Skip to content

Outside Of Time 945

Outside of Time
BC

บทที่ 945 ก้าวแรกสำเร็จ

หลังจากแปรเปลี่ยนเป็นพรางมารยา มือขวาของสวี่ชิงโปร่งแสง แต่ในนั้นกลับมีเลือด 5 หยด จับกลุ่มเป็นรูป 5 เหลี่ยม

C

ต่อให้แปรเปลี่ยนเป็นพรางมารยาชิงมรรคา ก็ไม่อาจเก็บซ่อนเลือด 5 หยดนี้ได้

เห็นได้ถึงความไม่ธรรมดาของเลือดนี้

บนแท่นบูชา ทันทีที่มือขวาของสวี่ชิงคว้าไป ตะเกียงดำจื่อเสวียนก็สั่นสะท้านขึ้นมา แล้วลอยไปบนท้องฟ้า จะลอยไปหาสวี่ชิงทางนั้น

แต่ในตอนนี้เอง โลงศพทั้ง 5 ที่อยู่รอบๆ ก็พลันสั่นไหวขึ้นมา แต่ละโลงต่างแผ่กลิ่นอายสายเลือดราชวงศ์ ผสานกับเปลวเพลิงที่นี่ แปรเปลี่ยนเป็นมือใหญ่มหึมาสีทองข้างหนึ่ง

คว้าไปทางตะเกียงดำจื่อเสวียนที่ลอยอยู่บนฟ้าอย่างเต็มแรง

ในขณะเดียวกัน ก็ยังมีเสียงคำรามที่ไม่เหมือนเสียงมนุษย์ดังเป็นระลอกๆ ออกมาจากในโลง ฝาโลงสั่นคลอนเช่นกัน เหมือนว่าจะถูกเปิดออก

นอกจากนั้นพลังเปลวเพลิงก็ปะทุขึ้นอย่างรุนแรงยิ่งกว่าเดิมในพริบตา

อุณหภูมิสูงน่าหวาดหวั่น ตลอดจนกลิ่นอายเทพเจ้าที่สามารถสยบควบคุมวิญญาณได้ ทำให้มือขวากึ่งโปร่งแสงที่ผ่านการแปลงพรางมารยาชิงมรรคาของสวี่ชิงลุกไหม้ทันที

เกราะมหาขุนพลฟ้าทมิฬและกายเนื้อเทพเจ้าเมื่ออยู่ภายใต้อุณหภูมิสูงก็ยากที่จะทนไหว เพียงพริบตา มือขวาของเขาก็กลายเป็นธุลีอย่างเห็นได้ด้วยตาเปล่า

มีเพียงอำนาจเทพเจ้าในร่างของเขาที่ยังสามารถยืนหยัดได้เล็กน้อย แต่กลับไม่สามารถเปลี่ยนแปลงระดับการสูญสลายในตอนนี้ของมือข้างขวาได้

เห็นมือขวาของตัวเองจะสูญสลายราวแมลงบินเข้ากองไฟเช่นนี้ สวี่ชิงไม่ลังเลแม้แต่น้อย ไม่ลดความเร็วลงแม้เพียงนิดเดียว เลือด 5 หยดที่อยู่ในแขนอันแหว่งวิ่นนั่น ถูกเขากระตุ้นออกมา

ท่ามกลางการเผาไหม้ของเปลวเพลิง เลือด 5 หยดนี้ก็หยดไปยังโลงศพทั้ง 5 บนแท่นบูชา

ระลอกคลื่นพลังสายเลือดราชวงศ์ที่บริสุทธิ์ยิ่งกว่า เก่าแก่ยิ่งกว่า ปะทุออกมาจากในเลือดทั้ง 5 หยดนี้

ก่อเป็นการสยบควบคุมทางสายเลือด!

มือใหญ่มหึมาสีทองที่ก่อขึ้นจากกลิ่นอายโลงศพ ในเสี้ยวขณะนี้ไม่อาจขัดขวางได้อีกต่อไป ถูกเลือด 5 หยดพุ่งทะลุผ่าน เสี้ยวขณะต่อมา ก็หยดไปบนโลงแต่ละโลง

ในพริบตาที่หยดลงไป โลงที่สั่นคลอนอยู่ตลอดทั้ง 5 นั่นก็พลันหยุดนิ่ง เสียงคำรามในนั้นก็หายไปในทันที เงียบสงบลง

ขณะเดียวกัน มือใหญ่สีทองที่เกิดขึ้นจากกลิ่นอายของพวกมันก็ชะงักค้างกลางอากาศ

ส่วนสวี่ชิงทางนั้นตอนนี้มือขวาที่สูญสลายไปกว่าครึ่งก็คว้าไปยังตะเกียงดำจื่อเสวียนที่ลอยมาเอาไว้ได้แล้ว!

แล้วกระชากออกมาข้างนอก

ตะเกียงดวงนี้ ในที่สุดก็ลอยออกมาจากรอยแยก

ทันทีที่ลอยออกมาจากแท่นบูชา การสั่นสะเทือนของโลกทั้ง 5 ก็ไม่เกิดขึ้นอีก เสียงคำรามก็เช่นกัน ความเจ็บใจไม่ยอมจำนนท่วมท้นอยู่ข้างในรุนแรงจนถึงขีดสุด

แต่เลือด 5 หยดที่หยดไปบนนั้น ในตอนนี้กะพริบวูบวาบ ทำการสยบควบคุมอีกครั้ง

ในขณะเดียวกัน มือขวาสวี่ชิงก็กลายเป็นเถ้าธุลี แต่มือซ้ายพลันยกขึ้น คว้าไปยังตะเกียงที่ถูกนำออกมา ร่างถอยไปอย่างรวดเร็ว

ทุกอย่างนี้พูดแล้วเหมือนเป็นเวลานาน แต่ความจริงแล้ว จากสวี่ชิงคว้าเอามา พุ่งเข้าไปในกองเพลิง บินทะยานอย่างรวดเร็วตอนนี้ ล้วนเกิดขึ้นในเสี้ยวพริบตา

เจ้าเงาทางนั้นสุดท้ายก็ทนไม่ไหว หมองหม่นลงไปอย่างรวดเร็ว แล้วแตกทลายกลายเป็นรอยเงานับไม่ถ้วนกระจายมา

ส่วนเถาวัลย์เทพก็มาถึงขีดจำกัดสูงสุดของตัวเองเช่นกัน เหี่ยวแห้งไปกว่าครึ่งถอยหลังไป

ดังนั้นพลังเหนี่ยวรั้งสลายไป เปลวเพลิงจากสภาวะเทเอียง ฟื้นฟูกลับมาทันที

และเสียงคำรามที่คลุ้มคลั่งยิ่งกว่าเดิมก็ดังออกมาจากในโลงทั้ง 5 ที่อยู่ในเปลวเพลิง กระทั่งว่าโลงอยู่ภายใต้พลังปะทุรุนแรง ก็เกิดรอยร้าว

ระลอกคลื่นพลังที่ไม่เสถียรกลุ่มหนึ่งพวยพุ่งมาจากบนแท่นบูชา

สูญเสียตะเกียงดวงสำคัญไป ก็เท่ากับสูญเสียการผสานจากเซียน ส่วนการปะทุของกลิ่นอายเทพเจ้าตอนนี้ก็สูญเสียสมดุล ดังนั้น…พิธีนี้ย่อมเกิดการสะท้อนพลังกลับ!

พลังกดดันน่ากลัวในเปลวเพลิงยิ่งรุนแรงขึ้น

ภาพนี้ทำให้องค์ชายสิบเอ็ดเมื่อได้เห็นก็หัวเราะร่า

ทำเอาขุนนางทั้งหลายเห็นแล้วเงียบนิ่ง

ทำเอาขันทีชราเมื่อได้เห็นแล้วก็ส่งเสียงเย็นเยือกเหี้ยมโหดออกมา

ส่วนสวี่ชิงตอนนี้ไม่สนเรื่องพวกนี้แล้ว ร่างของเขาขณะที่ทะยานออกไป ก็เก็บตะเกียงดำจื่อเสวียนที่เต็มไปด้วยรอยร้าวลงไป ขณะเดียวกัน แขนขวาที่เสียไป ภายใต้ความพิเศษของกายเทพเจ้า ท่ามกลางความเจ็บปวดแสนสาหัสจากเลือดเนื้อที่ฉีกทึ้งเป็นระลอกๆ ก็งอกออกมาใหม่

แม้ความอ่อนล้าจะเกิดขึ้นอย่างเลี่ยงไม่ได้ แต่เขาโล่งอก ในสมองมีวิธีเอาตะเกียงมาที่หารือกับจื่อเสวียนในจวนวิญญาณของตนเมื่อหลายเดือนก่อนผุดขึ้นมา

วิธีนี้เป็นความคิดของจื่อเสวียนเสนอขึ้น ร่วมทำให้สำเร็จกับสวี่ชิง

สัมผัสรับรู้ต่อตะเกียงดวงนั้นของจื่อเสวียนแม่นยำมาก โดยเฉพาะในหลายปีนี้ที่สวี่ชิงไปจากเมืองหลวง จื่อเสวียนดูเหมือนอยู่เฉยๆ แต่ความจริงแล้วนางใช้วิธีลับมากมาย ได้รับข้อมูลมากขึ้น

เลือด 5 หยดนั่นก็เป็นเลือดพลังต้นกำเนิดของจื่อเสวียน

และก็เป็นสิ่งที่เตรียมไว้เพื่อโลงศพทั้ง 5 โดยเฉพาะ ใช้เลือดนี้สยบโลงศพเป็นเวลาสั้นๆ

เช่นนี้แล้วก็จะทำให้ขั้นตอนในการคว้าเอาตะเกียงมาราบรื่นขึ้นอีกเล็กน้อย

ขณะเดียวกัน พวกเขายังหารือถึงขั้นตอนอื่นๆ เพียงแต่เปลวเพลิงของการสำเร็จเทพทำให้วิธีการมากมายไร้ผล ดังนั้นสวี่ชิงจึงทำได้เพียงวางเดิมพันเสี่ยงสักครั้งเท่านั้น

แต่ว่า ตอนนี้เอาตะเกียงดำจื่อเสวียนมาได้แล้ว ในใจสวี่ชิงมีความรู้สึกแปลกประหลาดบางอย่างผุดขึ้นมาในใจตามสัญชาตญาณ

“ดูเหมือนเดิมพันเสี่ยง แต่ขั้นตอนนี้เหมือนว่า…จะราบรื่นเกินไปแล้ว”

สวี่ชิงหรี่ตา เก็บเจ้าเงาและเถาวัลย์เทพลงไป ถอยร่นต่อไป

และตอนนี้ ท่ามกลางการถอยหลังไปของสวี่ชิง บนแท่นบูชาที่สูญเสียตะเกียงไป เสียงคำรามดังขึ้นท่วมฟ้า เสี้ยวขณะต่อมา โลงแตกทลาย ระเบิดมา

แต่ไม่ทันที่โครงกระดูกในนั้นจะทันได้พุ่งออกมา เปลวเพลิงสีทองที่วนล้อมอยู่ที่แท่นบูชาก็พลันตลบม้วนกลับไป

การสะท้อนพลังกลับเกิดขึ้นแล้ว

อุณหภูมิสูงในนั้นปะทุขึ้นทันที ท่ามกลางเสียงระเบิด ก็กวาดโหมทุกอย่างในนั้น

โลงทั้ง 5 นั่นโดนพลังก่อนใคร ภายใต้การสะท้อนพลังกลับของเพลิงเทวะก็กลายเป็นเถ้าธุลีไปในพริบตา โครงกระดูกในนั้นก็เช่นเดียวกัน แม้แต่แท่นบูชาเองก็เช่นกัน

ทุกสิ่งทุกอย่างภายใต้การสะท้อนพลังของเปลวเพลิงสีทองล้วนกลายเป็นเถ้าธุลี…

ส่วนเปลวเพลิงสีทอง ตอนนี้เมื่อไม่มีการหล่อเลี้ยงก็ค่อยๆ สลายไป มอดดับลง

กลิ่นอายเทพที่ตลบอวลทั่วทุกสารทิศตอนนี้สลายหายไป ฟ้าดินกลับสู่ปกติ

พิธีสำเร็จเทพของจักรพรรดิมนุษย์ถูกขัดจังหวะ!

ทำให้ล้มเหลว!

เสียงหัวเราะขององค์ชายสิบเอ็ดดังไปทั่ว ความสะใจที่แฝงอยู่ในนั้นรุนแรงเป็นอย่างมาก จากนั้นก็มองมาทางจักรพรรดิมนุษย์

ส่วนขุนนางเผ่ามนุษย์ทั้งหลายที่อยู่ทั้งข้างในและนอกดาวจักรพรรดิโบราณก็ต่างจิตใจซับซ้อน แต่ไม่มากก็น้อยต่างโล่งอกกันทั้งนั้น เพียงแต่ความร้อนใจต่ออนาคตกลับผุดขึ้นมาในใจไม่หยุดอย่างห้ามไม่ได้

แต่เสี้ยวขณะต่อมา เสียงหัวเราะขององค์ชายสิบเอ็ดก็หยุดชะงัก ความรู้สึกกระวนกระวายกลุ่มหนึ่งผุดขึ้นมาในใจ

เพราะเขาไม่เห็นระลอกคลื่นอารมณ์บนใบหน้าของจักรพรรดิมนุษย์เลยแม้แต่น้อย!

ตอนนี้จักรพรรดิมนุษย์ที่บนร่างยังมีโซ่ที่ยังไม่ขาดสะบั้นกว่าครึ่ง หลังจากเห็นพิธีสำเร็จเทพของตนล้มเหลว สีหน้าก็ยังคงสงบนิ่ง

ความกระวนกระวายในใจองค์ชายสิบเอ็ดยิ่งรุนแรง กำลังจะพูดอะไร…

แต่ในตอนนี้เอง เถ้าถ่านของแท่นบูชาและโครงกระดูกที่ถูกเพลิงเทวะเผาไหม้ ก็พุ่งมาทางจักรพรรดิมนุษย์ รวมเป็นกลุ่มใหญ่ มาถึงข้างหน้าจักรพรรดิมนุษย์ในพริบตา

ภายใต้การสูดลงไปของจักรพรรดิมนุษย์ เถ้าธุลีเหล่านี้…ก็เข้าไปในปากของเขา และถูกกลืนลงไป

ท้องฟ้าสนั่นหวั่นไหว แผ่นดินสะเทือนเลื่อนลั่น

ดาวจักรพรรดิโบราณในเสี้ยวขณะนี้สั่นไหวขึ้นมา

การเดือดพล่านของพลังชะตารุนแรงเป็นอย่างยิ่ง!

กลิ่นอายสำเร็จเทพที่รุนแรงกว่าก่อนหน้านี้ไม่รู้ต่อกี่เท่า ในเสี้ยวขณะนี้ จากสภาวะที่เลือนสลายไปก็ปะทุขึ้นมาอีกครั้ง!

เพียงแต่การปะทุครั้งนี้ ต้นกำเนิดไม่ใช่แท่นบูชาที่กลายเป็นเถ้าถ่านนั่นแล้ว แต่เป็น…ดาวจักรพรรดิโบราณทั้งดวง!!

ดาวจักรพรรดิโบราณกำลังลุกไหม้!

เข้มข้นกว่าก่อนหน้านี้มาก กระทั่งว่าเปลวเพลิงสีทองที่ระดับไม่อาจเปรียบเทียบได้เลย โดยมีใจกลางเป็นดาวจักรพรรดิโบราณ ลุกไหม้ครืนครั่น

ดาวทั้งดวงกำลังสั่นไหว ดินแดนเมืองหลวงจักรพรรดิทั้งดินแดนกำลังแผ่ระลอก

เพราะ…พิธีสำเร็จเทพที่ปรากฏขึ้นอีกครั้งตอนนี้ น่ากลัวเป็นอย่างยิ่ง

ทุกอย่างนี้ทำให้ขุนนางเผ่ามนุษย์ทั้งหมดที่อยู่ทั้งในและนอกดาวจักรพรรดิโบราณ ในใจต่างเกิดการเปลี่ยนแปลง และคนที่ทำให้คนทั้งหลายจิตใจเกิดคลื่นซัดโหมรุนแรงที่สุดก็คือ…อ๋องเจิ้นเหยียนและขันทีชราที่กำลังต่อสู้กันอยู่

ทั้ง 2 คนที่สู้รบกันมาโดยตลอด ตอนนี้ท่ามกลางเสียงดังสนั่นหวั่นไหว ก็ต่างถอยหลังไป อ๋องเจิ้นเหยียนมาถึงยังข้างองค์ชายสิบเอ็ด สีหน้าเป็นปกติ

ส่วนขันทีชราคนนั้นกลับมาถึงยังข้างกายจักรพรรดิมนุษย์

หลังจากที่ยืนอยู่ข้างหลังจักรพรรดิมนุษย์ก็เอ่ยขึ้นอย่างเคารพนอบน้อม

“ขอแสดงความยินดีด้วยพะย่ะค่ะฝ่าบาท ขั้นแรกของพิธีสำเร็จเทพ ในที่สุดก็สำเร็จลงอย่างราบรื่นแล้วพะย่ะค่ะ”

คำพูดนี้เมื่อดังออกมา ทั่วทุกสารทิศนิ่งอึ้งไร้เสียง

เสี้ยวขณะต่อมา ทุกคนก็เข้าใจแล้วคำพูดและการกระทำที่ขันทีชราก่อนหน้านี้พยายามขัดขวางสวี่ชิง เห็นได้ชัดว่าเป็นเพียงแค่ละครฉากหนึ่งเท่านั้น

กุญแจสำคัญของละครฉากนี้ก็คือพิธีสำเร็จเทพที่สวี่ชิงทำลายไป

ส่วนตอนนี้การปะทุของดาวจักรพรรดิโบราณทั้งดวง ก็บ่งบอกถึงการสูญสลายของแท่นบูชา 5 เหลี่ยมนั่น ไม่เพียงแต่เป็นแผนการของจักรพรรดิโบราณเท่านั้น ในขณะเดียวกัน…ก็ยังเป็นส่วนหนึ่งของพิธีสำเร็จเทพที่แท้จริงอีกด้วย!

สวี่ชิงหรี่ตา ก่อนหน้านี้เขาลงมือแม้จะดูเหมือนอันตราย แต่ความจริงแล้วเขาก็มีความรู้สึกมาโดยตลอดว่า เรื่องนี้ราบรื่นเกินไป

ตอนนี้มองไป ความรู้สึกของเขาไม่ผิดจริงๆ

เอาตะเกียงดำจื่อเสวียนกลับมาได้ก็พอแล้ว

สวี่ชิงถอยหลังไปเล็กน้อย นั่งขัดสมาธิลงไป

ส่วนจักรพรรดิมนุษย์ทางนั้น โซ่บนร่างก็ยังคงขาดสะบั้นต่อไป จากสีหน้าของเขาก็ยังคงมองระลอกคลื่นอารมณ์ใดๆ ไม่ออกเช่นเดิม เพียงแค่มององค์ชายสิบเอ็ดที่สีหน้าเปลี่ยนไปอย่างมหาศาลด้วยแววตาที่สงบนิ่ง เอ่ยราบเรียบ

“ยังมีอีกไหม”

องค์ชายสิบเอ็ดหน้าซีดขาว มองทุกอย่างนี้ ในดวงตาฉายแววเคร่งขรึม อ๋องเจิ้นเหยียนที่อยู่ข้างๆ เอ่ยเสียงแหบแห้ง

“หนิงชาง ไม่จำเป็นต้องทำสีหน้าเช่นนั้น เรื่องนี้เดิมก็อยู่ในขอบเขตการคาดการณ์ของพวกเราอยู่แล้ว”

องค์ชายสิบเอ็ดเมื่อได้ยิน ความผิดปกติบนใบหน้าทุกอย่างก็หายไปทันที หัวเราะขึ้นมา

“แม้จะอยู่ในการคาดการณ์ แต่ข้าก็ยังหวังว่าจะไม่เกิดสถานการณ์เช่นนี้ แต่ว่าจะอย่างไรก็เป็นจักรพรรดิมนุษย์ ไม่ว่าข้าจะจงใจแผ่ระลอกอารมณ์ออกมาอย่างไร เขาก็สงบนิ่งมาโดยตลอด น่าเบื่อจริงๆ”

“แต่ว่าตอนนี้ ข้าก็ไม่ต้องไปแสดงอารมณ์เกินสมควรแล้ว”

องค์ชายสิบเอ็ดเอ่ยอย่างเสียดาย โค้งคารวะไปทางจักรพรรดิมนุษย์

“เสด็จพ่อ ท่านอยากดูการเตรียมการของข้า เช่นนั้น…ก็ทรงทอดพระเนตรต่อไปเถิด”

พูดจบ หนิงเหยียนก็พลันยกมือ ซัดไปที่หน้าผาก แล้วพ่นเลือดสดๆ คำโตออกมา

ขณะที่สะบัดมือ ขวดเล็กๆ 11 ขวดก็ปรากฏขึ้นมาจากความว่างเปล่า ต่างแตกเอง ในนั้นมีเลือดสดๆ บรรจุอยู่

รวมกับเลือดที่เขาพ่นออกมาเป็นทั้งหมด 12 กลุ่ม

ทันทีที่ปรากฏออกมา ระลอกคลื่นสายเลือดราชวงศ์จากในเลือดทั้ง 12 กลุ่ม ก็พลันพุ่งขึ้นฟ้า

ทันทีที่เลือดสดๆ เหล่านี้ปรากฏขึ้น องค์ชายใหญ่ องค์ชายสี่ องค์ชายห้า และองค์ชายสิบที่ถอยไปที่ริมแท่นบูชา ต่างสีหน้าเปลี่ยนไป ในเลือดเหล่านั้นพวกเขาสัมผัสได้ถึงเลือดของตัวเอง

ไม่ใช่แค่พวกเขาที่เป็นเช่นนี้ องค์ชายองค์หญิงที่ไม่ได้เข้ามาในดาวจักรพรรดิโบราณเหล่านั้น ก็ต่างมีความรู้สึกนี้เช่นกัน

“นี่เป็นเลือดของพี่น้องทั้งหลายที่ข้าแอบรวบรวมมาในหลายปีนี้ และรวมของข้าเองด้วย”

องค์ชายสิบเอ็ดเอ่ยเสียงแผ่วเบา

“วันนี้ด้วยเลือดแห่งบุตรจักรพรรดิมนุษย์ เปิดคลื่นวนแห่งชะตา หลบหลีกค่ายกลเผ่ามนุษย์ หลบเลี่ยงขีดจำกัดสูงสุดแห่งดาวจักรพรรดิ สร้างเป็นประตูแห่งฟ้าดิน!”

องค์ชายสิบเอ็ดมือทั้ง 2 ประสานปางมือ แล้วพลันสะบัด ทันใดนั้นเลือดทั้ง 12 กลุ่มก็ลอยขึ้นฟ้า อยู่ท่ามกลางอากาศของดาวจักรพรรดิโบราณ ก่อเป็นคลื่นวนสีเลือดขนาดมหึมา

เสียงครืนครั่นเลื่อนลั่นดังสนั่นหวั่นไหว ในคลื่นวนนั่นก็แผ่พลังเหนี่ยวนำออกมา คล้ายว่าเปิดเส้นทางเส้นทางหนึ่งออก!

มีกลิ่นอายน่ากลัวแผ่ออกมาจากในนั้นลงมา

(>>>พิสูจน์อักษร By Zank<<<)

AC

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!