บทที่ 715 พลังที่ยิ่งใหญ่ของรายชื่อหมื่นเผ่าพันธุ์
อาณาเขตลี้ลับของความลับสวรรค์ เกาะที่อยู่ใจกลาง
ที่นี่ก็คือดินแดนมรดกศักดิ์สิทธิ์ของจักรพรรดิโจรสลัด
ในตอนที่จ้าวเฟิงรีบกลับมา มุมยอดเขาสิบแปดแห่งก็ล้วนมีราชาโจรสลัดคนปรากฏขึ้นแล้ว พลังฝึกตนและความสามารถของผู้ที่เลื่อนขั้นขึ้นเป็นราชาโจรสลัดคนใหม่ส่วนหนึ่งพัฒนาขึ้นอย่างชัดเจน
ในนั้นมีราชาโจรสลัดคนใหม่ที่อยู่ขั้นครึ่งก้าวสู่ราชันสองสามคน เมื่อได้พลังของมรดกจึงทะลวงผ่านไปขั้นราชันในขอบเขตปราณเทวะอย่างรวดเร็ว
ตรงใจกลางของยอดเขาสิบแปดลูก บนยอดเขาขนาดใหญ่ปกคลุมไปด้วยแสงสว่างจ้าสีขาวดำแปลกประหลาดเกี่ยวกระหวัดกันไปมา พลังที่ยิ่งใหญ่ไร้รูปร่างนี้ปิดกั้นโลกภายนอกโดยสิ้นเชิง
“การสืบทอดของราชันเหมันต์จันทรายังไม่สิ้นสุดอีกรึ?” จ้าวเฟิงหามุมหนึ่งแล้วจึงนั่งขัดสมาธิ หรี่ตาลงสองข้าง
ตามประสบการณ์ที่ผ่านมา เวลาของมรดกจักรพรรดิโจรสลัดโดยปกติแล้วจะไม่เกินครึ่งเดือน
เขาเองก็ไม่ได้รีบร้อนอะไร จึงนั่งขัดสมาธิลงแล้วทำความคุ้นเคยกับพลังสายเลือดที่เพิ่มความแข็งแกร่งแล้ว
วิ้ง!
ทั่วร่างของจ้าวเฟิงปรากฏลายเกล็ดสีฟ้าบางๆ ชั้นหนึ่ง ประณีตละเอียด สว่างเป็นประกาย หยดเลือดลายสีฟ้าโคจรไปทั่วร่างกายไม่หยุด
หอกจักรพรรดิเหมันต์ก็หลอมรวมเข้าไปในสายเลือดรายชื่อหมื่นเผ่าพันธุ์โบราณที่เป็นของใหม่นี้
“พลังสายเลือด…หอกจักรพรรดิเหมันต์ล้วนได้รับการเปลี่ยนแปลงให้แข็งแกร่งขึ้น” จ้าวเฟิงพออกพอใจอย่างยิ่ง
การเข้ามาในมรดกจักรพรรดิโจรสลัดครั้งนี้ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้มรดกและทรัพยากรล้ำค่าชั้นยอดใดๆ แต่ว่าการได้เข้าไปในเมืองเผ่าพันธุ์ความลับสวรรค์ กลับเป็นโอกาสที่หาได้ยากยิ่ง
จ้าวเฟิงเพียงแค่นึกเสียใจที่ตนมีทรัพยากรไม่เพียงพอ
จากซากปรักหักพังมาถึงอุทยานครึ่งเซียนและการเข่นฆ่าที่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์โจรสลัด ทรัพยากรจำนวนมหาศาลสะสมไว้ก็หายวับเหลือเพียงความว่างเปล่า ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อเทียบกับสิ่งที่ได้รับมา สิ่งที่สูญเสียไปก็ถือว่าคุ้มค่าแล้ว
สายเลือดของหมื่นรายชื่อเผ่าพันธุ์โบราณเป็นสิ่งที่สูงส่งจนเกินจะเปรียบ
ยิ่งไปกว่านั้นจ้าวเฟิงยังได้รับ ‘วิชาวายุอัสนีห้าสาย’ และ ‘กายสายฟ้าปฐพีทอง’ ที่อยู่ในขั้นสูงนัก
นอกจากนี้ หุ่นเชิดศพต้องสาปหรือกระทั่งค่ายกลร้อยศพล้วนได้รับการเปลี่ยนแปลงให้แข็งแกร่งขึ้น
เมี้ยว ~
เจ้าแมวขโมยตัวน้อยที่อยู่ข้างกายหยิบกริชจักรพรรดิเงาสังหารมาเล่นด้วยท่าทางพออกพอใจเป็นอย่างยิ่ง
“เจ้าแมวขโมยตัวน้อย!” เด็กน้อยครึ่งเซียนโผล่ออกมาพูดคุยกับมัน
เมี้ยว เมี้ยว!
เจ้าแมวขโมยน้อยพยักหน้ารับ จากนั้นเดินตามหลังเด็กน้อยครึ่งเซียนไปยืดเส้นยืดสายที่เขตเกาะใจกลาง
และแล้วเขตเกาะใจกลางที่เพิ่งจะเงียบสงบไม่นานก็เกิดความวุ่นวายขึ้น
เจ้าตัวร้ายทั้งสองเริ่มช่วงชิงทรัพยากรของเหล่าโจรสลัดมา จ้าวเฟิงขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่ไม่ได้ห้ามปรามอะไร
เขาเข้าใจ เด็กน้อยครึ่งเซียนอยู่ในอารมณ์หงุดหงิดที่ขาดแคลนทรัพยากร แต่ที่เหนือความคาดหมายก็คือร่วมมือกันกับเจ้าแมวขโมยตัวน้อยเพื่อแย่งชิงต่างหาก
ขอแค่ไม่ทำอะไรที่เกินเลยมากไป จ้าวเฟิงก็จะทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นไปเสีย ถึงอย่างไรโจรสลัดพวกนี้ก็ไม่ได้เป็นคนดีอะไรมากมาย
เพียงครึ่งวันเท่านั้น
เด็กน้อยครึ่งเซียนและเจ้าแมวขโมยน้อยแย่งชิงทรัพยากรหินผลึกมาได้ค่อนข้างมาก
บนเกาะกลับเกิดคลื่นความหวาดกลัว เหล่าโจรสลัดมากมายโกรธเกรี้ยว
ในนี้มีราชาโจรสลัดหลายคนถูกตีจนสลบ ทรัพยากรที่มีถูกขโมยไปเหลือแต่เพียงความว่างเปล่า
“นายท่าน นี่คือส่วนที่ท่านควรได้รับครึ่งหนึ่ง” เด็กน้อยครึ่งเซียนเอาทรัพยากรที่ขโมยมาได้ครึ่งหนึ่งมอบให้จ้าวเฟิง
ส่วนทรัพยากรที่เหลือเขากับเจ้าแมวขโมยน้อยแบ่งเท่าๆ กัน
“เจ้าสองคนนี้ยังติดสินบนเป็นด้วย?” จ้าวเฟิงมีสีหน้าประหลาดใจ
แต่ทว่าหลังจากนั้นไม่นาน ราชาฉลามยักษ์ได้พาราชันสี่ห้าคนกับเหล่าโจรสลัดฝีมือแข็งแกร่งมาเพื่อหาคนทำผิดและรับโทษ
“จ้าวเฟิง! เจ้าแมวกับข้าทาสของเจ้าแย่งชิงสิ่งของไปทั่วเกาะโดยสนใจใคร พฤติกรรมน่ารังเกียจอย่างยิ่ง”
ราชาฉลามยักษ์และราชาโจรสลัดคนอื่นๆ เดินมาอย่างเกรี้ยวกราดดุดัน
จ้าวเฟิงจ้องเขม็งไปที่เจ้าแมวขโมยน้อยและเด็กน้อยครึ่งเซียน เจ้าสองคนนี่ไม่เพียงแต่ปล้นกลุ่มโจรสลัดของทัพราชาฉลามยักษ์ แต่ยังรวมถึงพวกในกองทัพของราชันเหมันต์จันทราด้วย
เหล่าโจรสลัดพวกนี้มีมากมายจนผสมปนเปกัน เจ้าแมวขโมยน้อยและเด็กน้อยครึ่งเซียนไม่มีทางจะแยกแยะออกทั้งหมด
“โจรสลัดอย่างพวกเจ้าเข่นฆ่าแย่งชิงกันบนเกาะ คนแข็งแกร่งกว่าก็จะรังแกคนที่อ่อนแอกว่า เจ้าแมวและข้ารับใช้ของข้าก็เพียงเข้าร่วมการละเล่นของพวกเจ้าด้วยแค่นั้นเอง” จ้าวเฟิงเอ่ยเรียบๆ
เหล่าโจรสลัดชะงักค้าง เพื่อที่จะแก่งแย่งทรัพยากรและผลประโยชน์ พวกเขาเองก็สังหารคนในกองทัพเดียวกัน เพียงแต่ว่าไม่อาจหาญที่จะทำอย่างโจ่งแจ้งเช่นนี้
“เฮอะ!” เด็กน้อยครึ่งเซียนหัวเราะเยาะแล้วกล่าวว่า “พวกเจ้าโจรสลัดที่ไม่รู้ประสาพวกนี้ หากไม่ได้นายท่านและข้าลงมือ พวกเจ้าจะสามารถเปิดมรดกจักรพรรดิโจรสลัดได้อย่างราบรื่นเช่นนี้รึ?”
ราชาโจรสลัดรุ่นเก่าแก่ที่อยู่ในนั้นอับจนด้วยคำพูดในทันที
ในการต่อสู้เพื่อรับมือกับ ‘จักรพรรดิมู่อวิ๋น’ จ้าวเฟิงและเด็กน้อยครึ่งเซียนล้วนแต่มีบทบาทที่สำคัญอย่างยิ่ง
“มรดกจักรพรรดิโจรสลัดกับมรดกในมุมยอดเขาทั้งสิบแปด ข้ายอมรามือเพื่อให้โจรสลัดหนุ่มๆ อย่างพวกเจ้าได้มีโอกาสลืมตาอ้าปาก” จ้าวเฟิงเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
เมื่อเอ่ยจบ ราชาโจรสลัดสองคนที่เพิ่งเลื่อนขั้นก็ไร้คำพูดตอบกลับ
จ้าวเฟิงและเด็กน้อยครึ่งเซียนไม่ได้แตะมรดกจักรพรรดิโจรสลัดเลยสักนิด ยกให้พวกเขาเหล่าโจรสลัดไปทั้งหมด
“และแน่นอนว่าในพวกเจ้าหากมีใครไม่พอใจ ก็สามารถเข้ามา ‘ขอคำแนะนำ’ เล็กน้อยจากข้าได้”
จ้าวเฟิงนั่งขัดสมาธิโดยตลอดตั้งแต่ต้นจนจบ
ร่างของเขาแผ่ไอเย็นของพลังสายเลือดและระลอกพลังวิญญาณออกมา ทำให้วิญญาณของเหล่าโจรสลัดมากมายถูกกดข่มราวกับตกอยู่ในอุโมงค์ที่เย็นยะเยือก
ราชาฉลามยักษ์สีหน้าคล้ำเขียว
จ้าวเฟิงในครรลองสายตาเขาผู้นี้ นับวันเขายิ่งมองไม่ออกไปทุกที
รวมถึงเด็กน้อยผิวทองที่อยู่ข้างกายอีกฝ่ายและแมวเจ้าขโมยลี้ลับด้วย
จะต้องรู้ว่า กลุ่มที่แปลกประหลาดนี้ขนาดมรดกจักรพรรดิโจรสลัดก็ยังไม่ใยดีด้วยซ้ำ
“จ้าวเฟิง ถึงแม้เจ้าจะเป็นกำลังหลัก แต่ก็ต้องรับผิดชอบการกระทำผิดที่รุนแรงของเจ้าแมวและข้ารับใช้ เช่นนั้นก็รับหมัดของข้า ดูซิว่าเจ้ามีความสามารถจะปกป้องพวกมันหรือไม่” ราชาฉลามยักษ์เอ่ยเสียงต่ำ
“หึ หึ ราชาฉลามยักษ์ เจ้าอยากลองพลังของข้า เหตุใดต้องพูดอ้อมค้อมด้วยเล่า” จ้าวเฟิงยิ้มออกมา
ราชาฉลามยักษ์ถามหาคนรับผิด
แต่ก็ไม่ได้ล่วงรู้ตื้นลึกหนาบางที่แท้จริงของจ้าวเฟิง โดยเฉพาะหลายวันก่อนที่จ้าวเฟิงหายตัวไปจากบนเกาะ
“ดี ดี ดี! เจ้านี่มันเปิดเผยตรงไปตรงมาจริงๆ! ข้าราชาฉลามยักษ์จะลองพลังที่แท้จริงของเจ้า” ราชาฉลามยักษ์หัวเราะเสียงดัง
ไม่นานนัก
จ้าวเฟิงและราชาฉลามยักษ์ก็ยืนอยู่กลางพื้นที่ว่างเปล่าที่รัศมีหลายร้อยจั้ง ไร้ซึ่งเงาของผู้ใด
“ฉลามยักษ์โบราณ!”
ราชาฉลามยักษ์ร้องตะโกน ผิวราวเปลือกแข็งทั่วร่างกายขยายออก จนกลายเป็นรูปร่าง สูงใหญ่ของครึ่งคนครึ่งฉลามซึ่งสูงกว่าคนธรรมดาหนึ่งเท่า
วูบ!
เขาปล่อยหมัดออกมา รู้สึกคล้ายความว่างเปล่าในบริเวณใกล้เคียงสั่นสะเทือน กลิ่นอายสายเลือดของฉลามยักษ์โบราณและพลังมหาศาลที่น่ากลัวของร่างกาย ทำให้สายเลือดกับวิญญาณของยอดฝีมือโจรสลัดที่อยู่รอบๆ ต้องสั่นสะท้าน
“หมัดนี้ของราชาฉลามยักษ์เพียงหยั่งเชิง ยังไม่ได้ใช้พลังในระดับลึกซึ้ง”
จ้าวเฟิงมีสีหน้าเหมือนเช่นปกติ
หมัดโลหะขนาดใหญ่ในครรลองสายตาพลันเปล่งแสงสีเทาขึ้นเป็นวงกลมที่แหลมคม แล้วขยายออกจนใหญ่กว่าฐานโม่หิน
พลังที่น่าสะพรึงของหมัดนี้รุนแรงมากพอจะสังหารราชันธรรมดาได้สักคน
“เช่นนั้นก็ลอง…” จ้าวเฟิงยืนนิ่งไม่ไหวติง โคจรสายเลือดสีฟ้าจนทั่วร่างปกคลุมด้วยเกล็ดสีฟ้าที่สุกสกาวสวยงาม ลักษณะเหมืนเกล็ดมังกรโบราณแต่ก็วิจิตรตระการตา
ชั่วพริบตาเดียว พลังเหมันต์ในขั้นสุดยอดก็แช่แข็งสรรพสิ่งที่อยู่ในรัศมีสิบลี้โดยมีจ้าวเฟิงเป็นจุดศูนย์กลาง
โจรสลัดที่มีพลังไม่เพียงพอถูกความเย็นผนึกไว้ทั้งสิ้น
ฟิ้ว แซ่ด~
พลังหมัดของราชาฉลามยักษ์ยังไม่ทันเข้าใกล้ ทั่วร่างกายก็ผุดเกล็ดน้ำแข็งขึ้นมา
กลิ่นอายของพลังเหมันต์ที่เก่าแก่รุนแรงทำให้วิญญาณของเขาสั่นสะท้านหวาดกลัว
สายเลือดฉลามยักษ์โบราณของราชาฉลามยักษ์สั่นสะเทือนไม่หยุดเมื่อต้องแบกรับแรงกดดันประหลาด
“สายเลือดนั่น หรือว่าจะเป็น…” ราชาฉลามยักษ์ตกใจเสียจนเปล่งเสียงไม่ออก
โครม!
ฝ่ามือเกล็ดของจ้าวเฟิงห่อหุ้มด้วยแสงเหมันต์สีฟ้ากึ่งโปร่งแสง ต้านหมัดของราชาฉลามยักษ์ไว้ได้พอดี
มือและหมัดปะทะเข้าด้วยกัน
พลังมหาศาลของร่างกายที่แสนจะน่ากลัวทำให้พื้นดินในรัศมีสิบลี้เกิดรอยแตกร้าวขึ้น
รอยแยกกว้างครึ่งจั้งขยายออกไปโดยมีคนทั้งสองเป็นใจกลาง
ขนาดว่านี่เป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของมรดกจักรพรรดิโจรสลัด ถ้าเป็นโลกภายนอกแล้วล่ะก็ เกรงว่าพลังกลุ่มนี้น่าจะทำให้หมู่เกาะธรรมดาราบเป็นหน้ากลองได้เลย
โครม!
จ้าวเฟิงและราชาฉลามยักษ์ถูกดีดออกจากกัน กระเด็นถอยหลังไปอย่างพร้อมเพรียง
คนทั้งสองเมื่อมองดูแล้วไม่มีบาดแผลที่ชัดเจน แต่ว่าผิวแขนข้างนั้นของราชาฉลามยักษ์กลับมีน้ำแข็งเกาะอยู่จนแข็งทื่อไปเล็กน้อย
“สายเลือดรายชื่อหมื่นเผ่าพันธุ์โบราณ…ที่แท้แล้วเจ้า…” ราชาฉลามยักษ์มีสีหน้าหวาดหวั่น
วินาทีเมื่อครู่ สายเลือดของจ้าวเฟิงสร้างแรงกดข่มต่อสายเลือดฉลามยักษ์ของเขา
พลังสายเลือดสิบส่วนของเขาสามารถใช้ได้เพียงห้าหกส่วนเท่านั้น
พลังมหาศาลของร่างกายจ้าวเฟิงไม่ได้ด้อยกว่าเขาเสียเท่าไหร่เลย
ถ้าหากไม่ใช่เพราะราชาฉลามยักษ์เหนือกว่ามากด้านการฝึกตนและระดับการตื่นขึ้นของสายเลือด การปะทะกันเมื่อครู่เขาอาจจะพ่ายแพ้อย่างยับเยินก็เป็นได้
“จ้าวเฟิงผู้นี้มีสายเลือดหมื่นรายชื่อเผ่าพันธุ์โบราณเสียด้วย ปกปิดเสียมิดชิดเลย!”
เหล่าโจรสลัดที่อยู่ในเหตุการณ์ตื่นตกใจจนหน้าถอดสีไปตามๆ กัน
สายเลือดในตำนานจากรายชื่อหมื่นเผ่าพันธุ์โบราณ กลับปรากฏบนร่างของบุรุษหนุ่มผู้นี้ไปเสียได้
“ไม่เสียทีที่เป็นสายเลือด ‘เผ่าพันธุ์เกล็ดมังกรเหมันต์’ ที่อยู่ในร้อยอันดับแรก อยู่เหนือกว่าสี่ห้าอันดับเล็กๆ มาก ต่อกรคนขั้นราชันในช่วงสุดยอดได้ ถึงแม้จะบอกว่าราชาฉลามยักษ์ยังคงเก็บงำความสามารถไว้ ยังไม่ได้ใช้พลังในระดับลึกซึ้ง ปราณที่แท้จริงก็ยังไม่ถูกกระตุ้นจนถึงขีดสูงสุดก็ตาม” เด็กน้อยครึ่งเซียนลอบอุทานอย่างตกใจ
พลังฝึกตนของจ้าวเฟิงเกือบจะถึงขอบเขตแก่นก่อกำเนิดระดับสูงช่วงสุดยอดแล้ว
ระหว่างเขาและราชาฉลามยักษ์ ยังมีครึ่งก้าวสู่ราชัน ราชันในช่วงต้น ช่วงกลาง ช่วงปลาย สุดท้ายถึงจะเป็นราชันช่วงสุดยอด!
“เผ่าพันธุ์เกล็ดมังกรเหมันต์เป็นสายเลือดในตำนานโบราณอันดับที่แปดสิบเก้า….” ราชาฉลามยักษ์สูดลมหายใจลึก ใจเต้นระรัวยากจะกลับมาสงบในเวลาอันสั้น
ต้องรู้ก่อนว่า สายเลือดของตัวเขาเองก็ไม่ได้ด้อยและใกล้เคียงกับสายเลือดรายชื่อหมื่นเผ่าพันธุ์โบราณ
ระหว่างการต่อต้านกับจักรพรรดิมู่อวิ๋น เขาเป็นกำลังหลักอันดับหนึ่งเพียงคนเดียวที่สามารถต่อต้านจักรพรรดิได้จังๆ ต่อให้เป็นเพียงระยะเวลาสั้นๆ เท่านั้น
แต่ทว่า ในรายชื่อหมื่นเผ่าพันธุ์โบราณก็ยังมีอันดับก่อนหลัง
สายเลือดในตำนานเหล่านั้นต่อเนื่องมายาวนานตั้งแต่ยุคโบราณ มีที่สูญสลายหายไปก็มาก
รายชื่อหมื่นเผ่าพันธุ์โบราณ ถึงแม้เรียกว่าเป็นรายชื่อหมื่นเผ่าพันธุ์ แต่ว่าที่จริงแล้วมีเพียงหนึ่งพันกว่าเผ่าพันธุ์เท่านั้น
สายเลือดที่อยู่ในหนึ่งร้อยลำดับแรกได้ แต่ละอย่างจะมีพลังที่ต่อต้านลิขิตสวรรค์
“มรดกสายเลือด…” จ้าวเฟิงนั่งขัดสมาธิลงแล้วหลับตา
ในสายเลือดของเขาปรากฏข้อมูลมรดกขึ้นมาส่วนหนึ่ง รวมถึงเคล็ดวิชาในการใช้สายเลือดด้วย
ข้อมูลของสายเลือดเหล่านี้ ในตอนนี้ปรากฏออกมาเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น ส่วนที่สูงส่งกว่าจะอยู่เหนือมรดกวายุอัสนีขึ้นไปอีก
“จ้าวเฟิง พวกข้าประเมินเจ้าต่ำไปเสียแล้ว” ราชาฉลามยักษ์สูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วนำราชาโจรสลัดหลายคนออกไปจากบริเวณนั้น
จำต้องยอมรับว่า จ้าวเฟิงในตอนนี้มีกำลังรบที่ทัดเทียมกับราชันในระดับสุดยอดแล้ว
ด้วยเพราะเขามีระดับความเร็วของวายุอัสนีเหนือผู้ใดในฟ้าดิน รวมไปถึงสายเลือดดวงตาลี้ลับด้วย
สายเลือดของรายชื่อหมื่นเผ่าพันธุ์โบราณ มีแก่นแท้ชีวิตหรือกระทั่งพลังในการฟื้นฟูเเข็งแกร่งกว่าสายเลือดธรรมดาไม่รู้กี่เท่าต่อกี่เท่า
ยิ่งไปกว่านั้น เด็กน้อยครึ่งเซียนและเจ้าแมวขโมยน้อยล้วนแต่ลี้ลับเกินจะคาดเดา และไม่เคยลงมือให้เห็นมาก่อน
ในระหว่างที่เวลาเปลี่ยนผันไป ชื่อเสียงของจ้าวเฟิงก็ขจรขจายไปทั่วดินแดนเกาะ
ในวินาทีใดวินาทีหนึ่งนั้นเอง!
วิ้ง!
บนยอดเขาใหญ่ที่อยู่ใจกลาง ปรากฏแสงขาวดำที่หมุนวนไปมาด้วยความรวดเร็ว
ต่อมา กลิ่นอายดวงวิญญาณที่สมบูรณ์แบบฟุ้งกระจายไปทั่วฟ้าดิน ทะลักแรงกดดันมหาศาลออกมา
“กลิ่นอายนั้นมัน….” บนเขตเกาะใจกลาง บรรดาโจรสลัดร่างค้างแข็ง
แววตาของจ้าวเฟิงมีประกายวาบผ่าน
“มรดกหลักของจักรพรรดิโจรสลัดนี้ไม่อาจดูแคลนได้ ตามตำนานแล้วสามารถทำให้กลายเป็นจักรพรรดิได้อย่างรวดเร็ว กลับกลายเป็นเรื่องจริงเสียด้วย”
เด็กน้อยครึ่งเซียนจิตใจสับสนขณะมองไปยังยอดเขาสูงใหญ่ตรงกลาง
ในแสงจันทร์เย็นเยียบที่หมุนวนไปรอบๆ ปรากฏร่างหญิงสาวผู้งดงาม เรือนร่างผอมสูง ด้านหลังสะพายดาบ ศีรษะสวมมงกุฎจักรพรรดิ นัยน์ตางามราวจันทร์เสี้ยวกวาดมองทั่วกลุ่มยอดเขาด้วยท่าทางเย็นชา