Skip to content

ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 1420

Cover Renegade Immortal 1

1420. ต่อสู้!!

ท้าทาย!

เริ่มท้าทายเซียนขั้นที่สาม!

ตั้งแต่ยุคโบราณกาล เหล่าเซียนขั้นที่สามดุจเสมือนเหล่าเทพสำหรับเซียนขั้นที่สอง เป็นคนที่ไร้เทียมทาน มิอาจพ่ายแพ้ต่อเซียนขั้นที่สอง เว้นแต่อีกฝ่ายจะเป็นเซียนขั้นที่สามเหมือนกัน

นี่เสมือนเป็นกฎ ไม่เพียงแต่จะคงอยู่โลกนี้ได้ชั่วกาลนาน แต่ยังตราตรึงในใจเซียนทุกคนอีกด้วย!

เหล่าเซียนขั้นที่สามล้วนไร้เทียมทาน!

เซียนทั้งหมดเสมือนมดแมลงต่อหน้าเซียนขั้นที่สาม!

แม้ปรมาจารย์ซือโม่จะถูกวิหคศักดิ์สิทธิ์รุ่นที่สองหยามเกียรติ ความจริงแล้วทุกที่ไม่ว่าจะเป็นดินแดนชั้นนอกหรือดินแดนชั้นใน เขาแค่ต้องกระทืบเท้าเพื่อทำให้เกิดหายนะครั้งใหญ่!

แม้เขาจะเป็นเซียนขั้นสวรรค์ดับสูญชั้นต้นเท่านั้น เขาก็ยังถือเป็นเทพต่อเหล่าเซียนขั้นที่สอง!

อย่างไรก็ตามตอนนี้มีคำพูดน่าเหลือเชื่อขึ้นมาจนเซียนทั้งหมดที่นี่ประหลาดใจถึงกับส่งเสียงดังก้องเหมือนสายฟ้า!

“เขา…เขากล้าท้าทายเซียนขั้นที่สาม!!”

“แม้จักรพรรดิน้อยจะทรงพลัง แต่ก็ยังมีช่องว่างขนาดใหญ่ระหว่างเขาและเซียนขั้นที่สามในตำนาน การท้าทายตอนนี้ช่างเป็นเรื่องโง่เขลาจริงๆ!”

“เขาเพิ่งเจอกับการทสดอบ ดังนั้นคงต้องบาดเจ็บ แต่ยังต้องการท้าทายเซียน ขั้นที่สามเพื่ออวดอ้าง? น่าขัน ไร้สาระสิ้นดี!”

“ข้าไม่คิดเช่นนั้น ถึงแม้ระดับบ่มเพาะเขาเทียบไม่ได้กับเซียนขั้นที่สาม เรื่องน่าตกตะลึงจากบททดสอบได้พาให้เขาพร้อมสมบูรณ์ที่สุด หากเขาไม่ต่อสู้ตอนนี้คงเสียโอกาสไป!”

“ฮึ่ม เซียนขั้นที่สามไม่ใช่คนเช่นเราที่จะท้าทายได้ ข้าขอบอกเลยว่าปรมาจารย์ซือโม่แค่ใช้วิชาเดียวก็สอนจักรพรรดิน้อยให้ได้รับผลจากการโอหังได้แล้ว!”

“ข้าชื่นชมจักรพรรดิน้อยที่ทำแบบนี้ ไม่ว่าเขาจะสำเร็จหรือไม่ก็ไม่สำคัญ จะมีสักกี่คนที่กล้าเหมือนเขา? พวกเจ้าทั้งหมดพูดกันอยู่ที่นี่ด้วยความดูถูก แต่จะมีพวกเจ้าสักกี่คนที่กล้าลุกขึ้นท้าทายเขาเหมือนจักรพรรดิน้อย?”

เซียนนับหมื่นพูดลับหลังหวังหลินตั้งแต่เริ่ม แต่พอผ่านบททดสอบ ส่วนหนึ่งพูดถึงหวังหลินด้วยความเคารพ!

คำพูดของหวังหลิน โดยเฉพาะคำสุดท้าย “เข้ามา” ได้เผยความมั่นใจมหาศาลของเขา!

ยอดปรมาจารย์หยุนลั่วตกตะลึงเช่นกัน นางไม่คิดว่าหวังหลินจะกล้าท้าทายปรมาจารย์ซือโม่ ตอนนี้หวังหลินเบื้องหน้านางถูกเปลี่ยนเป็นร่างน่ากลัวอย่างรวดเร็ว นางรู้สึกเหมือนเข้าสู่ภวังค์และแทบไม่อาจบอกได้

วิหคศักดิ์สิทธิ์รุ่นที่สองเผยรอยยิ้มกว้าง นี่คือสิ่งที่เขาต้องการ เขาต้องการให้ เด็กน้อยนี่ทำสิ่งที่ทุกคนคิดว่าเป็นไปไม่ได้!

‘แม้เซียนขั้นที่สามจะแข็งแกร่ง ข้าไม่ได้ตบตีไปอย่างไร้ค่า!’ วิหคศักดิ์สิทธิ์รุ่นที่สองมองไปที่ปรมาจารย์ซือโม่

ปรมาจารย์ซือโม่มองหวังหลิน ดวงตาพลันเปลี่ยนเป็นกระจ่างใส ไม่มีความสุขหรือความเศร้าเจือปน ร่างกายเต็มไปด้วยความหนาวเย็น ตอนนี้เขาดูแตกต่างเหมือนคนละคน สัมผัสแห่งบารมีค่อยๆแพร่กระจายออกจากร่างและทำให้โลกบิดเบือน

ภาพวิญญาณนับไม่ถ้วนดูเหมือนจะผุดขึ้นมา ทุกดวงวิญญาณร้องโหยหวนและระเบิดเสียงร่ำไห้ดังกึกก้องไปทั่วดาวมหาจักรพรรดิ

“เจ้าคิดว่าจะสามารถท้าทายเซียนขั้นที่สามได้เพียงเพราะเจ้าเอาชนะร่างอวตารของข้าได้หรือ? ในเมื่อเจ้าอยากตายนัก ข้าจะสนองความต้องการของเจ้าเอง!” ปรมาจารย์ซือโม่ดูสงบนิ่ง เขาก้าวเท้าและเคลื่อนร่างดุจลำแสงเข้าหาหวังหลิน

เซียนรอบด้านทั้งหมดจ้องมองฉากเหตุการณ์นี้ด้วยลมหายใจเหมือนหยุดชะงัก สัมผัสความตื่นเต้นเกินบรรยายเริ่มเต็มไปทั่วจิตใจ

เซียนขั้นที่สามกำลังจะลงมือ เป็นการต่อสู้ที่เกิดขึ้นครั้งเดียวในชีวิต เป็นสิ่งที่หาได้ยากยิ่ง แล้วจะไม่ให้พวกเขาตื่นเต้นไปได้อย่างไร?

“ทะลวงสวรรค์เก้าสูญสิ้น!” น้ำเสียงปรมาจารย์ซือโม่นั้นสงบนิ่งและดังกึกก้องทั่วโลก พริบตาเดียวเขาก็อยู่ภายในระยะหวังหลินหนึ่งพันฟุต ในสายตาไม่มีจิตสังหารหรือความเย็นเยียบ พลางสะบัดแขนขวาไปด้วย

“สูญสิ้นแรก สวรรค์!” เพียงแค่สะบัดแขน ท้องฟ้าดังลั่นและเกิดรอยแยกอวกาศมากมาย ดูเหมือนท้องฟ้ากำลังถูกฉีกกระชากด้วยกำลัง รูปร่างคล้ายรอยแผลน่ากลัวพวกนี้พุ่งตรงใส่หวังหลิน

ท้องฟ้าบิดเบี้ยวและเกิดรอยแยกอวกาศมากขึ้น

“สูญสิ้นสอง ปฐพี!” ปรมาจารย์ซือโม่เอ่ย พื้นดินดังลั่น เซียนรอบด้านต่างถอยร่นด้วยความหวาดกลัว พื้นดินรอบๆเต่ายักษ์สั่นเทาราวกับกำลังเคลื่อนไหว ภูเขาสูงเสียดฟ้าทะลุออกมาจากพื้นดินและพุ่งตรงเข้าหาหวังหลิน!

“สูญสิ้นสาม ชีวิต!” แววตาสงบนิ่งของปรมาจารย์ซือโม่เกิดแสงกะพริบ เขาสะบัดแขนปรากฏสายลมกรรโชกขึ้นและพัดเข้าหาหวังหลิน!

สายลมเย็นนี้คล้ายกับวิชาเรียกขานสายลมของหวังหลิน มันสามารถปัดเป่าเพลิงแห่งชีวิตให้มอดดับ!

ทั้งหมดเกิดขึ้นในพริบตา ปรมาจารย์ซือโม่เริ่มโจมตีได้ไม่นานก็ใช้วิชาที่ทรงพลังที่สุดไปแล้ว เขามีเจตนาจะสังหารหวังหลินทันที!

หวังหลินดวงตาส่องสว่าง ขณะที่การสูญสิ้นทั้งสามเข้ามาใกล้ พายุเพลิงไร้ลักษณ์หมุนรอบตัวเขาอย่างรวดเร็ว!

“เพลิงไร้ลักษณ์เก้าสี ในนามแห่งข้า ข้าขอสั่งเจ้าให้เกิดเป็นจิตวิญญาณอัคคี!” หวังหลินใช้ฝ่ามือสร้างผนึกขึ้นและจากนั้นสะบัดแขนอยู่ในพายุเพลิงไร้ลักษณ์ เกิดเสียงดังลั่นตามมาด้วยเสียงมังกรคำราม

หัวมังกรยักษ์โผล่ออกมาจากใจกลางพายุเพลิง มังกรเป็นสีแดงและระเบิดเสียงคำรามพุ่งใส่รอยแยกอวกาศในท้องฟ้า

เปลวเพลิงมหึมาลุกโชนเต็มรอยแยกอวกาศอย่างรวดเร็ว! ทำให้ท้องฟ้าดูดุร้ายยิ่ง!

ขณะนี้เองหัวมังกรอีกตัวโผล่ออกมาจากพายุเพลิง ครั้งนี้เป็นมังกรสีส้ม มันส่งเสียงคำรามพร้อมกับพุ่งใส่ภูเขาที่กำลังโผล่ออกมาจากด้านล่าง มังกรตัวนี้ยาวหมื่นฟุต เหล่าภูเขาเริ่มเผาไหม้เบื้องหน้ามัน

หลังจากนั้นไม่นานเสียงคำรามดังกึกก้องอย่างต่อเนื่องพร้อมกับมังกรเพลิงหัวที่สาม สี่ ห้า…จนกระทั่งมีเก้าหัว!

เมื่อเพิ่มมาอีกเจ็ดหัว พายุเพลิงจึงหายไป! หวังหลินยืนอยู่ที่เดิม ตอนนี้มีมังกรเพลิงเก้าหัวกำลังขดล้อมรอบเขา เพิ่มเติมด้วยเพลิงเก้าสีในตาซ้าย กลิ่นอายทรงพลังปะทุออกมาจากร่างหวังหลิน

เหล่าเซียนนับหมื่นถอยร่นด้วยความตกตะลึง ร่างหวังหลินประทับไว้ส่วนลึกของจิตใจ พวกเขาไม่สามารถลืมมันได้ในชั่วชีวิต!

“สูญสิ้นที่สี่ ความตาย”

“สูญสิ้นที่ห้า เวลา”

“สูญสิ้นที่หก ดับสูญ”

“สูญสิ้นที่เจ็ด ความโดดเดี่ยว”

“สูญสิ้นที่แปด เกิดใหม่…สูญสิ้นที่เก้า…ทะลวงสวรรค์!” สีหน้าปรมาจารย์ซือโม่ยังคงเหมือนเดิมไร้จิตสังหารหรือความโกรธ ความคิดสงบนิ่ง สิ่งเดียวสำหรับคนที่จะต่อสู้กับเพลิงไร้ลักษณ์คือการระมัดระวังจิตใจตัวเองเอาไว้!

หากจิตใจยุ่งเหยิงปั่นป่วน อารมณ์ก็จะผันผวน เมื่อนั้นศัตรูก็จะสามารถจุด เพลิงไร้ลักษณ์ขึ้นได้

ปรมาจารย์ซือโม่ก้าวมาข้างหน้าทุกครั้งที่เอ่ยเสียง ทุกคำพูดทำให้เกิดภาพมายาเบื้องหน้า!

สิ่งแรกที่ปรากฏขึ้นคือภาพสุสานมากมายเต็มไปทั่วโลก สุสานหลากหลายแห่งทำให้เกิดกลิ่นอายแห่งความตายมหึมา!

หลังจากนั้นไม่นาน พลังแห่งกาลเวลาก่อเกิดแสงขึ้นใต้ฝ่าเท้าปรมาจารย์ซือโม่ ราวกับเวลาได้เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วขณะที่เขาก้าวเดิน

จากนั้นอากาศเลือนลางห่อหุ้มเขา สุสานนับไม่ถ้วนและร่างเขาถูกห่อหุ้มด้วยอากาศเลือนลางจนทำให้คนอื่นไม่สามารถมองเห็นเขาได้ชัดเจน

ภายในกลิ่นอายโบราณเลือนบางนั้นได้เปลี่ยนกลายเป็นกลิ่นอายแห่งสังสารวัฏ เขาเข้าไปใกล้หวังหลินในระยะร้อยฟุต พอเอ่ยคำพูดสุดท้าย “ทะลวงสวรรค์” จึงห่างจากหวังหลินเพียงสามฟุต ยกแขนขึ้นมาและกระแทกลงไปอย่างรุนแรง!

“ทะลวงสวรรค์เก้าสูญสิ้น ก้าวขั้นสู่การดับสวรรค์!” โลกสั่นสะเทือน วินาทีที่ ฝ่ามือของซือโม่ตกลงมา ภาพเลือนลางทั้งหมดด้านหลังเขาจึงพังทลายไปเป็นเศษเสี้ยวนับไม่ถ้วน เศษเสี้ยวเปลี่ยนกลายเป็นสายน้ำที่ไหลเข้าสู่ฝ่ามือขวาและเข้าประชิด!

ทั้งหมดเกิดขึ้นในพริบตา หวังหลินดวงตาส่องสว่าง แขนขวาทำเป็นรูปกระบี่และชี้ออกไปทันที มังกรเก้าหัวรอบตัวร้องคำราม จากนั้นผสานกับดัชนีและชี้ใส่ปรมาจารย์ซือโม่!

มองไกลๆมันดูเป็นฉากที่น่าตกตะลึงอย่างยิ่ง!

ฝ่ามือของปรมาจารย์ซือโม่มีพลังอำนาจพอจะทำลายสวรรค์ ด้วยการใช้พลังของเก้าสูญสิ้นและเพิ่มด้วยระดับบ่มเพาะขั้นที่สาม ฝ่ามือนั้นสามารถดับชีวิตได้ทุกชนิด!

ดัชนีของหวังหลินมีมังกรเก้าหัวเข้าพัวพัน ดูเหมือนนิ้วของหวังหลินได้กลายเป็นร่างมังกร มังกรทั้งเก้าหัวร้องคำรามและถูกห่อหุ้มด้วยเปลวเพลิง!

เสี้ยวพริบตานั้นดัชนีของหวังหลินและฝ่ามือของปรมาจารย์ซือโม่จึงปะทะกัน เป็นการเผชิญหน้ากันของพลังทะลวงสวรรค์และเพลิงไร้ลักษณ์ เป็นการปะทะกันของกฎ!

ตึงตัง ตึงตัง ตึงตัง ตึงตัง!

เสียงดังลั่นกึกก้องทะลุทะลวงดาวมหาจักรพรรดิอย่างบ้าคลั่ง เหล่าเซียนเกือบหมื่นคนกระอักโลหิต สองหูอื้ออึง ทั้งหมดถอยร่นอย่างกระวนกระวาย

ร่างหวังหลินถอยไปหลายร้อยฟุต ใบหน้าแดงอย่างประหลาด มองขึ้นไปด้วยสายตาเยือกเย็น

‘เซียนขั้นที่สามช่างอัศจรรย์เสียจริง!’

ฝ่ามือของปรมาจารย์ซือโม่เกิดการสั่นเทาและรู้สึกว่าเปลวเพลิงสะท้อนเข้าหา กระบวนท่าของเขาสามารถทะลวงสวรรค์แต่กลับไม่สามารถทำให้ไฟนี้ดับไปได้ สายตาสงบนิ่งของเขาหายไปและเกิดอาการตะลึง

อย่างไรก็ตามวินาทีที่เกิดเศษเสี้ยวความตะลึงนั้น หวังหลินดวงตาส่องสว่างขึ้นมา ชี้ใส่ปรมาจารย์ซือโม่

“เพลิงไร้ลักษณ์ ลุกโชน!”

………………………………………..

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!