Chapter 3
อดีตของซึบาสะกับยามาโตะ 2
ยามาโตะบอกเสียงเข้ม “รึว่าคุณไม่อยากฝึกงานผ่าน? ขัดคำสั่งหัวหน้าแบบนี้ไม่ดีนะ”
“ครับ” ซึบาสะได้แต่จำใจรับตำแหน่งอย่างกลัวๆ เกร็งๆ เขาไม่อยากอยู่ใกล้ผู้ชายคนนี้เลย ดูก็รู้ว่าคนๆ นี้คิดจะงาบเขา เขาเป็นผู้ชายตัวเล็กก็จริง หน้าสวยเหมือนผู้หญิงก็จริง แต่ว่าถึงยังไงเขาก็เป็นผู้ชายแท้ๆ ทั้งแท่งนะ! เขาไม่ได้มีใจเบี่ยงเบนไปรักชอบผู้ชายด้วยกันเองได้เลย!
“มาซิ มาดูโต๊ะทำงานของคุณ ถ้าไม่ชอบอะไรก็บอก ผมจะเปลี่ยนให้” ยามาโตะกวักมือเรียก ซึบาสะเดินไปดูโต๊ะทำงานอย่างเกร็งๆ กลัวๆ เขาพยายามยืนอยู่ห่างๆ จากยามาโตะให้มากที่สุด ยามาโตะก็ไม่รุกหนักเกินไป แกะน้อยยังตื่นกลัว ยิ่งเข้าใกล้มากไปแกะน้อยจะเตลิดหนีไปซะก่อน หึๆๆๆ…
ตำแหน่งใหม่ของซึบาสะก็ไม่มีอะไรมาก ชงชาชงกาแฟให้ยามาโตะ หรือไม่ก็ติดตามยามาโตะไปข้างนอก
จนกระทั่งครบกำหนดฝึกงาน ยามาโตะก็เซ็นใบฝึกงานให้ ‘ผ่าน’ โดยดี ซึบาสะโล่งอกมากที่ยามาโตะเซ็นใบฝึกงานให้เขาแล้ว เขารีบเอาใบฝึกงานไปยื่นกับทางมหาวิทยาลัยทันที หลังจากนั้นเขาก็เรียนจบ เขาสมัครงานไว้หลายที่ แต่มีบริษัทนึงที่เขาไม่คิดจะสมัครงานเลยนั่นก็คือกลุ่มบริษัทในเครือ ‘โทมิกรุ๊ป’
เขาถูกเรียกไปสัมภาษณ์งานหลายแห่ง นับไม่ถ้วน แต่ก็ไม่มีบริษัทไหนรับเขาเข้าทำงานเลย เขาสงสัยมาก เพราะคะแนนสอบเขาก็ทำได้ดี แต่ทำไมจึงตกสัมภาษณ์ได้ล่ะ? ในที่สุดเขาก็ทนไม่ไหว จึงขอพบฝ่ายบุคคลที่เป็นคนสัมภาษณ์เขา แล้วเขาก็ได้รู้คำตอบจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลท่านหนึ่งที่ใจดีแอบบอกเขาว่า “จริงๆ แล้วเป็นเพราะเบื้องบนสั่งมา ไม่ให้รับคุณเข้าทำงานน่ะ ถามจริงเถอะ คุณไปทำอะไรให้โทมิกรุ๊ปแบนคุณเหรอ?”
หลังจากได้รู้คำตอบ ซึบาสะก็โกรธจนรีบบุกไปพบยามาโตะที่บริษัททันที ไคโตะเห็นซึบาสะมาก็บอกว่า “ท่านรออยู่ เชิญ”
เขาเปิดประตูห้องทำงานให้ ซึบาสะเดินเข้าไปสีหน้าโกรธจัด เขาเห็นยามาโตะนั่งยิ้มอยู่ที่เก้าอี้ทำงานมองมาที่เขาเหมือนรู้อยู่แล้วว่าเขาต้องมาจนได้ เขาตะโกนใส่ “คุณทำแบบนี้ทำไม!?”
“ก็แค่อยากให้คุณมาทำงานกับผมยังไงล่ะ” ยามาโตะตอบ ซึบาสะโกรธมาก “ผมไม่ทำงานกับคุณ!”
“คุณอยากได้ตำแหน่งไหนล่ะ? บอกซิ ผมสามารถให้คุณได้ทั้งนั้น” ยามาโตะบอกพลางยิ้มบางๆ ซึบาสะโมโหจึงตะโกนใส่เขาว่า “ตำแหน่งนายกน่ะ คุณให้ผมได้ไหมล่ะ!”
“โอ้!” ยามาโตะอุทาน เลิกคิ้วขึ้นแล้วถามว่า “คุณอยากได้จริงๆ รึเปล่าล่ะ?”
“อยากได้ซิ” ซึบาสะตอบอย่างโมโห ยามาโตะจึงบอก “ด้วยความสามารถของคุณตอนนี้ คงไม่อาจก้าวไปถึงตำแหน่งนั้นได้หรอก อย่างแรกเลยคุณต้องไปเรียนต่อ เรียนให้จบระดับปริญญาเอกซะก่อน หลังจากเรียนจบแล้วคุณก็ค่อยลงสมัครส.ส. จากนั้นผมจะกรุยทางให้คุณเอง ว่าไงยังอยากได้อยู่ไหมล่ะ?”
“อยาก” ซึบาสะตอบอย่างโมโห เขาอยากมีอำนาจจนสามารถหลุดพ้นจากคนๆ นี้ หากว่าเขากลายเป็นคนมีอำนาจขึ้นมาเมื่อไหร่ คนๆ นี้ก็จะไม่กล้าบีบบังคับเขาแบบนี้แน่นอน!
“ถ้างั้นคุณก็ไปเรียนต่อซะ เรื่องเงินผมออกให้เอง” ยามาโตะบอก ซึบาสะพยักหน้า “ได้!”
คอยดูซิ เขาจะไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ จะได้อยู่ห่างๆ จากคนๆ นี้ไปไกลๆ คนละทวีปเลย ฮึ่ม!
“งั้นมานี่ซิ มาดูว่าคุณควรจะเลือกคณะไหน? มหาวิทยาลัยอะไร?” ยามาโตะบอกพลางเปิดโน๊ตบุ๊ค ซึบาสะกัดฟันกรอดๆ แล้วเดินไปยืนข้างๆ ยามาโตะอย่างจำยอม ยามาโตะจิ้มๆ คีย์บอร์ดพลางบอก “คณะที่คุณควรจะเรียนก็คือบริหารหรือไม่ก็กฎหมาย ส่วนมหาวิทยาลัยก็ควรจะเป็นมหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งของประเทศอย่าง……….นะ”
“ไม่ ผมจะไปเรียนต่อที่อเมริกาหรือไม่ก็อังกฤษ ต้องเป็นท็อป 10 ของมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในโลกเท่านั้น” ซึบาสะบอกอย่างแน่วแน่ เขายื่นมือไปกดคีย์บอดร์ด ‘มหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดของโลก’ ขึ้นมา บนหน้าจอก็ขึ้น ‘10 อันดับมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดของโลก’ ขึ้นมาทันที เขาคลิกเข้าไปดู หน้าจอก็โชว์รายชื่อมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลกขึ้นมาทันที
1 มหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด (University of Oxford) ประเทศอังกฤษ
2 มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ (University of Cambridge) ประเทศอังกฤษ
3 มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด (Stanford University) ประเทศสหรัฐอเมริกา
4 สถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ (Massachusetts Institute of Technology) ประเทศสหรัฐอเมริกา
5 สถาบันเทคโนโลยีแคลิฟอร์เนีย (California Institute of Technology) ประเทศสหรัฐอเมริกา
6 มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด (Harvard University) ประเทศสหรัฐอเมริกา
7 มหาวิทยาลัยพรินซ์ตัน (Princeton University) ประเทศสหรัฐอเมริกา
8 มหาวิทยาลัยเยล (Yale University) ประเทศสหรัฐอเมริกา
9 อิมพิเรียลคอลเลจลอนดอน (Imperial College London) ประเทศอังกฤษ
10 มหาวิทยาลัยชิคาโก (University of Chicago) ประเทศสหรัฐอเมริกา
“ต้องเป็นหนึ่งใน 10 มหาวิทยาลัยนี้เท่านั้น ผมถึงจะก้าวไปสู่ตำแหน่งนายกฯ ได้” ซึบาสะบอก ในใจคิดว่า เอาซิ คุณอยากให้ผมเรียนต่อก็ต้องเป็น 1 ใน 10 มหาวิทยาลัยนี้เท่านั้น
ยามาโตะมองรายชื่อมหาวิทยาลัยเหล่านั้นแล้วบอกว่า “เอาซิ ถ้าคุณสามารถสอบเข้าได้ ผมก็กล้าส่งเหมือนกัน”
เขาหันไปมองหน้าซึบาสะอย่างท้าทาย ซึบาสะมองตอบอย่างท้าทายเช่นกัน คอยดูซิ เขาจะต้องสอบเข้ามหาวิทยาลัย 1 ใน 10 เหล่านี้ให้ได้!
หลังจากนั้นซึบาสะก็ตั้งหน้าตั้งตาอ่านตำราภาษาอังกฤษอย่างเอาเป็นเอาตาย เพื่อที่จะสอบเข้ามหาวิทยาลัยชั้นนำเหล่านั้นให้ได้!
จนกระทั่งเขาสอบติดมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ของประเทศสหรัฐอเมริกา ยามาโตะก็ส่งซึบาสะไปเรียนต่อตามที่พูดไว้เหมือนกัน ซึบาสะโล่งใจที่ได้ไปอยู่คนละทวีปกับยามาโตะซะที ส่วนคุณแม่กับคุณยายเขาก็บอกทั้งสองว่าเขาได้ทุนไปเรียนต่อต่างประเทศ ถึงแม้ว่าจะเป็น ‘ทุนส่วนตัว’ ของยามาโตะก็ตาม เรื่องนี้เขาไม่ได้พูดออกไป เขาบอกแค่ว่าเขาได้รับทุนจากบริษัทโทมิแค่นั้น ฟูจิเอะ ยามะ แม่ของซึบาสะ กับฟูซาเอะ ยามะ ยายของซึบาสะต่างก็ดีใจมากที่ซึบาสะได้ทุนเรียนต่อต่างประเทศ
ครั้นถึงวันเดินทาง ฟูจิเอะและฟูซาเอะก็พากันไปส่งซึบาสะที่สนามบิน ยามาโตะก็บินไปส่งซึบาสะถึงหอพักของมหาวิทยาลัยเลยทีเดียว หลังจากส่งซึบาสะแล้วยามาโตะก็บินกลับประเทศไป ซึบาสะก็ตั้งหน้าตั้งตาเรียนอย่างเอาเป็นเอาตาย
ในระหว่างที่ซึบาสะเรียนอยู่นั้น ยามาโตะก็บินไปหาบ่อยๆ เท่าที่มีเวลาว่าง ซึบาสะจำใจต้องไปทานข้าวกับยามาโตะ ไปเที่ยวด้วยกัน เขาคิดซะว่านี่เป็นค่าตอบแทนของเขาที่สามารถจ่ายคืนให้ยามาโตะได้ในตอนนี้ รอไว้เขามีเงินมีอำนาจเมื่อไหร่ เขาจะจ่ายคืน ‘ทุนส่วนตัว’ ของยามาโตะให้ครบทุกดอลล่าร์เลยทีเดียว
จนกระทั่งซึบาสะเรียนจบปริญญาเอก เขาก็บินกลับประเทศไป ยามาโตะก็ให้ซึบาสะสมัครเป็นสมาชิกพรรคเสรี ซึ่งเขาเป็นผู้สนับสนุนพรรคนี้อยู่เบื้องหลัง
จากผู้สมัครส.ส.หน้าใหม่ก็ถูกยามาโตะกรุยทางให้จนกระทั่งซึบาสะได้เป็นหัวหน้าพรรคเสรี แล้วก็ได้เป็นนายกฯ เฉกเช่นปัจจุบันนี้
ต่อให้ซึบาสะจะเป็นนายกฯ แล้วก็ตาม แต่เขาก็ยังไม่สามารถหลุดจากอำนาจของยามาโตะได้เลย เขารู้แล้วว่ายามาโตะมีอำนาจมากขนาดไหน กลุ่มโทมิกรุ๊ปครองธุรกิจทุกอย่างในประเทศมาอย่างยาวนาน ดังนั้นยามาโตะจึงเป็นเหมือนราชาผู้อยู่เบื้องหลังประเทศนี้กลายๆ คำพูดของยามาโตะคำเดียวก็ชี้เป็นชี้ตายคนได้แล้ว ซึบาสะซึ่งอยากหลุดพ้นจากอำนาจของยามาโตะจึงหาหนทางอย่างสิ้นหวังมาก ขณะที่เขากลับไปเยี่ยมคุณแม่กับคุณยายที่บ้านเกิด เขาจึงไปขอพรที่ศาลเจ้าฟูชิมิ อย่างหมดหนทาง “ได้โปรดเถอะครับ ได้โปรดช่วยให้ผมหลุดพ้นจากยามาโตะคนนั้นทีเถอะ!”
แล้วเทพเจ้าแห่งศาลเจ้าฟูชิมิก็ปรากฏตัวต่อหน้าเขา บอกว่า “หากอยากหลุดพ้นจากยามาโตะ เจ้าจะต้องให้วิญญาณของคนๆ หนึ่งยืมร่างชั่วคราว”
“ได้ครับ” ซึบาสะตกลงรับปากทันที เมื่อเขากลับไปเมืองหลวงเขาก็ตกบันไดแล้ววิญญาณของเขาก็หลุดออกจากร่างอย่างที่เห็น
“………เรื่องก็เป็นอย่างนี้แหละ” ซึบาสะเล่าพลางมองอากิโอะ อากิโอะฟังแล้วรู้สึกเหลือเชื่อมากๆ แต่ไม่เชื่อก็ไม่ได้ เพราะเขามาอยู่ในร่างของซึบาสะจริงๆ
“เดี๋ยวนะ ผมขอเรียบเรียงข้อมูลก่อนนะ” อากิโอะบอกแล้วคิดทบทวนคำพูดของซึบาสะ ซึบาสะก็ลอยตัวอยู่เงียบๆ ไม่พูดอะไรอีก อากิโอะคิดๆ อยู่นานมาก พลัน! เขาก็ถามว่า “ที่รถผมโดนคนร้ายถล่ม หรือว่าจะเป็นฝีมือของยามาโตะ?”
“ผมไม่แน่ใจ แต่ว่ายามาโตะสามารถทำได้ทุกอย่างเพื่อบรรลุเป้าหมายของเขา ใครที่ขวางทางเขาก็จะถูกเขาจัดการทั้งในทางลับและเปิดเผย” ซึบาสะบอก อากิโอะคิดหนักทีเดียว “อืม?”
“อย่างแรกเลยต้องหาก่อนว่าใครเป็นคนลงมือฆ่าผมซินะ?” อากิโอะเอ่ยออกมา “นี่คงเป็นสาเหตุที่ทำให้ผมไม่อาจไปสู่สุขคติได้ล่ะมั้ง?”
ซึบาสะเงียบไป เขาต้องการแค่ให้ตัวเองหลุดพ้นจากยามาโตะคนนั้นก็พอ อากิโอะมองซึบาสะแล้วคิดๆ ‘นายคนนี้ตัวเล็กน่ารักปุ๊กปิ๊กแบบนี้ ทั้งยังหน้าสวยเหมือนผู้หญิง นี่มันสเปค ‘เกย์ควีน’ ชัดๆ มิน่าล่ะยามาโตะคนนั้นถึงได้หลงขนาดนั้น ถ้านายคนนี้เป็นผู้หญิงจริงๆ เราเองก็คงชอบเหมือนกันแหละ ก็นะสวยซะขนาดนี้ หึๆๆๆ…’
อากิโอะนั่งคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยจนกระทั่งเสียงเคาะประตูดังขึ้น ก็อกๆ
“ท่านคะ ถึงเวลาทานยาก่อนอาหารค่ะ” นางพยาบาลแง้มประตูส่งเสียงบอกเข้าไป อากิโอะจึงดึงสติกลับมาแล้วบอกว่า “เชิญครับ”
นางพยาบาลจึงเปิดประตูเดินเข้าไป ยื่นยาก่อนอาหารให้ “นี่เป็นยาลดกรดค่ะ”
อากิโอะมองยาลดกรดแล้วทำหน้างงๆ ซึบาสะจึงบอก “คือผมเป็นโรคกระเพาะกับกรดไหลย้อนน่ะ ต้องกินยาลดกรดเป็นประจำ”
“อ่อ” อากิโอะพยักหน้ารับรู้แล้วรับยามา “ขอบคุณครับ”
นางพยาบาลยิ้มแล้วรีบรินน้ำให้ อากิโอะกินยาแล้วดื่มน้ำตาม หลังจากนั้นเขาก็บอกว่า “ผมต้องการโน๊ตบุ๊คเครื่องนึง”
“ค่ะ ดิฉันจะบอกบอดี้การ์ดให้เอามาให้ค่ะ” พยาบาลบอกแล้วรีบเดินไปบอกบอดี้การ์ดทันที ไม่นานนักโน๊ตบุ๊คเครื่องหนึ่งก็วางอยู่ตรงหน้าท่านนายกฯ ซึบาสะ อากิโอะพูดกับบอดี้การ์ดที่เอาโน้ตบุ๊คมาให้ “ขอบคุณมาก”
บอดี้การ์ดยิ้มหน้าบานแล้วถอยออกไป อากิโอะเปิดโน๊ตบุ๊คเห็นว่าต้องใส่รหัสผ่าน ซึบาสะจึงบอก “รหัสคือ……….”
อากิโอะจิ้มคีย์บอร์ดป้อนรหัสไป จากนั้นหน้าจอโน๊ตบุ๊คก็เข้าสู่หน้าจอพร้อมทำงาน อากิโอะเช็คดูโปรแกรมในเครื่อง
ซึบาสะลอยตัวอยู่ข้างๆ ดูอากิโอะจิ้มๆ คีย์บอร์ด เขาสงสัยจึงถาม “ทำอะไรเหรอ?”
“ตรวจดูโปรแกรมก่อนน่ะ” อากิโอะบอก แล้วเขาก็เชื่อมต่อไวไฟจากนั้นก็เข้าเว็บๆ หนึ่งโหลดโปรแกรมตรวจจับมัลแวร์มา หลังจากดาวน์โหลดโปรแกรมตรวจจับมัลแวร์แล้วติดตั้งเรียบร้อย เขาก็เปิดโปรแกรมให้สแกนโน๊ตบุ๊คเครื่องนั้นทันที ซึบาสะมองดูอยู่จึงบอกว่า “เครื่องนี้ผมใช้เป็นประจำไม่มีปัญหาอะไรนะ”
“อืม” อากิโอะพยักหน้ารับรู้ โน๊ตบุ๊คคนอื่นถ้าเขาจะใช้เขาก็ไม่ค่อยกล้าใช้เท่าไหร่ เพราะไม่รู้ว่ามีความปลอดภัยสักแค่ไหนจนกว่าเขาจะตรวจสอบจนแน่ใจซะก่อน
หลังจากโปรแกรมสแกนไปสักพักก็แจ้งเตือนว่ามีมัลแวร์กับสปายแวร์อยู่ในเครื่อง เขาจึงคลิกดูโปรแกรมพวกนั้นทีละตัว หลังจากเปิดดูแล้วเขาก็อุทานเบาๆ “โอ้! คุณอยู่ในกำมือเขาจนดิ้นไม่หลุดเลยล่ะ”
“หมายความว่าไง?” ซึบาสะถาม อากิโอะบอก “ก็ดูซิ ไม่ว่าคุณจะติดต่อใคร เสิร์จอะไร มัลแวร์กับสปายแวร์พวกนี้มันก็จะทำให้คนที่ติดตั้งโปรแกรมพวกนี้ไว้ในโน๊ตบุ๊คเครื่องนี้เข้ามาดูประวัติการใช้งานของคุณได้หมดเลยน่ะซิ”
“หมายความว่าผมถูกสอดส่องซินะ” ซึบาสะตกใจอยู่เหมือนกันแต่ไม่มากเท่าไหร่ เขาก็พอจะรู้มาว่ายามาโตะคอยให้คนของเขาสอดส่องพฤติกรรมของตัวเองอยู่ แต่คิดไม่ถึงว่ายามาโตะจะใส่โปรแกรมมัลแวร์สปายแวร์ไว้ในโน๊ตบุ๊คที่เขาใช้ด้วยแบบนี้!
“หึ! กระจอก” อากิโอะแค่นเสียงเยาะคำหนึ่งแล้วเขาก็ตั้งค่าให้โปรแกรมพวกนั้นสอดส่องได้ในระดับพื้นฐาน จากนั้นเขาก็ดาวน์โหลดเบราเซอร์เฉพาะลงมาแล้วติดตั้งเบราเซอร์นั้นลงในเครื่อง ซึบาสะมองดูแล้วเอ่ยว่า “ดูคุณเก่งจัง”
“อ่อ แน่นอนซิก็ผมจบจากสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์นี่” อากิโอะบอก ซึบาสะเลิกคิ้วขึ้น “ก็ไหนในประวัติของคุณบอกว่าคุณจบจาก Fisher College จากอเมริกาไม่ใช่เหรอ?”
“นั่นนะปริญญาอีกใบหรอก อันนั้นผมก็แค่เทียบโอนแล้วลงเรียนไม่กี่วิชาเท่านั้นก็ได้ปริญญาใบนั้นมาแล้ว แต่ที่ผมเรียนจริงๆ จังๆ น่ะคือที่แมสซาชูเซตส์ต่างหาก” อากิโอะบอก ซึบาสะทำหน้าอึ้งๆ ทึ่งๆ ไป
หลังจากตั้งค่าเสร็จแล้วอากิโอะก็เปิดเบราเซอร์ขึ้นมาแล้วเข้าไปที่เว็บไซต์ของธนาคารประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เขาล็อกอินเข้าไปดูบัญชีนิรนามของเขา ยอดเงินยังคงดูปกติดีอยู่ เขาจึงถอนหายใจโล่งอก “เฮ้อ…”
ในขณะที่เขาล็อกอินเข้าไปนั้น ก็มีการแจ้งเตือนการล็อกอินไปยังอีเมลไอดีหนึ่งทันที ปิ๊บๆ
คนที่กำลังนอนอยู่จึงลุกขึ้นมาดูโน๊ตบุ๊คทันที คนๆ นั้นเปิดอีเมลอ่านแล้วตกตะลึงไป “ใครกัน? เป็นใครล็อกอินเข้ามา?”
คนๆ นั้นรีบตรวจสอบทันที นิ้วจิ้มๆ คีย์บอร์ดโน๊ตบุ๊ครัวๆ เพื่อตามรอยการล็อกอินเข้าสู่บัญชีนิรนามบัญชีนั้นอย่างรวดเร็ว แต่ก็เจอการสกัดกั้นมากมายจนยากจะตามรอยได้ ทำให้คนๆ นั้นสบถออกมา “เชี่ยเอ้ย! ใครวะ!?”
เมื่อตามรอยไม่ได้คนๆ นั้นจึงได้แต่เฝ้าจับตาดูการเคลื่อนไหวของบัญชีนิรนามบัญชีนั้นต่อไป
“ธนาคารสวิตฯ เหรอ?” ซึบาสะถามลอยๆ อากิโอะพยักหน้า “ใช่ นี่คือบัญชีของผมเอง”
“โห รวยมาก” ซึบาสะดูยอดเงินแล้วตาโต ไม่ใช่ตาโตเพราะความโลภ แต่ตาโตเพราะจำนวนหลักของยอดเงินนั้นมันเป็นหมื่นๆ ล้านเลยนะ ไม่ใช่หมื่นๆ ล้านเยน แต่เป็นหมื่นๆ ล้านดอลล่าร์! แบบว่ารวยเวอร์เลยอ่ะ!
“งั้นคุณก็ปกปิดบัญชีน่ะซิ” เขาเอ่ยออกมา เขาจำได้ว่าตอนอากิโอะรับตำแหน่งนายกฯ นั้นมีการเปิดเผยข้อมูลทรัพย์สินที่ถือครองด้วย ทรัพย์สินของอากิโอะที่เปิดเผยออกมามีรวมๆ แล้วก็ประมาณ 40 กว่าล้านเยน
“ก็ไม่เรียกว่าปกปิดหรอก เรียกว่าเปิดเผยไม่ได้มากกว่า เพราะว่าเงินพวกนี้ไม่ได้มีชื่อผมขึ้นอยู่ในบัญชีนี่นา” อากิโอะบอก ซึบาสะยักไหล่ “แล้วมันต่างกันตรงไหน? ก็ปกปิดนั่นแหละ”
“ต่างซิ บัญชีนี้ไม่มีชื่อคุณอยู่ จะเรียกว่าคุณเป็นเจ้าของบัญชีได้ไหมล่ะ?” อากิโอะย้อนถาม ซึบาสะเถียงไม่ออก ก็ใช่แหละ
หลังจากดูความเคลื่อนไหวของบัญชีแล้วอากิโอะก็ล็อกเอ้าท์ออก ซึบาสะถาม “แล้วคุณจะทำยังไงต่อไป?”
“จะงัดข้อกับกลุ่มโทมิ ก็ต้องหาจุดอ่อนก่อนซิ” อากิโอะบอก ซึบาสะส่ายหน้า “ถ้าหาได้ผมหาไปนานแล้ว แต่นี่ยามาโตะระวังตัวมาก เรื่องที่เขาทำในที่ลับไม่เคยทิ้งหลักฐานอะไรเอาไว้เลย”
“น่า ค่อยๆ หาไปเดี๋ยวก็เจอจนได้แหละ” อากิโอะบอก ซึบาสะทำหน้าเซ็งอย่างไม่ค่อยเชื่อถือ เขาใกล้ชิดกับยามาโตะมากพอสมควรแต่ก็ไม่เคยเจอหลักฐานอะไรที่จะเอาผิดยามาโตะได้เลย ไม่งั้นเขาคงเอาหลักฐานเหล่านั้นมาขู่ยามาโตะให้เลิกยุ่งกับเขาซะที
แล้วอากิโอะก็เสิร์จดูรายชื่อบอดี้การ์ดที่ตายไปในตอนนั้น คนที่ตายไปล้วนไว้ใจได้ทั้งนั้น ส่วนคนที่เหลืออยู่ แน่นอนว่าเขาต้องตรวจสอบคนพวกนั้นซะแล้ว หึๆๆๆ…ใครเป็นหนอนบ่อนใส้ ขายข่าวให้ศัตรู เขาจะหาตัวมันออกมาให้ได้! คอยดูซิ!
แต่การอยู่ในร่างซึบาสะแบบนี้ก็ไม่ค่อยสะดวกเอาซะเลย จะไปไหนมาไหนก็ลำบากแน่ เพราะตอนนี้เจ้าของร่างคือนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ ทำลายสถิตินายกรัฐมนตรีอายุน้อยที่สุดของ อากิโอะ เอบะไปอย่างขาดลอยเลยทีเดียว เฮอะ!
ถ้าให้เขาเดา พวกบอดี้การ์ดคงเป็นคนของยามาโตะทั้งนั้น รวมถึงนางพยาบาลนั่นด้วย เขาจำได้ว่าตอนที่เขาออกคำสั่งกับเธอ เธอไม่ค่อยจะทำตามคำสั่งเขาเท่าไหร่ แต่พอยามาโตะสั่งเท่านั้นแหละ เธอก็รีบออกไปทันที เห็นได้ชัดเลยว่าใครเป็นเจ้านายแท้จริงของเธอ หึๆๆๆ…
ถ้าเขาจะเคลื่อนไหวอะไรก็ต้องคอยหลบหูหลบตาของยามาโตะให้ดีๆ ซินะ! ฮึ่ม!
“ดูคุณไม่ค่อยตกใจเท่าไหร่” ซึบาสะเอ่ย อากิโอะตอบ “ก็ตกใจไปแล้วไง”
“แค่นั่นน่ะนะ?” ซึบาสะมองหน้า อากิโอะยักไหล่ “จะให้ตกใจนานอะไรล่ะ? รึว่าต้องให้ผมมัวแต่ตกใจอยู่งั้นเหรอ?”
“เปล่า ก็แค่แปลกใจที่ดูคุณจะมีสติมากๆ” ซึบาสะบอก อากิโอะยักไหล่ “ช่วยไม่ได้ ก็คนมันฉลาดนี่นา”
“เฮอะ!” ซึบาสะแค่นเสียงอย่างหมั่นไส้ อากิโอะก็เสิร์จๆ ดูเกี่ยวกับบอดี้การ์ดที่คุ้มกันเขาในตอนนั้น แน่นอนว่าข้อมูลบางอย่างเขาก็เอามาจากฝ่ายความมั่นคงของประเทศ เขาเคยเป็นถึงนายกรัฐมนตรีเชียวนะ ดังนั้นเรื่องต่างๆ ที่คนทั่วไปไม่รู้เขาย่อมรู้ดี หึๆๆๆ…
อากิโอะเสิร์จๆ ข้อมูลอยู่พักใหญ่แล้วก็ลบประวัติการเสิร์จทั้งหมดทิ้งไป จากนั้นเขาก็เปิดเบราเซอร์ปกติขึ้นมาแล้วเสิร์จดูข่าวทั่วๆ ไป แน่นอนว่าประวัติในการเสิร์จเบราเซอร์ปกติพวกโปรแกรมมัลแวร์สปายแวร์พวกนั้นสามารถเข้าถึงประวัติในส่วนนี้ได้ เขาไม่ต้องการให้ยามาโตะรู้ตัวว่าเขารู้แล้วว่าในโน๊ตบุ๊คเครื่องนี้ลงโปรแกรมสปายแวร์เอาไว้ ดังคำที่ว่า ‘อย่าแหวกหญ้าให้งูตื่น’ นั่นแหละ
เขาต้องสวมรอยเป็นซึบาสะไปก่อน ใช้ความปุ๊กปิ๊กน่ารักนี้หลอกยามาโตะให้ตายใจซะก่อน หึๆๆๆ…
ก็อกๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้น นางพยาบาลยกอาหารเข้ามา อากิโอะจึงเงยหน้ามอง “ขอบคุณครับ”
“ค่ะท่าน” นางพยาบาลยิ้มบางๆ ขณะที่เอาอาหารไปวางก็แอบมองหน้าจอโน๊ตบุ๊คไปด้วย อากิโอะเห็นนางพยาบาลแอบมองก็ทำไม่รู้เรื่อง ปล่อยให้เธอมองไป เฮ้อ…สอดส่องกันทุกฝีก้าวเลยนะ!
เขาคลิกข่าวทั่วๆ ไปขึ้นมาอ่านข่าวหนึ่ง นางพยาบาลวางอาหารแล้วก็ถอยออกไป อากิโอะก็ไล่ว่า “คุณจะไปทำอะไรก็ไปเถอะ ไม่ต้องอยู่เฝ้าผมหรอก เดี๋ยวทานเสร็จแล้วผมค่อยเรียกคุณมาเก็บ”
“ค่ะ” นางพยาบาลเดินออกไป อากิโอะจึงพูดกับซึบาสะว่า “เฮ้อ…น่าเห็นใจคุณจริงๆ ถูกสอดส่องตลอดเวลาแบบนี้ผมล่ะอึดอัดแทน”