Skip to content

Outside Of Time 1101

Outside of Time
BC

บทที่ 1101 คนพายเรือข้ามฟาก

เวลาของระบบดาวที่ 5 คำนวณด้วยคลื่นวนขนาดเล็กลูกแล้วลูกเล่าที่เกิดขึ้นจากการไหลของแสงเรืองรองแห่งขั้วโลกสีแดงบนท้องฟ้า

C

เมื่อคลื่นวนแสงเรืองรองแห่งขั้วโลกลูกเล็กปรากฏขึ้นถึง 1,000 ลูก ก็จะเป็น 1 ปีของระบบดาวที่ 5

จากนั้นคลื่นวนแสงเรืองรองแห่งขั้วโลกทั้งหมดก็จะสลายไปกลายเป็นลำแสง ปีใหม่ก็จะเริ่มต้นขึ้น

ตอนนี้ ในแสงเรืองรองแห่งขั้วโลกสีแดงบนท้องฟ้า คลื่นวนลูกที่ 753 กำลังก่อตัวขึ้น

กลางอากาศ สวี่ชิงเงยหน้า ทอดสายตามองฉากนี้

นี่เป็นวันคลื่นวนที่ 30 ที่เขาทะยานไปด้วยความเร็วเต็มกำลัง

ด้วยความเร็วของเขาในตอนนี้ หากอยู่บนแผ่นดินใหญ่ต้องประสงค์ เวลาเท่านี้ก็เพียงพอที่จะบินกลับจากดินแดนเมืองหลวงจักรพรรดิเผ่ามนุษย์กลับไปยังเขตปกครองผนึกสมุทรแล้ว

แต่ที่นี่ ก็ยังคงอยู่ที่ชายแดนของทางใต้ระบบดาวที่ 5

พื้นดินก็ยังคงเป็นหนองน้ำ

ระบบดาวที่ 5 กว้างใหญ่ไพศาลยิ่งนัก

“แต่ในที่สุดก็มาถึงที่หมายแล้ว”

สวี่ชิงเก็บสายตาคืนมา มองไปยังพื้นดิน

ที่ไกลออกไปจากหนองน้ำ มีเมืองใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่เมืองหนึ่ง

เมืองนี้เป็นสีดำทั้งเมือง ภายใต้แสงเรืองรองแห่งขั้วโลกดูราวกับอสูรยักษ์ที่กำลังหลับใหล

ดูแล้วมืดสลัวเล็กน้อย อีกทั้งตาเปล่าไม่สามารถมองเห็นขอบเขตได้

ขนาดของมันใหญ่โตมาก ในความรู้สึกของสวี่ชิง เทียบได้กับมณฑลหนึ่งทั้งมณฑล

และในความทรงจำของผู้ติดตามผู้บำเพ็ญระดับเจ้าเหนือหัว เมืองแห่งนี้…ความจริงแล้วก็เป็นเพียงแค่เมืองเล็กๆ ธรรมดาทั่วไปแห่งหนึ่งทางใต้ของระบบดาวที่ 5 ก็เท่านั้น

เมืองแบบนี้ ทางใต้มีอยู่มากมาย และเมืองที่น่าตื่นตะลึงยิ่งกว่านี้ก็มีไม่น้อย

ส่วนเมืองใหญ่อื่นๆ ด้วยข้อจำกัดด้านสถานะและพลังบำเพ็ญ ผู้ติดตามผู้บำเพ็ญระดับเจ้าเหนือหัวคนนั้นก็ไม่เคยพบเห็น

ตลอดชีวิตของเขาความจริงแล้วล้วนอยู่ในพื้นที่ห่างไกลกันดารทางใต้นี้มาโดยตลอด

ส่วนตระกูลของผู้บำเพ็ญระดับเจ้าเหนือหัวคนนั้นซึ่งก็คือนายของเขา สวี่ชิงจากการค้นวิญญาณและการสังเกตโลกภายนอกตลอดทางนี้ก็มีความเข้าใจที่มากขึ้น

ตระกูลนี้ในพื้นที่รอบนอกของทางใต้นี้ แม้จะควบคุมดูแลเป็นอาณาบริเวณที่ไม่น้อย อีกทั้งระดับขั้นของบรรพจารย์ก็ถึงระดับมหาจักรพรรดิเตรียมเซียน แต่กลับไม่นับว่าเป็นขั้วอำนาจทรงอำนาจอิทธิพลอะไร

ตระกูลที่คล้ายกันนี้ ในพื้นที่รอบนอกทางใต้ยังมีอีกจำนวนหนึ่ง

“ดูเหมือนว่าการวิเคราะห์ของข้าก่อนหน้านี้ จะมีผิดเพี้ยนไปบ้าง”

สวี่ชิงมองไปยังเมืองเบื้องหน้า ในใจครุ่นคิด

ตอนแรกเขาเนื่องจากไม่เข้าใจเกี่ยวกับเหมืองวิญญาณ ดังนั้นเมื่อเห็นว่าผู้พิทักษ์คนหนึ่งก็ยังเป็นถึงผู้บำเพ็ญระดับเจ้าเหนือหัว ในใจก็คิดว่าตระกูลของอีกฝ่าย ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดเกรงว่าคงจะเป็นเซียนคิมหันต์ในตำนาน

สิ่งนี้ทำให้เขาระมัดระวังอย่างมาก

แต่เห็นได้ชัดว่าระดับเซียนคิมหันต์ ไม่ว่าจะอยู่ที่ใด ก็ไม่ใช่ตำแหน่งที่พบเห็นได้ทั่วไป

“แต่ก็ต้องระมัดระวังให้มาก ผู้แข็งแกร่งของระบบดาวที่ 5 มีมากมายจริงๆ”

สวี่ชิงสูดหายใจลึก ร่างเพียงไหววูบก็พุ่งตรงไปยังเมืองเบื้องหน้า

ด้วยพลังบำเพ็ญของสวี่ชิงในตอนนี้ เปลี่ยนรูปร่างและกลิ่นอาย ซ่อนพลังบำเพ็ญ แปลงร่างเป็นผู้ติดตามผู้บำเพ็ญระดับเจ้าเหนือหัวคนนั้น และใช้ป้ายฐานะของเขาเข้ามือง ย่อมราบรื่นอยู่แล้ว

ไม่พบเจอกับอุปสรรคอะไรที่จัดการแก้ไขไม่ได้

ดังนั้นไม่นานนัก ร่างของสวี่ชิงก็มาปรากฏขึ้นในเมืองอันกว้างใหญ่นี้

มองไปรอบๆ ผู้คนนับไม่ถ้วน อีกทั้งเกือบทั้งหมดเป็นผู้บำเพ็ญ ผู้คนธรรมดามีน้อยมาก

ร้านค้ายิ่งมีมากมาย

เสียงอึกทึกครึกโครม ดังก้องอยู่ในหูไม่ขาดสาย

ต่อให้ด้วยประสบการณ์ของสวี่ชิง เมื่อเข้าเมืองแล้วเห็นผู้บำเพ็ญมากมายขนาดนี้ ก็ยังรู้สึกเหมือนภาพฝันภาพมายาไปเหมือนกัน

ภาพฉากนี้ ต่อให้เป็นในเมืองหลวงเผ่ามนุษย์บนแผ่นดินใหญ่ต้องประสงค์ เขาก็ไม่เคยพบเห็นมาก่อน

ผู้คนเยอะเกินไปแล้วจริงๆ

และความรู้สึกไม่คุ้นเคยก็ผุดขึ้นในใจของสวี่ชิงในตอนนี้อย่างไม่รู้ตัว

ธรรมชาติของมนุษย์ก็เป็นเช่นนี้ ไม่ใช่แค่ความว่างเปล่าเท่านั้นที่คนรู้สึกไม่คุ้นชิน พูดกลับกัน ในสถานการณ์ที่ผู้คนมากมายแต่ก็ไม่มีใครที่รู้จักมักคุ้น ก็จะทำให้เกิดความรู้สึกแปลกแยกไม่คุ้นชินอย่างรุนแรงขึ้นเช่นกัน

แต่ว่าสวี่ชิงนับแต่เล็กจนโตเดินทางผ่านสถานที่ต่างๆ มามากมาย ดังนั้นในไม่ช้าความคิดของเขาก็สงบลง เดินหน้าต่อไป ค่อยๆ กลมกลืนไปกับผู้คน

ระหว่างนั้น เขาก็สังเกตผู้คนรอบข้างไปด้วย

ค้นหาความแตกต่างของการพูดและการกระทำระหว่างตนเองกับพวกเขา แล้วนำมาปรับปรุง

เป็นเช่นนี้ หลังจากครึ่งวันคลื่นวนผ่านไป ไม่ว่าจะเป็นสำเนียงหรือท่าทางของสวี่ชิง ก็ยากที่จะเห็นจุดที่แตกต่างไปจากผู้บำเพ็ญในที่แห่งนี้

และเขาจากความเข้าใจผ่านบทสนทนาของผู้บำเพ็ญรอบข้าง สำหรับระบบดาวที่ 5 สำหรับเมืองนี้ ก็มีการวิเคราะห์ที่มากขึ้น

แม้ข้อมูลเหล่านี้จะเป็นเพียงชิ้นส่วน แต่อย่างน้อยสำหรับการหาร้านค้าที่ต้องการก็เพียงพอแล้ว

ดังเช่นในตอนนี้ สวี่ชิงกำลังยืนอยู่หน้าร้านค้าแห่งหนึ่ง

ลักษณะของร้านค้านี้เป็นตำหนัก 3 ชั้น ภายนอกหรูหราโอ่อ่า มีผู้บำเพ็ญสัญจรไปมาไม่น้อย

ในนั้นมองเห็นชั้นวางเรียงเป็นแถว วางของวิเศษเวทรูปร่างแตกต่างกันไปหลายชิ้น อีกทั้งแต่ละชิ้นล้วนผนึกอยู่ ไม่สามารถหยิบได้ง่ายๆ แต่ข้างๆ ก็มีแผ่นหยกสื่อบรรยายสรรพคุณของของวิเศษเวทอยู่

สิ่งที่ขายอยู่ที่นี่ก็คือของวิเศษเวทนั่นเอง

เดินอยู่ในชั้นแรก สายตาสวี่ชิงจับจ้องไปยังของวิเศษเวทเหล่านั้น

จ้องมองอยู่ครู่หนึ่ง ในใจก็รู้สึกสะท้อนใจเล็กน้อย

บนแผ่นดินใหญ่ต้องประสงค์ ของวิเศษเวทหายากนัก มักจะเป็นสมบัติล้ำค่าของสำนัก

อย่างเช่นของวิเศษตาสีเลือดของสำนัก 7 เนตรโลหิต

สิ่งที่สืบทอดอยู่ภายนอกได้ยิ่งหาได้ยากยิ่งนัก อีกทั้งต่อให้เป็นเศษชิ้นส่วนของของวิเศษเวท ก็เป็นสิ่งล้ำค่ายิ่งนัก

สิ่งที่แพร่หลายมากที่สุดก็คืออาวุธเวทเท่านั้น

แต่ที่นี่ กลับมีอยู่ดาษดื่น

“เศษชิ้นส่วนของของวิเศษเวทบนแผ่นดินใหญ่ต้องประสงค์ ส่วนใหญ่มาจากเทพเจ้า”

สวี่ชิงหวนรำลึกถึงแผ่นดินใหญ่ต้องประสงค์

“หากตอนนั้นเสี้ยวหน้าไม่ปรากฏขึ้น เช่นนั้น แผ่นดินใหญ่ต้องประสงค์ในวันนี้ ต่อให้ความแตกต่างจากที่นี่ แต่ก็จะไม่มากมายขนาดนี้”

“นอกจากนี้ ยังมีเหตุผลสำคัญอีกประการหนึ่งที่ทำให้การพัฒนาของแผ่นดินใหญ่ต้องประสงค์ไม่ดีเท่าที่นี่…”

“นั่นคือเหนือระดับเซียนคิมหันต์ขึ้นไป สำหรับแผ่นดินใหญ่ต้องประสงค์ก็ไม่มีเส้นทางต่อไปแล้ว”

“แต่ที่นี่ เห็นได้ชัดว่าระบบดาวที่ 5 เมื่อนานมาแล้วก็ได้พบเส้นทางเหนือเซียนคิมหันต์ ดังนั้นจึงมีความเจริญรุ่งเรืองในปัจจุบัน”

สวี่ชิงสายตากวาดไป ไม่ได้หยุดอยู่นานนัก ของวิเศษเวทแม้จะดี แต่สำหรับระดับของเขาในตอนนี้ก็ไม่จำเป็นแล้ว

ดังนั้นในนานนัก สวี่ชิงก็เดินไปยังชั้น 2

ที่นั่น เขาพบสิ่งที่ต้องการ

นั่นคือ แผนที่ของระบบดาวที่ 5

“สินค้าประเภทแผนที่ ราคาแตกต่างกันมาก ยิ่งละเอียดมากเท่าไหร่ ราคาก็ยิ่งแพงขึ้นเท่านั้นเจ้าค่ะ”

บนชั้น 2 มีสาวใช้คนหนึ่ง เมื่อสังเกตเห็นสวี่ชิงหยุดอยู่ข้างแผ่นหยกแผนที่ระบบดาวที่ 5 นางก็รีบเดินเข้ามา เอ่ยด้วยรอยยิ้ม

“ผู้อาวุโสท่านนี้ แผนที่ที่ท่านเห็นมีรายละเอียดของพื้นที่ทางใต้สูงมาก แต่ข้าต้องเตือนผู้อาวุโสว่า แผนที่ที่เราขายเป็นฉบับคัดลอก ทั้งยังมีตราประทับต้องห้าม ไม่อนุญาตให้คัดลอกซ้ำอีกนะเจ้าคะ”

สวี่ชิงได้ยินดังนั้น ก็เก็บสายตาจาก หยกสื่อสาร ตรงหน้า แล้วเอ่ยอย่างราบเรียบ “แค่ทางใต้ไม่พอ”

เมื่อคำพูดของเขาดังออกไป ดวงตาของหญิงสาวก็พลันเป็นประกายทันที รอยยิ้มหวานหยด

“แผนที่ที่ระดับที่สูงขึ้นไปอีกก็มีเช่นกัน ตำหนักเซียนสมบัติของเรามีสาขาทั่วทั้งระบบดาวที่ 5 มากมาย ดังนั้นสำหรับสินค้าประเภทแผนที่แล้ว ย่อมมีครบถ้วนเจ้าค่ะ”

“ไม่ทราบว่าผู้อาวุโสต้องการแผนที่ระดับใดเจ้าคะ”

สวี่ชิงคิดครู่หนึ่ง มองไปยังสาวใช้ที่อยู่ข้างกาย เอ่ยถ้อยคำออกมาอย่างเนิบนาบ “รวมระบบดาวที่ 5 ไว้ทั้งหมด รวมถึงกลุ่มอำนาจต่างๆ อัจฉริยะ ยิ่งละเอียดมากเท่าไหร่ยิ่งดี”

หญิงสาวได้ยินดังนั้นก็หรี่ตาลง ประเมินสวี่ชิงอย่างละเอียดครู่หนึ่ง ในใจพึมพำว่าคนผู้นี้มีโอกาสสูงว่าน่าจะเข้าร่วมการล่าเหยื่อเมืองเซียนอย่างแน่นอน มีเพียงคนประเภทนี้เท่านั้นถึงจะซื้อแผนที่แบบนี้

เพราะสิ่งที่พวกเขาต้องเผชิญ ไม่ใช่แค่คู่ต่อสู้ในพื้นที่ที่อยู่ แต่รวมถึงทั้งระบบดาวที่ 5 ทั้งดวงด้วย

คนเช่นนี้ ทุกคนล้วนเป็นผู้ล่าสังหารทั้งสิ้น

เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ ท่าทีของหญิงสาวก็เปลี่ยนไปนอบน้อมขึ้นอีกเล็กน้อย

“แผนที่ประเภทนี้ ตำหนักสมบัติเซียนของเรามี แต่ราคาจะต้องชำระด้วยหยกเซียน และจำนวน…”

สวี่ชิงสะบัดมือ เบื้องหน้ามีภูเขาลูกย่อมๆ ที่กองด้วยหยกเซียนลูกหนึ่งทันที จากนั้นก็เก็บมันไป แล้วมองสาวใช้อย่างสงบนิ่ง

สาวใช้รีบเอ่ยขึ้น “ผู้อาวุโส ขอเชิญที่ชั้น 3 เจ้าค่ะ”

สวี่ชิงพยักหน้า เดินขึ้นไปชั้น 3

ชั้น 3 ผู้บำเพ็ญยิ่งมีน้อย อีกทั้งแต่ละคนอยู่ในห้องส่วนตัว ได้รับการปกป้องความเป็นส่วนตัว

หลังจากเดินตามหญิงสาวเข้าไปในห้องส่วนตัว หญิงสาวก็โค้งคารวะจากไป ไม่นานนัก เมื่อกลับมาอีกครั้ง มือถือถาดมาด้วยถาดหนึ่ง

บนถาดมีแผ่นหยกสีขาวแผ่นหนึ่งวางอยู่

สวี่ชิงยกมือขึ้นคว้า แผ่นหยกพุ่งมาทันที เมื่ออยู่ในมือจิตเทพของเขาก็พลันกวาดไป

ทันใดนั้น แผนที่ขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้นในสมองของเขา

แผนที่นี้รวมเอา 4 ภูมิภาคหลัก ตะวันออก ตะวันตก ใต้ และเหนือเอาไว้ ขณะเดียวกันก็มีสัญลักษณ์ของขั้วอำนาจตระกูลและสำนักต่างๆ กระทั่งมีข้อมูลเกี่ยวกับขนบธรรมเนียมประเพณีบางอย่างอีกด้วย

และในนั้นยังมีการแนะนำเกี่ยวกับอัจฉริยะฝ่ายต่างๆ ด้วย

ละเอียดเป็นอย่างยิ่ง

เพียงแต่ข้อมูลสำคัญหลายอย่างนั้นพร่าเลือน

เห็นได้ชัดว่ามีตราประทับต้องห้าม จำต้องซื้อก่อนจึงจะมองเห็นได้ชัดเจน

สวี่ชิงพึงพอใจ หลังจากเก็บจิตเทพคืนมา ก็ไม่เสียเวลา ใช้หยกเซียนจำนวนมหาศาลแลกเปลี่ยนสิทธิ์ในการคัดลอก

จากนั้น ภายใต้ความเคารพนอบน้อมของหญิงสาวคนนั้น ก็ไปจากตำหนักแห่งนี้ เดินเข้าไปในฝูงชนแล้วหายลับไป

ในฝูงชน สวี่ชิงเปลี่ยนรูปลักษณ์หลายครั้ง สลับเปลี่ยนกลิ่นอายหลายหน จนกระทั่งแน่ใจว่าตัวเองไม่ได้รับปัญหาใดๆ จากการซื้อครั้งนี้ เขาก็แปลงร่างเป็นผู้บำเพ็ญธรรมดา เดินหน้าไปพลางสัมผัสรับรู้ข้อมูลจากแผนที่

“ใจกลางเมืองเซียนศักดิ์สิทธิ์ไม่อาจตรวจสอบได้”

“ตะวันออก ตะวันตก ใต้ และเหนือรอบๆ ทั้ง 4 ทิศ มี 4 เขตพื้นที่หลัก”

“4 เขตพื้นที่หลักที่ว่านี้ ในความเป็นจริงแล้วสามารถมองเป็นแดนดารา 4 แดนได้ แต่ละแดนก็แบ่งเป็นตะวันออก ตะวันตก ใต้ และเหนือของตัวเองเช่นกัน เพียงแต่เนื่องจากภาพรวมอยู่ในระบบดาวที่ 5 ดังนั้นในการเรียกขานของผู้คน จึงเน้นการแบ่งตามระบบดาวเป็นหลัก”

“และแดนดาราทั้ง 4 แห่งนี้ แต่ละแห่งก็มีสำนักและตระกูลจำนวนมาก…”

“ในบรรดาพวกเขา ผู้ที่เป็นสายหลักเขาที่สุดคือเขามหาเซียนแห่งแดนดาราทิศใต้ สำนักกระบี่เซียนแห่งแดนดาราทิศเหนือ หอคอยวงแหวนดาราแห่งแดนดาราทิศตะวันออก และสำนักเซียนมรรคาแห่งแดนดาราทิศตะวันตก”

“ขั้วอำนาจ 4 กลุ่มนี้ เหตุที่เป็นสายหลักเป็นเพราะแต่ละแห่งต่างก็มีบรรพจารย์เซียนระดับล่างที่รับผิดชอบทำหน้าที่ตรวจตราจากเมืองเซียนคอยคุ้มครองอยู่”

“และทั่วทั้งระบบดาวที่ 5 นอกเมืองเซียนที่เปิดเผยแล้ว มีเซียนระดับล่างทำหน้าที่ตรวจตราทั้งหมด 16 คน!”

“นอกจาก 4 คนนั้นแล้ว อีก 12 คนที่เหลือ แปลงร่างเป็นดวงดาว เดินทางในแสงเรืองรองแห่งขั้วโลก คุ้มครองแต่ละฝ่าย”

สวี่ชิงสัมผัสรับรู้ข้อมูลแผนที่ในสมอง สำหรับระบบดาวที่ 5 ในที่สุดก็มีการวิเคราะห์อย่างคร่าวๆ

ขณะเดียวกันสำหรับตำแหน่งที่ตัวเองอยู่ก็มีความเข้าใจที่ชัดเจน

“สถานที่ที่ข้าอยู่ คือชายขอบของแดนดาราทิศใต้ในระบบดาวที่ 5 อยู่ใกล้กับแดนดาราทิศตะวันตกมาก แทบจะเชื่อมต่อกัน ตรงกลางมีเพียงแม่น้ำโลหิตเทพเจ้าคั่นกลางเท่านั้น…”

“แม่น้ำนี้ จากคำบรรยาย มีตำนานหนึ่ง เหมือนว่าจะเกิดจากขึ้นเลือดของเทพเจ้า”

“บนนั้นเต็มไปด้วยอันตรายและสิ่งประหลาด เว้นเสียแต่ว่าจะมีพลังบำเพ็ญระดับมหาจักรพรรดิ ไม่เช่นนั้นก็ไม่สามารถข้ามไปได้”

“ดังนั้น แม่น้ำโลหิตเทพเจ้าสายนี้ จึงกลายเป็นหุบเหวที่ยากข้ามผ่านระหว่างฝั่งตะวันตกและฝั่งใต้”

“ผู้บำเพ็ญทั่วไปหากคิดจะเดินทางไปมาระหว่าง 2 ที่นี้ ทำได้เพียงต้องโดยสารเรือเท่านั้น…”

“และบนแม่น้ำสายนี้ยังมีอาชีพ พิเศษที่เรียกว่า…คนพายเรือข้ามฟากและมีเพียงคนพายเรือข้ามฟากเท่านั้นที่สามารถนำพาผู้คนข้ามแม่น้ำโลหิตเทพเจ้านี้ไปได้อย่างปลอดภัย”

“เพราะคนพายเรือข้ามฟากทุกคนล้วนมาจากเมืองเซียน พวกเขาเหมือนจะเป็นนักโทษที่ถูกเมืองเซียนลงโทษให้มาทำหน้าที่เป็นคนพายเรือข้ามฟาก”

“และการข้ามแม่น้ำต้องมีค่าใช้จ่าย ค่าใช้จ่ายนี้ไม่ใช่หินวิญญาณหรือหยกเซียน แต่เป็น ชีวิต”

“การข้ามแม่น้ำครั้งแรก ค่าใช้จ่ายคืออายุ 6 วันของผู้ข้ามฟาก เพราะการข้ามแม่น้ำก็ต้องใช้เวลา 6 วันเช่นกัน”

“ส่วนการข้ามแม่น้ำครั้งที่ 2 ค่าใช้จ่ายจะพุ่งสูงขึ้น ต้องใช้อายุ 60 ปี”

“ไม่มีครั้งที่ 3 แล้ว”

“เพราะครั้งที่ 3 คืออายุขัยทั้งชีวิต”

สวี่ชิงอ่านถึงตรงนี้ในใจก็แผ่ระลอกปั่นป่วน

(>>>พิสูจน์อักษร By Zank<<<)

AC

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!