บทที่ 794 สหายเก่าและการปล้นชิง
ในส่วนลึกของถิ่นที่อยู่มนุษย์แมงป่อง ราชามนุษย์แมงป่องและบุรุษหนุ่มชุดคลุมดำต่อสู้กันจนสะเทือนไปถึงดวงวิญญาณ
ราชามนุษย์แมงป่องกระตุ้นวิชาสายเลือด เบื้องหลังปรากฏเงาแมงป่องยักษ์สีดำมืด ในทุกครั้งที่โจมตี เงาแมงป่องยักษ์ด้านหลังก็ยังสามารถทะลักพลังสายเลือดโบราณที่ลี้ลับยิ่งใหญ่ พลังกระเทือนฟ้าดิน
นี่เป็นพลังและขีดความสามารถที่ถูกกดไว้อย่างหนักในมิติเทพลวงตาแล้ว
ถ้าหากว่าอยู่ในโลกภายนอก มนุษย์แมงป่องผู้นี้สามารถสร้างมหันตภัยรุนแรงแก่ดินแดนเกาะเล็กส่วนหนึ่งได้
พรึ่บ!
บุรุษหนุ่มชุดดำผู้นั้นใช้เคล็ดวิชามิติที่มืดมิด ทิ้งเส้นสีเงินหลายต่อหลายเส้นลอยกรุ่นบนพื้นจุดเดิม คอยรุกคืบและถอยร่นไปเรื่อยๆ
“รอยแยกเวหามายา!”
ทันใดนั้นเอง ลำแสงสีเงินแหลมคมประหนึ่งรอยปริร้าวในอากาศสาดซัดกลิ่นอายมิติต้องห้ามออกมา ฟันลงไปบนด้านข้างของร่างราชามนุษย์แมงป่อง
แกรก!
เปลือกแข็งของราชามนุษย์แมงป่องซึ่งอยู่เหนือราชันในระดับเดียวกันถูกฟันจนเกิดรอยร้าว เลือดสีแดงสดไหลอาบ
“เจ้ามนุษย์หัวขโมย! สมควรตาย…”
ราชามนุษย์แมงป่องโกรธเกรี้ยวแล้วโต้กลับ ทั้งก้ามแมงป่องและส่วนหางเต้นเร่าไปพร้อมกัน คมมีดสีเงินเข้มเข้าแทนที่ลำแสงเงินอันแหลมคม ฟาดฟันทุกอย่างและปกคลุมเป็นรัศมีร้อยจั้ง
ผลัวะ พรึ่บ!
บนร่างของบุรุษหนุ่มชุดดำปรากฏระลอกแสงสีเงินเข้มที่ลึกล้ำเย็นเยือกขึ้นชั้นหนึ่ง ราวกับเป็นระลอกน้ำหมุนวนบนอากาศ
การโจมตีที่แข็งแกร่งของราชามนุษย์แมงป่องกระทบบนร่างเขา ก็เหมือนถูกดูดซับและโยกย้ายเข้าไปอยู่ภายในมิติแห่งหนึ่ง
ทว่าภายใต้การโจมตีด้วยความโกรธเกรี้ยวของราชามนุษย์แมงป่อง ถึงแม้ว่าบุรุษหนุ่มชุดดำจะเคล็ดวิชามิติคุ้มครองร่างกาย ก็ยังส่งเสียงขึ้นจมูกออกมา และถูกซัดกระเด็นไปหลายจั้ง
“ราชามนุษย์แมงป่องตนนี้ เมื่ออยู่ในสภาวะโกรธเกรี้ยว กำลังรบเข้าใกล้ราชันระดับสุดยอดไปทุกที”
“บุรุษหนุ่มชุดดำผู้นั้นกลิ่นอายชีวิตยังอ่อนเยาว์นัก ทำไมไม่เคยได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับคนผู้นี้ในอัจฉริยะรายชื่อจักรพรรดิมาก่อน”
คนของสำนักศักดิ์สิทธิ์วั่นและวังสุริยันม่วงอดจะถกเถียงกันไม่ได้
‘ข่งเฟยหลิง’ แห่งสำนักศักดิ์สิทธิ์วั่นก็เป็นอัจฉริยะในรายชื่อจักรพรรดิ แต่อยู่ในลำดับค่อนข้างท้ายๆ เข้าใกล้ลำดับที่สามร้อยได้
สรุปโดยรวมแล้ว ถึงแม้บุรุษหนุ่มชุดดำไม่สามารถปะทะเข้าตรงๆ กับราชามนุษย์แมงป่อง แต่หากอาศัยลักษณะพิเศษของเคล็ดวิชามิติ กลับเป็นฝ่ายได้เปรียบโดยไม่สะทกสะท้าน
“เป็นเขา…”
จ้าวเฟิงยืนนิ่งมองไปที่บุรุษหนุ่มชุดดำที่สูงส่งองอาจ รู้สึกแปลกประหลาดเล็กน้อย
ไม่ผิด! บุรุษหนุ่มชุดดำผู้นี้เขารู้จักอย่างลึกซึ้ง ถึงขั้นมาจากสำนักเดียวกัน แล้วยังเคยร่วมมือกันอีกด้วย
ในวันนี้เวลานี้
จ้าวเฟิงพบอีกฝ่ายอีกครั้ง ในใจรู้สึกปลงอนิจจังอย่างประหลาด
“สหายผู้นี้ ต้องการให้ข้าช่วยเหลือหรือไม่?”
ในแววตาของข่งเฟยหลิงฉายแสงประกาย
ความสามารถและจุดเด่นของบุรุษหนุ่มชุดดำผู้นั้น ขนาดว่านางผู้ที่หยิ่งยโสราวนกยูงยังอดรู้สึกดีด้วยไม่ได้
“ไม่ต้อง!”
บุรุษหนุ่มชุดดำสีหน้าเรียบเฉย ใช้ท่าร่างมิติที่ประหลาดเกินคาดเดาเข้าสู้พัวพันกับราชามนุษย์แมงป่อง
ในขณะที่สู้กันเป็นเวลานาน เคล็ดวิชาสายเลือดของราชามนุษย์แมงป่องไม่สามารถจะทนต่อไปได้นานนัก บาดแผลเองก็ทับถมเรื่อยๆ
ไม่ถึงครึ่งชั่วยาม
ราชามนุษย์แมงป่องถอยร่น กลายร่างเป็นเงาเย็นมืดมิด เร่งรุดหนีไปยังอาณาเขตทึมทึบน่าสะพรึงกลัวของเมืองใต้ดิน
บุรุษหนุ่มชุดดำผู้นั้นก็ไม่ได้ไล่ตามต่อไป
การต่อสู้เอาชนะราชามนุษย์แมงป่องอย่างดุเดือด ทำให้พลังของเขาสิ้นเปลืองไปมาก
“ขอบังอาจถาม สหายท่านนี้ชื่อแซ่อะไร เป็นคนของสำนักไหน”
ผู้เฒ่าเฟ่ยและพวกข่งเฟยหลิงเข้าไปทักทายก่อน
ถ้าหากสามารถผูกมิตรกับอัจฉริยะที่แข็งแกร่งเช่นนี้ การสืบเสาะในภายภาคหน้าก็จะมีแรงช่วยอย่างมาก
“หนานกงเซิ่งแห่งสำนักศักดิ์สิทธิ์เสวียนเจิน”
สีหน้าของบุรุษหนุ่มชุดดำยังคงราบเรียบเย็นชาดังเก่า ห้วงคิดเซียนกวาดผ่านกองกำลังทั้งสองฝั่ง
ทั้งสำนักศักดิ์สิทธิ์วั่นและวังสุริยันม่วงมีครึ่งก้าวสู่ราชันสองสามคน มียอดฝีมือแข็งแกร่งหลายคน เขาเองก็ไม่อาจจะมองข้ามได้
“หนานกงเซิ่ง?”
ข่งเฟยหลิงอมยิ้มเล็กน้อย เอ่ยทวนเสียงเบา และจดจำชื่อนี้เอาไว้
ชื่อหนานกงเซิ่งไม่ได้โด่งดังอะไรในราชวงศ์แห่งดินแดนทวีป
“สำนักศักดิ์สิทธิ์เสวียนเจิน? ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้…”
ผู้เฒ่าเฟ่ยมีความรู้และประสบการณ์กว้างขวาง ไม่ว่าจะเป็นดินแดนทวีปหรือว่าดินแดนทะเลในบริเวณรอบๆ เมื่อเป็นสำนักในระดับสามดาว ล้วนแต่เป็นสิ่งล้ำค่าหายาก
สำนักศักดิ์สิทธิ์เสวียนเจิน เป็นสำนักสามดาวของดินแดนชังไห่
หลังจากโจมตีราชามนุษย์แมงป่องจนถอยร่นไปแล้ว ร่างของหนานกงเซิ่งสว่างวาบหนึ่ง เข้าไปภายในที่พักของมนุษย์แมงป่อง และเริ่มค้นหาทรัพยากรที่อยู่ในนั้น
“ทรัพยากรในเรือนราชาแมงป่องต้องเป็นของข้า พื้นที่อื่นๆ พวกเจ้าตามสบายเลย” หนานกงเซิ่งเอ่ยทิ้งท้าย
ราชามนุษย์แมงป่องตนนั้นถูกหนานกงเซิ่งโจมตีเพียงคนเดียว ส่วนทรัพยากรภายในที่พัก คนจำนวนมากย่อมไม่สามารถทวงถามได้
ในฐานะที่มนุษย์แมงป่องเป็นเผ่าพันธุ์ใต้ดินที่แข็งแกร่งที่สุดในละแวกนี้ ทรัพยากรล้ำค่าในที่ดังกล่าวย่อมควรค่าให้พิจารณา
จ้าวเฟิงเองก็เข้าร่วมการค้นหาทรัพยากรล้ำค่าด้วย
เขาได้มนุษย์แมงป่องหญิงตนนั้นมาเป็นทาส จึงล่วงรู้สถานที่ลับที่ซุกซ่อนสมบัติในอาณาเขตของมนุษย์แมงป่อง
จากการที่จ้าวเฟิงสืบดวงวิญญาณ มนุษย์แมงป่องหญิงตนนี้คือ ‘ราชินี’ ของราชาแห่งเผ่าพันธุ์มนุษย์แมงป่องคนก่อน
นอกเหนือจากราชามนุษย์แมงป่อง ฐานะและความสามารถของมนุษย์แมงป่องหญิงก็นับว่าสูงสุดที่สุด
แซ่ด พรึ่บ!
ในขณะที่จ้าวเฟิงเร้นกายไปก็ทิ้งระลอกวายุอัสนีธาตุน้ำเอาไว้ ชวนให้รู้สึกล่องลอยเบาสบาย
เขาเข้าไปใน ‘ห้องสมบัติ’ ใต้ดินอย่างรวดเร็ว
ห้องสมบัติแห่งนั้นมียอดฝีมือมนุษย์แมงป่องสี่คนอารักขาอยู่ จ้าวเฟิงส่ง ‘ราชินีแมงป่อง’ สั่งให้พวกมันถอยร่นไป
ในห้องสมบัติมีดอกไม้สมุนไพรหายากต่างๆ เปล่งแสงหลากหลายสีสันออกมา
ทรัพยากรเหล่านี้ล้วนแต่ไม่ธรรมดา หากเป็นโลกภายนอกยากจะพบเจอได้สักครั้งในพันปีหรือหมื่นปี
ทันใดนั้น ไอสวรรค์ในฟ้าดินที่เป็นระลอกสาดซัดปั่นป่วน ทะลักออกมาหลายเส้นสาย ดึงดูดความสนใจของคนแถวนั้นจำนวนหนึ่ง
“เก็บ!”
จ้าวเฟิงใช้ความเร็วสูงสุดเก็บเกี่ยวทรัพยากรและสมบัติล้ำค่าส่วนหนึ่งที่มีประโยชน์ต่อตนเอง
“เอ๊ะ…พฤกษาอัสนีมืด!” จ้าวเฟิงมองห็นทรัพยากรในศาสตร์อัสนีที่หาได้ยากยิ่งชิ้นหนึ่งอย่างรวดเร็ว
บนพื้นผิวของท่อนไม้ที่มีสีดำครึ่งท่อนสลักลวดลายอัสนีเก่าแก่ดำมืด
พฤกษาอัสนีมืดประเภทนี้ดำรงชีวิตอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ทึมทึบและอับชื้น มีพลังดูดซึมที่แข็งแกร่งต่อสายฟ้าในธรรมชาติ
‘พฤกษาอัสนีมืด’ เบื้องหน้าเป็นสิ่งของระดับสูง ต้องผ่านเวลามาหลายหมื่นปีเป็นอย่างน้อย แฝงไปด้วยแก่นสารสำคัญของศาสตร์อัสนีที่บริสุทธิ์
แซ่ด แซ่ด!
จ้าวเฟิงกำท่อนไม้ดังกล่าว โคจร ‘วิชาวายุอัสนีห้าสาย’ สัมผัสถึงพลังอัสนีที่มืดมิดอันเป็นส่วนสำคัญแต่ละสายหลอมรวมเข้าไปภายในร่างกาย
“หญ้าจิตวารีห้าเสียง…ไผ่วายุทมิฬ…หญ้าเขี้ยวมังกร…”
ดวงตาของจ้าวเฟิงเป็นประกายสว่างวาบ
อันที่จริงแล้ว ภายในที่พักของมนุษย์แมงป่องมีสมบัติสำคัญส่วนหนึ่งที่บางทีมูลค่าอาจจะสูงส่งยิ่งกว่า
แต่ห้องสมบัติแห่งนี้มีทรัพยากรส่วนหนึ่งที่สามารถส่งผลช่วยเหลือการฝึกตนของจ้าวเฟิงได้โดยตรง
ตุบ! ตุบ!
ในเวลานี้ ยอดฝีมือของสำนักศักดิ์สิทธิ์วั่นและวังสุริยันม่วงส่วนหนึ่ง สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายทรัพยากรล้ำค่า จึงลอยเข้ามาใกล้อย่างรวดเร็ว
กลิ่นอายของทรัพยากรล้ำค่าส่วนนั้นแข็งแกร่งเกินไป จ้าวเฟิงเองก็ไม่สามารถจะผนึกได้ทั้งหมด
ถ้าหากโคจรพลังมหาศาลของราชัน เกรงว่าความเคลื่อนไหวจะรุนแรงกว่าเดิม
“จ้าวเฟิง! ดวงเจ้าดีจริงๆ!”
ผู้เฒ่าเฟ่ยนำคนกลุ่มหนึ่งเข้ามาใกล้ที่แห่งนี้อย่างรวดเร็ว
“เร็ว! อย่าปล่อยให้คนของ ‘สำนักศักดิ์สิทธิ์วั่น’ ช่วงชิงเอาทรัพยากรล้ำค่าเอาไปจนหมด”
วังสุริยันม่วงก็ไม่ได้ช้าไปกว่าอีกฝ่ายมากนัก
แต่ว่าพวกเขาเพิ่งจะเข้าใกล้ ก็เผชิญหน้ากับการโจมตีของนักรบมนุษย์แมงป่องทั้งสี่ที่อยู่แถวๆ นั้น
การต่อสู้เริ่มขึ้นเร็วยิ่ง
ด้วยพลังของคนทั้งสองฝ่าย ทำให้จัดการนักรบมนุษย์แมงป่องทั้งสี่ได้ไม่ยาก
เพียงแต่ผู้เฒ่าเฟ่ยรู้สึกแปลกใจ “ทำไมจ้าวเฟิงจึงเข้าไปภายในห้องสมบัติได้อย่างปลอดภัย ไม่โดนโจมตีจากมนุษย์แมงป่องพวกนี้”
แต่ในเวลาดังกล่าว
กลุ่มคนก็ไม่ทันคิดมาก พุ่งตรงเข้าไปภายในห้องสมบัติได้ ก็เก็บเกี่ยวเอาต้นไม้ใบหญ้าชั้นยอดประเภทต่างๆ ภายในเมืองใต้ดิน
ภายในห้องสมบัติแห่งนี้ สมบัติล้ำค่าจำนวนมากถูกจัดวางเอาไว้ในภาชนะเพาะเลี้ยงโดดๆ หนำซ้ำยังมีการหล่อเลี้ยงและการป้องกันที่เป็นค่ายกลพิเศษ
ในทุกครั้งที่ทำลายค่ายกลแห่งหนึ่งเพื่อเก็บเกี่ยวทรัพยากรล้ำค่า จึงต้องใช้เวลาอยู่เล็กน้อย
ขณะที่ผู้คนเร่งรุดมาถึงนั้นเอง
จ้าวเฟิงเก็บเกี่ยวเอาสมบัติล้ำค่าที่มีประโยชน์ต่อตนเองค่อนข้างมากไปห้าหกชิ้นแล้ว
ในนั้นมีพฤกษาอัสนีมืด หญ้าจิตวารีห้าเสียง และไผ่วายุทมิฬที่ส่งผลช่วยในการฝึกฝนวิชาวายุอัสนีและสะสมปราณที่แท้จริง
แล้วยังมี ‘หญ้าเขี้ยวมังกร’ ต้นหนึ่งที่ล้ำค่าและหาได้ยากยิ่ง ส่งผลช่วยเพิ่มพูนเปลี่ยนแปลงอย่างแข็งแกร่งต่อชีวิตและร่างกาย
นี่เป็นทรัพยากรที่ส่งผลต่อการฝึกฝนร่างกายเพียงสิ่งเดียวที่จ้าวเฟิงเก็บเกี่ยวได้
คนของสำนักศักดิ์สิทธิ์วั่นและวังสุริยันม่วง หลังจากเข้าไปภายในห้องสมบัติก็เริ่มแบ่งทรัพยากรล้ำค่ากันในทันที
ด้วยเพราะจ้าวเฟิงค้นพบที่แห่งนี้ก่อน สำนักศักดิ์สิทธิ์วั่นจึงได้ส่วนแบ่งเจ็ดส่วน ที่เหลือสามส่วนทิ้งไว้ให้กับวังสุริยันม่วง
คนของวังสุริยันม่วงก็ไม่ได้ละโมบไม่รู้จักพอ
หากจะพูดถึงเรื่องพลัง วังสุริยันม่วงด้อยกว่าสำนักศักดิ์สิทธิ์
หนำซ้ำในขณะที่ทั้งสองฝ่ายร่วมมือกัน ก็ได้ตกลงกันปากเปล่าในด้านการแบ่งปันทรัพยากรผลประโยชน์
ไม่นานนัก ห้องสมบัติแห่งนี้ก็ถูกทั้งสองฝ่ายค้นเอาไปจนว่างเปล่า
“จ้าวเฟิง ทรัพยากรที่เจ้าได้มาเหมือนจะมูลค่าสูงส่งที่สุด”
แววตาของผู้เฒ่าเฟ่ยเป็นประกายพลางจับจ้องมาที่เขา
จ้าวเฟิงเข้าใจความหมายของเขา ยิ้มน้อยๆ แล้วจึงเอาทรัพยากรล้ำค่าส่วนหนึ่งที่เก็บมาได้ออกมาวางเรียงราย
“จ้าวเฟิง เจ้าซื่อสัตย์ยิ่งนัก”
ผู้เฒ่าเฟ่ยผงกศีรษะอย่างพึงใจ ทรัพยากรส่วนนั้นที่จ้าวเฟิงเก็บเกี่ยวมาได้เย้ายวนใจคนในขั้นครึ่งก้าวสู่ราชันเป็นที่สุด
ตามกติกาแล้ว จ้าวเฟิงอยู่ในกลุ่มนี้ ทรัพยากรที่เขาค้นพบจะต้องแบ่งกัน
ลองคิดดู หากพึ่งพาเพียงกำลังของคนเพียงคนเดียว จะสามารถเข้ามาในพื้นที่อันตรายเช่นนี้ได้ที่ไหน
“พวกนี้ล้วนเป็นสิ่งที่ข้าสมควรได้มา” น้ำเสียงของจ้าวเฟิงสงบราบเรียบ
เมื่อได้ยินเช่นนี้ สีหน้าอารมณ์ของผู้เฒ่าเฟ่ยไม่เป็นธรรมชาติเล็กน้อย ข้างในรู้สึกไม่พอใจ
เห็นได้ชัดว่าจ้าวเฟิงไม่ได้มีเจตนาจะมอบทรัพยากรให้กับผู้ที่สูงส่งกว่า และไม่เชื่อฟังการจัดการใดๆ
“ช่างเถอะ เจ้าเป็นคนค้นพบห้องเก็บสมบัตินี้เป็นคนแรก”
ผู้เฒ่าเฟ่ยไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์วุ่นวายภายใน
สายตาที่ช่ำชองของเขาพอจะมองขีดความสามารถของจ้าวเฟิงออก ว่าต้องมีไม้ตายและความลับส่วนหนึ่งอยู่
นักรบมนุษย์แมงป่องทั้งสี่ที่อยู่ใกล้เคียงน่าจะมีหน้าที่เฝ้าห้องสมบัติ แต่เพราะอะไรถึงไม่โจมตีจ้าวเฟิงเพียงคนเดียว?
แต่กลับเป็นคนอื่นจากสำนักศักดิ์สิทธิ์วั่นและวังสุริยันม่วงที่เผชิญหน้ากับการขัดขวางจากนักรบมนุษย์แมงป่อง
อีกทั้งเบื้องหลังของจ้าวเฟิงยังมีอาจารย์ขั้นจักรพรรดิที่ลึกลับอยู่ แล้วยังได้รับความชื่นชมและมิตรไมตรีจากหนานเฟิงอ๋อง
เขาผู้เป็นเพียงระดับกลางของสำนักย่อมไม่อยากผิดใจกับจ้าวเฟิงโดยง่าย
“รอมีโอกาสค่อยลองหยั่งเชิงเด็กผู้นี้ดู” ผู้เฒ่าเฟ่ยตัดสินใจ
แซ่ด พรึ่บ!
ร่างของจ้าวเฟิงสว่างวาบ ก่อนทะยานไปยังที่อีกแห่งใกล้ๆ กันกับที่พักแห่งนี้
“ยังมีสถานที่ที่เก็บทรัพยากรสัตว์หายากหลายประเภท” จ้าวเฟิงเอ่ยพึมพำ
เขาได้ราชินีแมงป่องเป็นทาสรับใช้จึงได้ข้อมูลมากกว่าคนอื่น
แต่ทว่า ในขณะที่จ้าวเฟิงมาถึงห้องใต้ดินแห่งหนึ่ง คนส่วนหนึ่งของทั้งสองสำนักก็เจอที่ดังกล่าวเข้าแล้ว
ในนี้ยังมี ‘ข่งเฟยหลิง’ แห่งสำนักศักดิ์สิทธิ์วั่น และ ‘บุรุษหนุ่มชุดม่วง’ ของวังสุริยันม่วง ลูกศิษย์คนสำคัญลำดับหนึ่งทั้งสองคนก็ล้วนแต่อยู่ในนี้ด้วย
จ้าวเฟิงไม่ใช่คนแรกที่ไปถึง
ห้องใต้ดินแห่งนี้มีที่ว่างกว้างมาก ทรัพยากรที่เก็บแยกแยะเป็นหมวดหมู่ต่างๆ กองพะเนินเป็นภูเขา
ทรัพยากรจำนวนมากมีสภาพแวดล้อมในการเก็บและบำรุงดูแลค่อนข้างอัตคัต
ถ้าหากไม่เป็นเช่นนี้ ไอสวรรค์ในฟ้าดินที่แฝงอยู่ในทรัพยากรจะไหลออกไปอย่างเชื่องช้า หรือไม่ก็เกิดการเปลี่ยนแปลงลักษณะเฉพาะตัว
“ทรัพยากรอื่นๆ ไม่เอาก็ย่อมได้ แต่ว่าจะต้องเอาโครงกระดูกของ ‘สิงโตวายุอัสนี’ ในขั้นราชันมาให้ได้”
จ้าวเฟิงมีสีหน้าเด็ดเดี่ยว
โครงกระดูกของสิงโตวายุอัสนีมีพลังสายลมและสายฟ้าที่บริสุทธิ์ ธาตุของมันสอดคล้องกับวิชาวายุอัสนีของจ้าวเฟิง
แต่ที่น่าเสียดายก็คือ ราชาแมงป่องพกแก่นผลึกของสิงโตวายุอัสนีติดตัวเอาไว้
ในตอนแรก ราชาแมงป่องโจมตีสังหารสิงโตวายุอัสนีตัวนั้น ก็ได้จ่ายค่าตอบแทนที่หนักหนาสาหัสไป สุดท้ายแล้วก็พึ่งพาพิษแมงป่องที่รุนแรงถึงแก่ชีวิตของตน
หากไม่เช่นนั้นแล้ว
เพียงแก่นผลึกของราชันก้อนนั้น พลังวายุอัสนีที่แฝงอยู่ก็สามารถทำให้พลังฝึกตนของจ้าวเฟิงเพิ่มขึ้นได้อย่างรวดเร็วราวติดปีก
“เจอแล้ว!”
จากการใช้ประสาทสัมผัสของดวงตาเทพเจ้าและความทรงจำ จ้าวเฟิงพบโครงกระดูกสีม่วงเข้มราวกับผลึกหลายชิ้นอย่างรวดเร็ว
ทว่าโชคไม่ดีนัก
“ผู้เยาว์ ยั้งมือก่อน!”
คนสองสามคนจากสำนักศักดิ์สิทธิ์วั่นและวังสุริยันม่วงก็พบโครงกระดูกของสิงโตวายุอัสนีพร้อมกัน