Skip to content

กี่ชาติกี่ภพข้าก็จะไม่ยอมให้เจ้ามีความสุข 10

Cover Kj

Chapter 10 (18+)หลอกล่อให้นางยอม

เจ๋อหมิงหลั่งธารขุ่นไว้ในกายนายหญิง หว่านหรงแทบจะหลับไปทันที นางครางจนเสียงแหบแห้ง สุขสมจนล้นปรี่ เจ๋อหมิงดึงแท่งหยกออกมา เขาลุกขึ้นลงจากเตียง หว่านหรงเห็นแท่งหยกของเขา มันเป็นสีน้ำตาลอ่อน น่าจะยาวเกินคืบนิ้วมือของนาง ขนาดมันใหญ่เกือบๆ เท่าข้อมือนาง นางมองแท่งหยกนั้นอย่างตกตะลึง สิ่งนั้นน่ะหรือที่เข้าไปในตัวนาง!

นางไม่รู้ว่าแท่งหยกของบุรุษคนอื่นเป็นอย่างไร นางเห็นแท่งหยกของสามี ถ้าเทียบกับแท่งหยกของเจ๋อหมิงแล้วของสามีมันดูกุดๆ ด้วนๆ ส่วนแท่งหยกของเจ๋อหมิงก็ตามขนาดที่เห็นนั่นแหละ นางมองจ้องแท่งหยกของเจ๋อหมิง นึกถึงความเสียวที่ได้รับ ก็รู้สึกตะขิดตะขวงใจ นางชอบความเสียวนั้น แต่นางก็เกลียดเขา โกรธเขา แล้วก็เกลียดสามี โกรธสามีด้วย “อึก…อึก…”

น้ำตานางคลอในดวงตา หนานกงเยี่ยนได้ยินเสียงนั้นเขาเงยหน้าจากเนินอกนาง เห็นนางน้ำตาคลอเขาก็ร้อนรนแล้ว “ไอหยา!ๆ หรงเอ๋อร์อย่าร้อง อย่าร้อง”

“อึก…อึก…อึก…” หว่านหรงเม้มปากกลั้นน้ำตาเอาไว้ นางเบือนหน้าไปด้านข้าง ไม่อยากให้ใครเห็นน้ำตาของนาง หนานกงเยี่ยนไม่รู้จะปลอบนางอย่างไรดี เขาไม่ถนัดปลอบใจสตรีร้องไห้จริงๆ เขามองเจ๋อหมิง “เจ้าช่วยข้าหน่อยซิ”

เจ๋อหมิงจึงก้าวขึ้นเตียง เขาแก้เชือกที่มัดข้อมือนายหญิงออก ทันทีที่เชือกหลุดออกหว่านหรงก็ลุกขึ้นกระถดตัวหนี พลางตวาดใส่พวกเขาอย่างโกรธเคือง “พวกเจ้าทำเช่นนี้กับข้าได้อย่างไร!? ท่านพี่! ท่านทำอย่างนี้กับข้าได้อย่างไร!? ข้าเกลียดท่าน!”

เจ๋อหมิงดึงนายหญิงเข้ามากอดรัดแน่น หว่านหรงทุบตีเขาปึก! ปัก! “ปล่อยข้า! เจ้าปล่อยข้านะ!”

เจ๋อหมิงไม่ปล่อย เขากอดนางแน่น ปล่อยให้นางทุบตีเขาระบายอารมณ์ไป หว่านหรงทุบปึกปักๆ… “ปล่อยข้า! ข้าบอกให้ปล่อย!”

นางทุบเขาปึกปักๆ จนนางเจ็บมือ นางร้องไห้ออกมา “ฮือๆๆๆ…ปล่อยข้าซิ ข้าบอกให้ปล่อย! ฮือๆๆๆ…”

นางทุบเขาอีกสองสามทีแล้วก็รามือพลางร้องไห้สะอึกสะอื้น “ฮือๆๆๆ…”

“หรงเอ๋อร์” หนานกงเยี่ยนยื่นมือไปจับไหล่นาง หว่านหรงสะบัดไหล่ออก หันไปมองสามีตาขุ่น “อึก…อึก…”

“นายหญิง ท่านรังเกียจข้ารึ?” เจ๋อหมิงถามหลังจากที่เห็นนางไม่ร้องไห้ฮือๆ แล้ว หว่านหรงหันไปมองเจ๋อหมิง รังเกียจหรือ?

ไม่ นางไม่ได้รังเกียจเขา นางโกรธเขา เกลียดเขา เกลียดที่เขาทำตามคำสั่งของสามีนางต่างหาก

“นายหญิง ข้าดีใจที่ท่านเป็นนายหญิงของข้า หากว่าเปลี่ยนเป็นแม่นางหว่านหรูอี้ ข้าคงเสพสมกับนางไม่ลง” เจ๋อหมิงพูดขึ้นมา หว่านหรงกะพริบตาปริบๆ มองเขา “ไยเจ้าจึงจะเสพสมกับนางไม่ลง?”

“นางน่าเกลียด” เจ๋อหมิงบอก หว่านหรงอึ้งงันไป พี่สาวต่างมารดาของนางออกจะงดงามปานนั้น กลับถูกบ่าวคนหนึ่งบอกว่า ‘น่าเกลียด’ งั้นรึ!?

“นางงดงามถึงเพียงนั้นเจ้าบอกว่านางน่าเกลียดได้อย่างไร? เจ้าตาบอดแล้วกระมัง?” นางถามพลางจ้องเจ๋อหมิง เจ๋อหมิงมองนายหญิง เอ่ยว่า “ถ้าเทียบกับสตรีทั่วไป นางก็ถือว่างดงามอยู่ แต่ถ้าเทียบกับท่าน นางน่าเกลียด โดยเฉพาะจิตใจนางยิ่งน่าเกลียด นางจิตใจชั่วช้าหาความดีงามไม่เจอ ข้าดีใจที่ท่านเป็นนายหญิงของข้า หากว่าเป็นนางต่อให้นายท่านจะฆ่าข้าให้ตายข้าก็ไม่มีวันเสพสมกับนาง”

หว่านหรงฟังแล้วรู้สึกหัวใจชุ่มฉ่ำอย่างประหลาด ความรู้สึกนี้ทำให้นางเกลียดเขาน้อยลงนิดหนึ่งกระมัง

“หากนายหญิงรังเกียจข้า ท่านก็ตัดแท่งหยกของข้าเลยซิ” เจ๋อหมิงบอก พลางจับมือนายหญิงไปจับแท่งหยกของเขา หว่านหรงอึ้งงันไป นางมองมือตัวเองที่ทาบอยู่บนแท่งหยกแท่งนั้น มันนุ่มๆ ทำให้นางเผลอจับๆ คล้ายกับอยากรู้อยากเห็น พลัน! มันเหยียดขยายออก

นางมองมันอย่างอึ้งๆ นางจับๆ แตะๆ สงสัยว่ามันโตขึ้นได้อย่างไร? “นี่?”

เจ๋อหมิงจับมือนายหญิงกำรอบแท่งหยก รูดขึ้นรูดลง ทำให้แท่งหยกเหยียดขยายใหญ่ขึ้นอีก หว่านหรงมองอย่างสงสัยใคร่รู้ “มันโตขึ้น!”

เจ๋อหมิงทำหน้าเฉย ในดวงตามีแววอมยิ้ม นายหญิงเป็นสาวน้อยที่ไม่เคยรู้เรื่องร่างกายของบุรุษ นางก็เหมือนเด็กน้อยที่อยากรู้อยากเห็นนั่นแหละ “มันโตขึ้นเพราะท่าน มันอยากทำให้ท่านมีความสุข”

หว่านหรงกำลังสนใจแท่งหยก นางจึงไม่เห็นสายตาของเจ๋อหมิงที่ส่งสายตากับสามีของนาง พวกเขาสองคนส่งสายตากันไปส่งสายตากันมาครู่หนึ่งพลางขยับปากไร้เสียงพูด

“มันทำให้ท่านเสียวไหมขอรับ?” เจ๋อหมิงถามพลางจับมือนางรูดขึ้นรูดลง มือนางช่างนุ่มมาก ทำให้เขารู้สึกดีมาก มือเล็กๆ ของนางเทียบกับมือเขาแล้วมือเขาใหญ่กว่ามือนางเท่าตัวเลยทีเดียว

“อื้ม เสียว” หว่านหรงตอบอย่างหลุดปาก นางกำลังสนใจว่าแท่งหยกโตได้อย่างไร?

มันนุ่มๆ แข็งๆ และอุ่นมาก นางเห็นตรงปลายมีรูเล็กๆ มีน้ำใสๆ นิดหนึ่งอยู่ตรงรูนั้น นางมองอย่างสงสัยใคร่รู้

“นายหญิง ข้าอยากใส่มันเข้าไปในตัวท่านอีกครั้ง” เจ๋อหมิงบอก หว่านหรงชะงักงันไป นางจ้องมองแท่งหยกแท่งนั้นเขม็ง “ใส่เข้ามาอีกหรือ?”

นางคิดถึงตอนที่มันอยู่ในตัวนาง ก็รู้สึกเสียววูบวาบขึ้นมารางๆ เจ๋อหมิงค่อยๆ ลูบแผ่นหลังนางแผ่วเบา หว่านหรงยังคงจ้องมองแท่งหยกคล้ายกับกำลังคิด จะยอมให้ใส่เข้าไปหรือไม่ยอม?

ขณะที่นางกำลังคิด เจ๋อหมิงก็ลูบไล้แผ่นหลังของนางพลางส่งสายตากับนายท่าน หนานกงเยี่ยนขยับเข้าไปด้านหลังนาง ค่อยๆ ยื่นมือไปด้านหน้านางอย่างแผ่วเบา ลูบไล้ดอกบัวตูมคู่นั้นอย่างแผ่วเบายิ่ง หว่านหรงรู้สึกเสียววูบวาบ นางละสายตาจากแท่งหยกมองดอกบัวของนาง เห็นมือคู่หนึ่งกำลังลูบดอกบัวคู่นั้น นางหันไปมองด้านหลังก็พบว่าสามีเข้ามาประชิดตัวตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ “ฮื้อ! ท่านพี่!”

หนานกงเยี่ยนจับใบหน้านางประกบจูบ หว่านหรงอยากจะผลักเขาออกแต่ว่านางก็ลังเล ลิ้นอุ่นแทรกเข้ามาในปากนาง พัวพันกับลิ้นนางไปมา เจ๋อหมิงก็เลื่อนมือไปจับดอกไม้งามคลึงบี้ หว่านหรงเสียววาบ นางหน้าแดงระเรื่อ ส่งเสียงอือๆ อยู่ในปาก

หนานกงเยี่ยนจูบอยู่พักใหญ่ก็ดันตัวนางลงนอน ตัวเขาเองก็ขยับไปด้านข้าง แล้วก้มลงไปดูดดอกบัวตูม หว่านหรงส่งเสียงคล้ายประท้วง “อื้อ!”

เจ๋อหมิงลูบคลึงดอกไม้งาม เขามองดูนางที่ยังมีท่าทีขัดขืน เขาบี้เกสรเบาๆ ไม่ได้สอดนิ้วเข้ารู เขาต้องการให้นางเป็นคนร้องขอเอง เมื่อนางร้องขอเอง นางก็จะเลิกขัดขืน หึๆๆๆ…

ใช่ นี่คือแผนของพวกเขา ต้องทำให้นางอ้อนวอนขอร้องพวกเขา ฮี่ๆๆๆ…

หนานกงเยี่ยนปลุกเร้าด้านบน เจ๋อหมิงปลุกเร้าด้านล่าง นางจะทนไปได้นานสักเท่าไหร่เชียว ฮี่ๆๆๆ…

“อื้อ…” หว่านหรงครางออกมา นางเสียวซ่าน รู้สึกต้องการมากกว่านี้ แต่ว่าพวกเขาไม่ได้ทำให้นางแตะขอบสวรรค์เลย นางเหมือนกำลังลอยคออยู่กลางน้ำ ยังไปไม่ถึงฝั่ง พวกเขาทำให้นางเสียวซ่าน แต่ว่ามันไม่มากพอที่จะทำให้นางสุขสมแตะขอบสวรรค์!

“อื้อ…ท่านพี่…” นางครางเรียกเขา

“หืม?” หนานกงเยี่ยนส่งเสียงตอบ หว่านหรงจับแขนเขาเขย่าเบาๆ “อื้อ…ท่านพี่…”

หนานกงเยี่ยนผละจากดอกบัว ยืดตัวขึ้นมองหน้านาง “หรงเอ๋อร์ ต้องการอะไรรึ?”

“ฮื้อ!” หว่านหรงส่งเสียงสูงคล้ายขัดอกขัดใจ หนานกงเยี่ยนทำไม่รู้ไม่ชี้ เขาต้องการให้นางเป็นฝ่ายร้องขอ ดังนั้นก็ต้องให้นางพูดออกมาซิ! ฮี่ๆๆๆ…

“ท่านพี่ ฮื้อ!” หว่านหรงเรียกเสียงสูงอย่างขัดอกขัดใจ หนานกงเยี่ยนบอก “เจ้าต้องการอะไรก็บอกซิ ข้าทำให้เจ้าทุกอย่างนั่นแหละ”

หว่านหรงหน้าแดงไม่กล้าบอก นางส่งเสียงขัดอกขัดใจ “ฮื้อ!”

“เจ้าไม่บอก ข้าก็ไม่รู้” หนานกงเยี่ยนบอกอย่างแกล้งโง่ หว่านหรงโมโหจึงพูดโพล่งว่า “ข้าอยากให้ท่านทำให้ข้ามีความสุข!”

“ทำให้เจ้ามีความสุข?” หนานกงเยี่ยนแกล้งโง่ต่อไป “ข้าควรจะทำแบบไหนล่ะ?”

“ท่านพี่น่ะ!” หว่านหรงโมโหจนทุบเขาไปทีหนึ่ง ปึก!

“โอ๊ย!” หนานกงเยี่ยนแกล้งร้อง “หรงเอ๋อร์ เจ้าต้องการให้ข้าทำอย่างไร เจ้าก็พูดออกมาซิ เจ้าไม่บอกแล้วข้าจะรู้ได้อย่างไรล่ะ”

“ข้าต้องการแท่งหยกของเขาใส่เข้ามาในตัวข้า!” หว่านหรงแทบจะตะโกนบอกอย่างโมโห หนานกงเยี่ยนยิ้มสมใจ “ได้ซิ หรงเอ๋อร์ต้องการ ข้าทำให้เจ้าทุกอย่างเลย”

เจ๋อหมิงที่รอจนแท่งหยดปวดหนึบจึงรีบจับแท่งหยกดันเข้ารูนุ่มทันที หว่านหรงส่งเสียง “อือ…”

หนานกงเยี่ยนก้มลงไปดูดดอกบัวต่อ มือเขาก็ลูบไล้ตัวนางไปด้วย เจ๋อหมิงดันแท่งหยกเข้าไปแล้วเริ่มต้นกระแทกกระทั้นถี่ๆ หว่านหรงคราง “อื้อ…อื้อ…”

นางเสียวจนแอ่นสะโพกรับจังหวะเขา เนื้อกระทบเนื้อจนส่งเสียงดัง ตับๆๆๆๆ…

บุรุษทั้งสองช่วยกันปรนเปรอนาง จนนางครางเสียงแหบเสียงแห้งอีกครา กว่าเจ๋อหมิงจะสุขสมเขาก็ทำให้นายหญิงแตะขอบสวรรค์ไปหลายหน หลังจากหลั่งธารขุ่นอีกครั้ง เจ๋อหมิงก็ถอนแท่งหยกออกมาแล้วล้มตัวลงนอนกอดนายหญิงเอาไว้ หนานกงเยี่ยนก็กอดฮูหยินของเขาเอาไว้เช่นกัน บุรุษทั้งสองนอนขนาบข้างหว่านหรง หว่านหรงนอนตรงกลางระหว่างพวกเขา ทั้ง 3 คนหลับไปด้วยกัน

จวบจนเกือบเที่ยงวัน เจ๋อหมิงก็ลืมตาตื่น เขายังไม่ขยับตัว เขามองนายหญิงที่นอนตะแคงหันหลังให้เขา เส้นผมนุ่มลื่นของนางระใบหน้าเขา เขาเกี่ยวเส้นผมปอยหนึ่งมาสูดดม หนานกงเยี่ยนลืมตาตื่น เขามองเห็นหน้าเจ๋อหมิงก็เกือบจะร้องออกมา ดีที่เขากลั้นไว้ทัน เขาจำได้ว่าเมื่อคืนนี้เจ๋อหมิงไม่ได้กลับออกไป เขารู้สึกถึงลมหายใจอุ่นๆ เป่าที่อก เขาก้มลงดูจึงเห็นศีรษะดำมันเงาของฮูหยินซุกอยู่กับอกเขา ทำเขายิ้มบางๆ

“อือ…” หว่านหรงส่งเสียงงัวเงีย นางลืมตาตื่นอย่างสะลึมสะลือ รู้สึกถึงน้ำหนักที่พาดอยู่บนต้นแขนกับเอว นางจึงเหลือบมอง เห็นท่อนแขน 2 ท่อนพาดอยู่บนตัวนาง นางกะพริบตาปริบๆ ครั้นจำได้ว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อคืนนางก็หน้าแดงแปร๊ด อีกทั้งนางยังไม่ได้สวมอาภรณ์ นางรีบลุกขึ้น ลงจากเตียงแบบคลานข้ามตัวสามีไป นางเห็นอาภรณ์ชุดหนึ่งพับวางอยู่บนชั้นข้างผนัง นางรีบก้าวเร็วๆ ไปคว้าอาภรณ์ชุดนั้นมาสวมอย่างเร่งรีบ หนานกงเยี่ยนมองฮูหยินตาปริบๆ เขาหันไปมองเจ๋อหมิงแล้วทำหน้าผวา “เย้ยยยย…”

นอนร่วมเตียงกับบุรุษด้วยกันเองทำให้เขาขนลุกขนพองขึ้นมา เขารีบก้าวลงจากเตียงไปทันที คว้ากางเกงมาใส่พลางหันไปไล่เจ๋อหมิง “เจ้าไปได้แล้ว”

เจ๋อหมิงทำหน้าเซ็ง เขาก็ไม่ได้อยากนอนร่วมเตียงกับบุรุษเช่นกัน เขาอยากนอนกอดนายหญิงต่างหาก เขาลุกออกจากเตียง คว้าอาภรณ์ของตัวเองที่กองอยู่ตรงพื้นข้างหัวเตียงขึ้นมาใส่ จากนั้นก็เปิดประตูห้องเดินออกไป

หว่านหรงมองตามเจ๋อหมิงไปอย่างรู้สึกกระอักกระอ่วนใจ นางยังทำใจยอมรับเรื่องนั้นไม่ได้

แต่ว่าเมื่อคืนเป็นนางที่เอ่ยปากให้เขาทำ นางได้แต่ด่าตัวเองในใจ ‘ไม่น่าปล่อยให้ตัณหาครอบงำเลยจริงๆ’

“หรงเอ๋อร์” หนานกงเยี่ยนเดินไปกอดฮูหยิน หว่านหรงมองเขาอย่างยังรู้สึกโกรธเคือง นางดันเขาออก มือหนึ่งก็จับสาบเสื้อเอาไว้ เพราะว่าเสื้อตัวนี้น่าจะเป็นของสามีกระมัง เมื่อสวมอยู่บนตัวนางมันจึงหลวมโพรก คอเสื้อตกไปถึงไหล่เลยทีเดียว สามีนางรูปร่างสูงใหญ่พอๆ กับเจ๋อหมิงนั่นแหละ ตัวนางเมื่อเทียบกับพวกเขาแล้วต่างกันเกือบเท่าตัวเลย นางสูงแค่อกพวกเขาเอง

“หรงเอ๋อร์” หนานกงเยี่ยนเรียกเสียงนุ่ม เขาพยายามง้อนาง หว่านหรงถลึงตามองเขา “ข้าจะไปอาบน้ำ ท่านไม่ต้องตามมานะ”

“หรงเอ๋อร์” หนานกงเยี่ยนเรียกอีก หว่านหรงเดินไปที่ประตูแล้วเปิดประตูเดินออกไป นางเดินไปทางบ่อน้ำร้อนเมื่อคืนนี้ หนานกงเยี่ยนเดินตามนางไปห่างๆ เมื่อนางหันกลับมามองเขาทีไร เขาก็จะหยุดก้าวเดินแล้วหันหน้าไปทำเป็นมองต้นไม้ใบหญ้า หว่านหรงโกรธเคืองจนแทบอยากจะหาอะไรขว้างเขาจริงๆ แต่ว่าในบริเวณนั้นไม่มีสิ่งของอะไรพอให้หยิบมาขว้างได้เลย มีแต่กระถางต้นไม้ที่เป็นกระถางลายครามใบใหญ่มาก นางยกไม่ไหวหรอก หากว่ายกไหวนางคงยกทุ่มใส่สามีสักที ฮึ่ม!

“ฮึ!” นางค้อนขวับๆ แล้วเดินต่อไป

เมื่อไปถึงบ่อน้ำร้อน นางหันไปมองสามีทีหนึ่ง แล้วปล่อยอาภรณ์ให้หลุดจากตัว อาภรณ์เลื่อนลงไปกองกับพื้น ตัวนางเปลือยเปล่า ก้าวลงบ่อน้ำร้อน หนานกงเยี่ยนมองฮูหยินแล้วรู้สึกอารมณ์พลุ่งพล่านขึ้นมา อยากจะพุ่งไปกอดจูบนางเสียเดี๋ยวนั้น หว่านหรงลงไปนั่งในบ่อน้ำร้อนแล้วหันไปมองสามีพลางบอก “ข้าไม่มีอาภรณ์จะใส่”

“อ่า…” หนานกงเยี่ยนอึ้งงันไป ครู่ต่อมาเขาก็ร้องเรียก “เจ๋อหมิง ไปหาอาภรณ์มาให้นายหญิง”

“ขอรับ” เสียงเจ๋อหมิงดังมาจากทางด้านหนึ่ง หว่านหรงสะดุ้ง “อ่ะ!”

นางหันมองไปตามเสียง แล้วก็เห็นเจ๋อหมิงยืนอยู่ตรงสุดทางเดินบนระเบียงเรือน ทำนางหน้าแดงฉ่า! เขายืนอยู่ตรงนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่? หากว่าตั้งแต่ก่อนนางจะลงมาในบ่อ เช่นนั้นเขาก็ย่อมเห็นนางเปลือยน่ะซิ!

นางหดตัวลงไปจนคางปริ่มน้ำ อายแสนอาย ครั้นคิดๆ อีกที เขาก็เคยเห็นนางเปลือยแล้วนี่ นางยังจะต้องอายอะไรอีก แต่ว่านางก็รู้สึกอายอยู่ดีนั่นแหละ ฉ่า!

หนานกงเยี่ยนก้าวไปกำลังจะลงจากระเบียงทางเดิน หว่านหรงเห็นเช่นนั้นจึงตวาดว่า “ท่านไม่ต้องมาใกล้ข้าเลยนะ! ข้าเกลียดท่าน!”

“หรงเอ๋อร์” หนานกงเยี่ยนเรียกเสียงอ่อน เท้าชะงักหยุดกึกอยู่ตรงนั้น แล้วโอดครวญว่า “ข้าจะอาบน้ำ เจ้าไม่ให้ข้าลงบ่อแล้วข้าจะอาบน้ำได้อย่างไร”

เขาก้าวเท้าไป 1 ก้าว มองสีหน้านาง หว่านหรงสะบัดหน้าไปอย่างโกรธเคือง นางรีบๆ ถูเนื้อตัวแล้วขึ้นจากบ่อ หยิบเสื้อมาสวมคลุมตัวแล้วเดินเลี่ยงไปขึ้นระเบียงทางเดินอีกด้านหนึ่ง หนานกงเยี่ยนทำหน้าอ่อนอกอ่อนใจ “เฮ้อ…”

เขารีบถอดกางเกงแล้วก้าวลงบ่อน้ำร้อนไป รีบขัดๆ ถูๆ ตัวแล้วก็รีบขึ้นไปสวมกางเกง จากนั้นก็รีบเดินตามนางไป นางเดินเข้าห้องนอนไปแล้ว ซ้ำยังขัดกลอนประตูเอาไว้ เขายืนเรียกนางอยู่หน้าประตู “หรงเอ๋อร์ ข้าต้องใส่อาภรณ์ เจ้าปิดประตูเช่นนี้ ข้าจะเอาอาภรณ์ที่ไหนใส่ล่ะ”

หว่านหรงเดินไปที่หีบใส่ของ นางเปิดหีบดู เห็นอาภรณ์บุรุษพับเรียงอยู่ในหีบ นางจึงหยิบออกมาชุดหนึ่งแล้วเดินไปแง้มประตูยื่นอาภรณ์ให้เขา “อื้อ!”

หนานกงเยี่ยนรับอาภรณ์มา หว่านหรงปิดประตูทันที หนานกงเยี่ยนมองประตู หากว่าเขาคิดจะผลักเข้าไปเขาก็ทำได้ แต่ว่าเขาไม่อยากให้นางโกรธเกลียดเขาไปมากกว่านี้ รอให้นางอารมณ์ดีกว่านี้หน่อยแล้วค่อย ‘กล่อม’ นางให้เชื่องเชื่อ ฮี่ๆๆๆ…

เขากับนางเป็นสามีภรรยากันแล้ว นางจะโกรธเกลียดเขาไปได้นานสักเท่าไหร่เชียว เขาแต่งตัวแล้วเดินไปทางห้องโถงด้านหน้า แน่นอนว่าบ่าวถูกสั่งห้ามไม่ให้เข้าใกล้เรือนใหญ่ ดังนั้นในบริเวณนี้จึงไม่มีใครเลย เขาจึงเดินออกจากเรือนใหญ่ ไปทางเรือนด้านหน้า จนเจอกับบ่าวไพร่ เขาจึงสั่ง “ยกอาหารไปที่เรือนใหญ่ ข้าหิวแล้ว”

“ขอรับ” บ่าวรับคำสั่ง หนานกงเยี่ยนเดินกลับไปที่เรือนใหญ่ เขานั่งรอที่เก้าอี้ สักพักใหญ่พวกบ่าวก็ยกอาหารมา “นายท่านขอรับ”

“อืม” หนานกงเยี่ยนหลิ่วตาสั่ง พวกบ่าวจึงเดินเข้าไปวางอาหารแล้วถอยออกไป พวกเขากลับไปที่เรือนด้านหน้าทำงานต่อ เพราะพวกเขาถูกสั่งห้ามไม่ให้เข้าใกล้เรือนใหญ่หากว่านายท่านไม่ได้เรียกหา พวกเขาพอจะเข้าใจคำสั่งเช่นนี้ นายท่านเพิ่งจะแต่งงานได้ไม่กี่วัน นายท่านพานายหญิงมาที่นี่ แน่นอนว่านายท่านย่อมไม่ต้องการให้ใครเข้าไปได้ยินเสียงที่ไม่ควรได้ยิน ฮี่ๆๆๆ…

หนานกงเยี่ยนมองอาหารแล้วลุกขึ้นเดินไปที่ห้องนอน ร้องเรียกอยู่หน้าประตู “หรงเอ๋อร์ ออกมากินข้าวเถอะ ข้าให้คนทำกับข้าวที่เจ้าชอบทั้งนั้นเลยนะ”

หว่านหรงอยากจะปฏิเสธ แต่ว่านางรู้สึกหิวแล้ว นางจะไม่ออกไปกินข้าวก็ไม่อาจทนความหิวไหว นางเคยอด เคยหิว รู้ดีว่าความหิวมันโหดร้าย ทรมานเพียงใด ดังนั้นออกไปกินข้าวก่อนเถอะ ส่วนสามี นางไม่พูดกับเขาก็ได้ ไม่ต้องมองเขาก็ได้ ฮึ!

นางเปิดประตูเดินออกไป หนานกงเยี่ยนยิ้มแย้ม “มาๆ”

เขาคว้าข้อมือนาง หว่านหรงดึงมือหลบ พลางก้าวถอยหลัง “อย่ามาจับข้านะ!”

“เอ่อ…” หนานกงเยี่ยนชะงักไป เขากลัวนางจะหนีเข้าห้องไม่ยอมออกไปกินข้าว เขาจึงหมุนตัวเดินนำหน้าไป หว่านหรงเดินตามไปห่างๆ หนานกงเยี่ยนหยุดก้าว หันไปมองฮูหยิน หว่านหรงก็หยุดก้าวเหมือนกัน นางมองเขาอย่างระวังตัว ถ้าเขาก้าวมาหานางเมื่อไหร่นางจะวิ่งกลับเข้าห้องนอนไปทันที หนานกงเยี่ยนหันหน้าไปแล้วเดินต่อ หว่านหรงถอนหายใจโล่งอก “เฮ้อ…”

นางเดินตามเขาไป รักษาระยะห่างจากเขา หนานกงเยี่ยนหยุดเดิน เขาเหล่มองนางแล้วก้าวถอยหลัง หว่านหรงสะดุ้งผวา นางก้าวถอยหลังไปทันที หนานกงเยี่ยนยิ้มขำ เขาหยุดก้าวถอยหลังแล้วเดินไปข้างหน้าต่อ หว่านหรงมองสามี มองเขาเดินห่างออกไป นางเดินตามเขาไป รักษาระยะห่างจากเขา หนานกงเยี่ยนเดินไปได้นิดหนึ่งก็หยุดเท้า ก้าวถอยหลังอีก หว่านหรงผวา! นางก้าวถอยหลังทันที หนานกงเยี่ยนหยุดเท้า เหล่มองนาง ยิ้มขำจนแทบจะหัวเราะออกมา เขาเดินก้าวไปข้างหน้าต่อ

หากบ่าวไพร่ได้มาเห็นภาพนี้ พวกเขาคงประหลาดใจแน่ คนหนึ่งเดินนำหน้า เดี๋ยวหยุด เดี๋ยวถอยหลัง อีกคนเดินตามเดี๋ยวหยุดเดี๋ยวถอยเช่นกัน ‘ไม่รู้ว่านายท่านกับนายหญิงเล่นอะไรกัน’ แต่คนที่คิดเช่นนี้ก็คือเจ๋อหมิงที่นำอาภรณ์สตรีกลับมาจากด้านนอก เขาออกไปนำอาภรณ์มาให้นายหญิง กลับมาก็เห็นภาพเช่นนั้น ช่างชวนให้สงสัยใคร่รู้จริงๆ เขาเห็นนายหญิงสวมอาภรณ์ของนายท่าน ชายเสื้อยาวลากพื้น แขนเสื้อก็ยาวเลยมือนายหญิงไปเยอะ เขาเห็นขากางเกงดูเหมือนจะถูกพับขึ้นไป ทำให้นายหญิงดูเหมือนเด็กเล็กๆ ที่เอาอาภรณ์ของผู้ใหญ่ไปใส่อย่างไรอย่างนั้น ช่างดูน่ารักน่ากอดมากทีเดียว เขามองนายหญิงครู่หนึ่งแล้วนำอาภรณ์นายหญิงไปไว้ในห้องนอน

หนานกงเยี่ยนเดินอมยิ้มไปจนถึงห้องโถง เขานั่งลงพลางหยิบตะเกียบมาคีบกับใส่ชามข้าวของนาง “มาๆ หรงเอ๋อร์”

หว่านหรงคว้าชามข้าวแล้วไปนั่งเสียห่างจากสามีมากนัก นางนั่งลงกินข้าว รีบเคี้ยวรีบกลืน เพื่อที่จะได้รีบกลับห้องนอนไป ไม่ต้องเห็นหน้าสามี ฮึ!

หนานกงเยี่ยนบอก “ค่อยๆ กินก็ได้ ไม่มีใครแย่งเจ้าหรอก”

“ข้าไม่ได้กลัวใครแย่ง ข้าไม่อยากเห็นหน้าท่านต่างหากล่ะ ฮึ!” หว่านหรงพูดแล้วคีบกับพุ้ยข้าวกินตุ้ยๆ หนานกงเยี่ยนยิ้มอ่อนๆ ฮูหยินของเขาช่างน่าสนใจจริงๆ หึๆๆๆ…

เขากินข้าวไปพลางมองนางไปด้วย หว่านหรงพยายามไม่มองสามี นางเมินเฉยใส่เขา พลางเร่งกินข้าวให้อิ่ม

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!