Skip to content

Outside Of Time 1054

Outside of Time
BC

บทที่ 1054 ศึกกางปีกปกป้อง

เพลิงสีดำแสนลี้ มอดดับลงในเสี้ยวขณะนี้

C

นรกมารฟ้าที่เกิดขึ้นในโลกใบใหญ่เจ็ดใบพังทลายลงในเสี้ยวขณะนี้

ท้องฟ้ากลับคืนมา ผืนดินกลับคืนสู่สภาพเดิม ภูเขาแม่น้ำยังคงเหมือนเดิม สายธารคงเหมือนเฉกเช่นเดิม

สวี่ชิงยืนอยู่กับที่ สีหน้าขาวซีด วิญญาณอ่อนแรง ข้างหน้าคือเลือดสดๆ ที่เขากระอักออกมาก่อนหน้านี้ ไม่ว่าจะเป็นบนพื้นดิน หรือเป็นบนเสื้อ ล้วนน่าหวาดหวั่นพรั่นพรึงนัก

กระทั่งว่าตอนนี้ก็ยังคงมีเลือดที่ควบคุมไม่ได้ ทันทีที่เขาลุกขึ้นก็ไหลย้อยจากมุมปาก ร่วงลงมาเป็นหยดๆ

สวี่ชิงสูดลมหายใจลึก นี่เป็นครั้งแรกในความหมายที่แท้จริง ที่เขาใช้อำนาจเทพแห่งชะตา และผ่านจากการใช้ครั้งนี้ สำหรับอำนาจสูงสุดนี้ก็มีความเข้าใจมากยิ่งขึ้น

และยิ่งเข้าใจ เขาก็ยิ่งหวาดหวั่น

ความน่ากลัวของอำนาจเทพนี้เรียกได้ว่าสุดขีด

ค่าตอบแทนก็มหาศาลเช่นกัน

เขารู้ดีว่า หากเมื่อครู่ไม่มีความคิดที่ 3 เช่นนั้นหากคิดอยากให้ชะตาชีวิตของซีหมัวจื่อที่สลักลงไปเป็นจริง ค่าตอบแทนเกินกว่าระดับการแบกรับของตน สุดท้ายมีโอกาสมากว่าจะตายตกไปตามกัน

และต่อให้ตนอาศัยความคิดที่ 3 ใช้แรง 4 ตำลึงผลักน้ำหนักพันชั่ง ชะตาที่สลักการหักหลังของมารฟ้าลงไป สังหารซีหมัวจื่อทางอ้อม ก็ต้องจ่ายค่าตอบแทนระดับนี้เช่นกัน

วิญญาณอ่อนล้า

กายเนื้อเต็มไปด้วยรอยปริแตก

พลังบำเพ็ญในร่างหายไปมากพอสมควรแล้ว แม้แต่อำนาจและอำนาจเทพต่างๆ ของเขาก็ต่างหมองหม่นลงไปเช่นกัน

“อำนาจเทพนี้ จะบุ่มบ่ามใช้ง่ายๆ ไม่ได้…”

สวี่ชิงสูดลมหายใจลึก ลบเลือดและร่องรอยของตัวเองที่นี่ไป ร่างเพียงไหววูบ ก็คิดจะไปจากที่นี่

เนื่องจากความตายของซีหมัวจื่อจะต้องสร้างระลอกคลื่นลมอย่างแน่นอน อันตรายที่อยู่ที่นี่สูงมาก

แต่สวี่ชิงเพียงแค่เดินออกไปก้าวหนึ่ง ร่างเขาก็หยุดชะงัก คิ้วขมวด สีหน้าเคร่งขรึม

เทียนสีแดงข้างหลังเขาตอนนี้เกิดเปลวไฟลุกขึ้นมา!

ความร้อนรุนแรงพลันปะทุมาจากข้างหลังเขา บิดม้วนทั่วทุกทิศ

การฟื้นฟูกลับมาจากเทียนสีแดง ในเสี้ยวขณะนี้คว้าโอกาสไว้ กำลังลุกไหม้อย่างไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น

ทันทีที่ถูกจุด สวี่ชิงแม้จะไม่แน่ใจถึงอันตรายโดยละเอียด แต่ความรู้สึกอันตรายในจุดลึกของจิตใจ ในเสี้ยวพริบตานี้ปะทุขึ้นมาอย่างรุนแรง

ความอันตรายนี้เหมือนทะเลเพลิง จะเผาสวี่ชิงไปในนั้น

นี่ทำให้สวี่ชิงตอนนี้ไปจากที่นี่ไม่ได้ สิ่งที่สำคัญที่สุดข้างหน้าของเขาตอนนี้คือจัดการเทียนสีแดง

ดังนั้น เขาไม่ลังเลใดๆ ทั้งสิ้น ไม่สนใจอาการบาดเจ็บ ฝืนโคจรพลังอำนาจเทพลบเลือนของตัวเอง ขณะเดียวกันก็ส่งความคิดหาเจ้าเงา

เสี้ยวขณะต่อมา พลังอำนาจเทพลบเลือนของเขาพุ่งตรงไปยังเทียนสีแดงข้างหลังจากในร่างของเขา ขณะเดียวกัน เจ้าเงาทางนั้นก็กระโจนไปอย่างตัวสั่นงันงก

ใจกลางแสงเทียนของเทียนสีแดง เปลวเทียนวูบวาบ…

จะก่อเป็นเปลวเพลิง

ส่วนการมาเยือนของพลังอำนาจเทพ การปรากฏตัวของเจ้าเงาก็เกิดขึ้นอย่างฉับพลันทันด่วน ภายใต้การร่วมมือของทั้ง 2 ควบคุมไม่หยุด ดับมันไม่หยุด

ใช้วิธีนี้ควบคุมการฟื้นคืนของสัญญาณที่เกิดขึ้นอีกครั้งจากในเทียนไขเนื่องจากการดูดซับเพลิงมารก่อนหน้านี้

ดีที่การทะลวงโลกของสวี่ชิงก่อนหน้านี้ไม่ได้เสียเวลาไปเท่าใด อีกทั้งเพลิงมารที่เทียนสีแดงดูดซับมีจำกัด ดังนั้นตอนนี้ต่อให้มันคว้าโอกาสฟื้นฟู แต่ภายใต้การทุ่มสุดกำลังของอำนาจและเจ้าเงา สัญญาณการฟื้นฟูนี้ สุดท้ายก็ค่อยๆ ถูกควบคุมลงไป

สุดท้าย จากการหายไปของเปลวเพลิง เหมือนมีเสียงคำรามที่ไม่ยอมจำนนดังอยู่ข้างหูสวี่ชิง

ระลอกคลื่นการฟื้นฟูถูกสยบลงไปโดยสมบูรณ์

แต่ความรู้สึกอันตรายไม่ได้ลบเลือนไป มาจากท้องฟ้า และมาจากซากร่างที่แห้งเหี่ยวไปอย่างต่อเนื่องของซีหมัวจื่อที่อยู่ไม่ไกล

อย่างแรกทำให้คนหวาดกลัว อย่างหลังทำให้ผู้คนใจสั่นสะท้าน

ซากร่างนั่น ท่ามกลางการแห้งเหี่ยวอย่างรุนแรงนี้ เกิดหมอกสีดำขึ้นมา

หมอกนี้รวมตัวอย่างรวดเร็วกลายเป็นเงามารฟ้าร่างหนึ่ง สิ่งที่มองไปในคราแรกไม่ใช่สวี่ชิง แต่เป็นขอบฟ้า

จากนั้นในพริบตาก็สลายไป ทิ้งไว้เพียงประโยคหนึ่ง “ซีหมัวจื่อผลไม้ลูกนี้ยังไม่ทันจะสุกงอม ก็ถูกเจ้าสั่นคลอนชะตาเอาเสียได้ ทำให้ข้าเนื่องจากประมาทก็ถูกกลืนกินไปก่อนเวลาอันควร เช่นนั้นผลภายหลังนี้ เจ้าจะต้องเป็นผู้ชดใช้…หวังว่าในเคราะห์แห่งความตายต่อจากนี้ เจ้าจะมีชีวิตรอดต่อไปได้ หากไม่ตาย ในอนาคต…ข้าจะมาหาเจ้า”

หากเปลี่ยนเป็นเวลาอื่น ประโยคจากมารฟ้าประโยคนี้ จะต้องทำให้สวี่ชิงขบคิดอย่างแน่นอน แต่ตอนนี้เทียบกับมารฟ้า สิ่งที่ทำให้เขาให้ความสำคัญมากกว่าคืออันตรายที่มาจากท้องฟ้า

อันตรายนี้เหนือยิ่งกว่ามารฟ้า และเหนือยิ่งกว่าซีหมัวจื่อก่อนหน้านี้ กระทั่งพูดได้ว่าเกินกว่าผู้บำเพ็ญทุกคนที่สวี่ชิงเคยเผชิญหน้ามาจนถึงวันนี้!

ทำให้เขารู้สึกเหมือนกำลังเผชิญหน้ากับเทพเจ้า!

เพราะนั่นคือพลังเจ้าเหนือหัวที่สามารถสู้กับเทพเจ้าได้!

ไม่ใช่เจ้าเหนือหัวที่ยกระดับขึ้นมาใหม่เหมือนฝูเสีย แต่เป็นผู้ยิ่งใหญ่ที่แท้จริงที่เดินมาถึงในระดับขั้นหนึ่งของโลกเจ้าเหนือหัวระดับขั้นนี้

ดังนั้นในเสี้ยวขณะนี้ วิญญาณของสวี่ชิงสั่นสะท้าน ความคิดมีสายฟ้าฟาดเลื่อนลั่น อำนาจแผ่ระลอก

ความรู้สึกอันตรายกำลังพวยพุ่งอย่างบ้าคลั่ง เงาแห่งความตายปกคลุมจิตใจเขาแล้ว ท่วมจมทุกสิ่ง

เขาอยากหนี แต่ก็ไม่มีที่ให้หนี

เพราะท้องฟ้าบิดเบี้ยว ท่ามกลางความเงียบงันไร้เสียง ก็มีกระจกบานมหึมาบานหนึ่งปรากฏขึ้น ขอบเขตกว้างใหญ่ถึงล้านลี้ ราวเป็นท้องฟ้าของที่นี่!

กระจกบานนี้เป็นทรงกลม ผิวหน้ากระจกดำสนิท

ภายใต้การปกคลุมเหมือนราตรีมืดเข้าครอบคลุม

จากนั้น…มีหิมะลอยออกมาจากในกระจกบานนี้ เหมือนในราตรีมืดเกิดหิมะตกขึ้นมา

ส่วนหิมะนี้ก็เป็นสีดำเช่นกัน

ฟ้าดินไร้ลม มีเพียงหิมะสีดำที่โปรยปรายไปตามธรรมชาติ แทนที่กฎเกณฑ์ ควบคุมกฎระเบียบ ทำให้ทุกอย่างในที่แห่งนี้กลายเป็นโลกใบหนึ่ง

สวี่ชิงอยู่ในโลกใบนี้

ส่วนท้องฟ้าของโลกใบนี้ กระจกสีดำบานนั้น ในเสี้ยวขณะนี้ราวฟ้ารั่ว ราวฟ้าถล่ม ลงมาเยือนอย่างช้าๆ

ทุกชุ่นที่กดอัดลงมา ในบริเวณล้านลี้ เทือกเขาทั้งหมดต่างรางเลือน หายลับไป

และในกระจกสีดำบานนี้เกิดเค้าร่างของเทือกเขาที่หายลับไปทั้งหมด

พวกมันถูกดูดไปในกระจก ไม่อยู่ในความเป็นจริง

สวี่ชิงร่างสั่นเทา รอยแยกเป็นทางๆ ปรากฏขึ้น ความรู้สึกเป็นตายทำให้ดวงตาทั้ง 2 ของเขาแดงก่ำ คิดอยากจะดิ้นรน แต่กลับไม่อาจทำได้

มีเพียงเลือดสดๆ เท่านั้นที่กระอักออกมาคำแล้วคำเล่า

จากปาก จากร่างกาย จากทั่วทุกแห่งในร่างล้วนไหลทะลักออกมา

เขาสุดท้ายแล้วก็ยังไม่อาจเผชิญหน้ากับเจ้าเหนือหัวได้

และภายใต้การลงมือของเจ้าเหนือหัว พลังอำนาจเทพของเขา อำนาจของเขาล้วนกลายเป็นของตบแต่ง

และกระจกสีดำที่แทนที่ท้องฟ้าบานนั้น ตอนนี้กดทับลงมาอีก 1 ชุ่น

ทะเลสาบ แหล่งน้ำทั้งหลายในบริเวณล้านลี้ มีแม่น้ำลำธารตอนนี้หายไปท่ามกลางความรางเลือน มาปรากฏในกระจก ก่อเค้าร่างขึ้นมา

จากนั้นก็เป็นแผ่นดิน

แผ่นดินในบริเวณล้านลี้บิดเบี้ยวขึ้นมา หายไปอย่างรวดเร็ว

ส่วนกระจกสีดำบนท้องฟ้า ตอนนี้มีทุกอย่างปรากฏขึ้นมาแล้ว อีกทั้งในนั้น…เงาร่างของสวี่ชิงก็กำลังก่อขึ้นอย่างรวดเร็ว

ความตายเดินมาแล้ว

ขอเพียงแค่ กดทับลงมาอีก 1 ชุ่นอีกครั้งเท่านั้น

สวี่ชิงสั่นสะท้านไปทั้งร่าง กลายเป็นมนุษย์เลือดไปแล้ว แต่สิ่งที่ปรากฏในดวงตาไม่ใช่ความสิ้นหวัง แต่เป็นความบ้าคลั่ง

เขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเจ้าเหนือหัวจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นฝูเสียในตอนนั้นหรือจะเป็นผู้บำเพ็ญที่ไม่ได้ปรากฏตัวขึ้นในตอนนี้ ต่อให้เขาได้รับวาสนา กำลังรบได้รับการเพิ่มพลัง แต่เผชิญหน้ากับเจ้าเหนือหัวก็ยังคงไม่ใช่สิ่งที่เขาจะสั่นคลอนได้

แต่นี่ไม่ได้หมายถึงเขาไม่มีวิธีที่จะให้อีกฝ่ายต้องจ่ายค่าตอบแทน

ตอนนี้ภายใต้ความบ้าคลั่งนี้ สวี่ชิงเงยหน้าคำราม กำลังจะปะทุพลัง ส่วนกระจกสีดำบนท้องฟ้า ในเสี้ยวขณะนี้…ก็กดทับลงมาอีกครั้ง

เห็นสถานการณ์จะเกิดการเปลี่ยนแปลงงสะท้านสะเทือนฟ้าดินขึ้นเต็มที

แต่ในตอนนี้เอง เงาร่างสูงใหญ่ร่างหนึ่ง เดินมาจากความว่างเปล่า ข้ามผ่านระยะล้านลี้อย่างเงียบงัน เดินเข้ามาในโลกที่ก่อขึ้นจากกระจกสีดำ เดินมายังบริเวณที่สวี่ชิงอยู่ มายืนอยู่ข้างหน้าเขา

ประดุจขุนเขาสูงตระหง่าน ตั้งอยู่บนสนามรบที่ลมฝนกระหน่ำซัดสาดแห่งนี้

หลี่ว์หลิงจื่อ!

หรือจะพูดให้ถูกต้องคือจักรพรรดินีที่แปลงเป็นหลี่ว์หลิงจื่อ!

องค์ท่านปรากฏตัวขึ้นในเสี้ยวพริบตานี้ มาอยู่ข้างหน้าสวี่ชิง ขวางกั้นลมฝนทุกสิ่ง ขวางกั้นความเป็นตายทุกอย่าง ทำให้พลังกดดันทั้งหมดที่กดอัดมาบนร่างสวี่ชิงสลายไปในพริบตา

สวี่ชิงโล่งอก เขารู้ ตัวเองไม่จำเป็นต้องสู้ตายแล้ว

จากนั้น ท่ามกลางการโค้งคารวะของสวี่ชิง จักรพรรดินีเงยหน้าขึ้น มองไปทางกระจกสีดำบนท้องฟ้า

บริเวณที่สายตาจ้องมองไป คล้ายมีกองทัพม้าพันตัวห้อตะบึง ควันไฟเชื่อมต่อผืนฟ้า ขุนเขาสายธาร ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนอยู่ในครรลองสายตาของนาง จับจ้องไปยัง…ใจกลางกระจก

สายตานี้แฝงไว้ด้วยพลัง ผิวกระจกสีดำพลันส่งเสียงดังครืยครานเลื่อนลั่นหยุดอยู่บนท้องฟ้า

สายตานี้แฝงด้วยความอัศจรรย์ล้ำลึก ในผิวกระจกสีดำ ใจกลางสายตาของจักรพรรดินีที่หลอมรวมมา ตรงนั้นจู่ๆ มีจุดสีขาวจุดหนึ่งปรากฏขึ้น

จุดสีขาวจุดนี้เหมือนดวงอาทิตย์ในราตรีมืด

ทันทีที่ปรากฏขึ้นก็กะพริบแสงสีขาวมหาศาลออกมา แสงนี้แผ่ลาม ฉีกทึ้งความมืดมิด ทรงพลังเกินต้าน มาด้วยพลังอันแข็งแกร่งไร้เทียมทาน พัดกวาดไปยังผิวหน้ากระจกทั้งบาน

ทุกที่ที่พาดผ่าน เค้าร่างยอดเขาที่เดิมคัดลอกไปในผิวหน้ากระจกสลายไปในทันที

แม่น้ำ ทะเลสาบ ตลอดจนฟ้าดิน และเงาร่างที่รางเลือนของสวี่ชิง ในเสี้ยวขณะนี้ต่างถูกบังคับลบเลือนไป

ยิ่งกว่านั้นกระจกสีดำกลายเป็นสีขาว!

และจากการหายไปของเค้าร่างทุกอย่างในนั้น แผ่นดินในบริเวณล้านลี้หมุนย้อน ขุนเขาสายธารทั้งหมดต่างกลับคืนมา!

นี่คือการเผชิญหน้าระหว่างหลี่ว์หลิงจื่อและเจ้าเหนือหัวลึกลับคนนั้น

และการต่อสู้นี้ไม่มีคำอธิบายใดๆ

แทบจะในพริบตาที่ผิวกระจกกลายเป็นสีขาว เสียงแค่นขึ้นจมูกเสียงหนึ่งดังสะท้อนก้องในท้องฟ้า กระจกบานมหึมาบานนั้นแตกทลายลงทันที ท่ามกลางเศษชิ้นส่วนแหลกละเอียด สีขาวซากเศษกระจกทุกชิ้นล้วนกลายเป็นสีดำในพริบตา ในนั้นต่างมีเงาร่างชายกลางคนร่างหนึ่งปรากฏขึ้น

ภายใต้การสะท้อนจากเศษกระจกนับไม่ถ้วน เงาร่างนี้ก็หลอมรวมไปบนท้องฟ้า

นั่นคือ…เจ้าเหนือหัวอันดับที่ 17 ของเผ่าปีกมารประจิม!

ซึ่งเป็นอาจารย์ของซีหมัวจื่อด้วยเช่นกัน

เขาอยู่บนท้องฟ้า จ้องมองจักรพรรดินี จากนั้นแขนเสื้อเพียงสะบัด หิมะสีดำมหาศาลก็ปรากฏหวีดหวิวครืนครั่นรอบๆ เขา

สีหน้าของจักรพรรดินีเรียบเฉย หว่างคิ้วปริออก เผยเนตรโลหิตข้างหนึ่งออกมา

ทันทีที่ดวงตานี้ปรากฏขึ้น ท้องฟ้าเดือดพล่าน ดวงอาทิตย์ดวงมหึมาสีเลือดดวงหนึ่ง ปรากฏข้างหลังเจ้าเหนือหัวอันดับที่ 17 ลอยขึ้นมาทันที

จากนั้น จักรพรรดินีก็เอ่บราบเรียบ “เสี่ยเฉินจื่อ อำนาจของข้าคือลม เจ้ารู้ไหมว่าระดับที่ลึกล้ำกว่าของอำนาจแห่งลม แสดงออกมาอย่างไร”

สวี่ชิงสูดลมหายใจลึก ส่ายหน้า

จักรพรรดินีสีหน้าสงบนิ่ง บอกคำตอบออกมา “อากาศนั้นมีน้ำหนัก ลมก็มีน้ำหนักเช่นกัน”

“เหมือนดั่งเช่นนี้”

จักรพรรดินียกมือกดลงไปข้างล่าง

ทันใดนั้น ดวงอาทิตย์สีเลือดข้างหลังเจ้าเหนือหัวอันดับที่ 17 รางเลือนไปในทันที หลังจากนั้น อากาศทั้งหมดในอาณาบริเวณล้านลี้แห่งนี้ก็ถูกควบคุมในเสี้ยวพริบตานี้ มาจากทั่วทุกสารทิศ

อาณาบริเวณยังคงแผ่ออกไป เพียงพริบตาก็เกินล้านลี้มาถึง 10 ล้านลี้…และการไหลของพวกมันก่อให้เกิดลม

เพียงพริบตาลมพายุก็ระเบิดก้องขึ้น

แต่การสังหารทำลายล้างที่แท้จริงไม่ใช่พายุ แต่เป็น…น้ำหนักของอากาศ

น้ำหนักเหล่านี้ต่างกดอัดไปที่ร่างของเจ้าเหนือหัวอันดับที่ 17 ทำให้เขาหน้าเปลี่ยนสี ไม่อาจขัดขืน ไม่อาจหลบหลีก ภายใต้พลังอันแข็งแกร่งนี้ ท่ามกลางการปะทุของระดับขั้นที่ลึกลงไปของอำนาจ ร่างของเขาระเบิดบึ้ม ร่วงจากท้องฟ้าไปยังผืนดิน

จากแผ่นดินที่สั่นสะเทือน ร่างของเขาร่วงลงมา เหมือนถูกกดอัด อยู่บนพื้นดินไม่ว่าเขาจะดิ้นรนอย่างไรก็ไม่อาจหลุดพ้นได้เลยแม้เพียงน้อยนิด

และภาพที่ยิ่งน่าตื่นตะลึงกว่านั้นก็เกิดขึ้นในตอนนี้

อากาศที่หลอมรวมมาบนร่างของเขาเหล่านี้ ภายใต้พลังอันสุดขีดนี้ก็ฝืนทำลายเกราะป้องกันของเขา แทรกซึมเข้าสู่ร่างกายได้ ทำให้เจ้าเหนือหัวอันดับที่ 17 ส่งเสียงกรีดร้องอย่างน่าโหยหวนน่าขนลุก

ทั่วร่างเกิดบาดแผลนับไม่ถ้วนในเสี้ยวพริบตา แต่กลับไม่มีเลือดสดๆ ไหลออกมา เลือดทั้งหมดต่างทะลักไปข้างใน

อเนจอนาถเป็นอย่างยิ่ง

พลังของหลี่ว์หลิงจื่อน่าหวาดหวั่นครั่นคร้าม

ในเสี้ยวขณะนี้ฉายออกมาอย่างโดดเด่นเป็นครั้งแรกในเผ่าปีกมารประจิม!

สั่นคลอนทั่วทุกฝ่าย!

(>>>พิสูจน์อักษร By Zank<<<)

AC

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!