บทที่ 531 ทำตามใจเรียกร้อง
บนท้องฟ้า เมฆพรายรุ้งเจ็ดสีฉายแสงระยิบระยับ ทำให้ท้องฟ้าพร่างพราย ดูแล้วเจิดจรัส งดงามเลิศล้ำ
สีของเมฆพรายรุ้งก็ถูกเปลี่ยนด้วยเช่นกัน ฉายสีเหลืองทอง สาดส่องบนฟากฟ้า คล้ายว่าเป็นประจักษ์พยานแก่พิธีนี้
มังกรสี่กรงเล็บส่งเสียงคำราม ทำให้ในยามทั่วทั้งแปดทิศสะเทือนเลื่อนลั่น พ่นประกายแสงรุ้งพรายออกมามากกว่าเดิม ในความรางเลือนยังมีเงามายาสูงใหญ่ร่างหนึ่ง คล้ายว่าเป็นเจ้าเขตปกครองผนึกสมุทรทุกรุ่น อยู่ที่นี่ประจักษ์พยานทุกอย่าง
แน่นอน เป็นเพียงแค่เงามายาที่แปลงมาจากพลังดวงชะตาเท่านั้น
นอกจากนี้ยังมีฝนที่รวมมาจากพลังวิญญาณเป็นระลอกๆ ตกลงมาจากในเมฆพร่างพรายด้วย ในยามที่หยาดหยดลงบนพื้นดิน ก็กำจัดไอพลังประหลาดที่แผ่ซ่านจากแดนเซียนต้องห้ามที่หลงเหลืออยู่ไปจนหมดสิ้น
ต้นไม้พืชพรรณนับไม่ถ้วนเติบโตงอกงาม พลังบำเพ็ญคนในเขตปกครองหลวงทุกคนล้วนเพิ่มขึ้น โรคร้ายและบาดแผลบางอย่างก็ล้วนดีขึ้นอย่างรวดเร็ว
ราวยุครุ่งเรืองมาถึง
ภาพนี้ทำให้ผู้บำเพ็ญทุกคนที่นี่ ทำให้ทุกคนในเมืองหลวงเขตปกครองต่างโห่ร้องยินดี
ตัวแทนที่ส่งมาจากเผ่าต่างๆ ในเขตปกครองผนึกสมุทรมองเห็นภาพนี้ด้วยตาตัวเองจากที่ไกลๆ ล้วนแต่เกิดความรู้สึกยำเกรงขึ้นมาเอง
ต่อให้เป็นเผ่าเคียงเซียนก็ล้วนก้มหน้าลงไปอย่างเคารพนอบน้อม
ที่แท่นพิธี ผู้บัญชาการบางส่วนของกองทัพเมืองหลวงเขตปกครองที่ตามองค์ชายมา แต่ละคนในดวงตาฉายแววฮึกเหิม สำหรับพวกเขา องค์ชายเจ็ดข้างหน้าผู้นี้นำพวกเขาเดินไปสู่ชัยชนะ ทำให้ขุนพลแม่ทัพได้รับคุณงามความชอบยิ่งใหญ่
ในนี้รวมถึงผู้บัญชาการทั้งสามวังด้วย
แล้วก็ยังมีปลัดเขตปกครอง เขายืนอยู่ตรงนั้น มองท้องฟ้า สีหน้าในเสี้ยวขณะนี้ฉายความทอดถอนใจ แฝงด้วยความระลึกความหลัง เหมือนว่าเคยมีในช่วงเวลาหนึ่งในอดีต เขาก็เคยเห็นคนคนหนึ่งทำได้ถึงจุดนี้ อีกทั้งยังทำได้ดีกว่านี้ลิบลับ
‘ไม่เป็นไร ทุกอย่างกลับสู่ปกติแล้ว นายของข้า หลังจากการแลกเปลี่ยนเผ่าคลื่นศักดิ์สิทธิ์เสร็จสิ้นอย่างมากสามวัน ข้าก็จะสังเวยสิ่งมีชีวิตทั้งเขตปกครองผนึกสมุทร คั้นเป็นผลชะตาสูงสุดที่รวบรวมพลังชะตาชีวิตทั้งหมดเม็ดหนึ่ง นำไปพบท่าน’
ปลัดเขตปกครองยิ้ม พึมพำในใจ เฉลียวฉลาดเก่งกาจอย่างเขา ตอนนี้ในใจก็เกิดระลอกคลื่นอารมณ์เล็กน้อยอย่างอดไม่ได้ แต่ความเหม่อลอยที่เกิดจากความทรงจำก็ลบเลือนไปจากใบหน้าของปลัดเขตปกครองอย่างรวดเร็ว
เขายังคงยิ้มอย่างอ่อนโยน ริ้วรอยที่หางตายิ่งชัดเจน
สวี่ชิงอยู่ข้างหลังฝูงคน เงยหน้าจ้องมองเช่นกัน เพียงแต่สิ่งที่เขามองไม่ใช่องค์ชายเจ็ด แต่เป็นรูปสลักจักรพรรดิโบราณเสวียนโยวที่ใหญ่มหึมา
ในหัวของเขามีประโยคหนึ่งดังก้องขึ้นอีกครั้ง
‘ผู้ครองกระบี่ ใต้องค์จักรพรรดิทุกสิ่งสรรพล้วนฟาดฟันทำลายได้!’
ประโยคนี้ดังก้องมายี่สิบกว่าวันแล้ว และเขาก็สะกดมันเอาไว้ยี่สิบกว่าวันเช่นกัน
“ศิษย์พี่ใหญ่ เดี๋ยวพวกเราหาเหตุผลอะไรจากไปดี” สวี่ชิงเอ่ยกับนายกองที่อยู่ข้างๆ เสียงแผ่วเบา
“ง่าย ข้าคิดเอาไว้เรียบร้อยแล้ว พวกเราใกล้จะครบสองปีแล้ว ใช้แต้มกองทัพจำนวนหนึ่งสามารถลดระยะเวลาตามกฎที่ผู้ครองกระบี่หน้าใหม่ต้องอยู่ที่เขตปกครองสามปีได้ ถึงตอนนั้นพวกเราก็เลือกให้ส่งตัวไปข้างนอก จากนั้นข้าก็ดำเนินการสักเล็กน้อย ให้พวกเราถูกส่งกลับไปมณฑลรับเสด็จราชัน”
นายกองเอ่ยอย่างภาคภูมิใจ
“ครบสองปีแล้วหรือ” สวี่ชิงรู้สึกว่าเวลาผ่านไปค่อนข้างเร็ว
“ใช่แล้ว สองปีแล้ว”
นายกองก็ทอดถอนใจเช่นกัน
“เช่นนั้นปีนี้ข้าก็ยี่สิบแล้ว”
“ใช่แล้ว อาชิงน้อย เจ้ายังไม่โตไม่พอ” นายกองหัวเราะร่า
“ยี่สิบแล้วนะ” สวี่ชิงหัวเราะเช่นกัน
ตอนนี้ท่ามกลางเสียงโห่ร้องยินดีจากทั่วทั้งแปดทิศ องค์ชายเจ็ดบนแท่นพิธีสะบัดมือเบาๆ เพียงพริบตา คนหลายแสนบนลานก็เงียบทันที เขตปกครองหลวงค่อยๆ เงียบลง
“บุรุษเผ่ามนุษย์แห่งเขตปกครองผนึกสมุทร ครึ่งปีมานี้พวกท่านลำบากแล้ว”
องค์ชายเจ็ดเอ่ยเสียงเบา
“สงครามจบสิ้นแล้ว
“เผ่ามนุษย์เราชนะแล้ว!
“เผ่าฟ้าทมิฬข่มเหงเผ่ามนุษย์เรามาหลายหมื่นปี พวกมันจ่ายค่าตอบแทนให้กับเรื่องนี้ ในสนามรบเมืองจักรพรรดิ เผ่าฟ้าทมิฬที่ตายไปเป็นจำนวนนับร้อยล้าน และดวงอาทิตย์แห่งแสงอรุณที่ระเบิดในพื้นที่สองดินแดน ก็สังหารสมาชิกเผ่าฟ้าทมิฬมากถึงสิบเท่า!
“สมบัติดินแดนเผ่ามนุษย์สะท้านสะเทือนฟ้าดิน จุดที่น่ากลัวที่สุดไม่ใช่ผลกระทบในระยะเวลาสั้นๆ มันจะลุกไหม้ในดินแดนเผ่าฟ้าทมิฬต่อไปเป็นเวลาหกสิบปี!
“ในเวลาหกสิบปีนี้ เผ่าฟ้าทมิฬจะตายมากถึงร้อยเท่า อีกทั้งสมาชิกเผ่าที่ถือกำเนิดมาในช่วงนั้น รูปร่างจะถูกเปลี่ยนแปลงไป แม้พวกเขาจะมีสมบัติแดนสงครามเช่นกัน แต่ก็มีเพียงชิ้นเดียว อีกทั้งยังไร้ความมุ่งมั่นเด็ดเดี่ยวเป็นน้ำหนึ่งใจเดียว ดังนั้นก็ทำได้เพียงแค่ป้องกันเท่านั้น ส่วนเทพชั้นสูงชื่อหมู่ที่หวังพึ่งพิงก็หลับใหลในห้วงนิทราลึก!
“ส่วนเผ่ามนุษย์เราตอนนี้ สงครามครั้งนี้ยิงไปแล้วสามลูก และยังมีอีกมาก
“ศึกนี้ เราเผ่ามนุษย์ไม่เคยมีเหตุการณ์นี้มาก่อน จักรพรรดิมนุุษย์เสวียนจั้น ฟ้าดินล้วนรับรู้!”
องค์ชายเจ็ดน้ำเสียงฮึกเหิม เสียงดังก้องชั้นฟ้า
“และเขตปกครองผนึกสมุทร ภายใต้ความพยายามของพวกเรา ก็ยังรักษาเอาไว้ได้ดังเดิม!
“ไม่ใช่เพียงเท่านี้ ดินแดนสามมณฑลที่สูญเสียไป ข้า…ก็นำกลับมาให้พวกท่านแล้ว!
“ไม่ใช่แค่สามมณฑล ยังมีพื้นที่ครึ่งหนึ่งของดินแดนใหญ่คลื่นศักดิ์สิทธิ์ เผ่ามนุษย์เราก็เอากลับคืนมาได้แล้ว!
“พื้นที่ครึ่งดินแดนมีเก้าเขตปกครอง หนึ่งร้อยมณฑล”
ความตื่นเต้นฮึกเหิมเป็นระลอกๆ พวยพุ่งมาจากแปดทิศอีกครั้ง
องค์ชายเจ็ดจ้องบนพื้นแผ่นดิน สายตาแฝงด้วยความมุ่งมั่น เสียงก็เปลี่ยนมาต่ำทุ้มเล็กน้อย
“แต่ข้ารู้ว่าอาจจะมีบางคนมองว่าวิธีของข้าค่อนข้างโหดร้าย คิดว่าการกระทำของข้าคือจะเปลี่ยนเขตปกครองผนึกสมุทรมาเป็นดินแดนของข้าเอง
“เรื่องนี้ข้าได้ถวายฎีกาจักรพรรดิมนุษย์แล้ว และได้รับการตกลงจากจักรพรรดิมนุษย์ ดังนั้นวันนี้ข้าจะเลือกคนที่พวกเจ้าคุ้นเคยคนหนึ่งในเขตปกครองผนึกสมุทร มาเป็นเจ้าเขตปกครองผนึกสมุทร
“จากนั้นข้าจะไปจากเขตปกครองผนึกสมุทร อาจจะไม่กลับมาอีก ข้าจะมุ่งหน้าไปคลื่นศักดิ์สิทธิ์ เฝ้ารักษาชายแดนเพื่อเผ่ามนุษย์!”
องค์ชายพูดจบ ไม่รอให้คนทั้งหลายข้างล่างได้ตั้งสติ ก็หันหน้าไปทางรูปสลักจักรพรรดิโบราณเสวียนโยว หลังจากโค้งคารวะหนึ่งทีก็หันหลัง เงยหน้ามองไปทางเงาเจ้าเขตปกครองทุกรุ่นมายาบนท้องฟ้าเหล่านั้น ประสานหมัดโค้งคารวะอีกครั้ง
“เขตปกครองผนึกสมุทรไม่มีผู้ปกครองไม่ได้ เจ้าเขตปกครองทุกรุ่นล้วนวีรบุรุษเก่งกาจทั้งสิ้น
“วันนี้ ข้า กู่เยวี่ยจางอั้น ด้วยฐานะบุตรคนที่เจ็ดของจักรพรรดิมนุษย์เสวียนจั้น ขอเสนอคนหนึ่งเป็นเจ้าเขตปกครองคนใหม่ หลังจากถามฟ้า ดิน มนุษย์แล้ว ข้าจะถวายฎีกาจักรพรรดิมนุษย์ ให้มีราชโองการแต่งตั้ง!
“ปลัดเขตปกครอง!” องค์ชายเจ็ดก้มหน้า มองไปยังข้างล่างแท่นพิธี
ปลัดเขตปกครองยิ้ม โค้งคารวะเล็กน้อย
“ลูกกลอนแก่นแท้ที่เจ้าคิดค้นนำความสุขร่มเย็นมาให้แก่เผ่ามนุษย์ในเมืองหลวงเขตปกครอง ทำให้เผ่ามนุษย์มากมายทรมานจากการโจมตีของไอพลังประหลาดน้อยลง นี่เป็นคุณูปการแรก
“ในขณะที่เจ้าเป็นปลัดเขตปกครอง ก็ปฏิบัติอย่างรอบคอบ มีจิตใจที่รับผิดชอบ ระดับบนช่วยสนับสนุนเจ้าเขตปกครอง ระดับล่างเมตตาประชาชน ขยันขันแข็งคุณงามความชอบยิ่งใหญ่ นี่เป็นคุณูปการที่สอง
“ในช่วงสงคราม เจ้าคอยรักษาแนวหลัง ทำให้ขวัญกำลังใจเขตปกครองผนึกสมุทรมั่นคงไม่ปั่นป่วน มอบพลังของตัวเองให้แนวหน้า นี่เป็นคุณงามความชอบที่สาม
“นับจากนี้ เจ้าปกครองผู้บำเพ็ญเขตปกครองผนึกสมุทร ฟื้นฟูขั้นตอนกระบวนการทุกอย่างในเขตปกครอง ซ่อมแซมบูรณะ ทำให้เขตปกครองผนึกสมุทรกลับมาเป็นดังเดิม นี่คือคุณูปการที่สี่!”
จากคำพูดขององค์ชายเจ็ด คุณูปการแต่ละเรื่องๆ ดังก้องไปทั่วทั้งแปดทิศ ข้างล่างแท่นพิธี คนหลายแสน ในเขตปกครองหลวงหลายสิบล้านล้วนได้ยิน สายตาเคารพนับถือแต่ละคู่ๆ ต่างรวมมาที่ปลัดเขตปกครอง
ปลัดเขตปกครองอ่อนโยน ความเมตตาฉายอยู่เต็มใบหน้า
สวี่ชิงก้มหน้า เขาไม่อยากมอง ตอนนี้เงียบนิ่งไม่พูดจา ในใจของเขากำลังบอกตัวเอง เหลืออีกเจ็ดวัน เจ็ดวันหลังจากนั้นก็กลับสำนักเจ็ดเนตรโลหิตได้แล้ว
‘พิธีครั้งนี้ก็ใกล้จะจบแล้ว’
สวี่ชิงพึมพำในใจ
ตอนนี้องค์ชายเจ็ดกล่าวคุณูปการทั้งหมดแล้ว ท่ามกลางเสียงโห่ร้องยินดีเป็นระลอกๆ เขายิ้มพลางพยักหน้าไปทางปลัดเขตปกครองที่อยู่ข้างล่าง
ปลัดเขตปกครองเดินออกมาอย่างสุขุม ทีละก้าวๆ ภายใต้การจับจ้องจากคนทั้งหลาย เดินไปบนขั้นบันได เดินไปบนแท่นพิธี เดินมาถึงข้างกายองค์ชายเจ็ด
ลมพัดจากทุกสารทิศ
นั่นไม่ได้เกิดจากวิชา แต่เป็นพลังดวงชะตาที่ไร้รูปร่างกำลังรวมมาที่นี่
จากบนร่างของคนธรรมดาทุกคน บนร่างของผู้บำเพ็ญทุกคนในเเมืองหลวงเขตปกครอง พลังดวงชะตาเป็นกลุ่มๆ กำลังลอยขึ้นฟ้า
ท่ามกลางความเลือนราง เมฆพรายรุ้งบนท้องฟ้าหม่นลงไปเล็กน้อย จากการรวมตัวมาของพลังชะตา คลื่นวนมหึมาลูกหนึ่งปรากฏบนม่านฟ้า
กำลังชัดเจนขึ้นมาอย่างช้าๆ
“นี่เป็นการเพิ่มพลังดวงชะตาของเขตปกครองหนึ่ง สำหรับพวกเราแล้วแม้จะไม่มีประโยชน์สักเท่าไร แต่สำหรับผู้บำเพ็ญระดับหวนสู่อนัตตาแล้ว ภายใต้พลังดวงชะตาของทั้งเขตปกครองนี้ สามารถเพิ่มพลังได้หนึ่งขั้น กระทั่งว่าเพิ่มได้จนถึงครึ่งก้าวสู่เตรียมเทวะก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้!
“ภายใต้การเพิ่มพลังจากพลังดวงชะตา ในเขตปกครองผนึกสมุทร คนผู้นี้ก็นับได้ว่าสูงส่งสูงสุดอย่างแท้จริง”
นายกองอยู่ข้างๆ เอ่ยเสียงต่ำอย่างอิจฉา
สวี่ชิงก้มหน้า เงียบนิ่งไม่พูดอะไร
ตอนนี้บนแท่นพิธี องค์ชายเจ็ดมองไปทางปลัดเขตปกครองที่อยู่ข้างๆ
ปลัดเขตปกครองอ่อนโยน เอ่ยเสียงแผ่วเบา
“ถามฟ้า ข้าสามารถดำรงตำแหน่งเจ้าเขตปกครองผนึกสมุทรได้หรือไม่”
พิธีสวมกวานของเจ้าเขตปกครอง ที่สำคัญก็คือถามฟ้าถามดินถามมนุษย์ นี่เป็นธรรมเนียมดั้งเดิมและพิธีที่จักรพรรดิโบราณเสวียนโยวกำหนดเอาไว้ตอนนั้น
ฟ้าที่นี่หมายถึงจักรพรรดิโบราณเสวียนโยว และองค์ชายเจ็ดในฐานะเชื้อพระวงศ์ ตอนนี้อยู่ที่นี่สามารถแทนฟ้าได้ เขาจึงจ้องมองปลัดเขตปกครอง พยักหน้า
“ได้!”
คำพูดเขาเมื่อดังออกไป ท้องฟ้ามีเสียงฟ้าครืนครันทันที เหมือนอัสนีสวรรค์มหาศาลฟาดผ่า ขณะที่เสียงเลื่อนลั่นดังก้อง คลื่นวนที่แปรเปลี่ยนมาจากพลังดวงชะตาลูกนั้นก็ชัดเจนยิ่งขึ้น ก่อเป็นกวานรางๆ
กวานจักรพรรดิม่านหยกสิบสองสาย กวานเจ้าดินแดนสิบสาย กวานองค์ชายเก้าสาย กวานเจ้าเขตปกครองห้าสาย
นี่เป็นสิ่งที่กำหนดแต่โบราณ รักษาไว้จนวันนี้
ตอนนี้สิ่งที่ปรากฏบนท้องฟ้าเป็นกวานม่านหยกห้าสายที่ก่อร่างขึ้นจากพลังชะตา
เสี้ยวพริบตาที่สายฟ้าดังสะเทือนเลื่อนลั่น จู่ๆ ในกวานที่แปลงมาจากพลังดวงชะตาเขตปกครองผนึกสมุทรหลอมรวม เหมือนมีเสียงร้องไห้ของเด็กคนหนึ่งดังแว่วมา สะท้อนในใจสวี่ชิง
สวี่ชิงเงยหน้าทันที มองท้องฟ้า เสียงร้องไห้นั่นเดี๋ยวดังเดี๋ยวหายไป ดูจากท่าทางของคนอื่นๆ รอบๆ เหมือนว่าจะไม่มีใครได้ยิน
“ศิษย์พี่ใหญ่ ท่านได้ยินหรือไม่” สวี่ชิงจู่ๆ ก็เอ่ยขึ้นมา
นายกองสีหน้าเป็นปกติ มองสวี่ชิงอย่างล้ำลึกแวบหนึ่ง จากนั้นก็ส่ายหน้า
“ข้าไม่ได้ยิน เจ้าก็ไม่ได้ยินเหมือนกัน”
สวี่ชิงเงียบนิ่ง เขารู้ นั่นคือพลังดวงชะตาร่ำไห้ เป็นเสียงร้องไห้ของเด็กชายตัวน้อยเขตติงหนึ่งสามสอง ศิษย์พี่กับตนอยู่ในตำแหน่งมรรคาสวรรค์ ดังนั้น เขาจะต้องได้ยินอย่างแน่นอน
เสียงร้องไห้นี้ดังขึ้นลงอยู่ข้างหู แปรเปลี่ยนเป็นระลอกคลื่นในใจ
‘ข้ายังมีเรื่องอีกมากมายต้องไปทำ ข้าต้องกลับสำนักเจ็ดเนตรโลหิต…พลังบำเพ็ญของข้าไม่พอ ข้าต้องมีชีวิตต่อไป ทุกสิ่งทุกอย่างรอให้วันหน้าพลังบำเพ็ญสูงแล้วค่อยจัดการก็ไม่สาย’
สวี่ชิงพึมพำในใจ แต่ในตอนที่เขาปลอบตัวเองแบบนี้ ในสมองของเขากลับมีเสียงโหยไห้เวทนากำลังบอกเขา คนข้างหน้าคือฆาตกรที่ฆ่าเจ้าเขตปกครองและเป็นตัวกลางที่ทำให้เจ้าวังตาย
เคราะห์ในเขตปกครองผนึกสมุทรก็เป็นคนคนนี้วางแผนมาเนิ่นนาน
นี่เป็นเสียงของสวี่ชิง เขาสะกดมันลงไปอีกครั้ง
‘เกี่ยวอะไรกับข้าเล่า ใช่แล้ว ไม่เกี่ยวอะไรกับข้า…ข้าก็แค่บุคคลตัวเล็กๆ ที่อยากมีชีวิตต่อไปก็เท่านั้น ข้ามีอาจารย์ มีศิษย์พี่ ข้าจะทำให้พวกเขาลำบากไปด้วยไม่ได้’
สวี่ชิงก้มหน้า กำหมัด
ส่วนบนแท่นพิธี ปลัดเขตปกครองสีหน้าสุขุม เอ่ยต่อไป
“ถามดิน ข้าดำรงตำแหน่งเจ้าเขตปกครองได้หรือไม่”
ดินในที่นี่หมายถึงดินแดนของเขตปกครองผนึกสมุทร เป็นส่วนหนึ่งของพิธี ฐานะขององค์ชายเจ็ด ทำให้เขาตอบแทนได้เช่นเดิม
“ได้!”
ทันใดนั้นสายฟ้าบนท้องฟ้าฟาดผ่าอีกครั้ง เหมือนอัสนีมหาศาลปะทุ คลื่นอากาศที่เกิดขึ้นแผ่ไปทั่วทุกทิศ ขณะที่ฟาดผ่าน่าครั่นคร้าม พลังดวงชะตาที่มากกว่าเดิมหลอมรวม กวานนั่นชัดเจนยิ่งขึ้น กระทั่งว่าลอยลงมาจากท้องฟ้ามาลอยอยู่เหนือแท่นพิธีเขตปกครองหลวง
เสียงร้องไห้ดังชัดยิ่งกว่าเดิม เหมือนแปรเปลี่ยนมาเป็นเสียงร้องอ้อนวอน
สวี่ชิงหน้าอกกระเพื่อมขึ้นลง ในใจเกิดระลอกคลื่นซัดโหมบ้าคลั่ง เงยหน้าจ้องเพ่ง
มองจากมุมของเขา เหมือนมือทั้งสองของจักรพรรดิโบราณเสวียนโยวถือกวานพลังดวงชะตาเอาไว้ จะสวมลงไปที่ศีรษะของปลัดเขตปกครอง
ทันทีที่กวานนั่นสวมลงไป ปลัดเขตปกครองกลายเป็นเจ้าเขตปกครอง ภายใต้การเพิ่มพลังจากพลังดวงชะตา ทั้งเขตปกครองผนึกสมุทรจะตกอยู่ในการควบคุมของเขาทั้งหมด
นับจากนี้ฟ้าของเขตปกครองผนึกสมุทรเป็นของเทียนประทีป ดินของเขตปกครองผนึกสมุทรเป็นของเทียนประทีป พลังชะตาของเขตปกครองผนึกสมุทรเป็นของเทียนประทีปด้วยเช่นกัน
ทันทีที่เป็นเช่นนี้ เช่นนั้นการตายของหัวหน้าเหลย การตายของปรมาจารย์ไป่ การตายของนายท่านหก ทุกอย่างนี้จะกลายเป็นเรื่องน่าเสียดาย
และทางนายท่านเจ็ดมือหยกขาวก่อนหน้านี้จะสามารถหลบการตรวจสอบของพลังเขตปกครองได้หรือไม่ก็ยังไม่รู้
‘น่าจะไม่เป็นไร อาจารย์จะต้องไม่เป็นไร แต่หากว่า…’
สวี่ชิงเปลือกตาหลุบลงเล็กน้อย มือทั้งสองกำหมัดแล้วคลายออก จากนั้นในตอนที่กำอีกครั้ง มือของนายกองก็วางมาบนไหล่ของสวี่ชิง
“ศิษย์น้องเล็ก ไม่อย่างนั้นอีกเดี๋ยวพวกเราก็กลับไปเลยดีกว่า”
นายกองเอ่ยเสียงแผ่วเบา มือที่กดอยู่บนไหล่สวี่ชิงออกแรงมาก
ขณะเดียวกัน ปลัดเขตปกครองบนแท่นพิธี รอยยิ้มบนใบหน้าอ่อนโยน สายตากวาดไปยังคนหลายแสนข้างล่าง และกวาดมองผ่านไปจากสวี่ชิงเช่นกัน สุดท้ายก็มองไปยังบริเวณที่ไกลกว่าเดิม เอ่ยเสียงอ่อนโยน
“ถามมนุษย์ ชายทั้งหลายของเขตปกครองผนึกสมุทร ข้า สามารถดำรงตำแหน่งเจ้าเขตปกครองได้หรือไม่”
นี่คือพิธีขั้นสุดท้าย องค์ชายเจ็ดไม่มีฐานะมาตอบแทน ผู้ที่จะตอบคำถามนี้ควรจะเป็นคนของเขตปกครองผนึกสมุทร
“ได้!”
“ได้!!”
“ได้!!!”
แทบจะในพริบตาเดียวกับที่ปลัดเขตปกครองเอ่ย คนหลายแสนข้างล่างแท่นพิธีส่งเสียงดังก้อง และเสียงจำนวนมากกว่าเดิมดังออกมาจากปากของคนธรรมดาในเขตปกครอง ดังก้องไปในฟ้าดิน
นี่คือความต้องการของประชาชน!
นี่คือความคิดเป็นหนึ่งเดียวกัน!
นี่คือการยอมรับของฟ้า ดิน มนุษย์!
พลังดวงชะตาบนท้องฟ้าส่งเสียงดังเลื่อนลั่น ขณะอัสนีนับพันนับหมื่นฟาดผ่า กวานม่านหยกห้าสายที่เป็นสัญลักษณ์ปกป้องคุ้มครองเขตปกครองหนึ่ง ก่อเป็นรูปร่างทันที พลังดวงชะตาหลอมรวม ปฐพีสั่นคลอน ท้องฟ้าเกิดระลอกคลื่นหมื่นจั้ง
เสียงร้องไห้อ้อนวอนแปรเปลี่ยนเป็นสิ้นหวัง ค่อยๆ อ่อนแรงไปข้างหูสวี่ชิง
ตอนนี้ กวานนั่นลอยต่ำลงมาจากฟ้า เหมือนจักรพรรดิโบราณเสวียนโยวถือเอาไว้ สวมให้ปลัดเขตปกครองช้าๆ
ในเสี้ยวขณะนี้ อารมณ์ในใจสวี่ชิงดิ้นรนจะมาถึงขีดจำกัดสูงสุด สุดท้ายก็เปลี่ยนเป็นอัสนีสวรรค์ ขณะฟาดผ่าครืนครัน ความคิดทุกอย่างแหลกละเอียด เขาเงยหน้า ถอนหายใจเสียงเบา
ในการถอนหายใจนี้ก็พ่นเอาความขุ่นเคืองที่สะกดเอาไว้ในร่างยี่สิบกว่าวันออกมาด้วย
เขารู้ เขาไม่ควรทำเรื่องพวกนี้ หลายวันนี้ก็ใช้เหตุผลมากมายมาบอกตัวเองว่าทำแบบนี้ถึงจะถูกต้อง
“แต่ข้าสุดท้ายแล้วก็หลอกใจตัวเองไม่ได้
“ข้า พูดคำว่าได้ไม่ออก…
“ศิษย์พี่ใหญ่ ข้าสะกดเอาไว้ไม่ได้แล้ว”
สวี่ชิงพึมพำ ท่ามกลางรูม่านตาที่หดเล็กของนายกอง ท่ามกลางเสียงสูดลมหายใจลึกของข่งเสียงหลง ท่ามกลางความอึ้งตะลึงเบิกตากว้างอ้าปากค้างของชิงชิว ภายใต้ความไม่เข้าใจของคนทั้งหลายรอบๆ ร่างของเขาลอยขึ้นสูงจากพื้นดิน!
คนหลายแสนคนบนพื้น สวี่ชิงลอยขึ้นกลางฟ้าคนเดียว!
ทั้งตัวปกคลุมด้วยประกายแสงพร่างพราย เหนือศีรษะมีอสูรสมุทรบรรพกาลปรากฏเหนือศีรษะ ฉัตรแต่ละคันๆ ปรากฏออกมา เจิดจ้าระยิบระยับ
ดึงดูดความสนใจจากผู้คนนับไม่ถ้วน
องค์ชายเจ็ดมองไป
ปลัดเขตปกครองจ้องเพ่ง
ผู้บำเพ็ญหลายแสนเงยหน้า
ในพริบตาที่กวานแห่งพลังดวงชะตาจะลอยลงมา ทันทีที่เสียงร้องไห้ของเด็กชายสิ้นหวังใกล้จะเงียบไป สวี่ชิงยืนอยู่กลางท้องฟ้า มองฟ้าดิน
ในเสี้ยวขณะนี้ เขาไม่อยากคิดว่าวิธีการของตัวเองถูกหรือผิด เป็นหรือตาย เขาอยากทำตามใจของตัวเอง
คำพูดมากมายที่เขาโน้มน้าวตัวเองกว่าครึ่งเดือนมานี้ ตอนนี้ล้วนว่างเปล่าไร้แรง จะอย่างไรก็สะกดความคิดที่ผุดขึ้นมาหลังจากที่รับรู้แล้วในใจไม่ได้
บางที ความคิดของเขาอาจจะเปลี่ยนไปในเสี้ยวพริบตาต่อมา บางทีหากเลือกได้อีกครั้ง เขาอาจจะไม่ทำเช่นนี้
แต่ตอนนี้เขาไม่อยากไปชั่งน้ำหนักแล้ว
เสียงของเขาดังก้องไปทั่วทั้งแปดทิศ
“ข้า สวี่ชิงผู้มหาจักรพรรดิหยั่งใจประกายแสงหมื่นจั้ง ขอคัดค้าน!”
ในที่สุดเขาก็พูดประโยคนี้ออกไป และจะต้องเติมคำว่ามหาจักรพรรดิหยั่งใจประกายแสงหมื่นจั้งหลายตัวอักษรนี้เข้าไปด้วย นั่นคือสิทธิ์คุณสมบัติ
ประโยคนี้พูดจบ ความโล่งใจและความถ่องแท้ที่ไม่เคยมีมาก่อนก็แผ่ซ่านไปทั่วร่างสวี่ชิง หมอกคลุมเครือที่อัดอั้นยี่สิบกว่าวันนี้สลายหายไปสิ้น
ความลังเลมารดามันสิ!
ความคิดเห็นของประชาชนฝังกลบจิตใจของเขาไม่ได้
อำนาจควบคุมวิญญาณเขาไม่ได้
อะไรคือถูกต้อง อะไรคือถูกผิด เรื่องพวกนี้…ช่างหัวมารดามันสิ!
เสี้ยวขณะนี้ ดวงตาสวี่ชิงเป็นประกายเจิดจ้านัก ร่างของเขาคล้ายว่ากำลังเปล่งประกายแสง พลังดวงชะตาบนท้องฟ้าก็เริ่มเดือดพล่านขึ้นมา ท่ามกลางความรางเลือน ก็แยกออกมาจากกวานม่านหยกห้าสายที่ก่อร่างอย่างสมบูรณ์นั่นออกมา มาเป็นกลุ่มๆ หลอมรวมมายังเหนือศีรษะของสวี่ชิง
กวานม่านหยกห้าสายที่ขนาดเล็กกว่าเล็กน้อยอันหนึ่ง ทำการสวมกวานให้กับสวี่ชิงเอง!
นั่นคือการยอมรับจากพลังดวงชะตาเขตปกครองผนึกสมุทร นั่นคือการยอมรับจากมรรคาสวรรค์ฝั่งหนึ่ง!
แม้คนที่เห็นมีไม่มาก แต่คนที่เห็นก็มี!
คำพูดของเขาตอนนี้เหมือนอัศนีน่าครั่นคร้าม ขณะเดียวกับที่ฟาดผ่าไปทั่วทุกทิศ คำรามไปในจิตใจของคนที่ได้ยินก็ทำให้คนหลายแสนบนลานเงียบกริบทันที
จากนั้นก็เป็นเสียงถอนหายใจ ราวลมคลั่งพัดกวาดไปทั่วทุกทิศ
ท้องฟ้าเปลี่ยนสี
องค์ชายเจ็ดสายตาจ้องเพ่ง มองไปยังเหนือศีรษะของสวี่ชิง ในใจเกิดคลื่นยักษ์ เขารู้จักสวี่ชิง
สิ่งเดียวที่ทำให้เขาก่อนหน้านี้จดจำสวี่ชิงได้ไม่ใช่ความชอบของสวี่ชิง และไม่ใช่ฐานะอาลักษณ์ตัวเล็กๆ ที่คอยติดตามเจ้าวังครองกระบี่ด้วยเช่นกัน แต่เป็นมหาจักรพรรดิหยั่งใจประกายแสงหมื่นจั้ง!
ในเขตปกครองผนึกสมุทรนี้ไม่เคยมีผู้ที่หยั่งจิตใจหมื่นจั้งมาก่อน คนอื่นๆ รู้เพียงว่าไม่ธรรมดา หาได้ยาก เหมือนผู้มาจากตระกูลดี เชื่อถือได้ อีกทั้งยังมีข้อดีอย่างมหาศาลต่อการเลื่อนขั้นในอนาคตอีกด้วย
แต่เขาในฐานะองค์ชายย่อมรู้มากกว่าคนอื่น เขารู้ มหาจักรพรรดิหยั่งจิตใจ นี่หมายถึงทิ้งชื่อไว้ที่รูปสลักมหาจักรพรรดิเมืองหลวงจักรพรรดิทางนั้น!
รูปสลักมหาจักรพรรดิแม้จะไม่ใช่สมบัติดินแดน แต่ก็เป็นสิ่งที่เป็นมรดก ปกป้องคุ้มครองเผ่ามนุษย์หลายครั้ง จักรพรรดิมนุษย์ทุกรุ่นล้วนไปกราบเคารพ
และทิ้งชื่อไว้ที่มหาจักรพรรดิทางนั้น มหาจักรพรรดิล้วนให้ความสำคัญ คนประเภทนี้…ต่อให้เป็นเขาก็ไม่อาจไปแตะต้องได้ง่ายๆ
สังหารผู้ที่หยั่งจิตใจหมื่นจั้งคนหนึ่ง ผลกระทบต่อชื่อเสียงมหาศาลนัก
และก็เป็นเพราะประกายแสงหมื่นจั้งจากมหาจักรพรรดิหยั่งใจ เสียงของสวี่ชิงตอนนี้ ขณะที่ดังสะท้อนก้องก็แผ่ออกไป หลังจากที่ดังขึ้นในหูของผู้บำเพ็ญทุกคนแล้ว ระลอกคลื่นที่เกิดขึ้นรุนแรงเป็นอย่างยิ่ง
หากวันนี้เป็นวันแรกที่สวี่ชิงมาถึงเขตปกครองหลวง เช่นนั้นต่อให้เขาเป็นผู้ได้รับการสนับสนุนจากมหาจักรพรรดิก็ไม่มีทางสร้างระลอกคลื่นได้ขนาดนี้
ไม่มีใครรู้จักเขา ไม่มีใครเข้าใจเขา สำหรับคนอื่นแล้วเขาก็เป็นเพียงแค่ชื่อหนึ่งเท่านั้น
ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนเป็นเพียงแค่เปลือกนอกภาพมายา คนเขตปกครองผนึกสมุทรรู้ว่าเขาไม่ธรรมดา แต่ความจริงไม่ได้สำคัญขนาดนั้น
แต่ตอนนี้ไม่เหมือนกัน
สวี่ชิงเดินเข้าไปในใจของเผ่ามนุษย์เขตปกครองผนึกสมุทรโดยไม่รู้ตัว การช่วยเหลือของเขา ช่วยเหลือแนวหน้าเขตตะวันตกได้อย่างมาก ฐานะอาลักษณ์ของเขาทำให้คนนับไม่ถ้วนรู้การมีตัวตนอยู่ของเขา
สงครามแนวหน้าที่เขาเข้าร่วมหลังจากนั้นก็ทำให้ผู้บำเพ็ญประสบการณ์รบโชกโชนเหล่านั้นเข้าใจเขาอย่างลึกซึ้งและยอมรับ
เขา สำหรับเขตปกครองผนึกสมุทรแล้วเป็นคนกันเอง โดยเฉพาะสำหรับผู้ครองกระบี่แล้ว พวกเขาผ่านประสบการณ์เป็นตายมาด้วยกัน เป็นสหายร่วมรบที่ฝากแผ่นหลังไว้ได้!
มีพื้นฐานเช่นนี้ ประกายแสงหมื่นจั้งของเขาถึงจะเป็นจุดดึงดูดอย่างแท้จริง กลายเป็นวงแสง
ทำให้เขาโดดเด่น ทำให้อยู่ในใจผู้คนเขตปกครองผนึกสมุทร โดยเฉพาะในวังครองกระบี่ก็ได้รับการจดจำเอาไว้อย่างลึกซึ้งและยอมรับ ยิ่งเมื่อเห็นเขาก็จะคิดถึงเจ้าวังไปโดยสัญชาตญาณ
จุดนี้แม้แต่ข่งเสียงหลงก็ยังทำไม่ได้
เพราะฐานะของข่งเสียงหลง หลังจากเจ้าวังตายแล้วทุกคนถึงจะได้รู้ ส่วนสวี่ชิงทางนี้ ระหว่างสงคราม นอกจากช่วงตรงกลางช่วงนั้นแล้ว เวลาอื่นก็อยู่ข้างกายเจ้าวังเสมอ
ดังนั้นคำพูดของเขาตอนนี้ถึงจะสามารถเหมือนสายฟ้าฟาดผ่าสะท้านสะเทือนแปดทิศได้เช่นนี้ ทำให้ลานกว้างเงียบสงัด ทั้งเขตปกครองคล้ายว่าสั่นคลอน
แต่สวี่ชิงหลังจากที่ผ่านประสบการณ์เหล่านี้ เขาก็เข้าใจแล้วว่าจิตใจของประชาชนเป็นสิ่งที่ยากที่จะหยั่งที่สุดในโลก และเป็นสิ่งที่ได้รับอิทธิพลได้ง่ายที่สุด
คนธรรมดาสามัญทั้งเขตปกครอง ในสายตาของพวกเขา เทียบกับสวี่ชิงแล้ว ปลัดเขตปกครองถึงจะเป็นคนที่บันดาลสุขทุกอย่าง
ส่วนสวี่ชิงสู้ปลัดเขตปกครองไม่ได้
ต่อให้เป็นผู้บำเพ็ญทั้งสามวังตอนนี้แม้จะหวั่นไหว แต่ความไม่เข้าใจ ประหลาดใจ สับสนที่ฉายบนใบหน้า ทุกสิ่งทุกอย่างนี้ล้วนทำให้สวี่ชิงเข้าใจว่าตัวเองจะต้องเผชิญหน้ากับอะไร
มีสติรู้ตัวเป็นความผิดประเภทหนึ่ง
เหมือนกับในตอนนี้ ท่ามกลางเสียงดังก้องของคำพูดสวี่ชิง รองเจ้าวังครองกระบี่ ชายชราที่มองเจ้าวังจนสุดสายตาด้วยน้ำตาคลอเบ้าคนนั้นก็พลันพุ่งออกมา คำรามเสียงต่ำใส่สวี่ชิง
“สวี่ชิง วิชาที่ข้าให้เจ้า เจ้าฝึกเพิ่มไปขั้นหนึ่งใช่หรือไม่ เจ้าเลอะเลือนแล้ว ก่อนหน้านี้ข้าบอกเจ้าแล้วว่าอย่าละโมบได้คืบเอาศอก ไยจึงไม่ฟัง!”
รองเจ้าวังคำรามอย่างโมโห แต่ในดวงตาเห็นได้ชัดว่าแฝงไว้ด้วยความตื่นตระหนก หันไปอย่างรวดเร็ว โค้งคารวะไปทางแท่นพิธี เอ่ยเสียงดัง
“องค์ชาย เจ้าเขตปกครอง สวี่ชิงฝึกบำเพ็ญเกิดปัญหา ขอท่านอย่าได้กล่าวโทษ กลับไปข้าจะลงโทษเขาแน่นอน!”
แทบจะในเวลาเดียวกับที่รองเจ้าวังพูดออกไป ผู้ดูแลซือหนานและผู้ดูแลซุนแห่งวังครองกระบี่ก็ลอยขึ้นฟ้าอย่างรวดเร็ว โค้งคารวะไปทางแท่นพิธี
ยิ่งมีเงาร่างผู้ครองกระบี่ผู้บำเพ็ญที่ผ่านสงครามแต่ละร่างๆ ตอนนี้ก็ลอยขึ้นฟ้าอย่างรวดเร็ว จำนวนมากถึงแสนกว่าๆ ข่งเสียงหลง นายกอง ชิงชิว หนิงเหยียนล้วนอยู่ในนั้นด้วย
ไม่ว่าจะอย่างไร ไม่ว่าสวี่ชิงจะทำผิดหนักหนาสาหัสถึงเพียงใด ตอนนี้ พวกเขาล้วนจะปกป้องไปโดยสัญชาตญาณ ในทางกลับกัน สวี่ชิงเองก็จะทำเช่นนี้เช่นกัน พวกเขาคือสหายร่วมรบ!
โดยเฉพาะนายกอง บนร่างยิ่งแผ่แสงสีฟ้าออกมา
บนท้องฟ้า รองเจ้าวังเห็นเป็นเช่นนี้ ก็คำรามเสียงต่ำทันที ขัดขวางการลอยขึ้นฟ้าของคนทั้งหลาย จากนั้นก็โค้งคารวะไปทางแท่นพิธีต่อ
องค์ชายเจ็ดหรี่ตา สายตาจับจ้องไปยังเหนือศีรษะสวี่ชิง ในใจยังคงมีระลอกคลื่นอารมณ์ จากนั้นก็มองไปยังผู้บำเพ็ญที่ผ่านสงครามมาโชกโชนแสนกว่าๆ ในฝูงชน เขาเข้าใจ วันนี้เรื่องนี้หากจัดการไม่ดีจะเกิดความวุ่นวาย
และต่อให้จัดการได้ดี เรื่องปลัดเขตปกครองดำรงตำแหน่งเจ้าเขตปกครองก็จะด่างพร้อยเล็กน้อย อย่างไรเสีย การคัดค้านจากผู้ที่หยั่งจิตประกายแสงหมื่นจั้ง อีกทั้งยังหลอมรวมการยอมรับจากพลังดวงชะตา คนแบบนี้…เสด็จพ่อของเขาก็ต้องขบคิดบ้างเช่นกัน
แต่ว่าเกี่ยวอะไรกับตนเล่า ตนทำตามสัญญาสำเร็จแล้ว หากปลัดเขตปกครองรับตำแหน่งไว้ไม่ได้ ก็ไม่เกี่ยวกับตน
ดังนั้น องค์ชายเจ็ดจึงไม่พูดอะไร เขาอยากดูว่าปลัดเขตปกครองจะจัดการเช่นไร
ปลัดเขตปกครองยืนอยู่บนแท่นพิธี ทอดสายตามองสวี่ชิง เอ่ยเสียงเบา
“ไม่เป็นไร แต่ข้าเองก็อยากฟังเช่นกัน ไยเจ้าจึงคัดค้าน อีกทั้งสวี่ชิง ข้าจำได้ว่าข้าเคยสอนเจ้าด้วยซ้ำ”
“วาจาเหลวไหลของเด็ก ใต้เท้าเจ้าเขตปกครองไยต้องจริงจัง” ไม่รอให้สวี่ชิงได้พูด รองเจ้าวังครองกระบี่ก็ประสานหมัดอีกครั้ง จากนั้นก็หันไปมองสวี่ชิง ตวาดออกไป
“ยังไม่กลับไปอีก!”
พูดแล้วเขาก็ถอยไปสามสี่ก้าว จะพาสวี่ชิงจากไป ทั้งร่างยิ่งแผ่พลังบำเพ็ญ ป้องกันเหตุการณ์เปลี่ยนแปลงที่มาจากผู้บัญชาการเมืองหลวงจักรพรรดิและปลัดเขตปกครอง
“หลี่อวิ๋นซานหยุดก่อน!” ปลัดเขตปกครองเอ่ยขึ้นราบเรียบ
รองเจ้าวังฝีเท้าหยุดชะงัก นี่เป็นชื่อเขา แต่เขาก็ยังคงถอยไปสามสี่ก้าว มายังข้างกายสวี่ชิง เงยหน้ามองปลัดเขตปกครอง ขมขื่นแต่ก็กลับเอ่ยอย่างแน่วแน่
“ใต้เท้าเจ้าเขตปกครอง สวี่ชิงเป็นอาลักษณ์ของท่านเจ้าวัง เป็นผู้ครองกระบี่ เขาอายุยังน้อยไม่รู้ความ แต่โทษไม่ถึงตาย เจ้าวังก่อนพลีชีพก็ได้ฝากคนที่อยู่ข้างหลังไว้กับข้า ดังนั้น…ข้าต้องปกป้อง!”
คำพูดเขาเมื่อดังออกมา ผู้ดูแลซือหนานและผู้ดูแลซุนต่างแผ่พลังบำเพ็ญ ผู้บำเพ็ญที่ผ่านสงครามมาโชกโชนแสนกว่าๆ เหล่านั้นต่างปะทุกลิ่นอายขึ้นมาทันที
องค์ชายเจ็ดในดวงตามีระลอกคลื่นเล็กน้อย มองไปทางปลัดเขตปกครอง
ปลัดเขตปกครองจ้องมองสวี่ชิง
สวี่ชิงก้าวขึ้นไปโค้งคารวะรองเจ้าวังที่อยู่ข้างๆ โค้งคารวะผู้ดูแลทั้งสอง โค้งคารวะสหายร่วมรบแสนกว่าข้างล่าง จากนั้นก็เงยหน้า เสียงสงบนิ่ง เอ่ยเสียงเบา
“เดือนสี่ปีนี้ หลังจากสงครามปะทุขึ้น ในยามที่เจ้าวังนำทัพเดินทางได้ให้ภารกิจหนึ่งกับข้า ให้ข้าตรวจสอบสาเหตุการตายของเจ้าเขตปกครองอย่างลับๆ!”
คำพูดเขาดังออกไป รองเจ้าวังที่แต่เดิมจะขัดขวางท่าทางหยุดชะงักไปทันที ผู้บำเพ็ญหลายแสนที่อยู่ที่นี่ในใจของแต่ละคนต่างเกิดระลอกคลื่นอารมณ์ขึ้นมาอีกครั้ง มองไปทางสวี่ชิง
ภายใต้การจับจ้องจากผู้คน สวี่ชิงใบหน้าไร้อารมณ์ เอาแผ่นหยกที่เจ้าวังมอบให้ออกมา นี่คือหลักฐาน
“ผ่านไปครึ่งปี ในที่สุดข้าก็ตรวจสอบเสร็จสิ้น คดีนี้นอกจากโหวเหยาแล้ว ก็ยังมีจุดน่าสงสัย คล้ายว่ายังมีฆาตกรอีก แต่เจ้าวังพลีชีพแล้ว ข้าไม่มีคนให้รายงาน ปลัดเขตปกครอง…ข้าสามารถรายงานกับท่านที่นี่ได้หรือไม่ เพื่อมอบความจริงที่มากขึ้นเกี่ยวกับการแตกดับของเจ้าเขตปกครอง ทำให้เผ่ามนุษย์ทุกคนในเขตปกครองผนึกสมุทรกระจ่างในเรื่องนี้ยิ่งขึ้น
“ขอปลัดเขตปกครองชี้แนะ!”
บนพื้น นายกองถอนหายใจ ประกายสีฟ้าดวงตายิ่งวาวโรจน์ เตรียมปลดผนึก
ข่งเสียงหลงตัวสั่นสะท้าน ในดวงตามีเส้นเลือดปรากฏ หันไปมองทางปลัดเขตปกครองทันที
หนิงเหยียนหดศีรษะ แอบกวาดสายตามองค์ชายเจ็ด ลอบถอนหายใจ
ชิงชิวเงียบนิ่ง แต่มือที่ถือเคียวออกแรงเล็กน้อย
และยังมีผู้ครองกระบี่แปลกหน้าคนหนึ่ง แฝงตัวอยู่ในกลุ่มคน เขามองสวี่ชิง สีหน้าฉายแววชื่นชม ยิ่งมีความภาคภูมิใจ แต่ขณะเดียวกันก็มีความจนปัญญา ในดวงตามีประกายแสงสีทองกลุ่มหนึ่งกะพริบวูบแล้วหายลับไป
ข้างล่างแท่นพิธี ในบรรดาผู้บัญชาการเหล่านั้นที่องค์ชายเจ็ดนำมา เสี่ยเหยี่ยนที่เคยรับผิดชอบการเปิดแดนต้องห้ามเซียน สวมหน้ากากคนนั้น ตอนนี้เงยหน้าเล็กน้อย ในดวงตามีประกายฉายวูบ
ทั่วทุกสารทิศเงียบกริบ ทุกคน จากคำพูดของสวี่ชิงล้วนมองไปทางปลัดเขตปกครองอย่างอดไม่ได้ สาเหตุการตายของเจ้าเขตปกครองเป็นความเจ็บปวดของทั้งเขตปกครองผนึกสมุทร
ยิ่งไม่ต้องพูดถึงคำสั่งสุดท้ายของเจ้าวังครองกระบี่
แม้แต่คนธรรมดาในเขตปกครองหลวง ทุกคนที่ได้ยินเรื่องนี้ล้วนเงียบนิ่ง จิตใจประชาชนสั่นคลอน
เทียบกับปลัดเขตปกครองแล้ว สวี่ชิงชื่อเสียงบารมีสู้ไม่ได้
แต่เทียบกับเจ้าวังและเจ้าเขตปกครอง ปลัดเขตปกครองสู้ไม่ได้
บนแท่นพิธี ปลัดเขตปกครองมองสวี่ชิง มองอย่างจริงจัง เหมือนว่าจะทำความรู้จักใหม่อีกครั้ง หลังจากนั้นครู่หนึ่งก็เอ่ยอย่างสงบนิ่งออกมา
“เจ้าว่ามา”