Skip to content

Outside Of Time 1071

Outside of Time
BC

บทที่ 1071 หยิบเกาลัดจากกองเพลิง

วังใต้ดินทั้งวังเกิดความวุ่นวายปั่นป่วนในระดับหนึ่ง

C

บนพื้นดิน ซากศพนับไม่ถ้วนลืมตาขึ้น ต่างแย่งกันลุกพรวด กระโจนไปยังมรดก อำนาจและสมบัติของมหาจักรพรรดิ โดยไม่เลือกเป้าหมาย

ให้ความรู้สึกเหมือนกับว่า ถ้าได้มาสักชิ้นก็คุ้มค่า ถ้าได้ 2 ชิ้นก็ถือว่าได้กำไรอย่างมหาศาล

ส่วนที่กลางท้องฟ้า การดูดซับของหญิงชราถูกหลินคุนที่มาถึงขัดขวาง ทั้ง 2 ฝ่ายตอนนี้กำลังลงมือ โจมตีกันไปมา แสงวิชาเวทวูบวาบ กลิ่นอายเจ้าเหนือหัวปะทุ พลังสังหารทำลายล้างที่เกิดขึ้นยิ่งน่าครั่นคร้าม

อีกทั้งอำนาจของทั้ง 2 ฝ่ายก็ได้ส่งผลกระทบต่อกฎเกณฑ์ กฎระเบียบ กระทบกันอย่างไร้รูปร่าง

เสียงระเบิดดังไม่ขาดสาย

ระลอกคลื่นพลังที่แผ่ออกมาทำให้ซากศพจำนวนมหาศาลแหลกละเอียด แต่ซากที่นี่มีมหาศาลนัก สุดท้ายก็ถูกซากศพจำนวนหนึ่งกระโจนไปถึงอำนาจมรดกและของวิเศษจนได้

ลองใช้พวกมันกระแทกประตูหินที่สวี่ชิงและเอ้อร์หนิวอยู่

ส่วนหญิงชราทางนั้นตัวนางเองไม่ธรรมดาเป็นอย่างมาก แม้จะสู้กับเจ้าเหนือหัวที่ 5 ที่แปลงเป็นหลินคุน แต่ก็ไม่ได้ตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบเลย กระทั่งว่าโจมตีกลับได้ด้วย การดูดซับของนางไม่ได้ถูกขัดขวางไปโดยสมบูรณ์แบบ

ยังดูดซับต่อไป

ซากเซียนยังคงสลายไป

เพียงแต่ความเร็วช้าลงไปเป็นอย่างมาก อีกทั้งอำนาจมรดกและของวิเศษมหาจักรพรรดิ ภายใต้การโจมตีของซากศพที่ฟื้นตื่นขึ้นของสวี่ชิงและเอ้อร์หนิว แนวโน้มของการหวนกลับคืนมาก็ได้รับอิทธิพล

ทุกอย่างนี้พูดแล้วเหมือนยาวนาน แต่ความจริงแล้วล้วนเกิดขึ้นเพียงเสี้ยวพริบตา

สถานการณ์ที่ก่อนหน้านี้ค่อนข้างสมดุล จากการปรากฏตัวขึ้นของหญิงชรา จากการขัดขวางของเจ้าเหนือหัวที่ 5 ก็ถูกทำลายลงทันที

เพียงพริบตาก็เปลี่ยนมาดุเดือด

และฝ่ายอื่นๆ ก็ต่างสีหน้าเคร่งเครียด บ้างสายตาฉายแววครุ่นคิด บ้างสีหน้าเกิดแววเย็นยะเยือก แต่ว่า…ในฐานะเจ้าเหนือหัว จิตใจล้วนไม่ใช่คนธรรมดา ดังนั้นจึงไม่อาจมองความคิดที่แท้จริงจากการเปลี่ยนแปลงของสีหน้าพวกเขาได้

อีกทั้งมาถึงที่นี่ได้ย่อมเป็นผู้ที่เตรียมตัวมาทั้งสิ้น

ดังนั้นการแสดงออกมาทุกอย่างเป็นไปได้ว่าล้วนเป็นการจงใจทั้งสิ้น

รายละเอียดมีเพียงตัวพวกเขาเท่านั้นที่รู้

แต่ไม่ว่าจะอย่างไร การเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์ในตอนนี้ จะอย่างไรก็ส่งผลกระทบอย่างมหาศาลให้กับที่นี่ ภายใต้ผลกระทบที่เป็นลูกโซ่ บางทีอาจจะเกิดภัยพิบัติมากกว่าเดิม

ดังนั้นหลังจากนั้นหลายอึดใจ มีเจ้าเหนือหัวคนที่ 3 ก็ก้าวออกไปตามความคิดในใจ

ผู้ที่พุ่งออกมาเป็นผู้หญิงชุดชาววังมือถือกระจก 8 เหลี่ยม

ขณะนางก้าวเท้าก็ไปจากประตูหินที่อยู่ เหยียบย่างเข้าไปในวังใต้ดิน เงาร่างรางเลือน ในยามที่ร่างปรากฏชัดก็มาอยู่ข้างหลังหญิงชราแล้ว มือข้างหนึ่งยื่นไปยังรอยอำนาจหนึ่งที่อยู่ข้างๆ มือข้างหนึ่งกดร่างของหญิงชรา

การปรากฏตัวของนางทำให้ความดุเดือดของสถานการณ์พุ่งขึ้นไปอีกครั้ง

หญิงชราคำรามเสียงต่ำ ตอนนี้ไม่อาจดูดซับซากเซียนได้อีกต่อไป ในยามที่ล้มเลิกอย่างเด็ดเดี่ยว ร่างของนางก็กะพริบประกายแสงสีดำสุดขีดออกมา ปะทุไปข้างนอกอย่างเฉียบพลัน

ก่อเป็นลูกทรงลมสีดำขนาดมหึมาราวถ้ำมืดลูกหนึ่ง

ทุกที่ที่แผ่ลามไป ตัดขาดซึ่งทุกสิ่ง

เจ้าเหนือหัวที่ 5 ที่แปลงเป็นหลินคุนและผู้หญิงชุดชาววังคนนี้หน้าเปลี่ยนสี ต่างถอยร่นไปข้างหลัง แต่ก็ไม่ลืมที่จะยกมือไปคว้าวัตถุแห่งวาสนา

ขณะเดียวกัน เจ้าเหนือหัวคนที่ 4 ร่างเพียงไหววูบก็พุ่งตรงไปยังวังใต้ดิน

เป็นเด็กหนุ่มที่เคยยิ้มให้สวี่ชิงและเอ้อร์หนิว อาศัยเส้นไหมคว้าเอาของวิเศษไปนั่นเอง

ความเร็วของเขาน่าตื่นตะลึง เพียงพริบตาก็เข้าไปในวังใต้ดิน เป้าหมายไม่ใช่หญิงชรา แต่เป็นตราประทับตราหนึ่งที่อยู่รอบๆ

จากนั้นเสียงแค่นขึ้นจมูกก็ดังก้อง ชายหนุ่มที่แต่งตัวแบบบัณฑิตคนนั้นร่างเกิดความรู้สึกเหมือนทับซ้อน เลือนหายไปราวฟองอากาศ ในยามที่ปรากฏตัวขึ้น…ร่างของเขาก็มีอยู่ใกล้ๆ ของวิเศษมหาจักรพรรดิที่รูปร่างเหมือนจานเข็มทิศอันหนึ่ง ยกมือคว้าไป

ทันทีที่เขาคว้ามันไว้ได้ในมือ เงาดำทางหนึ่งก็พุ่งไปยังข้างกายเขาอย่างรวดเร็ว

เป็นชายชราเจ้าเหนือหัวที่มีความขัดแย้งกับสวี่ชิงและเอ้อร์หนิวนั่นเอง

เขาเลือกที่จะพุ่งเข้าไปเช่นกัน แต่ว่าสิ่งที่ต่างไปจากคนอื่นคือ…สิ่งแรกที่เขาเลือกทำไม่ใช่ลงมือกับหญิงชรา และไม่ใช่ของวิเศษที่นี่เช่นกัน แต่แขนเสื้อพลันสะบัด

ทันใดนั้นลมพายุที่ก่อขึ้นจากกลิ่นอายความตายก็กวาดโหมที่นี่

ลมพายุลูกนี้ไม่ได้มีผลกระทบต่อเจ้าเหนือหัวเท่าไร แต่สำหรับฝูงซากศพที่ฟื้นคืนถูกสวี่ชิงและเอ้อร์หนิวควบคุมเหล่านั้นแล้วกลับรุนแรงร้ายกาจเป็นอย่างยิ่ง

เพียงพริบตา เสียงสะท้านสะเทือนเลื่อนลั่นดังก้อง ราวถูกชำระล้าง ซากศพที่กระโจนไปยังตราประทับมรดกและของวิเศษเหล่านั้น ต่างกลายเป็นเถ้าธุลีภายในลมพายุลูกนี้

นี่เห็นได้ชัดว่านี่คือการจงใจโจมตี

ทำเรื่องพวกนี้เสร็จ ชายชราคนนั้นก็หัวเราะเยือกเย็น เริ่มชิงของวิเศษที่นี่

เห็นภาพฉากนี้ ประกายเย็นเยือกในดวงตาสวี่ชิงฉายวาบ เอ้อร์หนิวทางนั้นความแค้นในใจรุนแรง สีหน้าฉายความดุดันเหี้ยมเกรียม

“นี่คือมั่นใจแน่ว่าพวกเราไม่กล้าเข้าไปอย่างนั้นหรือ”

“มารดามันสิ เป็นอุปสรรคต่อผลเก็บเกี่ยวของข้าเช่นนี้ นี่เป็นแค้นเป็นตายที่ไม่อาจอยู่ร่วมฟ้าเดียวกันได้!!”

เอ้อร์หนิวคำรามเสียงต่ำ ในดวงตาฉายแววบ้าคลั่ง เห็นของวิเศษมากมายขนาดนี้แต่กลับคว้าเอามาไม่ได้ ความรู้สึกเช่นนี้สำหรับเขาแล้วมากพอที่จะทำให้คลุ้มคลั่ง

ดังนั้น เขาจึงทำเรื่องที่บ้าคลั่งยิ่งกว่า

เงื้อแขน ดาบตวัด จัดการกับศีรษะตัวเองให้….ตัดขาดในดาบเดียว

จากนั้นมือขวาเพียงสะบัด โยนศีรษะให้สวี่ชิง

ปากส่งเสียงคำราม

“อาชิงน้อย เก็บไว้ให้ข้าหน่อย!”

หลังจากพูดจบ กายเนื้อที่สูญเสียศีรษะไปของเขาก็ส่งเสียงดังบึ้ม ระเบิดทันที แปรเปลี่ยนเป็นหนอนสีฟ้านับไม่ถ้วน แผ่ความละโมบและความบ้าคลั่งอย่างเข้มข้นออกมา มาพร้อมด้วยความเหี้ยมเกรียมดุดันจนถึงขีดสุด พุ่งออกไปจากประตูหิน ทะยานเข้าไปในวังใต้ดิน

ทะยานไปยังของวิเศษมหาจักรพรรดิที่ลักษณะเหมือนกับโล่ที่เขาและสวี่ชิงหมายตาเอาไว้ตั้งแต่แรก

สำหรับการกระทำของศิษย์พี่ใหญ่ สวี่ชิงไม่ประหลาดใจเลย และให้ความร่วมมืออย่างรู้ใจ เกือบจะในจังหวะเดียวกับที่อีกฝ่ายกลายร่างเป็นหนอนและพุ่งเข้าไป อำนาจ 6 รากราคะตัณหาของสวี่ชิงก็ปะทุขึ้นภายในร่าง

แปรเปลี่ยนเป็นเส้นไหม 7 อารมณ์ 6 ปรารถนา เชื่อมต่อกับศีรษะของศิษย์พี่ใหญ่ในอ้อมแขน

ใช้วิธีนี้มาช่วยศิษย์พี่ใหญ่ร่วมต้านทานการทำอันตรายที่มาจากชั้นวิญญาณ

หน้ากากอันนี้สีหน้ามีเมตตา เป็นหน้ากากเมตตาที่สวี่ชิงได้มาจากตำหนักวิชาเซียนในตอนนั้นนั่นเอง

ประโยชน์ของหน้ากากหนังมนุษย์อันนี้คือเมื่อสวมใส่แล้วจะสามารถช่วยแบ่งเบาอาการบาดเจ็บของคนที่เห็นอยู่ในครรลองสายตาได้

ไม่ลังเลใดๆ ทั้งสิ้น สวี่ชิงสวมหน้ากากไว้บนหน้า จากนั้นก็มองจ้องเอ้อร์หนิว

ในตอนนี้ สถานการณ์ในวังใต้ดินวุ่นวายเป็นอย่างมาก

ลูกทรงกลมสีดำที่ก่อขึ้นจากหญิงชราระเบิดไปข้างนอก

เจ้าเหนือหัวที่ 5 ที่แปลงเป็นหลินคุนกับผู้หญิงชุดชาววังคนนั้นกำลังถอยร่นไป เก็บเกี่ยวมรดก

ส่วนเด็กหนุ่มและบัณฑิต อีกทั้งชายชราคนนั้นก็ต่างระวังซึ่งกันและกัน ต่างได้รับผลเก็บเกี่ยว

สิ่งที่ทุกคนแสดงออกมาล้วนเป็นความไม่เชื่อใจซึ่งกันและกัน ตลอดจนความเห็นแก่ตัว

ดังนั้นหนอนสีฟ้าที่ทะยานไปยังของวิเศษมหาจักรพรรดิเหล่านั้น สิ่งที่มันต้องเผชิญหน้าด้วยเป็นอันดับแรกก็คือพลังกดดันและรัศมีอำนาจที่แผ่มาจากเจ้าเหนือหัวทั้งหลาย จากนั้นยังต้องเผชิญหน้าผลกระทบจากการต่อสู้แย่งชิงของพวกเขา

สุดท้ายยิ่งต้องเผชิญหน้ากับชายชราที่มีความแค้นกับพวกเขา ภัยคุกคามที่อีกฝ่ายเข้ามาใกล้อย่างรวดเร็ว

ดังนั้นเสี้ยวขณะต่อมา ภายใต้การแบ่งเบาอาการบาดเจ็บ ร่างของสวี่ชิงสะท้านอย่างรุนแรง เลือดสดๆ กระอักออกมา ไหลรินมาตามหน้ากาก

กายเนื้อความรู้สึกเหมือนปริแตก วิญญาณก็เจ็บปวดอย่างแสนสาหัสเช่นกัน

ร่างโซเซ ใช้กำแพงข้างๆ พยุงไว้ถึงจะฝืนยืนได้มั่นคง ร่างแผ่ความอ่อนแรงออกมา

ศีรษะของเอ้อร์หนิวก็เลือดไหลออกมาทั้ง 7 ทวารเช่นกัน เริ่มเน่าเปื่อย

หนอนเหล่านั้นที่แปรเปลี่ยนมาจากกายเนื้อของเขาตอนนี้ระเบิดแหลกไปกว่าครึ่งแล้ว ที่เหลือเหล่านั้นก็อยู่ในพายุของชายชรา แหลกราญไม่อาจต้านทานได้

ความแตกต่างของพลังบำเพ็ญระหว่างทั้ง 2 ฝ่ายทำให้สวี่ชิงและเอ้อร์หนิวเหมือนไม่มีวิธีใดเลยที่จะได้ผลเก็บเกี่ยวภายใต้สถานการณ์ที่วุ่นวายปั่นป่วนเช่นนี้

แต่…เช่นเดียวกับรูปลักษณ์ภายนอกของมนุษย์ ที่ไม่สามารถใช้เป็นเกณฑ์ในการตัดสินความคิดได้โดยง่าย

บางครั้ง สถานการณ์ที่วุ่นวายปั่นป่วนก็เป็นเช่นนั้นเช่นกัน

บางทียิ่งวุ่นวายปั่นป่วน ก็ยิ่งมีระเบียบมีลำดับ

เหมือนอย่างเช่นตอนนี้…ท่ามกลางความปั่นป่วนวุ่นวายนี้ ในเสี้ยวพริบตาที่ดูเหมือนแต่ละฝ่ายต่างต่างเห็นแก่ตัวมองแต่ประโยชน์ส่วนตน มุ่งแต่จะแย่งชิงกัน พวกเขาที่กระจายตัวแยกย้ายกันไป ราวกับเป็นแผนการที่เตรียมไว้แล้ว หมุนตัวกลับมาในชั่วพริบตา

กลิ่นอายที่แผ่ออกมา ในเสี้ยวขณะนี้ปะทุขึ้นมากกว่าก่อนหน้านี้มหาศาลนัก พุ่งไปยังบริเวณมิติที่พวกเขาใช้สถานการณ์วุ่นวายอำพราง แอบผนึกเอาไว้ ราวนัดกันเอาไว้เรียบร้อยแล้ว ต่างลงมือโจมตีพร้อมกัน

การลงมือของเด็กหนุ่มก่อเป็นค้อนยักษ์สีชาดขนาดมโหฬารเล่มหนึ่ง

จิตสังหารของบัณฑิตแปรเปลี่ยนเป็นตำราโบราณม้วนหนึ่ง อำนาจปะทุ หน้าหนังสือกรีดพลิก

การยกมือขึ้นของชารชราหลอมรวมมาซึ่งกลิ่นอายความตายมหาศาล ก่อเป็นประตูแห่งความตายบานหนึ่ง และประตูนี้เปิดออก มือใหญ่สีดำข้างหนึ่งก็ยื่นออกมา คว้าไปเต็มแรง

ยังมีเจ้าเหนือหัวที่ 5 ที่แปลงเป็นหลินคุน และผู้หญิงชุดชาววังคนนั้น

ในเสี้ยวขณะนี้ต่างปะทุไพ่ตายขึ้นมา

และในพริบตาที่พวกเขาลงมือ สวี่ชิงที่อ่อนล้า ประกายเฉียบคมในดวงตาฉายวูบ ความอ่อนล้าหายไป เถาวัลย์เทพศักดิ์สิทธิ์พุ่งออกมาจากร่างของเขาอย่างรวดเร็ว ตรงดิ่งไปยังวังใต้ดิน พันล้อมของวิเศษมหาจักรพรรดิที่หน้าตาเหมือนโล่อันนั้น

แล้วกระชากสุดแรง

ในวังใต้ดิน หนอนสีฟ้าที่ถูกทำลายยับเยินก่อนหน้านี้มีตัวหนึ่งยังมีชีวิตอยู่ ตอนนี้พลันกระโดดขึ้นมา เพียงไหววูบก็แยกตัวอย่างรวดเร็ว กลายเป็นจำนวนนับหมื่นนับพัน หลอมรวมเข้าด้วยกัน พุ่งไปทางของวิเศษโล่ ทำการโจมตี

ก่อนหน้านี้ดูเหมือนเป็นเอ้อร์หนิวที่ลงมือชิงของวิเศษ แต่ความจริงแล้ว นี่คือการแสดง เพียงแค่เขาสบตากับสวี่ชิง ทั้ง 2 ก็เข้าใจความคิดของกันและกันได้ทันที

ดังนั้น การปรากฏตัวของเขา หากสำเร็จก็ถือเป็นเรื่องดี แต่หากล้มเหลว ก็จะกลายเป็นแรงสนับสนุน

ให้สวี่ชิงทางนั้นเป็นคนลงมือตัวจริง

ตอนนี้เสียงระเบิดครืนครั่นดังท่วมฟ้า

บริเวณมิติที่เจ้าเหนือหัวฝ่ายต่างลงมือโจมตี ตอนนี้มิติบิดเบี้ยว เงาร่างหนึ่งปรากฏขึ้นมาจากในนั้น หลังจากถอยไปอย่างรวดเร็วก็เหมือนจะหลบหลีก แต่ไม่ทันแล้ว

สุดท้าย ก่อนที่โลหิตจะพุ่งกระจาย เงาร่างนี้ก็สลายตัวเอง ใช้วิชาที่ไม่รู้จัก แลกด้วยค่าตอบแทนมหาศาล สุดท้ายก็หนีรอดจากเคราะห์ความตายไปได้

ในยามที่ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง ก็เคลื่อนออกมาจากบริเวณที่ถูกพันธนาการ มาปรากฏบนแท่นบูชาแล้ว

เป็นบรรพจารย์ตระกูลอวิ๋นนั่นเอง

สีหน้าของเขาเคร่งขรึม รู้ว่าแผนการของตัวเองคนพวกนี้มองออกหมดแล้ว และรู้ดีว่าการกระทำทุกอย่างของพวกเขาก่อนหน้านี้เป็นเพียงแค่การแสดงก็เท่านั้น ความจริงต่างแอบร่วมมือกันตั้งนานแล้ว

ขณะเดียวกัน สายตาของเขาก็กวาดไปยังประตูหินที่สวี่ชิงและเอ้อร์หนิวอยู่

เห็นของวิเศษโล่อันนั้น ภายใต้การผลักดันอย่างบ้าคลั่งของหนอนสีฟ้าที่ฉวยโอกาสเมื่อครู่ ก็ถูกเถาวัลย์ดึงไป

แต่เห็นได้ชัดว่าประเด็นไม่ได้อยู่ที่ของวิเศษมหาจักรพรรดิชิ้นนั้น แต่เป็นเจ้าเหนือหัวเหล่านี้

ดังนั้น สายตาบรรพจารย์ตระกูลอวิ๋นจึงดึงกลับมา จ้องมองทุกฝ่าย

ทุกฝ่ายย่อมสังเกตเห็นการกระทำของพวกสวี่ชิง นอกจากชายชราคนนั้นขมวดคิ้วแล้ว เจ้าเหนือหัวคนอื่นๆ ต่างจับตามองบรรพจารย์ตระกูลอวิ๋น

พวกเขาร่วมมือกันจริงๆ นั่นแหละ

ส่วนหญิงชราคนนั้น ในพริบตาแรกที่ปรากฏตัวออกมา พวกเขาก็วิเคราะห์ถึงปัญหาของอีกฝ่ายออก กระทั่งว่ามีคนสังเกตได้ว่านั่นเป็นซากที่มีชีวิต

แต่แผนการโต้งๆ เช่นนี้ มองออกแล้วแต่สุดท้ายก็ยังต้องก้าวเข้าไป ดังนั้นพวกเขาจึงใช้แผนซ้อนแผน ฉวยโอกาสวุ่นวายวางแผน จะบีบผู้ที่แอบซ่อนออกมาแล้วสังหารเสีย

เจ้าเหนือหัวที่ 5 ที่แปลงเป็นหลินคุนจ้องบรรพจารย์ตระกูลอวิ๋น เอ่ยเสียงเย็นเยียบ “เป็นเจ้าจริงๆ ด้วย”

“พูดมากไปก็ไร้ประโยชน์ ฆ่ามันเสียก็สิ้นเรื่อง!” ผู้หญิงชุดชาววังที่อยู่ข้างๆ ในดวงตาจิตสังหารพวยพุ่ง ชิงลงมือก่อน ตรงไปยังบรรพจารย์ตระกูลอวิ๋น

แต่ในเสี้ยวพริบตาที่คนทั้งหลายพุ่งออกมา…

สีหน้าของบรรพจารย์ตระกูลอวิ๋นฉายแววแปลกประหลาด ขณะที่มือขวายกขึ้น ก็ซัดฝ่ามือไปที่หว่างคิ้วของตัวเองต่อหน้าคนทั้งหลายทันที

เสียงบึ้มดังขึ้น ฆ่าตัวตายที่ตรงนั้น

ทันทีที่ตาย กายเนื้อระเบิดแหลก เลือดมหาศาลร่วงลงบนซากเซียนที่อยู่ข้างล่างซากนั้น

ขณะเดียวกัน ทางหญิงชราดวงตาทั้ง 2 ก็ปิดลงเช่นกัน กายเนื้อสลายกลายเป็นผุยผง

ส่วนวังใต้ดินเกิดลมพัดหอบ

ท่ามกลางสายลม มรดกทั้งหมดสั่นคลอน

อำนาจรอยเต๋าทั้งหมดต่างแผ่ระลอกรุนแรง

ของวิเศษมหาจักรพรรดิทุกชิ้นทะยานขึ้นฟื้นคืน!

ส่วนซากเซียนซากนั้น หลังจากที่เลือดอาบย้อม เปลือกตาที่แห้งเหี่ยวก็ค่อยๆ…ลืมขึ้นมา

กลิ่นอายน่าหวาดหวั่นครั่นคร้ามปะทุท่วมฟ้า!

(>>>พิสูจน์อักษร By Zank<<<)

AC

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!