1722. ตัวตน!!
ภาพที่ปรากฏขึ้นคราวนี้คือ ดาวเคราะห์เซียน หวังหลินคุ้นเคยกับดาวดวงนี้เพราะมันคือ ดาวเทียนหยุน!
เทียนหยุนนั่งอยู่ในห้องลับที่อยู่ในสำนักเทียนหยุน เบื้องหน้าเป็นผู้เยาว์จำนวนเก้าคนที่ไร้สติกันทั้งหมด
เทียนหยุนเผยแววตาเป็นแสงประหลาด พลางมองไปยังเก้าคนนั้น เขาอ้าปากและสูดหายใจเข้าไป ผู้เยาว์ทั้งเก้าถูกเขากลืนกิน
ร่างกายสั่นสะท้าน สีหน้าอาการเจ็บปวด เขาค่อยๆ หลับตาและหลับใหลลงไป หลายปีผ่านไปไม่รู้นานแค่ไหน เทียนหยุนลืมตาขึ้นด้วยแววตากระจ่างสดใส
‘นี่คือการตื่นครั้งที่ 97 ของข้า…คนที่จะทำให้ข้าหลับและตื่นครั้งถัดไปคือ หลิงเทียนโฮว!’
หวังหลินมองทั้งหมดนี้ด้วยท่าทีสงบนิ่ง แต่เกิดคลื่นถาโถมขึ้นในใจ เขาไม่คาดคิดว่าการตื่นเหล่านี้คือผลลัพธ์ของการที่เทียนหยุนไปกลืนกินคนอื่น!
‘เขาน่าจะเป็นหนึ่งในสามวิญญาณของราชันย์เทพสีรุ้งหรือไม่ก็เจ็ดชิ้นส่วน เท่านี้ถึงจะอธิบายได้ว่าเขาตื่นครั้งแล้วครั้งเล่าได้อย่างไร!’ หวังหลินมองเทียนหยุนด้วยสายตาเยือกเย็น
ภาพเปลี่ยนไปอีกครั้ง แสดงให้เห็นถึงช่วงเวลาที่แตกต่างของเทียนหยุน จนกระทั่งเวลาหนึ่งเขาเห็นเทียนหยุนนั่งอยู่บนดาวเคราะห์ร้างแห่งหนึ่ง หลังจาก กลืนกินเซียนหนึ่งคนที่เขาเลือกไป จึงตื่นขึ้นอีกครั้ง
เขากำลังจะออกไปจากดาวเคราะห์ ทว่าพลันหยุดลง มองลงไปเห็นดาวเคราะห์เซียนรกร้างครึ่งดวงสีเหลืองอมน้ำตาล
เขาอุทานออกมาเบาๆ และเผยรอยยิ้มเบาบาง ส่งสัมผัสวิญญาณของตัวเองออกไป
“หายากนักที่จะเจอคนที่เข้าใจลึกซึ้งบนดาวเคราะห์กึ่งไร้ประโยชน์แบบนี้ แต่ด้วยระดับขั้นวิญญาณแรกกำเนิดของเจ้า ไม่ควรโลภมากรู้แจ้งขั้นตัดวิญญาณ หากเจ้าต้องการแสวงหาต่อไป ข้ากลัวว่าอีกนานเจ้าก็ยังไม่เจอต้นตอของมัน ถึงตอนนั้นแล้วร่างกายเจ้าคงเน่าเปื่อยผุพังไปสิ้น เจ้าเข้าใจหรือไม่?” ขณะที่ เทียนหยุนเอ่ย พลางยกแขนขวาขึ้นมาและกดลงใส่ดาวเคราะห์กึ่งไร้ประโยชน์ดวงนั้น
“ข้าชื่อว่าเทียนหยุน วันนี้ข้าหวังดีกับเจ้า หากเจ้าสามารถออกไปจากดาวเคราะห์นี้และมาหาข้าบนดาวเทียนหยุน ข้าจะรับเจ้าเป็นศิษย์ไปร้อยปี!”
รอยยิ้มบนใบหน้าเทียนหยุนเบ่งบานกว่าเดิม เขาสะบัดแขนและก้าวเดินออกไปไกล
‘เด็กคนนั้นไม่เลว ข้าสามารถยกระดับเขาขึ้นอีกเล็กน้อยให้ร่างอวตารกลืนกิน อย่างไรเสียระดับบ่มเพาะก็ต่ำเกินไป ยากนักที่จะบอกได้ว่าเขาใช้ประโยชน์ได้หรือไม่…แต่ข้ารู้สึกว่าเด็กคนนี้จะกลายเป็นคนพิเศษ!’
เมื่อหวังหลินเห็นแบบนี้ ความคิดจิตใจสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง เขาจ้องมองไปบนดาวเคราะห์สีเหลืองแกมน้ำตาล จิตใจราวกับถูกโจมตีกระหน่ำ กลิ่นอายจาก ดาวเคราะห์ได้ทำให้หวังหลินเข้าใจทุกสิ่งทุกอย่าง!
ขณะที่ร่างดั้งเดิมของหวังหลินจมดิ่งไปในการเกิดใหม่ของเทียนหยุนที่อยู่ใน โลกด้านนอก ร่างอวตารทั้งหมดของเทียนหยุนพลันยกแขนขวาขึ้นมาชี้ใส่จุด กลางหน้าผาก!
เทียนหยุนคนแรกที่ปรากฏขึ้นบนทิศตะวันออกในทะเลเมฆาพลันเผยแววตาเป็นแสงประหลาด เขายังยกแขนขวาขึ้นมาชี้ใส่หน้าผากเช่นกัน
‘ข้าจะหลับเป็นครั้งสุดท้ายและตื่นเป็นครั้งสุดท้าย คราวนี้ข้าจะบรรลุแผนการที่ข้าเริ่มไว้เมื่อหลายปีก่อน!’ เขาหลับตาและใช้นิ้วค่อยๆ แทงทะลุกะโหลก
เสี้ยววินาทีนี้ ร่างของเทียนหยุนพลันแตกสลาย เสียงดังสนั่นกึกก้องทั้งสี่ดาราจักร เทียนหยุนทั้งสามพันร่างพังทลาย แต่ละร่างมีหนึ่งวิญญาณลอยออกมา ทุกดวงมุ่งไปหาร่างอวตารของหวังหลิน!
‘มาดูกันว่าเจ้าจะเร็วกว่าหรือข้าเร็วกว่า! ตอนที่ข้าวางแผนกับเจ้า เจ้าก็แค่ เซียนขั้นวิญญาณแรกกำเนิด ถ้าไม่ใช่เพราะข้า ร่างกายเจ้าคงเน่าเปื่อยไปแล้ว! ทุกสิ่งทุกอย่างของเจ้าคือของข้า!’ ดวงวิญญาณทั้งสามพันพุ่งออกไป ก่อเกิดเป็นคลื่นพลังวิญญาณผสานรวมกัน สร้างเสียงสั่นสะเทือนสวรรค์ดังกึกก้องในใจของ ร่างอวตารหวังหลิน
ขณะที่เหล่าวิญญาณทั้งสามพันดวงพุ่งใส่ร่างอวตารของหวังหลิน ร่างดั้งเดิมเขาได้เห็นการตื่นขึ้นจากการเกิดใหม่ของเทียนหยุนอีกครั้ง!
คนที่หวังหลินกำลังมองดูนั้นแตกต่างอย่างสิ้นเชิงจากเทียนหยุน ราวกับเป็นคนอื่น ถ้าไม่ใช่เพราะกลิ่นอายที่หวังหลินจับจ้อง เขาคงไม่เชื่อว่าคนทั้งหมดที่สุ่มขึ้นมานี้คือเทียนหยุน!
ณ โลกยุคโบราณ ก่อนที่สี่แดนสวรรค์จะล่มสลาย มีชายวัยกลางคนสวมชุดสีฟ้าลอยอยู่เหนือดาวเคราะห์ เขายิ้มออกมาพลางกลืนกินชายหนุ่มไร้สติเบื้องหน้า
ชายหนุ่มคนนี้คือ ศิษย์เพียงคนเดียวของเขา!
‘นี่คือการตื่นครั้งที่ 34 ของข้า…’
ณ โลกยุคโบราณอีกเช่นเดียวกัน ท่ามกลางเศษดินแดนที่กระจัดกระจาย มีสตรีงดงามน่าหลงใหลกำลังล่องลอยอยู่ นางยิ้มและกลืนกินชายหนุ่มไร้สติที่อยู่ด้านข้าง ระดับบ่มเพาะของชายหนุ่มสูงมากและเต็มไปด้วยพลังปราณสวรรค์ เห็นได้ชัดว่าเป็นคนที่มาจากสี่แดนสวรรค์
การกลืนกินดำเนินซ้ำไปเรื่อยๆ บางครั้งก็หลายคน บางครั้งก็คนเดียว ทุกคนหวังหลินเห็นหน้าตาหมด นั่นเป็นสิ่งที่เขาตกตะลึง!
‘เทียนหยุนเป็นใครถึงต้องพึ่งการกลืนกินให้ตื่นขึ้น? และเขาตื่นไปเพื่ออะไร?’
ณ ดาราจักรอัญเชิญนทีด้านนอก ร่างอวตารของเทียนหยุนนับร้อยกำลังเข้าใกล้หวังหลินและเข้าไปในร่างอวตาร
สีหน้าร่างอวตารของหวังหลินยังคงนั่งอย่างสงบนิ่งราวกับไม่สนใจพวกที่กำลังเข้ามา ดวงวิญญาณอวตารของเทียนหยุนกำลังแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ จนแทบควบคุมร่างกายของหวังหลินได้
ตอนนี้ดวงวิญญาณจากอีกสามดาราจักรกำลังมาถึงอย่างรวดเร็ว ทั้งหมดรวดเร็วมาก แต่จากมุมมองในร่างดั้งเดิมของหวังหลิน ทั้งหมดกลับเชื่องช้ายิ่ง
ร่างดั้งเดิมของหวังหลินได้เห็นการตื่นของเทียนหยุนซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนกระทั่งถึงการตื่นครั้งที่สาม ที่นี่ไม่ใช่ยุคเซียนโบราณอีกต่อไปแต่เป็นยุคบรรพกาล!
ดาราจักรดวงดาวในยุคนี้เต็มไปด้วยดาวเคราะห์ มีเหล่าเซียนและไม่มีพวกเทพเพราะไม่มีแดนสวรรค์ พวกเขาบ่มเพาะกลิ่นอายของโลกแห่งนี้
ชายชราสวมชุดหนังสัตว์กำลังนอนอยู่บนพื้น ล้อมรอบด้วยไม้และเปลวไฟ เขาตายไปแล้วและร่างกำลังถูกเผ่าพันธุ์ของตัวเองเผา
มีผู้คนนับร้อยสวมเสื้อผ้าคล้ายๆ กัน ทั้งหมดคุกเข่าพลางเอ่ยบทสวดเบาๆ
ทว่าในขณะนั้น ชายชราที่ควรตายไปแล้วกลับลืมตาขึ้น แววตาเกิดความงุนงงสับสนก่อนจะถูกแทนที่ด้วยความเฉยเมย เขาค่อยๆ ลุกขึ้นนั่งด้วยความประหลาดใจและตกตะลึงของคนรอบด้าน ชายชราเผยรอยยิ้มแปลกประหลาดก่อนจะอ้าปากและสูดเข้าไป!
คนนับร้อยรอบกองไฟถึงกับโดนกลืนกิน ทั้งดาวเคราะห์เริ่มสั่นเทาและพังทลาย ปากขนาดยักษ์ปรากฏขึ้นและกลืนกินดาวเคราะห์ด้วยวิธีอันน่าเหลือเชื่อ!
“นี่คือการตื่นครั้งที่สามของข้า…ข้าจดจำช่วงการตื่นครั้งที่สองได้แล้ว ข้ากลืนกินเศษวิญญาณชิ้นที่เจ็ดของราชันย์เทพสีรุ้งเข้าไป!” ชายชราในภาพมายากำลังเลียริมฝีปากและยิ้มออกมา
เมื่อหวังหลินเห็นเช่นนี้ หัวใจที่สงบนิ่งไปแล้วพลันร้องคำรามอีกครั้งเมื่อได้ยินสิ่งที่ชายชราพูด
‘เขากลืนกินเศษวิญญาณของราชันย์เทพสีรุ้งเข้าไป!! ถ้าเขาไม่ใช่หนึ่งในสามวิญญาณหลักหรือเจ็ดเศษวิญญาณ เช่นนั้นเขาเป็นใคร!? ถึงกับสามารถกลืนกิน เศษวิญญาณของราชันย์เทพสีรุ้งได้ด้วย!’
หลังจากเห็นการกำเนิดใหม่ด้วยตัวเองไปมากกว่าเก้าสิบครั้ง หวังหลินค้นพบว่าความสามารถในการกลืนกินของเทียนหยุนดูเหมือนอ่อนแอลงด้วยการกลืนกิน แต่ละครั้ง ในครั้งที่สามนั้นเทียนหยุนสามารถกลืนกินดาวเคราะห์ได้ แต่หลังจาก ผ่านไปเก้าสิบครั้งเขาสามารถกลืนกินได้เพียงผู้คนเท่านั้น!
หวังหลินจ้องมองชายชราที่กำลังยิ้มและหรี่ตาแคบลง
ภาพหายไปและปรากฏอีกครั้งเป็นการตื่นครั้งที่สองของเทียนหยุน!
คราวนี้สิ่งที่ปรากฏเบื้องหน้าหวังหลินคือดาราจักรต่างถิ่น ไม่เพียงแต่ดาราจักรที่ไม่คุ้นเคยแต่กลับไม่มีสัญญาณชีวิต รอบด้านมีดาวเคราะห์เซียนหลายดวงแต่กลับไม่มีสัญญาณชีวิตเลย!
ที่นี่คือ ดาราจักรไร้ชีวิต หรือก็คือช่วงยุคแรกของโลกถ้ำก่อนที่จะมีชีวิตถือกำเนิด!
ในดาราจักรไร้ชีวิตแห่งนี้ หวังหลินค่อยๆ เกิดความคิดอันเหนือจินตนาการขึ้นมา ความคิดนี้คือตัวตนที่แท้จริงของเทียนหยุน!
ขณะที่ความคิดนี้ผุดขึ้นในหัว กลิ่นอายวิญญาณอ่อนแอดวงหนึ่งรีบเข้ามาใกล้ หวังหลินหันกลับไปเห็นภาพมายาที่อยู่ในกลิ่นอายนั้น มีร่างพร่ามัวและมีพลังอำนาจของหนึ่งในเจ็ดเศษวิญญาณของราชันย์เทพสีรุ้ง!
เมื่อเศษวิญญาณปรากฏ รอยแยกขนาดยักษ์ผุดขึ้นมาและกลืนกินเข้าไป
หลังจากกลืนกินวิญญาณไป รอยแยกก็ปิดตัวลง ชายหนุ่มคนหนึ่งค่อยๆ ปรากฏ ร่างชายหนุ่มเปล่งแสงน่ากลัว คราแรกในแววตาเกิดความสับสนแต่ไม่นานก็ชัดเจนขึ้น
“เศษวิญญาณของราชันย์เทพสีรุ้ง…ดูน่าอร่อย…ข้าช่วยเขาไว้มาก แต่ตอนนี้ เขาตายแล้ว ไม่มีใครสามารถควบคุมข้าได้…น่าเสียดายที่สามวิญญาณของเขา ทรงพลังเกินไป หลังจากแยกจากร่างกายข้าไป ข้าไม่กล้ากลืนกินพวกมัน…แต่ว่าด้วยการยืมพลังอำนาจของวิญญาณดวงนี้ ข้าสามารถทำให้ตัวเองเติบโตขึ้นได้…บางทีต่อจากนี้อีกหลายปี ข้าสามารถใช้มันเพื่อสร้างราชันย์เทพสีรุ้งที่สมบูรณ์ขึ้นมาใหม่ได้ ถึงตอนนั้นข้าจะกลายเป็นสีรุ้ง…แต่การเติบโตของข้าสำคัญที่สุด…” ชายหนุ่มมีท่าทีไม่เปลี่ยนไป เขายกแขนขวาขึ้นมาขยับปากทำให้ดูเหมือนกำลังยิ้ม
“ข้าต้องเรียนรู้วิธีการเป็นเซียนเสียก่อน ข้าจะทำให้ไม่มีใครจดจำได้ว่าข้าเป็นใคร รวมถึงสามวิญญาณและเจ็ดเศษวิญญาณของราชันย์เทพสีรุ้งด้วย…ข้าจะควบคุม การเกิดใหม่…”
หวังหลินมองดูชายหนุ่มและเผยความตกตะลึงอย่างมหาศาล เขารู้แล้วว่าคนผู้นี้คือใคร!
‘เขาคือ…’