Skip to content

ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 529

Cover Renegade Immortal 1

529. ลบล้าง

ขณะที่ร่างปิศาจชั่วร้ายพุ่งออกไป ใบหน้าหวังหลินจมลง เขาอ้าปากออกพ่นลำแสงสีดำออกมาเส้นหนึ่ง หลังกระพริบหนึ่งครั้งธงยาวสามสิบฟุตปรากฎในฝ่ามือพร้อมกับสะบัดธงทำให้วิญญาณหลักที่เหลืออยู่ลอยออกมา

ร่างปิศาจตกตะลึงและดวงตาส่องประกายสว่าง แทนที่มันจะพุ่งเข้าหาหวังหลินมันกลับเปลี่ยนเป้าหมายพุ่งเข้าหาวิญญาณหลักขั้นแปลงวิญญาณ

สายตาหวังหลินส่องสว่างและเคลื่อนตัวตรงไป เขาผ่านร่างปิศาจตนนั้นพร้อมกับโยนกับดักอสูรและนิ้วชี้กดลงบนชายชุดดำ!

ใบหน้าชายชุดดำยิ่งมืดมิด แขนขวายื่นออกมาเข้าหาร่างปิศาจและตะโกน “กลับมา!”

เจ้าปิศาจร้องคำรามและดูไม่เชื่อฟังคำสั่ง ชายคนนั้นลอบสาปแช่ง เขาไม่มั่นใจในการควบคุมร่างปิศาจตนนี้และหวังหลินกำลังใกล้เข้ามาราวกับสายฟ้า

นิ้วชี้ขวาหวังหลินชี้ใส่กลางอากาศ และขณะนั้นพลังปราณสวรรค์ในร่างกายเริ่มรวบรวมที่ปลายนิ้ว!

ดัชนีมาร!

สามวิชาสังหาร วิชาที่สอง!

ด้วยพลังอำนาจของหนึ่งดัชนี ท้องฟ้าเปลี่ยนสีและแรงกระตุ้นไร้ที่สิ้นสุดของพลังปิศาจออกมาจากร่างกาย ตอนนี้พลังปิศาจกระจายออกมาอย่างบ้าคลั่ง

เมื่อไร้ชายชุดดำควบคุมไว้ ร่างปิศาจจึงพุ่งตัวเข้าหาวิญญาณดั้งเดิมที่หวังหลินปลดปล่อยออกมาอย่างรวดเร็ว ในสายตามันดวงวิญญาณเหล่านี้คืออาหารชั้นยอดและอาจเป็นไปได้ว่าหลังจากกินพวกมันแล้วพลังของตัวเองจะเพิ่มพูนขึ้นมหาศาล!

“ดัชนีมาร!” ชายชุดดำนึกถึงท่าสร้างชื่อเสียงของหวังหลินได้ทันที กระบวนท่านี้ใช้ต่อสู้กับศิษย์ลำดับสี่ของกองกำลังสีม่วงและทิ้งความประทับใจอันทรงพลังให้กับทุกคน

สายตาชายชุดดำส่องสว่างขึ้น ฝ่ามือขวาไม่สามารถออกจากหน้าอกได้เพราะจะสูญเสียการควบคุมร่างปิศาจ ตอนนี้เป็นช่วงอันตราย เขารีบถอยตัวและพ่นควันสีดำอีกจำนวนหนึ่งออกมา

กลิ่นคาวคละคลุ้งออกมาจากก้อนเมฆดำ ก้อนเมฆพิษนี้กระจายอย่างรวดเร็วเพื่อพยายามหยุดหวังหลินให้ได้

หวังหลินพ่นลมหายใจเย็นเฉียบขณะที่สัญลักษณ์สีเทาสองจุดกระพริบบนหน้าผากและปกคลุมทั้งร่าง ผนึกพลังชีวิตปรากฎขึ้นอีกครั้ง

ขณะที่มันปกคลุมร่างกาย หวังหลินเคลื่อนร่างราวกับสายฟ้าผ่านก้อนเมฆพิษ เมื่อก้อนเมฆสัมผัสกับร่างหวังหลินมันกลับแตกสลายไป

ชายชุดดำถอยกลับต่อเนื่องและพ่นควันสีดำนับไม่ถ้วนออกมาเพื่อพยายามหยุดหวังหลิน แผนของเขาคือเคลื่อนที่พริบตาเข้าหาร่างปิศาจที่ปลดปล่อยไว้ก่อนหน้านี้

อย่างไรก็ตามใครจะคิดว่าพิษนี้มีผลน้อยมากกับหวังหลินกันเล่า? ขณะที่เขากำลังเคลื่อนที่พริบตา ร่างหวังหลินพุ่งผ่านม่านหมอกพิษเข้ามาทันทีตามมาด้วยดัชนีทรงพลังเต็มไปด้วยพลังปราณสวรรค์ไร้ขอบเขตนั่น!

ดัชนีมาร!

สีหน้าชายชุดดำเปลี่ยนไป คราวนี้เขาไม่สามารถหลบได้จึงรีบใช้แขนซ้ายสร้างผนึกแล้วประทับเข้าหานิ้วของหวังหลินเพื่อหยุดการกระทำนั้น

นิ้วมือแต่ละคนสัมผัสกันในทันทีแต่พวกเขาไม่ได้สัมผัสกันตรงๆ มีระยะห่างระหว่างกันอยู่สามนิ้ว!

มีบางสิ่งประหลาดกำลังก่อตัวขึ้นในช่องว่างสามนิ้ว!

พลังปิศาจของหวังหลินกระจายออกมาจากปลายนิ้วและปะทะเข้ากับพลังสีดำที่ออกมาจากนิ้วชายชุดดำ ลูกแก้วสีดำสนิทปรากฎขึ้นระหว่างนิ้วทั้งสองคน

ลูกแก้วสีดำนี้ถูกสร้างขึ้นจากพลังปราณสวรรค์อันบริสุทธิ์ของหวังหลินกับพลังสีดำของชายชุดดำ เกิดเสียงดังสนั่นจากข้างในลูกแก้วและสายฟ้าสีดำเคลื่อนไหวออกมาด้านนอก

ณ ตอนนี้ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกราวกับถูกแช่แข็งและแสงทั้งหมดรวบรวมไว้ที่หวังหลินกับชายชุดดำ

หวังหลินกำลังลอยตัวกลางอากาศ เสื้อผ้าพริ้วสะบัดโดยไร้แรงลม เส้นผมเป็นจุดเด่นอย่างมากให้ความรู้สึกสง่างามน่าหลงไหล

ชายชุดดำกลับตรงกันข้าม ใบหน้ามืดมนและดวงตาเป็นประกายสายฟ้า เขายืนอยู่บนพื้นขณะที่แขนซ้ายยกขึ้นกลางอากาศ เสื้อผ้าพัดกระพือไปด้านหลังราวกับถูกตีด้วยสายลมรุนแรง กระทั่งเส้นผมก็พริ้วไปด้านหลัง

เสียงดังสนั่นกึกก้องข้างในลูกแก้วเล็กระหว่างทั้งสองยิ่งดังขึ้นเรื่อยๆ พลังปราณสวรรค์ในร่างหวังหลินพุ่งพล่านอย่างบ้าคลั่งขณะที่มันแปรเปลี่ยนกลายเป็นพลังปิศาจและถูกฉีดเข้าไปในลูกแก้วเล็กนี้

ส่วนชายชุดดำกำลังลอบสาปแช่งอยู่ในใจ เขาต้องถ่ายพลังปิศาจที่เข้าได้รับมาจำนวนมากเข้าไปในลูกแก้วนี้เพราะหากสูญเสียการควบคุมลูกแก้ว เขาจะถูกพลังตีกลับรุนแรง

ใบหน้าชายชุดดำดูโหดเหี้ยม เขาไม่ได้อ้าปากออกมาแต่ส่งข้อความทางสัมผัสวิญญาณ “ข้าไม่เชื่อว่าเซียนแปลงวิญญาณระดับกลางเช่นเจ้าจะมีพลังปราณสวรรค์มากกว่าข้าที่เป็นระดัยปลาย เมื่อเจ้าอยากจะสู้กับข้านักก็มาดูกันว่าใครจะรอด ใครจะตาย!”

ดวงตาหวังหลินส่องประกายราวกับคบไฟและตอบกลับมา “เจ้ามีปิศาจกำลังดูดซับพลังปราณสวรรค์ แล้วจะเทียบกับข้าได้อย่างไร?”

ชายชุดดำพ่นลมหายใจหนาวเหน็บและจ้องหวังหลิน เขากัดฟันแน่นและเลื่อนแขนขวาออกจากหน้าอก เมื่อทำเช่นนั้นเจ้าปิศาจที่กำลังพยายามกลืนกินวิญญาณหลักพลันร้องคำรามและจ้องกลับมา

ฝ่ามือชายชุดดำหยุดชะงักหนึ่งจังหวะแต่ก็เลื่อนออกไปมากขึ้นทันที เมื่อเขาเลื่อนมือออกพลันมีเส้นใยสีดำเหนียวแน่นกำลังเชื่อมต่อนิ้วมือเขากับหน้าอกไว้อยู่

ขณะที่ยกมือขึ้น เจ้าปิศาจคำรามอย่างเกรี้ยวกราดด้วยความไม่พอใจ ร่างมันค่อยๆเลือนหายไปแต่เมื่อจางหายใกล้จะสมบูรณ์ ดวงตาปิศาจส่องสว่างขึ้นมองกลับมาที่สถานการณ์ปัจจุบันของชายชุดดำและจากนั้นก็มองหวังหลิน ดูเหมือนมันตัดสินใจแน่วแน่และก่อนที่มันจะหายไปพลันเกิดคลื่นแสงสีดำออกมาจากร่างมัน

สีหน้าชายชุดดำเปลี่ยนไปและในจังหวะนั้น แสงสีดำส่องประกายเจิดจ้าอย่างมาก ภายใต้แสงสีดำ เจ้าปิศาจหยุดการหายไปของมันและนั่นเป็นโอกาสที่มันจะพุ่งผ่านคลื่นปิศาจออกไปและหายตัวเข้าไปในเส้นขอบฟ้า

ส่วนวิญญาณดั้งเดิม พวกมันไล่ตามเจ้าปิศาจไปในพริบตา

ฉากเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเร็วมากจนแม้แต่ชายชุดดำยังต้องตกตะลึง แต่ก็กลับมาคำรามโกรธเกรี้ยวทันที เขาจ้องหวังหลินด้วยดวงตาแดงฉานยิ่งกว่าเดิมและตะโกน “ทั้งหมดเป็นเพราะเจ้า! หากไม่ใช่เจ้า ปิศาจสวรรค์จะหนีได้อย่างไร?!”

หวังหลินเผยดวงตาเย็นชา “นั่นมันเรื่องของเจ้า!”

ดวงตาชายชุดดำเต็มไปด้วยจิตสังหาร “เจ้าสารเลว!” ตอนนี้เจ้าปิศาจไม่ได้ดูดซับพลังจากเขาอีกต่อไป เขาใช้พลังปิศาจที่เขาบ่มเพาะด้วยวิธีการฝึกของสำนักและรวมมันเข้าไปในลูกแก้ว

“หวังหลิน ยอมรับความตายซะ!” เขารวมพลังปิศาจถึงเก้าในสิบส่วนเข้าไปในลูกแก้ว ตอนนี้เสียงดังสนั่นจากลูกแก้วดังกึกก้องสะท้อนไปทั้งสรวงสวรรค์ ราวกับลูกแก้วระหว่างนิ้วพวกเขาไม่ใช่สิ่งธรรมดาแต่เหมือนกับสายฟ้าทัณฑ์สวรรค์ในตำนาน

ขณะที่พลังปิศาจของชายชุดดำเข้าไปในลูกแก้ว เห็นได้ชัดว่าพลังปราณสวรรค์ในร่างหวังหลินไม่เพียงพอ ทำให้ลูกแก้วค่อยๆกดเข้าหาหวังหลิน

ชายชุดดำเผยใบหน้าเคร่งเครียดขณะที่เขาเห็นอนาคตของหวังหลินได้ว่าจะถูกลูกแก้วเล็กนี้สัมผัส ทั้งร่างหวังหลินจะแตกสลาย โลหิตและเลือดเนื้อกระจัดกระจายไปทุกที่ แม้กระทั่งวิญญาณดั้งเดิมก็แตกสลายโดยสิ้นเชิงจนไม่มีโอกาสกลับเข้าสู่วัฏจักรแห่งการเกิดใหม่ได้!

ฆ่าล้างพลังชีวิตทั้งหมด ทำลายโอกาสการเกิดใหม่และลบล้างตัวตนทั้งหมดของเขา!

แต่ขณะนั้นชายชุดดำก็ต้องตกตะลึงเพราะเมื่อเขามองหวังหลินตอนนี้ สิ่งที่เขาเห็นคือความไม่หวาดกลัวและไม่แยแสต่อสิ่งใด มันเป็นท่าทางลึกลับ รอยยิ้มที่ไม่ได้ยิ้ม ท่าทางเยาะเย้ยนั่น…

ท่าทางเช่นนี้ทำให้จิตใจเขาสั่นเทา

หวังหลินไม่ได้มองลูกแก้วแต่กลับเอ่ยขึ้นมา “ปลดปล่อย ราชรถสังหารเทพ!”

ด้วยคำนั้น เสียงคำรามแทงเสียดสวรรค์และเต็มไปด้วยความดื้อรั้นออกมาจากตำแหน่งที่หวังหลินโยนกับดักอสูรไปก่อนหน้านี้

มันเหมือนอสูรแรกเริ่มที่กล้าต่อสู้ท้าทายสวรรค์ กล้ากลืนกินเหล่าเทพและไม่เคยจำนนต่อสิ่งใดในชีวิต!

ทันใดนั้นสีหน้าชายชุดดำเปลี่ยนไป!

หลังเสียงคำรามคือร่างอสูรวิญญาณตัวยักษ์ ในจังหวะที่มันปรากฎตัวออกมา มันก็ส่งเสียงคำรามอีกครั้ง

หวังหลินตะโกน “ฆ่าเขาซะ!”

อสูรวิญญาณคำรามออกมา สายตาของมันจดจ้องมาที่หวังหลินด้วยความเยือกเย็นสุดขั้ว

หวังหลินเตรียมการไว้แล้วว่าอสูรตัวนี้จะไม่ฟังคำสั่ง จึงพ่นคำพูดอีกคำออกมา

คำพูดนี้ซับซ้อนมากและอีกฝ่ายไม่อาจบอกได้ว่ามันหมายความว่าอะไร อย่างไรก็ตามคำพูดนี้เป็นสิ่งที่หวังหลินเรียนรู้มาจากการสืบทอดราชรถสังหารเทพที่ถูกทิ้งไว้เบื้องหลังผู้สร้าง มันคือมนตราเก้าวาทะ!

มนตราเก้าวาทะนี้ใช้เพื่อควบคุมอสูรโดยเฉพาะ เมื่อผนึกแต่ละชิ้นถูกปลดปล่อยจะมีมนตราหนึ่งคำใช้ได้เพิ่มขึ้น!

เทพผู้สร้างจะปล่อยให้สมบัติที่หลอมขึ้นมาเองทรยศเขาได้อย่างไร? เขาต้องเตรียมการวางแผนรับมือเมื่อถึงเวลานั้นไว้แล้ว!

ด้วยหนึ่งคำนี้ร่างอสูรที่ไม่ยอมจำนวนพลันสั่นสะท้าน สายตาจ้องมองของมันสั่นไหวและเลื่อนไปหาชายชุดดำราวกับเปลี่ยนความโกรธเกรี้ยวทั้งหมดมาหาเขาแทน

เหตุการณ์ทั้งหมดตั้งแต่อสูรวิญญาณปรากฎตัวจนถึงตอนที่มันเริ่มโจมตี ทั้งหมดเกิดขึ้นในช่วงเวลาสั้นมากๆ

ขณะที่อสูรวิญญาณร้องคำราม มันขยับร่างอย่างรวดเร็วปานสายฟ้าเข้าหาชายชุดำ

ใบหน้าชายชุดดำเปลี่ยนไปอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เขาใช้พลังปราณสวรรค์ปิศาจในร่างไปหมดแล้วทำให้เขาไม่สามารถหลบหนีได้ หากพยายามหลบหนีเขาจะได้รับพลังตีกลับจากลูกแก้วที่เต็มไปด้วยรัศมีทำลายล้างในทันที!

แต่ตอนนี้ด้วยอสูรดุร้ายตนนั้นกำลังเข้ามาหาเขา หากเขาไม่หลบหลีกเขาจะต้องตายอย่างแน่นอน เขากระชากศีรษะกลับมาอย่างรวดเร็วมองไปที่หวังหลินด้วยสายตาโหดเหี้ยม พลันยกมือซ้ายขึ้นและตบเข้าหน้าผากตนเอง

ทั้งร่างสั่นไหว จากนั้นวิญญาณดั้งเดิมหลุดจากร่างกายและเริ่มลอยหนีออกไปไกล

ในจังหวะที่วิญญาณดั้งเดิมหลุดจากร่างกายหยาบ ร่างเขาก็ฟุบลงราวกับหุ่นเชิดไร้ชีวิต ลูกแก้วที่กำลังกดเข้าใส่หวังหลินพลันหยุดชะงักและพุ่งเข้าหาร่างของชายชุดดำอย่างรวดเร็ว

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!