Skip to content

ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 1446

Cover Renegade Immortal 1

1446. ตั๊กแตนจับจักจั่น

ฝ่ามือเซียนร่างอ้วนสร้างผนึกได้รวดเร็ว ลูกปัดที่เคยอยู่ในลูกคิดกำลังหมุนรอบตัวเขาเร็วจี๋ เพียงแค่เขาสะบัดแขน ลูกปัดจึงเกิดเป็นร่างประหลาดเบื้องหน้า

ร่างนี้ดูเหมือนเศษกระดานหมากรุกและลูกปัดเป็นตัวหมาก

ใบหน้าเขาเคร่งขรึมและเริ่มร่ายวิชา มือขวาสร้างผนึกขึ้นมา วินาทีนั้นลูกปัดจึงพุ่งเข้าหาหมอกสีแดง

กระดานหมากรุกเข้าไปใกล้หมอกแดงในพริบตา เสียงคำรามดังออกมาจาก สายหมอกทำให้หมอกส่วนหนึ่งยื่นออกมาและพยายามจะกลืนกินกระดานหมากรุก

เสียงดังปังกึกก้อง ขณะที่หมอกสีแดงกำลังจะกลืนกิน พลันมีแสงห้าสีส่องประกายออกมาจากกระดานหมากรุก ร่างมายาหนึ่งปรากฏขึ้นเช่นกัน มันสร้างผนึกและใช้ฝ่ามือกระทบใส่หมอกสีแดง

เกิดเป็นพลังที่มองไม่เห็นเข้าผลักสายหมอกให้กลับไป กระดานหมากรุกจึงไม่โดนกลืนกิน พอเห็นเช่นนี้ เหล่าเซียนรอบด้านทั้งหมดหรี่ตาแคบ ในแววตาหลิงตงเกิดความยินดี มีเพียงผู้รอบรู้วัยกลางคนที่เผยท่าทีดูถูก เซียนร่างอ้วนเต็มไปด้วยความภูมิใจและยกแขนขวาขึ้นมา กระดานหมากรุกเข้าไปใกล้หมอกสีแดงพร้อมกับร่างมายาที่อยู่รอบๆมัน

หวังหลินมองดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดและดวงตาส่องสว่าง วิธีของเซียนร่างอ้วนนั้นมีข้อดีอยู่ส่วนหนึ่ง ลูกคิดถือว่าเป็นสมบัติพิเศษ ลูกปัดแต่ละเม็ดมีเขตอาคมอยู่ข้างในจำนวนมาก เมื่อผสานเข้าด้วยกันจึงสร้างผลลัพธ์ที่น่าอัศจรรย์

แต่หากมันเป็นเขตอาคมธรรมดา เขาอาจจะพอมีโอกาส แต่กลเม็ดเคล็ดลับเล็กๆนี้ไม่สามารถทำลายหมอกแดงนี้ได้ เขตอาคมในหมอกสีแดงนั้นซับซ้อนยิ่งนัก ไม่เพียงแต่จะมีเขตอาคมวิญญาณโบราณแต่ยังมีเขตอาคมกาลเวลารวมอยู่ด้วย การผสานของทั้งสองอย่างนี้ล้วนทรงพลังยิ่ง

กระดานหมากรุกเข้าประชิดหมอกสีแดงและหายไปข้างในทันที จากนั้นมีเสียงคำรามรุนแรงดังออกมาจากหมอก ขณะที่ทุกคนจับตามอง สีหน้าเซียนร่างอ้วนพลันเปลี่ยนไป เขาหน้าซีดและกระอักโลหิต เห็นได้ชัดว่าสมบัติของเขาถูกทำลายและในเมื่อมันเชื่อมต่อกับวิญญาณดั้งเดิม การเชื่อมต่อนั้นถูกตัดขาดออกไปด้วย เขาพยายามล่าถอยทันทีแต่หลังจากถอยไปได้สองก้าว หมอกสีแดงพรั่งพรูอย่าง บ้าคลั่งและยื่นออกมาปกคลุมท้องฟ้า จากนั้นก็ลากเซียนร่างอ้วนเข้าไปข้างใน

เสียงกรีดร้องของเขาดังเสียดแก้วหูและสะท้อนไปทั่วบริเวณ เสียงกระดูกแตกร้าวดังสนั่นภายในจิตใจของทุกคน! หลิงตงมีสีหน้ามืดมนขึ้น หากไม่มีทางทำลายมัน เขาคงต้องทำลายมันด้วยกำลัง แต่การทำเช่นนั้นจะทำให้จิตวิญญาณเต๋าข้างในได้รับความเสียหายใหญ่หลวง หากเป็นเช่นนั้นมันคงไม่คุ้มค่าพอแม้เขาจะเปิด เขตอาคมได้

“ในเมื่อข้าเปิดมันไม่ได้ก็ไม่ควรมีใครได้ไป บังคับเปิดและทำลายมันอาจจะดีกว่า!” ในแววตากะพริบเย็นเยียบและกำลังจะก้าวไปข้างหน้า

ทว่าขณะนั้นผู้รอบรู้วัยกลางคนถือพัดจึงคำนับฝ่ามือและเอ่ยขึ้น “ท่านหลิงตง ก่อนที่จะฝืนเปิดมัน ให้ข้าลองหน่อยเถิด แม้ข้าจะเปิดมันไม่ได้อย่างสมบูรณ์ ข้าอาจจะยังเปิดได้ส่วนหนึ่ง จากนั้นเมื่อท่านหลิงตงฝืนเปิดมัน ความเสียหายต่อจิตวิญญาณเต๋าก็จะน้อยลง”

หลิงตงหันกลับมามอง ขบคิดเล็กน้อยและพยักหน้า “เจ้าต้องระมัดระวัง!”

ผู้รอบรู้วัยกลางคนพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม เขาเคาะพัดในมือและเดินเข้าหา สายหมอกอย่างช้าๆ

หวังหลินมีท่าทีสงบนิ่งแต่ก็เริ่มสนใจ เขตอาคมก่อตัวด้านใต้ฝ่าเท้ามากขึ้นโดยไม่มีใครสังเกต

ผู้รอบรู้วัยกลางคนเข้าไปใกล้หมอก หลังจากนั้นฝ่ามือขวาสร้างผนึกราวกับกำลังคำนวณอะไรบางอย่าง ในแววตาเกิดข้อสรุปขึ้น วินาทีต่อมาแขนขวาเคลื่อนไปข้างหน้า เกิดเป็นภาพลวงตามากมายร่อนไปบนหมอกสีแดง

เสียงคำรามดังออกมาจากหมอกสีแดงอีกครั้ง จากนั้นหมอกก่อตัวเป็นฝ่ามือพุ่งเข้าใส่ผู้รอบรู้วัยกลางคน ทว่าการกระทำของเขาเหมือนไม่ได้สนใจมัน เขาสร้างผนึกขึ้นอีกและชี้ไปข้างหน้า

เสียงดังสนั่นกึกก้อง ไม่รู้ว่าเขาชี้ไปไหนแต่หมอกสีแดงสั่นเทาและพังทลายก่อนจะถึงตัวเขา

ฉากเหตุการณ์นี้ทำให้หลิงตงดวงตาส่องสว่าง

หลิงตงหรี่ตาแคบ ผู้รอบรู้วัยกลางคนมีวิชาและความเชี่ยวชาญด้านเขตอาคมเหนือล้ำกว่าคนก่อนๆ

บนหน้าผากผู้รอบรู้พลันปรากฏเม็ดเหงื่อแต่สีหน้าท่าทางยังคงสงบนิ่ง เขาเคลื่อนร่างดุจมังกรและหมุนวนรอบหมอกสีแดง ฝ่ามือไม่หยุดเคลื่อนไหว สร้างผนึกขึ้นต่อไปพลางชี้ใส่หมอกสีแดง เสียงคำรามดังออกมาจากข้างในรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ

หวังหลินหรี่ตาและเยาะเย้ย แม้ชายวัยกลางคนจะซ่อนตัวเองได้ดีและทำเหมือนกำลังทำลายเขตอาคม หวังหลินก็มองเจตนาที่แท้จริงของอีกฝ่ายออก

ขณะนั้นผู้รอบรู้วัยกลางคนร้องคำรามขึ้นทันที ร่างกายหยุดเคลื่อนไหว ฝ่ามือกดลงใส่หมอกสีแดงอย่างรุนแรง “ท่านหลิงตงโปรดช่วยข้า ใช้พลังของเพลิงนรกานต์ ข้าจะสามารถทำลายเขตอาคมได้ครึ่งหนึ่ง!”

น้ำเสียงดูเร่งรีบและหลิงตงดูเหมือนจะเชื่ออีกฝ่ายอย่างมาก เขาก้าวไปข้างหน้าโดยไม่ลังเล จากนั้นยกแขนขวาขึ้นมารวบรวมเพลิงนรกานต์ในฝ่ามือ ควบแน่นได้ในพริบตาและกระแทกลงใส่หมอกสีแดง! ประทับฝ่ามือจากเพลิงนรกานต์พุ่งออกมาเข้าใส่หมอกสีแดงอย่างรวดเร็ว! มันร่อนไปบนหมอกแดงแทบจะเป็นเวลาเดียวกับฝ่ามือของผู้รอบรู้วัยกลางคน เสียงดังสนั่นกึกก้องและหมอกสีแดงส่วนหนึ่งแตกสลาย ทว่าขณะที่หลิงตงกำลังมีใบหน้าเปี่ยมสุข หมอกสีแดงโหมกระหน่ำเปลี่ยนกลายเป็นปากเข้ากลืนกินผู้รอบรู้ที่กำลังหน้าซีดทันที

เสียงกรีดร้องดังกึกก้องอยู่ในสายหมอก วินาทีนี้หมอกสีแดงเข้ากลืนกินประทับฝ่ามือจากเพลิงนรกานต์ไป กลิ่นอายทำลายล้างปะทุออกมาจากข้างในและส่งเสียงดังสนั่นดุจสายฟ้าฟาด ทำให้พื้นที่ผนึกแห่งนี้สั่นไหว เสี้ยววินาทีนี้กลิ่นอายทำลายล้างนั้นได้ปะทุออกมากลายเป็นพายุที่สามารถทำลายล้างโลกได้สิ้น พายุนี้สร้างขึ้นจาก หมอกสีแดงและเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วจนทำให้โลกเริ่มพังทลาย เซียนบางส่วนเคลื่อนไหวช้าเกินไปจึงทำให้ร่างกายแตกสลาย สีหน้าหลิงตงเปลี่ยนไป แม้กระทั่งตัวเขาเองยังรู้สึกถึงอันตรายออกมาจากพายุ เขาถอยโดยไม่ลังเลและร่อนลงบนแท่นขนาดสองหมื่นฟุต จากนั้นสะบัดแขนและพุ่งขึ้นสู่ฟ้า ไม่เพียงแค่เขาเท่านั้นแต่ทุกคนเองก็ล่าถอย บางคนที่ช้าก็ถูกหมอกแดงกลืนกิน ด้านหวังหลินนั้นถอยได้เร็วที่สุดยิ่งกว่าหลิงตง ในเวลาเดียวกับที่ผู้รอบรู้วัยกลางคนถูกกลืนกิน เขตอาคมที่เขารวบรวมไว้ใต้ฝ่าเท้าพลันพุ่งเข้าหาพื้นดิน จากนั้นตัวเขาพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าโดยไม่ลังเล

พายุแดงเป็นเสมือนคลื่นยักษ์ กลิ่นอายทำลายล้างของมันฉีกกระชากท้องฟ้า ทุกคนเริ่มหนีกันจ้าละหวั่นและพุ่งเข้าสู่รอยแยกอวกาศในท้องฟ้า ทุกคนหายไปและมีคนโดนพายุแดงกลืนกินมากกว่าสิบคน รวมหวังหลินแล้วมีคนน้อยกว่าสิบเอ็ดคนที่หนีเข้าไปในรอยแยกอวกาศได้ หมอกสีแดงตอนนี้เต็มไปทั่วโลกจนไม่มีช่องว่าง

หลังจากผ่านไปสักพัก หมอกก็เริ่มปั่นป่วนและค่อยๆถอยกลับไปบนแท่นที่อยู่บนหลังเทพโบราณอย่างช้าๆ ท้องฟ้าตอนนี้เป็นสีแดงเข้ม รอยแยกอวกาศหายไปหมดสิ้น ผนึกทางเข้าสู่สถานที่แห่งนี้โดยสิ้นเชิง

เสียงคำรามที่ดังออกมาจากหมอกค่อยๆหายไป รอบด้านเริ่มเงียบสนิทโดยสิ้นเชิง

เวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้า พอผ่านไปครึ่งชั่วโมง มีคนผู้หนึ่งค่อยๆเดินออกมาจากสายหมอก คนผู้นี้คือผู้รอบรู้วัยกลางคนที่ทุกคนคิดว่าตายไปแล้ว เขาเผยรอยยิ้ม น่ากลัวแฝงความหยิ่งในมุมปาก

‘หลินตงแล้วอย่างไรเล่า? ไม่มีใครเอาสมบัตินี้ไปได้ถ้าข้าไม่ต้องการให้! แค่เคล็ดลับเล็กน้อยที่บังคับให้ทุกคนออกไป ตอนนี้จิตวิญญาณเต๋าข้างในเป็นของข้าแล้ว!’

เขาหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง ใบหน้าเย่อหยิ่งมากกว่าเดิม เขามองดูสายหมอกด้วยสายตาแห่งความโลภ จากนั้นเลียริมฝีปากและสะบัดแขน เศษหินหยกเก้าชิ้นปรากฏขึ้นในมือ

‘เขตอาคมวิญญาณโบราณ เขตอาคมกาลเวลา! แม้ข้าจะไม่สามารถทะลวง พวกมันให้เปิดได้ ข้าสามารถทำให้พวกมันหยุดทำงานได้ยี่สิบวินาที!’

ผู้รอบรู้วัยกลางคนสะบัดแขนขวา เศษหินหยกเก้าชิ้นเปล่งแสงน่ากลัว ก่อเกิดเป็นวงกลมและพุ่งใส่หมอกสีแดง เสียงคำรามเริ่มทวีความรุนแรง แต่หลังจากนั้นมันก็หยุดลงเนื่องจากแสงน่ากลัวจากหินหยก ชายวัยกลางคนก้าวเข้าไปในรูวงกลมและจากนั้นใช้ฝ่ามือกระชากเปิดข้างในเขตอาคมที่หยุดไป ดวงตาเต็มไปด้วยความโลภ เขากำลังจะก้าวเข้าไปในรอยร้าวที่เพิ่งสร้างขึ้นมา

แต่ทว่าวินาทีนั้นมีเสียงกรีดร้องโหยหวนดังสะท้อนอยู่ในโลกด้านหน้า ‘เป็นไปไม่ได้ ยังมีเขตอาคมเปิดใช้งานอยู่ ข้าควรหยุดเขตอาคมได้ทั้งหมดนี่…’ ชายวัยกลางคนรีบถอยออกมา ใบหน้าเปื้อนโลหิต ร่างกายกำลังเน่าเปื่อย พริบตาเดียวหลังจากเขาถอยไปได้สามสิบฟุตจึงเน่าเปื่อยกลายเป็นซากศพ

พริบตาเดียวเวลาก็ผ่านไปยี่สิบวินาที แสงน่ากลัวจากหินหยกเกิดการสลายตัว หมอกสีแดงเผยท่าทีกระตุ้นขึ้นอีกครั้ง ไม่นานมันก็กลับมาใช้งานได้ดังเดิม

เวลาสิบห้านาทีผ่านไปอย่างรวดเร็ว ร่างซากศพพลันลืมตา รูปร่างเขาเปลี่ยนกลับมาเป็นผู้รอบรู้วัยกลางคนอย่างรวดเร็ว

‘ดูเหมือนไม่มีใครสามารถเข้ามาที่นี่ได้…’ ผู้รอบรู้วัยกลางคนดวงตาส่องสว่างและก้าวเข้าหาหมอกสีแดง

……………………………………………..

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!