Skip to content

ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 1444

Cover Renegade Immortal 1

1444. ศัตรูเข้าใกล้

สายตาไม่แยแสของหวังหลินกวาดผ่านเซียนที่ล่าถอย อารมณ์ปั่นป่วนรุนแรงโผล่ออกมาจากพวกเขา ตราบใดที่หวังหลินจุดปะทุอารมณ์นี้ เขาก็สามารถสร้างความเสียหายใหญ่หลวงได้

อย่างไรก็ตามสุสานบัญชาโบราณเป็นสถานที่อันตรายมาก จนกว่าเขาจะมองทะลุมันออก เขาคงไม่ฆ่าคนไปทั้งหมด สิ่งที่เขาต้องการคือแสดงอำนาจของตนเอง!

เซียนบางคนที่นี่ทรงพลัง หากเขาบังคับให้จนมุมและรวมตัวกัน คงไม่เป็นประโยชน์ต่อหวังหลิน

หวังหลินไม่ค่อยจะสังหารใครนักหากไม่มีประโยชน์แอบแฝง

สายตาอันเยือกเย็นและเพลิงเก้าสีที่หมุนอยู่ในตาซ้าย เรือนผมสีขาวสะบัดพลิ้ว ส่วนตัวเขาเปล่งกลิ่นอายชั่วร้ายออกมา สายตาที่กวาดผ่านไปทำให้ทุกคนที่จับจ้องหวังหลินถึงกับหน้าซีดเผือด

“เจ้าพูดว่าหากข้าสังหารอสูรมากกว่าสิบตัว เจ้าจะฆ่าข้าและหลอมวิญญาณข้า?” หวังหลินยกแขนขวาและชี้ใส่เซียนร่างอ้วนที่กำลังถือลูกคิด

ร่างเซียนคนนั้นสั่นเทา กระทั่งไขมันในร่างยังสั่นสะเทือน เขาฝืนยิ้มอย่างขมขื่นและรู้สึกเจ็บปวดในใจ เขาไม่รู้ว่าหวังหลินคือเซียนเพลิงไร้ลักษณ์ การจะหลอมวิญญาณของเซียนเพลิงไร้ลักษณ์นั้น เรื่องนี้…แม้แต่เขาเองก็ไม่เชื่อว่าจะทำมันได้

เลือดเนื้อของเขาคงโดนเผาไหม้เสียหมดจดก่อนที่เขาจะได้เริ่มหลอมเสียอีก

สายตาหวังหลินค่อยๆเย็นยะเยือกมากขึ้นพร้อมกับจ้องมองเซียนร่างอ้วน ในสายตากะพริบจิตสังหารวูบวาบ

เซียนร่างอ้วนเต็มไปด้วยเหงื่อ หัวใจเต้นระรัว เขารู้สึกเหมือนมีเพลิงเผาไหม้อยู่ในร่าง ลำคอแห้งผากและรีบสะบัดแขนนำเกล็ดหนึ่งชิ้นออกมายื่นส่งไปอย่างรวดเร็วและกล่าวอย่างขมขื่น “ข้าพูดแบบนั้นจริงๆและหวังว่าสหายเซียนจะยกโทษให้ นี่คือสิ่งที่ข้าได้มาจากแท่นหิน ข้าหวังว่าสหายเซียนจะยอมรับเป็นคำขอโทษ”

หวังหลินยื่นแขนออกไป เกล็ดชิ้นนั้นร่อนลงในมือเขา มองอยู่เล็กน้อยก่อนจะเก็บกลับไป จากนั้นสายตาเลื่อนจากเซียนร่างอ้วนไปยังอีกคน

“เจ้าพูดว่าหากข้าสังหารเพิ่มหนึ่งตัว ข้าคงต้องตายที่นี่ ข้าจะให้โอกาสเจ้า!” คำพูดของหวังหลินเย็นเยียบออกมา

เมื่อเซียนร่างอ้วนเห็นว่าหวังหลินไม่มีเป้าหมายมาที่เขาแล้วจึงรู้สึกโล่งอก อย่างไรก็ตามเซียนชุดดำคนนั้นสั่นเทาแต่ยังหลับตาอยู่ราวกับหูหนวก ตอนนี้เขานั่งอยู่เงียบๆด้วยท่าทีมืดมน

วินาทีต่อมาเซียนชุดดำคำนับมือให้หวังหลินและสะบัดแขนขวา กระบี่สีดำลอยออกมาหาหวังหลิน กระบี่เล่มนี้ปกคลุมด้วยพลังมาร

เซียนชุดดำเอ่ยขึ้นเบาๆ “ก่อนหน้านี้ข้าไม่ยั้งคิด ข้าหวังว่าสหายเซียนจะไม่ใส่ใจ”

หวังหลินรับกระบี่ไปและมองเซียนชุดดำ เขาพบว่าเซียนชุดดำคนนี้น่าสนใจ อารมณ์ผันผวนจากเขาไม่ได้รุนแรงมากแต่ดูเหมือนจะมีพลังลึกลับผนึกไว้ตรงกลางหน้าผาก หวังหลินสัมผัสได้ว่าผนึกนี้จะปลดปล่อยออกมาตอนที่เขาลืมตา

“อ้อ เจ้าด้วย เจ้าอยากให้ข้าไปจากที่นี่หรือ? หากข้าไม่ไป เจ้าจะทำให้ข้ากรีดร้องจนเป็นศพ?” หวังหลินไม่ใช่คนใจแคบ แต่ในเมื่อจะแสดงอำนาจของตัวเองจึงต้องทำท่าทีโอหัง หากมีคนตาบอดจริงๆเขาก็คงสังหารโดยไม่คิดมากความ

ชายชุดม่วงที่มีปลาอยู่ด้านหลังพลันเหงื่อแตกพลั่ก เขายิ้มอย่างขมขื่นและคำนับฝ่ามือ นำสมบัติรูปทรงน้ำเต้าที่ได้รับจากแท่นหินออกมาและยื่นส่งออกไป

‘คำพูดที่ไม่ควรพูดกลับมีราคาเท่าสมบัติชิ้นแรกที่ข้าได้รับจากที่นี่ โถ่…’ เซียนชุดม่วงรู้สึกสำนึกผิดในใจ

“เจ้าด้วย น้ำเสียงมั่นใจแบบนั้น หากข้าไม่เชื่อฟัง เจ้าจะสังหารข้าหรือ?” หวังหลินดวงตาส่องสว่างและมองหญิงชราชุดเขียว ท่ามกลางผู้คนที่นี่ หญิงชรา ชุดเขียวนั้นแปลกประหลาดที่สุด แม้แต่ตอนนี้หวังหลินก็ไม่สามารถเดาอะไรเกี่ยวกับนางได้มากนัก

ส่วนสำคัญที่สุดคือหวังหลินเห็นว่าไม่มีอารมณ์ผันผวนออกมาจากนาง ราวกับอารมณ์ทั้งหมดถูกซ่อนไว้ในส่วนลึกข้างใน

หญิงชราชุดเขียวจ้องหวังหลินด้วยสายตาชั่วร้าย ไม่มีใครรู้ว่านางกำลังคิดอะไร หลังจากลังเลอยู่เล็กน้อย หวังหลินก็พุ่งเข้าหาด้วยความเร็วดุจสายฟ้า ปรากฏตัวเบื้องหน้านางทันที

หญิงชราชุดเขียวมีท่าทีหนักใจและรีบถอย ฝ่ามือสร้างผนึกปรากฏพลังดั้งเดิมขึ้นมาทำให้พื้นที่บิดเบือน

หวังหลินพุ่งเข้าไปในพื้นที่บิดเบือนในพริบตา ยกแขนขวาขึ้นอย่างมั่นคงและสะบัดแขน เกิดเสียงดังลั่นกึกก้องไปทั่วบริเวณ

เพียงชั่วเวลาสั้นๆเกิดเสียงดังลั่นมากมาย หวังหลินและหญิงชราโจมตีปะทะกันหลายสิบครั้ง เสียงดังสนั่นรุนแรง พลังดั้งเดิมรอบตัวเขาก่อเกิดเป็นพายุพัดเข้าใส่พื้นที่

คนที่เหลือทั้งหมดล่าถอย หญิงชรากระอักโลหิตหลังจากนั้นไม่นาน ใบหน้าซีดเซียวและรีบถอย หวังหลินพุ่งร่างออกมาจากพายุ เสื้อผ้าสีขาวส่องสว่างแพรวพราว ดัชนีทำเป็นรูปกระบี่ชี้ไปข้างหน้า

ปรากฏประตูบานหนึ่งจากแดนสวรรค์วายุขึ้นในใจหวังหลิน ดัชนีหมุนวนในโลกและมีกลิ่นอายเก่าแก่เต็มไปทั่วดินแดน กลิ่นอายเก่าแก่นั้นเข้าไปในดัชนีของหวังหลินและพุ่งใส่หญิงชรา

นางสีหน้าเปลี่ยนไปมหาศาล แม้จะคิดว่าตนเองประเมินความแข็งแกร่งหวังหลินสูงแล้ว นางไม่คาดคิดว่าหวังหลินไม่ด้อยไปกว่าเซียนขั้นทะลวงสวรรค์ระดับที่ห้าเลย วิชาของเขาทรงพลังจนน่าตกตะลึง!

พอเผชิญหน้ากับอันตราย นางจึงไม่ซ่อนวิชาของตนเองอีก นางหยุดล่าถอยและ ชี้ใส่ขมับ จากนั้นอ้าปากพ่นหมอกสีชมพูออกมา

หมอกสีชมพูแพร่กระจายพร้อมกับกลิ่นหอมหวน ทัศนวิสัยของหวังหลินพร่ามัวและมีภาพมายาปรากฏเบื้องหน้า รูปร่างของหญิงชราได้พร่ามัวไปด้วยและมีเงาหลายแห่งปรากฏด้านหลังนาง

เงาเหล่านั้นคือคนที่หวังหลินคุ้นเคยทั้งหมด!

หวังหลินไม่ใช่คนเดียวที่เห็นแบบนี้ แววตาทุกคนเกิดความงุนงงสับสน หญิงชรากลายเป็นญาติสนิทมิตรสหายที่พวกเขาใกล้ชิดและดูเหมือนหวังหลินกลายเป็น คนสนิทของพวกเขาที่ถูกสังหารไป สัมผัสความโกรธเกรี้ยวกู่ร้องขึ้นในใจแต่ละคน

‘นางเป็นคนจากหนึ่งในสามสุดยอดเผ่า เผ่ามายาผนึก…’ เด็กสาวจากเผ่าทำลายผนึกถึงกับหรี่ตาแคบและลอบประหลาดใจ

เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นฉับพลัน พอเห็นว่าเซียนรอบๆได้รับผลกระทบด้วย ดัชนีหวังหลินจึงปะทะกับหมอกสีชมพู

พื้นที่รอบๆสั่นไหวและหมอกถูกดันกลับไปราวกับไม่สามารถต่อต้านดัชนี หวังหลินได้ มันสลายไปภายใต้พลังแห่งกาลเวลา จากนั้นดัชนีหวังหลินประทับใส่กลางหน้าผากหญิงชรา

ร่างหญิงชราสั่นเทาและกระเด็นกลับไปพร้อมกระอักโลหิต อารมณ์ที่นางซ่อนเอาไว้จึงเผยออกมาและเกิดเปลวเพลิงไร้ลักษณ์ปะทุขึ้นข้างใน อักขระกลางหน้าผากของนางถูกทำลายและถูกแทนที่ด้วยรูปกะพริบวาบด้านหลังนาง!

เสียงกรีดร้องโหยหวนดังกึกก้องในเปลวเพลิง!

เซียนรอบด้านหายจากความงุนงงและเต็มไปด้วยความหวาดกลัว!

“วิชามายาผนึก!!”

“นางมาจากเผ่ามายาผนึก!”

“เผ่ามายาผนึก หนึ่งในสามสุดยอดเผ่า!”

หวังหลินลอยตัวอยู่กลางอากาศ นอกจากการสังหารแล้ว เขาโจมตีไปเพราะต้องการเห็นวิชาของนาง ตอนนี้พอรู้คำตอบจึงยกเลิกการสังหาร

เพลิงไร้ลักษณ์สลายไปจากรอบตัวหญิงชราเพียงแค่หวังหลินคิด เปลวเพลิงถอยกลับเข้าไปในร่างนางกลายเป็นเมล็ดเพลิง มันเหมือนเขตอาคมที่ปลูกฝังไว้ในร่างกาย

เมื่อเพลิงไร้ลักษณ์มอดดับ หญิงชราใบหน้าซีดและมองหวังหลินด้วยความหวาดกลัว หลังจากนั้นชั่วครู่นางจึงเอาสมบัติที่ได้มายื่นส่งให้หวังหลิน

เซียนที่เหลืออยู่ทั้งหมดตัวสั่นเทาพลางนำสมบัติที่ได้ออกมาเพื่อชดเชยกับคำพูดไม่สุภาพ แม้กระทั่งเด็กสาวจากเผ่าทำลายผนึกยังนำสมบัติให้ไปด้วยความอับอาย

มีเพียงหญิงชุดขาวผมยาวเท่านั้นที่มองหวังหลินและยิ้มอย่างชื่นชม พริบตานั้นแท่นหินด้านล่างนางก็ลอยขึ้นสู่ท้องฟ้า

“มีสมบัติอยู่ในดินแดนผนึกแห่งนี้ ในเมื่อเจ้าสนใจ ข้าก็จะจากไป ข้าเชื่อว่าเราจะได้เจอกันอีกครั้งในสุสานบัญชาโบราณแห่งนี้…” น้ำเสียงอ่อนโยนของนางลอยเข้าสู่หูของหวังหลินพร้อมกับร่างนางที่ค่อยๆหายเข้าไปในรอยแยกอวกาศแห่งหนึ่ง

หวังหลินหรี่ตาแคบแต่ไม่ได้กล่าวอะไร

ดูเหมือนการต่อสู้ที่นี่จะจบลงแล้ว ทุกคนอดไม่ได้ที่จะมองไปบนสิ่งที่อยู่เหนือ เทพโบราณ มารโบราณและปีศาจโบราณ!

แท่นขนาดหมื่นฟุตอยู่บนหลังของเทพโบราณ แท่นแห่งนี้ปกคลุมไปด้วยหมอก สีแดงและดูเหมือนกำลังผนึกสิ่งที่ทรงพลังยิ่งเอาไว้!

หวังหลินเองก็มองเทพโบราณบนพื้นด้วย ทว่าในวินาทีนั้นสีหน้าพลันเปลี่ยนไปและมองไปยังเส้นขอบฟ้า

โลกส่งเสียงดังสนั่น เหล่าเซียนทั้งหมดเห็นการเปลี่ยนแปลง เส้นขอบฟ้าบิดเบี้ยวและมีแท่นหินยักษ์เก้าแห่งพุ่งเข้ามา!

“มีคนอยู่ที่นี่! เยี่ยมมาก ส่งสมบัติที่พวกเจ้าได้รับจากแท่นหินมา!” น้ำเสียงมืดมนและแรงกดดันทรงพลังตกลงใส่ทันที!

รอยแยกอวกาศรอบๆบริเวณดูเหมือนฉีกกระชาก แท่นหินยักษ์ทั้งเก้าดูเหมือนฉีกเปิดรอยแยกออกมาอย่างไร้เสียงและปรากฏตัวที่นี่!

…………………………………………….

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!