บทที่ 1175 งานแต่งเหนือกาลเวลา
บนเวิ้งฟ้าตะวันจันทราเคียงกัน แสงส่องสะท้อน ผสานเป็นรัศมีแสงงามตระการ
ส่องสะท้อนพื้นดินบนห้วงกาลอวกาศนี้ ในวังเซียนเหมือนฟ้าประทานชุดสมรส
คลุม 2 เงาร่างซึ่งกำลังก้าวเข้ามาใกล้ ทั้งเป็นเป้าสายตาของผู้บำเพ็ญนับไม่ถ้วน…
ชายหญิงสวมชุดแต่งงานกลางฟ้าดิน คนหนึ่งอยู่ทิศตะวันออก คนหนึ่งอยู่ทิศตะวันตก กำลังเข้าใกล้กันขึ้นเรื่อยๆ
หญิงสาวที่เดินมา ชุดแต่งงานตระการตา ราวเปลวไฟลุกโหม
รอยยิ้มเจือความเหนียมอาย ท่าทางเฝ้ารออนาคตข้างหน้า
ยามก้าวเดินหน้าพริ้มเพราแดงเรื่อ ไม่รู้ว่าสีท้องฟ้าแต้มแต่งหรือเป็นความรู้สึกส่วนตัว
ทว่า…ในสายตาคนมีหัวคิด ท่าทางนางเสแสร้งมาก รอยยิ้มจอมปลอม ถึงขั้นว่าส่วนลึกนัยน์ตายังแฝงความเย็นชา
แต่กลับไม่ขาดแววเฝ้ารอที่มีต่อวันแต่งงาน
ความเย็นชากับคาดหวังไม่ขัดแย้งกัน
ถึงอย่างไรนางก็ไม่ใช่หลิงหวง
ความรู้สึกที่มีต่อนายน้อยจี๋กวง ไม่ได้เกิดจากนาง
สิ่งที่เฝ้ารอคือพิธีแต่งงานนี้ ต่อให้ตามประวัติศาสตร์ดำเนินพิธีกราบไหว้ไม่สำเร็จ แต่สุดท้ายก็เป็นกฎกรรมข้องเกี่ยว!
กล่าวคือเมื่อเผยตัวที่นี่อย่างราบรื่น ถือว่านางทำสำเร็จกว่าครึ่งแล้ว
สำหรับนางคือก้าวเดินต่อไป ไม่ว่าประวัติศาสตร์เป็นอย่างไรล้วนส่งผลไม่มากนัก
ดังนั้นนางเลยเร่งฝีเท้า
ฝ่ายชายสวมชุดคลุม 9 มังกรพลิ้วไหวตามลม กวานทองเหนือศีรษะส่องประกายใต้แสงจากฟากฟ้า เจิดจรัสทั้งแถบ ทว่าภายใต้ความเจิดจรัสนี้ เมื่อพบหน้าภรรยาซึ่งแต่งกายราวเปลวเพลิงเข้ามาใกล้ ในใจเขาเกิดคลื่นสะเทือน
คลื่นนี้มาจากการทราบประวัติศาสตร์ช่วงนี้
‘หย่วนซานซู่รับบทหลิงหวง ข้ารับบทมี่หมิง ดำเนินพิธีแต่งงานของพวกเขาตามประวัติศาสตร์’
‘ตามประวัติศาสตร์งานแต่งครั้งนี้กลับไม่ถือว่าสำเร็จอย่างแท้จริง…ด้วยพิธีกราบไหว้ของพวกเขาไม่เสร็จสมบูรณ์’
‘หนังสือสมรส…ไม่ได้ลงนามของอีกฝ่าย’
ไม่ว่าทิศทางประวัติศาสตร์เหมือนคำบอกเล่าของจงฉือหรือเป็นตามรายงานของโจวเจิ้งลี่ ทั้งหมดทำให้สวี่ชิงรู้แน่ชัด
ช่วงสำคัญตรงกับการคำนับแรก!
เมื่อคำนับฟ้าดิน ฟ้าดินแปรเปลี่ยน ผู้นำเซียนกบฏต่อวิถี จอมเซียนมาเยือน ทุกคนทั่ววังเซียน…กลายเป็นเถ้าถ่าน ทั้งหมดล้วนสิ้นชีพ
ตอนนี้เหลือเวลา…
‘เพียง 1 เค่อ’
สวี่ชิงเดินหน้าเงียบๆ ในใจเกิดคลื่นสะเทือนแรงขึ้นเรื่อยๆ
ด้วยอีก 1 เค่อจะเกิดพายุครั้งใหญ่ในกาลอวกาศตรงช่วงประวัติศาสตร์นี้
ขณะเดียวกันยังเป็นการระเบิดครั้งสุดท้ายที่เขาเตรียมไว้!
ในฐานะฝ่ายเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์ จำเป็นต้องอาศัยคลื่นประวัติศาสตร์ ทำให้เขาที่มีบัญญัติกาลอวกาศเพิ่มขึ้น ไม่ส่งผลต่อความผันผวนทางประวัติศาสตร์เพราะกำจัดซิงหวนจื่อไป
ในทางตรงข้ามการกำจัดซิงหวนจื่อ ถือว่าจัดการความไม่แน่นอนภายนอกทั้งหมด ทุกอย่าง…ล้วนทำเพื่อวันนี้!
นาฬิกาทราย 1 ก้านธูปเหนือกาลเวลา สวี่ชิงไม่พอใจ!
เขาต้องการมากกว่านี้
เขาอยากให้บัญญัติกาลอวกาศของตนบรรลุขั้นใหญ่ในโลกชั้น 4
เขาอยากให้นาฬิกาทรายเหนือกาลเวลายาวนานขึ้น
ในประวัติศาสตร์ช่วงนี้มี 2 เหตุการณ์ ไม่ว่าเปลี่ยนแปลงเรื่องใดล้วนทำให้สวี่ชิงสมปรารถนาได้
แต่ 2 เรื่องนี้ยากเปลี่ยนแปลง ถึงขั้นกล่าวได้ว่าแทบเปลี่ยนไม่ได้
1 คือชะตาชีวิตที่จี๋กวงกับทุกคนต้องตาย
2 คืองานแต่งนี้ สุดท้ายจะไม่สำเร็จ น่าเสียดายรองจากความตาย
เรื่องแรกสวี่ชิงทราบดี ไม่ใช่สิ่งที่ตนสั่นคลอนหรือแก้ไขได้
แต่เรื่องที่ 2…ด้วยบทบาทที่เขารับทำให้เป็นไปได้ สวี่ชิงถึงขั้นสัมผัสได้ว่า…ผู้เขียนดวงชะตาให้นายน้อยจี๋กวง คล้ายว่าคือคนตัวเล็กซึ่งเป็นเสี้ยววิญญาณของผู้นำเซียนจี๋กวง
เป้าหมายเขาเป็นไปได้ว่าคือชดเชยความเสียดายนี้
แน่นอนว่านี่เป็นเพียงการคาดเดาของสวี่ชิง ไม่มีหลักฐานชัดแจ้ง
ทว่าไม่ขัดกับเป้าหมายเขา
ส่วนนาฬิกาทราย 1 ก้านธูปเหนือกาลเวลาก็เป็นเครื่องมือเขาในวันนี้!
เขาต้องต่อเวลา 1 ก้านธูปให้นายน้อยจี๋กวงกับเซียนหลิงหวง เปลี่ยนฉากจบของพวกเขาซึ่งทำพิธีกราบไหว้ไม่ทันในประวัติศาสตร์กระจกเงานี้
ให้พวกเขาคำนับกันสำเร็จ!
อาศัยสิ่งนี้สั่นคลอนกาลอวกาศของประวัติศาสตร์ ก่อตัวเป็นพายุกาลอวกาศอย่างแท้จริง!
นี่คือแผนการของสวี่ชิง!
ตอนนี้เขาดำเนินการตามขั้นตอน ความตั้งมั่นแน่วแน่แผ่ซ่านทั่วร่าง ก้าวเดินต่อไป… ท่ามกลางเสียงโห่ร้องยินดีกับคำอวยพรเป็นระลอก…
ทั้ง 2 หยัดยืนกลางอากาศในชุดแต่งงาน!
แสงบนฟ้าพร่างพราวทันที นิมิตมงคลเพิ่มพูน สีสันตระการตาขับเน้นคู่บ่าวสาว แผ่ระลอกคลื่นทั่วสารทิศ
หมื่นสายตาจับจ้อง
ในฝูงชนจงฉือทอดถอนใจ จิ้งจอกสาวแค่นเสียง อัจฉริยะหลี่มองเย็นชา นัยน์ตาโจวเจิ้งลี่ฉายแววอัศจรรย์
อริยะเซียนที่ 4 อยู่กลางฝูงชนเช่นกัน ยืนข้างกายผู้นำเซียนจี๋กวง มองทุกอย่างตรงหน้า เขาเผยรอยยิ้ม นัยน์ตาฉายแววอวยพร
“ศิษย์น้องเล็ก นับว่าเติบใหญ่แล้ว”
อริยะเซียนที่ 4 หันมองผู้นำเซียนจี๋กวง
ผู้นำเซียนจี๋กวงเหมือนไม่ได้ยิน สีหน้าแช่มชื่น มองทั้ง 2 คนใต้นิมิตมงคลบนฟ้า ทว่าตอนนี้ร่างกายเขามีปราณดำแผ่ออกมารางๆ
แต่สิ่งที่แปลกคือปราณดำนี้ ไม่มีคนมองเห็น
ขณะเดียวกันผู้ดูแลพิธีแต่งงาน ผู้อาวุโสใหญ่แห่งวังเซียนกล่าวเสียงดังก้อง “ถึงฤกษ์งามยามดีแล้ว ฝ่ายดำเนินพิธีทำตามหน้าที่ ผู้ดำเนินงานทำสิ่งที่มอบหมาย ผู้ร่วมงานเสริมสร้างบรรยากาศ เครื่องดนตรีบรรเลงเพลงมงคล”
เมื่อเอ่ยวาจา เสียงโห่ร้องยินดีสะท้อนก้อง ทำนองเพลงดังมา เอิกเกริกถึงขีดสุด ราวสรรพสิ่งบนฟ้าดินกำลังอวยพร
ทั้งมีหงส์เซียนบินมา ตามด้วยมังกรฟ้า ปากคาบแพรกลมคล้องสายคาดแดง ผกผินร่ายรำรอบกายนายน้อยจี๋กวงกับเซียนหลิงหวง ผูกผ้าแพรแดงบนตัวทั้ง 2 ทำให้แพรกลมลอยอยู่ระหว่างทั้งคู่
จากนั้นเสียงผู้ดูแลพิธีดังก้องฟ้าพร้อมรอยยิ้ม “ด้วยความเคารพต่อเขตแดน คู่บ่าวสาวต้องคำนับฟ้าดินก่อน!”
“บ่าวสาวคำนับฟ้าพร้อมกัน”
เสียงผู้ดูแลพิธีดังก้อง สวี่ชิงสูดหายใจลึก มองเวิ้งฟ้าพร้อมหย่วนซานซู่ซึ่งเปี่ยมความคาดหวังข้างกาย
ตอนนี้เวิ้งฟ้าแผ่แสงหมื่นจั้ง ตะวันจันทราซ่อนเร้น ลิขิตฟ้าปั่นป่วน
กาลเวลาเก่ากำลังซ่านสลาย ยุคสมัยใหม่กำลังมาเยือน
ประกายแสงฉายแววมงคล ถือเป็นสัญลักษณ์…
“คำนับฟ้า ด้วยบันดาลเป็นคู่ชีวิต” ผู้ดูแลพิธีเล่นเสียง ขานรับกับฟ้าดิน
สวี่ชิงก้มหน้า คำนับฟ้าพร้อมหย่วนซานซู่ข้างกาย
เวิ้งฟ้าดังกัมปนาท!
“คำนับผืนดิน ผูกพันเป็นหนึ่งเดียว”
ทั้ง 2 คำนับอีกครั้ง!
เวิ้งฟ้าสั่นสะเทือน ประกายแสงเจิดจรัส
“คำนับฟ้าดิน อยู่ร่วมกันตราบฟ้าดินสลาย”
เมื่อเอ่ยวาจานี้ ฟ้าดินเปลี่ยนสี เมื่อลมเมฆหอบม้วน ตะวันจันทราแฝงตัว คล้ายมีมือใหญ่ข้างหนึ่ง…คิดดึงพวกมันลงมาจากฟากฟ้า…!
ยุคจี๋กวงกำลังมาถึงแล้ว!
หย่วนซานซู่สูดหายใจลึก นางทราบว่าการเปลี่ยนแปลงกำลังมา!
ปราณดำบนตัวผู้นำเซียนจี๋กวงหนาแน่นถึงขีดสุดชั่วพริบตา ความวุ่นวายตามประวัติศาสตร์กำลังจะเกิดขึ้น!
ทว่าตอนนี้พลันมีนาฬิกาทรายลอยออกมาจากตัวสวี่ชิง!
ชั่วพริบตายามนาฬิกาทรายปรากฏ มันแผ่แสงเจิดจรัสไร้สิ้นสุด ราวเปลวไฟในรัตติกาลมืดมิด ส่องสะท้อนทุกอย่าง!
สิ่งที่หล่นลงมาพร้อมเม็ดทรายคือพลังยิ่งใหญ่ชวนตะลึง แผ่ทั่วกาลอวกาศด้วยอานุภาพยิ่งใหญ่เหนือทุกสิ่ง
ราวกระแสน้ำหลาก ไม่อาจขัดขวาง!
นั่นคือช่วง 1 ก้านธูปที่เหนือกาลเวลา เหนือกว่ากาลอวกาศแห่งนี้ ไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้!
มันมาเยือนที่นี่ ฝืนดึงดันต่อช่วงเวลานี้!
แสงบนฟ้าจึงเหมือนหยุดนิ่ง แรงสะเทือนบนพื้นราวถูกยับยั้ง ผู้คนทั่วทิศล้วนไม่ขยับ แม้แต่สายลม ปราณวิญญาณ ลิขิตฟ้า…ยังชะงักค้างชั่วพริบตา
มีเพียงแสงเจิดจรัสจากเม็ดทราย ปกคลุมพวกสวี่ชิงไว้เหมือนเดิม
หย่วนซานซู่อึ้งงัน ดวงตาเบิกกว้าง ฉายแววยากจะเชื่อ ทั้งตื่นตระหนก หันมองสวี่ชิงทันที กำลังคิดจะกล่าวอะไร…
สวี่ชิงสูดหายใจลึก ส่งเสียงทุ้มต่ำ “อย่าพูดมาก คำนับต่อ!”
เมื่อสวี่ชิงเอ่ยวาจา หลิงหวงพลันตัวสั่น หลับตาลงช้าๆ ขนตาสั่นไหว เอ่ยกล่าวเสียงเบา “คำนับตะวันจันทราตามธรรมเนียม”
“รัศมีแสงแห่งตะวันจันทรา แบ่งศุภโชคหยินหยาง”
สวี่ชิงก้มหน้า คำนับพร้อมหลิงหวง!
“ด้ายแดงชักนำ เกิดคู่แท้สวรรค์สร้าง”
เสียงหลิงหวงสั่นเครือ
โลกภายนอกเมื่อทั้ง 2 คำนับต่อ ช่วงเวลา 1 ก้านธูปนี้ คลื่นกาลเวลาดังกัมปนาทเหมือนพายุ
“3 คำนับพ่อแม่”
เสียงหลิงหวงดังก้องกลางคลื่นสะเทือน สั่นเครืออย่างชัดเจน คล้ายสับสนรางๆ ทั้งเหมือนหวนความหลัง เจือความ…เฝ้ารอไร้สิ้นสุด
เมื่อกระทบหูสวี่ชิง สวี่ชิงอึ้งงัน เงยหน้ามองเซียนหลิงหวงที่อยู่ข้างกายทันที
ในใจสวี่ชิงพลันสั่นสะท้าน
เขาเห็นว่าหลิงหวง…ผิดปกติอยู่บ้าง แววตานางต่างจากก่อนหน้านี้นัก ไม่มีความเย็นชา ไม่มีความเสแสร้ง สิ่งที่มีคือความผันผวน หวนรำลึก สับสน รวมถึง…อ่อนโยน
คล้ายว่านางเฝ้ารอมาพันปีหมื่นปีหรือนานกว่านั้น สุดท้ายวันนี้เวลานี้ก็มาถึง
ไม่รู้ว่าจิตสำนึกของหย่วนซานซู่ซ่านสลายไปเมื่อไหร่
ภาพนี้ทำให้นัยน์ตาสวี่ชิงหดรัด ครู่ต่อมาเสียงถอนใจที่คุ้นเคยดังก้องจิตสำนึกเขา
นั่นคือ…เสียงของคนตัวเล็ก!
เสียงถอนใจแผ่วเบาสร้างคลื่นสะเทือน แผ่ซ่านทั่วร่าง เข้าครองร่างกายต่อจากจิตสำนึกสวี่ชิง
‘เขาไม่ใช่เสี้ยววิญญาณของผู้นำเซียนจี๋กวง เขาคือ…นายน้อยจี๋กวง!’
ในใจสวี่ชิงปั่นป่วน ตอนนี้กลายเป็นผู้ชม
นายน้อยจี๋กวงมองหลิงหวงที่อยู่ตรงหน้า แววตาอ่อนโยน ดึงมือหลิงหวง ก่อนกล่าวเสียงเบา “ระลึกถึงบุญคุณบิดามารดาที่เลี้ยงดู ความรักดั่งทะเลตะวันออก”
“ขอบคุณคำสอนของบิดามารดา พระคุณหนักดุจขุนเขา”
“ขอให้บิดามารดามีครอบครัวสุขสันต์ อายุขัยยืนยาว”
เซียนหลิงหวงหางตารื้น จับมือนายน้อยจี๋กวงแน่น มองคนสำคัญในชีวิตตรงหน้า กล่าวคำสาบานสุดท้ายพร้อมเขา
“4 บ่าวสาวคำนับกัน…”
“มั่นรักเพียงหนึ่ง ครองคู่จนแก่เฒ่า ร่วมเรียงเคียงหมอน”
“2 ฝ่ายพร้อมใจ รักกันฉันท์สามีภรรยา ดั่งคู่หงส์ประสานเสียง”
“3 ภพยังร่วมสุข ครองรักชั่วนิรันดร์ ร่วมเป็น…ร่วมตาย”
“เสร็จ…พิธี…” น้ำตาหลิงหวงอาบแก้ม หลั่งรินลงพื้น
“เสร็จ…พิธี!” นายน้อยจี๋กวงยื่นมือเช็ดน้ำตาหลิงหวง กล่าวเสียงแผ่วเบา
จากนั้นค่อยหยิบหนังสือสมรสออกมา ลงนามหลิงหวงบนนั้น…
ตอนนี้ห้วงกาลอวกาศปั่นป่วนอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ฟ้าดินสั่นสะเทือน เกิดคลื่นเหมือนพายุ กลายเป็นวังวน มหึมาล้อมรอบวังเซียน
ส่งเสียงกัมปนาทสะท้านฟ้า
(>>>พิสูจน์อักษร By Zank<<<)



