Skip to content

ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 726

Cover Renegade Immortal 1

726. ควบแน่นสายฟ้าต้นกำเนิด

หวังหลินท่าทีสงบนิ่งดังเดิมในขณะที่เขารู้สึกถึงจิตวิญญาณของเฉินกงฮู่ เขตแดนของเขาก็คล้ายคลึงกับหลิงเทียนโฮวแต่ก็มีความแตกต่างกัน อย่างไรก็ตาม เพราะหวังหลินไม่เข้าใจประสบการณ์ในชีวิตของเฉินกงฮู่ เขาจึงไม่เห็นภาพรวมทั้งหมดได้

“นานแค่ไหนที่แดนสวรรค์อัสนีจะเปิด?” หวังหลินกล่าวอย่างใจเย็น ดวงตาปิดลงเล็กน้อย

เฉินกงฮู่กล่าวด้วยความเคารพ “อีกสิบปีก่อนที่แดนสวรรค์อัสนีจะเปิด จากนั้นถึงจะสามารถใช้เตาหลอมอัสนีเพื่อเข้าไปได้.”

หวังหลินครุ่นคิดสักพัก เขาสนใจแดนสวรรค์อัสนีอย่างมาก ตอนที่เขาเข้าไปในแดนสวรรค์อัสนี เข้าไม่ได้ดูดซับหินหยกสวรรค์มากนัก ทว่าตอนนี้เขาสามารถดูดซับจำนวนมากได้แล้ว การเดินทางไปยังแดนสวรรค์อัสนีจะทำให้ระดับบ่มเพาะของเขาบรรลุถึงขั้นสมบูรณ์

“ดินแดนสวรรค์พังเสียหาย กฎเกณฑ์อะไรที่จะใช้เข้าไปแดนสวรรค์?” แววตาหวังหลินเปล่งประกายในมองไปยังเฉินกงฮู่

เฉินกงฮู่ตกใจ หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เขาคาดเดาบางอย่างขึ้นจากถ้อยคำของหวังหลิน

แววตาหวังหลินยังคงสงบดังเดิมพร้อมกล่าวอย่างเย็นชา “ข้าไม่ได้มาจากดาราจักรทุกชั้นฟ้า!”

การคาดเดาของเฉินกงฮู่หายไป แทบในวินาทีที่หวังหลินเอ่ยขึ้นมา เขาก็มีคำตอบเดียวในใจ ซึ่งมีเพียงต้นกำเนิดเช่นนี้เท่านั้นถึงจะเหมาะสมต่อสถานะของหวังหลิน

“ผู้อาวุโส แดนสวรรค์อัสนีในดาราจักรทุกชั้นฟ้าไม่ได้เกิดความเสียหายหนักเกินไป ขีดจำกัดในการเข้าไปคือขั้นเทวะระดับปลาย อย่างไรก็ตามอารามเทพอัสนีมีวิธีที่จะให้เซียนขั้นสองเข้าไปได้ โดยไม่ให้พวกเขาใช้ความแข็งแกร่งเกินกว่าเซียนขั้นส่องสวรรค์ระดับต้น”

หวังหลินพยักหน้าแล้วถามรายละเอียดเพิ่มเติมอีกเล็กน้อย แดนสวรรค์อัสนีแห่งนี้คล้ายกับแดนสวรรค์พิรุณ นอกจากนั้นเมื่อนานมาแล้วที่สองแดนสวรรค์นี้ต่างก็เห็นเส้นทางสู่แดนสวรรค์โบราณ

หลังจากได้รับข้อมูล หวังหลินก็มองเฉินกงฮู่และกล่าวว่า “ช่างมันเถอะ เจ้าจะพักบ่มเพาะอยู่ที่นี่ก็ได้แต่อย่ารบกวนข้าก็พอ!”

เฉินกงฮู่รีบพยักหน้า เขามาที่นี่เพื่อทำการฝึกฝน แต่ตอนนี้เขาได้รับบาดเจ็บสาหัสและระดับการบ่มเพาะลดลง คงยากที่จะหาสถานที่ดีกว่านี้ภายในเวลาเพียงสิบปี อีกทั้งการฟื้นฟูอาการบาดเจ็บจะต้องใช้เวลามาก เป็นไปได้ว่าเพียงฟื้นฟูขึ้นมาเหมือนเดิมตอนที่แดนสวรรค์อัสนีเปิดขึ้น

หลังจากหวังหลินอนุญาตให้เขาพักที่นี่ได้ จึงรู้สึกขอบคุณในใจทันที ความจริงแล้วปกติเขาไม่รู้สึกแบบนี้แต่เมื่อปฏิญาณไว้ในใจ เขาก็หวาดกลัวสายตาหวังหลินอย่างสิ้นเชิง

หวังหลินถอนสายตาออกมาและไม่สนใจเฉินกงฮู่อีก เขาหันไปรอบๆและเดินลึกเข้าไปในทะเลสาปสายฟ้า

ในตอนแรกเฉินกงฮู่ไม่ได้รอบคอบนักแต่เขาก็ต้องถอนหายใจออกมาในเวลาไม่นาน นี่คือเซียนระดับสูงกว่าเขาจริงๆและสายฟ้าของเขาไม่ใช่ธรรมดา ด้วยระดับการบ่มเพาะของตนเองอาจเดินเข้าไปได้เพียงห้าสิบก้าวเท่านั้นและไม่ใกล้กับตรงกลางเลยแม้แต่น้อย

ทว่าในสายตาที่มองตามหวังหลินและเห็นหวังหลินเดินเข้าไปร้อยก้าวก่อนจะนั่งลง

เฉินกงฮู่สูดหายใจเข้าลึก สายตาเต็มไปด้วยความนับถือ เนื่องจากได้รับบาดเจ็บจึงเดินไปได้เพียงสิบก้าวเท่านั้นก่อนจะไม่สามารถก้าวต่อไปได้อีก เมื่อมาถึงจุดนี้ เขาก็นั่งลงในทันทีและเริ่มบ่มเพาะวิชาอัสนีต้นกำเนิด

อสูรสายฟ้าเองก็ก้าวไปอย่างระมัดระวังเช่นกัน ศีรษะขนาดใหญ่ของมันจะหันไปหาหวังหลินเป็นครั้งคราว ดวงตามีแววหวาดกลัว มันเป็นอสูรวิญญาณ ดังนั้นสายตาหวังหลินทำให้มันหวาดกลัวตามสัญญาตญาณ สายตานั้นทำให้อสูรสายฟ้าเกือบสูญสิ้นความคิด

มันรู้สึกเหมือนมันกำลังกลับไปสู่ต้นกำเนิด มันไม่เคยรู้สึกเช่นนี้มาก่อนในชีวิต

แม้ตอนนี้มันยังคงหวาดกลัวหวังหลิน ขณะที่มันกำลังหมอบลง เสียงคำรามดังออกมาจากไกลๆ อสูรสายฟ้าของหวังหลินเดินเข้ามาช้าๆและเมื่อมันเดินผ่านอสูรสายฟ้าของเฉินกงฮู่ อสูรสายฟ้าของหวังหลินก็ส่งสายตาดุร้ายออกมา

อสูรสายฟ้าของเฉินกงฮู่ถอยออกมาและไม่กล้าเข้าใกล้อีกต่อไป ความเย่อหยิ่งจองหองของมันพังทลายลงอย่างสิ้นเชิงด้วยสายตาหวังหลิน ไม่เช่นนั้นแล้วด้วยเขาที่กำลังงอกออกมา มันคงไม่ยอมศิโรราบเช่นนี้

อสูรสายฟ้าเขาเงินส่ายหัวและเดินผ่านอย่างร่าเริง มันเดินสิบก้าวเข้าสู่ทะเลสาปสายฟ้าและนอนลงดูดซับสายฟ้า

ในระยะไกลเวรยามสวรรค์กำลังนั่งอยู่ ตาของมันกระพริบบางครั้งก็จะเหลือบมองที่ เฉินกงฮู่

ระยะร้อยก้าวเป็นขีดจำกัดของหวังหลินและเพราะเขาได้เห็นขั้นที่สามจึงทำให้จิตวิญญาณพัฒนาขึ้น เมื่อมองไปที่สายฟ้า เขารู้สึกเหมือนการเปลี่ยนแปลงประหลาดอันเลือนลางคล้ายกับตอนที่เขาใช้ตัดสวรรค์

เมื่อสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลง หวังหลินจึงสามารถก้าวไปได้ร้อยก้าวก่อนที่จะไม่สามารถไปได้อีก เขานั่งลงและเริ่มดูดซับสายฟ้าเข้าสู่ร่างกาย วิชาเซียนอัสนีต้นกำเนิดทำแยกสายฟ้าออกมาและปรับแต่งให้เป็นพลังดั้งเดิมอย่างต่อเนื่อง

เมื่อเวลาผ่านไป สายฟ้าจำนวนมากถูกดึงดูดจากทุกทิศทางและถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายของเขา ขณะใช้งานวิชาอัสนีต้นกำเนิด มันค่อยๆดึงพลังงานดั้งเดิมจากสายฟ้าออกมาและหล่อเลี้ยงวิญญาณดั้งเดิมของเขา

ความรู้สึกผ่อนคลายออกมาจากร่างกายของหวังหลินอย่างเชื่องช้า

ตอนที่หวังหลินบรรลุขั้นเทวะด้วยผลึกเทวะของโจวยี่จึงทำให้หวังหลินมีพลังดั้งเดิมมากกว่าเซียนส่วนใหญ่ นั่นหมายความว่าเส้นทางของเขาราบรื่นมาก แต่การใช้ตัดสวรรค์และต่อสู้กับผู้ส่งสาส์นเต๋าสายฟ้าได้ทำให้เขาใช้พลังงานต้นกำเนิดมากเกินไป เขาจึงที่ที่ปลายขอบใกล้ระดับบ่มเพาะจะตกลง

พลังดั้งเดิมเป็นสิ่งที่ยากยิ่งในการฟื้นฟูสำหรับเซียนขั้นแรก หากหวังหลินไม่มีวิญญาณดั้งเดิมสายฟ้า เขาคงเสียใจไปตลอดชีวิต

ในขณะที่พลังงานดั้งเดิมเข้ามาและหล่อเลี้ยงวิญญาณดั้งเดิมของเขา วิญญาณก็ค่อยๆฟื้นตัวอย่างเชื่องช้า

กระบวนการเป็นไปอย่างช้ามาก หวังหลินเริ่มสร้างตราประทับด้วยฝ่ามือแล้วก็ส่งมันออกไป ระลอกคลื่นสายฟ้าขนาดใหญ่แพร่กระจายออกไปและสายฟ้าจำนวนสิบเท่าพุ่งเข้าหาหวังหลินทันที

หวังหลินอดไม่ได้ที่จะรู้สึกมึนงง พลันสูดลมหายใจลึกและเริ่มปรับแต่งมันทันที

การกระทำของหวังหลินทำให้เกิดแรงระเบิดจนเฉินกงฮู่ตื่นขึ้น เขาสูดลมหายใจลึกและลืมตาขึ้นมา ทว่าเมื่อเขาเห็นหวังหลินรูม่านตาก็หดเล็กลงในทันใด

“สมแล้วที่เป็นผู้อาวุโส เขากล้าดึงดูดสายฟ้ามากมายสู่ร่างกายที่ระยะร้อยก้าว ถ้าข้าอยู่ตรงนั้น ร่างกายของข้าคงไม่อาจทนได้ แม้แต่วิญญาณก็ได้รับความเสียหาย” ดวงตาเฉินกงฮู่ส่องประกายและเต็มไปด้วยความตื่นเต้น

“ดูเหมือนว่าข้าจะต้องบ่มเพาะให้หนักขึ้น!” จากนั้นเขาก็ดึงดูดสายฟ้าเข้ามาในร่างมากขึ้น ร่างกายสั่นสะท้านและเริ่มดูดซับมันทันที

หวังหลินใช้วิชาอัสนีดั้งเดิมและสายฟ้ามากกว่าก่อนสิบเท่าเข้าสู่ร่างกาย ภายใต้จำนวนสายฟ้าขนาดนี้ พลังดั้งเดิมข้างในวิญญาณก็ค่อยๆฟื้นฟูขึ้นมาอย่างรวดเร็ว อย่างไรนักมันก็ยังห่างไกลกับการฟื้นฟูที่สมบูรณ์

นอกจากนั้นแล้วพลั้งดั้งเดิมเพียงแค่เสี้ยวเดียวถูกสกัดออกมาจากสายฟ้าทุกเส้นสาย หลังจากถูกปรับแต่งไปมันก็เหลือน้อยไปอีก

เวลาผ่านไปอย่างช้าๆ พริบตาเดียวสองปีก็ผ่านไป

ในสองปีที่ผ่านมาหวังหลินยังคงอยู่ที่เดิมไม่เคลื่อนไหว แต่แทนที่จะเป็นสายฟ้าสิบเท่าจากปกติ เขากลับดึงดูดสายฟ้าเพิ่มเป็นยี่สิบเท่า ราวกับมนุษย์โลหะที่ถูกโยนลงไปในทะเลสาบสายฟ้าและดึงดูดสายฟ้างอย่างบ้าคลั่ง

ส่วนเฉินกงฮู่บ่มเพาะอย่างหนักในช่วงสองปีที่ผ่านมา อาการบาดเจ็บของเขาค่อยๆฟื้นตัว

ในช่วงสองปีที่ผ่านมาหวังหลินสังเกตการณ์เฉินกงฮู่ คนผู้นี้บ่มเพาะวิชาอัสนีดั้งเดิมเช่นเดียวกัน ทว่าหวังหลินสามารถดูดซับร่องรอยจากสายฟ้าทุกเส้นสาย ขณะที่เฉินกงฮู่สามารถดูดซับได้มากกว่าสิบเท่า

ขณะที่สังเกตจึงค่อยๆพบเบาะแสบางอย่าง สิ่งนี้ต้องเกี่ยวข้องกับพลังงานดั้งเดิมที่คนผู้หนึ่งจะมีได้ ยิ่งคนผู้นั้นมีพลังงานดั้งเดิมมากก็ยิ่งสามารถดูดซับได้มากขึ้น

ลักษณะนี้ทำให้เกิดความแตกต่างมหาศาลในแต่ละระดับของขั้นที่สอง

ช่วงระยะเวลาสองปี หวังหลินแกะสลักทุกสิ่งที่เขาเห็นเกี่ยวกับขั้นที่สามไว้ในใจและทำความเข้าใจบ่อยครั้ง ในวันนี้เขาลุกขึ้นเดินไปที่ใจกลางทะเลสาบสายฟ้า เกิดเสียงปะทุดังไปทั่วพื้นที่ในแต่ละก้าว

ความเปลี่ยนแปลงนี้ดึงดูดความสนใจของเฉินกงฮู่ เขาลืมตาขึ้นมาและมองไปยังหวังหลิน ไม่เพียงแต่ความตื่นเต้นในไม่ได้ลดน้อยลง แต่ยังคาดหวังมากอีกด้วย

หวังหลินไม่ได้สนใจเฉินกงฮู่และมองไปที่ใจกลางทะเลสาปสายฟ้า ทะเลสาปสายฟ้าที่นี่ใหญ่เกินไป แม้ว่ามันจะหดตัวลงครึ่งหนึ่งจากลูกปัดฝืนลิขิตฟ้า แต่มันก็ยังน่าตกใจ

ตอนนี้หวังหลินถือได้ว่าอยู่ที่ชายขอบและห่างไกลจากตรงกลางมากเกินไป สายฟ้าในทะเลสาปสายฟ้าจะยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นเมื่อใกล้อยู่ใจกลางที่ซึ่งมีพลังงานดั้งเดิมมากที่สุด

อาจกล่าวได้ว่าพลังดั้งเดิมภายในสายฟ้าทั้งร้อยเส้นตรงชายขอบไม่อาจเทียบได้สายฟ้าเพียงเส้นเดียวที่อยู่ตรงจุดศูนย์กลาง

หลังขบคิดชั่วครู่ หวังหลินยกเท้าและก้าวไปข้างหน้า

จิตใจเขาสงบนิ่งและระมัดระวัง อย่างไรก็ตามไม่ไกลมากนัก เฉินกงฮู่รู้สึกตื่นเต้นมากเมื่อมองหวังหลินและคิดในใจว่า ‘ในที่สุดข้าก็จะได้เห็นวิชาเซียนจากผู้อาวุโส นี่เป็นโอกาสครั้งสำคัญในชีวิต ข้าต้องสังเกตุอย่างถี่ถ้วนและบางทีข้าอาจได้รับการรู้แจ้ง!”

เขาตื่นเต้นไม่น้อยไปกว่าตอนที่ทะลวงผ่านเซียนขั้นแรกเข้าสู่ขั้นมายาหยิน อันที่จริงความตื่นเต้นของเขามากกว่าครั้งนั้นหลายเท่าเสียอีก

นอกเหนือจากที่แห่งนี้เหมาะสำหรับการรักษาอาการบาดเจ็บแล้ว เหตุผลอีกอย่างคือเขาต้องการติดตามหวังหลิน เขาหวังที่จะได้รับการชี้แนะจากหวังหลินหรือได้เห็นวิชาเซียนจากระยะไกล

เขาคอยมาสองปีในที่สุดก็มีโอกาส เฉินกงฮู่แผ่สายฟ้าไปทั่วร่างโดยไม่ลังเล เฝ้าดูทุกการเคลื่อนไหวของหวังหลิน พร้อมที่จะจดจำทุกสิ่งอย่างไว้ในใจ

แม้แต่อสูรสายฟ้าสวมเกราะก็ยังยกศีรษะขึ้นมองดูหวังหลิน ดวงตาของมันเต็มไปด้วยความหวาดกลัว

มีเพียงอสูรสายฟ้าเขาเงินของหวังหลินเท่านั้นที่กลอกตาไปมาอย่างไม่สนใจ มันเพียงแค่นอนดูดซับสายฟ้าเท่านั้น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!