Skip to content

ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 1383

Cover Renegade Immortal 1

1383. กรีด

สำหรับกรีดนั้นคนส่วนใหญ่ของดินแดนตกสวรรค์รู้จักกันดีว่าเขามีต้นกำเนิดอันลึกลับ ตอนที่ปรากฏตัวขึ้นมาในดินแดนตกสวรรค์นั้นไม่มีใครรู้จักเขา ระดับบ่มเพาะไม่ได้พิเศษอะไรนัก เพียงแค่ขั้นส่องสวรรค์เท่านั้น

ทว่าคนผู้นี้กลับทำให้เกิดเรื่องน่าอัศจรรย์ซ้ำแล้วซ้ำเล่า เม็ดยาและสมบัติที่เขานำออกมาได้ก่อให้เกิดคลื่นลูกใหญ่ขึ้นในดินแดนตกสวรรค์

แม้ระดับบ่มเพาะไม่ได้สูงมากแต่เขามีเล่ห์เหลี่ยมแพรวพราว เพิ่มเติมด้วยวิชาประหลาดและสมบัติทรงพลัง เขาจึงปกป้องตัวเองได้เสมอ แม้แต่คนที่ระดับบ่มเพาะสูงกว่าก็ยังพบว่าจับตัวกรีดได้ยากนัก

โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรีดมีความสามารถด้านการหลบหนีและมีวิชาที่สามารถเพิ่มความเร็วตนเองได้ถึง 97 เท่า ทำให้ไม่มีเซียนธรรมดาคนใดจะจับตัวได้ กรีดยังระมัดระวังตัวเองสูงและมีบ่อยมากที่จะหนีไปโดยไม่ลังเล

เป็นผลทำให้เขาไม่ค่อยเผชิญอันตรายเท่าไรนัก

ขณะที่เวลาผ่านเลยไป ระดับบ่มเพาะของกรีดเพิ่มขึ้นอย่างมั่นคงจนบรรลุขั้นส่องสวรรค์ได้ จากนั้นวิชาของเขาก็ยิ่งลึกลับมากกว่าเดิม

เขาค่อยๆ ได้รับความสนใจจากเซียนทรงพลังบางส่วนในเผ่า พวกเขาโลภมากและไล่ล่ากรีด หลายคนคิดว่ากรีดจะตายแน่นอน แต่ไม่คิดว่ากรีดนำสมบัติจำนวนมากที่ไม่เคยใช้ออกมาก่อนหน้านี้!

สมบัติทุกชิ้นมีพลังอำนาจสั่นคลอนสวรรค์ เซียนขั้นทลายสวรรค์สามคนถึงกับบาดเจ็บตอนที่โดนสกัดเอาไว้ หนึ่งในนั้นถึงกับถูกฆ่าไปด้วย!

ที่เหลือสองคนเหาะเหินด้วยอาการบาดเจ็บสาหัส!

เรื่องสำคัญนี้ได้ก่อให้เกิดคลื่นขนาดใหญ่ขึ้นในดินแดนตกสวรรค์จนแทบเหลือเชื่อ เซียนขั้นชำระสวรรค์โดนเซียนขั้นทลายสวรรค์สามคนไล่ล่าแต่กลับไม่ตายและยังสังหารไปได้หนึ่งคน!

ชื่อเสียงของกรีดดังขจรไปไกลในดินแดนตกสวรรค์ราวกับพายุ แต่เช่นเดียวกันเผ่าของเซียนขั้นทลายสวรรค์ที่ตายไปต่างก็โกรธแค้น แม้เผ่านี้ไม่ได้มีผู้อาวุโสตกสวรรค์ แต่ก็ยังแข็งแกร่งมาก เพื่อลงมือสังหารกรีด ทางเผ่าจึงส่งเซียนขั้นทะลวงสวรรค์ครั้งแรกออกมา!

เซียนขั้นทะลวงสวรรค์ครั้งแรกสังหารเซียนขั้นชำระสวรรค์เหมือนกับพยัคฆ์ตะปบมดแมลง! ทุกคนมั่นใจว่ากรีดตายแน่ เว้นแต่จะเกิดปาฏิหาริย์!

กรีดนำสมบัติออกมา ภายหลังมีข่าวลือหลายอย่างเรื่องสมบัติพวกนี้ ส่วนใหญ่พูดกันว่าสมบัติคือรูปปั้นที่แตกหัก!

เมื่อรูปปั้นปรากฏ ทั้งดินแดนตกสวรรค์ส่งเสียงดังสนั่น พื้นที่ดวงดาวเต็มไปด้วยก้อนเมฆ เสียงคำรามกึกก้องออกมาจากยุคโบราณและเซียนขั้นทะลวงสวรรค์ครั้งแรกถึงกับตายในทันทีด้วยสมบัติชิ้นนี้!

พลังทำลายล้างนั้นได้สั่นสะเทือนเซียนขั้นทะลวงสวรรค์ทั้งหมดในดินแดนตกสวรรค์ ซึ่งมากพอจะทำลายได้แม้กระทั่งเซียนขั้นทะลวงสวรรค์ครั้งที่สาม!

แม้กระทั่งเซียนขั้นทะลวงสวรรค์ครั้งที่สี่ยังต้องใช้ความพยายามอย่างมากเพื่อไม่ให้เกิดอันตราย!

อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครรู้ว่ากรีดมีสมบัติที่แข็งแกร่งกว่านี้อีกหรือไม่ เพราะเขามีสมบัติมากมายนับไม่ถ้วน

สมบัติชิ้นนี้เหนือล้ำเกินจินตนาการทุกคนไปแล้ว แต่เป็นไปได้ว่าจะมีสมบัติที่สังหารเซียนขั้นทลายสวรรค์และทะลวงสวรรค์ได้อีกหรือ?

หลังการต่อสู้ครั้งนั้นกรีดก็ยิ่งมีชื่อเสียง ลือกันว่ามหาจักรพรรดิให้ความสนใจและตามหากรีด ทางกรีดใช้โอกาสนี้มอบสมบัติไปบ้าง ส่วนทางมหาจักรพรรดิก็ให้เม็ดยาเขาเพื่อช่วยเพิ่มระดับบ่มเพาะ

ต่อมาไม่กี่ปี กรีดปรากฏตัวต่อหน้าทุกคนอีกครั้งในขั้นทลายสวรรค์ระดับกลาง! การปรากฏตัวอีกครั้งได้ทำให้เซียนขั้นทะลวงสวรรค์ครั้งที่สี่หลายคนให้ความสนใจ

ลึกๆ แล้วเซียนขั้นทะลวงสวรรค์ครั้งที่สี่ต้องการสมบัติของกรีดและลอบโจมตี แต่ท้ายที่สุดเขาก็บาดเจ็บสาหัสและถูกบังคับให้ล่าถอย จนไม่มีใครกล้าวางแผนเป็นศัตรูกับเขาอีก!

ข่าวลือเรื่องกรีดมีสมบัติมากมายได้แพร่กระจายออกไป

นอกจากวิชาและสมบัติแล้ว กรีดยังมีความสามารถอีกอย่างหนึ่งด้วย ไม่ว่าเขาปรากฏตัวที่ไหน ที่นั่นน่าจะมีสมบัติสวรรค์ แม้จะเป็นดาวเคราะห์รกร้าง เขาก็ยังสามารถหาสมบัติสั่นสะเทือนสวรรค์เจอได้

คำพูดที่ว่า “กรีดไม่เคยไปที่ไหนที่ไม่มีสมบัติ” จึงเริ่มแพร่กะรจาย

นอกจากนี้ยังมีคติอีกอย่าง เมื่อไหร่ที่มีคนทำท่าทีประหลาดรอบตัวเขา พวกนั้นจะได้รับการตอกกลับอย่างเจ็บแสบ

นั่นเป็นเพราะเขาได้กลิ่น!

กรีดบ่มเพาะวิชาอย่างหนึ่ง ไม่ว่าเขาจะไปไหนจะมีกลิ่นเหม็นค้างอยู่ไปสักพัก

ตอนนี้เซียนสิบคนรอบๆ กรีดต่างก็ได้กลิ่นเหม็นแทบไม่อาจทนได้ ทว่าพวกเขาไม่กล้าเผยออกมาและมีท่าทีเคารพเสียแทน

พวกเขาเคลื่อนพลได้รวดเร็วมาก ไม่นานก็มาถึงจุดที่ดาวเคราะห์เผ่าแมงป่องทมิฬตั้งอยู่ กรีดมีแววตาส่องสว่าง จ้องมองดาวเคราะห์เซียนอยู่ไกลๆ ด้วยสายตาตื่นเต้น

ก่อนหน้านั้นเขาออกมาที่ดินแดนชั้นนอกจนเกือบตาย ใช้พลังของตัวเองจนบรรลุความสำเร็จในปัจจุบัน เขาแข็งแกร่งมากกว่าเดิมหลายเท่าและยังได้รับสมบัติใหม่ๆ

มีแม้กระทั่งสมบัติที่แทบถวายชีวิตให้กว่าจะได้มา พวกมันทรงพลังไร้ที่ติ! วันนี้เขาไม่ใช่คนเดิมเหมือนในอดีต หากกลับไปยังดินแดนชั้นในคงมีสถานะสูงส่งยิ่ง!

ทว่าเขาไม่อาจตื่นเต้นได้เนื่องจากกลิ่นเหม็นบนร่างกายเป็นเหมือนเงาในใจ เขาไม่ได้กลิ่นมันเลย แต่เมื่อเห็นสีหน้าท่าทางของคนรอบตัวมันก็มากพอให้เขาบ้าคลั่งได้แล้ว

เขาคิดหาวิธีจำนวนมากเพื่อขจัดกลิ่นนี้ออกไปแต่กลิ่นคงอยู่ในวิญญาณดั้งเดิมและผสานเข้าไปแล้ว ไม่ว่าเขาจะทำอะไรก็ไม่สามารถขจัดกลิ่นนี้ออกไปได้

ความเจ็บปวดนี้ทรมานเขาจวบจนทุกวันนี้ ทำให้เขาเกลียดชังเทียนหยุน เกลียดหวังหลินและเกลียดอสรพิษพิฆาตจันทร์จนถึงที่สุด!!

‘เทียนหยุน หากไม่ใช่เพราะพวกเจ้าบังคับให้ข้าเข้าไปที่ดาราจักรทุกชั้นฟ้า ข้าคงไม่ต้องมาเจอกับสภาพน่าเวทนาเพียงนี้ รวมถึงเจ้าอสรพิษนั่นด้วย ข้าสาบานว่าจะไปฉีกกระชากมันออกมาเป็นชิ้นๆ !!’

‘สิ่งสำคัญที่สุดคือไอ้เด็กหวังหลินนั่น!! มัน…มันคือเจ้ากรรมนายเวรของข้า! มันปล้นสมบัติข้าไปหมด เตาหลอมเคลื่อนร่างของข้า มังกรสายฟ้าโบราณของข้า ภาพวาดภูเขาและแม่น้ำของข้า วิญญาณภูเขาของข้า…สมบัติทั้งหมดที่ข้าใช้เวลารวบรวมไปหลายหมื่นปีถูกมันเอาไป!!!’

ทุกครั้งที่กรีดคิดถึงเรื่องนี้ เขารู้สึกเจ็บปวดหัวใจ นอกจากความเกลียดชังที่มีต่อหวังหลินแล้วยังมีเงาขนาดใหญ่ท่วมท้นจิตใจด้วย หลังจากเผชิญหน้ากับหวังหลินอยู่ไม่กี่ครั้ง เขารู้สึกหวาดหวั่นอีกฝ่ายอย่างยิ่ง

ความหวาดหวั่นนี้กลายเป็นความกลัวยามที่เวลาผ่านไป แม้ระดับบ่มเพาะจะเพิ่มขึ้นแต่ความกลัวนี้ไม่ได้หายไป มันยิ่งรุนแรงมากไปอีก

เขาไม่รู้เหตุผลของตัวเอง แต่ทุกครั้งที่คิดถึงหวังหลิน จิตใจจะสั่นเทา

‘ไอ้ตัวซวยในชีวิตข้า!! บนดาวซูซาคุ ลูกปัดฝืนลิขิตฟ้าที่ข้าวาดฝันเอาไว้ยังมาโดนมันเอาไป…ในดินแดนวิญญาณปิศาจ เห็นได้ชัดว่าระดับบ่มเพาะของข้าสูงกว่า แต่ท้ายที่สุดมันก็กลืนกินมังกรสายฟ้าโบราณของข้า…มังกรสายฟ้าของข้า!!! มันอยู่กับข้าตั้งแต่เด็ก หากข้ายังมีมัน ข้าสามารถผสานกลายเป็นเซียนสายฟ้าไปแล้ว!!!’

‘จากนั้นข้าถูกเทียนหยุนบังคับให้เข้าไปดาราจักรทุกชั้นฟ้าเพื่อค้นหาหวังหลิน จากนั้นก็ทุกข์ทนกับอสรพิษพิฆาตจันทร์แล้วมาเจอหวังหลินอีก! มันเอาเตาหลอมของข้าไป ภาพวาดภูเขาและแม่น้ำ ทุกอย่างของข้า!!’

‘จากนั้นตอนที่ข้ากำลังจะหนีออกมา มันก็มาหยุดข้าอีกจนข้าเกือบตาย แต่โชคดีที่สวรรค์ยังไม่ตาบอดทำให้ข้าหนีมาได้ ข้าร่อนลงมาบนดาวเคราะห์เซียน!’ กรีดนึกย้อนไปถึงอดีต การที่เขาเผชิญหน้ากับหวังหลินถือเป็นความเจ็บปวดอันขื่นชม

เขาค้นหาสมบัติมาชั่วชีวิต แต่เมื่อมาเจอหวังหลินกลับเสียไปทั้งหมดและเกือบตาย นี่เป็นฝันร้ายที่เขาไม่มีวันลืม

‘ตอนนี้ข้ามีสมบัติมากขึ้นแล้วและระดับบ่มเพาะสูงมากกว่าเดิม สมบัติของข้าก็แข็งแกร่งกว่าครั้งก่อน ข้าไม่เชื่อว่าเจ้าจะสามารถทะลวงออกมาจากดินแดนชั้นในและมาที่ดินแดนตกสวรรค์เพื่อขโมยสมบัติข้าได้!! หากเกิดขึ้นจริง เช่นนั้นข้าจะยอมรับว่าเจ้าหวังหลิน คือดวงหายนะในชีวิตข้าของแท้!’

กรีดเยาะเย้ย เขาไม่คิดว่าจะมีความคิดใดพวกนี้จะกลายเป็นจริง ในสายตาเขามันเป็นเรื่องที่ไม่น่าเกิดขึ้นได้

‘เผ่าเมฆาคลาดมีสมบัติที่สามารถขจัดกลิ่นในร่างกายข้าได้ แต่ข้าไม่สามารถเอามันไปได้ ข้าเพียงแค่ต้องอยู่สำนักจนกว่าข้าจะศึกษามันได้มากพอ จากนั้นข้าก็จะไปทุกที่ที่ข้าต้องการได้ โลกนี้กว้างใหญ่ ดังนั้นข้าจะไม่เจอมันอีกครั้งแน่นอน’

‘ตอนนี้ข้าเข้าใจสมบัติได้แปดในสิบส่วนแล้วและแค่ต้องการซากแมงป่องโบราณในตำนานจากเผ่าแมงป่องทมิฬ ข้ามั่นใจถึงเก้าในสิบส่วนที่จะขจัดกลิ่นนี้ออกไปได้!’ กรีดขบคิดพลางหวนรำลึกถึงทุกอย่างที่เขาเผชิญ

‘สมบัติข้าในอดีต…มันคือตัวซวยในชีวิตข้าจริงๆ ดีแล้วที่ข้าอยู่ดินแดนชั้นนอก ตอนนี้ไม่มีทางที่ข้าจะเจอมัน ไม่เช่นนั้นข้ากลัวว่าสมบัติของข้าทั้งหมดจะมาโดนมันเอาไปอีก…’ ความหวาดกลัวของกรีดที่มีต่อหวังหลินถือกำเนิดขึ้นจากฝันร้ายที่เขาเผชิญ แม้ตอนนี้ระดับบ่มเพาะสูงกว่า เขาก็ยังไม่สามารถขจัดความกลัวหวังหลินออกไปจากใจได้

ราวกับนกที่เกือบโดนลูกศรฆ่าตายแต่ยังรอดได้จนแข็งแกร่งกว่าเดิม แม้จะกลายเป็นจ่าฝูงไปแล้ว อาการบาดเจ็บในอดีตยังคงฝังในจิตใจไปตลอดกาล ร่างยังคงสั่นเทาเพียงแค่ได้ยินเสียงรั้งธนู

มันคือรอยร้าวบนจิตใจแห่งเต๋า! เขาคงกลายเป็นวิหคที่หวาดกลัวไปตลอดกาลเว้นแต่จะฆ่าหวังหลินด้วยตัวเองเพื่อทำลายฝันร้ายครั้งนี้!

……………………………………………………….

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!