1809. ความหวาดกลัวของตู้ฉิง
‘การเปลี่ยนแปลงในสายเพลิงปฐพีต้องได้รับความสนใจเป็นแน่ การอยู่ที่นี่อาจไม่สะดวกเสียแล้ว’ หวังหลินยืนขึ้นและโบกแขนเสื้อพลางสลายเขตอาคมทั้งหมดทิ้งไป
หวังหลินไม่ต้องการทิ้งเบาะแสอันใดให้คนอื่นไล่ตาม โดยเฉพาะเรื่องที่เขาโดดเด่นด้านเขตอาคม ในแผ่นดินประหลาดแห่งนี้ การมีเรื่องลึกลับหนึ่งอย่างเท่ากับเพิ่มการป้องกันขึ้นอีกหนึ่งชั้น
เขตอาคมหายไปอย่างไร้ร่องรอย แม้จะมีคนสังเกตได้ก็คงยากจะบอกว่ามันสร้างขึ้นจากคนหรือสมบัติ หวังหลินเผากำแพงถ้ำไปอีกมากกว่าหนึ่งฟุตจนไม่เหลือร่องรอย
หลังเสร็จสิ้นจึงเดินออกมาจากถ้ำและยืนอยู่บนท้องฟ้า ท้องฟ้าสดใสไร้ก้อนเมฆ ดูสวยงามยิ่งนัก
หวังหลินสูดกลิ่นอายของแผ่นดินเซียนดาราแล้วจึงรีบทะยานออกไปไกล
เขาเดินทางรวดเร็วมาก หายลับไปบนท้องฟ้าเป็นลำแสง เพิ่มความเร็วมากกว่าเดิมจนข้ามผ่านระยะทางหนึ่งแสนลี้ได้ในพริบตา
หลังจากหวังหลินออกไปในวันที่สาม ลำแสงหลายเส้นจึงได้มาถึงเทือกเขาแห่งนี้ หนึ่งในลำแสงเหล่านั้นคือ ตู้ฉิงผู้เป็นบรรพชนของสำนักมังกรฟ้า เขามองภูเขาอย่างมืดมนและกดฝ่ามือลงใส่ยอดเขา
ท่อนแขนไม้ยักษ์หนามากกว่าพันฟุตปรากฏขึ้นพร้อมกับเสียงดังสนั่น มันปกคลุมไปด้วยเปลวเพลิงและกระแทกลงใส่ภูเขา
ภูเขาได้พังทลายลง ละอองฝุ่นมากมายกระจัดกระจาย
‘สามวันก่อน เพลิงปฐพีที่นี่เปลี่ยนไป เห็นได้ชัดว่าเซียนแซ่หวังคนนั้นซ่อนตัวอยู่ที่นี่! ร้ายกาจนัก ข้าใช้ความเร็วเต็มที่แต่ก็ยังสายไป…’ ตู้ฉิงมีสายตาเต็มไปด้วยจิตสังหารสะบัดแขนเสื้อออกคำสั่ง
“กระจายกำลังจากที่นี่และค้นหาต่อไป ข้าไม่เชื่อว่ามันจะหนีไปจากแคว้น กระทิงสวรรค์ได้!” ตู้ฉิงสูดหายใจลึกและกำหมัด
‘หากมันซ่อนตัวอยู่ ข้าคงหาเจอได้ยาก…ดูเหมือนข้าต้องขอให้สำนักมหาวิญญาณช่วยเหลือ…’
หวังหลินไม่ได้ต้องการหลีกเลี่ยงการพบเจอกับคนอื่น หากเขาต้องการซ่อนตัวจริงๆ ก็แค่หาภูเขาที่อยู่ห่างออกไปไกลและซ่อนข้างใน หลังจากนั้นสักแปดถึงสิบปีค่อยหนีคงไม่ใช่ปัญหา
ปัญหาหลักที่เขาจากไปเป็นเพราะไม่มีอะไรที่สามารถหล่อเลี้ยงแก่นแท้เพลิงของตัวเองได้อย่างมหาศาลอีกแล้ว!
ขณะที่หวังหลินทะยานผ่านท้องฟ้า สัมผัสวิญญาณแผ่กระจายออกไปปกคลุมพื้นดิน ดวงตาเป็นประกายอย่างตื่นเต้น
‘แคว้นกระทิงสวรรค์แห่งนี้มีกิ่งก้านสาขาของเพลิงปฐพีหลายเส้นสาย อย่างน้อยก็หลักพัน หากข้าดูดซับพวกมันทั้งหมดและได้ดูดซับสายเพลิงปฐพีก้านหลัก…ข้าจะสร้างร่างแก่นแท้ขึ้นเหมือนในบ่อน้ำตงหลินได้หรือไม่?’ ความคิดเช่นนี้ทำให้หวังหลินเกิดลมหายใจถี่ขึ้น
หวังหลินเดาว่าไม่มีใครได้เคยดูดซับเพลิงจากแคว้นกระทิงสวรรค์ ทั้งหมดและได้รับการยอมรับจากเปลวเพลิงเพื่อทำความเข้าใจแก่นแท้และกลายเป็นเซียนขั้นที่สาม
หากมีระดับบ่มเพาะถึงระดับหนึ่งและแก่นแท้แข็งแกร่งมากพอ บางทีพวกนั้นคงกลายเป็นราชาแห่งเปลวเพลิง แต่ท้ายที่สุดมันก็แตกต่างจากหวังหลิน
หวังหลินไม่ใช่คนจากแผ่นดินเซียนดาราและไม่ได้เข้าใจและถูกยอมรับจาก เปลวเพลิงของที่นี่ ดังนั้นจึงเกิดเป็นการต่อต้านขึ้นเป็นธรรมดา
เหมือนกับเดินตามเส้นทางแห่งสวรรค์และการฝืนลิขิตสวรรค์ แต่เพราะเป็นเช่นนี้หวังหลินจึงจะกลืนกินวิญญาณเพลิงปฐพีและเพิ่มพูนแก่นแท้เพลิงได้อย่างมหาศาล!
‘ซวนลั่วพูดว่าไม่มีใครในโลกถ้ำที่สามารถก้าวเดินออกมาเองได้ ข้าไม่ได้เกิดใหม่ในแผ่นดินเซียนดารา ดังนั้นข้าจึงไม่ได้เติบโตที่นี่!’
‘แผ่นดินเซียนดาราไม่ใช่สถานที่อันตรายสำหรับข้า แต่เป็นขุมทรัพย์!’ หวังหลินดวงตาส่องสว่างพลางทะยานไปยังเทือกเขาแห่งใหม่
ภูเขาที่นี่เป็นสีเขียวล้วนไร้ร่องรอยแห่งเปลวเพลิง ทว่าด้วยแก่นแท้เพลิงของหวังหลิน เขาเพียงมองลงไปและสัมผัสได้ถึงมังกรเพลิงตัวยักษ์ที่กำลังหลับใหลอยู่ใต้ภูเขา
วินาทีที่สายตาของหวังหลินจับจ้องไปยังมังกรเพลิง มันจึงลืมตาขึ้นมาทันที ดวงตาเป็นประกายทะเลเพลิงจ้องมาหาหวังหลิน
กรรร!!
เสียงคำรามดังกึกก้อง พื้นดินสั่นสะเทือน ยอดเขาส่ายไปมาเหมือนถูกพายุพัดรุนแรง ทว่าคนธรรมดาไม่สามารถได้ยินมันได้ แม้แต่เหล่าเซียนก็ยังตรวจจับได้ยาก มีแต่คนที่มีแก่นแท้เพลิงต่างชนิดแบบหวังหลินเท่านั้นจึงจะสามารถได้ยินเสียงคำรามการต่อต้านสุดขั้วนี้ได้
หวังหลินดวงตาส่องสว่างและพ่นลมหายใจเย็นเยียบ
‘เป็นแค่วิญญาณกิ่งก้านของสายเพลิงกลับคำรามใส่ข้า? ช่างกล้า!’ หวังหลินก้าวเท้าออกไปเหยียบย่ำบนภูเขา ทันใดนั้นยื่นมือขวาลงด้านล่างทันที
‘แยกวิญญาณเพลิงปฐพี!’
ภูเขาส่งเสียงดังสนั่น ทะเลเพลิงปะทุออกมาจากพื้นดินด้านล่าง ภูเขาใต้ฝ่าเท้าหวังหลินพังทลาย เศษดินเศษหินปลิวกระจายไปทั่ว ศีรษะของเจ้ามังกรเพลิงพุ่งออกมาพร้อมกัน
เมื่อมันปรากฏตัว ท้องฟ้าสีครามเปลี่ยนกลายเป็นสีแดงสดราวกับกำลังถูกเผาไหม้ เสียงแตกร้าวดังกึกก้องจากพื้นดินเนื่องจากพื้นปฐพีแยกตัวออกและมีลาวาไหลย้อนขึ้นมา
มังกรเพลิงตัวนี้ตัวใหญ่กว่าที่หวังหลินกลืนกินไปเล็กน้อย เปลวเพลิงของมันเทียบเท่ากับเซียนขั้นวิญญาณดับสูญที่มีพลังเต็มเปี่ยม
ขณะที่มันร้องคำราม ศีรษะของเจ้ามังกรเพลิงเข้าประชิดหวังหลินและกระแทกใส่ ราวกับอุกกาบาตเผาไหม้จากท้องฟ้ามุ่งหน้าตรงมาหาหวังหลิน จังหวะนี้มากพอที่จะทำให้เซียนคนใดก็ตามเปลี่ยนสีหน้า ทว่าหวังหลินกลับมีท่าทีสงบนิ่งและไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเลย แววตายังคงเยือกเย็นเช่นเดิม เขายกแขนขึ้นมาและโยนกำปั้นใส่ เข้าไป!
ตึง! ร่างหวังหลินสั่นสะเทือนเล็กน้อยแต่ไม่ได้ขยับออกไปไหนแม้แต่ครึ่งก้าว ทว่าเจ้ามังกรเพลิงส่งเสียงคำรามโหยหวนพร้อมกับศีรษะของมันระเบิดกระจาย
เมื่อเจ้ามังกรเพลิงแตกสลาย มันเปลี่ยนกลายเป็นทะเลเพลิงและเผยสัญญาณก่อตัวขึ้นมาใหม่ ดวงตามังกรก่อตัวก่อนเป็นอันดับแรกและเผยสายตาโกรธเกรี้ยว
แต่หวังหลินไม่ยอมให้โอกาสมันได้สร้างร่างขึ้นมาใหม่ เขาก้าวทะยานเข้าหา ดวงตาข้างซ้ายมีเปลวเพลิงส่องประกายเจิดจ้า ปรากฏวิหคศักดิ์สิทธิ์ขึ้นและพุ่งทะยานใส่มังกรเพลิง
‘เจ้าวิญญาณเพลิงปฐพี เจ้ายังไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง!’ ขณะที่วิหคศักดิ์สิทธิ์กลืนกิน เสียงทรงอำนาจของหวังหลินดังกึกก้อง
ร่างเจ้ามังกรเพลิงสั่นสะท้าน ศีรษะที่พังทลายไปจึงถูกวิหคศักดิ์สิทธิ์ดูดซับ พื้นดินสั่นสะเทือน โลกเปลี่ยนสีสัน ทั้งร่างของมังกรเพลิงเปลี่ยนกลายเป็นทะลเพลิงที่ถูกวิหคศักดิ์สิทธิ์ดูดซับไป!
หลังจากดูดซับวิญญาณเพลิงปฐพีไปสองดวง ร่างวิหคศักดิ์สิทธิ์ขยายออกไปหลายแสนฟุตจนดูเหมือนปกคลุมได้ทั้งท้องฟ้า
เปลวเพลิงโหมกระหน่ำจนทำให้วิหคศักดิ์สิทธิ์ส่งเสียงร้องสั่นสะเทือนสวรรค์
เสียงร้องเปลี่ยนกลายเป็นระลอกคลื่นกระจายออกไปโดยมีเจ้าวิหคศักดิ์สิทธิ์อยู่จุดศูนย์กลาง หวังหลินก้าวทะยานไปข้างหน้าและยืนอยู่บนศีรษะของวิหคศักดิ์สิทธิ์ ร่างกายถูกปกคลุมอยู่ในทะเลเพลิง
วิหคศักดิ์สิทธิ์ส่งเสียงร้องและทะยานต่อไปทันที มองไกลๆจึงราวกับก้อนเมฆแห่งเปลวเพลิงที่กำลังเคลื่อนไหว!
หวังหลินรู้สึกได้ชัดเจนว่าแก่นแท้เปลวเพลิงของตัวเองกำลังแข็งแกร่งขึ้น! การเติบโตนี้ทำให้หวังหลินตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่งเนื่องจากในโลกถ้ำนั้นแก่นแท้เพลิงได้หยุดการเปลี่ยนแปลงไปแล้ว หวังหลินคิดว่านั่นคือขีดจำกัดของแก่นแท้เปลิง คิดว่านั่นเป็นความสมบูรณ์
แต่เขารู้สึกมาเสมอว่ามีบางอย่างขาดหายไป แต่ก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไรกันแน่
จนกระทั่งเขาได้มาเจอกับบ่อน้ำตงหลินในดอกไม้ดอกที่ห้าซึ่งได้เปิดประตู สู่เส้นทางที่สูงกว่าให้แก่หวังหลิน
มันทำให้เขาได้รู้ว่าแก่นแท้เพลิงสามารถสร้างร่างแก่นแท้ขึ้นมาได้! เขาไม่มีวันลืมถึงความรู้สึกอันทรงพลังตอนที่ร่างแก่นแท้ถูกสร้างขึ้นมา
การเปลี่ยนแปลงที่เรียบง่ายที่สุดคือตอนที่เขาใช้วิชา ไม่ใช่เพียงแค่หนึ่งแต่ สองวิชาทับซ้อนกันจนทำให้มันแข็งแกร่งกว่าเดิมไปไกล! ซึ่งหวังหลินไม่สามารถจินตนาการออกได้เลย
ตอนนี้แก่นแท้เพลิงของเขาแข็งแกร่งขึ้นและเติบโตจนใกล้จะสร้างร่างแก่นแท้ได้แล้ว!
แผ่นดินประหลาดแห่งนี้เต็มไปด้วยเซียนทรงพลัง ไม่มีอะไรตื่นเต้นยิ่งไปกว่า การเพิ่มระดับบ่มเพาะ หวังหลินทะยานไปข้างหน้าโดยไม่ลังเลขณะที่คุมบังเหียน เจ้าวิหคศักดิ์สิทธิ์ตัวยักษ์ไปด้วย สัมผัสวิญญาณส่งกระจายออกไปเพื่อค้นหาสายเพลิงเส้นถัดไป!
สองวันให้หลังที่หวังหลินจากไป ลำแสงสายหนึ่งได้ทะยานเข้ามาใกล้ คนข้างในลำแสงคือ ตู้ฉิงผู้เป็นบรรพชนแห่งสำนักมังกรฟ้า! ครั้งนี้เขามาถึงเร็วขึ้นและเมื่อร่อนลงไปจึงตกตะลึงเล็กน้อย เขามองภูเขาด้านล่าง สายตาบิดเบี้ยวจนเห็นได้ชัด
‘มีบางอย่างผิดปกติ หากเขาทำให้สายเพลิงปฐพีเปลี่ยนแปลงครั้งเดียวหรือ สองครั้งคงถือว่าเป็นเรื่องบังเอิญ แต่นี่เป็นครั้งที่สาม! เขาทำอย่างมีเป้าหมาย แต่จะทำไปเพื่ออะไร…’ ตู้ฉิงขมวดคิ้ว เขาเองก็มองไม่ออก
พอร่อนลงบนภูเขาและแผ่กระจายสัมผัสวิญญาณออกไป มองไปบนพื้นอย่างละเอียดและเพิ่มขอบเขตการค้นหาใต้พื้นดิน
เรื่องนี้ทำให้เขาต้องอ้าปากค้างและมีสีหน้าเปลี่ยนไปอย่างมหาศาล!
‘สายเพลิงปฐพีแห้งเหี่ยวและเพลิงปฐพีสูญหายไป มันตาย!! เขากำลังดูดซับเพลิงปฐพี นี่…นี่มันเป็นไปไม่ได้…แม้แต่เซียนที่มีแก่นแท้เพลิงก็ไม่กล้าฝืนดูดซับเพลิงปฐพี เมื่อทำลงไปจะทำให้เกิดการต่อต้านในร่างกายและจะถูกเพลิงปฐพีของแคว้นกระทิงสวรรค์เข้าโจมตี…เขา…เขาทำได้อย่างไร? เขากำลังทำอะไรอยู่?’ ดวงตาตู้ฉิงเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
เขาไม่เคยได้ยินใครที่สามารถดูดซับและกลืนกินสายเพลิงปฐพีได้ เซียนที่มีแก่นแท้เพลิงทั้งหมดต่างก็ยื่นข้อเสนอเพื่อให้เปลวเพลิงยอมรับ ไม่มีใครกล้ากลืนกินมัน!