Skip to content

Outside Of Time 534

บทที่ 534 กลับมาจากห้วงบรรพกาล

จากเสียงสะท้อนก้องของคำพูดปลัดเขตปกครอง ผู้บำเพ็ญหลายแสนข้างล่างแท่นพิธีใจเกิดระลอกคลื่นลูกมหึมา ส่วนคนธรรมดาในเขตปกครองหลวงที่มีมากคือความสับสนงุนงง เพราะประวัติศาสตร์หลายๆ เรื่องพวกเขาไม่รู้

สวี่ชิงก็หลังจากที่เป็นผู้ครองกระบี่ ได้เรียนกับปลัดเขตปครองถึงจะได้รู้ประวัติศาสตร์ย่อๆ ของเผ่ามนุษย์

นั่นก็เป็นครั้งแรกของเขาที่ได้เห็นภาพชีวประวัติโดยสังเขปขององค์รัชทายาทรัฐม่วงครามจากในประวัติศาสตร์

ตอนนี้โหวเหยาที่อยู่กลางอากาศ พวกรองเจ้าวังทั้งสามที่อยู่รอบๆ ล้วนสีหน้าเหม่อลอย สายตาที่มองไปทางปลัดเขตปกครองฉายแววซับซ้อน

ฐานะที่แท้จริงของปลัดเขตปกครองทำให้คนนอกคาดไม่ถึง แต่ก็เหมือนว่าจะสมเหตุสมผล

อีกฝ่ายหลายปีมานี้ช่วยเหลือสนับสนุนงานราชการด้วยฐานะปลัดเขตปกครอง อีกทั้งคำสั่งต่างๆ ในช่วงสงครามก็ฉายให้เห็นถึงความคุ้นเคยกับงานดูแลบริหารราชการ

กระทั่งว่านึกย้อนไปอย่างละเอียด การจัดการของปลัดเขตปกครองช่วงสงคราม ทุกอย่างเป็นระเบียบ หากตัดความเหนื่อยล้าที่ฉายออกมาเพื่อการแสดงนั่นทิ้ง ก็จะเห็นถึงความเชี่ยวชาญ

ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการซ่อมแซมและฟื้นฟูหลังสงครามเลย

เรื่องทุกอย่างล้วนอยู่ภายใต้คำสั่งแต่ละคำสั่งๆ ของปลัดเขตปกครอง ดำเนินงานอย่างเหมาะสม

เขาทำได้ดีมากจริงๆ กระทั่งว่าก่อนหน้านี้ในใจของหลายๆ คนยังรู้สึกว่าเขาทำได้ดีกว่าเจ้าเขตปกครองเสียอีก

ความสามารถเช่นนี้ ไม่ใช่ว่าจะมีกันทุกคน นอกจากจะมีความคุ้นเคยกับงานบริหารราชการแล้ว ยังต้องมีมุมมองสถานการณ์โดยรวมของเขตปกครองผนึกสมุทรทั้งเขตอีกด้วย

ดังนั้น คำพูดของปลัดเขตปกครอง สวี่ชิงเชื่อ แต่กลับยังมีข้อสงสัยอื่นอีก อีกฝ่ายไยจึงกลับชาติเกิดได้ สิ่งที่เขาสังเวยคืออะไร

แต่ไม่ว่าจะอย่างไร สิ่งเหล่านี้ล้วนไม่อาจลบล้างความผิดบาปที่ปลัดเขตปกครองกระทำไปได้

ไม่ว่าจะใช้พิษสังหารเจ้าเขตปกครองคนก่อน หรือสร้างความวุ่นวายปั่นป่วนให้เขตปกครองผนึกสมุทร สมคบคิดกับเผ่าคลื่นศักดิ์สิทธิ์ เป็นตัวกลางทำให้เจ้าวังตาย ทุกเรื่องล้วนเป็นหนี้เลือด

ดังนั้นไม่นานนัก จิตสังหารที่มาจากทั่วทั้งเขตปกครองก็พวยพุ่งขึ้นอีกครั้ง

ปลัดเขตปกครองไม่ได้สนใจสายตาสังหารนับไม่ถ้วนรอบๆ และไม่มองพวกโหวเหยา คล้ายว่าตอนนี้ในดวงตาของเขา ทั้งเขตปกครองผนึกสมุทรมีเพียงสวี่ชิง คนที่แต่เดิมเขาไม่สนใจคนนี้เท่านั้น

นายกองที่ยืนอยู่ข้างๆ สวี่ชิงตอนนี้ถอยหลังไปสามสี่ก้าว เขารู้ วันนี้ที่นี่สวี่ชิงถึงจะเป็นเป้าสายตาเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น

“คำตอบที่เจ้าอยากได้ ข้าตอบเจ้าไปแล้ว ส่วนข้าก็มีคำถามข้อหนึ่งอยากถามเจ้าสักหน่อยเช่นกัน”

ปลัดเขตปกครองจ้องสวี่ชิง เอ่ยสงบนิ่ง

“ที่นี่เดิมเป็นดินแดนของข้า ข้าเอาของของข้ากลับคืน ไม่สมเหตุผลหรือ”

สวี่ชิงส่ายหน้า

“ดินแดนของเจ้าล่มสลายไปตามรัฐม่วงครามแล้ว”

พูดจบ สวี่ชิงก็มองไปยังคนหลายแสนข้างล่างแท่นพิธี มองไปทางเขตปกครองหลวงทั้งเขต

“ตอนนี้เขตปกครองผนึกสมุทรเป็นบ้านของทุกคนที่นี่”

คำพูดของเขาดังก้องในฟ้าดิน ในดวงตาของคนนับไม่ถ้วยฉายประกายวาววับ ในใจของคนนับไม่ถ้วนเกิดความคิดเฉกเช่นเดียวกันขึ้นมา

ปลัดเขตปกครองหัวเราะ

“เช่นนั้นทำไมก่อนหน้านี้ถึงมีเจ้าเพียงคนเดียวที่ก้าวออกมา ข้าจำได้ว่าเจ้าไม่ใช่คนเขตปกครองผนึกสมุทร เจ้ามาจากทวีปปักษาสวรรค์ทักษิณ”

สวี่ชิงนิ่งเงียบ เขตปกครองหลวงนิ่งเงียบ ฟ้าดินนิ่งเงียบ

ประโยคนี้ประดุจสายฟ้าผ่าลงมาในใจสวี่ชิง แปรเปลี่ยนเป็นระลอกคลื่นเป็นระลอก จะท่วมจมทุกสิ่ง แต่กลับมีเงาร่างอาบย้อมด้วยเลือดร่างหนึ่ง จะอย่างไรก็ไม่ถูกท่วมจมไป

“มีชายชราคนหนึ่ง ข้าเคารพเลื่อมใสมาก

“เขารบตายแล้ว แต่ในใจของข้า เขายังมีชีวิตอยู่”

สวี่ชิงเอ่ยเสียงเบา

ผู้ครองกระบี่ที่ผ่านสงครามมาอย่างโชกโชนบนพื้นเศร้าโศกเสียใจ พวกเขารู้ว่าคนที่สวี่ชิงพูดหมายถึงใคร เงาร่างของเจ้าวังที่ปกป้องเขตปกครองผนึกสมุทรเอาไว้ก่อนตายอยู่ในสมองของพวกเขา ได้กลายเป็นชั่วนิรันดร์ตั้งนานแล้ว

ภาพที่ผสานไปกับตาข่ายของวิเศษเวทต้องห้าม ค่อยๆ แตกสลายไปในความเย็นยะเยือกทีละนิดๆ เป็นความเจ็บปวดชั่วชีวิตของผู้บำเพ็ญที่รอดมาจากแนวหน้าเขตตะวันตก

โดยเฉพาะปกป้องบ้านของข้าสี่ตัวอักษรนี้ที่กล่าวเอาไว้ก่อนตาย ประทับลึกลงไปในใจของผู้ครองกระบี่ทุกคน

“ง่ายๆ แค่นี้เองหรือ” ปลัดเขตปกครองค่อนข้างประหลาดใจ

“ไม่เช่นนั้นเล่า” น้ำเสียงสวี่ชิงสงบนิ่ง

“ข้าคิดว่าเจ้าจะพูดอะไรมากมาย” ปลัดเขตปกครองหัวเราะ

สวี่ชิงไม่พูดอะไร เงยหน้ามองท้องฟ้า

เงาร่างชายชราในใจคนนั้นชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ

ความจริงยังมีอีกประโยคหนึ่งที่ไม่ได้พูด ชายชราคนนั้นใช้คำพูดการกระทำและการรบตาย ทำให้เขารู้ว่าอะไรถึงจะเป็นผู้ครองกระบี่

ดังนั้นสวี่ชิงจึงสูดลมหายใจลึก เสียงต่ำทุ้ม ดังก้องฟ้าดิน

“ผู้ครองกระบี่ หลักฐานชัดเจน ใต้องค์จักรพรรดิทุกสิ่งสรรพล้วนฟาดฟันทำลายได้”

ประโยคนี้เมื่อดังออกมา ฟ้าดินครืนครันสะท้านเลื่อนลั่น สายฟ้าแต่ละสายๆ วาดผ่านท้องฟ้า จิตสังหารแต่ละกลุ่มๆ พวยพุ่งมาจากเขตปกครองหลวง ข้างล่างแท่นพิธี ผู้ครองกระบี่ที่ผ่านสงครามมาโชกโชนเหล่านั้น ตอนนี้แต่ละคนในดวงตาล้วนแดงก่ำ

พวกเขารู้จักประโยคนี้

วังอาญา วังพิธีการ ผู้บำเพ็ญสองวังนี้แม้จะไม่ได้ทำพิธีสาบานแห่งผู้ครองกระบี่ แต่พวกเขารู้อำนาจและหน้าที่ความรับผิดชอบของวังครองกระบี่

ไม่ใช่แค่พวกเขาที่รู้ คนธรรมดาในเขตปกครองหลวงล้วนรู้เช่นกัน

ตอนนี้ลมพัดแล้ว

ลมแรงกรีดหวีดพัดดังก้องไปทั่วฟ้าดิน คนมากมายมหาศาลเดินออกมาจากบ้านในเขตปกครองหลวง เสื้อผ้าสะบัดดังท่ามกลางสายลม พลังดวงชะตาในร่างพวกเขาล้วนพวยพุ่งขึ้น รวมไปที่สวี่ชิง

เสี้ยวขณะนี้ จิตใจประชาชนเป็นน้ำหนึ่งใจเดียว!

เสี้ยวขณะนี้ ฟ้าดินต่างสั่นคลอน!

เสี้ยวขณะนี้ พลังดวงชะตารวมมาจากทั่วทั้งแปดทิศ รวมมาที่เหนือศีรษะสวี่ชิง แปรเปลี่ยนเป็นกวานเจิดจรัสที่ชัดเจนเป็นอย่างยิ่ง คนธรรมดาก็สามารถมองเห็นได้

น้ำหนักที่กวานสวมลงมา มีพลังดวงชะตาเพิ่มพลัง อสูรสมุทรบรรพกาลในร่างสวี่ชิงคำราม แปรเปลี่ยนเป็นปราณทันที

ปราณนี้เดิมก็เป็นร่างของพลังดวงชะตาอยู่แล้ว หลังจากปรากฏออกมาก็สะท้านสะเทือน ทำให้ฟ้าดินคำรามลั่น คลื่นวนใหญ่ขึ้นกว่าเดิม

นี่ก็คือปราณที่เก้าของสวี่ชิง!

ยิ่งมีประกายแสงพรายรุ้งแผ่มาจากในร่างสวี่ชิง พราวพร่างสาดประกายไปทั่วสารทิศ ก่อร่างเป็นปราณเจ็ดสีท่ามกลางประกายแสง!

ปราณแสงพรายรุ้งทำให้ฟ้าดินอับแสง ประกายแสงหมื่นจั้ง

นี่คือปราณที่สิบ!

ยังไม่จบแค่นั้น ภายใต้การปกคลุมจากพลังดวงชะตา ติงหนึ่งสามสองในร่างสวี่ชิงก็สั่นคลอนเช่นกัน ในนั้นหลอมรวมเป็นมนุษย์จิ๋วคนหนึ่งอย่างรวดเร็ว รูปร่างคล้ายกับเด็กชายตัวน้อยในตอนนั้น แต่หน้าตากลับเป็นสวี่ชิง

การปรากฏขึ้นของมันทำให้ติงหนึ่งสามสองสมบูรณ์ ศีรษะและสิงโตหิน ตลอดจนชายชราเผ่าจิตรกรรมในนั้นต่างจิตใจสั่นสะท้าน คุกเข่าหมอบคารวะปราณที่สิบเอ็ดปราณนี้!

สุดท้าย แม่น้ำแห่งกาลเวลานอกร่างสวี่ชิงก็ชัดเจนขึ้นมาเล็กน้อย ในแม่น้ำสายนี้มีเงาร่างหนึ่งเดินออกมา

เขาเดินมาจากห้วงเวลา ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ บนร่างไม่มีรัศมีความงดงามสง่าอะไรเท่าไร ยิ่งเป็นร่างที่ไร้แสงเจิดจรัส แต่เป็นเด็กตัวน้อยที่เสื้อผ้าอาภรณ์ขาดวิ่น ใบหน้าดวงน้อยสกปรก เหมือนคลานออกมาจากกองศพ

แต่ในดวงตาของเขากลับฉายความแน่วแน่เด็ดเดี่ยว คล้ายว่าชีวิตที่ยกลำบากทุกทนเพียงใด ก็ไม่อาจทำให้เขาก้มศีรษะได้ เขาจะเดินต่อไป เขาจะมีชีวิตต่อไป!

นี่คือปราณที่สิบสองของสวี่ชิง!

ปราณนี้เมื่อปรากฏขึ้น ขุนเขาสายธารร่วมสั่นคลอน ชิงชิวที่อยู่ท่ามกลางคนหลายแสงบนพื้นร่างกายสั่นสะท้านอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน นางลมหายใจหอบถี่ มองปราณนั้น เหม่อลอย

“พี่เด็กน้อย…”

ทุกอย่างนี้สวี่ชิงไม่รู้ เขาในตอนนี้พลังบำเพ็ญทั้งร่างคำรามลั่น พวยพุ่งปะทุ ปราณสี่ปราณที่ก่อกำเนิดขึ้นมาในพริบตาทำให้พลังบำเพ็ญของเขายกระดับขึ้นมหาศาล มาถึงสภาวะที่มีปราณทั้งสิบสองครบสมบูรณ์

ตอนนี้ท้องฟ้าถูกเหนี่ยวนำ ท่ามกลางความรางเลือน สายฟ้าหลอมรวม นั่นคือเคราะห์อัสนี

การปรากฏขึ้นของปราณทั้งสิบสองทำให้เคราะห์สวรรค์ชะตาชีวิตก่อตัวอย่างรวดเร็ว แม้จะไม่เหมาะกับเวลา แต่สุดท้ายก็เกิดขึ้น

ท้องฟ้ามืดมิด ฟ้าแลบทั่วฟ้าวนเวียน คล้ายงูสีเงินนับพันนับหมื่นปรากฏบนท้องฟ้า

ผู้บำเพ็ญหลายแสนบนแท่นพิธีตื่นตะลึง คนธรรมดานับไม่ถ้วนในเขตปกครองหลวงหวาดเกรง

เคราะห์สวรรค์จะฟาดลงมาเต็มที แต่ในเสี้ยวพริบตานี้เอง กวานเขตปกครองผนึกสมุทรเหนือศีรษะสวี่ชิง เด็กชายตัวน้อยในนั้นพลันเงยหน้า คำรามใส่ผืนนภา

“สลายไป!”

ภายใต้เสียงคำรามนี้ ปราณทั้งสิบสองของสวี่ชิงลอยขึ้นฟ้าพร้อมกัน ต่างคำรามไปยังเคราะห์สวรรค์บนท้องฟ้าอย่างพร้อมเพียง

“สลายไป!”

เสียงคำรามรวมกัน ในยามที่สะท้านฟ้าสะเทือนดิน คนหลายแสนข้างล่างแท่นพิธีต่างผสานจิตเป็นหนึ่งเดียว

“สลายไป!”

พลังดวงชะตายอมรับ คนทั้งหลายเพิ่มพลัง สายฟ้าฟาดผ่า เคราะห์สวรรค์แหลกสลาย จำต้องถอย

จากนั้นเคราะห์สวรรค์มหาศาลจะไม่ลงมาเยือนก็ไม่ได้ ปกคลุมปราณทั้งสิบสอง ทำการชำระล้างให้พวกมัน

ในยามที่ชะตาสวรรค์เพิ่มพลัง มือขวาของสวี่ชิงยกขึ้น กำไปข้างหลังเหมือนกำกระบี่ที่มองไม่เห็นเล่นหนึ่ง

“ข้ามีกระบี่เล่มหนึ่ง!”

อักษรสี่ตัวนี้เมื่อดังมา ผู้ครองกระบี่แสนกว่าข้างล่างแท่นพิธี แต่ละคนในดวงตาแดงก่ำ เงาร่างอาบเลือดในความทรงจำของพวกเขาตอนนี้เหมือนปรากฏบนร่างสวี่ชิง ทับซ้อนไปกับเขา

ดังนั้น เสียงคำรามที่แฝงไว้ด้วยความเหี้ยมโหดแต่ละเสียงๆ ก็ดังมาจากปากของพวกเขา

“ข้ามีกระบี่เล่มหนึ่ง!”

“ข้ามีกระบี่เล่มหนึ่ง!”

แสงกระบี่แต่ละทางๆ ปะทุขึ้นมาจากพื้นดิน พุ่งตรงมายังสวี่ชิง รวมมาที่มือของเขา เกิดเป็นกระบี่เล่มหนึ่งอย่างรวดเร็ว

นั่นคือกระบี่จักรพรรดิของผู้ครองกระบี่

กระบี่เล่มนี้ระยิบระยับ เจิดจ้าพร่างพราย

ยังไม่จบแค่นั้น ในบ้านประชาชนหลังหนึ่งในเขตปกครองหลวง ชายชราขาเป๋คนหนึ่งเดินออกมาจากบ้าน เขาสวมเสื้อผ้าเรียบร้อย ในดวงตาฉายจิตต่อสู้แข็งแกร่ง เขาคือมือผี พัศดีเขตปิ่งแห่งกรมราชทัณฑ์!

เขาก็มีกระบี่เล่มหนึ่งเช่นกัน ในตอนที่กรมราชทัณฑ์พังเละ เขาอดทนเอาไว้ เขาบอกสวี่ชิง วันหนึ่งเมื่อหาฆาตกรที่ทำลายกรมราชทัณฑ์ได้ จะต้องบอกเขา

วันนี้ เขารอมานานมากแล้ว

ตอนนี้มือขวาของเขายกขึ้น กำไปข้างหลัง คำรามออกมา

“ข้ามีกระบี่เล่มหนึ่ง!”

คำพูดเขาเมื่อดังออกมาก็พลันชักกระบี่ ทันใดนั้น กระบี่จักรพรรดิที่หล่อเลี้ยงมาแปดร้อยปีก็พวยพุ่งขึ้นท่วมฟ้ามาจากข้างหลัง เกิดเป็นรุ้งยาว สะเทือนสะท้านฟ้าดิน คล้ายว่าไร้ผู้เทียบเทียม พุ่งตรงไปหาสวี่ชิง

เพียงแค่กระบี่นี้ก็สามารถสังการระดับสมบัติวิญญาณ สั่นคลอนหวนสู่อนัตตาได้แล้ว

กระบี่นี้มาถึงในพริบตา หลอมรวมไปในกระบี่จักรพรรดิของสวี่ชิงอย่างรวดเร็ว กระบี่จักรพรรดิในมือเขาขยายขึ้นหลายเท่าในทันที สวี่ชิงแววตาวาวโรจน์ มองไปทางปลัดเขตปกครอง

“ข้ามีกระบี่เล่มหนึ่ง ปกป้องบ้านของข้า!”

กระบี่หนึ่งฟันลงมา!

แสงกระบี่สาดส่องท้องฟ้า ปราณกระบี่ทำลายทุกสิ่ง มาพร้อมด้วยคำสาบานของผู้ครองกระบี่ มาพร้อมด้วยจิตระลึกถึงเจ้าวัง พุ่งตรงไปยังปลัดเขตปกครอง

บนฟ้า นายท่านเจ็ดร่างไหววูบ พุ่งตรงไปหาปลัดเขตปกครอง

โหวเหยาในดวงตาจิตสังหารปะทุขึ้น แสงเลือดท่วมฟ้า พุ่งออกไปเช่นกัน

ชิงฉินก็คำรามขึ้นมาทีหนึ่ง พุ่งออกไปเช่นกัน

แล้วยังมีรองเจ้าวังทั้งสามวัง ผู้ดูแล และผู้บำเพ็ญวังอาญาตลอดจนผู้บำเพ็ญวังพิธีการ พลังบำเพ็ญทั้งหมดปะทุขึ้น โจมตีปลัดเขตปกครอง

โจมตีด้วยพลังทั้งหมด แข็งแกร่งไม่อาจต้านทาน

ปลัดเขตปกครองหลุบตา ไม่ได้หลบหลีก

คล้ายว่าพ่ายแพ้แล้ว!

บ่าวชราของเขาที่อยู่ห่างไปไม่ไกล ตอนนี้หน้าเปลี่ยนสี ถอยหลังไปอย่างรวดเร็ว แต่ภายใต้พลังจากทั่วสารทิศเช่นนี้ เขาไม่มีสิทธิ์หลบ

แสงกระบี่สะท้อนวูบ หัวของบ่าวชรากระเด็น ร่างระเบิดแหลก ในยามที่เลือดเนื้อสาดกระเซ็นไปทั่ว ใบหน้าของหัวที่ลอยกระเด็น เหมือนน้ำแข็งหิมะละลาย เผยให้เห็นโฉมหน้าที่แท้จริง

เป็นนกเขาราตรี!

ไม่ใช่แค่เขา คนของปลัดเขตปกครองทั้งหมดที่อยู่รอบๆ ยากจะหนีความตาย ทั้งหมดต่างร่างกายและจิตวิญญาณสลายสิ้น พลังทั้งหมดโจมตีไปยังปลัดเขตปกครอง

ปลัดเขตปกครองยืนอยู่กลางอากาศ ไม่หลบหลีกแม้แต่น้อย เพียงแค่ในเสี้ยวพริบตาที่พลังทำลายล้างฟ้าดินนี้ซัดลงมา เขาเงยหน้าขึ้น มองสวี่ชิงที่อยู่หลังแสงกระบี่ จากนั้นก็หลับตาลง

เสี้ยวขณะต่อมา แสงกระบี่ที่รวมพลังจากคนทั้งหลาย แฝงด้วยเจตจำนงตั้งมั่นของทั้งเขตปกครอง มาพร้อมด้วยอำนาจแห่งพลังดวงชะตาก็ประชิดเข้ามาทันที

เพียงพริบตาก็ซัดไปบนร่างปลัดเขตปกครอง

ปลัดเขตปกครองร่างสะท้านเฮือก สีหน้าฉายความเจ็บปวด ผมกลายเป็นเถ้าธุลีอันดับแรก ส่วนเสื้อผ้าและเลือดเนื้อเพียงพริบตาก็หลอมเข้าด้วยกัน ร่างถูกพลังภายนอกบดขยี้ ยุบลงไปอย่างเลี่ยงไม่ได้

เลือดเนื้อถูกทำลายไปในทันที หน้าอกยิ่งเห็นชัด มองเห็นกระดูกซี่โครง อีกทั้งยังไม่อาจทนรับได้ จากแวววาวเปลี่ยนมาหยาบกร้าน กลายเป็นผุยผงโปรยปรายปกคลุมอวัยวะภายใน

เหตุการณ์นี้ล้วนเกิดขึ้นเพียงแค่ชั่วเสี้ยวพริบตาเท่านั้น

เพียงพริบตาร่างของปลัดเขตปกครองก็ไม่เหลือเป็นคนแล้ว ขาทั้งสองของเขาก็เช่นกัน เลือดเนื้อหายไปสิ้น กระดูกแหลกละเอียด จวบจนตัวเริ่มสลาย แขนขาหายไปจนหมด

มีเพียงกระดูกสันหลังที่เชื่อมกับศีรษะ

ท่ามกลางความสยดสยอง กระดูกสันหลังก็ไม่อาจทนไหว สลายไปอย่างเห็นได้ดด้วยตาเปล่า จากนั้นก็แผ่ระลอกไปถึงศีรษะ

ใบหน้าครึ่งหนึ่งหายไปในฟ้าดิน

แต่จู่ๆ กลับมีประกายแสงสีทองกลุ่มหนึ่งทอแสงออกมาจากใบหน้าอีกครึ่ง ปกคลุมใบหน้าทั้งหมดอย่างรวดเร็ว คล้ายว่าเป็นหน้ากากไม่สมบูรณ์สีทองอันหนึ่ง

แสงนี้เจิดจ้าพร่างพราย แข็งแกร่งไม่อาจทำลายได้

โหวเหยาและชิงฉิน ยังมีนายท่านเจ็ดตลอดจนผู้บำเพ็ญทั้งหมดที่นี่ รวมถึงสวี่ชิง พลังกระบี่นี้ ในเสี้ยวพริบตานี้หยุดอยู่หน้าเสี้ยวหน้า

ไม่ว่าจะปะทุอย่างไรก็ไม่อาจทำลายมันได้แม้เพียงเล็กน้อย

มองไกลๆ เสี้ยวหน้าสีทองหลับตากลางท้องฟ้า ทำให้คนรู้สึกคุ้นไปตามสัญชาตญาณ ในยามที่เกิดระลอกคลื่นในใจของทุกคน เสี้ยวหน้าของปลัดเขตปกครองก็ลืมตาขึ้น

สายตาจับจ้องมาที่เมืองหลวงเขตปกครอง

เพียงพริบตาฟ้าดินเปลี่ยนสี ทั่วสารทิศเมฆซัดโหม พลังดวงชะตาร้องคร่ำครวญ มนุษย์ธรรมดาน้ำตาไหลเป็นเลือด

ไอพลังประหลาดมหาศาลลงมาเยือนท่วมฟ้าในเสี้ยวพริบตานี้ บนต้นไม้ใบหญ้า บนตัวคน บนสิ่งก่อสร้าง จากทั่วทุกพื้นที่ พวยพุ่งขึ้นมาจากทุกสิ่ง!

ท้องฟ้าหมองมัว พื้นดินบิดเบี้ยว

ประดุจวันสิ้นโลกมาเยือน

ภาพคุ้นเคยนี้ทำให้ทุกคนต่างจำได้ ต้นกำเนิดพลังที่คุ้นเคยจากเสี้ยวหน้าปลัดเขตปกครองที่ลอยอยู่บนกลางท้องฟ้า…เขากับเสี้ยวหน้าเทพเจ้าบนท้องฟ้า ในด้านบาดแผล ด้านลักษณะรูปร่าง เหมือนกันไม่ผิดเพี้ยน!

นอกจากหน้าตาที่ไม่เหมือน สิ่งอื่นที่เห็นไม่มีอะไรแตกต่าง

ผู้บำเพ็ญหลายแสนต่างหวาดกลัว ประชาชนคนธรรมดาในเมืองหลวงเขตปกครองต่างกรีดร้องเสียงหลง

ท้องฟ้าเดือดพล่าน หมอกเมฆแผ่ไปทั่วทุกทิศเลื่อนลั่น เหมือนมีมือเทพเจ้าที่มองไม่เห็นคู่หนึ่งแหวกม่านฟ้า เผยให้เห็นขอบฟ้าสลัว และเผยให้เห็นเสี้ยวหน้าเทพเจ้าที่คงอยู่มาตลอดหลังจากยุคจักรพรรดิโบราณเสวียนโยวบนท้องฟ้านั่น

ผมขององค์ท่านห้อยลงมาตามธรรมชาติ ขนาดขององค์ท่านใหญ่กว่าดวงตะวันจันทรา

องค์ท่านลอยอยู่นอกแผ่นดินใหญ่ต้องประสงค์ สรรพชีวิตในแผ่นดินใหญ่ต้องประสงค์เงยหน้าก็มองเห็น

บางทีอาจเป็นเพราะมองเห็นอยู่ตลอด ดังนั้นหลายครั้งผู้คนก็ชินกับองค์ท่านแล้ว แต่ในเสี้ยวขณะนี้ สรรพชีวิตทั้งหลายจำต้องเงยหน้า ท่ามความเจ็บปวดนี้ มองไปที่องค์ท่าน

เปลือกตาขององค์ท่านขยับเล็กน้อย แต่สุดท้ายก็ยังไม่ลืมตาขึ้นมา

แต่ข้างล่างองค์ท่าน การลืมตาของเสี้ยวหน้าปลัดเขตปกครองกลางท้องฟ้าก็ยังคงสั่นคลอนฟ้าดินได้

ตอนนั้นองค์รัชทายาทม่วงครามก็แค่เปิดกล่องใบหนึ่งที่พันธมิตรแปดสำนักเท่านั้น

แค่ตอนนี้ สายตาที่ปรากฏในเมืองหลวงเขตปกครองน่ากลัวว่ากล่องในตอนนั้นเสียอีก

ฟ้าดินบิดเบี้ยว สรรพสิ่งรางเลือน เสียงร้องคร่ำครวญดังก้องท้องฟ้าทั่วสารทิศ สายตาของเสี้ยวหน้าปลัดเขตปกครองมองไปทางโหวเหยา

ร่างของโหวเหยาสั่นสะท้านบ้าคลั่ง เหนือศีรษะมีดอกไม้สามสีปรากฏขึ้นมา บนดอกไม้ทั้งสามดอกมีเงาร่างของโหวนภานั่งอยู่ แต่เหมือนว่าสายเลือดของโหวเหยาไม่บริสุทธิ์ จึงเป็นเหตุให้เงาไม่สมบูรณ์ ยากจะก่อร่างขึ้นมาได้สมบูรณ์ หลังจากที่สลายไปในฟ้าดิน ดอกไม้สามสีก็ถูกทำลายไปสองดอก

เหลือเพียงหนึ่งดอกแต่ก็เหี่ยวแห้งไป คุณสมบัติสายเลือดไม่พอ จึงถูกลงโทษ

ท่ามกลางเสียงระเบิดดังสนั่น โหวเหยากระอักเลือด บาดเจ็บสาหัสถอยหลัง ปากคำรามเสียงต่ำ

“เจ้าสังเวยตัวเองให้เป็นสมบัติดินแดนครึ่งชิ้นหรือนี่!”

เสี้ยวหน้าปลัดเขตปกครองไม่มีการเปลี่ยนแปลงสีหน้าใดๆ ทั้งสิ้น มองไปทางชิงฉิน

ชิงฉินส่งเสียงร้องโหยหวน ร่างรางเลือน ข้างหลังมีเงาบรรพกาลพวยพุ่งออกมา คล้ายว่ากลืนกินฟ้าดินได้ สายเลือดแม้บริสุทธิ์ แต่คุณสมบัติสายเลือดก็ยังไม่พอ

จากนั้น สายตาของเสี้ยวหน้าปลัดเขตปกครองมองไปที่นายท่านเจ็ด

ข้างหลังนายท่านเจ็ดมีมือหยกขาวปรากฏขึ้น ท่ามกลางแสงพร่างพรายระยิบระยับ มีเค้าว่ามีต้นกำเนิดพลังเดียวกับเสี้ยวหน้าปลัดเขตปกครอง ละเว้นการพิพากษาคุณสมบัติกายได้ แต่พลังบำเพ็ญไม่พอ ตอนนี้ทวารทั้งเจ็ดเลือดรินหลั่งเช่นกัน ขณะที่จำต้องถอย เขาจ้องปลัดเขตปกครอง

‘ก่อนหน้านี้ข้ายังสงสัย จื่อชิงกลับชาติเกิดเพราะเก่งกาจเลิศล้ำ แต่เจ้าไป๋เซียวจัวไยจึงทำได้เช่นกัน ทว่าตอนนี้ข้ารู้แล้วว่าไยจึงกลับชาติเกิดได้ เจ้า ช่างใจกล้านัก!’

ปลัดเขตปกครองเงียบนิ่ง สายตากวาดมองรองเจ้าวังทั้งสาม ทั้งสามวิญญาณฉีกบาดเจ็บสาหัส กวาดตามองผู้ดูแลทั้งสามวังต่างร่างกายเป็นสีดำคล้ำ เริ่มกลายพันธุ์

มิติทั้งหมดถูกควบคุมเอาไว้จนสิ้น

ส่วนบนพื้น จะผู้บำเพ็ญก็ดี หรือจะเป็นคนธรรมดาก็ดี ล้วนเจ็บปวดร้องครวญคราง

ทั้งเขตปกครองกำลังผลิกผัน เริ่มแปรเปลี่ยนเป็นพื้นที่ต้องห้าม

ฝนเลือดมาพร้อมด้วยเสียงสายฟ้าฟาดครืนครัน ซัดสาดมายังผืนดิน ทำให้เมืองหลวงเขตปกครองอยู่ท่ามกลางสายฝน ยิ่งเมื่อสาดไปบนรูปสลักจักรพรรดิโบราณเสวียนโยวแล้วไหลจากหน้าผากไปยังหางตา ราวกับน้ำตาเลือด

หากเขาลืมตาได้ เช่นนั้นตอนนี้พื้นที่เมืองหลวงเขตปกครองที่เห็นประดุจเมืองผี

ต้นกำเนิดทุกอย่างคือเสี้ยวหน้าปลัดเขตปกครอง

ส่วนหุ่นเชิดสองตัวที่ปลัดเขตปกครองเอาออกมาก่อนหน้านี้ ตอนนี้เศษเสี้ยววิญญาณในนั้นหายไปแล้ว พวกมันไม่ได้รับอิทธิพลอีกต่อไป ฟื้นฟูความเคลื่อนไหว ทำตามคำสั่งที่มีแต่เดิม พุ่งตรงไปหานายท่านเจ็ด โหวเหยาและชิงฉิน

และการเปียกปอนฝนเลือดก็เผยให้เห็นวัตถุที่แต่เดิมมีอยู่ในตัวพวกมันแต่คนอื่นมองไม่เห็นออกมา นั่นเป็นแสงแต่ละทางๆ ที่ส่องออกมาจากรอยเย็บบนร่างพวกมัน

ในตัวพวกมันต่างมีกล่องใบหนึ่ง

เหมือนฉู่เทียนฉวิน หุ่นเชิดที่ถูกปรับเปลี่ยนสองตัวนี้ความจริงแล้วก็คือร่างทดสอบเทพเจ้าเหมือนกัน อีกทั้งยังเห็นได้ชัดว่าพัฒนาขึ้นไปอีก

หากบอกว่าไป๋ลี่เป็นร่างทดสอบเทพเจ้ารุ่นแรก เซิ่งอวิ๋นผู้ปราดเปรื่องเป็นร่างทดสอบเทพเจ้ารุ่นที่สอง ฉู่เทียนฉวินเป็นรุ่นสองที่สมบูรณ์ เช่นนั้นหุ่นเชิดสองตัวนี้ก็คือรุ่นที่สาม!

นี่ก็เป็นเหตุผลที่พวกมันมีพลังบำเพ็ญระดับหวนสู่อนัตตาขั้นสามบริบูรณ์แต่กลับปะทุกำลังรบได้เทียบเท่ากับขั้นสี่ แต่พวกมันยังไม่สามารถสร้างโลกใบใหญ่ได้ มีเพียงโลกใบเล็กนับไม่ถ้วนเท่านั้น

จุดนี้ ก่อนหน้านี้ที่หุ่นเชิดตัวแรกโจมตีชิงฉินนายท่านเจ็ดก็ค้นพบแล้ว

ตอนนี้จากสายตาที่กวาดมองของปลัดเขตปกครอง เสียงระเบิดสังหารดังก้องท้องห้าอีกครั้ง

แผ่นดินมืดมิด สวี่ชิงยืนเงียบๆ อยู่ตรงนั้น เขาเห็นความอเนจอนาถน่าสังเวชรอบๆ ได้ยินเสียงโหยหวนครวญครางของสรรพชีวิต โลกในดวงตาของเขารางเลือนไปหมด ทุกคนล้วนกำลังเจ็บปวดทรมาน

ประกายไฟสามารถเผาไหม้ป่าดงพงไพรได้ แต่ฝนเลือดก็ดับมันมอดสนิท

เหมือนว่าเมื่ออุดมการณ์อยู่ต่อหน้าพลังก็กลายเป็นแค่เรื่องตลก

มีเพียงนายกอง บนร่างสาดกะพริบแสงสีฟ้า ตอนนี้หันมามองสวี่ชิงด้วยความหมายล้ำลึกแวบหนึ่ง คล้ายว่าจะอำลา

กำลังจะเดินออกไป

“ศิษย์พี่ใหญ่ นี่เป็นเรื่องของข้า หากท่านตายไป ต่อให้ข้ามีชีวิตรอดไปได้ก็จะเคียดแค้นเสียใจไปตลอดชีวิต”

สวี่ชิงกดไหล่นายกอง ลงน้ำหนักลงมามาก จากนั้นก็มองดวงตานายกอง เอ่ยเสียงเบา

นายกองเงียบนิ่ง ในยามที่ดวงตาทั้งสองหลุบลงเล็กน้อย พลังพระจันทร์สีม่วงในร่างสวี่ชิงก็พวยพุ่ง ลูกกลอนพิษต้องห้ามปะทุ พลังติงหนึ่งสามสองโหมทะลัก เงาเขาจักรพรรดิภูตปรากฏข้างหลัง

จากนั้นเขาก็ถอนหายใจเบาๆ ในใจ

ผู้เจาะทะลวงผืนฟ้า ย่อมต้องแบกรับน้ำหนักของมัน เพียงแต่น้ำหนักนี้หนักหน่วงสาหัสนัก

สวี่ชิงเดินไปเงียบๆ ร่างจากขนาดคนปกติขยายขึ้นทันทีจนถึงหนึ่งจั้งกว่าๆ แบกไอพลังประหลาดที่เข้มข้นที่นี่ เงยหน้ามองเสี้ยวหน้าปลัดเขตปกครองกลางท้องฟ้า

ดวงตาของปลัดเขตปกครองจ้องมองสวี่ชิง เสียงจิตเทพดังก้องไปทั่วทิศ

“สวี่ชิง เจ้ารู้หรือไม่ ที่นี่…คือที่ที่ข้าตายในตอนนั้น หลังจากองค์รัชทายาทแตกดับที่ทวีปทักษิณ ข้าก็อยู่ที่นี่มองเสี้ยวหน้าเทพเจ้าบนท้องฟ้าพลางคว้านเลือดเนื้อตัวเองทีละนิดๆ เปลี่ยนให้ตัวข้ามีรูปร่างหน้าตาเหมือนองค์ท่าน

“ข้าขอให้ได้พบกับนายของข้าอีกในอนาคต

“สวี่ชิง ก่อนหน้านี้เจ้าบอกว่าข้าไม่ควรค่าที่จะติดตามนายของข้า เจ้าพูดได้ถูกต้อง ตอนนั้นก็มีคนพูดแบบนี้เช่นกัน มากมายหลายคนนัก

“ดังนั้น เมื่อเผชิญหน้ากับการโจมตีของพวกเจ้าเมื่อครู่จึงไม่ได้หลบหลีก ใช้มันลงทัณฑ์หัวใจของข้า

“แต่แผนการของข้าก็ยังต้องทำให้สำเร็จ ข้ายังไปไม่ได้ ดังนั้นข้าเลือกที่จะเปิดเผยร่างเดิมที่เทพเจ้ามอบให้ออกมา เป็นฝ่ายทำให้กลิ่นอายของแผ่นดินใหญ่ต้องประสงค์แปดเปื้อน ไม่บริสุทธิ์อีกต่อไป ทำให้ข้าที่ไม่มีอดีต ปัจจุบันและอนาคต ไม่มีความเป็นไปได้ที่จะกลับชาติเกิดอีกต่อไป กำหนดให้สภาวะหยุดนิ่ง

“นับจากนี้ เสี้ยวขณะก่อนหน้านี้คืออดีตของข้า ตอนนี้เป็นปัจจุบันของข้า เสี้ยวพริบตาต่อไปคืออนาคตของข้า

“ข้าไป๋เซียวจัวน้อยนักที่จะอธิบายคนอื่นมากมายเช่นนี้ แต่ข้าคิดว่าเจ้าควรค่า”

ปลัดเขตปกครองเอ่ยเสียงเบา จากนั้นสายตาก็มองไปทางเมืองหลวงเขตปกครอง

“น่าเสียดายที่ไม่ถึงเวลาที่เหมาะสมที่สุด สุดท้ายข้าก็ไม่ได้เป็นเจ้าเขตปกครอง ไม่มีการเพิ่มพลังจากพลังดวงชะตาเขตปกครองผนึกสมุทร นี่ทำให้หลายๆ เรื่องของข้า…ทำได้เพียงฝืนผลักดัน เฮ้อ”

ปลัดเขตปกครองถอนหายใจ ปกปิดหลอกลวงคนทั้งหลาย ทำให้ตัวเองได้รับการยอมรับจากฟ้า ดิน มนุษย์ กลายเป็นเจ้าเขตปกครอง ได้รับการเพิ่มพลังจากพลังดวงชะตาเขตปกครองผนึกสมุทร นี่คือสิ่งที่เขาเฝ้าปรารถนา

เพราะในแผนการของเขา การช่วยเหลือเผ่ามนุษย์ของตนก่อนหน้านี้ทำให้พลังดวงชะตาเผ่ามนุษย์เปลี่ยนจากต่ำเตี้ยเรี่ยดินมาสมบูรณ์พอกพูน ในเมื่อเป็นการขยายดินแดน ในเมื่อเผ่าคลื่นศักดิ์สิทธิ์กลับคืนมา

เช่นนี้เขาก็จะสามารถใช้พลังดวงชะตาเขตปกครองผนึกสมุทรไปเหนี่ยวนำพลังดวงชะตาเผ่ามนุษย์ได้มากขึ้น

นี่เป็นขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในแผนการของเขา

แต่ตอนนี้เขาล้มเหลวแล้ว

“สวี่ชิง ความจริงเจ้าทำสำเร็จแล้ว ต่อให้ข้าฆ่าทุกคนที่อยู่ที่นี่ก็ยังยากที่จะทำแผนการให้สำเร็จได้อย่างสมบูรณ์แบบ ทำได้แค่ฝืนผลักดันเท่านั้น

“เจ้าทำให้ข้าจำต้องเด็ดผลเก็บเกี่ยวในตอนที่ยังไม่สุกงอม ทำลายแผนการมากมายของข้าและทำให้ประชาชนของข้าไม่เชื่อใจข้า”

สวี่ชิงเงียบนิ่ง เขามองออกแล้ว ปลัดเขตปกครองอยากพูด

“ตอนนั้นข้าสังเวยตัวเองให้เทพเจ้าคิดจะลองแลกโอกาสที่จะได้ติดตามองค์รัชทายาท เทพเจ้าไม่สนใจ ดังนั้นข้าจึงยินดีเปลี่ยนตัวเองให้เป็นของวิเศษเวท ยอมทิ้งวิญญาณและทุกสิ่งทุกอย่าง เทพเจ้าก็ยังไม่สนใจเช่นเดิม

“ข้าไม่รู้ว่าเทพเจ้าอยากได้อะไร สุดท้ายในตอนที่รัฐม่วงครามล่มสลาย ข้าก็รู้แล้วว่าองค์ท่านต้องการอะไร ดังนั้นข้าจึงสังหารประชาชนในเขตปกครองของข้าทั้งน้ำตา ไม่ว่าจะเป็นผู้บำเพ็ญ คนธรรมดา ไม่ว่าจะเป็นคนแก่หรือเด็ก พวกเขาล้วนไม่ขัดขืน ปล่อยให้ข้าลงมือ หลังจากข้าผู้คนทั้งเขตปกครองแล้ว ในที่สุดองค์ท่านก็พยักหน้า

“ตอนนั้นข้าสัญญากับประชาชนที่ข้าลงมือฆ่าว่าข้าจะพาพวกเขากลับมาด้วยกัน

“ตอนนี้ ประชาชนของข้า พวกเจ้าจงกลับมาจากดินแดนกาฬกาลกิณีเถิด”

เสียงของเขาแฝงไว้ด้วยกาลเวลา เหมือนดังมาจากหลายหมื่นปีก่อน ลอยข้ามแม่น้ำแห่งกาลเวลามา ดังก้องฟ้าดินในเสี้ยวขณะนี้

ในฝนเลือด ในไอพลังประหลาด สรรพชีวิตทั้งหลายใจเมืองหลวงเขตปกครอง ทุกคนล้วนตัวสั่นงันงก สีหน้าเปลี่ยนจากความเจ็บปวดเป็นชินชา ศีรษะของทุกคนล้วนมีพลังชีวิตลอยขึ้น มาพร้อมด้วยพลังดวงชะตาเป็นเส้นๆ ถูกบังคับดึงออกมา

ร่างของพวกเขาเริ่มเหี่ยวแห้ง ผิวของพวกเขาเริ่มยุบลงไป แต่พวกเขายังไม่ตาย

ไม่ใช่แค่เผ่ามนุษย์เท่านั้น ตอนนี้ ขุนเขาแม่น้ำในเมืองหลวงเขตปกครองสั่นคลอน จากบนพื้นดิน จากในแม่น้ำ จากในต้นไม้ใบหญ้า จากในยอดเขา

พลังชีวิตและพลังดวงชะตามหาศาลลอยขึ้นไม่ขาดสาย ถูกบังคับดึงออกมา รวมไปที่เมืองหลวงเขตปกครอง

ขณะเดียวกัน สิบสามมณฑลในเขตปกครองผนึกสมุทรนอกจากสามมณฑลที่สูญเสียไปและมณฑลที่ถูกเผาไหม้ ขั้วอำนาจสำนักที่เหลือเหล่านั้น ดินแดนแต่ละเผ่าล้วนสั่นคลอน

มณฑลรับเสด็จราชันก็เช่นกัน

ทั้งเขตปกครองผนึกสมุทร ขณะที่พื้นดินสั่นไหว เทือกเขาแต่ละลูกที่ก่อตัวขึ้นในยุคหลังต่างถล่ม ภูเขาบรรพกาลที่หายไปในห้วงกาลเวลาแต่ละลูกๆ ทะลวงผุดขึ้นมา

จากรัฐม่วงครามจนถึงปัจจุบัน หลายหมื่นปีผ่านไป ลักษณะทางภูมิประเทศของเขตปกครองปกสมุทรทั้งเขตเปลี่ยนไปอย่างมหาศาล แต่ไม่ว่าจะเปลี่ยนไปมาแค่ไหน ตอนนี้ล้วนหมุนย้อนคืน

ลักษณะทางภูมิประเทศของรัฐม่วงครามกำลังปรากฏขึ้นอีกครั้ง

แม่น้ำแต่ละสายเกิดขึ้น เทือกเขาแต่ละเทือกเขาผุดขึ้น หากตอนนี้ยืนอยู่บนตำแหน่งที่สูงสุดแล้วก้มมองดูเขตปกครองผนึกสมุทรทั้งเขต เช่นนั้นก็จะพบว่าเทือกเขาที่กลับมาจากบรรพกาลจับกลุ่มเป็นอักขระที่มีขนาดใหญ่มหึมาอักขระหนึ่ง

จากอักขระที่ค่อยๆ สมบูรณ์ ในยามที่ในใจของสรรพชีวิตในเขตปกครองผนึกสมุทรทั้งหมดในใจเกิดระลอกคลื่นท่วมฟ้า ก็มีหนามเทพเจ้าที่เหมือนกระดูกปลาขนาดใหญ่มหึมาสามอันพุ่งขึ้นมากจากเขตปกครองผนึกสมุทรสามตำแหน่ง ตรงดิ่งไปบนท้องฟ้า

หลังจากแทงไปในม่านฟ้า ก็แผ่ระลอกคลื่นออกมาปกคลุมไปทั่วทั้งผืนฟ้าเขตปกครองผนึกสมุทร กลายเป็นม่านฟ้าชั้นที่สอง

ม่านฟ้านี้เหมือนภาพวาดภาพหนึ่ง

โลกในภาพวาดไม่ใช่แผ่นดินใหญ่ต้องประสงค์ แต่เป็นความมืดมิดไปทั้งหมด

กลิ่นอายที่คุ้นเคยทำให้สวี่ชิงจำได้ทันที โลกในภายวาดนั่นคือดินแดนที่เรียกวิญญาณร้ายมาในเสี้ยวพริบตาที่ผู้บำเพ็ญทุกคนกำลังสร้างฐาน

การสร้างฐานต้องมีตะเกียงแห่งชีวิตลอกเลียนแบบคุ้มกัน มีเพียงแสงไฟเท่านั้นจึงจะปกป้องตัวเองได้ สร้างฐานที่ไม่มีการคุ้มครอง จะชักนำสิ่งที่น่ากลัวมา

นี่เป็นสิ่งที่ผู้บำเพ็ญทุกคนก่อนที่จะสร้างฐานล้วนได้รับการบอกกล่าว

แต่ไม่มีใครรู้ว่าโลกใบนั้นคืออะไร

ตอนนั้นเจ้าใบ้น้อยเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นตอนสร้างฐาน ถูกวิญญาณยึดร่าง ภายหลังสวี่ชิงช่วยเอาไว้

และตอนนี้สวี่ชิงรู้แล้วว่า โลกใบนั้นชื่อว่าดินแดนกาฬกาลกิณี

ซึ่งก็เป็นดินแดนที่ชื่อหมู่มุ่งหน้าไป!

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!