1311. การต่อสู้แห่งโชคชะตา 1
กำปั้นทลายสวรรค์ ส่งแรงกระแทกของดาวเคราะห์เซียนทั้งดวงทุ่มลงใส่ ท่ามกลางเหล่าเซียนขั้นที่สามจำนวนสามคนนั้น มีหนึ่งคนเป็นขั้นวิญญาณดับสูญ ส่วนอีกสองคนเป็นขั้นสวรรค์ดับสูญ พวกเขาคุ้นเคยกับต้าเสินและสงบนิ่งอยู่เบื้องหน้ากำปั้น ไม่ได้กระจายกำลังแต่สัมผัสหน้าผากของตัวเอง
เสี้ยววินาทีนั้นพลังอันแข็งแกร่งโผล่ออกมาจากร่างกาย เปลี่ยนกลายเป็นลำแสงชั่วร้ายสามเส้นพุ่งเข้าหากำปั้นของต้าเสิน
ทั่วโลกเกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว เสียงร้าวสะท้อนออกมาพร้อมกับเกิดรอยแตก ขณะที่คลื่นกระแทกแพร่กระจาย ราวกับอวกาศเองก็กำลังแบ่งตัวออกเป็นสองส่วน!
การต่อสู้ของเซียนขั้นที่สามสามารถทำให้ดาราจักรล่มสลาย!
ต้าเสินส่งเสียงครวญครางในลำคอ ดวงตาเผยแววบ้าคลั่ง เซียนทั้งสามคนที่ไล่ล่าเขาไม่เคยแยกจากกัน ตลอดสิบปีที่ผ่านมาพวกเขาไม่เคยออกห่างเพื่อให้เขามีโอกาสฆ่าทีละคนเลยสักครั้ง!
อย่างไรก็ตามเพื่อการจับหวังหลินให้เร็วที่สุดและไม่พัวพันกับทั้งสามคนนี้ เขาจึงเผยความบ้าคลั่งออกมา
“เทพเช่นข้าสังหารเซียนขั้นที่สามไปหลายคนแล้วในชีวิต เจ้าทั้งสามไล่ล่าข้ามาสิบปี คิดว่าข้าไม่สามารถต่อกรกับพวกเจ้าได้หรือ? ดวงดาว สลาย!!” ดวงดาวกลางหน้าผากส่องสว่างเจิดจ้าและมีดวงหนึ่งลอยออกมามีพลังทะลุทะลวงอันแข็งแกร่งเกินอธิบายจนเห็นเป็นแสงพร่าเลือน แม้แต่หวังหลินที่ผสานกับโลกและอยู่ห่างไกลยังสัมผัสได้ถึงพลังเทพโบราณที่ไม่อาจหยั่งถึง!
ดาวเทพโบราณส่องสว่างเจิดจรัส ต้าเสินส่งเสียงคำรามอย่างบ้าคลั่ง
“ระเบิด!!”
เขาทำลายดวงดาวอย่างไม่ลังเลเพื่อหยุดเซียนสามคนซึ่งทำให้เขาล่าช้า นี่แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่จะกลืนกินหวังหลิน!
ดวงดาวเทพโบราณปลดปล่อยความสิ้นหวังไร้จุดสิ้นสุดพร้อมกับพลังระเบิดทำลายล้างโลก แรงระเบิดขยายขนาดกว้างจนก่อตัวเป็นพายุกวาดพัดไปทั่วบริเวณ
ตึงตัง ตึงตัง ตึงตัง ตึงตัง!
เสียงดังสนั่นจนดูเหมือนโลกกำลังล่มสลาย อวกาศฉีกเปิด รอยแยกอวกาศขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นมาปกคลุมพื้นที่ระยะห้าแสนลี้
ดาวเคราะห์เซียนมากมาย เหล่าเซียนนับไม่ถ้วนและเหล่าสิ่งมีชีวิตทุกอย่างได้เปลี่ยนเป็นเถ้าถ่านทั้งหมด!
พื้นที่เล็กๆส่วนหนึ่งของดาราจักรโบราณถึงกับสั่นเทาและเกิดพลังทำลายล้างอันบ้าคลั่งระเบิดออกมา ส่งผลให้เกิดคลื่นกระแทกแพร่กระจายออกไปอย่างต่อเนื่อง
เซียนขั้นที่สามทั้งสามคนปลดปล่อยพลังเต็มที่ของตัวเองยามที่เผชิญหน้ากับพลังแข็งแกร่งนี้ พวกเขาต่างก็ใช้สมบัติและวิชาโดยไม่รั้งไว้ แต่ก็ยังโดนผลักกระจายตัวกันออกไป
ชายชราขั้นวิญญาณดับสูญใช้ฝ่ามือสร้างผนึก แม้จะโดนผลักและใบหน้าซีดเซียวแต่เขาไม่ได้บาดเจ็บสาหัสเกินไป พลังของการสลายดวงดาวได้หายไปทีละชั้น
ทว่าชายหนุ่มและหญิงสาวเคียงข้างเขากระอักโลหิตและถอยอย่างรวดเร็ว เสียงดังสนั่นตึงตังขึ้นเบื้องหน้าทำให้ทั้งสามคนแยกทางกัน!
“ในที่สุดก็แยกจากกันได้!” ต้าเสินยอมทำลายดาวของตนเองเพื่อแยกพวกเขาให้ออกจากกัน ตอนนี้พอแยกกันแล้วจึงไม่มีอะไรต้องกลัว เขาก้าวไปข้างหน้าด้วยรอยยิ้มน่าขนลุก ร่างกายใหญ่ยักษ์ไร้เทียมทานพุ่งมาถึงด้านข้างชายหนุ่มขั้นสวรรค์ดับสูญทันที ดวงดาวที่เหลือบนหน้าผากหมุนติ้วก่อตัวเป็นวังวนยิงเข้าหาชายคนนั้น
ชายชราขั้นวิญญาณดับสูญมีสีหน้าท่าทางเปลี่ยนไปทันทีและรีบร้องคำราม “ปรมาจารย์ซือโม่ ถอย!” อวกาศรอบตัวเขาปรากฏระลอกคลื่นดุจดั่งสายน้ำ เขาพุ่งตัวตรงเข้าหาปรมาจารย์ซือโม่ซึ่งถูกวังวนดวงดาวเทพโบราณล้อมรอบ
ปรมาจารย์ซือโม่เป็นชายวัยกลางคน ดวงตาเปล่งประกาย ยามที่ดวงดาวเข้ามาใกล้ สองฝ่ามือสร้างผนึกและเริ่มพึมพำ “ผู้จองจำแห่งเต๋าสวรรค์ สรรพสัตว์ทั้งหลายจำต้องอดทนต่อหายนะที่ไม่อาจคาดคะเนได้ มีเพียงต้องคิดหาทางออกจากที่จองจำเท่านั้น สิ่งมีชีวิตจำต้องเดินไปข้างหน้าตลอดกาลและแก้ปัญหาไปเรื่อยๆ หนีออกจากอำนาจแห่งสวรรค์และได้รับเส้นทางแห่งชีวิต ผนึกอำนาจแห่งสวรรค์ สลักวันคืนอันมืดมิด รอคอยเส้นทางแห่งการฝึกฝน…”
น้ำเสียงเขาประหลาดมาก และเมื่อเริ่มพึมพำ เสียงของต้าเสินก็เปลี่ยนไป แขนขวากำหมัดโยนเข้าใส่ชายชราขั้นวิญญารดับสูญ ไม่คาดคิดว่าต้าเสินจะปล่อยให้เขาไปและทะยานผ่านชายชราไปหาเซียนสตรีขั้นที่สามอีกคน
นางได้รับบาดเจ็บจากการทำลายดาวของต้าเสินไปแล้ว ขณะที่นางถอย รูม่านตาหดลงเมื่อสัมผัสได้ว่าต้าเสินกำลังจะมาถึง
นางกำลังจะใช้วิชาขึ้นมาแต่กำปั้นของต้าเสินได้ร่อนลงมาแล้ว พลันกระอักโลหิตและเกิดเสียงปะทุดังลั่น วินาทีนั้นวังวนจากดาวเทพโบราณได้ล้อมตัวนางไว้และดึงนางกลับมา นางถูกผนึกไว้ในดาวดวงที่สองของต้าเสิน!
ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในพริบตา หลังจากผนึกนาง ต้าเสินก็ฉีกเปิดอวกาศและหายตัวไปข้างใน
“ข้ายังมีดวงดาวที่ยังไม่ได้ทำลายอยู่ ข้าจะรอให้พวกเจ้าสองคนไล่ให้ทันแล้วกัน!” ถึงแม้ต้าเสินจะจากไปแล้ว น้ำเสียงมืดมนยังคงดังก้องไปทั่วดวงดาว
ชายชราขั้นวิญญาณดับสูญมองไปที่ปรมาจารย์ซือโม่ รอยยิ้มประหลาดเผยอยู่บนมุมปากแต่ก็มีความอิจฉาปนอยู่ด้วย จากนั้นพวกเขาเปลี่ยนกลายเป็นลำแสงและจากไปอย่างรวดเร็ว
“คนที่กำลังถูกต้าเสินไล่ล่านั้นมีกลิ่นอายเทพโบราณอยู่ด้วย เขาก็เป็นเทพโบราณสายเลือดราชวงศ์เช่นกัน…”
“ข้ากลัวว่าพวกเขาสองคนคือเทพโบราณที่หลงเหลืออยู่ ต้าเสินไม่ใช่ปัญหา แต่อีกคนนั้นไม่ใช่คนที่เราจะไล่ล่าได้…”
“ข้าสงสัยว่าอะไรกันถึงทำให้เทพโบราณต้องใช้ความพยายามอย่างมากขนาดนั้น…และกระทั่งเปลี่ยนแผนกลางทาง…”
“เรื่องนี้เป็นความลับสูงสุด ข้าได้ยินมาส่วนหนึ่งแต่ไม่รู้ว่าจริงแท้แค่ไหน ว่ากันว่าพวกเทพโบราณสายเลือดราชวงศ์นั้นมีสิทธิ์เปิดสวรรค์โบราณและยอมให้…”
ขณะที่ทั้งสองคนทะยานคู่กันไป พวกเขาส่งข้อความสัมผัสวิญญาณมาคุยกันด้วย แต่ก่อนที่ชายชราจะกล่าวจบ สีหน้าท่าทางจึงเปลี่ยนไปและหยุดการพูดคุย
ปรมาจารย์ซือโม่มองไปข้างหน้าด้วย
สตรีนางหนึ่งค่อยๆปรากฏเบื้องหน้าทั้งสองคน นางสวมชุดสีขาวและมีรูปร่างไม่ค่อยชัด นางมาอย่างเงียบๆแต่ดูเหมือนสามารถข้ามผ่านระยะทางอันไร้ขอบเขตได้
กลิ่นอายที่นางเปล่งออกมาเป็นกลิ่นอายไร้ตัวตน ราวกับนางไม่ควรอยู่ในโลกนี้และเป็นคนที่มาจากเขตแดนเทพ
“ขอบคุณท่านสองคน” น้ำเสียงราบเรียบพลางสะบัดแขนขวา สองลำแสงลอยออกมาร่อนลงใส่มือของทั้งสอง
“นี่คือจิตวิญญาณเต๋าระดับหกที่สัญญาเอาไว้” หลังจากนางกล่าวจบจึงผ่านทั้งสองคนไป
ขณะที่ชายชราขั้นวิญญาณดับสูญมองไปที่แสงสีขาว ดวงตาส่องสว่าง ทั้งสองคนยังไม่ได้พูดอะไรกันก่อนจะหายตัวไปท่ามกลางดวงดาว
ดูเหมือนสิ่งเดียวที่เหลืออยู่ตอนนี้เป็นสตรีชุดขาว นางก้าวเดินไปทิศทางที่ต้าเสินไล่ล่า ทะเลดวงดาวก่อตัวใต้ฝ่าเท้า
หวังหลินมุ่งหน้าเข้าหาเผ่าจันทราโดยใช้วิชาบิดมิติอิงจากตำแหน่งในความทรงจำ สีหน้าท่าทางมืดมน ความผันผวนของพลังเทพโบราณนั้นทำให้เขาเกิดความระมัดระวัง
ทว่าตอนนี้ไม่ใช่เวลามาคิดมากเกินไป หลังจากใช้บิดมิติไปหลายครั้งก็มาถึงขอบเขตดวงดาวแห่งหนึ่งที่ปกคลุมไปด้วยแสงจันทราแพรวพราว แสงจันทราโผล่ออกมาจากดาวเคราะห์รอบๆและแพร่กระจายไปในอวกาศ มันช่างสวยงดงามราวกับดินแดนในฝัน
“ที่นี่เอง!” แววตาหวังหลินกระพริบวูบวาบ เผ่าจันทราอยู่ที่นี่!
วินาทีนั้นเสียงคำรามดังสนั่นออกมาจากด้านหลัง หวังหลินพุ่งไปข้างหน้าโดยไม่หันกลับมาและแพร่กระจายสัมผัสวิญญาณแทน ไม่นานเขาก็พบพื้นที่หนึ่งที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายเทพโบราณ!
“เหยื่อล่อข้าให้เข้าไปหรือ?” หวังหลินเยาะเย้ย ขณะเดียวกันเสียงอวกาศฉีกกระชากดังสนั่นเกิดขึ้น
ต้าเสินก้าวออกมาจากรอยแยกอวกาศที่ฉีกเปิดขึ้นมาโดยมีท่าทีเหน็ดเหนื่อย
ช่างประหลาดยิ่งที่เสียงดังรุนแรงนี้ไม่ได้ไปกระตุ้นเผ่าจันทราเลย มันกลับเงียบเชียบ
ต้าเสินเอ่ยเสียงดุจสายฟ้าร้องคำราม “เจ้าจะหนีไปไหนไม่ได้!” ดวงตาเย็นเยียบและโยนกำปั้นใส่หวังหลิน
“ข้าจะไม่วิ่งหนี!” หวังหลินมาถึงตำแหน่งที่มีกลิ่นอายเทพโบราณโผล่ออกมาหนาแน่น แค่ชำเลืองมองเขาก็เห็นรูปปั้นเทพโบราณจำนวนมากแล้ว
ทันใดนั้นจึงหันกลับมา ดวงตาเยือกเย็น ร่างกายขยายขนาดกลายเป็นร่างเทพโบราณสูงหมื่นฟุต ดาวหกดวงหมุนติ้วอย่างรวดเร็ว พลังเทพโบราณพรั่งพรูออกมาจากร่างกาย
สะบัดแขนขวามีแสงโลหิตกระพริบวาบเปลี่ยนกลายเป็นกระบี่ยักษ์ยาวหลายพันฟุต ฟันฉับลงใส่กำปั้นของต้าเสิน!
เขายืนอยู่รอบๆรูปปั้นเทพโบราณและสูดลมหายใจเข้าไป กลิ่นอายเทพโบราณพรั่งพรูเข้าไปในร่างกายอย่างบ้าคลั่งและเข้าสู่รอยแผลบนหน้าอก หลังจากเติมพลังเทพโบราณของตนเองแล้วจึงเกิดเสียงดังสนั่น
เงาขวานแยกสวรรค์ถูกบังคับออกมาจากหน้าอกหวังหลินพร้อมกับเสียงปะทุกึกก้อง!
เมื่อไร้พลังอำนาจของขวานแยกสวรรค์ รอยแผลบนหน้าอกจึงสมานตัวอย่างรวดเร็วจนไม่เหลือร่องรอย!
………………………………..