Skip to content

ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 339

Cover Renegade Immortal 1

339. เพื่อเกิดใหม่

ขณะที่ฝ่ามือยักษ์เข้าใกล้ พื้นดินเริ่มสั่นสะเทือน ชายหนุ่มใบหน้าเย็นชาผมสีแดงพุ่งออกมาจากพื้นดินและกระแทกเข้าใส่ฝ่ามือ

ปัง!

ฝ่ามือกระดอนกลับหลายเมตร ดวงตาคู่นั้นในก้อนเมฆจ้องไปบนชายผมแดง

ใบหน้าในร่างหลักของเขาไม่เปลี่ยนแปลงราวกับฝ่ามือก่อนหน้านี้เป็นเพียงแค่อุ่นเครื่อง ทว่าดวงดาวสีม่วงบนหน้าผากกำลังหมุนติ้วอย่างรวดเร็ว

มันยืนอยู่เบื้องหน้าหวังหลินและจ้องท้องฟ้าอย่างเยือกเย็น

ดวงตาในก้อนเมฆแดงหายวับไปอีกครั้งและจำนวนก้อนเมฆสีแดงเพิ่มมากขึ้น ครั้งนี้ก้อนเมฆสีแดงจำนวนมาเข้าไปในฝ่ามือ ฝ่ามือมายาครั้งก่อนยิ่งเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้นและห้านิ้วแห่งความตายจึงเกิดขึ้นมา

มันโจมตีอีกครั้ง!

ครั้งนี้ขณะที่ฝ่ามือเข้าใกล้ รอยแยกอวกาศห้าแห่งถูกเปิดขึ้นด้วยห้านิ้วพร้อมกับพุ่งตามหลังหวังหลิน

หวังหลินร้องคำราม เขาตบกระเป๋าและนำธงกฎเกณฑ์ออกมา ตัวหอกสร้างขึ้นอย่างรวดเร็วและโยนมันยังฝ่ามือนั้น

ในเวลาเดียวกันดวงดาวสีม่วงที่กำลังหมุนบนร่างหลักพลันหยุดกึกและเกิดเสียงรอยร้าวออกมาจากทั้งร่าง มันเปลี่ยนไปเป็นยักษ์สูงสามสิบฟุตด้วยแสงสีม่วงใต้ผิวหนัง ร่างกายเปล่งกลิ่นอายอันน่ากลัวออกมา

ร่างหลักเริ่มดูเหมือนกับเทพโบราณแล้ว

ดวงตาของร่างหลักเต็มไปด้วยเจตนาต่อสู้ มันรีบก้าวเข้าหาฝ่ามือยักษ์และคว้าหอกไป

ปัง!!

เกิดเสียงดังปังเมื่อหอกแทงเข้าใส่ฝ่ามือ!

อย่างไรก็ตามด้วยเสียงดังตูมราวกับสวรรค์กำลังล่มสลายนี้ หอกพลันแตกกระจายและกลับคืนเป็นควันกฎเกณฑ์ ร่างหลักถูกกระแทกด้วยพลังแข็งแกร่งตกลงสู่พื้นดิน

เมื่อร่อนลงบนพื้นดิน รอยร้าวปรากฎรองรับแรงกระแทก ร่างหลักจมดิ่งลงไปและหยุดลงใต้ดินลึกลงไปพันห้าร้อยลี้

โลหิตสายหนึ่งไหลออกมาจากมุมปากของร่างหลัก มันกระหายการต่อสู้เพิ่มขึ้นทำให้โลหิตเดือดปุดๆพร้อมกับพุ่งออกไปอีกครั้ง

หวังหลินไม่หยุดเคลื่อนไหว เขารีบเร่งเหาะเหินห่างออกมาพร้อมกับกระจายสัมผัสวิญญาณ จากนั้นเขาจ้องไปบนหมู่บ้านภูเขาแห่งหนึ่งห่างไปห้าพันลี้

มือยักษ์ไล่ล่าตามมาหลังจากทุบตีร่างหลักของเขา ดวงตาข้างในก้อนเมฆสีแดงไม่เผยสัญญาณการเปลี่ยนแปลงใดๆ

ขณะที่มันมาถึง หวังหลินหันกลับมาทันที เขาเพ่งสมาธิชักนำพลังปราณทั้งหมดเข้าสู่นิ้วมือตัวเองและแตะเข้ากับฝ่ามือนั้น

ปัง!

หวังหลินถูกส่งลอยออกไป เขากระอักโลหิตคำโตออกมาพร้อมกันร่อนลงบนม้วนคัมภีร์และหายเข้าไปข้างใน วิญญาณเซียนของลี่มู่หวานซึ่งแทบจะสิ้นชีพทันใดนั้นได้รับร่องรอยแห่งชีวิต

เขาต่อสู้ต่อต้านวัฎจักรแห่งการเกิดใหม่เพื่อสตรีคนนี้

ฝ่ามือยักษ์ยื่นออกไปอีก ร่างหลักพุ่งออกมาจากพื้นดินและร้องคำราม มันหยุดลงเบื้องหน้าหวังหลินและกระแทกหมัดขวาเข้าใส่ฝ่ามือยักษ์

ปัง!

ร่างหลักพ่นโลหิตออกมาและเริ่มหัวเราะอย่างคลั่งไคล้ ฝ่ามือยักษ์ถูกถอยกลับไปหลายเมตร

ร่างหลักหัวเราะเสียงดังขณะที่มันเดินมาข้างหน้าและชกเข้าใส่อย่างต่อเนื่อง

ปัง! ปัง! ปัง!

การปะทะแต่ละครั้ง ร่างหลักของเขาโลหิตหลั่งไหลจากมุมปากมากยิ่งขึ้นแต่ว่ามันยิ่งต่อสู้เพิ่มมากขึ้นด้วย

“ข้าเป็นเทพโบราณ ดังนั้นการคงอยู่ของข้าก็ฝืนลิขิตสวรรค์อยู่แล้ว! หากแกต้องการนำนางไปให้ข้ามศพข้าไปก่อน!”

ร่างหนึ่งพลันปรากฎเบื้องหลังร่างหลัก ฝ่าเท้ายืนอยู่บนพื้นดินแต่ศีรษะอยู่ในท้องฟ้า ร่างนั้นไม่ได้ยืนอยู่แต่คุกเข่าข้างหนึ่งบนพื้นดิน ศีรษะของมันลดลงมาราวกับนอนหลับ

ร่างหลักหัวเราะราวกับคนบ้าพร้อมกับโยนหมัดออกไปอย่างต่อเนื่อง ฝ่ามือยักษ์ถอยร่น ร่างเบื้องหลังเขาค่อยๆเชิดศีรษะขึ้นมา

ดวงตาข้างในก้อนเมฆแดงยังคงสงบนิ่ง ดวงตานี้เป็นของผู้ส่งสาส์นแห่งสวรรค์ เขาไม่มีความรู้สึก มีเป้าหมายเพียงคือทำตามกฎแห่งสวรรค์และดึงทุกคนที่หวังจะหนีรอดวัฎจักรแห่งชีวิตและความตายให้กลับคืนมา

ความแข็งแกร่งของร่างหลักนับว่าไกลเกินกว่าเซียนคนใด หวังหลินรีบทิ้งม้วนคัมภีร์ในแขนอย่างรวดเร็ว

ในที่สุดฝ่ามือยักษ์ถูกดึงกลับไปในก้อนเมฆสีแดงและหายไป แต่ในพริบตาเดียวกันฝ่ามือก็พุ่งออกมาจากก้อนเมฆอีกครั้ง คราวนี้ฝ่ามือแทบสมบูรณ์และมีความแข็งแกร่งมากกว่าคราวก่อนหลายเท่า

ฝ่ามือไม่ได้อ้าเปิดออกอีกแล้ว มันเป็นกำปั้นปะทะเข้ากับร่างหลัก เสียงดังปัง ร่างหลักเกิดความเสียหายหลายจุดและหล่นลงจากท้องฟ้า

ร่างกายเบื้องหลังร่างหลักดูเหมือนจะต้องตื่นขึ้น ขณะที่มันเงยศีรษะมาพลังรุนแรงสายหนึ่งพรั่งพรูออกจากร่างกายของมัน ร่างหลักหยุดร่วงหล่นในทันทีจากนั้นลอยขึ้นไปบนหน้าผากของร่างแห่งนั้น

ฝ่ามือยักษ์เมินเฉยร่างนั้นและกระแทกเข้าหาหวังหลินผู้ซึ่งเหาะเหินห่างไปไกล

หวังหลินสังเกตทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นเบื้องหลัง เขากัดฟันแน่นและเคลื่อนที่พริบตาข้ามผ่านระยะห้าพันลี้ในครั้งเดียว

เบื้องล่างฝ่าเท้าเป็นหมู่บ้านราวกับสวรรค์ เด็กน้อยกำลังเล่นกันราวกับการต่อสู้จนแผ่นดินสั่นสะเทือนที่ห่างไปห้าพันลี้ไม่อาจะรู้สึก

ความจริงพวกเขาไม่สามารถได้ยินมันอยู่แล้ว ซึ่งไม่มีใครคนไหนยกเว้นหวังหลินและร่างหลักของเขาที่จะเห็นและรู้สึกถึงพลังอำนาจจากสวรรค์ได้

มีเพียงสิ่งเดียวที่คนอื่นสามารถเห็นและได้ยินได้ก็คือหลุมที่เกิดจากร่างหลักกระแทกพื้นดินลงไป แต่เสียงกระทบนี้อยู่ไกลมากจนมันอ่อนแอเกินจะสังเกตได้

หมู่บ้านแห่งนี้มีคนน้อยกว่าร้อยคน สตรีคนหนึ่งกำลังต้มโจ๊ก นางเงยศีรษะมองเหล่าเด็กๆที่กำลังเล่นข้างนอกเป็นครั้งราวพร้อมกับลูบท้องตัวเองไปด้วย

ขณะกลางอากาศเหนือหมู่บ้านขึ้นไป หวังหลินเขย่าม้วนคัมภีร์ วิญญาณเซียนของลี่มู่หวานผุดออกมาและเริ่มแตกสลายทันที

หวังหลินเผยแววตาอ่อนโยนขณะชี้ไปที่วิญญาณเซียนของลี่มู่หวาน วิญญาณเซียนของนางลอยไปราวกับดาวตกเข้าหาหมู่บ้าน

ขณะนี้เองหมัดยักษ์ได้มาถึง

มันโผล่ลงมาจากท้องฟ้า กระแทกเข้าหาวิญญาณเซียนของลี่มู่หวาน ทว่าหวังหลินรีบต้านรับหมัดนั้นในทันที

ปัง!

หวังหลินกระอักโลหิตออกมา แววตาแดงฉานจากนั้นไม้แกะสลักเก้าชิ้นลอยออกมาด้วยเขตแดนแห่งกาลเวลา

หมัดยักษ์กดต่ำลงมาและไม้แกะสลักหกชิ้นแตกเป็นเสี่ยงๆ

กำปั้นผ่านไม้แกะสลักที่เหลือเข้าไปและอีกครั้งที่มันไล่ล่าตามหลังวิญญาณเซียนของลี่มู่หวาน

หวังหลินร้องคำรามออกมาและเข้ามาถึงข้างหน้ากำปั้นอีกครา เขาไม่มีเวลาใช้วิชาใดๆจึงขัดขวามันด้วยร่างกายตนเอง

ปัง!

โลหิตของหวังหลินหลั่งไหลออกจากกายทวารแต่เขาเริ่มหัวเราะ เขาหัวเราะต่อเนื่องจนกระทั่งเสียงหัวเราะดูเหมือนเต็มไปด้วยความบ้าคลั่ง

“เจ้าต้องการกำจัดหวานเอ๋อเพื่อบังคับให้นางกลับไปวัฎจักรแห่งการเกิดใหม่งั้นหรือ? ข้าหวังหลินจะไม่ยอมให้เจ้าทำเช่นนั้น!”

ดวงตาเย็นชาในก้อนเมฆสีแดงมองไปยังหวังหลินและกำปั้นลดต่ำลงมาอีกครั้ง

หวังหลินขัดขวางมันอีก ครั้งนี้อวัยวะหลายส่วนบนร่างกายเกิดความบอบช้ำและพ่นโลหิตออกมาจากปากและจมูก ทว่าใบหน้าหวังหลินตอนนี้ยิ่งบ้ามากกว่าเดิมขณะที่เขามองดวงตาในก้อนเมฆและหัวเราะ “ข้าฝึกฝนเขตแดนแห่งชีวิตและความตาย วันหนึ่งข้าจะทำให้วัฎจักรเวียนว่ายตายเกิดแห่งสวรรค์เป็นของข้า! จากนั้นข้าจะทำให้มันทำตามคำสั่งข้าและให้เจ้าซึ่งเป็นภาพมายาที่สร้างมาจากวัฎจักรเวียนว่ายตายเกิดให้คำนับเบื้องหน้าข้าให้ได้!”

สายตาจดจ้องในก้อนเมฆสีแดงยังคงสงบนิ่งราวกับกำลังมองมนุษย์น่าเศร้ากำลังพล่ามเรื่องไร้สาระ

วิญญาณเซียนของลี่มู่หวานเข้าไปในมู่บ้านเรียบร้อยและรวมเข้ากับก้อนเนื้อข้างในท้องสตรีผู้นั้นอย่างเงียบเชียบ

สายตานั้นมองไปยังหมู่บ้านก่อนจะหันกลับมาหาหวังหลิน จากนั้นกำปั้นยักษ์หล่นลงมาอีกครั้ง คราวนี้มีพลังดึงดูดสายหนึ่งออกมาจากกำปั้นและถูกสายฟ้าปกคลุม

กำปั้นนี้คือบทลงโทษสำหรับการขัดขวางสวรรค์!

ขณะที่กำปั้นเริ่มเคลื่อนไหว ร่างหลักก็เคลื่อนไหวเช่นกัน ลำแสงสีแดงโลหิตพุ่งเข้ามาจากระยะไกลและรวมเข้ากับหวังหลิน

หวังหลินและร่างหลักพลันหายไปทันที พวกเขาถูกแทนที่ด้วยชายหนุ่มผมยาวสูงนับสิบฟุต

ดวงตาข้างซ้ายราวกับดวงจันทราและดวงตาข้างขวาราวดับดวงอาทิตย์ เขาปกคลุมอยู่ในรัศมีที่ผสมกันระหว่างพลังอำนาจของเทพโบราณและเขตแดนแห่งชีวิตและความตาย

ตอนนี้หวังหลินไม่ได้เป็นเซียนหรือเทพโบราณแต่ไม่เคยมีการรวมกันเช่นนี้มาก่อน ร่างกายเขาทรงพลังแข็งแกร่งดังเช่นเทพโบราณแต่เขามีวิญญาณดั้งเดิมของเซียน

นี่คือการรวมกันของวิธีการฝึกฝนภายนอกและภายใน หวังหลินเงยศีรษะขึ้น เบื้องหลังเขาเป็นร่างหนึ่งพร้อมกับเชิดศีรษะขึ้น หากมองเข้าไปใกล้ๆจะเห็นวิญญาณดั้งเดิมดวงหนึ่งขนาดเท่าคนอยู่ในหน้าอก มีสิ่งที่คล้ายเส้นโลหิตงอกออกมาจากวิญญาณดั้งเดิมไปสู่ทั้งร่างกายของเขา

วิญญาณดั้งเดิมนี้ราวกับหัวใจของเทพโบราณ

ไม่ต้องรอให้กำปั้นลงมาถึง หวังหลินก้าวออกมาและลอยเข้าหากำปั้น

ปัง! ปัง! ปัง!

ร่างหวังหลินถูกส่งลอยออกไปและเขากระอักโลหิตอีก ทว่าเขาหัวเราะตลอดเวลา เสียงหัวเราะของเขาเต็มไปด้วยความหยิ่งยโส

“ตอนนี้นางได้เกิดใหม่ด้วยวิญญาณเซียนของนางแล้ว อายุขัยของนางขยายออก เส้นแห่งโชคชะตานี้อยู่ในกฎแห่งสวรรค์ ตราบใดที่นางไม่ได้ฝึกฝนเซียน นางจะสามารถหลบหนีรอดจากดวงตาแห่งสวรรค์ได้ สิบเก้าปีต่อจากนี้เมื่อนางคืนร่างวิญญาณเซียน ท่านจะกลับมาอีกแต่ข้าจะหยุดท่านอีกครั้ง!”

ดวงตาในก้อนเมฆแดงมองหวังหลินอย่างสงบนิ่งชั่วครู่ก่อนจะหายวับไป แม้กระทั่งกำปั้นยักษ์ก็หายไปด้วย ก้อนเมฆสีแดงกระจายตัวออก

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!