Skip to content

ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 1421

Cover Renegade Immortal 1

1421. เทิดทูนเพลิงนรกานต์!

เพลิงไร้ลักษณ์ไม่ใช่หนึ่งในห้าธาตุของโลก ในขั้นสูงสุดของเพลิงรูปธรรม มีโอกาสที่มันจะทะลวงผ่านและเปลี่ยนเป็นเพลิงไร้ลักษณ์ที่สามารถดับชีวิตได้ทุกสิ่ง!

อารมณ์ความรู้สึกทั้งหมดคือเชื้อเพลิงให้แก่เพลิงไร้ลักษณ์ ดังนั้นเมื่อต้องต่อสู้กับคนที่มีเพลิงไร้ลักษณ์ไม่ควรทำให้อารมณ์ผันผวน!

ในฐานะเซียนขั้นที่สาม ไม่เพียงแต่ปรมาจารย์ซือโม่จะมีระดับบ่มเพาะที่แข็งแกร่ง เขายังสามารถควบคุมอารมณ์ได้อย่างดีเยี่ยมอีกด้วย หากไม่ต้องการโกรธเกรี้ยวก็จะไม่โกรธเกรี้ยว

หากไม่ต้องการให้อารมณ์ปรากฏขึ้นมา เขาก็จะทำให้อารมณ์ทั้งหมดสงบนิ่งดุจสายน้ำ!

อย่างไรก็ตามภายในจิตใจของปรมาจารย์ซือโม่กลับมีอาการตกตะลึง! แฝงอารมณ์ที่ผันผวนเข้าไปด้วย ซึ่งปกติมันเป็นไปไม่ได้ แต่ตอนนี้กลับเกิดขึ้นมาแล้ว!

ปรมาจารย์ซือโม่ไม่มีเวลาขบคิดว่าทำไมถึงเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น วินาทีที่เขารู้สึกตื่นตะลึง เพลิงไร้ลักษณ์ได้ปะทุออกมาจากร่างกายและเผาผลาญรอบตัวเขาในพริบตา เพลิงไร้ลักษณ์ขนาดมหึมานี้ทำให้สีหน้าท่าทางเขาต้องเปลี่ยนไป!

การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ทำให้อารมณ์เขาผันผวนอีกครั้ง ซึ่งทำให้เพลิงไร้ลักษณ์รุนแรงยิ่งกว่าเดิม!

วิหคศักดิ์สิทธิ์รุ่นที่สองมองดูและเผยท่าทีเยาะเย้ยที่มิอาจตรวจจับได้ ‘การทำร้ายพวกนั้นไม่เพียงแค่สอนบทเรียนเจ้า แต่ยังปลูกฝังเมล็ดเพลิงไร้ลักษณ์ภายในร่างกายเจ้าด้วย ไม่เช่นนั้นการที่หวังหลินจะต่อสู้กับเซียนขั้นที่สามคงเป็นไปได้ยากมาก สหายน้อย เจ้าจะใช้ประโยชน์กับโอกาสนี้อย่างไรก็ขึ้นอยู่กับเจ้าแล้ว…’

หวังหลินผ่านสถานการณ์ความเป็นความตายมามากมาย ดังนั้นจึงไม่ยอมพลาดโอกาสนี้แน่นอน พอเห็นเพลิงไร้ลักษณ์โหมกระหน่ำ แววตาจึงกะพริบเย็นเยียบ ฝืนระงับอาการบาดเจ็บก่อนหน้านี้เอาไว้ ใช้ฝ่ามือสร้างผนึกและชี้ออกไป

สีหน้าท่าทางดุดัน ชี้ใส่เพลิงเก้าสีในตาซ้าย มันเปลี่ยนกลายเป็นเพลิงไร้ลักษณ์และพุ่งเข้าหาปรมาจารย์ซือโม่

“เพลิงไร้ลักษณ์มีไม่เพียงพอ เพลิงไร้ลักษณ์แห่งสวรรค์ จงรวมกันให้ข้า!!” หวังหลินก้าวไปข้างหน้าและสะบัดแขนเสื้อ สร้างสายลมกรรโชกพุ่งเข้าหาเหล่าเซียนที่กำลังมองดูการต่อสู้

สายลมนี้มีอุณหภูมิสูงยิ่ง เมื่อมันกวาดผ่านไป เพลิงไร้ลักษณ์ถือกำเนิดขึ้นจากความผันผวนของคนเหล่านี้มากยิ่งขึ้น ตัวเพลิงไม่ได้เผาไหม้พวกเขาแต่ก่อเกิดเป็นมังกรเพลิงไร้ลักษณ์ในร่างกายแต่ละคน

พริบตาเดียวเหล่ามังกรเพลิงเหล่านี้ก็พุ่งออกมาจากร่างเหล่าเซียนจำนวนทั้งสิ้น 36,794 ตัว

มองไกลๆช่างเป็นฉากเหตุการณ์น่าตกตะลึงยิ่ง ราวกับหวังหลินไม่ได้ต่อสู้กับ ซือโม่ด้วยตัวเอง เขารวบรวมอารมณ์ของทุกคนที่นี่เพื่อต่อสู้กับซือโม่!

ในโลกนี้ ไม่มีใครสามารถควบคุมพลังแห่งเพลิงได้นอกจากหวังหลิน แม้แต่วิหคศักดิ์สิทธิ์รุ่นที่สี่หรือรุ่นที่สองก็ทำไม่ได้!

แม้เพลิงไร้ลักษณ์นี้จะแข็งแกร่งแต่กลับมีขีดจำกัด พวกเขาสามารถปลดปล่อยออกมาได้แต่ไม่อาจดูดซับได้ อย่างไรก็ตามเพลิงไร้ลักษณ์ของหวังหลินมีพลังดึงดูดจากลูกปัดฝืนลิขิตฟ้า หลังจากดูดซับเพลิงไร้ลักษณ์เข้าไป โลกส่งเสียงดังสนั่น หวังหลินสะบัดแขนเสื้อให้เหล่ามังกรเพลิงไร้ลักษณ์มากมายพุ่งเข้าหาปรมาจารย์ ซือโม่

ด้วยมังกรเพลิงไร้ลักษณ์เก้าตัวที่กำลังนำทางและมีเหล่ามังกรอีกมากมายตามหลัง พวกมันก่อเกิดเป็นพายุเพลิงไร้ลักษณ์สั่นสะเทือนสวรรค์ เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นในเสี้ยววินาที พายุเพลิงไร้ลักษณ์พุ่งเข้าไปในร่างแล้วปะทุขึ้นทันที

ปรมาจารย์ซือโม่หน้าซีดทันทีและถอยร่นอย่างรวดเร็ว ในสายตาเกิดความหวาดกลัวแต่รีบระงับอารมณ์เอาไว้

‘อีกนิดเดียว!’ หวังหลินดวงตาเย็นเยียบ พุ่งไปข้างหน้าและร้องตะโกน “ปรมาจารย์ซือโม่ เจ้ายังจำเรื่องราวในสำนักทะลวงสวรรค์ได้หรือไม่?!”

ร่างปรมาจารย์ซือโม่ที่กำลังถอยเกิดอาการสั่นเทา ในสายตาเกิดความดิ้นรนแต่ก็ระงับอารมณ์เอาไว้

“ปรมาจารย์ซือโม่ เจ้ายังจำพี่สอง พี่สาม…และพี่สิบหกที่เจ้าขับไล่ออกจากถ้ำได้หรือไม่!?” ปรมาจารย์ซือโม่หน้าซีด ร่างกายโอนเอน

“ปรมาจารย์ซือโม่ เจ้าจำสิ่งนี้ได้หรือไม่!?” หวังหลินเปิดมิติเก็บของและหยิบหินหยกออกมา!

นี่คือหินหยกระบุตัวตนของปรมาจารย์ซือโม่แห่งสำนักทะลวงสวรรค์!

สายตาของซือโม่ยิ่งหนักขึ้นไปอีกราวกับกำลังพังทลาย

“ปรมาจารย์ซือโม่ เจ้าจำนี่ได้หรือไม่?” หวังหลินสะบัดแขนและมีสิ่งหนึ่งผุดขึ้นในกำมือ เป็นกระดูกสัตว์ขนาดเท่าฝ่ามือ!!

กระดูกชิ้นนี้คือเหตุผลว่าทำไมซือหม่าโม่ถึงถูกขับไล่ออกจากสำนักทะลวงสวรรค์!

ปรมาจารย์ซือโม่หน้าซีด ดวงตาแดงก่ำ ใบหน้าเผยความดุดันพลางร้องคำรามใส่หวังหลิน “หุบปาก!”

“ข้าควรเรียกเจ้าว่าปรมาจารย์ซือโม่หรือซือหม่าโม่?” คำพูดสุดท้ายของหวังหลินเป็นเสมือนสายฟ้า เพลิงไร้ลักษณ์พรั่งพรูในร่างกาย เผาไหม้เจิดจ้าและเกิดเสียงปะทุดังออกมา

ในสายตาของปรมาจารย์ซือโม่ผุดสัมผัสแห่งความบ้าคลั่ง เขาหยุดถอยหลังและยอมให้เพลิงไร้ลักษณ์เผาตนเอง แสงเจ็ดสีเริ่มส่องประกายออกมาจากร่าง แต่สีม่วงกลับท่วมท้นเหนือสีอื่นอย่างสิ้นเชิง!

“ข้าไม่ใช่ซือหม่าโม่ ชื่อทางเต๋าของข้าคือปรมาจารย์ซือโม่!” ปรมาจารย์ซือโม่ถูกเพลิงไร้ลักษณ์เผาในร่างกายและกระอักโลหิต วินาทีนั้นโลหิตถูกเผาไหม้ในทันที เขาจ้องมองหวังหลินด้วยท่าทีดุดัน ในสายตาเกิดจิตสังหาร ยื่นมือขวาออกมาและส่งเสียงคำราม

โลกมืดลง รอยแยกขนาดยักษ์เปิดขึ้นมาเพราะปรมาจารย์ซือโม่ รอยแยกแห่งนี้ขนาดใหญ่มาก ล้อมรอบเซียนทุกคนที่นี่อย่างชัดเจนซึ่งดูเหมือนมีอีกโลกนึงอยู่ข้างใน!

ในรอยแยกมีดาวเคราะห์เซียนนับไม่ถ้วนและมีผู้คนกำลังคุกเข่าลง เปลวเพลิงนรกานต์จำนวนมากโผล่ออกมาตามที่พวกเขาเทิดทูนบูชา

“เปิดดินแดนแห่งเพลิงนรกานต์ให้ข้า วิญญาณศิษย์ จงปรากฏ!” ปรมาจารย์ซือโม่สะบัดแขนและมีสิ่งมีชีวิตบนดาวเคราะห์เริ่มร่ายบทสวด เสียงผสานกันเป็นเสมือนวิชาเซียนและพุ่งออกมาจากรอยแยก

ภาพวิญญาณปรากฏขึ้นรอบตัวปรมาจารย์ซือโม่ ดวงวิญญาณตกอยู่ในความโกลาหลและเต็มไปทั่วโลกในพริบตา!

แค่ชำเลืองสายตามองก็เห็นดวงวิญญาณพวกนี้สุดลูกหูลูกตาแล้วและมิอาจนับได้หมดในคราเดียว ยังมีอีกมากมายที่ไม่ได้ปรากฏ!

ดวงตาของวิญญาณเหล่านี้เต็มไปด้วยความรู้สึกท่วมท้นและปลดปล่อยเพลิงนรกานต์!

“วิชาเพลิงนรกานต์!!! วิชานี้เป็นวิชาพิเศษสำหรับเซียนขั้นที่สาม!!”

“ทุกชีวิตจะต้องโดนทำลายด้วยเพลิงนรกานต์!!”

เหล่าเซียนรอบด้านต่างก็ตกอยู่ในความโกลาหลพร้อมกับล่าถอยไปในตัว ไม่มีใครกล้าอยู่ใกล้เลยสักคน

วิหครุ่นที่สองจ้องมองปรมาจารย์ซือโม่ด้วยสายตาส่องสว่าง ไม่เผยความคิดอันใดออกมา

“เหล่าศิษย์ข้า เทิดทูนข้า!” ปรมาจารย์ซือโม่ส่งเสียงร้องคำราม ดวงวิญญาณมากมายทั้งหมดโค้งตัวให้แก่ปรมาจารย์ซือโม่

ด้วยการโค้งเคารพนี้ โลกสั่นไหวและปรากฏสายลมเพลิงนรกานต์ขึ้นมา สายลมนี้เป็นสีม่วงและกวาดเข้าหาปรมาจารย์ซือโม่ เพลิงไร้ลักษณ์รอบตัวเขาหมองลงและเริ่มมอดดับ!

พริบตาเดียวเพลิงไร้ลักษณ์รอบๆปรมาจารย์ซือโม่ก็มอดดับไปหมด ไม่มีเหลือให้เห็น! ทว่าเหล่าดวงวิญญาณกลับพร่ามัวราวกับพวกมันใช้พลังงานไปมากเกินไป!

ฉากเหตุการณ์นี้ทำให้หวังหลินต้องเปลี่ยนสีหน้าทันที!

‘นี่คือขั้นที่สาม!! เซียนขั้นที่สามเหมือนฉุยต้าว!! แม้กระทั่งเพลิงไร้ลักษณ์ก็มอดดับได้ด้วยเพลิงนรกานต์! ข้าไม่อาจเอาชนะได้จริงๆ?’ สายตาหวังหลินเต็มไปด้วยการต่อต้าน ส่งสายตาดุจสายฟ้าและร้องคำรามอยู่ในใจ

‘เป็นขั้นที่สามแล้วอย่างไร?!’

ขณะนั้นปรมาจารย์ซือโม่หันกลับมา ดวงตาเย็นเยียบจ้องมองหวังหลินและร้องคำราม

“เหล่าศิษย์มากมายสร้างเพลิงนรกานต์เพื่อข้า หากเจ้าไม่ได้บรรลุขั้นที่สาม เจ้าไม่อาจทนต้านทานพลังของเพลิงนรกานต์ได้ ในเมื่อเจ้ารนหาที่ตาย ข้าจะให้เจ้าตาย!! เหล่าศิษย์เพลิงนรกานต์ จงเคารพข้าอีกครั้ง!! ข้าอยากเห็นว่าเจ้าจะทนต้านได้หรือไม่!” ปรมาจารย์ซือโม่ชี้ใส่หวังหลิน

เพียงแค่ชี้นิ้ว วิญญาณมากมายในดินแดนเพลิงนรกานต์ของซือโม่ก็หันหน้ามาหาหวังหลิน จำนวนเหล่าศิษย์มิอาจคาดคำนวณได้ แม้กระทั่งหวังหลินยังรู้สึกตะลึงเมื่อเผชิญหน้าพวกเขา!

“เทิดทูน!” น้ำเสียงปรมาจารย์ซือโม่ดังกึกก้อง เหล่าวิญญาณเพลิงนรกานต์ทั้งหมดโค้งตัวเข้าหาหวังหลิน!

พลังครั้งนี้ก่อเกิดเป็นสายลมสีม่วงพัดไปยังหวังหลิน! หวังหลินรู้สึกว่ามีพลังบางอย่างกำลังโผล่ออกมาจากทุกทิศทาง พร้อมบดขยี้ร่างกายของเขาให้รู้สึกเจ็บปวดแสนสาหัส!

พลังฉีกกระชากออกมาจากร่างกาย ต้องการฉีกเขาให้เป็นชิ้นๆ! หวังหลินมีท่าทีเปลี่ยนไป เขาต้องหนีไปที่อื่นเพราะพลังออกมาจากโลกนี้เอง!

“ข้าอยากเห็นว่าเจ้าจะทนต้านการเทิดทูนของศิษย์เพลิงนรกานต์ของข้าได้อย่างไร เจ้ากล้าท้าทายข้าก่อนที่จะบรรลุขั้นที่สาม ช่างโอหัง!” ดวงตาของซือโม่เป็น สีม่วงสนิทและกะพริบสีม่วงแพรวพราว

อย่างไรก็ตามแม้เขาจะถูกห่อหุ้มด้วยแสงสีม่วง แต่กลับมีเพลิงเล็กๆขนาดเท่าเล็บก้อยอยู่ตรงกลางหน้าผาก!

หวังหลินเห็นคนเล็กๆกำลังนั่งอยู่ในเปลวเพลิง เขาดูเหมือนปรมาจารย์ซือโม่ไม่มีผิดเพี้ยน มีสองหยาดน้ำตากำลังไหลออกมาด้วย!!

“ช่วยข้า…” วินาทีที่สายลมม่วงเข้ามาถึง หวังหลินดูเหมือนได้ยินเสียงเบาบางที่ออกมาจากเปลวเพลิงตรงกลางคิ้วซือโม่ได้!

‘ปรมาจารย์ซือโม่มีศิษย์เพลิงนรกานต์อยู่มากมายนัก!’ วิหคศักดิ์สิทธิ์รุ่นที่สอง สีหน้าเปลี่ยนไปและกำลังจะพุ่งเข้าไปช่วย

อย่างไรก็ตามขณะที่กำลังจะก้าวเท้า เสียงหวังหลินเอ่ยดังสะท้อนออกมา!

“ท่านบรรพชน ผู้น้อยรับมือได้!”

…………………………………………….

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!