Skip to content

ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 1144

Cover Renegade Immortal 1

1144. สายรุ้ง

เสียงหัวเราะโอหังดังสนั่น นอกจากชายชราแล้วยังมีชายหนุ่มชุดม่วงอยู่ด้วย เสียงหัวเราะเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและโอหัง

“ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป สำนักต้นกำเนิดจะกลายเป็นของข้า!”

อสูรทมิฬตัวยักษ์เข้าสู่แผ่นดินโม่หลัวพร้อมกับเสียงดังสนั่นคับฟ้า ชายชราซึ่งยืนอยู่ตรงศีรษะอสูรยักษ์มองดูชายหนุ่มด้วยรอยยิ้ม

อสูรทมิฬด้านล่างชายหนุ่มพุ่งเข้าหาสำนักต้นกำเนิดทางทิศตะวันออกด้วยความเร็วชั่วพริบตา

“ปรมาจารย์น้อยแห่งเต๋าม่วงมาถึงแล้ว ทำไมสำนักต้นกำเนิดไม่ออกมาทักทายเล่า?!” ชายชราเอ่ยน้ำเสียงดังตามมาด้วยเสียงคำรามเจ้าอสูรร้าย บนแผ่นดินมีเพียงสำนักเดียวคือสำนักต้นกำเนิด ชายชรารู้ว่าปรมาจารย์น้อยนั้นชอบทำตัวเหนือผู้อื่น โดยปกติเขาเองก็ไม่ชอบทำแบบนี้แต่ตอนนี้ชะตาของสำนักต้นกำเนิดอยู่ในมือเขา ดังนั้นเขาจึงมากับปรมาจารย์น้อยที่กำลังโอหัง ชายชราสะบัดมือพัดสายลมม่วงกวาดผ่านออกไป

สายฝนทั้งหมดที่กำลังตกหล่นลงมาพลันถูกดันกลับ สายลมพัดผ่านราวกับมันถูกหยุดเอาไว้! แม้แต่สายฟ้ายังถูกสายลมฉีกกระชากผ่าออกไปดุจดอกไม้เบ่งบาน

นาทีนี้ศิษย์ทั้งหมดในสำนักต้นกำเนิดจึงถูกปลุกขึ้นตื่นจากการบ่มเพาะ สีหน้าแต่ละคนซีดขาวเนื่องจากสัมผัสถึงแรงกดดันบดขยี้ได้ตลอดเวลา

บนยอดภูเขาทางด้านทิศตะวันออกในสำนักต้นกำเนิด ชายวัยกลางคนพร้อมกับผู้อาวุโสอีกสี่คนมีสีหน้าขมขื่น พวกเขาหลับตาลงอย่างเงียบๆจากนั้นฝืนลืมตาขึ้นมา เปลี่ยนตนเองเป็นลำแสงและลอยไปทางทิศตะวันตก

“ท่านอาจารย์พึ่งตายไป สำนักเต๋าม่วงก็ทำท่าทีโอหังเช่นนี้แล้ว ข้ายังต้องอดทนอีก ทำไมไม่ให้ข้า ลี่เซียงตง ขอโอหังสักครั้งเล่า? แม้ข้าจะตายก็ขอตายอย่างมีเกียรติ!”

เสียงถอนหายใจดังออกมาจากยอดเขาทิศเหนือและตะวันตก สองชายชราลอยออกมามองหน้ากันเองก่อนจะลอยไปทางทิศตะวันตก ณ เวลานี้ด้วยชะตากรรมของสำนักต้นกำเนิด พวกเขาไม่อาจอดทนได้อีกต่อไปแล้ว!

อย่างไรก็ตามแม้ไม่อาจทนได้ แต่จะทำยังไงได้เล่า? เขาจะกล้าสังหารปรมาจารย์น้อยแห่งสำนักเต๋าม่วงได้อย่างไร? อีกทั้งพลังอำนาจภายในคำพูดของชายชรานั้นเพียงพอให้แต่ละคนจิตใจสั่นไหวได้แล้ว

“ซ่งหวู่เต๋อ…ในอดีตพ่ายแพ้ต่ออาจารย์ ตอนนี้อาจารย์ตายไปแล้วเขาจึงมาเอง…หรือว่าสำนักต้นกำเนิดของข้าเผชิญชะตากรรมให้ล่มจมไปตลอดกาลจริงๆ…” บนยอดภูเขาทางใต้ หลิวหยานเฟยยืนอยู่ในอารามสีแดง ใบหน้าเต็มไปด้วยความโศกเศร้าและมีจิตสังหารเต็มเปี่ยม นางพุ่งออกไปเป็นเส้นแสงสีแดงทางทิศตะวันตกโดยไม่ลังเล

“โอหัง แม้ข้าหลิวหยานเฟยจะต้องตาย ข้าก็ไม่ขอยอมภักดีต่อเจ้า!!!” หลิวหยานเฟยกัดริมฝีปากเล็กน้อย หยาดน้ำตาไหลลงสองแก้มผสมปนเปกับหยาดฝนจนแยกไม่ออก…

เบื้องหลังผู้อาวุโสทั้งสี่ของสำนักต้นกำเนิดคือศิษย์สายตรงของตนเอง พวกเขาพุ่งไปทางทิศตะวันตกด้วยความตื่นตระหนก มุ่งมั่นหรือไม่ก็โกรธแค้น

ซิ่วหยุนอยู่ในนั้นด้วย นางเผยใบหน้ามุ่งมั่นพร้อมจะตาย อย่างไรก็ตามด้วยเหตุผลบางอย่างขณะที่นางกำลังเหาะเหิน มีสองร่างปรากฏขึ้นในใจ

หนึ่งนั้นเป็นชายผมสีดำ ร่างกายผอมบางแต่สงบนิ่งดั่งน้ำอยู่เสมอ อีกร่างเป็นคนผมขาวและเพียงสะบัดนิ้ว โลกก็ล่มสลาย!

สองร่างนี้อยู่ในจิตใจนางจนในที่สุดมันก็ทับซ้อนกัน

หวังหลินยืนอยู่ข้างในอารามเต๋า มองดูลำแสงหลายเส้นหายไปเบื้องหน้า เขาส่ายศีรษะไม่รู้ว่าจะไปไหนดีหลังจากสำนักต้นกำเนิดถูกทำลาย

ท้ายที่สุดเขาขมวดคิ้วและพึมพำ “มีปัญหาจริงๆ…” พลันสะบัดแขนเสื้อ ก้าวไปข้างหน้า ปรากฏระลอกคลื่นใต้ฝ่าเท้าและหายตัวไปจากอาราม

เจ้าอสรพิษม่วงซึ่งหมอบต่ำมาตั้งแต่ที่หวังหลินปรากฏตัว มันพุ่งออกไปทั้งที่ยังเต็มไปด้วยความหวาดกลัว ร้องคำรามเข้าหาทิศที่หวังหลินจากไปราวกับรู้ว่าหวังหลินจากไปและคงไม่กลับมาอีกนาน มันจึงกล้าร้องคำรามใส่

ค่ำคืนของแผ่นดินโม่หลัวกำลังจะจบลง ดวงอาทิตย์กำลังส่องแสง วินาทีนั้นสายลมม่วงลอยข้ามผ่านท้องฟ้า อสูรจิตวิญญาณสีดำตามติด ชายชราดูโอหังและสงบนิ่ง เขามั่นใจว่าสามารถจัดการกับสำนักต้นกำเนิดได้ง่ายๆ

ชายหนุ่มชุดม่วงด้านข้างเผยท่าทีตื่นเต้นและเริ่มร้องตะโกนอย่างลามก

“ลุงซ่ง ให้หลิวหยานเฟยบาดเจ็บหนักแต่อย่าสังหารนาง ให้ข้าเล่นกับนางก่อนสักสองสามวันและดูดพลังดั้งเดิมให้แห้ง จากนั้นค่อยสังหารนางยังไม่สาย!” ชายหนุ่มเลียริมฝีปาก

ชายชราด้านข้างพยักหน้า ขณะที่กำลังจะเอ่ยขึ้นมาเขาพลันตกตะลึงและจ้องตรงไปข้างหน้า

เขาเห็นระลอกคลื่นปรากฏขึ้นในความว่างเปล่าข้างหน้า พลังดั้งเดิมผันผวนเริ่มแพร่กระจาย ชายผมขาวเดินออกมาจากระลอกคลื่นนั้น!

ชายผมขาวสีหน้าเยือกเย็น วินาทีที่ปรากฏตัวพลันเกิดจิตสังหารมหึมาเต็มทั่วโลก อสูรจิตวิญญาณทมิฬถึงกับหยุดชะงัก ชายชราสีหน้าเปลี่ยนไป ชายหนุ่มชุดม่วงขมวดคิ้วและกำลังจะร้องตะโกนตอนที่ถูกหยุด ชายชราจ้องหวังหลินด้วยสีหน้าเคร่งเครียดก่อนจะเอ่ยขึ้น “ข้าซ่งหวู่เต๋อแห่งสำนักเต๋าม่วง สหายเซียนไว้หน้าข้าและให้ข้าผ่านไปได้ไหม?”

พอได้ยินคำพูดชายชรา ชายหนุ่มชุดม่วงตกตะลึงและประเมินหวังหลินอย่างละเอียด

“ข้าจะไว้หน้าเจ้าก็ได้ ดังนั้นจงออกไปจากที่นี่ซะและอย่ากลับมาอีก!” น้ำเสียงเยือกเย็นของหวังหลินเสียดแทงเข้าใส่ชายชราดุจสายลมหนาวเย็น

ชายชราสีหน้าเปลี่ยนไปทันที แม้เขาจะอ่อนแอกว่าบรรพชนสำนักต้นกำเนิดแต่เขาก็ยังเป็นเซียนขั้นชำระสวรรค์ระดับกลาง กระนั้นเขาก็ไม่สามารถมองทะลุระดับบ่มเพาะของอีกฝ่ายได้จึงกล่าวคำสุภาพออกไป ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะมีท่าทีโอหัง

“น้ำเสียงโอหังอะไรกัน แม้แต่บรรพชนสำนักต้นกำเนิดที่เผชิญหน้าสำนักเต๋าม่วงของเรา เขายังต้อง…” ก่อนที่ชายชราจะพูดจบ ชายหนุ่มชุดม่วงด้านหลังเขาก็หัวเราะ

หวังหลินไม่พูดจาอีกต่อไป แววตาเย็นเยียบวูบวาบ ก้าวไปข้างหน้ายกแขนขวาขึ้นส่งพลังสังหารหลายเส้นสายออกจากร่าง

วินาทีนี้ปรากฏจิตสังหารมหึมาอยู่เต็มเปี่ยม! พลังสังหารหนาแน่นจนทำให้ความเย็นเกิดขึ้นมากมาย หยาดฝนทั้งหมดรอบด้านกลายเป็นผลึกน้ำแข็ง!

อสูรวิญญาณขนาดพันฟุตเริ่มสั่นเทาทันที มันฉลาดและสังเกตอันตรายจากพลังสังหารนี้ได้ เมื่อรู้สึกอันตรายมันจึงเริ่มถอยโดยไม่รอคำสั่ง

ชายหนุ่มชุดม่วงใบหน้าซีดแต่ยังคงร้องตะโกน “เจ้า…”

ทว่าก่อนที่จะทันได้พูดจบ ชายชราผลักชายหนุ่มและส่งเขาลอยกลับไปที่อสูรวิญญาณทันที จากนั้นสะบัดแขนให้รีบถอยร่น

“รีบหนีไป!! ไว้เจอกันอีกครั้งหลังจากข้าฆ่าคนผู้นี้เสร็จ!” ชายชราเผยสีหน้าเคร่งเครียด หลังจากส่งเจ้าอสูรวิญญาณให้ออกห่างไป เขาก็พุ่งเข้าหาหวังหลิน

หายากนักที่ชายหนุ่มชุดม่วงจะเห็นชายชรามีสีหน้าเคร่งเครียดเช่นนี้ ดังนั้นจึงตื่นตระหนกในใจ เขารีบถอยไปพร้อมกับอสูรวิญญญาณ

หวังหลินโบกแขนขวา พลังสังหารทั้งหมดรอบตัวเริ่มคลุ้มคลั่ง แต่ละเส้นสายปลดปล่อยเสียงร้องโหยหวนพุ่งหาชายชรา

รูม่านตาชายชราหดแคบลงทันที ฝ่ามือสร้างผนึกปรากฏสายลมม่วงปะทะกับพลังสังหาร ส่งเสียงดังสนั่นออกไปกว้างไกล

“อัญเชิญสายฝน!” หวังหลินยกแขนซ้ายชี้ใส่ท้องฟ้า วินาทีนั้นสายฝนภายในระยะพันฟุต หมื่นฟุต แสนฟุตพลันสั่นเทาตามที่หวังหลินชี้ไป หยดสายฝนทุกเม็ดสั่นสะท้าน พลังดั้งเดิมรอบๆรวมถึงสายฝนพุ่งเข้าหาชายชรา

จิตใจชายชราตื่นตะลึงเป็นอย่างยิ่งจนหาคำพูดใดออกมาอธิบายไม่ได้ เขาไม่เคยเห็นวิชาทั้งสองที่ชายหนุ่มชุดขาวคนนี้ใช้มาก่อน กระนั้นพลังอำนาจของวิชาก็ทำให้เขาอ้าปากค้างได้แล้ว เขากำลังจะหลบเลี่ยงแต่เมื่อสายตาหวังหลินจับจ้องลงมา หวังหลินเอ่ยคำพูดออกมาเพียงหนึ่งคำ

“หยุด!”

ชายชราร่างสั่นเทาและหยุดค้างกลางอากาศ วินาทีนั้นผลึกน้ำแข็งเย็นสุดขั้วรอบด้านรวมกันรอบชายชรา วินาทีต่อมาจึงเกิดผลึกน้ำแข็งยักษ์กลางอากาศ

หวังหลินไม่หยุดเพียงแค่นี้ แขนขวายื่นออกไปเปิดมิติเก็บของ กระบี่เหล็กขึ้นสนิมปรากฏในฝ่ามือหวังหลิน

หวังหลินก้าวเดินไปพร้อมกระบี่ ยกขึ้นและตวัดลงอย่างสุดแรง!

โลกยังคงส่องแสงเจิดจ้า แต่ในจังหวะกระบี่ตัดผ่านลง ทั้งโลกพลันถูกห่อหุ้มอยู่ในแสงกะพริบเจิดจ้าในชั่วพริบตา

เสียงดังสนั่นกึกก้องคับฟ้า ผลึกน้ำแข็งแตกกระจายกลายเป็นเศษโลหิตชิ้นเล็กชิ้นน้อย แววตาของชายชรายังคงตกตะลึงและไม่เชื่อตัวเองตอนที่ร่างกายถูกแยกส่วน แม้แต่วิญญาณดั้งเดิมยังแตกกระจายภายใต้แรงกดดัน ทั้งยังเกิดระเบิดเป็นคลื่นกระแทกอีก

เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นเพียงไม่กี่ลมหายใจ! สังหารในเสี้ยววินาที!

แม้แต่ตอนที่เขาตาย ชายชรายังไม่เชื่อว่าตนเองจะถูกสังหารภายในชั่วเวลาสั้นๆ! ทั้งการตายยังไม่สมเหตุสมผลอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นพลังสังหารหรือวิชาอัญเชิญสายฝน วิชาพวกนี้ทรงพลังอำนาจพอจะสั่นคลอนทุกผู้คนในโลกแห่งเซียนแล้ว อีกทั้งการโจมตีจากสมบัติขั้นสวรรค์ดับสูญนั่นเพียงพอให้เซียนขั้นชำระสวรรค์สูงสุดสูญเสียกายเนื้อได้แล้ว!

คงไม่ต้องกล่าวถึงประสบการณ์การต่อสู้ของหวังหลินหรอก ซ่งหวู่เต๋อไม่ได้ตายเพราะคนไร้ชื่อ!

หลังฆ่าซ่งหวู่เต๋อในเสี้ยวพริบตา หวังหลินหันกลับมามองอสูรวิญญาณที่ยังไม่จากไปไกล ชายหนุ่มชุดม่วงเป็นพยานการรู้เห็นความสยดสยองทั้งหมด

หวังหลินมองชายหนุ่มอย่างเยือกเย็นและก้าวเท้าออกไป!

ลำแสงหลายเส้นสายมาถึงด้านหลังหวังหลิน เสียงกรีดร้องเต็มไปด้วยความหวาดกลัวดังเข้าสู่โสตประสาทของสี่ผู้อาวุโสสำนักต้นกำเนิดอย่างชัดเจนและดังกึกก้องในใจหลิวหยานเฟย

วินาทีนั้นท้องฟ้ากระจ่างชัด สายฝนหายไปปรากฏสายรุ้งขึ้นข้ามผ่านท้องฟ้า ร่างที่ไล่ตามอสูรวิญญาณทมิฬตัวนั้น เส้นผมสีขาวของเขาพร่าเลือนแต่กลับประทับไว้ในสายตาหลิวหยานเฟยชัดเจน…

…………………….

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!