Skip to content

Outside Of Time 512

Outside of Time
BC

บทที่ 512 พระจันทร์สีชาดชื่อหมู่!

ข่งเสียงหลงรับถุงเก็บของไปเงียบๆ ออกไปจากหอกระบี่

C

ท้องฟ้าด้านนอกเริ่มสาง หลังจากส่งข่งเสียงหลงด้วยสายตา สวี่ชิงก็ยืนอยู่ตรงนั้น มองฟ้าดินไกลๆ ในสมองมีภาพภารกิจในตอนนั้นปรากฏขึ้น ความทรงจำทั้งหมดเกี่ยวกับกล่องปรารถนานั่น

“กลิ่นดอกกุ้ย” สวี่ชิงพึมพำ

ตอนนั้นเขาก็ตรวจดูกล่องปรารถนาไปแล้ว จำได้ว่าด้านในมีกลิ่นดอกกุ้ยจางๆ

บนท้องฟ้า เวลานี้มีเสียงอัสนีกึกก้อง เขตปกครองในฤดูกาลนี้ ชุ่มฉ่ำไปด้วยน้ำฝน ไม่นานในช่วงเช้าตรู สายฝนก็พร่างพรมลงมาบนพื้นดินอีกครั้ง

แดดยามเช้าถูกม่านฝนบดบังจนขมุกขมัวเล็กน้อย ทำให้เหล่าผู้คนที่ตื่นเช้าสับสนช่วงเวลาไปชั่วขณะ ราวกับว่ายังไม่ทันผ่านพ้นเที่ยงวัน สายัณห์ก็มาเยือนอีกครั้งเสียแล้ว

สวี่ชิงกลับมาถึงหอกระบี่ นั่งลงขัดสมาธิ ให้ตนเองค่อยๆ สงบลงแล้วนั่งสมาธิต่อ

พลังบำเพ็ญของเขาในตอนนี้ เกือบจะอยู่จุดสูงสุดของระดับแก่นลมปราณวังสวรรค์แล้ว ขาดอีกเพียงหนึ่งวังสวรรค์ก็จะบริบูรณ์

และวังสวรรค์นี้ หลังจากผ่านสนามรบมาก็ใกล้จะก่อร่างแล้ว อีกไม่นานคงก่อร่างถึงเก้าส่วน

“สิ่งที่จะมาสะกดวังสวรรค์นี้…”

สวี่ชิงครุ่นคิด สัมผัสกระบี่จักรพรรดิของตนเอง

“หากสุดท้ายไม่มีตัวเลือกอื่น ก็ใช้กระบี่จักรพรรดิสะกดแล้วกัน”

สวี่ชิงสูดลมหายใจลึก เริ่มกำหนดลมหายใจ

เวลาไหลผ่านไปเช่นนี้ ไม่นานก็ผ่านไปครึ่งเดือน

ในช่วงครึ่งเดือนนี้ สวี่ชิงเหมือนถูกหลงลืมไป

เขาไม่ได้ออกจากหอกระบี่ และไม่มีคนมาหาเขา จากการที่องค์ชายเจ็ดขึ้นปกครองเมืองหลวงเขตปกครอง ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป

บนถนนหนทาง ผู้บำเพ็ญที่มาจากเมืองหลวงจักรพรรดิเพิ่มมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และสิ่งที่ตามมายังมีระบบการควบคุมการทหารรวมถึงการเยี่ยมเยือนจากเผ่าต่างๆ ของเขตปกครองผนึกสมุทร

ส่วนสามวังใหญ่ก็ถูกจัดระเบียบเช่นกัน หลังจากที่องค์ชายเจ็ดจัดสามแม่ทัพมาดำรงตำแหน่งเจ้าวัง ก็กลายเป็นหน่วยย่อยของกองทัพใหญ่ไป

ขณะเดียวกันผู้ครองกระบี่เมืองหลวงจักรพรรดิจากสาขาหลักครองกระบี่ในเมืองหลวงจักรพรรดิที่ติดตามมา ก็เข้ามาในวังครองกระบี่เขตปกครองผนึกสมุทรจำนวนมหาศาล รับช่วงดูแลหน่วยต่างๆ ส่วนอีกสองวังก็เช่นกัน

วินัยทหารก็เป็นเช่นนี้

จะเบื้องบนเบื้องล่างก็เข้มงวดกวดขัน ผู้ที่ฝ่าฝืนวินัยทหารแล้วถูกสังหาร ในครึ่งเดือนนี้ก็มีอยู่ไม่น้อย

ในนี้ไม่ใช่แค่คนของเขตปกครองผนึกสมุทรเท่านั้น แต่ยังมีนักรบของเมืองหลวงจักรพรรดิด้วย!

ข่งเสียงหลงก็เคยเอ่ยกับสวี่ชิงด้วยน้ำเสียงที่ซับซ้อนอยู่บ้าง

นอกจากนี้ ประกาศที่เกี่ยวข้องกับสำนักทั้งหมดในเขตปกครองผนึกสมุทรที่มาจากองค์ชายเจ็ดก็มาถึงในช่วงครึ่งเดือนนี้

สำนวนในประกาศนี้มีความเด็ดขาด ห้ามสงสัย ให้สำนักทั้งหมดรับราชการทหาร ขณะเดียวกันอำนาจของวิเศษเวทต้องห้ามทั้งหมดของสำนักต่างๆ ก็จะไม่ส่งคืนด้วย

เรื่องนี้แม้จะก่อให้เกิดระลอกคลื่นบ้าง แต่ภายใต้แนวโน้มของสถานการณ์ ก็ไม่มีใครขัดขวางได้

ส่วนต่างเผ่าเหล่านั้นก็เช่นเดียวกัน แต่ละเผ่าล้วนตัวสั่นเทา แต่ก็หลบเลี่ยงการกวาดล้างไม่พ้น ถูกสั่งให้ส่งทรัพยากรครึ่งหนึ่งของเผ่าให้กองกำลังพันธมิตรเพื่อการออกศึกของเผ่ามนุษย์

ส่วนกรมราชทัณฑ์ภายใต้การนำของข่งเสียงหลง ก็เริ่มก่อร่างสร้างใหม่

ทว่าไม่ใช่ตำแหน่งเดิม และถูกร้องขอให้ย้ายไปที่กลางวังครองกระบี่แทน

นักโทษชุดแรกคือผู้หญิงและเด็กของตระกูลเหยา แม้ว่าโลกภายนอกจะเรียกร้องให้สังหาร แต่ข่งเสียงหลงก็ไม่ได้ลงมือ เขาเลือกทำตามคำแนะนำของสวี่ชิง

จางซืออวิ้นในนี้ แม้จะมีการคุ้มครองจากผู้ดูแลซือหนานอยู่ แต่ก็ยังหนีการตรวจสอบไม่พ้นสุด ท้ายเขาเลือกเป็นพยานให้การเปิดโปงตระกูลของแม่ของเขา

พฤติกรรมเช่นนี้ทำให้ถูกเข้าใจว่ามีใจเข้าข้างเผ่ามนุษย์ จึงหนีเคราะห์นี้พ้น ไม่ได้ถูกถามหาความรับผิดชอบของตระกูลเหยา

ถึงอย่างไรเขาก็ไม่ได้ใช้แซ่เหยา

จนถึงตอนนี้ ทั่วทั้งเขตปกครองผนึกสมุทร มีแต่เสียงขององค์ชายเจ็ดเพียงคนเดียว

ลูกน้องของเขาไม่เพียงแต่เข้าปกครองเมืองหลวงเขตปกครอง แต่ยังขยับขยายไปยังโถงครองกระบี่ของมณฑลต่างในเขตปกครองผนึกสมุทรด้วย แม้จะเผด็จการอย่างยิ่ง แต่เพราะเรื่องที่ช่วยเหลือเขตปกครองผนึกสมุทรไว้ เผ่ามนุษย์นับไม่ถ้วนจึงกู่ร้องด้วยความยินดี

ขณะเดียวกัน ข่าวลือหนึ่งก็แพร่สะพัดอยู่ในเขตเมืองหลวงเขตปกครอง และมณฑลต่างๆ ค่อยๆ ได้รับรู้

แดนต้องห้ามเซียนกำลังจะเปิด

ในเขตปกครองผนึกสมุทร เนื่องจากเป็นที่แรกที่จักรพรรดิโบราณเสวียนโยวขึ้นฝั่งมา ดังนั้นที่นี่จึงมีพื้นที่ที่พิเศษอยู่แห่งหนึ่ง มีชื่อว่าแดนต้องห้ามเซียน

ก่อนหน้านี้มันไม่ได้ใช้ชื่อนี้ แต่ชื่อว่าแดนเซียน

เป็นหนึ่งในสามสิบหกพระราชนิเวศน์ของจักรพรรดิโบราณเสวียนโยว

ทุกแดนเซียนเป็นโลกใบหนึ่ง สิ่งที่อยู่ด้านในไม่ได้มีเพียงสมบัติล้ำค่า แต่ยังแฝงปราณเซียนเข้มข้นเอาไว้ เป็นกลิ่นอายระดับสูงกว่าปราณวิญญาณ

ดังนั้น แดนเซียนสามสิบหกพระราชนิเวศน์นี้ ในยุคสมัยของจักรพรรดิโบราณเสวียนโยว ก็คือโลกของราชวงศ์ ขณะเดียวกันยังเลี้ยงอสูรกลายพันธุ์เอาไว้ไม่น้อยเพื่อล่า

แต่หลังจากการมาถึงของเสี้ยวหน้าเทพเจ้า ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป

จากการที่จักรพรรดิโบราณเสวียนโยวและเหล่าจักรพรรดิผู้ปกครองเผ่าต่างๆ ทยอยจากไป พระราชนิเวศน์สามสิบหกแห่งก็รกร้าง หลายแห่งผุพังเสื่อมสภาพ และมีบางส่วนที่กลายเป็นดินแดนของต่างเผ่าไป จากการที่เผ่ามนุษย์สูญหายไปทีละเขต

นอกจากนี้ยังมีเทพเจ้าหลายองค์เข้ามาพักผ่อนในนี้ ทำให้ไอพลังประหลาดคละคลุ้ง เข้มข้นจนถึงขีดสุด

แดนพระราชนิเวศน์เซียนแห่งนี้ของเขตปกครองผนึกสมุทรก็เช่นเดียวกัน

ด้านในมีเทพเจ้าองค์หนึ่งหลับไหลอยู่

ลมหายใจขององค์ท่าน รุกรานไปทั้งแดนเซียน ทำให้ที่นั่นเต็มไปด้วยความตาย เป็นแดนต้องห้ามของสิ่งมีชีวิต จึงถูกเรียกว่าแดนต้องห้ามเซียน

ผ่านมายาวนาน เผ่ามนุษย์เปิดแดนต้องห้ามเซียนขึ้นเพียงครั้งเดียว

ผู้แข็งแกร่งที่มาจากดินแดนเมืองหลวงจักรพรรดิ ลองซึมซับพลังต้นกำเนิดเทพจากด้านในแต่ล้มเหลว แม้จะไม่ได้กระตุ้นให้เทพเจ้าตื่นขึ้น แต่พลังที่องค์ท่านแผ่ออกมาขณะหลับใหลก็กลายเป็นร่างแยกร่างหนึ่ง

ร่างแยกนี้ เกือบทำให้เกิดหายนะครั้งใหญ่ในเขตปกครองผนึกสมุทร สุดท้ายด้วยการสะกดของเผ่ามนุษย์ แม้จะทำลายมันไม่ได้ แต่การลงมือของราชครูเผ่ามนุษย์ ได้แยกมันเป็นส่วนๆ

ด้วยสาเหตุพิเศษบางอย่างจึงไม่สามารถนำไปได้ สุดท้ายจึงปิดผนึกไว้ในนี้ และย้ายเมืองหลวงเขตปกครองสะกดไว้ด้านบน สร้างกรมราชทัณฑ์ของเขตปกครองผนึกสมุทรที่เลื่องชื่อไว้ที่ทางเข้าแดนต้องห้ามเซียน

ใช้พลังดวงชะตาผนึก หลอกวิญญาณเทพให้มันเข้าใจผิดว่าตนเองคือวิญญาณศัสตรา ใช้ตนเองผนึกตนเอง และเป็นกลยุทธ์ที่หลงเหลือมาจากในตอนนั้น

ตอนนี้ หลังจากผ่านไปหลายปี ข่าวที่ว่าแดนต้องห้ามเซียนจะเปิดขึ้นอีกครั้งก็กระตุ้นจิตใจคนมากมาย

ต่อให้เป็นก่อนหน้าที่มีแค่เศษเสี้ยวข่าวลือเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่อันที่จริงตอนนั้นเจ้าเขตปกครองกับปลัดเขตปกครองไม่เห็นด้วย เจ้าวังครองกระบี่ก็กำลังลังเลเช่นกัน

เพราะมันอันตรายมาก

หากผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ ก็อาจจะทำให้เขตปกครองผนึกสมุทรเจอกับหายนะ สิ่งมีชีวิตถูกกวาดล้าง กลายเป็นอาหารของเทพเจ้าได้

แต่รับสั่งจักรพรรดิก็ยากจะคัดค้าน ดังนั้นเขตปกครองผนึกสมุทรจึงทำได้เพียงประวิงเวลาในการเปิดออกไป

แต่ปัจจุบัน เขตปกครองผนึกสมุทรเหลือแค่เสียงขององค์ชายเจ็ดคนเดียว

ดังนั้นหลังจากที่ข่าวลือแดนต้องห้ามเซียนจะเปิดแพร่กระจายไปทั่วทิศ โองการขององค์ชายเจ็ดก็มาถึงอย่างเป็นทางการ

ครึ่งเดือนต่อมา ก็เปิดแดนต้องห้ามเซียนขึ้น

คนกลุ่มแรกที่เข้าไปคือผู้ครองกระบี่ พวกเขาต้องทำภารกิจที่กำหนดเฉพาะด้านในให้สำเร็จ เพื่อเป็นการสร้างพื้นฐานให้ผู้ที่จะเข้าไปเป็นกลุ่มที่สอง

เมื่อโองการนี้ออกมา เขตปกครองผนึกสมุทรก็สั่นคลอน โดยเฉพาะเมืองหลวงเขตปกครอง ยิ่งร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ

ผู้คนตื่นตกใจ

แต่ความเชื่อมั่นในองค์ชายเจ็ด ในความเข้มแข็งของกองทัพที่มากล้น ดังนั้นไม่นานการสั่นคลอนนี้ก็สงบลง การเตรียมการเปิดแดนต้องห้ามเซียนจึงดำเนินการต่อ

ทหารเมืองหลวงจักรพรรดินับไม่ถ้วนทำความสะอาดสถานที่เดิมของกรมราชทัณฑ์ ทำการขุดค้นที่นั่นอย่างต่อเนื่อง เปิดผนึกแต่ละสายแต่เดิมออก และด้วยบทบาทของวิเศษเวทต้องห้ามเมืองหลวงเขตปกครอง เบิกเส้นทางเชื่อมต่อไปยังแดนต้องห้ามเซียนขึ้นมาได้สายหนึ่ง

ความเข้าใจความเข้าใจเรื่องแดนต้องห้ามเซียนของสวี่ชิงไม่มากนัก แต่เขาที่เคยเป็นพลทหารกรมราชทัณฑ์ ที่สุดแล้วก็ยังเข้าใจมากกว่าคนอื่นส่วนหนึ่ง

โดยเฉพาะหลังจากวังสวรรค์ของตนกลายเป็นเขตติงหนึ่งสามสอง เขาก็รู้ดี…ว่านิ้วในวังสวรรค์ จริงๆ แล้วมาจากแดนต้องห้ามเซียน เป็นร่างแยกที่เกิดขึ้นจากกลิ่นอายของเทพเจ้า

นิ้วที่เป็นร่างแยกชิ้นหนึ่งยังน่าตกตะลึงถึงเพียงนี้ แต่ร่างแยกนั่นในอดีตก็ถูกสะกดด้วยราชครูและพลังของเผ่ามนุษย์ที่รวมกัน จึงแยกชิ้นส่วนแล้วปิดผนึกได้ แต่ไม่อาจสังหารทิ้ง

แค่คิดก็จินตนาการออกว่าเทพเจ้าในนั้นจะน่าครั่นคร้ามเพียงใด

แม้ว่าสวี่ชิงที่เห็นปฏิกิริยาของอีกฝ่ายหลังเห็นต้นกำเนิดพระจันทร์สีม่วงของตนผ่านนิ้วที่ตนเองปิดผนึกไว้ในครั้งนั้น ซึ่งอีกฝ่ายดูหวาดกลัวพระจันทร์สีชาดเป็นอย่างมาก

เห็นได้ชัดว่าระหว่างเทพเจ้าด้วยกันก็ยังมีการแบ่งระดับชั้น

พระจันทร์สีชาด แข็งแกร่งยิ่งกว่าเทพเจ้าของแดนต้องห้ามเซียนอย่างเห็นได้ชัด!

แต่ถูกเรียกว่าเทพเจ้าได้ สำหรับผู้บำเพ็ญแล้ว ก็เป็นตัวตนที่ยากจะสั่นคลอนอยู่ดี

ส่วนสวี่ชิง ก็อยู่ในรายชื่อคนที่จะเข้าไปแดนต้องห้ามเซียนกลุ่มแรกด้วย ข่งเสียงหลง นายกองรวมถึงผู้ครองกระบี่ของวังครองกระบี่เขตปกครองผนึกสมุทรแต่เดิมส่วนใหญ่ก็อยู่ในบรรดานี้

ดังนั้นสวี่ชิงตอนนี้จึงเดินอยู่บนถนนเมืองหลวงเขตปกครอง ขณะที่เตรียมหาซื้อยาลูกกลอนเล็กน้อย ก็ลองอัญเชิญนิ้วในเขตติงหนึ่งสามสองดู

เขาอยากรู้ข้อมูลเกี่ยวกับแดนต้องห้ามเซียนอีกสักหน่อย เพราะเขารู้สึกว่าในช่วงสงคราม การเปิดแดนต้องห้ามเซียนมีอะไรบางอย่างไม่ถูกต้อง

แต่นิ้วเทพเจ้านี่ก็ตื่นขึ้นมาน้อยครั้ง การอัญเชิญปกติของสวี่ชิงปลุกมันไม่ได้ ดังนั้นหลังจากซื้อยาลูกกลอนเสร็จ ขณะที่ในใจลังเลว่าจะกระตุ้นพระจันทร์สีม่วงดีหรือไม่ นิ้วเทพเจ้านั่นก็สั่นสะเทือนอย่างรุนแรง ตื่นขึ้นมาเอง

เพราะสวี่ชิงมองเห็นคนคนหนึ่ง

แม้ชุดนักพรตสีขาวของผู้ครองกระบี่จะสง่าด้วยตัวมันเอง แต่คนที่เต๋าแตกซ่านสวมใส่มันอยู่กลับหน้าตาห่อเหี่ยว ดวงตาเต็มไปด้วยเส้นเลือด สะบักสะบอมถึงขีดสุด

จางซืออวิ้นเดินเงียบๆ อยู่บนถนน เขาเห็นสวี่ชิง หากเป็นตามปกติเขารู้สึกความชิงชังในใจเป็นแน่ ทว่าตอนนี้กลับแค่มองผาดหนึ่ง แล้วก็ก้มหน้าอย่างขมขื่น รีบเดินจากไปไกล

ด้านหลังเขา ยังมีคนแปลกหน้าอีกหลายคน กำลังติดตาม เหมือนคอยจับตาดูความเคลื่อนไหวทั้งหมดของเขา

สวี่ชิงมองสิ่งเหล่านี้ด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ แต่ในใจกลับมีคลื่นโหมกระหน่ำ

ต้นกำเนิดระลอกคลื่นขนาดมหึมา มีเสียงคำรามต่ำของนิ้วเทพเจ้าก้องสะท้อนอยู่ในใจของเขาตอนนี้

‘กาฝากของชื่อหมู่ นี่คือร่างแยกพระจันทร์สีชาด!

‘ทั้งยังอยู่ในสภาพกำลังจะตื่นด้วย เจ้ายังไม่รีบวิ่งอีก!”

เสียงคำรามต่ำของนิ้วเทพเจ้าตึงเครียดอย่างยิ่ง คล้ายจะลนลานยิ่งกว่าสวี่ชิงเสียอีก

สวี่ชิงลมหายใจหอบถี่เล็กน้อย แต่ยังคงสติเอาไว้ได้ เขาพบว่านิ้วเทพเจ้านี้ หลังจากตื่นขึ้นมามีสติครบถ้วนอย่างมาก ไม่สับสนเหมือนคราวก่อน

สวี่ชิงจึงสะกดจิตใจที่สั่นสะท้านที่เกิดจากจางซืออวิ้น และพยายามทำให้จิตเทพตนสงบลง

‘ไม่ใช่ว่ายังไม่ตื่นหรอกหรือ’

‘ใกล้แล้วๆ กำลังจะตื่นขึ้น หืม ไม่ค่อยปกตินัก…ตัวเขามีค่ายกลเผ่ามนุษย์ของพวกเจ้า เด็กน้อย เผ่ามนุษย์ของพวกเจ้าคิดจะช่วยเหลือให้พระจันทร์สีชาดชื่อหมู่ครองร่างกายนี้หรือ!

‘มากสุดหนึ่งเดือน ชื่อหมู่ที่อยู่ในตัวเขาจะต้องตื่นขึ้นแน่!

‘เผ่ามนุษย์อย่างพวกเจ้าจะทำอะไร นั่นมันเทพเจ้าชื่อหมู่เชียวนะ!!’

นิ้วเทพเจ้ากำลังโวยวาย จิตสำนึกที่คลุมเครือวูบหนึ่งแผ่ออกมาจากตัวมัน ใช้สวี่ชิงตรวจสอบไปรอบๆ หลังจากสังเกตเห็นว่ากรมราชทัณฑ์ถูกขุดไปแล้ว จู่ๆ ร่างองค์ท่านก็สั่นสะท้านอย่างรุนแรง อุทานออกมาเสียงหลง

‘นั่นมันแดนเซียน กำลังจะถูกเปิดออกแล้ว!!

‘ร่างแยกชื่อหมู่ การเปิดแดนเซียน เกิดขึ้นพร้อมกัน…เจ้าๆๆ…เผ่ามนุษย์อย่างพวกเจ้า คิดจะเอาร่างข้าให้ชื่อหมู่กินอย่างนั้นหรือ!!”

นิ้วเทพเจ้ากรีดร้อง

AC

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!