่งก้าวสู่ราชันไปอีกก้าวหนึ่ง

“เวลาของมรดกจักรพรรดิโจรสลัดปกติแล้วจะไม่เกินครึ่งปี พวกเราอยู่ที่นี่รอให้จ้าวเฟิงนั่นออกมา และในเวลาเดียวกันก็รวบรวมเหล่าราชาจิตวิญญาณมรณะและองครักษ์แห่งความตายคนอื่นๆ ไปด้วย”

ราชาอินหยางเอ่ยเสียงต่ำ

กองกำลังของราชาอินหยางกำลังใช้ตราคำสั่งมรณะติดต่อกับยอดฝีมือคนอื่นผู้เป็นบริวารของจักรพรรดิแห่งความตาย

อีกฟากของน้ำวนลูกใหญ่

เรือทะเลในตำนานสิบสองลำมุ่งหน้าเดินทางไปได้ระยะหนึ่งโดยแรงผลักดันของเกลียวคลื่น

ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ เบื้องหน้าจึงปรากฏเกาะขนาดเล็กแห่งหนึ่ง ซึ่งมีลำแสงสว่างสีเขียวคล้ำหมุนวนรอบๆ อยู่ชั้นหนึ่ง ช่างดูเรียบง่ายและลี้ลับ

ในระหว่างทาง จ้าวเฟิงยืนอยู่บนหอสังเกตการณ์แล้วสำรวจมิติที่ไม่คุ้นเคยนี้

ทะเลกว้างใหญ่ที่ขยายยาวออกไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุดปรากฏขึ้นในครรลองสายตา และไม่ใช่เขตดินแดนของทะเลความว่างเปล่าอีกต่อไป

คลื่นลูกยักษ์กำลังผลักเรือทะเลจำนวนมากตรงดิ่งไปยังพื้นดินแห่งเดียวตรงกลาง เกาะเล็กใจกลาง

 

“ที่นี่เป็นมิติลี้ลับแห่งหนึ่ง เมื่อเทียบกับอุทยานครึ่งเซียนเกรงว่าระดับขั้นยังสูงกว่า”

เด็กน้อยครึ่งเซียนพูดพึมพำ

จ้าวเฟิงได้ยินเช่นนั้นก็อดตกใจไม่ได้

ดินแดนศักดิ์สิทธิ์จักพรรดิโจรสลัด เมื่อฟังดูแล้วเป็นเพียงมรดกของจักรพรรดิชั้นยอดคนหนึ่ง ที่แท้กลับกลายเป็นเขตมิติลึกลับระดับสูงขนาดนี้

“ใกล้จะถึงดินแดนศักดิ์สิทธิ์จักพรรดิโจรสลัดแล้ว” เหล่าโจรสลัดที่อยู่บนเรือ แต่ละคนมีสีหน้าลิงโลดยามจ้องไปที่เกาะเล็กตรงกลาง

ถึงแม้อยู่ห่างไกลออกไป ดวงตาเทพเจ้าของจ้าวเฟิงก็มองเห็นดินแดนเกาะที่มียอดเขาอยู่สิบแปดยอด

ใจกลางของมุมยอดเขาสิบแปดยอด ยังมียอดเขาใหญ่อีกหนึ่งลูกที่อยู่เหนือกลุ่มภูเขา ให้ความรู้สึกคล้ายกับว่าเป็นจักรพรรดิที่อยู่เหนือสรรพสิ่งทั้งมวล

“เหอะ เหอะ หลังจากเข้าไปภายในดินแดนศักดิ์สิทธิ์จักพรรดิโจรสลัด ราชาโจรสลัดสิบแปดยอดก็ต้องล้างกระดานเริ่มใหม่อีกครั้ง อีกทั้งเมื่อดินแดนศักดิ์สิทธิ์เปิดออก จักรพรรดิโจรสลัดคนใหม่ก็จะถือกำเนิดขึ้นอีกครั้ง”

บุรุษวัยกลางคนผู้มีหนวดเอ่ย

แน่นอนว่าบัลลังก์ของจักรพรรดิโจรสลัดนั้น ราชาโจรสลัดธรรมดาย่อมไม่กล้าจะคิดหวัง

คนที่มีกำลังในการแข่งขันมากที่สุด มีเพียงแต่ราชาเหมันต์จันทรากับราชาฉลามยักษ์ซึ่งเป็นสองยอดโจรสลัด รวมไปถึงจ้าวเฟิง

“มิติแห่งนี้เหมือนจะตัดขาดกับโลกภายนอก” เส้นผมและดวงตาข้างซ้ายของจ้าวเฟิงล้วนแต่เปลี่ยนเป็นสีม่วง

เมื่อใช้ดวงตาเทพเจ้าสอดส่องมอง เขาจึงสัมผัสได้ถึงความไม่ปกติของมิติลี้ลับแห่งนี้

เขตเกาะตรงใจกลางเบื้องหน้าเหมือนกับว่าเป็นเพียงส่วนเล็กๆ ส่วนหนึ่งของมิติลึกลับ แต่ว่าในรัศมีพันลี้ พลังที่ไร้รูปร่างของคลื่นยักษ์สาดซัดเรือและสรรพชีวิตทั้งหมดให้เข้าใกล้พื้นที่เกาะที่อยู่ใจกลาง

ไม่นานนัก เรือโจรสลัดสิบแปดลำก็มาถึงชายฝั่ง

“รีบลงไป!”

“คว้าโอกาสเอาไว้!”

เหล่าโจรสลัดพากันยื้อแย่งขึ้นไปบนเกาะ

เกาะใจกลางแห่งนั้นคงสภาพโบราณเอาไว้ วัสดุทรัพยากรบนเกาะก็แข็งแกร่งกว่าซากปรักหักพังสือเฉิงเล็กน้อย

นอกจากนี้ ยอดเขาทั้งสิบแปดเองก็เป็นเป้าหมายของยอดฝีมือโจรสลัดจำนวนมากเช่นกัน

“จ้าวเฟิง! มุมยอดเขาสิบแปดแห่งนั่น ในแต่ละยอดล้วนแต่เป็นตัวแทนของจักรพรรดิโจรสลัด มีผลประโยชน์ที่สัมพันธ์กัน เจ้าเลือกยอดเขาที่เหมาะกับตนเองได้” บุรุษผมทองเอ่ยเตือน

สวบ สวบ!

สิ้นเสียง บุรุษเรือนผมสีทองและชายมีหนวดต่างบินมุ่งไปยังมุมยอดเขา

หลังจากที่เข้ามาในดินแดนศักดิ์สิทธิ์จักรพรรดิโจรสลัด เหล่ายอดฝีมือโจรสลัดล้วนแต่ต่อสู้เพื่ออนาคตของตนเอง

“บัลลังก์ของจักรพรรดิโจรสลัด!”

ราชาเหมันต์จันทราและราชาฉลามยักษ์สบตากันเล็กน้อย ต่างบินไปที่ยอดเขาขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ตรงกลางอย่างพร้อมเพรียง

ยอดเขายักษ์นั่นเป็นตัวแทนการแย่งชิงมรดกบัลลังก์จักรพรรดิโจรสลัด

ตุบ ตุบ! เปรี้ยง!

ยอดราชาโจรสลัดทั้งสองเพิ่งจะถึงยอดเขาก็เริ่มปะทะฝีมือกันทันที

บรรดาราชาโจรสลัดที่เหลือยินยอมพร้อมใจไม่เข้าไปร่วมวง อีกทั้งพวกเขาเองก็ต้องพยายามช่วงชิงเอาผลประโยชน์มรดกมาเป็นของตนเอง

ราชาเหมันต์จันทราและราชาฉลามยักษ์ ไม่ว่าใครก็ตาม ขอแค่สามารถช่วงชิงเอามรดกบนยอดเขาใหญ่มาได้ ก็จะกลายมาป็นจักรพรรดิโจรสลัดในอนาคตของดินแดนศักดิ์สิทธิ์โจรสลัด

ทันทีที่จักรพรรดิโจรสลัดถือกำเนิดขึ้นจะสามารถสั่งการดินแดนศักดิ์สิทธิ์โจรสลัดสิบแปดยอดได้

จ้าวเฟิงบินไปบนอากาศเหนือเขตเกาะใจกลาง แล้วมองลงมาทั่วพื้นที่เกาะ สีหน้ากลับมีความผิดหวังอยู่บ้าง

ทั้งขนาดและระดับของมรดกจักรพรรดิโจรสลัดถือว่าหาได้ยากแต่ทว่าที่นี่ยังคงแตกต่างกับอุทยานครึ่งเซียนมาก

ทรัพย์สมบัติล้ำค่าภายในดินแดนเกาะไม่อาจเปรียบเทียบกับอุทยานครึ่งเซียนได้เลย

สถานที่ที่มีผลประโยชน์ยิ่งใหญ่ มีแค่เพียงมุมเขาสิบแปดยอดกับยอดเขายักษ์ที่อยู่ตรงใจกลาง

แต่ปัญหาก็คือจ้าวเฟิงไม่ได้สนใจในมรดกโจรสลัด ที่นี่ไม่น่าจะมีมรดกที่เหมาะสมกับเขา

จักพรรดิโจรสลัดถึงจะแข็งแกร่งอีกสักแค่ไหน ก็เป็นเพียงจักรพรรดิขั้นสูงที่ไม่มีมรดกสายเลือดดวงตาผู้หนึ่งเท่านั้น

 

จ้าวเฟิงมีมรดกจักรพรรดิวายุอัสนี บวกกับพลังอัสนีเทวะ สำหรับการยกระดับมรดกวายุอัสนี มรดกของคนที่ต่ำกว่าเซียนลงไปไม่อาจดึงดูดเขาได้

กลับเป็นเด็กน้อยครึ่งเซียนที่เข้าร่วมต่อสู้แย่งชิงแหล่งทรัพยากรบนดินแดนเกาะ

ต่อให้น้อยนิดแต่ก็ถือว่าเป็นของล้ำค่า เด็กน้อยครึ่งเซียนจะฟื้นฟูพลัง จึงต้องการทรัพยากรอย่างยิ่ง

แต่จ้าวเฟิงกลับจำกัดทรัพยากรของเขาไปเสียมาก

“ไม่ต้องลงมือสังหารจริงจัง” จ้าวเฟิงเอ่ยกำชับ

เขาไม่อยากให้ความสมดุลบนเกาะถูกทำลาย ซึ่งจะทำให้เกิดผลพวงเกินคาดเดาบนดินแดนศักดิ์สิทธิ์จักรพรรดิโจรสลัด

โครม!

ลำแสงสีดำขนาดมหึมาพุ่งขึ้นบนฟากฟ้าจากมุมยอดเขาลูกหนึ่ง

“รวดเร็วนัก!”

“ครู่เดียวก็มีคนได้รับส่วนแบ่งของมรดกจักรพรรดิโจรสลัดแล้ว”

เหล่ายอดฝีมือโจรสลัดที่อยู่เขตเกาะใจกลาคาดคิดไม่ถึงอย่างยิ่ง

จ้าวเฟิงพอจะมองออกว่าลำแสงสีดำเหนือยอดเขานั้นเป็นมรดกสายมาร

บนมุมเขา ราชาโจรสลัดผู้หนึ่งถูกปกคลุมด้วยลำแสงสีดำทั่วร่าง ร่างกายหลอมรวมเข้าไปด้านในยอดมุมเขา แล้วจึงหายวับไป

วิ้ง ~

บริเวณตีนยอดเขานั้นมีลำแสงสีดำปกคลุมอยู่ จนคนอื่นๆ ไม่สามารถจะเข้าไปภายในได้

จ้าวเฟิงเข้าใจว่าราชาโจรสลัดในตำนานคนใหม่ของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ได้ถูกกำหนดแล้ว

“นายท่าน ด้วยพลังของท่านแล้ว เพราะเหตุใดถึงไม่ไปต่อสู้กับเขาด้วย”

ครึ่งก้าวสู่ราชันผู้หนึ่งแหงนมองจ้าวเฟิงอย่างไม่เข้าใจ ยอดฝีมือโจรสลัดผู้นี้เป็นคนของราชาเหมันต์จันทรา

“ข้าไม่คิดอยากเป็นโจรสลัด และก็ไม่คิดผูกมัดกับดินแดนศักดิ์สิทธิ์โจรสลัด” จ้าวเฟิงส่ายศีรษะยิ้มน้อยๆ

พูดกันตามจริง มรดกของจักรพรรดิโจรสลัดไม่ได้ดึงดูดเขาเท่าไหร่ ทั้งยังไม่เหมาะสมกับเขาด้วย

ที่สำคัญไปกว่านั้น ทันทีที่ได้รับในมรดกอย่างหนึ่งในนั้น จ้าวเฟิงจะผสานกับตราคำสั่งราชาโจรสลัด และจะถูกผูกมัดกับแผ่นดินโจรสลัดศักดิ์สิทธิ์

เวลานี้จ้าวเฟิงถือว่าเป็นคนกลางไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด สอดส่องดูการต่อสู้ของทั่วทั้งดินแดนหมู่เกาะใจกลาง

การต่อสู้ที่ดุเดือดที่สุดก็คือการต่อสู้ของราชาฉลามยักษ์และราชาเหมันต์จันทรา

ในการต่อสู้ก่อนหน้านี้ คนทั้งสองล้วนแต่บาดเจ็บไม่น้อย การปะทะกันครั้งนี้จึงถือได้ว่าเป็นการเดิมพันระหว่างความเป็นและความตาย

“ราชาเหมันต์จันทรา เจ้าได้รับบาดเจ็บหนักกว่าข้า หากยังดื้อรั้นสู้ต่อไป เจ้าต้องแพ้อย่างไม่ต้องสงสัย”

เสียงทุ้มต่ำของราชาฉลามยักษ์เอ่ยขึ้นอย่างทรงอำนาจ

“ลองดูสิ!”

ราชาเหมันต์จันทราสีหน้าเย็นชา รวมดาบและกระบี่เข้าด้วยกัน แสงจันทร์เย็นเยียบหมุนวนรอบๆ การโจมตีรวดเร็วรุนแรง ท่าร่างราวกับสายอัสนี ยังเป็นฝ่ายที่เหนือกว่าเล็กน้อย

 

หากพูดถึงการโจมตีและความปราดเปรียว ราชาเหมันต์จันทราแข็งแกร่งที่สุดในบรรดายอดราชาทั้งสาม

แต่ว่าราชาฉลามยักษ์มีสายเลือดและร่างกายที่แข็งแกร่ง พลังแฝงลึกล้ำ ลมปราณยาวนาน ยึดเอาการป้องกันเป็นหลัก จึงสามารถคลี่คลายการโจมตีที่รุนแรงราวสายฟ้าของราชาเหมันต์จันทราอย่างสบายมือ

นอกจากนี้ ในแต่ละมุมยอดเขาก็มีเหล่ายอดฝีมือโจรสลัดต่อสู้แย่งชิงกัน

ในการต่อสู้เมื่อครั้งก่อน ฟากของพันธมิตรโจรสลัดสูญเสียราชันปราณเทวะไปไม่น้อย

ด้วยเหตุนี้ระดับราชันที่อยู่บนเขตเกาะใจกลางจึงมีเพียงสิบกว่าคน และบนดินแดนเกาะมีมุมยอดเขาถึงสิบแปดแห่ง เพียงแค่เป็นคนในขั้นราชันก็ครอบครองมุมยอดเขาได้อย่างสบายๆ

เหลือเพียงยอดเขาส่วนหนึ่งที่ครึ่งก้าวสู่ราชันหรือผู้สูงศักดิ์ระดับสุดยอดต่อสู้แย่งชิงกัน

ในเวลาเดียวกันนั้นเอง

ในแต่ละมุมของเกาะ ยังมีเหล่าโจรสลัดขั้นกลางและต่ำที่ไม่มีคุณสมบัติในการต่อสู้แย่งชิง แต่กลับสาละวนค้นหาสมบัติล้ำค่า

ทั้งเกาะผู้ที่สบายที่สุดคือจ้าวเฟิงอย่างไม่ต้องสงสัย

จ้าวเฟิงเปิดดวงตาเทพเจ้า มองทะลุทั่วทั้งดินแดนเกาะ รวมไปถึงมิติลี้ลับที่กว้างใหญ่นี้

“จ้าวเฟิง! ได้โปรดเป็นกำลังช่วยเหลือข้า ถ้าหากสามารถช่วงชิงบัลลังก์จักรพรรดิโจรสลัดมา ข้าราชาเหมันต์จันทราจะติดหนี้บุญคุณเจ้า ในภายหน้าต้องตอบแทนเป็นสิบเท่า”

 

เสียงเย็นชาดังขึ้นที่ข้างหู จ้าวเฟิงเหลือบตามอง เจ้าของเสียงนั่นก็คือราชาเหมันต์จันทรา

เงาร่างของราชาเหมันต์จันทราสูงโปร่งสมบูรณ์แบบ ล้อมรอบด้วยแสงจันทร์สีเงินยวง คิ้วโก่งดั่งพระจันทร์เสี้ยว ใบหน้างามนวลเนียน จมูกเชิดโด่ง เรียวขาคู่ยาวขาวราวรากบัวกลับมีรอยเลือดปรากฏขึ้นหลายแห่ง

กระบี่ในมือนางรวดเร็วราวสายอัสนีบาต ท่าร่างโดดเด่นไม่ด้อยไปกว่าจ้าวเฟิง

การโจมตีที่รวดเร็วรุนแรงของนางสามารถคุกคามคนในขั้นจักรพรรดิได้เลยทีเดียว

ในระยะเวลาอันสั้น ราชาเหมันต์จันทราเหมือนจะเป็นฝ่ายได้เปรียบ แต่จ้าวเฟิงพอจะมองออกว่าราชาเหมันต์จันทราสิ้นเปลืองพลังไปมาก นางหายใจถี่กระชั้น ทรวงอกที่เย้ายวนใจสะท้อนขึ้นลงไม่หยุด

บนหน้าผากของนางมีเหงื่อไหล จ้องไปที่จ้าวเฟิงอย่างอ้อนวอน เจือด้วยความบอบบางและดื้อรั้นราวกับเด็กสาวที่หาดูได้ยากยิ่ง

จ้าวเฟิงรู้ว่า คนแกร่งกล้าอย่างราชาเหมันต์จันทราขอความช่วยเหลือตนเองเช่นนี้ ถือได้ว่าเป็นเรื่องที่พบเห็นได้ยาก

ในขณะเดียวกัน นี่ก็แสดงถึงความเชื่อมั่นของนางที่มีต่อจ้าวเฟิง

จ้าวเฟิงยังไม่ได้ลงมือทำอะไรแม้แต่น้อย คนที่ไม่เข้าใจยังคิดไปเองว่าเขาคิดอยากจะช่วงชิงบัลลังก์ของจักรพรรดิโจรสลัด

ราชาฉลามยักษ์คิดเช่นนี้ ในระหว่างการต่อสู้เขายังรักษาแรงของตนเองไว้ ถึงขั้นที่เตรียมตัวพร้อมที่จะตอบโต้จ้าวเฟิง

“ราชาฉลามยักษ์ ท่านมอบบัลลังก์ราชาโจรสลัดให้ราชาเหมันต์จันทราเถอะ” จ้าวเฟิงกล่าวอย่างไม่อ้อมค้อม

“อะไรกัน!”

ราชาฉลามยักษ์ที่กำลังต่อสู้ร่างแข็งทื่อ จ้องมองไปที่จ้าวเฟิงอย่างยากที่จะเชื่อ

เดิมทีเขาเข้าใจว่าจ้าวเฟิงก็อยากได้บัลลังก์จักรพรรดิโจรสลัด ดังนั้นจึงไม่คิดจะลงมือ

คาดไม่ถึงเลยว่าอีกฝ่ายจะช่วยเหลือราชาเหมันต์จันทราให้ขึ้นนั่งบัลลังก์

หรือว่าจ้าวเฟิงผู้นี้ไม่ได้สนใจบัลลังก์จักรพรรดิโจรสลัดกับมรดกที่เป็นโอกาสอันยิ่งใหญ่แต่อย่างใด

“ถ้าเป็นเช่นนี้แล้วละก็….” ราชาฉลามยักษ์ตกใจ

ในยามก่อนที่ต่อสู้กับจักรพรรดิมู่อวิ๋น ความสามารถที่แข็งแกร่งของจ้าวเฟิงและเด็กน้อยครึ่งเซียนทำให้ราชาโจรสลัดทั้งหลายเลื่อมใส ขนาดพลังของจักรพรรดิ เด็กน้อยครึ่งเซียนผู้นั้นก็ยังกดข่มควบคุมไว้ได้

กระบวนท่าสุดท้ายของจ้าวเฟิงอย่างเนตรพิฆาตผ่านอากาศที่ทำให้จักรพรรดิได้รับบาดเจ็บสาหัส ก็ยิ่งทำให้คนตื่นตกใจจนตัวสั่น

“จ้าวเฟิง! หากเจ้าไม่ก้าวก่ายการต่อสู้แย่งชิงตำแหน่งจักรพรรดิโจรสลัด ข้าจะพยายามอย่างที่สุดเพื่อทำให้ความต้องการทั้งหมดของเจ้าเป็นจริง”

ราชาฉลามยักษ์รีบเอ่ย

ในทันที่จ้าวเฟิงและเด็กน้อยครึ่งเซียนช่วยราชาเหมันต์จันทรา เขาก็ไร้ซึ่งความหวังแล้ว

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!