Chapter 10
ปืนจ่อหน้าผาก!
“ลงไปซะ ต่อไปนี้คุณไม่ต้องขับรถให้ผมแล้ว โรแลนกับเจสันจะเป็นคนขับรถให้ผมเอง” อากิโอะบอก คนขับรถตกตะลึง “ท่าน!”
โรแลนดึงคนขับรถออกไป คนขับรถยอมออกจากรถโดยดี เขายังไม่อยากถูกซ้อมแล้วลากลงไปหรอกนะ เมื่อเช้าเขาเห็นแล้วว่าพวกบอดี้การ์ดถูกท่านนายกฯ ไล่ยังไง ท่านนายกฯ ไม่ให้เขาขับรถให้ เขาก็ไม่รู้จะทำยังไง เฮ้อ…
โรแลนเข้าไปนั่งแทนคนขับรถ บอดี้การ์ดคนหนึ่งจะเข้าไปนั่งข้างท่านนายกฯ ก็ถูกเจสันดึงเสื้อ “คุณไปนั่งคันอื่น”
“หา!” บอดี้การ์ดหันไปมองเจสัน อากิโอะจึงบอก “ต่อไปนี้คุณไม่ต้องมานั่งข้างผมแล้ว ให้เจสันมานั่งแทน”
บอดี้การ์ดคนนั้นฟังแล้วยอมถอยไป เจสันจึงก้าวไปนั่งข้างท่านนายกฯ แล้วดึงประตูรถปิด อากิโอะสั่งโรแลนว่า “ไปโชว์รูมรถ……….”
“ครับท่าน” โรแลนรับคำสั่งแล้วขับรถออกจากบ้านพัก รถบอดี้การ์ดคันอื่นๆ ก็ขับตามไปเป็นขบวน
เมื่อไปถึงโชว์รูมรถ………อากิโอะก็ลงจากรถแล้วเดินเข้าไปในโชว์รูมทันที พนักงานขายเห็นท่านนายกฯ มาก็กรี๊ดกร๊าดกันใหญ่ “อ้า! นั่นท่านนายกฯ นี่”
“ใช่ท่านนายกฯ จริงๆ ด้วย”
เจสันเดินตามท่านนายกฯ ไป ส่วนโรแลนเฝ้าอยู่ที่รถ เซรินตามท่านนายกฯ ไปเช่นกัน ผู้จัดการโชว์รูมรู้ว่าท่านนายกฯ มาก็รีบไปต้อนรับทันที “สวัสดีครับท่าน”
เขาโค้งคำนับจนหัวแทบจะติดพื้นเลยทีเดียว อากิโอะทักทายตอบ “สวัสดีครับ”
แล้วเขาก็เดินดูรถที่โชว์อยู่ในโชว์รูม ผู้จัดการรีบเดินตามไปบรรยายรถแต่ละคันอย่างละเอียดยิบ “รถคันนี้……..”
อากิโอะฟังผู้จัดการพูดไปเรื่อยๆ ส่วนพวกบอดี้การ์ดก็คุ้มกันอยู่รอบๆ โชว์รูม พลางโทรรายงานไคโตะไปด้วย “ตอนนี้ท่านนายกฯ อยู่ที่โชว์รูมรถ…….กำลังดูรถอยู่ครับ”
“อ่อ” ไคโตะฟังแล้วตัดสายไป
อากิโอะมองรถแล้วชี้ไปที่รถคันหนึ่ง “ผมซื้อคันนี้”
“ครับท่าน” ผู้จัดการยิ้มหน้าบาน อากิโอะชี้ไปที่รถอีกคัน “แล้วก็คันนั้นด้วย”
“ครับท่าน” ผู้จัดการตอบรับหน้าบานมาก อากิโอะบอก “รีบทำเอกสารหน่อยนะ ผมจะได้ไปทันประชุมตอนสาย”
“ครับท่าน” ผู้จัดการตอบรับ อากิโอะบอก “อ่อ รถทั้ง 2 คันใส่ชื่อคุณเซรินเป็นเจ้าของนะ”
“ครับท่าน” ผู้จัดการตอบรับน้ำเสียงสดใสเบิกบาน อากิโอะเดินไปนั่งรอ ผู้จัดการก็รีบให้พนักงานทำเอกสารมาให้ ‘คุณเซริน’ เซ็น เซรินยืนมองอย่างงงๆ ทำไมต้องซื้อรถเป็นชื่อเธอด้วยล่ะ?
เพราะสงสัยเธอจึงเดินไปกระซิบถาม “ทำไมต้องเป็นชื่อฉันล่ะ?”
“เพราะอะไรไว้ผมค่อยอธิบายทีหลังนะ” อากิโอะบอก เซรินพยักหน้า “ค่ะ”
สักพัก พนักงานก็เอาเอกสารมาให้เซรินเซ็น เซรินเซ็นจนครบทุกแผ่นแล้ว อากิโอะก็หยิบกระเป๋าสตางออกมา หยิบบัตรเครดิตการ์ดธนาคารในเครือโทมิกรุ๊ปออกมายื่นให้ “อ่ะ นี่ครับ”
“ครับท่าน” ผู้จัดการรับบัตรไปยื่นให้พนักงานนำไปรูด พนักงานรับไปรูด สักพักเธอก็ขมวดคิ้วแล้วลองรูดบัตรอีกที หน้าจอก็ยังคงขึ้นว่า ‘บัตรนี้ไม่สามารถทำรายการได้ กรุณาติดต่อธนาคารเจ้าของบัตร’ อยู่ดี เธอลองรูดบัตรอีกที หน้าจอก็ยังคงขึ้นข้อความเหมือนเดิม เธอจึงถือบัตรไปกระซิบบอกผู้จัดการว่า “ผู้จัดการคะ บัตร…….”
“หือ?” ผู้จัดการเลิกคิ้วขึ้น กระซิบว่า “ลองไปรูดใหม่อีกที บางทีระบบอาจจะขัดข้องก็ได้”
“ค่ะ” พนักงานรับคำสั่งแล้วถือบัตรกลับไปรูดอีก หน้าจอก็ยังคงขึ้นข้อความเหมือนเดิม เธอส่ายๆ หน้า ผู้จัดการจึงรีบเดินไปที่เคาน์เตอร์ทันที เขาจัดแจงรูดบัตรเอง หน้าจอก็ยังคงขึ้นข้อความเหมือนเดิม เขาเอาบัตรมาดูวันหมดอายุ บนบัตรก็ยังไม่หมดอายุนี่นา แล้วทำไมรูดไม่ได้ล่ะ? ระดับท่านนายกฯ ไม่น่าจะมีปัญหากับเรื่องเงินแค่นี้นะ!
เขาลองรูดเครื่องอื่น ก็ขึ้นข้อความเหมือนกัน ทำเขาจนปัญญา เขาจึงถือบัตรไปยืนตรงหน้าท่านนายกฯ “ท่านครับ เอ่อ…บัตรใบนี้ไม่สามารถรูดได้ครับ”
“โอ๋?” อากิโอะเลิกคิ้วขึ้น มีรอยยิ้มตรงมุมปากจางๆ เขารับบัตรมาแล้วหยิบบัตรใบอื่นอีกหลายใบที่ล้วนเป็นธนาคารในเครือโทมิกรุ๊ปให้ผู้จัดการทั้งหมด “งั้นลองเอาบัตรพวกนี้ไปรูดละกัน ถ้าไม่ได้ก็บอกผม ผมยังมีบัตรใบอื่นอีก”
“อ่า…ครับ” ผู้จัดการรับบัตรพวกนั้นไปรูด เขารูดบัตรทีละใบ…ทีละใบ แล้วส่ายๆ หน้า อากิโอะมองท่าทีของผู้จัดการแล้วยิ้มบางๆ ดูเหมือนว่ายามาโตะจะเล่นงานเขาแล้วซินะ หึ!
ผู้จัดการรูดบัตรหลายใบพวกนั้นจนหมดแล้วก็รูดไม่ผ่านสักใบ เขาจึงถือบัตรไปคืนท่านนายกฯ “ท่านครับ รูดไม่ได้ซักใบเลยครับ”
“ขอบคุณมาก งั้นคุณเอาใบนี้ไปรูดล่ะกัน อากิโอะเอาบัตรเครดิตสีดำส่งให้ผู้จัดการ ผู้จัดการมองบัตรสีดำใบนั้น เขารับมาแล้วเดินกลับไปที่เคาน์เตอร์ เขารูดบัตร ครั้นเห็นว่ารูดผ่านเขาก็โล่งอก “เฮ้อ…”
เขารีบเอาสลิปไปให้ท่านนายกฯ เซ็นทันที “ท่านครับ เชิญเซ็นครับ”
อากิโอะรับสลิปกับบัตรคืนมา เขาเซ็นชื่อลงไปแล้วส่งสลิปคืนให้ผู้จัดการ ผู้จัดการยิ้มแฉ่ง “ขอบคุณครับท่าน”
เขาโค้งคำนับหัวแทบติดพื้นเลยทีเดียว อากิโอะลุกขึ้นยืน เซรินก็ลุกขึ้นยืนเช่นกัน อากิโอะหยิบกุญแจรถมาแล้วยื่นให้เจสัน “คุณเอากุญแจรถไปแล้วขับไปตามที่อยู่ตามนามบัตรนี้นะ มอบรถให้เขาจัดการแล้วกลับไปหาผมที่ทำเนียบ อีกคันก็ให้โรแลนขับตามคุณไปล่ะกัน”
“ครับท่าน” เจสันรับกุญแจรถทั้งสองคันมา อากิโอะหยิบนามบัตรใบหนึ่งส่งให้ เจสันรับมาใส่กระเป๋าเสื้อเอาไว้ทันที คนอื่นไม่ทันเห็นว่าเป็นนามบัตรอะไร อากิโอะพยักหน้ากับเซริน “ไปกันเถอะ”
“ค่ะ” เซรินรับคำ อากิโอะเดินนำออกไป ผู้จัดการเดินตามไปส่ง พวกพนักงานก็ตามไปส่งเป็นโขยง อากิโอะเดินไปถึงรถที่โรแลนขับ เขาบอกโรแลนว่า “เดี๋ยวคุณขับรถคันใหม่ตามเจสันไปนะ แล้วกลับไปหาผมที่ทำเนียบ”
“ครับท่าน” โรแลนรับคำสั่ง ลงมาจากรถแล้วเดินไปหาเจสันทันที อากิโอะก็เข้าไปนั่งประจำที่คนขับ เซรินรีบเปิดประตูรถเข้าไปนั่งที่เบาะข้างหน้า จากนั้นอากิโอะก็ขับรถออกจากโชว์รูม เซรินไม่ถามอะไรมาก เธอนั่งเงียบๆ มองถนนข้างหน้าไปเรื่อยๆ ซองสีดำที่เธอสงสัย ข้างในซองคือบัตรสีดำใบหนึ่ง เธอเห็นบัตรใบนั้นตอนที่ท่านนายกฯ เปิดซองสีดำในรถ
พวกบอดี้การ์ดก็รีบขึ้นรถแล้วขับตามรถท่านนายกฯ ไปเป็นขบวน ผู้จัดการโชว์รูมยืนส่งจนขบวนรถไปกันหมดแล้ว เขาจึงหันไปมองชาวต่างชาติ 2 คนที่ท่านนายกฯ ให้ขับรถคันใหม่ เขารีบให้พนักงานนำรถออกจากโชว์รูมส่งมอบให้ชาย 2 คนนั้น หลังจากนั้นเจสันก็ขับรถนำหน้าไป โรแลนขับตามหลัง พวกเขาขับไปตามที่อยู่บนนามบัตรใบนั้น
เมื่อไปถึงทำเนียบรัฐบาล อากิโอะก็จอดรถเอาไว้แล้วเดินอารมณ์ดีเข้าทำเนียบ เซรินเดินตามไป
ครั้นถึงห้องทำงาน เธอก็เข้าไปใกล้ท่านนายกฯ กระซิบถามว่า “ทำไมถึงใส่ชื่อฉันเป็นเจ้าของรถคะ?”
“ซึ…เอ่อ…ผมยังมีหนี้สินต้องชำระคืนให้ยามาโตะอยู่ ดังนั้นถ้าใส่เป็นชื่อผมก็อาจจะถูกยามาโตะยึดทรัพย์ได้น่ะ ดังนั้นเป็นชื่อคุณแหละปลอดภัยดี ไม่ถูกยึดทรัพย์แน่นอน” อากิโอะบอก เพราะเขารู้ว่าซึบาสะทำสัญญากู้ยืมเงินเพื่อใช้เรียนต่อต่างประเทศกับยามาโตะ สัญญากู้ยืมเงินนี้ซึบาสะยังไม่ได้ใช้หนี้คืนให้ยามาโตะทั้งหมด ดังนั้นยามาโตะจึงมีฐานะเป็นเจ้าหนี้ของซึบาสะอยู่ ทรัพย์สินของซึบาสะอาจจะถูกเจ้าหนี้อย่างยามาโตะยึดเมื่อไหร่ก็ได้ แม้แต่รถที่ซึบาสะใช้ทุกวันนี้ยังเป็นรถของยามาโตะทั้งนั้น คนรอบข้างก็เป็นคนของยามาโตะเหมือนกัน มีแค่ใบปริญญาเท่านั้นที่เป็นของซึบาสะอย่างแท้จริง ยามาโตะไม่อาจยึดไปจากซึบาสะได้ ซึบาสะจึงเปรียบเสมือนเป็นลูกไก่ในกำมือยามาโตะอย่างแท้จริง
เซรินฟังแล้วพอจะเข้าใจเรื่องราวล่ะ ซึบาสะอยากเป็นอิสระจากยามาโตะ จึงได้ดึงเธอมาเป็นพวกซินะ เธอจึงกระซิบถามต่อ “ว่าแต่เรื่องการตายของท่านนายกฯ อากิโอะ คุณพอจะรู้ไหมว่าใครมีส่วนเกี่ยวข้องบ้าง?”
อากิโอะอึ้งไป เธอพยายามหาตัวคนร้ายอยู่งั้นเหรอ?
เขามองเธอแล้วส่ายหน้ากระซิบว่า “ไม่รู้เหมือนกัน ผมก็กำลังหาตัวคนร้ายอยู่”
“คุณหาคนร้ายอยู่?” เซรินกระซิบถาม เธอมองท่านนายกฯ อย่างงงๆ เขาจะหาตัวคนร้ายไปทำไม? หรือว่าเขาคิดจะหาหลักฐานเพื่อเอาไปข่มขู่ยามาโตะ? ถ้าหากว่ายามาโตะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนั้นด้วย นี่ย่อมเป็นหลักฐานชั้นดีที่จะเอาผิดยามาโตะได้ แล้วก็จะทำให้ซึบาสะถือไพ่เหนือกว่ายามาโตะซินะ อืม? ควรร่วมมือกับเขาไหมนะ?
“คุณนะอย่ามายุ่งกับเรื่องนี้เลยนะ มันอันตรายเกินไป คุณคอยทำตามแค่ที่ผมสั่งก็พอ” อากิโอะบอกอย่างเป็นห่วง เขาเห็นเธอเหมือนเป็นคนในครอบครัวคนหนึ่ง ดังนั้นจึงเป็นห่วงอย่างอดไม่ได้
“ห้ามไม่ให้ฉันสืบเหรอ? คุณคิดจะเก็บหลักฐานไว้คนเดียวซินะ จะได้เอาไปขู่ยามาโตะได้ ฮึ! ฉันจะหาหลักฐานให้ได้แล้วลากคนร้ายเข้าคุกให้หมด” เซรินบอก อากิโอะจ้องหน้าเธอ เขาจับไหล่เธอ “ทำไมดื้อแบบนี้นะ”
เซรินสะดุ้ง ความรู้สึกจากมือเขาคล้ายกับสัมผัสของใครคนหนึ่ง คนๆ นั้นไม่อาจแตะต้องตัวเธอได้อีกแล้ว คนที่เป็นทั้งเจ้านาย เป็นเหมือนพี่ชาย เป็นเหมือนคนในครอบครัว อากิโอะ! เธอมองท่านนายกฯ อึ้งงันไปพักหนึ่ง จนเธอตั้งสติกลับมา เห็นใบหน้าที่สวยเหมือนผู้หญิงของท่านนายกฯ เธอจึงเบี่ยงตัวออก รีบเดินออกจากห้องไป เธอรีบเดินไปที่ห้องทานอาหาร จัดแจงชงกาแฟให้ตัวเอง ในใจเกิดความรู้สึกสับสน
“เซริน…” อากิโอะมองตามเธอจนเธอเดินลับตาไป เขานั่งลงสีหน้ากังวลใจ ซึบาสะจึงถาม “เธอเป็นแฟนคุณเหรอ?”
“ไม่ใช่” อากิโอะส่ายหน้า “เธอทำงานกับผมมานาน ผมเห็นเธอเป็นเหมือนคนในครอบครัวของผมคนหนึ่ง เธอเป็นเหมือนน้องสาว ผมห่วงเธอแบบนั้น”
“อ่อ” ซึบาสะพยักหน้ารับรู้ ความรู้สึกแบบนี้เขาก็เคยรู้สึก กับเด็กสาวข้างบ้านที่โตมาด้วยกันนั่นไง เขาเห็นเธอเป็นเหมือนน้องสาว คอยดูแลเธอเหมือนเป็นพี่ชายของเธอ จนกระทั่งเธอเรียนจบม.ปลาย แล้วย้ายไปเรียนต่อมหาวิทยาลัยในเมืองที่ห่างไกล หลังจากนั้นเธอก็เงียบหายไปเลย ไม่ติดต่อเขา ไม่แม้แต่จะไลน์คุยกัน เขาเคยถามคุณลุงคุณป้าข้างบ้านก็ได้รับข่าวว่าเธอสบายดี เขารู้ว่าเธอสบายดีก็โล่งใจ บางทีเธออาจไม่ต้องการพี่ชายคนนี้แล้วก็ได้ ถึงยังไงเขาก็ไม่ใช่พี่ชายแท้ๆ ของเธอ เป็นแค่เพื่อนบ้านที่รู้จักกันเท่านั้นเอง
เซรินนั่งดื่มกาแฟอยู่ตรงนั้นอยู่นาน จนกระทั่งเสียงมือถือดังปิ๊บๆ เธอจึงหยิบมาดู เห็นว่าใกล้จะถึงเวลาเข้าประชุมของท่านนายกฯ เธอจึงเก็บมือถือแล้วลุกไปล้างแก้วกาแฟเก็บ จากนั้นก็เดินไปที่ห้องทำงานของท่านนายกฯ เธอเคาะประตู ก็อกๆ
“เชิญครับ” อากิโอะบอก เซรินเปิดประตูเดินเข้าไป เธอเตือนเขาว่า “ท่านคะ อีก 15 นาทีจะเริ่มประชุมแล้วค่ะ”
“อืม” อากิโอะพยักหน้ารับรู้ เขาปิดโน๊ตบุ๊คแล้วลุกขึ้นยืน เซรินก็เดินไปหยิบไอแพดมา จากนั้นก็เตรียมพร้อมเข้าประชุม อากิโอะเดินนำออกจากห้อง เซรินถือไอแพดเดินตามไป ทั้งสองเข้าไปในห้องประชุม คณะรัฐมนตรีกำลังทยอยกันมา เมื่อพวกเขาเห็นท่านนายกฯ ก็โค้งคำนับ “ท่านนายกฯ”
“อืม” อากิโอะโค้งคำนับตอบตามมารยาทแล้วเดินไปนั่งที่หัวโตะ พวกคณะรัฐมนตรีก็เดินไปนั่งที่เก้าอี้ อากิโอะมองทุกคนที่มากันครบแล้วเขาก็เปิดประชุมทันที เซรินยืนอยู่ด้านหลังท่านนายกฯ เธอใช้ไอแพดคอยเปิดข้อมูลขึ้นโปรเจ็คเตอร์
จนกระทั่งเที่ยงกว่า อากิโอะจึงได้เลิกประชุม ผู้คนก็ทยอยกันออกจากห้องประชุม พวกเขารู้สึกเหมือนกันว่าท่านนายกฯ ดูเปลี่ยนไป ดูมีความมั่นใจมากขึ้น ดูทรงพลังยังไงบอกไม่ถูก หรือว่าท่านนายกฯ ไปเข้าคอร์สเสริมบุคลิกภาพมา?
“ไปทานข้าวกันเถอะ” อากิโอะบอกกับเซริน เซรินพยักหน้า “ค่ะ”
จากนั้นทั้งสองคนก็เดินไปที่ห้องทานอาหาร สั่งเชฟให้ทำอาหารแล้วนั่งรอ
เวลาผ่านไปจนบ่ายโมงแล้ว ยามาโตะก็ยังไม่เห็นแม้แต่เงาของซึบาสะ ทำให้เขาถามไคโตะว่า “ซึบาสะทำอะไรอยู่?”
ไคโตะรีบโทรถามลูกน้องทันที หลังจากนั้นก็รายงานว่า “คุณซึบาสะกำลังทานมื้อกลางวันอยู่ครับ”
“อืม เขาคงยังไม่ได้ใช้บัตรซินะ” ยามาโตะคิดแล้วปัดเรื่องซึบาสะออกไปก่อน เขาหันไปสนใจเรื่องงานก่อน
โรแลนกับเจสันกลับไปถึงทำเนียบรัฐบาล พวกเขาก็ไปหาเจ้านายทันที รายงานว่า “ส่งรถเรียบร้อยแล้วครับ”
“อืม ดี ขอบคุณมาก” อากิโอะบอกแล้วถามว่า “พวกคุณทานข้าวรึยัง? ถ้ายังก็สั่งได้เลย”
“พวกเราทานมาแล้วครับ ซาซึมิอร่อยมากครับท่าน” โรแลนบอก เจสันก็บอกว่า “ซูชิก็อร่อยมากครับ อร่อยกว่าที่อเมริกาอีกครับ”
“อืม พวกคุณชอบก็ดีแล้ว” อากิโอะบอก แล้วบอกว่า “พวกคุณเปิดคิวอาร์โค้ดบัญชีธนาคารซิ ผมจะโอนเงินไว้ให้พวกคุณใช้”
“อ่อ ครับ” โรแลนรับคำสั่งแล้วรีบเปิดคิวอาร์โค้ดรับเงินขึ้นมาทันที เจสันก็เหมือนกัน อากิโอะเอามือถือมาสแกนคิวอาร์โค้ดแล้วกดโอนเงินให้ทั้งสองคน เมื่อโอนเงินแล้วอากิโอะก็บอกว่า “นี่เป็นค่าใช้จ่ายของพวกคุณไม่รวมกับค่าจ้าง ค่าจ้างพวกคุณจะได้รับตรงตามเวลาแน่นอน”
“ขอบคุณครับ” โรแลนกับเจสันบอกพลางยิ้มหน้าบาน เจอเจ้านายสายเปย์แบบนี้พวกเขาชอบมาก อากิโอะบอก “แล้วถ้ารถเสร็จเมื่อไหร่พวกคุณก็ไปรับมาล่ะกัน หลังจากนั้นพวกเราจะใช้รถของเรา ไม่ใช้รถของยามาโตะอีก”
“ครับ” โรแลนรับคำสั่ง อากิโอะจึงลุกขึ้นเดินไปที่ห้องทำงาน เซรินเดินตามไป โรแลนกับเจสันก็ตามไปเฝ้าที่หน้าประตูห้อง
จนกระทั่งถึงเวลาเลิกงาน ซึบาสะก็ต้องกลับไปเตือนคนบ้างานอย่างอากิโอะ “คุณ ได้เวลาเลิกงานแล้ว”
อากิโอะเงยหน้าขึ้นจากโน๊ตบุ๊คมองนาฬิกา “โอ้…เย็นแล้วเหรอ”
“คุณนี่บ้างานขั้นสุดจริงๆ” ซึบาสะบอก อากิโอะยิ้มบางๆ แล้วพูดเสียงเบาว่า “ก็เป็นแบบนี้แหละ ทำงานทีไรลืมเวลาไปเลยทุกที”
เขามองเซรินที่ยังคงจิ้มๆ คีย์บอร์ด แล้วหันไปพูดกับซึบาสะว่า “แต่ก็ยังมีคนบ้างานกว่าผมนะ นั่นไง”
“อืม พอกันเลย” ซึบาสะพยักหน้า เขาเห็นสองคนนี้บ้างานพอๆ กัน มิน่าถึงทำงานด้วยกันได้ และที่สำคัญ มิน่า ถึงได้ยังไม่แต่งงานทั้งคู่ บ้างานแบบนี้ใครเป็นแฟนด้วยก็ต้องทำใจเยอะๆ หน่อยล่ะ
“เซริน” อากิโอะเรียก เซรินเงยหน้ามอง “คะ?”
“ไปเถอะ กลับบ้านกัน ได้เวลาเลิกงานแล้ว” อากิโอะบอก เซรินมองนาฬิกา “โอ้”
เธอปิดไฟล์งานแล้วปิดโน๊ตบุ๊ค อากิโอะก็ปิดโน้ตบุ๊คเช่นกัน ทั้งสองเก็บโน๊ตบุ๊คใส่กระเป๋าแล้วหิ้วกระเป๋าลุกขึ้นแทบจะพร้อมกัน จากนั้นอากิโอะก็เดินนำหน้าไป เซรินเดินตามหลัง โรแลนกับเจสันก็ตามประกบท่านนายกฯ พวกบอดี้การ์ดเห็นท่านนายกฯ ออกมาจากห้องทำงานก็รีบเดินประกบทันที อากิโอะไม่สนใจบอดี้การ์ดพวกนั้น เขาเดินไปที่รถแล้วเอากุญแจรถส่งให้โรแลน โรแลนรับมาแล้วเปิดประตูรถให้ท่านนายกฯ อากิโอะเข้าไปนั่งในรถ เซรินก็เข้าไปนั่งข้างคนขับ เจสันก็นั่งข้างท่านนายกฯ โรแลนนั่งประจำที่คนขับ แล้วสตาร์ทรถขับออกไป อากิโอะสั่งว่า “กลับบ้านพัก”
“ครับท่าน” โรแลนรับคำสั่งแล้วขับรถกลับบ้านพักซึ่งอยู่ไม่ไกลจากทำเนียบมากนัก
เมื่อถึงบ้านพัก อากิโอะก็ลงจากรถแล้วเดินเข้าบ้าน เซรินเดินตามไป เธอแยกตัวเข้าห้องพักของเธอไป อากิโอะก็เข้าห้องนอนไปเช่นกัน ส่วนโรแลนกับเจสันก็แบ่งเวรกัน เจสันไปพักก่อน โรแลนยังคงเฝ้าอยู่หน้าห้องนอนท่านนายกฯ พวกบอดี้การ์ดมองเขม่นชาวต่างชาติ 2 คนนั้นที่มาแย่งงานพวกเขา พวกเขาอยากจะท้าสู้กับ 2 คนนั้นซักตั้ง จะได้ให้ท่านนายกฯ เห็นว่าฝีมือพวกเขาดีกว่าหมาต่างชาติ 2 ตัวนั่นตั้งเยอะ ดังนั้น บอดี้การ์ดคนหนึ่งจึงไปท้าเจสันสู้ด้วย เจสันกำลังอยากออกกำลังกายอยู่พอดีจึงรับคำท้า
“ไปๆ ไปที่ห้องยิมกัน” บอดี้การ์ดชวน เจสันเดินตามไป พวกบอดี้การ์ดก็ตามไปเป็นโขยง
เมื่อถึงห้องยิม บอดี้การ์ดก็ตั้งท่า เจสันยืนมองบอดี้การ์ดคนนั้นด้วยท่าทางสบายๆ เขากวักมือ “มา”
บอดี้การ์ดจึงพุ่งเข้าใส่เจสันทันที “ย๊ากกกก—”
ผั๊วะ! บอดี้การ์ดหน้าหงายเริ่ด มึนงงจนเห็นดาวระยิบระยับ เขาตาลอยแล้วล้มลงไป เจสันหดกำปั้นกลับไป มองอย่างเย้ยหยัน “เฮอะ!”
พวกบอดี้การ์ดที่ล้อมดูอยู่ถึงกับตกตะลึงอึ้งไป เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้น!? พวกเขามองไม่ทันเลย เห็นแค่เพื่อนพุ่งเข้าไปแล้วก็ผงะออกมา
“ใครอีก?” เจสันมองบอดี้การ์ดคนอื่นๆ อย่างท้าทาย บอดี้การ์ดถูกมองอย่างท้าทายก็โมโหเลือดขึ้นหน้า คนหนึ่งก้าวไปยืนประจันหน้ากับเจสัน “มา ผมเอง!”
“มา” เจสันกวักมือ บอดี้การ์ดคนนั้นตั้งท่าแล้วพุ่งเข้าไป “ย๊ากกกก—”
พลั่ก! บอดี้การ์ดคนนั้นผงะถอยไป เจ็บจุกจนตัวงอ เขามองไม่ทันเลยว่าไอ้ฝรั่งนี่ขยับตัวตอนไหน! “เชี่ยเอ้ย! แม่ง…เร็วชิ…หาย!”
เขาหันไปมองเพื่อนๆ แล้วยกมือโบก “รุมมันแม่งเลย!”
“อื้ม” พวกบอดี้การ์ดพยักหน้ารับ จากนั้นพวกเขาก็พุ่งเข้าไปรุมยำเจสัน เจสันขยับตัวต่อยเตะผั๊วะๆ พลั่กๆ…ทำให้พวกบอดี้การ์ดผงะออก ถูกต่อยถูกเตะกันไปคนละทีสองที ก็ยังทำอะไรไอ้ฝรั่งต่างชาติไม่ได้เลย! “เชี้ยเอ้ย! เก่งนักเหรอวะ!”
“งั้นแม่งแดกลูกปืนเถอะมึง!” บอดี้การ์ดคนหนึ่งเอาปืนออกมาแล้วเล็งยิงใส่เจสันทันที เปรี้ยง!
เจสันเบี่ยงตัวหลบนิดหนึ่ง ลูกกระสุนพุ่งผ่านเขาไปถูกกระสอบทรายด้านหลัง ปัง!
ทำให้กระสอบทรายทะลุเป็นรู เม็ดทรายไหลพรูออกมา เจสันเหล่มองนิดหนึ่ง เอ่ยว่า “เล่นปืนเลยเรอะ!”
แล้วเขาก็พุ่งเข้าใส่บอดี้การ์ดคนนั้นไวมาก จนเห็นเหมือนเงารางๆ บอดี้การ์ดคนนั้นผงะตกใจ ยังไม่ทันถอยก็รู้สึกเจ็บข้อมือจนร้องลั่น “โอ๊ย!”
เจสันบิดข้อมือบอดี้การ์ดคนนั้นจนเสียงดัง กร๊อบ!
ปืนตกลง เขาใช้มืออีกข้างรับปืนเอาไว้อย่างว่องไว แล้วถือปืนกระบอกนั้นจ่อหน้าผากบอดี้การ์ดคนนั้น กึก!