Skip to content

ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 1693

Cover Renegade Immortal 1

1693. แสงสีรุ้ง

อสูรสิงโตด้านล่างของทั้งสองคนถึงกับตัวสั่นและเผยอาการหวาดกลัว มันสั่นสะท้านและหยุดเดิน

แสงสีรุ้งส่องประกายด้านหลังดุจดวงดาว ราวกับมีใครสักคนแหวกเปิดอวกาศและบังคับให้แสงสีรุ้งเข้ามาข้างใน

หวังหลินหรี่ตาและก้าวเท้าออกไปโดยไม่ลังเล เขาขยับเคลื่อนไหวในพริบตา ฟ่านชานลิ่วเองก็เช่นกัน นางเคลื่อนไหวดุจผีเสื้องดงามอยู่ด้านหลังหวังหลิน

ขณะที่นางหนี ฝ่ามือละเอียดดุจหินหยกกวาดเข้าหาอสูรสิงโต มันร้องคำรามและพุ่งใส่แสงสีรุ้งราวกับบ้าคลั่ง

ฟ่านชานลิ่วดวงตาส่องสว่างและเอ่ยพึมพำ “สังเวยโลหิต!”

เจ้าสิงโตถูกปกคลุมด้วยแสงสีโลหิตและจากนั้นระเบิดเป็นหมอกโลหิต หมอกสั่นไหวและกระจายออกไปทุกทิศทาง ไม่นานจึงมีเสียงคำรามแหลมคมดังออกมาทั่วสารทิศ

กลิ่นอายของเหล่าอสูรดุร้ายพุ่งเข้าไปยังตำแหน่งเป้าหมาย

หวังหลินแทบจะใช้ความเร็วเต็มที่ เคลื่อนไหวดุจลำแสงทะลวงผ่านอวกาศ บางครั้งก็ผสานกับโลกและเคลื่อนที่เร็วกว่าเดิม

“ทางนี้!” ฟ่านชานลิ่วเร็วกว่าหวังหลินเล็กน้อย ระดับบ่มเพาะของนางสูงส่งมาก ถึงแม้จะบาดเจ็บแต่ก็สามารถระงับอาการบาดเจ็บส่วนใหญ่ได้หลายปี

พริบตาเดียวนางก็ผ่านหวังหลินและนำทาง นางไม่ได้มุ่งไปเป็นเส้นตรงแต่เปลี่ยนทิศทาง หวังหลินดวงตาส่องสว่างและติดตามไปโดยไม่ลังเล

ทว่าในจังหวะนั้น เสียงลมหายใจเย็นเยียบดังออกมาจากความว่างเปล่าด้านหลังทั้งสองคน แรงกดดันทรงพลังและคลื่นกระแทกโผล่ออกมา

ด้านหลังพวกเขามีอสูรดุร้ายหลายร้อยตัวที่กำลังถูกหมอกโลหิตโจมตี แต่ขณะที่ลมหายใจเย็นดังสนั่น พวกมันจึงส่งเสียงร้องโหยหวนและถูกพลังรุนแรงผลักกระเด็นกลับไป

เหล่าอสูรหลายร้อยตัวระเบิดในทันที

หยดโลหิตและเลือดเนื้อแหลกละเอียดลอยผ่านหวังหลินทำให้เขาสีหน้ามืดมนยิ่ง

ขณะที่เหล่าอสูรดุร้ายหลายร้อยตัวแตกสลาย แสงสีรุ้งแทงทะลุผ่านไป เซียนเต๋าสีรุ้งก้าวเดินออกมาอย่างสงบนิ่งพร้อมกับเอาสองมือไพล่หลัง

“หวังหลิน ส่งคันศรและเกาทัณฑ์ลี่กวงมาให้ข้า” คำพูดเชื่องช้าแต่เมื่อเข้าไปในหูหวังหลิน ความคิดจิตใจจึงสั่นสะท้าน ร่างหวังหลินสั่นเทาและกระอักโลหิต

ฟ่านชานลิ่วคว้าแขนหวังหลิน ใบหน้าของนางซีดเผือดและดึงหวังหลินไปข้างหน้าอย่างเร่งรีบ

“ข้าจำเจ้าได้ เจ้าคือนางสนมลำดับแรกของข้า ทำไมเจ้าถึงวิ่งหนีหลังจากเห็นข้าเสียเล่า?” เซียนเต๋าสีรุ้งกวาดสายตาไปยังฟ่านชานลิ่ว เขาสะบัดแขนเสื้อ ร่างเงาวิหคเพลิงร้อนแรงเก้าตัวปรากฏขึ้นเบื้องหน้า

วิหคเพลิงเก้าตัวนี้ไม่ใช่วิหคศักดิ์สิทธิ์ กระนั้นความร้อนที่พวกมันปลดปล่อยออกมาก็ไม่ใช่สิ่งที่วิหคศักดิ์สิทธิ์จะเทียบเคียงได้! รวมถึงพวกมันมีวิญญาณของดาวเคราะห์อยู่ด้วยทั้งเก้าตัว!

พวกมันไม่ใช่วิหคเพลิง แต่คือดาวเคราะห์เผาไหม้ซึ่งหาได้ยากในโลกถ้ำแห่งนี้ ทั้งยังถูกเซียนเต๋าสีรุ้งหล่อหลอม! พูดให้ถูกมันคือดวงอาทิตย์เก้าดวง!

เพียงแค่สะบัดแขน วิหคเพลิงเก้าตัวเปลี่ยนกลายเป็นลำแสงเพลิงเก้าสายพุ่งใส่หวังหลินและฟานชานลิ่ว

“ท่านช่วยขวางไว้ที!” วินาทีนี้หวังหลินไม่สามารถซ่อนความแข็งแกร่งของตัวเองได้อีกแล้ว เขาปลดปล่อยเสียงคำรามและสะบัดฝ่ามือ ฟ่านชานลิ่วไม่ลังเลที่จะยืมพลังคลื่นของหวังหลิน นางเอี้ยวตัวไปข้างหน้า สองฝ่ามือสร้างผนึก กระอักโลหิตออกไปและร้องคำรามด้วยความเศร้า

“เต๋ามหาวิญญาณ วาดดวงวิญญาณ ใช้วิญญาณข้าเป็นเครื่องสังเวย สร้างวิญญาณตัดขาดดินแดน!” ฟ่านชานลิ่วยื่นแขนขวาออกไป โลหิตที่กระอักไปก่อนหน้านี้พลันเปลี่ยนเป็นสายหมอกเข้าไปในแขนขวา ไม่นานมันจึงเปลี่ยนกลายเป็นมีดสีแดงโลหิต!

ฟ่านชานลิ่วเงยศีรษะและฟันลงใส่วิหคเพลิงเก้าตัว มีดแตกกลายเป็นเก้าส่วนและพุ่งใส่วิหคทั้งเก้าเพื่อขัดขวาง!

หวังหลินใช้โอกาสนี้ยื่นแขนซ้ายออกไปและปรากฏคันศรลี่กวงขึ้นมา แขนขวายืดออกรั้งสายคันศร หยาดเหงื่อเต็มหน้าผาก แววตาเปล่งประกายสีทอง

การคำนวณของราชันย์ไม่ผิด หวังหลินมีพลังในการวาดคันศรได้สองครั้งเท่านั้น แต่ที่ราชันย์ไม่รู้คือหวังหลินมีโลหิตเทพอีกหยด!

โลหิตนี้ฉวี่ลี่กั๋วและหลิวจินเปียวล่อลวงเอามาจากเหลียนต้าวเฟยและสุดท้ายถูกหวังหลินยึดครอง! แม้โลหิตนี้จะไม่มีพลังอำนาจมากนัก แต่มันก็มากพอที่จะทำให้ราชันย์คำนวณผิดพลาดแล้ว!

คันศรลี่กวงถูกรั้งสาย ปรากฏเกาทัณฑ์ขึ้นมาจนส่งเสียงดังกระหึ่ม วินาทีนั้นหวังหลินคลายมือออก สายดีดผึง ยิงเกาทัณฑ์ออกไป

เสียงของเกาทัณฑ์แทนที่เสียงทุกอย่างในโลก พริบตาเดียวมันก็ทะยานผ่านฟ่านชานลิ่วไป เรือนผมนางสะบัดพลิ้วและถูกตัดขาดไปหลายส่วน

หลังจากผ่านนางไป เกาทัณฑ์ปะทะเข้ากับวิหคเพลิงเก้าตัว

คลื่นกระแทกรุนแรงแผ่กระจายและเกิดเสียงดังสนั่น ฟ่านชานลิ่วถูกคลื่นกระแทกตีใส่และกระอักโลหิต หวังหลินคว้านางไว้ ทั้งคู่จากไปโดยไม่แม้แต่หันกลับไปมองผลลัพธ์

“ถ้ำของข้าอยู่ห่างไปสี่ล้านลี้ มีค่ายกลหลายอย่างที่สามารถต้านทานได้สักพัก!” ฟ่านชานลิ่วเอ่ยเสียงดังกึกก้อง หวังหลินไม่ได้เอ่ยอันใดออกมาพลางคว้าแขนนางและหายวับไปสองคน

พวกเขาปรากฏตัวอีกครั้งก็เคลื่อนห่างออกมาได้สองล้านลี้ ใบหน้าหวังหลินซีดเผือดและเร่งรีบต่อไป

หวังหลินไม่กล้าหยุดชะงัก แต่ส่งข้อความทางสัมผัสวิญญาณให้กับฟ่านชานลิ่ว “เขาคือราชันย์เทพสีรุ้งหรือไม่!?”

“ทั้งใช่และไม่ใช่…เขา…” ก่อนที่นางจะเอ่ยจบ เสียงโผล่ออกมาจากด้านหลังทั้งสอง

“ข้าคือราชันย์เทพสีรุ้งแน่นอน เดิมทีข้าไม่ต้องการสังหารเจ้าและเพียงต้องการเอาคันศรและเกาทัณฑ์คืนเท่านั้น ข้าจะให้โอกาสครั้งสุดท้าย จงมอบมันมาให้ข้า” เซียนเต๋าสีรุ้งก้าวเดินออกมาจากระยะไกล เขาดูไม่แตกต่างจากก่อนหน้านี้ เกาทัณฑ์ไม่ส่งผลกระทบอะไรกับเขาเลย!

อย่างไรก็ตามหวังหลินไม่เชื่อ แต่นี่ไม่ใช่เวลามาตรวจสอบ หากอีกฝ่ายต้องการซ่อนความจริง หวังหลินก็ไม่สามารถสืบเสาะได้

“ช่างมันเถอะ ในเมื่อเจ้ารนหาที่ตาย ข้าจะช่วยสงเคราะห์เอง” เซียนเต๋าสีรุ้งเผยท่าทีสงสาร เขาส่ายศีรษะ ชี้ไปที่หวังหลินและฟ่านชานลิ่ว

ผลึกสีรุ้งปรากฏขึ้นมาจากปลายนิ้ว ผลึกนี้พุ่งใส่หวังหลินและฟ่านชานลิ่วในทันที

มันเข้าใกล้ในพริบตา แตกสลายเป็นแสงสีรุ้งห่อหุ้มรอบตัวสองคน หากมองไกลๆจะเห็นได้ว่าตอนนี้ผลึกแสงสีรุ้งได้หายไปแล้ว

ผลึกหดเล็กลงอย่างรวดเร็ว เสียงแตกร้าวดังสนั่น หวังหลินรู้สึกเจ็บปวดรุนแรงออกมาจากร่างกาย แรงกดดันทรงพลังออกมาจากทุกทิศทางเข้าบดขยี้ร่าง

ฟ่านชานลิ่วหน้าซีด ในช่วงจังหวะอันตรายนี้ แขนขวาสร้างผนึกและปรากฏประทับสีรุ้งขึ้นเบื้องหน้าอีกครั้ง นางพ่นโลหิตใส่ประทับ

“พี่สาว ช่วยข้าด้วย!!”

น้ำเสียงของนางช่างโหยหวนยิ่ง เวลานี้ดวงดาวสั่นไหว กลิ่นอายแปลกประหลาดโผล่ออกมาจากความว่างเปล่า! บนแผ่นดินเซียนดารามีแผ่นดินน้ำแข็งที่ปกคลุมไปด้วยหิมะสีขาว มันหนาวเย็นจนแช่แข็งสิ่งมีชีวิตให้ถึงแก่ความตายได้ แม้แต่เซียนก็ยังเอาชีวิตรอดจากที่นี่ได้ยากยิ่ง

ณ แผ่นดินน้ำแข็งแห่งนี้ มีภูเขาน้ำแข็งและมีสตรีผู้หนึ่งกำลังนั่งอยู่บนยอดเขา รูปร่างหน้าตาของนางเหมือนกับฟ่านชานลิ่วไม่มีผิดเพี้ยน!

ทันใดนั้นนางลืมตาขึ้นมาและชี้ใส่กลางหน้าผาก

แสงสีรุ้งระเบิดออกมาจากกลางหน้าผาก ขณะเดียวกันในโลกแห่งถ้ำ แสงสีรุ้งระเบิดออกมาจากกลางหน้าผากของฟ่านชานลิ่วด้วยเช่นกัน ราวกับมีพลังภายนอกเข้าไปในร่างกายนางและทำให้มันส่งเสียงดังลั่น

ประทับสีรุ้งใช้พลังนี้ขยายออกไปจากพันฟุต หมื่นฟุตจนถึงแสงฟุต มันกดทับผลึกที่กำลังหดตัวรอบด้าน และจากนั้นผลึกก็แตกสลายทันที

ประทับสีรุ้งขนาดยักษ์พุ่งใส่เซียนเต๋าสีรุ้ง

“ข้าใช้พลังทั้งหมดไปแล้ว พาข้าไป!” ฟ่านชานลิ่วดวงตาหม่นหมอง หวังหลินคว้านางเอาไว้ พริบตานั้นทั้งคู่ก็หายวับไปและปรากฏตัวอีกครั้งห่างออกไปสองล้านลี้

เบื้องหน้าพวกเขาคือเรือลำใหญ่ขนาดเท่าเมืองเมืองหนึ่ง มันเป็นสีม่วงล้วนดูสมสง่า พวกเขาถูกล้อมรอบด้วยม่านพลังป้องกันซึ่งมีแรงกดดันมหาศาล

ใบเรือส่ายไปมาโดยไร้แรงลม บนใบเรือมีใบหน้าชั่วร้ายจนดูเป็นฉากน่าตื่นตะลึง! หวังหลินและฟ่านชานลิ่วพุ่งเข้าไปในม่านป้องกัน ร่างของฟ่านชานลิ่วเรืองแสงขึ้น ม่านพลังป้องกันยอมให้เข้าผ่านไปได้

วินาทีที่หวังหลินร่อนลงมาถึง จึงถามฟ่านชานลิ่ว “แล้วเขาเป็นใครกัน?” คำถามนี้ผุดขึ้นมาในใจมานานแล้ว!

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!