บทที่ 924 พลังสายฟ้าบรรพกาล
“นี่คือพายุฝนฟ้าคะนองในยุคบรรพกาล?”
ใจของจ้าวเฟิงสั่นสะท้าน เนิ่นนานกว่าเขาจะพูดออกมาได้
เมฆดำมหาศาลบนท้องฟ้า ราวกับมังกรยักษ์บรรพกาลกำลังพลิกตัว สายฟ้าเสมือนเกล็ดถี่ยิบ บางครั้งก็ฟาดผ่าเป็นสายฟ้ายักษ์ลงมา ประหนึ่งว่ากำลังแยกเขี้ยวอย่างเหี้ยมโหดอำมหิต เข้าสยบทุกสรรพสิ่ง
จ้าวเฟิงไม่คิดมาก่อนเลยว่าสภาพอากาศธรรมชาติจะมีพลังน่าเกรงขามถึงเพียงนี้
ลมพายุฝนนี้ทำให้ในใจของจ้าวเฟิงเกิดความเกรงกลัว รู้ซึ้งถึงความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติ และความอ่อนแอไร้กำลังของตน
‘กายสายฟ้าปฐพีทอง’ ที่จ้าวเฟิงฝึกฝน เดิมก็คือการใช้สายฟ้าหล่อหลอมร่างกาย
แต่ ‘สายฟ้าโบราณ’ แห่งห้วงฝันบรรพกาลในวันนี้ เขากลับไม่กล้าจะดูดซับมัน
ตามที่เขาสังเกต สายฟ้าบรรพกาลเมื่อครู่ แม้แต่เซียนยังโดนสังหารได้ในชั่วเสี้ยววินาที อีกทั้งแม้กระทั่งเศษกลิ่นอายสายฟ้าบรรพกาลที่หลงเหลืออยู่ในอากาศ จ้าวเฟิงก็ไม่กล้าซี้ซั้วดูดซับมา
กายสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ของเขาก็เหมือนกับสายล่อฟ้าในระดับหนึ่ง
เพียงแค่จ้าวเฟิงยืนอยู่ที่นี่ ดูดซับกลิ่นอายสายฟ้าบรรพกาล ก็ไม่แน่ว่าอาจจะเป็นตัวล่อให้สายฟ้าครั้งต่อไปผ่าลงมาที่ตัวเขาก็เป็นได้
“พลังสายฟ้าเช่นนี้ ช่างน่าเสียดายจริง!”
จ้าวเฟิงทอดถอนใจ วิชากายสายฟ้าไร้เทียมทานที่ตนฝึกฝน ในวันนี้กลับไม่กล้า ‘ล่อสายฟ้ามาบนร่าง’
แต่ว่าอยู่ในห้วงฝันบรรพกาล การสัมผัสกลิ่นอายของลม สายฟ้า และสายฝนยุคบรรพกาลในอากาศ ก็มีประโยชน์สำหรับจ้าวเฟิงเป็นอย่างมาก
สายฟ้า ฝน และลมยุคดึกดำบรรพ์ ทำให้จ้าวเฟิงค่อยๆ สัมผัสได้ถึงพลังแห่งกฎเกณฑ์ในขั้นที่ลึกลงไป
กายสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเฟิงก็ย่อมสามารถดูดซับกลิ่นอายของสายฟ้าได้บ้าง
ในชั่วขณะหนึ่ง
จ้าวเฟิงใช้พลังดวงตาซ้ายแยกส่วนเสี้ยวหนึ่งของกลิ่นอายสายฟ้าบรรพกาล
โครงสร้างที่ซับซ้อนของมันกับอัสนีบาตบนกายสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเฟิง แม้ว่าจะมีส่วนที่แตกต่าง แต่ก็มีส่วนที่คล้ายกัน ด้วยเหตุนี้ จ้าวเฟิงจึงรู้สึกว่า ‘สายฟ้า’ ที่ตนฝึกเป็นฉบับย่อของ ‘สายฟ้ายุคบรรพกาล’
เปรี้ยง! สายฟ้าบรรพกาลอีกสายฟาดลงมาอีกครั้ง ผ่าลงไม่ห่างจากจ้าวเฟิงมากนัก ผืนดินสั่นไหวรุนแรง ต้นไม้โบราณนับไม่ถ้วนหักโค่นลง พร้อมกับเสียงคำรามของภูตปีศาจที่แข็งแกร่ง กลิ่นอายสายฟ้าบรรพกาลที่ทรงพลัง อัสนีบาตนับไม่ถ้วน ฟาดผ่ามาที่ร่างของจ้าวเฟิงติดๆ กัน แม้แต่กายสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ยังรู้สึกชา
“ข้าไม่อาจโคจรสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์แล้วดูดซับสายฟ้าที่นี่ได้ แต่ข้าสามารถนำพาหะของสายฟ้ากลับไปได้!”
ในดวงตาของจ้าวเฟิงส่องประกายวูบวาบ มองไปยังจุดที่สายฟ้าฟาดลงมา จิตใจสั่นสะท้าน ตอนนี้กะโหลกอำนาจเทวะในมิติดวงตาซ้าย ก็คือพาหะของอัสนีเทวะชนิดหนึ่ง ทว่าพลังอัสนีเทวะบนนั้นเหลือเพียงแค่สองส่วนกว่าๆ ใกล้จะผลาญใช้หมดแล้ว
พาหะสายฟ้าที่ทรงพลัง จ้าวเฟิงไม่เคยพบเจอมาก่อน
ถึงแม้ในด้านของความแข็งแกร่ง สายฟ้าบรรพกาลจะเทียบกับพลังอัสนีเทวะไม่ได้ แต่สายฟ้าชนิดนี้บริสุทธิ์ดั้งเดิม เหมือนกับพลังสายฟ้าชั้นเยี่ยมที่หลอมฝึกกายสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์และกายวิญญาณ
กระทั่งจ้าวเฟิงคาดเดาว่า หากนำสายฟ้าในกายของตนเองแปรเปลี่ยนเป็นสายฟ้าบรรพกาล
ในยามนั้น ‘วิชาวายุอัสนีห้าสาย’ และ ‘กายสายฟ้าปฐพีทอง’ ของเขาจะไปได้ถึงขั้นไหนกัน
ใจของจ้าวเฟิงลิงโลด จากนั้นก็เดินไปทางจุดที่ฟ้าผ่าลงมาเมื่อครู่ ระหว่างทางพบเจอสัตว์ป่าธรรมดาบางส่วน เขาก็ถือโอกาสจัดการไป
ไม่นานนัก จ้าวเฟิงก็มาถึงยังที่ที่ฟ้าผ่าลง
รอบด้านดำเกรียม พื้นดินก็โดนผ่าจนเป็นหลุมลึก ต้นไม้ไม่น้อยยังคงมีเปลวไฟลุกไหม้อยู่ เมื่อเข้าไปใกล้อีกเล็กน้อย ก็มีสายฟ้าบางสายแผ่ขยายมาที่ร่างของจ้าวเฟิง
จ้าวเฟิงเข้าไปใกล้ท่อนไม้ไหม้เกรียมท่อนหนึ่ง รับรู้ถึงมันอย่างละเอียด ก่อนค้นพบว่ากลิ่นอายสายฟ้าในนั้นอ่อนกำลังอย่างมาก อีกทั้งกำลังจะเลือนหายไป
“พลาดเสียแล้ว ต้นไม้ที่นี่ยังไม่ดีพอจะเอามาเป็นพาหะ มันไม่อาจรับพลังสายฟ้าบรรพกาลได้”
จ้าวเฟิงถอนหายใจ แต่ก็ไม่ลดละ พยายามหาต่อไป
“เอ๋ คุณสมบัติของต้นไม้ต้นนี้ค่อนข้างแตกต่าง พลังสายฟ้าบรรพกาลที่แฝงอยู่ค่อนข้างเยอะเลยทีเดียว!”
สีหน้าของจ้าวเฟิงฉายแววยินดี มองไปยังต้นไม้ที่อยู่เบื้องหน้า ถึงแม้จะไหม้เกรียมไปทั้งต้น แต่ข้างในยังรักษาไว้ได้ค่อนข้างสมบูรณ์ บนพื้นผิวยังมีลายเล็กๆ ของสายฟ้าปรากฏอยู่เลือนราง
ไม่พูดพร่ำทำเพลง จ้าวเฟิงจัดการนำกิ่งไหม้เกรียมของต้นไม้ต้นนี้เข้าไปในมนตราอากาศทันที จากนั้นจ้าวเฟิงเจอต้นไม้ที่คล้ายกับต้นนี้อีก รวมทั้งท่อนไม้ที่แฝงพลังอัสนีไว้ค่อนข้างมาก หลังจากหาไปสามสี่รอบ จ้าวเฟิงแน่ใจว่าไม่มีอะไรตกหล่น
รอคอยอยู่นาน ใกล้ๆ ตัวเขาก็ไม่มีสายฟ้าบรรพกาลผ่าลงมาอีก เพราะพื้นที่ของพายุฝนฟ้าคะนองนี้กว้างใหญ่ไพศาล ไม่มีที่สิ้นสุด จุดที่ฟ้าผ่าที่ห่างไกลออกไปมาก จ้าวเฟิงก็ไม่ผลีผลามเที่ยวเข้าไปใกล้ ระดับความอันตรายของห้วงฝันบรรพกาลอยู่เหนือมิติเทพลวงตานับสิบเท่า
จ้าวเฟิงสำรวจมาถึงป่าแห่งนี้ก็ยังก้าวทีละก้าว ใช้เวลาอยู่นานโข
ต่อมา จ้าวเฟิงกลับมายังวังหลวง เข้าไปในมนตราอากาศ
“ลองพลังสายฟ้าบรรพกาลดู!”
จ้าวเฟิงแทบอดใจรอไม่ไหว รีบกระตุ้นกายสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ ดวงจิตค้ำท่อนไม้ไหม้เกรียมท่อนหนึ่งไว้ ต่อมา จ้าวเฟิงก็นำวายุอัสนีธาตุไฟแปลงเป็นรยางค์เส้นหนึ่งเพื่อเป็นตัวนำ ก่อนสัมผัสเข้ากับท่อนไม้ไหม้เกรียม
เปรี๊ยะ เปรี๊ยะ! ทันใดนั้น พลังสายฟ้าทั้งสองชนิดดึงดูดซึ่งกันและกัน
สายฟ้าโบราณสีขาวถูกดูดลอยออกมาจากท่อนไม้ไหม้เกรียม พันล้อมรอบวายุอัสนีธาตุไฟ สายฟ้าบรรพกาลแต่ละเส้นเกระจายตามวายุอัสนีธาตุไฟ ค่อยๆ ส่งมายังร่างของจ้าวเฟิง
วู้ม แซ่ด แซ่ด! จ้าวเฟิงในสภาวะกายสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ ลายสายฟ้าทั่วร่างพลันสว่างวาบ ปะทุแสงสายฟ้าเจิดจ้าออกมา หลังจากนั้น จ้าวเฟิงก็ขับเคลื่อนเคล็ดวิชาลับ หลอมรวมสายฟ้าบรรพกาลเหล่านี้เข้าไปในกายสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ทีละน้อย
สายฟ้าบรรพกาลและสายฟ้าในกายเขาก็ไม่ได้เกิดการปะทะกัน
จ้าวเฟิงยังรู้สึกอีกว่า สายฟ้าตามผิวร่างของเขาราวกับจะเคลื่อนที่ไปตามสายฟ้าบรรพกาล ยิ่งกายสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์มีธาตุอัสนีแข็งแกร่งขึ้น พลังสายฟ้าที่จ้าวเฟิงแบกรับได้ก็จะยิ่งเพิ่มมากขึ้นตาม เช่นเดียวกัน มันสามารถเพิ่มความเร็วในการพัฒนากายสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ได้ด้วย นอกจากนั้น การใช้ ‘วายุอัสนีคุ้มกาย’ คุ้มกันและสะท้อนพลัง ก็แข็งแกร่งมากขึ้นตามพลังของสายฟ้า ระยะเวลาครึ่งวัน จ้าวเฟิงก็หลอมรวมสายฟ้าบรรพกาลจากในท่อนไม้ไหม้เกรียมเข้ากับกายสายฟ้าจนหมดสิ้น
“ลองนำพลังสายฟ้าบรรพกาลผสานเข้ากับปราณที่แท้จริงดู!”
ในใจจ้าวเฟิงเกิดความคิดขึ้นมา
‘วายุอัสนีห้าสาย’ เดิมก็มีวายุอัสนีเป็นหลัก มิติปราณที่แท้จริงของวายุอัสนีธาตุไฟในนั้นยังแฝงไว้ด้วยพลังอัสนีเทวะ แต่ว่าพลังอัสนีเทวะกลับไม่หลอมรวมกับพลังอัสนีธรรมดา ทว่าทั้งสองล้วนคงอยู่ เหมือนกับครั้งก่อนๆ จ้าวเฟิงตัดสินใจดึงพลังสายฟ้าบรรพกาลเข้าไปในวายุอัสนีธาตุไฟก่อน และเพิ่มพลังการโจมตีที่มีอยู่ให้สูงสุด
ฟู่! จ้าวเฟิงค่อยๆ เหนี่ยวนำวายุอัสนีธาตุไฟที่แฝงพลังสายฟ้าบรรพกาล ดูดซับเข้าไปยังมิติของแก่นผลึก ไม่เหมือนกับกายสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ ภายใต้การขับเคลื่อนวายุอัสนีธาตุไฟ พลังสายฟ้าบรรพกาลที่เหนี่ยวนำเข้าไปในมิติปราณที่แท้จริงถูกแปรสภาพเป็นเศษเล็กเศษน้อย หลอมรวมเข้าไปในนั้นอย่างช้าๆ แล้วเลือนหายไป
แต่จ้าวเฟิงก็สามารถสัมผัสได้ ธาตุอัสนีของวายุอัสนีธาตุไฟเพิ่มขึ้นสูงอย่างน่าอัศจรรย์
เมื่อใช้พลังตาซ้ายวิเคราะห์ จ้าวเฟิงค้นพบว่าพื้นที่ที่พลังวายุอัสนีอยู่ โครงสร้างจุดของพลังสายฟ้าในนั้นเกิดการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย
ในโครงสร้างจุด จำนวนของจุดเพิ่มขึ้นมาบ้าง
“ดูท่าว่าการคาดเดาของข้าอาจจะเป็นจริงได้ แปรเปลี่ยนพลังสายฟ้าในปราณแท้จริงเป็นพลังสายฟ้าบรรพกาล!”
จ้าวเฟิงใจเต้นตึกตัก หากตนสามารถใช้พลังสายฟ้าบรรพกาลได้
กายสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ที่ถึงขีดจำกัดขั้นห้าก็อาจต่อต้านเงาโลกมิติส่วนตัวของเซียนได้
ทว่าจ้าวเฟิงหาได้เพียงพาหะสายฟ้าบรรพกาลพวกนี้เท่านั้น จำนวนไม่เพียงพอโดยสิ้นเชิง เขาจึงทำได้เพียงแค่แปรเปลี่ยนพลังสายฟ้าในวายุอัสนีธาตุไฟไปก่อน
อีกอย่าง ไม้พวกนี้เดิมทีก็ไม่ใช่พาหะชั้นเลิศอยู่แล้ว พลังสายฟ้าบรรพกาลในนั้นก็กำลังสลายหายไป
“ต้องรีบเร่งมือแล้ว เวลายิ่งนาน พลังสายฟ้าบรรพกาลก็ยิ่งสลายไว!”
สีหน้าของจ้าวเฟิงค่อนข้างรีบร้อน
อีกทั้งเขายังรับประกันไม่ได้อีกว่าจะสามารถหาพาหะสายฟ้าในห้วงฝันบรรพกาลได้อีกหรือไม่
หลายวันจากนั้น
จ้าวเฟิงเหนี่ยวนำพลังสายฟ้าบรรพกาลสายสำคัญขนาดมหึมา เข้าไปในมิติปราณแท้จริงของวายุอัสนีธาตุไฟทั้งหมด
ยามนี้ วายุอัสนีธาตุไฟของจ้าวเฟิงแฝงไว้ด้วยกลิ่นอายโบราณดึกดำบรรพ์ พลังอัสนีก็ยิ่งบริสุทธิ์ขึ้นไปอีก
ขณะเดียวกัน พลังสายฟ้าบรรพกาลก็มีประโยชน์ต่อการฝึกฝนวายุอัสนีธาตุไฟของจ้าวเฟิงพอสมควร
ตอนนี้มิติส่วนตัวจากวายุอัสนีธาตุไฟเกาะกลุ่มกันอย่างสมบูรณ์
ยามที่วายุอัสนีธาตุไฟล้นทะลัก กลิ่นอายพลังของมิติส่วนตัวในมนตราอากาศเกิดความปั่นป่วน แฝงไว้ซึ่งความไม่มั่นคง
ในช่วงเวลาเดียวกัน จ้าวเฟิงยังนำวายุอัสนีธาตุไฟและสายเลือดเพลิงมารโลหิตหลอมรวมเข้าด้วยกัน จนกลายเป็นเพลิงโลหิตอัสนีสีชาด มีทั้งการปะทุและพลังความน่าเกรงขาม หากรวมพลังอัสนีเทวะเข้าไปอีก พลานุภาพสามารถสร้างอาการบาดเจ็บให้กับเซียนได้เลย
ใบหน้าของจ้าวเฟิงปีติยินดี รู้สึกอดใจรอไม่ไหว อยากจะทดลองพลังเสียหน่อย
เขายังจำได้ว่า ตอนที่สู้กับเจ้าลัทธิมารเก้านิรย ปราณแท้จริงเพลิงโลหิตอัสนีของตนยังไม่ทันจะโจมตีอีกฝ่าย ก็โดนพลังเทวาเร้นลับที่แข็งแกร่งกว่าสั่นสะเทือนจนแตกกระจายออก
บัดนี้จะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว!
“อืม เขตแดนวายุอัสนีก่อตัวเป็นรูปสำเร็จแล้ว!”
จ้าวเฟิงสัมผัสได้ถึงความผิดปกติ จิตใจสั่นไหว
ในช่วงระยะนี้ ถึงแม้เขาจะฝึกพลังสายฟ้าบรรพกาลอยู่ตลอด แต่ก็ใช้ ‘วิชาหมื่นห้วงคิดเซียน’ แบ่งห้วงคิดออก เขตแดนวายุอัสนีก็ยังคงก่อตัวไปพร้อมกัน
“จะหลอมรวมพลังสายฟ้าบรรพกาลเข้าไปในเขตแดนวายุอัสนีเพื่อเพิ่มอานุภาพของมันได้หรือไม่?”
จู่ๆ จ้าวเฟิงก็นึกถึงปัญหานี้ขึ้นมา พาหะนำสายฟ้าบรรพกาลในมือเขามีน้อยเกินไป จึงไม่อาจตัดสินใจผลีผลามได้ ทว่าไม่นานนักเขาก็ปฏิเสธความคิดนี้ แต่เดิมเขาวางแผนไว้ว่า เมื่อสร้างเขตแดนวายุอัสนีสำเร็จแล้ว ก็จะเลือกเขตแดนเมืองมายาหรือไม่ก็เขตแดนวายุอัสนีอย่างใดอย่างหนึ่งมาสร้างเป็นโลกมิติส่วนตัว หากทำเช่นนี้ ไม่สู้รอให้เค้าโครงโลกมิติส่วนตัวสำเร็จแล้ว ค่อยนำพลังสายฟ้าบรรพกาลหลอมรวมไปในนั้น
“เอาความคิดนี้วางไว้ก่อน คิดก่อนว่าจะเลือกเขตแดนวายุอัสนีหรือเขตแดนเมืองมายาดี!”
ในความทรงจำของจ้าวเฟิงมีข้อมูลเรื่องโลกมิติส่วนตัวเยอะแยะมากมาย
โลกมิติส่วนตัวสร้างอยู่บนแหล่งกำเนิดพลังชนิดใดชนิดหนึ่ง และอาศัยพลังนี้ทำให้พลังจิตวิญญาณที่เป็นภาพมายากลายเป็นของจริงที่จับต้องได้ อีกทั้งจนถึงในตอนนี้ เขาสู้กับจักรพรรดิมานับไม่ถ้วน พลังของโลกมิติส่วนตัวไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่
หนึ่งในนั้น มิติส่วนตัวเทพปีศาจของหนานกงเซิ่งและมิติส่วนตัวขั้นเซียนของเจ้าลัทธิมารเก้านิรย ทำให้เขารู้ลึกซึ้งมากที่สุด
เขาจึงคาดหวังในพลังของโลกมิติส่วนตัวเป็นอย่างมาก แต่ก็จะทำส่งๆ ไม่ได้ จะต้องคิดอย่างตั้งใจ ระหว่างทั้งสองต้องมีอย่างหนึ่งที่เหมาะสมกว่า
“พลังความสามารถใหม่จากการแปรสภาพของดวงตาซ้าย ไม่นับว่าเป็นชั้นจิตวิญญาณ แต่ช่วงนี้ข้าฝึกบำเพ็ญพลังวายุอัสนีค่อนข้างมาก หนำซ้ำยังมีพาหะนำของสายฟ้าบรรพกาล แม้กระทั่ง….”
ในชั่วขณะที่อยู่ในห้วงความคิด จู่ๆ ใบหน้าของจ้าวเฟิงก็ตื่นตระหนกสุดขีด
ฉับพลันนั้นเขาก็คิดได้ ในตอนนี้อาจเป็นช่วงเวลาในการสร้างมิติส่วนตัววายุอัสนีที่ยอดเยี่ยมที่สุดก็เป็นได้
พายุฝนฟ้าคะนองให้ห้วงฝันบรรพกาล!
ในห้วงฝันบรรพกาล เขาไม่กล้าขับเคลื่อนพลังกายสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์เพื่อดูดซับสายฟ้าบรรพกาล แต่ถ้าหากเลียนแบบและจำลองพายุฝนฟ้าคะนองในห้วงฝันบรรพกาล แล้วสร้างเป็นมิติส่วนตัวล่ะ?
สร้างโลกมิติส่วนตัวแบบย่อส่วนที่คล้ายกับพายุฝนฟ้าคะนอง!
“แต่ก็ยังมีความเสี่ยงพอควร!”
แววตาของจ้าวเฟิงสบนิ่งลง สายฟ้าบรรพกาลไม่ใช่ของล้อเล่น แต่ว่าอันตรายก็น้อยมาก นอกจากนั้น จ้าวเฟิงยังสามารถเก็บภาพในห้วงฝันบรรพกาลเข้าไปในมิติดวงตาซ้าย เอาไว้ใช้ในภายภาคหน้าได้
“ลองดูก่อนก็แล้วกัน!”
สีหน้าของจ้าวเฟิงจริงจัง จิตสำนึกเข้าไปในมิติดวงตาซ้าย
ชั่วขณะต่อมา จ้าวเฟิงก็มาปรากฏอยู่ท่ามกลางภาพย้อนเหตุการณ์ในห้วงฝันบรรพกาล ท้องฟ้ามืดมัว พายุฝนฟ้าคะนองยังคงทรงพลังเช่นเดิม