Skip to content

ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 1126

Cover Renegade Immortal 1

1126. ต่อสู้กับจื่อเฉียง

วินาทีนั้นหวังหลินรู้สึกเย็นเยียบในร่างกาย ความหนาวเย็นเสียดแทงกระดูก สัมผัสอันตรายล้อมรอบตัวเอง ทว่าด้วยประสบการณ์ชีวิตและความตายมาหลายปี หวังหลินจึงมีความคิดจิตใจแข็งแกร่งและสงบนิ่งลงได้ เขาไม่ได้ถอยหรือหลบหนีเพียงแต่ยืนอยู่นิ่งๆ

รูม่านตาหดเล็กลงจนกลายเป็นจุดสีดำ จ้องมองอสูรร้ายที่ดูเหมือนชายหัวล้าน

‘จื่อเฉียง!’ ความตรงจำของเทพโบราณตู่ซือแล่นผ่านศีรษะหวังหลินก่อนจะรวบรวมเรื่องเกี่ยวกับอสูรร้ายตรรงหน้า

หลังจดจำอสูรตัวนี้ได้ เม็ดเหงื่อเย็นผุดขึ้นมาบนหน้าผาก ด้วยระดับบ่มเพาะเขา ความเข้าใจกฏและประสบการณ์ที่เพิ่มขึ้น หวังหลินจึงเข้าใจว่าเหล่าเซียนไม่ได้แข็งแกร่งที่สุด ยังมีอสูรดุร้ายทรงพลังที่น่าหวาดกลัวสุดขีดด้วย

มีอสูรบางตัวที่แม้แต่เทพโบราณแปดดาวยังไม่ต้องการรบกวน! เช่นเดียวกันฝูงอสูรยุงหรือความทรงจำอื่นๆที่หวังหลินพึ่งนึก

อวกาศสีดำมืด แม้กระทั่งดวงดาวก็ไม่อาจส่องสว่างขึ้นในพื้นที่แห่งนี้ ดาวเคราะห์สีม่วงหนึ่งอยู่ห่างออกไปไกล

ร่างสูงหลายร้อยฟุตค่อยๆเหินออกมา ร่างนี้ไม่ได้ใหญ่มากแต่บนศีรษะมีกิ่งก้านจำนวน 36 หัว หากมองใกล้อีกก็จะเห็นว่าแต่ละก้านยาวถึงหมื่นฟุต!

หลังจากมันเหาะเหินออกมาจากดาวเคราะห์สีม่วง พลันร้องคำราม!

เสียงคำรามจากศีรษะทั้ง 36 หัวและสั่นสะเทือนสวรรค์ แม้กระทั่งอวกาศก็เริ่มพังทลายบิดเบี้ยว เป็นฉากเหตุการณ์ที่น่าจับตาดูยิ่ง

อสูรตนนี้ไม่ได้คำรามใส่อวกาศ แต่เป็นเทพโบราณยักษ์ที่ห่างออกไปไม่ไกล!

มีอสูรไม่กี่ตัวที่กล้าคำรามใส่เทพโบราณ ยิ่งกล้าโจมตีใส่ยิ่งน้อยไปอีก จื่อเฉียงสามสิบหกหัวพุ่งเข้าใส่เทพโบราณพลางคำรามไปด้วย

ฉากเหตุการณ์จบลงตรงนี้ หวังหลินมองจื่อเฉียงที่กำลังมองเขาและค่อยๆก้าวถอยหลัง

ศีรษะหนึ่งในนั้นเผยท่าทีลังเล มันมองหวังหลินจากนั้นก็มองร่างศพที่เหลืออยู่ราวกับกำลังชั่งน้ำหนัก

หวังหลินถอยไปอีกก้าวและระวังตนเอง จากความทรงจำของตู่ซือ อสูรตนนี้ทรงพลังมาก หวังหลินต้องยอมรับว่าด้วยระดับบ่มเพาะในปัจจุบัน การจะฆ่าหรือจับอสูรตนนี้เป็นไปได้ยาก ดังนั้นจึงล่าถอยเท่านั้น

อย่างไรก็ตามเขาจะต้องถอยไปอย่างระมัดระวังและทำอย่างช้าๆ หากเร็วเกินไปอสูรตนนี้จะไล่ล่าเขาทันที

‘หากอสูรตนนี้สามารถเป็นอสูรเทพโบราณให้แก่ร่างหลักได้ มันคงทำให้ความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นมหาศาล น่าเสียดาย…’

ขณะที่หวังหลินค่อยๆล่าถอย ศีรษะ 18 หัวของจื่อเฉียงค่อยๆก้มลงและทำการเคี้ยวร่างพวกนั้นต่อไปจนเกิดเสียงกรุบกรอบ

เสียงดังกึกก้องในมิติอันเงียบสงัด

ทว่ายังมีศีรษะที่ยังไม่ก้มลงไปกินซากศพ มันจ้องหวังหลินอย่างเย็นชา ศีรษะหนึ่งดูเหมือนคลื่นอสรพิษและเลียริมฝีปาก

เป็นศีรษะชายวัยกลางคน เส้นผมยุ่งเหยิง โลหิตไหลออกมาจากมุมปาก มันจ้องหวังหลินพร้อมกับลิ้มรสชาติเนื้อในปาก

หลังหวังหลินถอยมาได้สิบก้าว ศีรษะที่เหลือทั้งสิบเจ็ดขมวดคิ้ว แต่ดวงตาชายวัยกลางคนส่องสว่างขึ้นและพ่นเนื้อเน่าๆออกมา

หวังหลินก้าวถอยครั้งใหญ่โดยไม่ลังเล เปลี่ยนเป็นลำแสงพลางหลบหนี ชั่วขณะนั้นศีรษะชายวัยกลางคนจึงส่งเสียงร้องแหลม!

เสียงรร้องมีพลังแทงทะลุผ่านก้อนหินและโลหะ ก้อนหินบางส่วนที่ลอยอยู่พลันพังทลายในทันที

ขณะเดียวกันศีรษะที่เหลือสิบเจ็ดหัวพลันยกขึ้นมาจ้องหวังหลิน จากนั้นพวกมันเปลี่ยนกลายเป็นลำแสงสีดำพุ่งไล่ล่าด้วยความเร็วเกินจินตนาการ

หวังหลินสีหน้ามืดมน ไม่อาจเข้าใจว่าอสูรตนนี้คิดอะไรอยู่ เดิมทีเขาไม่ได้ต้องการรบกวนมัน แต่ตอนนี้มันยิ่งเข้ามาใกล้ขึ้นทุกขณะ

หวังหลินไม่สามารถใช้วิชาบิดมิติภายในดินแดนเทพโบราณได้ แต่เขาสามารถใช้เคลื่อนที่พริบตาได้ ร่างหวังหลินกระพริบวูบวาบและหายตัวไป

อย่างไรก็ตามขณะที่เขาหายไปในเวลาไม่นาน จื่อเฉียงที่ไล่ล่าเขาก็หายไปด้วย

พอหวังหลินก้าวออกมาจากอากาศ สีหน้าพลันเปลี่ยนไปและรีบก้าวไปด้านข้าง ปราณกระบี่ยาวร้อยฟุตผ่านเขาไปจนเกิดเสียงดังปัง

สายลมกรรโชกรุนแรงพัดบนใบหน้า หวังหลินรีบหันกลับมา จื่อเฉียงเคลื่อนที่พริบตาไล่ล่าหวังหลินมาด้วย ปราณกระบี่โผล่ออกมาจากหนึ่งในปากมัน

ดวงตาของสิบแปดหัวมีระดับกระหายเลือดและความโลภต่างกัน พวกมันทั้งหมดจ้องหวังหลินพร้อมกับพุ่งเข้ามา คล้ายอยากกลืนกินและต้องการลิ้มรสชาติเนื้อที่ยังมีชีวิต

หวังหลินรีบเคลื่อนที่พริบตา จี่เฉียงส่งเสียงคำรามและรีบตามไป คนและอสูรจึงเคลื่อนที่พริบตาอย่างต่อเนื่องในมิติว่าง

จื่อเฉียงเร็วมาก หากเขาไม่ได้ใช้เคลื่อนที่พริบตา หวังหลินคงไม่สามารถเทียบได้ อย่างไรก็ตามหวังหลินก็ระวังตัวและมักจะทำได้ถูกจังหวะ ดังนั้นเขาจึงสามารถรักษาระยะห่างได้

จื่อเสียงส่งเสียงคำรามรุนแรงขึี้น ศีรษะหนึ่งในนั้นเป็นสตรีเฒ่า นางกัดปลายลิ้นและพ่นโลหิตเหม็นเน่าออกมา

โลหิตขยับเคลื่อนไหวเปลี่ยนกลายเป็นอักขระรูนสีแดงโลหิตสองชิ้น หนึ่งนั้นลอยขึ้นสู่อากาศและอีกหนึ่งลอยเข้าสู่พื้นดิน คลื่นแสงโลหิตปรากฏขึ้นมาและผนึกฟ้าดิน!

การเคลื่อนที่พริบตาทั้งหมดคงเหมือนการกระแทกกับแผ่นเหล็กข้างในพื้นที่ปิดผนึกแห่งนี้!

หวังหลินกำลังจะเคลื่อนที่พริบตา พลันสีหน้ามืดมน ยื่นแขนเปิดมิติเก็บของ ขณะที่จื่อเฉียงเข้าใกล้ หวังหลินนำยันต์เซียนสีเหลืองออกมา

หวังหลินวางแทบหน้าอกโดยไม่ลังเลและเกิดสายลมเข้าล้อมรอบ จากนั้นพุ่งออกไปด้วยความเร็วที่เพิ่มขึ้นมหาศาลและหายวับไปในแสงกระพริบ

ศีรษะทั้งสิบแปดดูตกตะลึงแต่หลังจากนั้นมันก็ร้องคำรามเป็นเสียงเดียวกัน ศีรษะหนึ่งเป็นหญิงสาวเผยเสียงกรีดร้องดุร้าย สายลมทมิฬปรากฏขึ้นมาล้อมรอบจื่อเสียง สายลมสร้างพายุและพุ่งไปพร้อมกัน ไล่ล่าหวังหลินอีกครั้ง

ขณะเดียวกันบทร่ายหลายอย่างโผล่ออกมาจากอีกสี่หัว ปรากฏอักขระรูนสีดำขึ้นมามากมาย พวกมันส่องแสงและประทับไปบนพายุ

ซึ่งทำให้ความเร็วของพายุเพิ่มขึ้นหลายเท่า ระยะห่างหวังหลินได้มาพลันถูกปัดในทันที

ตอนนี้หวังหลินอยู่ใกล้กับทางเข้าพื้นที่ถัดไปมาก และเห็นวังวนยักษ์ด้านหน้าอย่างเลือนลาง

หวังหลินรู้ตัวว่าเมื่อเข้าไปในวังวนจะสามารถออกไปจากที่นี่และลาจากอสูรร้ายไปได้ แต่เขาไม่มีเวลานัก แม้เสียงพายุอยู่ห่างไกลแต่มันอยู่ในระยะพันฟุตแล้ว!

หากเป็นเช่นนี้ต่อไป จี่เฉียงจะไล่ตามเขาทันก่อนที่หวังหลินจะเข้าไปในวังวนได้!

จังหวะวิกฤติ หวังหลินกระพริบสายตาเย็นเฉียบ แขนซ้ายสร้างผนึกและโบกแขน ปรากฏทะเลเพลิงขึ้นมาเป็นม่านพลังในทันที หวังหลินหันกลับมา ดวงตาขวากระพริบสายฟ้าและชี้ออกไป

เพียงชั่วพริบตาสายฟ้าดังสนั่นในมิติว่างและมีสายห้าโผล่ออกมาจากมือหวังหลินมากมาย ก่อตัวเป็นตาข่ายและตกลงเข้าหาเปลวเพลิง

พายุทมิฬรอบจื่อเฉียงจึงปะทะกับทะเลเพลิงในทันที เกิดเสียงดังสั่นสะเทือนสวรรค์ เปลวเพลิงหายไปและกระจัดกระจายทันที

พายุทมิฬหยุดชะงักไปหนึ่งจังหวะเนื่องจากเปลวเพลิง แต่จื่อเฉียงพุ่งออกมาจากพายุและเหาะเข้าหาหวังหลิน ศีรษะ 18 หัวเผยท่าทีดุร้าย โดยเฉพาะชายวัยกลางคนที่เต็มไปด้วยการตื่นเต้นอยากจะกินร่างเนื้อที่มีชีวิต

ทว่าหวังหลินระมัดระวังตัวไว้แล้ว ตาข่ายสายฟ้าเข้าล้อมรอบจื่อเฉียงทันที ตาข่ายส่งเสียงดังป๊อปไม่หยุดและจื่อเฉียงคำรามออกมาแต่ไม่ได้ชะลอตัวลง

หวังหลินดวงตาส่องสว่าง วิชาเพลิงและสายฟ้าของเขาทรงพลังมากแต่ก็ไม่ทำให้จื่อเฉียงได้รับบาดเจ็บพอ ทำได้แค่ขวางมันเท่านั้น ซึ่งเขายังมีโอกาสในการเข้าสู่วังวนและหลีกเลี่ยงการไล่ล่าได้

แต่หวังหลินไม่ยอมจากไปแบบนี้!

“หากเจ้ากล้าไล่ล่าข้า เช่นนั้นก็ต้องชดใช้!” แววตาเย็นเยียบพลางใช้สองมือสร้างผนึก พลังดั้งเดิมพรั่งพรูออกมาในร่างกาย

กลิ่นอายสังหารปะทุออกมาจากร่างและก่อตัวเป็นตาข่ายพลังสังหาร หวังหลินร้องคำรามและชี้ออกไป!

พลังสังหารรวมตัวกันจนกลายเป็นสายสีแดงเข้มในพริบตา มันพุ่งใส่จื่อเฉียง สร้างเสียงดังสนั่นตามรายทาง

เรื่องทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในพริบตา ขณะที่พลังสังหารสีแดงเข้มพุ่งออกไป จื่อเฉียงสั่นระริก ตาข่ายสายฟ้ารอบตัวแตกสลายทันที

เมื่อตาข่ายสายฟ้าแตกสลาย พลังสังหารบิดเบี้ยวพุ่งผ่านอากาศดุจอุกกาบาตและปรากฏขึ้นในสายตาสิบแปดคู่ของทั้งสิบแปดหัว

—–

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!