บทที่ 1173 ซิงหวนจื่อ ออกไป!
จิตใจของซิงหวนจื่อในเสี้ยวขณะนี้ เกิดคลื่นยักษ์ท่วมฟ้า ราวมีเสียงฟ้าร้องนับไม่ถ้วนฟาดผ่าในใจ ทำให้ลมหายใจของเขาถี่กระชั้น รูม่านตาหดเล็ก…
เขาสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่า ความสัมพันธ์เชื่อมโยงระหว่างตัวเองกับเจ้าของร่าง ภายใต้แนวโน้มที่ไม่อาจต้านทาน ไม่อาจต่อกรได้ กำลังตัดขาดกันอย่างรวดเร็ว
พลังการตัดขาดไม่อาจกู้คืนกลับมาได้!
วาสนาในกาลก่อนที่ว่าคือรากฐานเหตุที่เขาสามารถสิงอริยะเซียนที่ 4 ได้
และตอนนี้รากฐานนี้กำลังพังทลายลงอย่างต่อเนื่อง
อีกทั้งจิตสำนึกรับรู้ของเขาภายใต้แนวโน้มที่ไม่อาจต้านทานนี้ ก็เริ่มพังทลาย ส่งความเน่าเปื่อยออกมา
กระทั่งว่าส่งผลกระทบต่อโลกปัจจุบัน ราวกับว่าเหมือนใบไม้จริงๆ แห้งเหี่ยวไปอย่างรวดเร็ว
ระหว่างนี้ จะเป็นกฎระเบียบของเขาก็ดี กฎเกณฑ์ก็ช่าง ต่างกำลังพังทลายลงทั้งสิ้น
ซึ่งรวมถึงโซ่สีทองที่แปรเปลี่ยนมาจากรากฐานธรรมนูญของซิงหวนจื่อด้วย
โซ่เหล็กนี้ ตอนนี้จากการแห้งเหี่ยวไปของจิตสำนึกรับรู้ซิงหวนจื่อ ก็กำลัง…ขาดสะบั้น!
การแตกร้าวของทุกข้อในนั้นล้วนทำให้จิตสำนึกรับรู้ของซิงหวนจื่อเกิดความเจ็บปวดที่ยากพรรณา ทุกอย่างนี้ทำให้เขาเกิดความหวาดกลัวขึ้นมาเป็นครั้งแรกในชีวิตของเขา
ส่วนการพิพากษาที่เขาอัญเชิญออกมา…
ในเสี้ยวพริบตาที่หนังสือสมรสปรากฏออกมา การพิพากษาก็ไม่อาจดำเนินการได้!
โลงศพทั้ง 13 ต่างสั่นสะเทือน เสียงในนั้นต่างคืนกลับไป…
เหมือนกับว่าทุกอย่างล้วนพลิกผัน คำพูดที่พูดออกไป ธรรมนูญที่ก่อขึ้น ตอนนี้ที่ปรากฏออกมาเป็นรูปธรรม ล้วนหอบม้วนกลับคืน ไม่หลงเหลืออยู่อีก
พลังของผู้นำเซียนอยู่เหนือซึ่งฟ้าดิน!
และในเสี้ยวขณะนี้ ผู้ที่สีหน้าเปลี่ยนไปอย่างมหาศาลก็ไม่ใช่แค่ซิงหวนจื่อเท่านั้น
แต่ยังมีกระบี่เซียน 2 เล่มนั้นด้วย
เชียนจวินและปี้อี้ที่อยู่กลางอากาศต่างสั่นสะท้านด้วยเช่นกัน ภาพฉากที่เกิดขึ้นต่อหน้าพวกเขาเกินกว่าจินตนาการของพวกเขา
และวันนี้เรื่องที่เกินกว่าจินตนาการของพวกเขาก็มากมายมหาศาลเสียเหลือเกิน เรื่องแล้วเรื่องเล่า
ฐานะที่ไม่มีทางได้รับ ถูกคนลึกลับคว้าเอาไปได้
เรื่องที่ว่าไม่ควรยอมรับนาย เกิดขึ้นอย่างน่าเหลือเชื่อ
และตอนนี้…หนังสือสมรสกลับปรากฏขึ้น!
รอยตัวอักษรในนั้นกลับเอามาใช้แบบนี้ได้ด้วย
ทุกอย่างนี้ทำให้เชียนจวินและปี้อี้ในใจมีสายฟ้าฟาดผ่า
หนังสือสมรสนี้อย่างน้อยในกาลอวกาศแห่งนี้ ตำแหน่งและความหมายของมัน ต่อให้ไม่ใช่อยู่สูงส่งสูงสุดก็เป็นหนึ่งในสิ่งที่สูงส่ง!
สิ่งที่แฝงอยู่ในนั้นคือคำอวยพรทุกอย่างที่ผู้นำเซียนจี๋กวงอวยพรแก่บุตรชายของเขา
คำอวยพรนี้ก็คือเจตจำนง
เจตจำนงนี้ผสานไปในระหว่างบรรทัดของหนังสือสมรส ทำให้ทุกตัวอักษรล้วนกลายเป็นธรรมนูญของกาลอวกาศแห่งนี้!
ซึ่งเป็นข้อบังคับด้วยเช่นกัน!
ภายใต้การหลั่งไหลของมัน กฎระเบียบก็ยังต้องก้มศีรษะ กฎเกณฑ์ก็ยังต้องเปลี่ยนวิถี
หากขัดแย้งกับมัน เช่นนั้นก็เท่ากับขัดแย้งต่อเจตจำนงของผู้นำเซียนจี๋กวง
และของสิ่งนี้ทั้งวังเซียน ก็มีเพียงพ่อลูกผู้นำเซียนจี๋กวงเท่านั้นที่ถือครองได้
ดังนั้น ในทันทีที่หนังสือสมรสปรากฏขึ้น ฟ้าดินเปลี่ยน จุดจบทุกอย่างล้วนกำหนดแน่ชัดแล้ว ไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้
ส่วนเหตุที่สวี่ชิงสามารถอำพรางร่องรอยตัวอักษรบนนั้นได้ ทำให้ตัวอักษรของหนังสือสมรสปรากฏขึ้นตามที่ตัวเองคิด…
เป็นเพราะนายน้อยคนนี้ที่เขาสิงร่างอยู่ ชื่อก็อยู่บนหนังสือสมรส!
ดังนั้นเขาจึงมีสิทธิ์
ต่อให้เป็นเช่นนี้ ก็ยังต้องอาศัยเวลาที่เหมาะสม ซึ่งเวลาที่เหมาะสม…ก็คือระลอกคลื่นของห้วงกาลอวกาศนั่นเอง
อีกทั้งระลอกคลื่นนี้จะต้องถึงในระดับหนึ่งถึงจะเกิดผล
นี่ก็คือเหตุผลที่สวี่ชิงทำไมต้องให้คืนนี้ ทำให้ทุกคนบรรลุเป้าหมาย ล้วนเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์ ล้วนก่อให้เกิดระลอกคลื่นกาลอวกาศ
เขาจะให้ระลอกคลื่นกาลอวกาศเหล่านี้สุดท้ายพลังที่ระเบิดออกมาประดุจคลื่นยักษ์!
อาศัยพลังนี้จากการนั้น ดึงเอาต้นกำเนิดของการไหลผ่านเป็นไปตามธรรมชาติที่เกิดจากระลอกคลื่นของกาลเวลา มาใช้ในการอำพรางร่องรอยตัวอักษรของหนังสือสมรส
ดังนั้นภาพนี้ในเสี้ยวขณะนี้ ดูเหมือนง่ายดาย แต่ความจริงแล้ว หากคิดจะทำให้สำเร็จ ขั้นตอนซับซ้อนยุ่งยาก อีกทั้งต้องถึงเงื่อนไขเบื้องต้นทั้งหมดแล้วถึงจะระเบิดพลังขึ้นได้!
และการระเบิดพลังภายใต้ความยากลำบากเช่นนี้ ย่อมสะท้านสะเทือนทุกสิ่ง
ตอนนี้ท้องฟ้าสายฟ้าแลบแปลบปลาบ ฟาดผ่าความว่างเปล่า
เสียงเปรี้ยงปร้างมาพร้อมด้วยพลังอันรุ่งโรจน์ แผ่ปกคลุมไปทั่วทุกหนแห่งของเตากระบี่
เงยหน้าไปมอง ผืนนภาถูกสายฟ้าล้อมรอบ ราวก่อเป็นตาข่ายสายฟ้าผืนหนึ่ง ก่อเป็นคลื่นยักษ์กับระลอกคลื่นกาลอวกาศ ประดุจสอดประสานเข้าด้วยกัน
และเงาร่างที่ยืนอยู่บนคลื่นยักษ์ ผมยาวปลิวพริ้ว รัศมีอำนาจก็สะท้านสะเทือนฟ้าดิน โดยเฉพาะความเฉียบขาดในดวงตาทั้ง 2 ประดุจสามารถทะลุทะลวงทุกอย่างในโลก
กำลังจ้องมองอริยะเซียนที่ 4
บนหนังสือสมรสเบื้องหน้าเขา ตัวอักษรทั้ง 16 ตัวที่ปรากฏขึ้นอย่างชัดเจนยิ่งระยิบระยับพร่างพราย เปล่งประกายไร้ขอบเขต แสงพราวพร่างสาดไปทั่วทุกสารทิศ
ภายใต้ประกายแสงของมัน สีหน้าของอริยะเซียนที่ 4 บิดเบี้ยว ทั่วทั้งร่างแผ่ไอสีดำออกมา
ไอสีดำเหล่านี้ รวมมายังเหนือศีรษะของเขากลายเป็นเงาร่างของซิงหวนจื่อที่รางเลือน กำลังสลายไป!
ความไม่ยอมจำนนทุกอย่างล้วนไร้ความหมาย
การดิ้นรนทุกอย่างล้วนไร้ประโยชน์
ท่ามกลางประกายแสงของตัวอักษรทั้ง 16 ตัวของหนังสือสมรส ภายใต้พลังที่ไม่อาจต้านทานนี้ ดวงดาวอันดับ 1 ที่อยู่โลกภายนอกแข็งแกร่งไร้เทียมทานก็ไม่มีพลังที่จะพลิกสถานการณ์กลับมาเช่นกัน
เขามีแต่โดนขับไล่ และจะต้องถูกขับไล่ออกไปเท่านั้น!
วาสนาในอดีตกาลระหว่างเขากับอริยะเซียนที่ 4 ขาดสะบั้นลงแล้ว พลังของใบไม้แห้งเหี่ยวโจมตีเขา สร้างความเสียหายอย่างสาหัส
และผู้ที่เดิมจะขับไล่ผู้อื่น ตอนนี้กลับถูกขับไล่
รากฐานธรมนูญของตัวเองก็แตกสลาย
ในโลกชั้นที่ 4 นี้ไม่เพียงแต่ไม่ได้ผลประโยชน์ใดๆ ทั้งสิ้น แต่ยังเสียหายและบาดเจ็บจนถึงรากฐาน
ทุกอย่างนี้ทำให้ตอนนี้ก่อนที่เขาจะสลายไป ในสายตาที่มองมาทางสวี่ชิงฉายจิตสังหารอย่างรุนแรง
“ครั้งนี้ข้ายอมรับว่าเจ้าชนะแล้ว แต่…ศึกระหว่างเจ้ากับข้า ยังไม่จบ”
“ข้าจะไปยังชั้นที่ 5 ที่เจ้าไม่อาจย่างก้าวเข้าไปได้ เลื่อนขั้นเป็นเตรียมเซียน!”
“และเพื่อตอบแทนที่เจ้าทำให้ข้าไม่อาจทำให้ธรรมนูญสมบูรณ์แบบได้…รอเมื่อวาสนาวังเซียนนี้จบลง เจ้าไม่มีฐานะของกาลอวกาศนี้ ทันทีที่ปรากฏตัวขึ้นภายนอก ก็จะเป็นเวลาที่ข้าจะฆ่าเจ้า!”
คำพูดสะท้อนก้อง
เงาจิตสำนึกรับรู้ของซิงหวนจื่อแหลกสลายกลายเป็นเถ้าธุลี
ถูกขับไล่ออกไปจากห้วงอวกาศนี้
ฝ่ายรักษากฎระเบียบในการละเล่นครั้งนี้พ่ายแพ้โดยสมบูรณ์
ไม่มีความเป็นไปได้ที่จะพลิกสถานการณ์กลับมา
ส่วนคำพูดก่อนที่ซิงหวนจื่อจะถูกขับไล่ แม้จิตสังหารจะมากล้น แต่ในเมื่อจุดยืนถูกกำหนดแล้ว สวี่ชิงจิตใจย่อมไม่หวั่นไหวเพราะจิตสังหารของอีกฝ่าย
“รอเมื่อทันทีที่วาสนาวังเซียนสิ้นสุด ข้าจะต้องไม่ได้มีพลังบำเพ็ญแค่อย่างในตอนนี้แน่นอน!” สวี่ชิงพึมพำในใจ หันไปมองร่างจริงของอริยะเซียนที่ 4
หลังจากที่ไม่มีจิตสำนึกรับรู้ของซิงหวนจื่อ ร่างจริงของอริยะเซียนที่ 4 ก็ราวกับฟองอากาศ หายไปในอากาศ
ภาพนี้ทำให้สวี่ชิงคล้ายครุ่นคิด แต่เสี้ยวขณะต่อมาสีหน้าก็เป็นปกติ
และในตอนนี้ หลังจากที่ฝ่ายรักษากฎระเบียบพ่ายแพ้ กาลอวกาศส่งเสียงเลื่อนลั่น
ราวกับม้าป่าไร้ซึ่งบังเหียน น้ำป่าไหลหลากไม่มีเขื่อน ระลอกคลื่นกาลอวกาศในเสี้ยวขณะนี้พลังเหนือยิ่งกว่าก่อนหน้า ปะทุพลังออกมาอย่างไร้ขีดจำกัด
เม็ดทรายกาลอวกาศมหาศาลปรากฏขึ้นจากความว่างเปล่า ลอยขึ้นมาจากร่างของคนทั้งหลาย สรรพสิ่งทั้งปวงในวังเซียน หลอมรวมมารอบสวี่ชิง ประดุจฝนโปรยปรายลงมา
จำนวนมากมายกว่าที่เขาเคยมีเป็นร้อยเท่า!
ทรายเหล่านี้สุกใสแวววาว ตกลงมาอย่างต่อเนื่อง รวมตัวกันไม่หยุด สุดท้ายก็ก่อตัวเป็นนาฬิกาทราย!
ลอยอยู่ข้างหน้าสวี่ชิง!
และในเสี้ยวพริบตาที่นาฬิกาทรายปรากฏขึ้น ฟ้าดินสั่นไหว วังเซียนสั่นคลอน โลกทั้งใบก็ปั่นป่วน แสงสว่างที่เปล่งออกมานั้น ราวกับบดบังทุกสิ่ง
นี่คือสมบัติล้ำค่าแห่งห้วงเวลา!
สวี่ชิงจ้องมอง จิตใจของเขาในเสี้ยวขณะนี้ปั่นป่วนรุนแรง ผ่านจากธรรมนูญของเขา เขาสามารถสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่า เวลาของนาฬิกาทรายนี้คือ 1 ก้านธูป
กล่าวให้แม่นยำ คือ 1 ก้านธูปที่อยู่เหนือซึ่งห้วงเวลานี้!
นาฬิกาทรายนี้ สามารถใช้ได้ทุกเมื่อ ในประวัติศาสตร์ในอดีตใดๆ ก็ตาม ในกาลเวลาใดๆ ก็ตาม ฝืนเพิ่มเวลาพิเศษอีก 1 ก้านธูป
อีกทั้งไม่อาจถูกลบออกได้!
ราวกับว่า…มันดำรงอยู่นอกกาลอวกาศ นอกห้วงกาลเวลา!
ขณะเดียวกัน ธรรมนูญของสวี่ชิงเอง ในเสี้ยวขณะที่เขาสัมผัสรับรู้นาฬิกาทรายก็พัฒนาขึ้น
การสัมผัสรับรู้กาลเวลามากมาย ปรากฏขึ้นในจิตสำนึกของเขา เติมเต็มธรรมนูญของเขา หล่อเลี้ยงกฎเกณฑ์ของเขา ทำให้ธรรมนูญของเขาในช่วงเวลาสั้นๆ นี้ ราวกับได้ผ่านไปนับไม่ถ้วน
ไปถึงขั้นสูงสุดของวิถีสูงสุดที่ 8 !
และจากการพัฒนาของธรรมนูญ กลิ่นอาย กำลังรบ พลังบำเพ็ญของสวี่ชิง ล้วนแต่พุ่งเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในเสี้ยวพริบตานี้
เตรียมสู่เทวะ 9 โลก ขาดอีกเพียงเศษเสี้ยวเท่านั้น!
“เพราะรากฐานของข้าเพียงพอแล้ว ดังนั้นเมื่อข้าทะลวงผ่านเศษเสี้ยวนั้น ในพริบตาที่ก้าวเข้าสู่ 9 โลก นั่นก็คือทันทีที่ข้าเลื่อนขั้นสู่ระดับเจ้าเหนือหัว!”
“และระดับเจ้าเหนือหัวของข้า ไม่เพียงแต่แข็งแกร่งกว่าคนทั่วไปเท่านั้น อีกทั้งจากการสั่งสมพลังมา ระดับเจ้าเหนือหัว…ก็เป็นเพียงแค่ทางผ่านเท่านั้น!”
“บรรลุระดับเตรียมเซียน ใกล้แค่เอื้อม!”
สวี่ชิงสูดลมหายใจลึก เงยหน้าขึ้น ทอดสายตามองขอบฟ้า
ปลายขอบฟ้าตอนนี้ แม้ลิขิตสวรรค์ปั่นป่วน รางเลือนไปหมด แต่ท่ามกลางความรางเลือน…จะเห็นอาทิตย์ยามรุ่งอรุณกำลังลอยสู่ท้องฟ้า
ฟ้า สว่างแล้ว
แสงอาทิตย์ทะลุผ่านชั้นเมฆ ตกกระทบมายังบริเวณเตาหลอมกระบี่ และสาดทอมายังร่างของสวี่ชิง
สวี่ชิงที่อยู่ท่ามกลางแสงอาทิตย์กลุ่มนี้ สายตาดึงกลับมาจากปลายขอบฟ้า มองไปยังทางออกของบริเวณเตาหลอมกระบี่
เอ่ยขึ้นราบเรียบ “ออกมา”
บริเวณทางออก มิติบิดเบี้ยว เงาร่างหนึ่งหลอมรวมปรากฏขึ้นในนั้น
นี่เป็นชายหนุ่มคนหนึ่ง สวมชุดสีขาว หน้าตาธรรมดา แต่สีหน้าบนใบหน้าอ่อนโยน รอยยิ้มอบอุ่น เหมือนว่าไม่มีอันตรายใดๆ ทั้งสิ้น โค้งคารวะสวี่ชิง
“โจวเจิ้งลี่ คารวะนายน้อย”
“นายน้อยในการต่อสู้ครั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นการวางแผนหรือการลงมือ ล้วนน่าทึ่งอย่างยิ่ง สมควรกล่าวได้ว่าอำนาจเซียนสะเทือนโลก เป็นมังกรในหมู่มนุษย์!”
ชายหนุ่มคนนี้ก็คือโจวเจิ้งลี่ที่ติดตามอยู่ข้างกายซิงหวนจื่อมาโดยตลอดนั่นเอง!
ตอนนี้สีหน้าของเขาสุขุม ในดวงตาจริงใจ รอยยิ้มแฝงด้วยความทอดถอนใจ แฝงด้วยความเลื่อมใส
ในดวงตาสวี่ชิงฉายความเย็นเยือกกลุ่มหนึ่งออกมา
คนคนนี้ ในทันทีที่ซิงหวนจื่อถูกขับไล่ ก็เดินเข้ามาในบริเวณเตาหลอมกระบี่ ดูเหมือนซ่อนอำพราง แต่ความจริงแล้วก็เปิดเผยกลิ่นอาย เหมือนจะเป็นฝ่ายให้โอกาสคนอื่นเปิดเผยตัวเอง
ไม่ว่าจะเป็นดวงดาวดวงไหนล้วนแต่ไม่ธรรมดาทั้งสิ้น แต่โจวเจิ้งลี่ที่อยู่ข้างกายซิงหวนจือมาโดยตลอดคนนี้ ในการต่อสู้ครั้งนี้ ตั้งแต่ต้นจนจบล้วนเหมือนไม่มีตัวตนอะไร
ทำให้คนง่ายที่จะมองข้ามเขาไป
แต่ในตอนนี้ที่ซิงหวนจื่อถูกขับไล่ แต่เขา…ก็ยังคงอยู่
นี่เดิมก็บ่งบอกถึงปัญหา
นอกจากนี้ หลังจากที่ได้รู้จักเสียหลิงจื่อ และมีความเกี่ยวพันกับเขา สวี่ชิงก็ได้เห็นเล่ห์เหลี่ยมของเสียหลิงจื่อ เช่นนั้น สำหรับโจวเจิ้งลี่ที่สู้กับเสียหลิงจื่อมาโดยตลอด ก็ได้มีการตัดสินทางอ้อมแล้ว
คนคนนี้เชี่ยวชาญการซ่อนอำพราง สิ่งที่ซ่อนอำพรางไม่ใช่แค่ตัวเท่านั้น แต่ยังมีความคิด ยิ่งรวมไปถึง…เป้าหมายของเขา!
“เจ้าไม่ได้รักษากฎระเบียบ ท่าทางจุดจบของซิงหวนจื่อวันนี้ก็มีความดีความชอบของเจ้าอยู่เช่นกัน” สวี่ชิงเอ่ยเนิบนาบ
หากซิงหวนจื่อยังอยู่ ได้ยินประโยคนี้ จิตใจจะต้องตื่นตะลึงอย่างรุนแรงแน่นอน
และคำพูดของสวี่ชิงก็มั่นใจมาก
เพราะหากโจวเจิ้งลี่รักษากฎระเบียบ เช่นนั้นหลังจากที่ซิงหวนจื่อจากไป ระลอกคลื่นกาลอวกาศจะต้องไม่ใหญ่อย่างนี้แน่นอน และความรู้สึกว่าฝ่ายรักษากฎระเบียบพ่ายแพ้อย่างสมบูรณ์ ก็จะไม่เกิดขึ้น
เช่นนั้นคำตอบมีเพียงอย่างเดียว
โจวเจิ้งลี่แสดงท่าทีถ่อมตน เอ่ยเสียงเบา “นายน้อยปราดเปรื่อง”
“ข้าไม่มีความคิดจะเป็นศัตรูกับท่าน ไม่ว่าจะเป็นที่นี่ หรือภายนอก”
“การที่ท่านได้ฐานะที่ไม่มีทางครอบครองได้นี้ ก็อธิบายอะไรมากมายแล้ว ท่าน…ไม่ใช่คนธรรมดา ตัวตนเช่นนี้ ข้าย่อมคิดที่จะผูกมิตรด้วย”
“ส่วนซิงหวนจื่อ เขาเชื่อมั่นในตัวเองมาก ที่จริงแล้ว บทบาทของข้าก็ไม่ได้มีผลมากมายนัก เพียงแค่ผลักดันเล็กน้อยในเวลาที่เหมาะสมเท่านั้น”
โจวเจิ้งลี่เอ่ยอย่างอบอุ่น
“นี่ก็คือเป้าหมายของข้า ในตอนที่สังเกตได้ว่าฐานะของท่านไม่ปกติ เป้าหมายของข้าก็มีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น…ผูกมิตรกับท่าน”
“ส่วนในโลกชั้นที่ 4 นี้ ที่จริงแล้วข้าสามารถเป็นฝ่ายรักษากฎระเบียบก็ได้ หรือจะเป็นกลางนั่งดูระลอกคลื่นและการพัฒนาของประวัติศาสตร์ในระดับใดก็ได้ และยังสามารถสร้างความปั่นป่วนได้ด้วยเช่นกัน
นี่ก็คือธรรมนูญของข้า วิถีของข้า”
พูดจบโจวเจิ้งลี่ก็ก้มศีรษะ ท่าทียังคงถ่อมตน
ในดวงตาสวี่ชิงประกายวามวามฉายวาบ เอ่ยขึ้นอย่างเนิบนาบ “เหตุใดจึงบอกข้าละเอียดขนาดนี้”
“ข้าอยากผูกมิตรกับท่าน และอยากอยู่ต่อไป และหากท่านไม่เข้าใจข้าอย่างถ่องแท้ ก็คงไม่มีทางผูกมิตรกับข้า และไม่มีทางให้ข้าอยู่ต่อ” โจวเจิ้งลี่สงบนิ่ง ยังคงโค้งคำนับอยู่
(>>>พิสูจน์อักษร By Zank<<<)



