Skip to content

ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 1938

Cover Renegade Immortal 1

1938. ไม่มีวันเสียใจ

หวังหลินปรากฏร่างขึ้นตรงชายขอบทะเลขุนเขาในทันที เขาผสานเข้ากับโลกและหายวับไปเพียงก้าวเดียว

พอหวังหลินอยู่ห่างจากแคว้นทะเลขุนเขาได้แล้ว เขาปรากฏตัวขึ้นในป่าสนโบราณของแคว้นป่าทะเลขุนเขา จากนั้นลอยตัวอยู่เหนือป่าและมองไปด้านหลัง

ก่อนหน้านี้เขาใช้แยกราตรีเพื่อทะลวงฝ่ามือออกมา จากนั้นหนีโดยไม่ต้องคิดมากความ พอออกมาได้กลับรู้สึกถึงกลิ่นอายทรงพลังที่สามารถทำลายล้างโลกได้ปรากฏอยู่ตรงนั้น พอรวมกับข้อสงสัยก่อนหน้านี้ก็พอจะเดาได้ไม่ยากว่าทั้งสามเป็นใคร

หวังหลินนั่งอยู่บนยอดต้นสนและสูดหายใจลึก พื้นที่บริเวณนี้กว้างใหญ่และสบายใจยิ่งกว่าอยู่ในม่านแสงมากมาย

‘ฝ่ามือนั่นต้องมีความลับอะไรบางอย่าง ข้าได้อะไรเยอะมากระหว่างการเดินทางมาต้นไม้ทะเลขุนเขา นอกจากจิตวิญญาณแล้วข้ายังได้เศษกระบี่ของบรรพชนเทพอีก!’ หวังหลินดวงตาเป็นประกาย ในมือมีแสงสีทองเล็กๆ

‘ข้าไม่สามารถดูดซับมันในม่านแสงของไฮ่จื่อได้ ตอนนี้ข้าเป็นอิสระแล้ว ข้าจะผสานมันกับเศษชิ้นส่วนในตาข้าให้เร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้!’ หวังหลินคิดว่าเหล่ามหาชั้นฟ้าคงถามเขา แต่ในเมื่อปล่อยเขาออกมาแล้วนั่นหมายความว่าหวังหลินได้ผ่านการทดสอบของแต่ละคนไปบ้าง

พริบตาเดียวร่างหวังหลินก็พร่าเลือนและค่อยๆ ผสานกับต้นสนด้านล่าง หวังหลินนั่งลงและนำจิตวิญญาณต้นไม้ทะเลขุนเขาที่เหลืออีกสองดวงออกมา

“ช่วงหลายปีที่ผ่านมา แก่นแท้ไม้ของข้าบรรลุไปหนึ่งระดับและข้าสามารถสัมผัสถึงแก่นแท้ไม้ในโลกรอบตัวข้าได้ ข้าเหลือจิตวิญญาณอยู่สองดวงแต่ไม่รู้ว่าข้าจะสร้างร่างแก่นแท้ขึ้นมาหลังจากดูดซับมันได้หรือไม่!”

‘แต่แก่นแท้ค่อนข้างแปลกประหลาด หลังจากผสานกับร่างกายข้า การดูดซับยิ่งช้าลงเรื่อยๆ ช่างน่าสงสัยว่าเมื่อใดมันจะกลายเป็นของข้า’ หวังหลินนำจิตวิญญาณสองดวงออกมาและผสานเข้ากับร่างกายทันทีเพื่อดูดซับและหลอมรวม

‘เรื่องนี้ไม่ต้องเร่งรีบและมันยังต้องใช้เวลาดูดซับอยู่บ้าง ข้าต้องเพ่งสมาธิดูดซับเศษกระบี่ จากนั้นค่อยคิดถึงสิ่งที่ต้องทำต่อไป’ หวังหลินเลื่อนแขนขวา เศษกระบี่ที่เขาเสี่ยงชีวิตพลันปรากฏขึ้นในมือ มันเปล่งแสงสีทองอย่างไร้ขอบเขต

เศษกระบี่มีขนาดเท่าฝ่ามือเท่านั้นและขอบของมันก็ไม่เป็นระเบียบแต่เปล่งกลิ่นอายแหลมคมราวกับสามารถตัดขาดทุกอย่างได้ในโลก

หวังหลินจ้องมองเศษกระบี่ในมือ ดวงตาเปล่งแสงสีทองออกมาเช่นกัน ภายในดวงตาปรากฏเงาของเศษกระบี่ขึ้นเช่นกัน

แสงสีทองจากดวงตาคล้ายกับตัดผ่านแสงสีทองของเศษกระบี่ในมือ พลังดึงดูดอันแปลกประหลาดแผ่กระจายออกมาจากจิตใจหวังหลินราวกับมีบางอย่างกำลังเรียกหาเขาในใจ

ขณะที่ความรู้สึกรุนแรงขึ้น เศษกระบี่ได้เปลี่ยนกลายเป็นเส้นสายสีทองนับไม่ถ้วน มันหลอมละลายและลอยเข้าสู่ดวงตาของหวังหลิน

เมื่อแสงสีทองเส้นสุดท้ายเข้าไปแล้ว แสงสีทองจากต้นสนได้หายไปอย่างสิ้นเชิง ทุกอย่างมืดลงอีกครั้ง หวังหลินนั่งบ่มเพาะอย่างสงบนิ่ง

วันเวลาผ่านไปอย่างช้าๆ ดวงอาทิตย์และดวงจันทร์สับเปลี่ยนกันไปมาจนผ่านไปถึงเจ็ดวัน เวลานี้เป็นฤดูใบไม้ร่วง เสียงในสายลมราวกับมีคนกำลังปรบมืออยู่เต็มไปหมด

ใบสนกระจัดกระจายไปกับสายลมราวกับเด็กที่กำลังออกจากบ้าน ไม่รู้ว่าพวกมันจะไปที่ใด เจ็ดวันที่ผ่านมามีเซียนผ่านไปหลายคน แต่ไม่มีใครรู้ว่ามีเซียนคนหนึ่งอยู่ในป่าสนเหล่านี้

ช่วงเวลาเจ็ดวันหวังหลินนิ่งเงียบไม่เคลื่อนไหว แต่แสงสีทองใต้เปลือกตากลับน่าตื่นตะลึง เจ็ดวันนี้ในใจเขากลับผ่านไปนานหลายปี

ภายในใจมีเศษกระบี่สองส่วนที่กำลังผสานกัน ทั้งคู่ล้วนมีขนาดเท่าฝ่ามือและมีรูปทรงขรุขระ แต่ช่วงเจ็ดวันพวกมันกลับผสานเข้าด้วยกันได้อย่างสมบูรณ์

ด้วยการผสานกันนี้ กระบี่เล็กสีทองขนาดยาวหนึ่งฟุตพลันปรากฏขึ้นมา มันแหลมมากและมีแรงกดดันมหาศาล หลังจากก่อตัวขึ้นมันยิ่งดูเป็นรูปร่างภายในใจหวังหลิน

พอถึงวันที่แปด หวังหลินจึงลืมตาและมีแสงสีทองมหึมาโผล่ขึ้นมาด้วย แสงสีทองนี้ทรงพลังยิ่งกว่าเดิมหลายเท่าและมีพลังสะกดข่มจนเกิดเป็นรูปร่าง ราวกับกระบี่ได้ลอยออกมาฟาดฟันใส่บริเวณนี้ ต้นสนที่หวังหลินอยู่ข้างในกำลังเต็มไปด้วยแสงสีทอง

แต่ไม่นานนักแสงสีทองจากดวงตาหวังหลินก็ลดลงไปทีละนิ้ว ผ่านไปหลายชั่วโมงแสงทั้งหมดได้ถูกควบแน่นในตาหวังหลินจนไม่มีแสงเล็ดลอดออกมา แม้แต่ดวงตายังกระจ่างใสและดูปกติ

ทว่าความกระจ่างสดใสนี้กลับแฝงความแข็งแกร่งและบารมีเอาไว้ หากสบสายตาคู่นี้อาจทำให้จิตใจสั่นสะเทือนและต้องถอยร่นก่อนจะได้สู้กันเสียอีก

มันคือพลังสะกดข่ม! ใช้กระบี่ของบรรพชนเทพเพื่อข่มทุกชีวิต!

หลังจากสูดหายใจลึก หวังหลินค่อยๆ หลับตาลงและลืมตาขึ้นมาหลังจากนั้น ครั้งนี้แม้แต่สัมผัสความแข็งแกร่งและบารมีก็หายไป ราวกับเขาได้บรรลุระดับสูงสุดคืนสู่สามัญ

‘กระบี่ของบรรพชนเทพ แก่นแท้โลหะสูงสุด ข้าไม่คิดว่าการผสานเศษกระบี่ทั้งสองจะทำให้แก่นแท้สุดท้าย แก่นแท้โลหะ ปรากฏขึ้นมาได้!’ หวังหลินดูสงบนิ่ง แม้จะเกิดขึ้นฉับพลันแต่เขาได้เกิดความเข้าใจขึ้นมาบ้างหลังจากทำการหลอมถึงเจ็ดวัน

‘เศษกระบี่หนึ่งชิ้นเทียบเท่ากับการดูดซับจิตวิญญาณต้นไม้ทะเลขุนเขาไปหลายปี…’ หวังหลินยกแขนขึ้นมาโบกสะบัด ภาพติดตาทั้งหมดปรากฏขึ้น 98 ร่างและผสานเข้ากับฝ่ามือกลายเป็นกำปั้น

คลื่นเสียงแตกร้าวดังออกมาจากฝ่ามือ เป็นเสียงแตกแต่มีกลิ่นอายทำลายล้าง วังวนทั้งเก้าปรากฏขึ้นในกำปั้น แต่ละวังวนมีหนึ่งวิชาผสานกับร่างเขา

ก่อนหน้าที่หวังหลินเข้าไปในทะเลขุนเขา เขาสามารถผสานเก้าวิชาเข้าไปในการโจมตีได้ ตอนนี้หวังหลินจ้องมองแขนขวาและเฝ้าดูเก้าวังวนอยู่รอบกำปั้น เสียงแตกร้าวดังขึ้นมาพร้อมกับวังวนที่สิบปรากฏขึ้น

‘น่าจะได้มากกว่าสิบ!’ หวังหลินลดแขนขวาลงและคว้าจับอีกครั้ง เสียงอึกทึกดังสนั่นพลางปรากฏวังวนที่ 11 ขึ้นมา!

วังวนที่สิบเอ็ดนั่นหมายความว่าหวังหลินสามารถผสาน 11 วิชาเข้าไปในการโจมตีได้ด้วยร่างดั้งเดิม เมื่อร่างแก่นแท้ของเขาปรากฏขึ้น การโจมตีของหวังหลินจะมีถึง 44 วิชา!

ร่างแก่นแท้ห้าธาตุสามารถคัดลอกร่างดั้งเดิมได้และทำให้วิชาเขาเพิ่มมาสองเท่า จากนั้นร่างแก่นแท้สายฟ้าก็ทำให้เป็นสามเท่า ท้ายที่สุดยังมีแก่นแท้นามธรรม แม้เขาไม่ได้สร้างร่างแก่นแท้ให้พวกมัน เพราะแก่นแท้นามธรรมมักจะลึกลับอยู่เสมอ หากสามแก่นแท้นามธรรมของหวังหลินผสานเข้าด้วยกันก็อาจทำให้เกิดร่างแก่นแท้ขึ้นมาได้

การเพิ่มขึ้นแบบทวีคูณนี้เป็นวิถีการต่อสู้ที่เขาค่อยๆ ทำความเข้าใจด้วยตัวเองจากการต่อสู้กับคนอื่นตลอดห้าสิบปี

“ข้าน่าจะทำได้มากกว่านี้…” หวังหลินพึมพำพลางยกแขนซ้ายชี้ใส่ฝ่ามือขวา เพียงเท่านี้ร่างกายก็สั่นเทาและส่งเสียงคำรามออกมา

ปรากฏวังวนที่สิบสองขึ้นรอบมือขวาในทันที ตามมาด้วยวังวนที่สิบสาม

ลมหายใจของหวังหลินเริ่มจะถี่เร็วขึ้นเล็กน้อย เขารู้สึกว่าตัวเองมาถึงขีดจำกัดแล้ว!

‘สิบสามวิชา แม้ไม่มีเกราะวิญญาณ หากข้าใช้แก่นแท้เข้าร่วมด้วยก็สามารถต่อสู้กับผู้สูงส่งชั้นฟ้าที่ผสาน 52 วิชาได้!’

‘อยากรู้เสียแล้วว่าข้าจะผ่านบททดสอบชั้นฟ้าระดับห้าไปได้หรือไม่! มันน่าจะเพียงพอแล้ว!’ หวังหลินยิ้ม

อย่างไรก็ตามเขาไม่มีความตั้งใจจะไปทดสอบอีกครั้งในตอนนี้ หวังหลินคิดขึ้นมาว่าครั้งต่อไปเขาจะทำให้ทุกคนที่นั่นต้องตกตะลึง!

‘จะได้ความสนใจจากมหาชั้นฟ้าทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับการลองบททดสอบชั้นฟ้าครั้งที่สองของข้า! ตอนนี้ไม่จำเป็นต้องไปประลองกับผู้สูงส่งชั้นฟ้าคนอื่นแล้ว ข้าจะต้องมุ่งหน้าไปที่แผ่นดินทิศตะวันออก ไปที่สำนักตงหลินและดูว่าบ่อน้ำตงหลินจะเหมือนกับที่ข้าเห็นในภาพมายาของโลกถ้ำหรือไม่ หรือว่ามันอาจจะต่างกัน!’ หวังหลินยืนขึ้น ดวงตาเปล่งประกาย

‘ข้าจะมุ่งหน้าไปที่สำนักตงหลิน จากนั้นเข้าไปทดสอบในบททดสอบชั้นฟ้าครั้งที่สองเพื่อดูว่าข้าผ่านไปได้ถึงระดับไหน! จากนั้นข้าจะเลือกมหาชั้นฟ้า แล้วมุ่งหน้าสู่เป้าหมายสุดท้ายในเผ่าเทพ นั่นคือเมืองหลวงในแคว้นกลาง!!’

‘หลังจากแก้ไขปัญหาในเมืองหลวงแล้ว ข้าจะออกไปจากเผ่าเทพและมุ่งหน้าสู่แคว้นโบราณ ข้าจะไปตามหาอาจารย์ซวนลั่ว ตามสัญญา!’ หวังหลินสูดหายใจลึกและหายตัวไปจากต้นสน เปลี่ยนร่างเป็นลำแสงล่องลอยออกไปยังแผ่นดินทิศตะวันออก

‘ข้ารู้สึกว่าตัวเองกำลังแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ หวานเอ๋อร์ เมื่อข้ากลายเป็นมหาชั้นฟ้า จะเป็นวันที่ข้าชุบชีวิตภรรยาด้วยตัวเอง!’

‘วันนั้นอยู่ห่างไปอีกไม่ไกล มันใกล้มากขึ้นเรื่อยๆ…หวานเอ๋อร์ มันใกล้ขึ้นมาแล้ว’ หวังหลินพุ่งทะยานตรงไป เผยสายตาอบอุ่นอันหาได้ยาก เป็นสายตาแห่งความพากเพียรไม่ย่อท้อตลอดหลายพันปี

………………………………………………………..

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!