578. เต๋าแห่งการสังหาร!
บนชั้นสองของเหลาอาหารฝั่งตรงข้ามหวังหลินไปหมื่นฟุต มีสองคนนั่งข้างประตูและใช้สายตาจับจ้องหวังหลิน
ชายสองคนสวมชุดคลุมสีดำ หนึ่งในนั้นแก่กว่าอีกคนเล็กน้อย
ชายคนที่แก่กว่าเอ่ยขึ้น “แข็งแกร่งมาก!”
ชายหนุ่มกว่าดวงตาส่องสว่างพร้อมกับเอ่ยออกมา “คนผู้นั้นน่าจะเป็นขั้นแปลงวิญญาณ!”
“ไม่ว่าเขาจะมีระดับบ่มเพาะอะไร เมื่อท่านบรรพชนต้องการจับตัวเขาก็อย่าให้หนีไปได้!” ชายที่แก่กว่าหยิบถ้วยขึ้นมาดื่ม
จากนั้นเอ่ยต่อ “ส่งคนไปอีก อย่าให้ท่านบรรพชนต้องรอ!”
ชายหนุ่มยิ้มเล็กน้อยและเคาะโต๊ะเบาๆ จากนั้นหนึ่งในคนชุดดำที่นั่งอยู่ชั้นหนึ่งยืนขึ้นทันที คนผู้นี้อายุวัยกลางคนและมีดวงตาสว่างไสว พลันเดินออกจากร้านอาหารและเหาะเหินเข้าหาหวังหลินไปในปราณกระบี่
หวังหลินนั่งอยู่ข้างแม่น้ำ เรือข้ามฝั่งไปได้ครึ่งทางแต่เสียงพิณยังดังอยู่ในหู หวังหลินจมดิ่งลึกโดยสิ้นเชิงและใบหน้าเผยสัมผัสแห่งความสงบสุข
ปราณกระบี่ที่มีจิตสังหารรุนแรงลอยเข้ามาทางหวังหลิน ตอนนี้ไม่มีคนสักคนเดียวภายในพื้นที่นี่ราวกับเป็นที่ดินรกร้าง
เรือบนแม่น้ำดูเหมือนจะรับรู้สิ่งผิดปกติได้และเร่งความเร็วขึ้นทันที
ปราณกระบี่เข้ามาใกล้และข้ามระยะหนึ่งหมื่นฟุตในพริบตา ใบไม้ใบหญ้าทั้งหมดรอบหวังหลินเอนเอียงไปอีกด้านหนึ่งราวกับเจอลมรุนแรง
เสียงหวีดหวิวระเบิดรุนแรงผสมกับเสียงพิณทำให้มันทรงเสน่ห์ในตัวเอง!
หวังหลินทั้งยังไม่ได้หันศีรษะกลับมาหรือมองไปที่คนผู้นั้น เขาเพียงยกนิ้วโป้งขึ้นมาใส่ปราณกระบี่ที่กำลังเข้ามาและใช้ดัชนีแห่งความตายอีกครั้ง!
ลำแสงสีดำพุ่งออกไปอีกครั้งเข้าใส่ปราณกระบี่อย่างรวดเร็วสุดขึ้น พริบตาเดียวสองฝั่งก็ปะทะกัน!
เมื่อปะทะพลันเกิดเสียงคร่ำครวญออกมาจากปราณกระบี่จนเผยร่างชายคนนั้นออกมา ใบหน้าขาวซีดและกระอักโลหิตก่อนจะถอยหลังอย่างหวาดกลัว เขาล่าถอยโดยไม่มีอาการลังเลใดๆเลย
ทว่าดัชนีแห่งความตายเร็วเกินไปมันจึงไล่ทันในเสี้ยววินาทีและประทับใส่บนหน้าอกชายคนนั้น
เขาร้องคำรามและปลดปล่อยปราณปิศาจออกมาจำนวนมาก ร่างกายถูกบังคับให้ตกลงพื้นและถูกดันให้ถอยต่อเนื่อง ท้ายที่สุดแล้วปราณปิศาจรอบร่างกายก็สูญสลาย เขากระอักโลหิตอีกครั้งและตกลงพื้น
ควันสีเทาเส้นหนึ่งลอยออกมาจากร่างเข้าหาหวังหลิน
หวังหลินทั้งยังไม่ให้ความสนใจตำแหน่งที่ดัชนีพุ่งออกไปและฟังเสียงพิณอย่างเงียบๆต่อ
ในเหลาอาหารห่างออกไปหมื่นฟุต ชายหนุ่มยืนขึ้นและจ้องหวังหลินจากอีกฝั่งของแม่น้ำ หลังจากนั้นสูดหายใจลึกและนั่งลงที่เดิม
มีเพียงชายชรากว่าที่ยังมีอาการเหมือนเดิมจากก่อนหน้านี้
ชายที่หนุ่มกว่าเอ่ยด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด “เขารั้งพลังตัวเองเอาไว้ ดังนั้นเราจึงไม่สามารถเห็นระดับบ่มเพาะที่แท้จริงได้!”
ชายชรากว่าจ้องหวังหลินและเอ่ยขึ้น “ระดับบ่มเพาะของเขาน่าจะเป็นขั้นแปลงวิญญาณระดับกลาง เขาฆ่าหมายเลขสี่ที่เป็นเซียนขั้นแปลงวิญญาณระดับต้นไปแล้ว เช่นนั้นส่งหมายเลขสามไป!”
ดวงตาชายหนุ่มส่องสว่างขึ้นแฝงเจตนาการต่อสู้ เขาส่ายศีรษะและเอ่ยเบาๆ “ไม่จำเป็นต้องส่งหมายเลขสาม ข้าจะไปเอง!”
เมื่อพูดจบเขายืนขึ้นอีกครั้งและมองหวังหลิน
“เจ้า?” ชายชรากว่าขมวดคิ้ว
“อย่าลืมสิว่าข้าหมายเลขสอง!” ชายหนุ่มเดินลงเหลาอาหารไปชั้นล่าง
“ระดับบ่มเพาะหมายเลขสองเทียบเท่ากับเซียนขั้นแปลงวิญญาณระดับปลายและห่างจากขั้นแปลงวิญญาณระดับปลายสูงสุดเพียงเล็กน้อย เมื่อเขาลงมือการต่อสู้นี้ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง!” ชายชรากว่าหยิบจอกเหล้าขึ้นมาและกระทั่งไม่มองข้ามฝั่งแม่น้ำอีกเลย
เมื่อชายหนุ่มเดินออกไปจากเหลาอาหาร สายลมโชยพัดเสื้อผ้าเขาไปด้านหลัง เขาเดินต้านสายลมและเดินไปหาหวังหลินอย่างช้าๆ
เขาเดินข้ามระยะหมื่นฟุตด้วยความสงบนิ่งราวกับกำลังเดินบนสวนหลังบ้านของตนเอง แต่ละก้าวทำให้กลิ่นอายความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นราวกับหากเขาทำเช่นนี้ต่อไปจะเพิ่มขึ้นไม่มีหยุด
เขาหยุดห่างจากหวังหลินไปสามร้อยฟุต ตอนนี้เขามีปราณปิศาจล้อมรอบอย่างสมบูรณ์แต่น่าประหลาดที่มีปราณสวรรค์บางส่วนผสมเข้ากับปราณปิศาจของเขาด้วย
การผสมกันของพลังปราณปิศาจและปราณสวรรค์ได้สร้างกลิ่นอายประหลาดเติมเต็มไปทั่วบริเวณ! เขายืนราวกับเป็นเจ้าของมิตินี้และราวกับสามารถทำให้โลกเปลี่ยนสีเพียงสะบัดมือครั้งเดียว
หวังหลินไม่ได้มองคนผู้นั้น เรือบนแม่น้ำค่อยๆเลือนหายไปจากสายตาและเสียงบทเพลงจากพิณเข้าสู่หูเขาอย่างช้าๆให้ความรู้สึกอันพิเศษ
ขณะที่คนผู้นั้นอยู่ห่างสามร้อยฟุต หวังหลินสะบัดมืออย่างลวกๆและดัชนีแห่งความตายปรากฎขึ้นอีกครั้ง!
ดัชนีแห่งความตายก่อร่างเป็นลำแสงสีดำเส้นหนึ่งเบื้องหน้าหวังหลินอีกคราและพุ่งเข้าใส่ชายหนุ่มราวกับประกายสายฟ้า
ชายหนุ่มหัวเราะ แทนที่จะล่าถอยเขากลับก้าวไปข้างหน้าและฝ่ามือสร้างผนึกขึ้น ปราณสรรค์รอบร่างควบแน่นใกล้ฝ่ามือในทันทีและสร้างลูกแก้วแสงทรงกลมขนาดเท่ากำปั้น
ในจังหวะที่ลูกแก้วแสงปรากฎขึ้นนั้นก็เป็นตอนที่ดัชนีแห่งความตายเข้ามาถึง สองฝั่งปะทะกันโดยไม่มีอาการลังเลและแสงสีดำจากดัชนีแห่งความตายดูเหมือนจะถูกดูดซับเข้าไปในลูกแก้วแสง
ชายหนุ่มร้องขึ้น “เจ้าประเมินค่าตัวเองสูงไป!” ทว่าขณะที่กำลังจะเอ่ยจบ ใบหน้าพลันเปลี่ยนแปลงทันที
หมอกสีดำเส้นหนึ่งปรากฎในลูกแก้วแสง แทบกระพริบตาหมอกสีดำเต็มไปทั่วลูกแก้วและเปลี่ยนกลายเป็นลูกแก้วแสงสีดำแทน พร้อมกันนั้นปรากฏรอยร้าวขึ้นทำให้ใบหน้าชายหนุ่มเปลี่ยนเป็นมืดมน ลูกแก้วแตกละเอียดและแสงสีดำพุ่งเข้าใส่เขาตรงๆ
เขารีบล่าถอยอย่างรวดเร็ว ฝ่ามือสร้างผนึกและลูกแก้วสองปรากฏขึ้นทีละลูกมีมากกว่าร้อยลูกในพริบตาจากนั้นขัดขวางลำแสงสีดำ
แสงสีดำเคลื่อนหายไปและปรากฏขึ้นพร้อมกับลูกแก้วแสงเริ่มแตกสลายทีละลูก ทว่าทุกครั้งที่ลูกแก้วแสงแตกสลาย แสงสีดำจะหม่นหมองลงเล็กน้อย เมื่อลูกแก้วแสงเหลือเพียงแปดลูก ลำแสงสีดำหายไปอย่างสิ้นเชิง
หน้าผากชายหนุ่มเต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อและสูดหายใจลึกมองหวังหลินที่ยังไม่หันมาหาเขาเลย “ข้าเข้าใจแล้วว่าวิชาแสงดำของเจ้าคือกระบวนท่าที่แข็งแกร่งที่สุด ข้าชื่นชมวิชาที่ทรงพลังเช่นนี้จริงๆ ไม่สงสัยเลยว่าทำไมหมายเลขสี่และหมายเลขห้าถึงตาย! แต่ว่าตอนนี้วิชาที่แข็งแกร่งที่สุดของเจ้าถูกข้าทำลายไปแล้ว ข้าอยากเห็นว่าเจ้ามีกระบวนท่าอื่นอีกไหม!”
ขณะนี้เรือค่อยๆเลือนหายออกไปไกลและเสียงพิณหายวับไปจากหูหวังหลิน หวังหลินยืนขึ้นและหันไปมองชายหนุ่มคนนั้น เขาพลันลืมตาขึ้นเผยดวงตาสีแดงอยู่ภายใน จากนั้นกลิ่นอายฆ่าฟันพุ่งออกมาจาดวงตาราวกับกระบี่อันคมกริบ!
ตึงตึง! ตึงตึง! ตึงตึง!
ราวกับสายฟ้าผ่าลงในจิตใจชายหนุ่มนับไม่ถ้วน! ราวกับสายฟ้าจริงๆได้ปรากฏขึ้นเหนือแม่น้ำที่สงบสุข! จิตสังหารมหึมาพุ่งออกมาจากดวงตาหวังแลินและแทงทะลุผ่านปราณปิศาจสวรรค์ของชายหนุ่มในทันทีพร้อมกับเข้าไปในดวงตาเขาประทับลงกลางจิตใจ ร่างกายตัวแข็งทื่อราวกับถูกสายฟ้าจู่โจมและแขนขาเริ่มสั่นอย่างควบคุมไม่ได้
“นี่…นี่มัน…” จิตใจชายหนุ่มสั่นสะท้านและศีรษะด้านชา เกิดความเจ็บปวดระหว่างคิ้วของเขาราวกับมีกระบี่แทงทะลุหน้าผาก
ชายหนุ่มได้ยินเสียงหัวใจตัวเองเต้นรัวขึ้นราวกับสมองกำลังระเบิด จากนั้นร่างกายเย็นเฉียบราวกับเผชิญกับศัตรูตัวฉกาจ
กลิ่นอายทรงพลังที่เขาสร้างขึ้นตอนที่เดินเข้ามาพลันพังทลายโดยสิ้นเชิงเพียงแค่เจอการจ้องครั้งเดียว
ชายชุดดำทั้งหมดที่กำลังมองออกมาจากเหลาอาหารชั้นแรกต่างเผยใบหน้าตื่นตะลึง แม้ว่าพวกเขาทั้งหมดอยู่ห่างออกไปไกลแต่กลับรู้สึกเหมือนอยู่ตรงนั้น เม็ดเหงื่อผุดออกมาจากร่างทำให้เสื้อผ้าเปียกโชก
ด้วยระดับบ่มเพาะของแต่ละคน พวกเขาไม่รู้ว่าทำไมถึงเกิดอาการแบบนี้ ทำไมเพียงแค่สอดสายตามองห่างถึงหมื่นฟุตถึงได้ทำให้เกิดความรู้สึกเหมือนมีกระบี่จี้เข้าที่คอหอยและทำให้พวกเขารู้สึกเหมือนอยู่ปากเหวแห่งความตาย ราวกับชายที่อยู่ห่างไปหมื่นฟุตคนนั้นได้กลายเป็นเทพเจ้าแห่งการสังหาร!
ณ บนชั้นสอง ชายแก่กว่าพลันดวงตาส่องสว่างขึ้น จากนั้นยืนทันทีและโต๊ะเบื้องหน้าระเบิดไปด้วย
ใบหน้าสงบเปลี่ยนไปมหาศาล! ปราณปิศาจสวรรค์ในร่างกายพรั่งพรูราวกับมังกรโกรธเกรี้ยวตามสัญชาตญาณ
ทุกสิ่งที่เขาทำลงไปเป็นจิตใต้สำนึก เขารู้สึกว่าหากเขาไม่ต่อต้านสายตานั้น เขาคงได้รับบาดเจ็บสาหัสและตายทันที สายตาเต็มไปด้วยความลังเล ตอนนี้จิตสังหารจากสายตาคู่นั้นกลับเป็นรูปเป็นร่างไปด้วย!
“เต๋าแห่งการสังหาร! นี่มันเป็นเต๋าแห่งการสังหาร! คนที่ฆ่าไปมากมายเท่านั้นถึงจะมีสายตาแบบนี้ซึ่งแทบจะทำให้จิตสังหารเกิดเป็นรูปเป็นร่าง! เขาแข็งแกร่ง แข็งแกร่งมากจริงๆ!”
สายตามที่มองหวังหลินเปลี่ยนเป็นเคร่งเครียดและเขาเคร่งเครียดแบบนี้เฉพาะเมื่อเผชิญกับองครักษ์เทพเท่านั้น!
“น่าหวาดกลัวเกินไป! แม้ว่าระดับบ่มเพาะของเข้าจะเท่ากับเขา ข้าก็ไม่สามารถเปรียบเทียบได้แน่นอน ข้าต้องหนีไปให้เร็ว!” เขาเคลื่อนร่างโดยไม่ลังเลและกำลังจะเคลื่อนที่พริบตาแต่ว่าถูกบังคับให้ออกมาจากมิติว่างทันที
ท่าทางเปลี่ยนไปทันที ไม่พยายามเคลื่อนที่พริบตาอีกและยืนขึ้นทันที ปราณปิศาจสวรรค์ที่เขาปลดปล่อยออกมาตอนนี้ทำให้ชั้นสองพังทลาย เขาพุ่งออกมาจากเหลาอาหารและกำลังเผ่นหนีไม่ว่าจะเสียอะไรก็ตาม
แต่เขาก็ต้องหยุดกลางอากาศพร้อมกับเม็ดเหงื่อเย็นเฉียบผุดออกมาจากทั้งร่าง หวังหลินอยู่เบื้องหน้าเขาห่างไปสิบฟุตมองมาด้วยสายตาสงบนิ่ง
“เจ้ารบกวนการฝึกฝนของข้าและยังต้องการหนีอีกหรือ?”
ชายชราคนนั้นเผยรอยยิ้มขมขื่นและดวงตาแฝงอาการบ้าคลั่งขึ้นมา เขาสัมผัสผนึกที่เขาไม่เคยแตะในชีวิตโดยไม่ลังเลและปราณปิศาจสวรรค์ในร่างกายระเบิดขึ้นในพริบตา!
รัศมีการระเบิดเกิดขึ้นรอบๆกำลังพังทะลายเหลาอาหาร สร้างเสียงดังกึกก้องเป็นชุด
หลังการระเบิดนั้นทุกสิ่งทุกอย่างภายในรัศมีหนึ่งพันฟุตล้วนเงียบสนิท
หวังหลินปรากฏตัวห่างออกไปหนึ่งพันฟุต แม้ว่าใบหน้าจะเป็นปกติแต่ยังมีความมืดมนในดวงตาเล็กน้อย เขาปัดฝุ่นออกจากเสื้อผ้าอย่างเบามือจากนั้นเดินออกไปไกล
บนแม่น้ำ ร่างชายหนุ่มค่อยๆหล่นลงไปพร้อมกับควันสีเทาหลายเส้นออกมาจากร่างกายและตามหลังหวังหลิน…