Skip to content

Outside Of Time 1174

Outside of Time
BC

บทที่ 1174 ชุดแต่งงานโบราณ

“เหตุผลนี้ยังไม่พอ”

C

สวี่ชิงยืนอยู่กลางอากาศ ก้มลงมองโจวเจิ้งลี่ที่ยังคงวางท่าทางถ่อมตน เอ่ยอย่างสงบนิ่ง

คนตรงหน้า ดูเหมือนไม่มีพิษภัย แต่จริงๆ แล้วสิ่งที่ซ่อนอยู่ภายใต้รูปลักษณ์ที่ไร้พิษภัยนี้ คืองูพิษร้ายตัวหนึ่ง

ซิงหวนจื่อคือถูกคนผู้นี้เติมเชื้อไฟ ในสาเหตุความพ่ายแพ้ของเขา คนผู้นี้ก็มีส่วนอยู่ไม่น้อย

แม้สวี่ชิงจะไม่คิดว่าตัวเองจะเป็นซิงหวนจื่อคนที่ 2 แต่นิสัยที่ระมัดระวังได้กำหนดวิธีการทำสิ่งต่างๆ ของเขา

ดังนั้น แม้โจวเจิ้งลี่จะบอกเหตุผล แสดงออกถึงความอยากผูกมิตร และวางท่าทีถ่อมตน แต่นอกเสียจากจะมีเหตุผลที่ดีพอ ไม่เช่นนั้น สวี่ชิงก็ไม่คิดจะเก็บเขาไว้

และในเสี้ยวขณะนี้ ด้วยอำนาจที่สวี่ชิงรวบรวมไว้ หากเขาไม่ต้องการให้คนผู้นี้อยู่ เช่นนั้นคนผู้นี้ก็ไม่มีทางอยู่ได้

ดังนั้น ลมรอบๆ ตัวก็เริ่มเย็นยะเยือก แสงแดดที่สาดส่องมา ก็ไม่สามารถขับไล่ความหนาวเย็นนี้ได้แม้แต่น้อย

โจวเจิ้งลี่นิ่งเงียบ ท่ามกลางลมหนาว เขายกศีรษะขึ้น มองไปยังสวี่ชิง

พลันกล่าวขึ้น “ใต้เท้า อีก 4 วันก็จะถึงวันแต่งงานแล้ว และพิษของจงฉือ ก็ต้องมีคนไปทดลอง เพื่อเผยแพร่ออกไป เช่นนี้จึงจะสามารถสร้างระลอกคลื่นได้ภายในเวลาเพียง 4 วันอันสั้นนี้”

“ส่วนหลี่เทียนเจียว เพื่อป้องกันไม่ให้เขามีความคิดไม่ซื่อ ก็ต้องมีคนคอยจับตาดู เพื่อให้ใต้เท้าในช่วงไม่กี่วันนี้ ไม่ต้องกังวลมาก ข้าเข้าใจเจียงฝาน ข้าสามารถทำได้”

“ทั้งยังมีฐานะของสาวงามจิ้งจอก ก็จำต้องมีผู้เขียนชีวประวัติให้ ทำให้เผยแพร่จนกลายเป็นความเชื่อฝังแน่น ส่วนข้าแซ่โจว ฐานะในวังสวรรค์คืออาลักษณ์ผู้จดบันทึกประวัติศาสตร์”

“ขณะเดียวกัน ข้างกายนายน้อย ก็ต้องมีสหายศึกษาอีกคนหนึ่ง”

“สิ่งเหล่านี้ ส่วนใหญ่เป็นการรักษาระลอกคลื่น และใน 4 วันนี้ ข้าสามารถทำเรื่องราวหลายสิ่งหลายอย่างให้นายน้อยได้ ไม่ใช่แค่คงระลอกคลื่นเท่านั้น ข้าสามารถสร้างระลอกคลื่นได้มากขึ้น”

“นอกจากนี้ มีตาแก่ 3 คนซ่อนอยู่ที่นี่ คอยเฝ้าสังเกตการณ์อยู่ แต่ข้าได้จับเป้าหมายตัวตนของพวกเขาแล้ว ไม่จำเป็นต้องให้นายน้อยว้าวุ่น ทุกวันข้าสามารถอาศัยอำนาจที่มีอยู่จัดการได้วันละคน”

“รับประกันว่าวันแต่งงาน จะไม่มีปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้ใดๆ ทั้งสิ้น”

“สุดท้ายนี้ ไม่ว่าเมื่อใด หากนายน้อยรู้สึกว่าระลอกคลื่นกาลอวกาศยังไม่เพียงพอ ขอเพียงสั่งมา ข้าก็จะยอมตายอย่างเปิดเผย เพื่อเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์ของตัวเอง”

“แน่นอนว่า การมีชีวิตอยู่เพิ่มอีกวัน ก็มีประโยชน์ต่อข้า”

“ทั้งหมดนี้ คือเหตุผลที่ข้าขอร้องให้ได้อยู่ต่อ”

กล่าวจบ โจวเจิ้งลี่ก็ก้มหน้าลงอีกครั้ง รอการตัดสินใจของสวี่ชิง

สวี่ชิงมองโจวเจิ้งลี่ที่อยู่เบื้องหน้าด้วยสายตาเย็นชา ครู่หนึ่งก็ยกมือขึ้นสะบัด ทันใดนั้นหนังสือสมรสที่เปล่งประกายแสงเจิดจรัสก็ลอยมาหาเขา พลันถูกเขาเก็บไว้ในอกเสื้อ

จากนั้นเมื่อเขาสะบัดมือ เชียนจวินและปี้อี้ที่ไม่เต็มใจเป็นที่สุด กระบี่เซียนที่พวกเขาอยู่ ท่ามกลางเสียงคำรามจากกระบี่อย่างดีใจจนออกนอกหน้า ก็มาอยู่ข้างซ้ายขวาของสวี่ชิง ขณะเดียวกับที่เปล่งประกายแสงกระบี่ไม่หยุด เสียงคำรามของกระบี่ก็ดังไม่ขาดสาย

หลังจากนั้น สวี่ชิงก็ไม่มองโจวเจิ้งลี่อีกต่อไป ร่างก้าวไปข้างหน้า 1 ก้าว เดินผ่านเขาไป ก้าวไปยังทางออกของเตาหลอมกระบี่

เพียงแต่ในเสี้ยวขณะที่จากไป เสียงของเขาก็ดังสะท้อนก้องมาจากข้างหลังโจวเจิ้งลี่

“เจ้าเคยกินงูไหม”

“งูที่พิษยิ่งร้ายกาจ เนื้อก็ยิ่งนุ่ม”

สวี่ชิงจากไป

ส่วนโจวเจิ้งลี่ยืนนิ่งไม่ไหวติง จนกระทั่งครู่หนึ่ง เมื่อรอบตัวเงียบสงบลง โจวเจิ้งลี่จึงค่อยๆ ยืนตัวตรง หันกลับไปมองยังที่ที่สวี่ชิงจากไป

สีหน้าของเขา แสดงออกถึงความเคร่งขรึม

“เขากับซิงหวนจื่อ มีจุดที่คล้ายกัน และมีจุดที่ต่างกัน เขาละเอียดรอบคอบกว่า และโหดเหี้ยมกว่า…”

“อีกทั้ง ในสายตาของเขา ข้าคืองูพิษ แต่…ในสายตาของข้า หรือในสายตาของซิงหวนจื่อ เขาเองก็เป็นงูพิษเช่นกันไม่ใช่หรือ…”

นานทีเดียว เขาก็สูดหายใจเข้าลึกๆ

ในใจความคิดที่จะไม่เป็นศัตรูกับอีกฝ่ายก็มากขึ้นมาอีกเล็กน้อย

……

ความปั่นป่วนของลิขิตสวรรค์ จากการมาเยือนของวันแต่งงาน จากการใกล้เข้ามาของศักราชจี๋กวง ก็ยิ่งทวีความรุนแรงขึ้น

การสลับสับเปลี่ยนของกลางวันและกลางคืน การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศตามธรรมชาติ ลมแรงตลอดเวลา ไม่เคยหยุดนิ่ง

แต่กลับ…เรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นเมื่อคืนที่ผ่านมาราวว่าไม่มีใครสนใจ เหมือนถูกลมพัดหายไปจนหมดจด

อริยะเซียนที่ 4 ที่หายไปก็ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง และพบกับสวี่ชิงระหว่างทางกลับ

ในเสี้ยวขณะที่พบกัน เขาพูดคุยหัวเราะร่าด้วยน้ำเสียงที่คุ้นเคย ทุกอย่างเป็นปกติ และตรงกับความทรงจำของเจ้าของร่างของสวี่ชิง

ดูเหมือนว่า สำหรับเรื่องราวก่อนหน้านี้ อริยะเซียนที่ 4 ผู้นี้จะไม่มีความทรงจำใดๆ ไม่รู้เลยว่าตนเองถูกจิตสำนึกของผู้อื่นสิงอยู่

ภาพนี้ ทำให้ความคิดของสวี่ชิง จมดิ่งลงสู่การครุ่นคิดอีกครั้ง

เขาเห็นด้วยตาตัวเองว่า ร่างของอีกฝ่ายหายไปในบริเวณเตาหลอมกระบี่

“เรื่องนี้…”

สวี่ชิงหรี่ตา มองไปยังท้องฟ้า จากนั้นก็บอกลาอริยะเซียนที่ 4 กลับสู่ตำหนักหนึ่งน้อยไร้ขอบเขต

ไม่ได้ออกไปข้างนอกอีก

ดังนั้น เวลา 4 วัน แต่ละวัน…แต่ละวัน ก็ผ่านพ้นไป

โจวเจิ้งลี่ทำตามที่เขาพูดจริงๆ ตลอด 4 วันนี้ก็ทุ่มเทอย่างเต็มที่

เขาได้เขียนอัตชีวประวัติของสาวงามจิ้งจอก ทำให้ฐานะของนาง ไม่ใช่แค่ศิษย์ของผู้นำเซียนจิ่วอั้นอีกต่อไป แต่ยังมีสิ่งอื่น ฝังลึกอยู่ในประวัติศาสตร์นี้

เขาจับตาพฤติกรรมของหลี่เทียนเจียว ทำให้หลี่เทียนเจียวที่รู้สึกจนใจอยู่บ้าง ไม่มีโอกาสที่จะทำสิ่งผิดปกติได้เลย อีกทั้งยังโน้มน้าวเขา ทำให้หลี่เทียนเจียวเลือกที่จะยอมรับโดยปริยาย

เขาทดลองพิษของจงฉือด้วยตัวเอง และผลักดันด้วยตัวเอง ทำให้วิถีพิษของจงฉือถูกจัดตั้งขึ้นสำเร็จ ทำให้พิษของหลี่เมิ่งถู่เป็นที่รู้จักไปทั่ววังเซียน

เขายิ่งระดมพลังของวังเซียน ในช่วง 4 วันนี้ สร้างระลอกคลื่น 3 ระลอก จัดการตาแก่ 3 คนที่ซ่อนตัวอยู่ ขับไล่ออกไปโดยอาศัยอำนาจของวังเซียน

วิธีคือตัดครึ่งร่าง

เพิ่มทรายแห่งกาลอวกาศให้กับสวี่ชิงขึ้นอีกเล็กน้อย

นอกจากนั้น เขาก็ไม่มีการเคลื่อนไหวอื่นใดอีก และไม่เคยมีการกระทำใดๆ ที่จะทำให้สวี่ชิงเข้าใจผิด

เคารพนอบน้อม

เช่นนี้เอง ในประวัติศาสตร์ช่วงนี้ 4 วันสุดท้ายก่อนวันแต่งงานก็ผ่านไปอย่างราบรื่น

ไม่มีอุปสรรคแม้แต่น้อย

ในที่สุด วันสมรสของเซียนหลิงหวงและนายน้อยแห่งวังแสงเรืองรองก็มาถึง

วันนี้ ตั้งแต่เช้าตรู่ วิถีสวรรค์ก็ไม่หมุนเวียนอีก ลิขิตสวรรค์ก็หยุดนิ่งไปเช่นกัน ดังนั้นบนท้องฟ้า พระอาทิตย์และพระจันทร์ต่างปรากฏขึ้น ร่วมกันส่องแสงเจิดจรัส

เงยหน้าขึ้นมอง ราวกับเป็นสิริมงคล ประกายแสงสว่างไร้ขอบเขต

ส่วนภายในวังเซียน ก็เป็นเช่นเดียวกัน มีการประดับประดาตบแต่งอย่างสวยงามทุกหนแห่ง ผู้คนต่างมีรอยยิ้มเปื้อนหน้า ไม่ว่าจะเป็นบรรยากาศทางอารมณ์ หรือบรรยากาศโดยรอบ ล้วนคึกคักเป็นพิเศษ

เสียงหัวเราะและคำชื่นชม ดังก้องไม่ขาดสาย

ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อสวี่ชิงที่อยู่ภายใต้การห้อมล้อมจากขุนนางพิธีการ เดินออกจากตำหนักหนึ่งน้อยไร้ขอบเขต เสียงโห่ร้องยินดีนอกตำหนักก็ดังกึกก้องขึ้น

ส่วนสวี่ชิงในวันนี้ การแต่งกายย่อมแตกต่างจากปกติ เสื้อคลุมยาวสีสันสดใส ปักด้วยมังกรทอง 9 ตัว มังกรทุกตัวสมจริงมีชีวิตชีวา ราวกับพร้อมที่จะทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าได้ทุกเมื่อ

คอเสื้อและแขนเสื้อของเสื้อคลุมยาวล้วนประดับด้วยหยกเซียนและเปลือกหอยวิเศษอันวิจิตรปราณีต แสดงถึงความสูงส่งและสถานะของบุตรแห่งผู้นำเซียน

บนศีรษะยังสวมมงกุฎศักดิ์สิทธิ์ที่ประดับด้วยสมบัติเซียน ภายใต้แสงสวรรค์เปล่งประกายระยิบระยับพร่างพราย

ทุกที่ที่เดินผ่าน เสียงหัวเราะและคำอวยพรแสดงความยินดี ดังก้องเป็นระลอกคลื่น

“ขอแสดงความยินดีด้วยนายน้อย!”

“ฮ่าฮ่า วันนี้วันสมรสของนายน้อย นายน้อยกับฮูหยินน้อย ช่างเหมาะสมกันราวสวรรค์ประทานจริงๆ”

“นายน้อย หลังจากแต่งงานแล้ว อย่าได้เป็นเหมือนเมื่อก่อนเลย พวกเราเฝ้าดูท่านเติบโต เฝ้าดูท่านแต่งงาน และยิ่งอยากเห็นท่านสืบทอดตำแหน่งผู้นำเซียน”

“ขออวยพรให้นายน้อย ในการเดินทางของชีวิตในอนาคต ทุกวันล้วนเต็มไปด้วยความรักและเสียงหัวเราะ อยู่คู่กับฮูหยินน้อยจนแก่เฒ่า และผูกพันกันชั่วนิรันดร์!”

เสียงอวยพรแต่ละเสียง…แต่ละเสียง แฝงด้วยความงดงาม และความคาดหวัง ดังก้องอยู่ในหูของสวี่ชิง

แม้จะเตรียมใจไว้แล้ว แต่เมื่อเผชิญหน้ากับเรื่องนี้ ในเสี้ยวขณะนั้น สวี่ชิงก็ยังคงรู้สึกงุนงงเหมือนฝันไปบ้างเช่นกัน

จนกระทั่ง ภายใต้ผู้คนห้อมล้อมที่มากขึ้นเรื่อยๆ ท่ามกลางเสียงก้องกังวานจากระฆัง สวี่ชิงมาถึงยังหน้าตำหนักแสงเรืองรอง

ที่นี่ในวันนี้ มีการจัดงานเลี้ยงใหญ่ แม้จะไม่มีคนนอก แต่ผู้บำเพ็ญทั่วทั้งวังเซียน ล้วนมารวมตัวกันที่นี่

ความคึกคักของงาน ก็ยังคงหรูหราไม่แพ้กัน

สวี่ชิงกวาดสายตามองไป เห็นจงฉือยิ้มกว้าง เห็นหลี่เทียนเจียวแขนเดียวหน้าบึ้ง เห็นโจวเจิ้งลี่ที่ยังคงถ่อมตน

และยิ่งกว่านั้น ยังเห็นสาวงามจิ้งจอกที่หน้าตาเต็มไปด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจ

และที่ส่วนที่สูงที่สุด ผู้นำเซียนจี๋กวงที่ยืนอยู่ตรงนั้น ก็มีสีหน้าที่ไม่เคร่งขรึมอย่างหาได้ยาก รอยยิ้มปรากฏขึ้น เมื่อสบตากับสวี่ชิงแล้ว เขาก็โบกมือ

ผู้นำเซียนในวันนี้ แต่งกายอย่างประณีตและเป็นทางการอย่างยิ่ง

เห็นได้ชัดว่า เขาให้ความสำคัญกับวันนี้มาก

เห็นเช่นนี้ สวี่ชิงสูดหายใจเข้าลึก สะกดความคิดในใจ ก้าวเดินเข้าไปใกล้อย่างรวดเร็ว

ในเสี้ยวขณะที่ยืนอยู่หน้าผู้นำเซียนจี๋กวง ในดวงตาของผู้นำเซียนอ่อนโยน เขายกมือขึ้นช่วยสวี่ชิงจัดชุดแต่งงานสีแดงให้เข้าที่

“หากมารดาเจ้าได้เห็นภาพนี้ ย่อมจะรู้สึกยินดีเหมือนกับข้าอย่างแน่นอน”

ท่ามกลางความสะท้อนใจ สวี่ชิงอยากจะกล่าวอะไรบางอย่าง แต่ผู้นำเซียนจี๋กวงลูบศีรษะของสวี่ชิง ใบหน้าฉายความเมตตา

“ไม่พูดเรื่องพวกนี้แล้ว ภรรยาของเจ้ามาแล้ว”

ไกลออกไป แสงพรายรุ้งสีแดงเดือดพล่าน ประกายแสงเรืองรองไร้ขอบเขต เซียนหลิงหวงที่สวมชุดแต่งงาน ภายใต้การติดตามจากสาวใช้ กำลังปรากฏกายออกมาจากความว่างเปล่า

ชุดแต่งงานนี้ประณีตงดงาม ผ้าไหมสีแดงเข้ม ปักหงส์ทองและเมฆรุ้งมากมาย ราวกับสวมแสงพรายรุ้งยามรุ่งอรุณไว้บนกาย และยังเป็นสัญลักษณ์ว่านางจะกลายเป็นภรรยาเอกของนายน้อย สง่างามดุจหงส์

ขณะเดียวกัน ผมดำขลับก็เกล้าม้วน ประดับด้วยมงกุฎหงส์และสายสะพายปักทิ้งตัวทอดยาวลงมา เปล่งประกายแสงด้วยมุกวิญญาณสีทองระยิบระยับ

ในเสี้ยวขณะนี้ ชายกระโปรงพลิ้วไหวเบาๆ ตามฝีก้าว ราวกับดอกโบตั๋นที่บานสะพรั่ง ก้าวทีละก้าว เดินมาหาสวี่ชิง

สวี่ชิงลังเล ผู้นำเซียนที่อยู่ด้านหลังผลักไปเบาๆ ร่างของเขาก็เดินหน้าไปตามแรงผลัก

ทุกก้าวที่เดินไป จะมีเสียงหัวเราะดังขึ้นรอบๆ

ทุกก้าวที่เดินไป จะมีสิ่งมงคลเกิดขึ้นในทั่วทุกสารทิศ

สายตานับไม่ถ้วน ในเสี้ยวขณะนี้ต่างจับจ้องไปที่คน 2 คนที่กำลังเดินเข้ามาใกล้กันไม่หยุด

ขณะเดียวกัน นอกห้วงกาลอวกาศของวังเซียนแห่งนี้ กล่าวให้ชัดเจนคือ ในโลกปัจจุบัน บนแม่น้ำโลหิตเทพเจ้าที่ห่างไกลจากสถานที่เซียนดับสูญเป็นอย่างมาก

น้ำในแม่น้ำเดือดพล่าน

เรือข้ามฟากสีดำที่ผุพังลำหนึ่ง กำลังแล่นอยู่บนแม่น้ำ

เรือข้ามฟากบนแม่น้ำโลหิตเทพเจ้า มีจำนวนเท่าไรไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด

แต่มีสิ่งหนึ่งที่แน่ใจได้ คือผู้ที่เคยนั่งเรือข้ามฟากมาแล้ว 2 ครั้ง น้อยมากที่จะได้พบกับคนพายเรือข้ามฟากคนเดียวกัน

และในเสี้ยวขณะนี้ บนเรือข้ามฟากลำนี้ ไม่มีผู้โดยสาร มีเพียงคนพายเรือข้ามฟากที่สวมเสื้อฟาง กำลังใช้มือที่แก่ชราพายไม้พายอยู่เพียงลำพัง เคลื่อนหน้าไปบนแม่น้ำโลหิตอย่างเงียบๆ

ราวกับปีแล้วปีเล่า กาลเวลาผ่านไป ไม่มีจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุด

แต่ในวันนี้ ในเสี้ยวขณะนี้ ดูเหมือนจะมีความแตกต่างออกไปบ้างเล็กน้อย

ลมพัดมาจากแม่น้ำ ทำให้ผิวน้ำเกิดระลอกคลื่น และแผ่ระลอกกระทบต่อจิตใจที่เกือบจะแห้งแล้งของคนพายเรือข้ามฟาก…

ดังนั้น นางค่อยๆ เงยหน้าขึ้น

แสงเรืองรองแห่งขั้วโลกบนท้องฟ้า สาดส่องลงบนร่างของนาง จะเห็นใบหน้าภายใต้หมวกฟาง…

นั่นคือหญิงชราผู้มีใบหน้าเต็มไปด้วยรอยเหี่ยวย่นและผันผ่านกาลเวลามาอย่างไม่สิ้นสุด

นางมองไปยังทิศทางของสถานที่เซียนดับสูญอย่างเงียบๆ ดวงตาค่อยๆ เต็มไปด้วยรอยนึกย้อนความหลัง ยิ่งมีความซับซ้อนอย่างลึกซึ้ง สุดท้ายก็พึมพำเบาๆ “เจ้า กลับมาแล้ว…”

มีลมพัดมา พัดเสื้อฟางของนางโบกสะบัด เผยให้เห็นรำไร…รำไร ใต้เสื้อฟาง…ชุดแต่งงานโบราณที่ยังเป็นสีแดง

(>>>พิสูจน์อักษร By Zank<<<)

AC

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!