366. ผู้สมรู้ร่วมคิดเผยออกมาเอง
ผีเสื้อสีชาดกระอักโลหิต วิญญาณดั้งเดิมของนางได้รับความเสียหายแต่ความเกลียดในแววตานางถูกแทนที่ด้วยร่องรอยแห่งความกระจ่างชัด
วิญญาณดั้งเดิมของหวังหลินกลับเข้าสู่ร่างกายและใบหน้าเขาแปรเปลี่ยนเป็นซีดเผือด แม้การต่อสู้ระหว่างเขตแดนจะดูสงบนิ่งแต่กลับเป็นส่วนที่อันตรายที่สุดในการต่อสู้ครั้งนี้
จังหวะที่กระบี่แห่งปัญญาของผีเสื้อสีชาดร่อนลงมา วิญญาณหวังหลินได้รับความเสียหาย หากไม่ใช่ว่าเขตแดนแห่งชีวิตและความตายของเขาพัฒนาขึ้นมาเป็นระดับกลาง วิญญาณดั้งเดิมของหวังหลินคงถูกทำลายไปแล้ว
แม้กระทั่งตอนนี้ เขตแดนแห่งชีวิตและความตายของเขาแค่แข็งแกร่งกว่าเขตแดนของผีเสื้อสีชาดเล็กน้อยเท่านั้น นั่นก็เป็นเพราะขณะที่ผีเสื้อสีชาดเอ่ยขึ้นมา วัฏจักรเวียนว่ายตายเกิดแห่งสวรรค์เดิมทีก็ไม่ปราณีอยู่แล้ว
ทว่ามีเส้นบางๆคั่นกลางระหว่างไร้ปราณีและไร้อารมณ์ เพราะความแตกต่างนี้หวังหลินจึงชนะได้อย่างฉิวเฉียด
ความจริงการต่อสู้ระหว่างเขตแดนของเหล่าเซียนคือการพิสูจน์เส้นทางแห่งเต๋าของตัวเองให้กันและกัน
“ข้าเข้าใจแล้ว!” ดวงตาผีเสื้อสีชาดปลดปล่อยแสงอันลึกลับเมื่อนางมองเข้าหาหวังหลิน ความเกลียดชังทั้งหมดของนางหายไป นางกลับคืนสู่ความเยือกเย็นและสายตาไร้อารมณ์เหมือนตอนที่นางพบกับหวังหลินครั้งแรก
จิตใจหวังหลินจมดิ่ง ผีเสื้อสีชาดเป็นอัจฉริยะของจริงที่สามารถได้รับบางสิ่งบางอย่างจากการต่อสู้เขตแดนครั้งนี้ สตรีคนนี้ต้องถูกสังหารไม่เช่นนั้นหวังหลินจะไม่มีวันสงบสุขในอนาคต!
หวังหลินขยับร่าง เขาตบกระเป๋าและนำธงกฎเกณฑ์ออกมา ควันกฎเกณฑ์พวยพุ่งและเกิดเป็นหอกสีดำแล่งหนึ่ง
ยิ่งควันกฎเกณฑ์เข้าไปในหอกมากเท่าไหร่ก็ยิ่งมีเสียงการขยายตัวเกิดขึ้น หอกขยายขนาดและมีกลิ่นอายอันแข็งแกร่งขึ้น
ควันกฎเกณฑ์ทั้งหมดรวบรวมเข้าไปในหอก นี่คือพลังสูงสุดของธงกฎเกณฑ์หลังจากบรรลุขั้นแรกได้สำเร็จ
หวังหลินพุ่งออกไปข้างหน้าพร้อมกับหอกในมือข้างหนึ่งส่วนอีกข้างเป็นกระบี่สวรรค์ที่ตวัดลงมา
บูมมมม!
ยักษ์น้ำแข็งร้องคำรามและกระโดดขึ้นกลางอากาศชกใส่หวังหลิน ทว่าหอกยาวกว่ามันจึงแทงเข้าหาผีเสื้อสีชาดไปที่หน้าผากของเจ้ายักษ์น้ำแข็ง ส่วนฝ่ามือเจ้ายักษ์คว้าด้ามหอกไว้
ทว่าปราณกระบี่อยู่เบื้องหลังหอกอย่างถูกจังหวะดังนั้นมันจึงเข้ามาถึงโดยไร้การต่อต้าน
ปัง!
ยักษ์น้ำแข็งร้องอย่างเจ็บปวดและมือซ้ายทุบลงขณะที่ควันกฎเกณฑ์เข้าไปในร่างมัน ถึงเช่นนั้นหอกไม่ได้ปะทะกับผีเสื้อสีชาดแต่แทงเข้าสู่ลำคอของเจ้ายักษ์
บูมมม!
สายตายักษ์น้ำแข็งสลัวลงและมันค่อยๆหล่นลงสู่พื้นดิน ผีเสื้อสีชาดสูดหายใจลึกและชี้ระหว่างคิ้วของตนเอง จากนั้นนางออกมาจากยักษ์น้ำแข็งและลอยกลางอากาศ ตอนนี้ร่างกายของนางอ่อนแอมาก สมบัติแห่งชีวิตถูกใช้จนหมด ร่างอวตารเขตแดนถูกทำลาย วิญญาณดั้งเดิมได้รับบาดเจ็บหนักและยักษ์น้ำแข็งซ้ำร้ายถูกทำลายด้วย ตอนนี้นางอ่อนแอเหมือนตอนที่นางอยู่ในดินแดนสวรรค์
แต่นางดูเหมือนสัมผัสการรู้แจ้งได้และไม่มีแรงกระตุ้นต่อสู้ นางรู้สึกว่าเมื่อนางเข้าใจความรู้สึกนี้เมื่อนั้นการสังหารเซิ่งหนิวจะง่ายดายราวกับโบกแขน
ยักษ์น้ำแข็งมีรอยร้าวนับไม่ถ้วนขณะที่หล่นลงมาและในที่สุดก็แตกสลาย น้ำแข็งทั้งหมดหลอมละลายเผยออกมาเป็นแส้สีขาวบริสุทธิ์
ผีเสื้อสีชาดสะบัดแขนและแส้วิญญาณลอยเข้าหานาง
หวังหลินจะปล่อยนางเอาไปได้อย่างไร? นี่ค่อสิ่งที่เขาต้องได้รับ หอกกฎเกณฑ์รีบกลับเป็นแส้สีดำและห่อหุ้มรอบแส้วิญญาณ
สีหน้าท่าทางของผีเสื้อสีชาดเปลี่ยนไปและนางตะโกนขึ้น “เจ้ากล้า?!”
“ทำไมข้าจะไม่กล้า!” หวังหลินหัวเราะพร้อมกับดึงแส้วิญญาณเข้าหาเขา เขากวัดแกว่งกระบี่สวรรค์ใส่ผีเสื้อสีชาดเพื่อให้นางป้องกันตัวเองจากการต่อสู้แย่งชิง
ใบหน้านางมืดมน หลังครุ่นคิดเล็กน้อยนางจึงหลบปราณกระบี่และเยาะเย้ยหวังหลิน
“เซิ่งหนิว แส้วิญญาณนี้มีผนึกที่สำนักหยกสวรรค์วางเอาไว้ แม้เจ้าจะขโมยมันก็ไม่สามารถใช้ได้”
เมื่อนางเอ่ยขึ้นมา เส้นสีดำบนหน้าผากค่อยๆจางหายไปจนหายไปในที่สุดโดยไร้ร่องรอย
อวตารเขตแดนของนางถูกทำลายไประหว่างการประลองเขตแดนดังนั้นวิธีการบรรลุขั้นแปลงวิญญาณที่สัมพันธ์กันจึงถูกลบออกไปด้วย แต่ความรู้แจ้งที่นางได้รับทำให้นางมั่นใจว่าจะสามารถทำลวงผ่านขั้นแปลงวิญญาณด้วยตัวเองด้วยเวลาไม่กี่ทศวรรษ
นางสูดหายใจลึกและลำแสงสี่เส้นพลันปรากฎรอบตัว เมื่อลำแสงหายไปร่างทั้งสี่จึงปรากฎ
วิญญาณโลหะ วิญญาณพฤกษา วิญญาณวารี วิญญาณอัคคี!
นอกจากวิญญาณปฐพีแล้ว วิญญาณธาตุตัวอื่นทั้งหมดปรากฎตัว!
มันคือสมบัติสูงสุดของผีเสื้อสีชาด มันคือรากฐานและเป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงพรสวรรค์ของนาง
หวังหลินตรวจสอบแส้วิญญาณด้วยสัมผัสวิญญาณ สิ่งที่เขาเห็นทำให้จิตใจจมดิ่ง มีผนึกแข็งแกร่งบนแส้วิญญาณซึ่งสัมผัสวิญญาณของเขาไม่สามารถผ่านมันได้เลย
หวังหลินพ่นลมหายใจ เขาเก็บแส้วิญญาณไว้ในกระเป๋าจากนั้นจดจ้องวิญญาณธาตุทั้งสี่ตัว
การต่อสู้ในวันนี้ หวังหลินได้รับบาดเจ็บสาหัส นอกจากบาดแผลบนร่างกายแล้ววิญญาณดั้งเดิมของเขายังได้รับความเสียหายด้วย กล่าวได้ว่าเป็นการต่อสู้ที่เจ็บช้ำอย่างมาก
ดวงตาหวังหลินแปรเปลี่ยนเป็นเยือกเย็นและคิดขึ้นได้ “สี่วิญญาณ…วันนี้ลูกปัดฝืนลิขิตฟ้าของข้าจะใช้พวกมันเพื่อเก็บรวบรวมได้สมบูรณ์!”
ผีเสื้อสีชาดจ้องหวังหลิน ฝ่ามือสร้างผนึกและเอ่ยขึ้น “สี่วิญญาณ ค่ายกลสังหาร!” หลังจากนั้นนางหันกลับเพื่อจากไป นางไม่มีอารมณ์ที่จะต่อสู้อีกต่อไปและพร้อมจะออกไปจากที่นี่
หวังหลินกำลังจะไล่ตามทว่าวิญญาณทั้งสี่เคลื่อนไหวทันทีและพุ่งเข้าหาหวังหลิน
แววตาหวังหลินสว่างวาบ เขาสะบัดธงกฎเกณฑ์ในมือและหอกสร้างขึ้นใหม่ ผลักหอกเข้าหาวิญญาณข้างหน้า วิญญาณเพิ่มความเร็วของมันและปะทะเข้ากับหอกกฎเกณฑ์
หวังหลินตะวัดกระบี่สวรรค์ในมือขวาแต่วิญญาณพฤกษาเข้ามารับไว้ขณะที่วิญญาณวารีและโลหะเข้าใกล้เขาเข้ามา
หวังหลินพ่นลมหายใจ ตอนนั้นก่อนที่เขาจะบรรลุขั้นตัดวิญญาณ หวังหลินใช้ความพยายามอย่างมากเพื่อเอาชนะหนึ่งธาตุได้ ทว่าตอนนี้เขาเป็นเซียนขั้นตัดวิญญาณระดับกลางและวางแผนไว้เรียบร้อยแล้วว่าจะขโมยวิญญาณธาตุเหล่านี้จากผีเสื้อสีชาดอย่างไร
ในตอนนี้ดวงตาหวังหลินสงบนิ่ง เขาตบกระเป๋าและไม้แกะสลักเก้าชิ้นปรากฎ
ไม้แกะสลักทั้งเก้าชิ้นทั้งหมดบรรจุเขตแดนแห่งกาลเวลา นอกจากสองชิ้นในตอนแรก ที่เหลือทั้งเจ็ดชิ้นได้สร้างจากไม้ของต้นไม้แห่งการเกิดใหม่ วัตถุดิบที่สร้างมันขึ้นมานี้ทำให้กระตุ้นเขตแดนแห่งกาลเวลาได้ง่ายดายและทรงพลังยิ่งขึ้น
หวังหลินเอ่ยเบาๆ “กาลเวลา!”
คลื่นกระแทกที่มองไม่เห็นพลันกระจายออกและวิญญาณธาตุทั้งสี่ตัวหยุดชะงักชั่วขณะ
หวังหลินเร็วมาก เขาคว้าธาตุโลหะทันทีและอีกหนึ่งก้าวก็ข่มธาตุพฤกษาไว้ได้ ที่เหลือเขาเมินเฉยทั้งสองตัวและไล่ตามหลังผีเสื้อสีชาด
ผีเสื้อสีชาดออกมาได้ไกลกว่าหนึ่งพันฟุตทว่าใบหน้านางซีดเผือด นางไม่คาดคิดว่าหวังหลินจะยังมีสมบัติที่แข็งแกร่งหลงเหลือหลังจากการต่อสู้นี้ นางรู้สึกปวดร้าวในใจอย่างมาก ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นนางต้องสังหารเขาในวันนี้ เพียงแค่นางใช้สมบัติทั้งหมดและใช้เรื่องที่นางมีพลังปราณมากกว่าเขาเล็กน้อยเพื่อให้สามารถสังหารไดในการโฉบครั้งเดียว!
นางเอ่ยขึ้นด้วยแววตาชั่วร้าย “วิญญาณโลหะ ระเบิด!”
วิญญาณโลหะที่อยู่ในกำมือหวังหลินสั่นกระตุกและเริ่มปลดปล่อยรัศมีแห่งการทำลายในทันที หวังหลินปล่อยวิญญาณโลหะและเคลื่อนที่พริบตาห่างไป ทว่าวิญญาณพฤกษายังอยู่ในมือหวังหลิน
ปัง!
วิญญาณตนนั้นระเบิดออก แม้หวังหลินจะเคลื่อนที่พริบตามาได้ไกล เขายังถูกมันกระแทกจนกระอักโลหิตออกมาและอ่อนแรงทันที
ระดับฝึกฝนของเขาไม่คงที่หลังเกิดการบาดเจ็บทั้งหมดนี้ดังนั้นจึงตกลงไปสุ่ขั้นตัดวิญญาณระดับต้น
หลังร่อนลงมา หวังหลินนำเม็ดยาออกมาจากกระเป๋าและกลืนเข้าไปทันที สายตากระพริบถี่ขณะเคลื่อนที่พริบตาเข้าหาผีเสื้อสีชาด เขาสร้างผนึกและเอ่ยขึ้น “ผีเสื้อสีชาด ยอมรับความตายของเจ้าซะ!”
ดวงตาของนางสว่างขึ้นและเอ่ยทันที “สามวิญญาณระเบิด!”
วิญญาณที่เหลือทั้งสามตัวสั่นเทาและพลังทำลายล้างอันแข็งแกร่งทั้งสามแห่งเริ่มกระจาย หวังหลินสีหน้าเปลี่ยนไปมหาศาล
ดวงตาผีเสื้อสีชาดยังคงเยือกเย็น นางเอ่ยขึ้นขณะที่ดวงตาไร้แสงสี “หากเจ้าสังหารข้า เราทั้งคู่จะตายด้วยกัน!”
ดวงตาหวังหลินแปรเปลี่ยนเป็นเยือกเย็นขณะกดผนึกลงในมือโดยไม่ลังเล เป็นครั้งแรกที่ใบหน้าผีเสื้อสีชาดมีความตื่นตระหนก
แต่ขณะนั้นเอง พลังอ่อนโยนสายหนึ่งลงมาจากท้องฟ้าและล้อมรอบวิญญาณธาตุทั้งสามไว้ พลังทำลายล้างหายไปและวิญญาณถูกช่วยเหลือ
คนผู้หนึ่งปรากฎตัวเบื้องหน้าผีเสื้อสีชาดอย่างเงียบๆ เขาคือกงซุนโป้แห่งซูซาคุ
เขาโบกมือขวาอย่างลวกๆและหวังหลินถูกดันถอยหลังกลับไปหนึ่งร้อยฟุต หวังหลินจ้องกงซุนโป้และครุ่นคิดเงียบๆ
พลังเช่นนี้ไม่ใช่สิ่งที่เขาสามารถต่อกรได้และไม่ลืมว่าเขาได้รับบาดเจ็บสาหัส
“เซิ่งหนิว เจ้าชนะ! ไปภูเขาซูซาคุเพื่อรับคำสั่งและจะมีคนเตรียมการไว้ให้เจ้า หลังจากนั้นเจ้าจะเป็นศิษย์คนหนึ่งของซูซาคุที่ได้รับการเชิญชวนจากข้างนอก สำหรับเหล่าศิษย์ ซูซาคุให้เจ้าขอได้หนึ่งอย่าง เมื่อเจ้าตัดสินใจได้แล้ว เจ้าสามารถมาที่ภูเขาซูซาคุได้ตามที่ต้องการ” กงซุนโป้คว้าวิญญาณธาตุทั้งสามและเก็บมันกลับใส่ข้างในผีเสื้อสีชาด
ทว่าตอนที่วิญญาณพฤกษาบินอยู่ข้างบน หวังหลินกัดฟันแน่นตวัดกระบี่สวรรค์และตัดมันออกเป็นครึ่งส่วน เขารีบปั้นครึ่งส่วนนั้นให้กลายเป็นผลึกและเก็บมันใส่กระเป๋า
หลังทำเช่นนี้เขาเงยศีรษะขึ้นมองกงซุนโป้
“ฮึ่ม เจ้ากล้ามาก! ความจริงแล้วเจ้าเป็นผู้ชนะ ข้าจะไม่เอาความเรื่องนี้ แต่คำขอของเจ้าถือเป็นอันยกเลิก!” กงซุนโป้มองหวังหลินด้วยความเย็นชา
จากนั้นเขาชี้ท้องฟ้าและวิญญาณที่ระเบิดไปได้กลับมาใหม่ ผู้เฒ่านำกลับเข้าใส่ข้างในผีเสื้อสีชาดเช่นเดียวกัน
ใบหน้าผีเสื้อสีชาดกลับมีสีดังเดิมและนางเอ่ยอย่างนอบน้อม “ขอบคุณมากผู้อาวุโส”
สายตาของกงซุนโป้หันเข้ามาหาผีเสื้อสีชาดเป็นท่าทางไม่เป็นไร เขายื่นมืออกไปหาหวังหลินและเอ่ยขึ้น “ส่งแส้วิญญาณมา!”
หวังหลินจ้องกงซุนโป้และขบคิดเล็กน้อย เมื่อเห็นว่ากงซุนโป้กำลังใจร้อนเขาจึงลอบถอนหายใจ ในโลกแห่งเซียน ความแข็งแกร่งคือทั้งหมด เขานำแส้วิญญาณออกมาและยื่นออกไปอย่างเจ็บช้ำ
หลังจากกงซุนโป้คว้าแส้วิญญาณไป ฝ่ามือขวาชี้กลางอากาศและประตูแสงพลันปรากฎ
“ไปเถอะ!” กงซุนโป้เดินผ่านประตูเข้าไป
ผีเสื้อสีชาดรีบตามไป นางหันกลับมาจ้องหวังหลินอย่างเย็นชาและกระซิบ “ครั้งหน้าเจ้าจะตายแน่นอน!” ตอนนี้นางไม่รู้ว่าตัวเองจะมีชีวิตอยู่ได้อีกแค่สามวันเท่านั้น!
แผนลับเริ่มคลี่คลายหลังมีคำสั่งส่งออกมาโดยใครสักคนที่ภูเขาซูซาคุ!