926. มารยักษ์ระเบิดตัวเอง
หลังสิ้นเสียง ชายชราชุดดำและเด็กหนุ่มชุดขาวพุ่งออกไปเข้าหาลั่วฟู่เนื่องจากมันมีอิทธิพลอย่างยิ่งต่อเหล่าเซียนฝ่ายพันธมิตร ไม่เพียงแต่จะมันจะไม่ส่งผลกระทบต่อสองคนนี้แต่ยังช่วยพวกเขาได้มหาศาล ทั้งสองพุ่งเข้าไปและใช้วิชาของตัวเองปกป้องทันที
ลี่หยุนจื่อกัดฟันแน่นชี้ใส่ม้วนคัมภีร์รบอีก เมื่อสัมผัสวิญญาณเข้าไปข้างใน ลั่วฟู่หนึ่งลูกแตกสลายกลายเป็นร่างโลหิตต่อสู้กับชายชราบนดาวเคราะห์เซียน
วินาทีนี้ร่างเผ่ามารยักษ์สูงหมื่นฟุตก็พุ่งเข้ามา หากเจอเซียนทุกชั้นฟ้าคนใดอ่อนแอกว่ามัน จะจับตัวเอาไว้และบดขยี้ด้วยเสียงคำรามก่อนจะกลืนกิน
เจ้ามารยักษ์สูงหมื่นฟุตระดับบ่มเพาะขั้นรูปธรรมหยางสูงสุดแต่ร่างกายแข็งแกร่งเกินไปและสามารถดูดซับพลังดั้งเดิมได้จำนวนมากกว่าเซียนธรรมดา แม้มันจะระดับขั้นรูปธรรมหยางสูงสุด มันสามารถต่อสู้กับเหล่าเซียนส่องสวรรค์ระดับต้นทั่วไปได้ทีเดียว
ด้วยร่างอันแข็งแกร่งของมันจึงไม่กลัวสมบัติวิเศษส่วนใหญ่ ตอนนั้นเจ้ายักษ์พุ่งตรงเข้าหาลี่หยุนจื่อบนขอนไม้ ดวงตาพร่ามัวและแฝงอาการบ้าคลั่ง
“มันต้องการระเบิดตัวเอง!” น้ำเสียงไพเราะดังขึ้นข้างหูหวังหลิน
หวังหลินพยักหน้าและมองยังวิญญาณดั้งเดิมของลี่หยุนจื่อ ตอนนี้เขากำลังฟื้นฟูตัวเองเพื่อเรียกร่างโลหิตอีกตัว ลี่หยุนจื่อไม่สามารถโดนขัดจังหวะได้
แต่หวังหลินไม่เชื่อว่าลี่หยุนจื่อจะไม่มีแผนสำรอง ทว่าเวลานี้ไม่ใช่จะมาทดสอบอีกฝ่าย ขณะที่เจ้ายักษ์นั้นเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ ดวงตาหวังหลินส่องสว่างและเอ่ยน้ำเสียงเรียบง่าย “ข้าเอง!”
สิ้นเสียงพูด หวังหลินก้าวเท้าพุ่งเข้าหาเจ้ายักษ์
สตรีงดงามยิ้มสวย แม้จะเป็นการต่อสู้แต่นางยังสงบนิ่งมาก นางรั้งผมบางส่วนไปด้านหลังหูและยิ้มให้กับหวังหลิน “สหายเซียนซิ่ว ระวังตัวด้วย”
ยามที่หวังหลินก้าวเท้าออกจากขอนไม้ยักษ์และออกจากอิทธิพลพื้นที่ของไม้ เขาได้ยินเสียงโกลาหลดังออกมาจากการต่อสู้รอบด้าน ขณะที่เจ้ามารยักษ์เข้ามาใกล้ หวังหลินได้ยินเสียงคลื่นกระแทกจากแรงพุ่งของมันด้วย
เจ้ามารยักษ์พุ่งเข้ามาเร็วขึ้นและเร็วขึ้น กลิ่นอายทำลายล้างแพร่กระจายออกจากร่างกาย พริบตาที่มันเข้ามาในระยะ แขนขวากำแน่นและโยนกำปั้นออกพลางร้องตะโกน “ถอยไป!”
กำปั้นชกออกไปเกิดสายลมขึ้นมา แม้สายลมนี้จะรุนแรงแต่มันไม่สามารถทำให้หวังหลินถอยได้สักครึ่งก้าว หวังหลินโยนกำปั้นออกไปด้วยเช่นกันด้วยท่าทีเย็นชา
ฉากเหตุการณ์นี้ประหลาดยิ่งนัก กำปั้นของยักษ์สูงหมื่นฟุตมีขนาดใหญ่มิอาจเทียบได้ ขณะที่หวังหลินเหมือนมดไร้ค่า หมัดของเขาเล็กน้อยจนไม่สำคัญ
ทว่าเมื่อทั้งสองหมัดเข้ามาใกล้ เสียงดังสนั่นกึกก้องและรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ราวกับเสียงทั้งหมดคือการเตรียมการเข้าปะทะของสองหมัด!
เมื่อสองหมัดเข้ามาใกล้กัน เสียงดังสนั่นกึกก้องคล้ายจะแทนทุกเสียงในโลก เซียนรอบด้านรู้สึกเพียงแต่เสียงอื้ออึงในหู
เวลาคล้ายชะลอตัวลง จากนั้นในเสี้ยววินาทีที่ทั้งสองหมัดเข้าปะทะกัน พลันเกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว!
เสียงหนานแน่นจนทำให้เหล่าเซียนรอบด้านมากมายต้องสั่นสะท้าน ทั้งยังเกิดคลื่นกระแทกที่มองไม่เห็นแพร่กระจายออกไปทุกทิศทาง
เหล่าเซียนจำนวนมากถูกขัดจังหวะจากคู่ต่อสู้ของตนเองและรีบล่าถอย ทั้งหมดดูหวาดกลัวการต่อสู้ระหว่างหวังหลินและเจ้ายักษ์
ร่างยักษ์หมื่นฟุตสั่นสะท้านรุนแรงราวพร้อมกับรู้สึกถึงพลังเหนือจินตนาการออกมาจากกำปั้นเล็กๆของอีกฝ่าย พลันกระอักโลหิต เสียงปะทุดังขึ้นออกมาจากหมัด วินาทีต่อมาแขนขวาก็ระเบิดกลายเป็นกองโลหิต
เจ้ายักษ์ร้องเสียงกรีดร้องโหยหวน ไม่อาจทนต้านรับพลังแข็งแกร่งไหวและถูกดันกลับไป
ร่างแตกสลายไม่หยุดยั้ง แม้มันจะเป็นส่วนหนึ่งของเผ่ามารยักษ์มันก็ไม่สามารถทนรับพลังเทพโบราณของหวังหลินได้ ไม่เพียงแต่แขนขวาจะแตกสลายเป็นส่วนๆ ร่างกายยักษ์ของมันก็พังทลายไปด้วย
แววตาบ้าคลั่งในตัวเจ้ายักษ์ยิ่งรุนแรงมากขึ้น มันร้องคำราม กลิ่นอายทำลายล้างพรั่งพรู่ในร่างกายและวินาทีนั้นมันระเบิดตัวเอง!
การระเบิดตัวเองของเซียนขั้นรูปธรรมหยางสูงสุดนับว่ารุนแรงมาก โดยเฉพาะกับคนที่มีร่างเป็นเผ่ามารยักษ์ พลังของมันเพียงพอให้หวังหลินต้องขมวดคิ้ว
หวังหลินใบหน้าขึ้นสีแดงเล็กน้อย ดวงตาเยือกเย็นยิ่งกว่าเดิม เขากระอักโลหิตออกมาบางส่วนเพื่อไม่ให้ใครสงสัยมากเกินไป จากนั้นแขนขวาสร้างผนึกพลางร้องตะโกน “เรียกขานสายลม!”
สิ้นเสียงคำพูด สายลมทมิฬปรากฏขึ้นในฝ่ามือขวาและเปลี่ยนเป็นมังกรดำสองตัว มังกรพุ่งออกมาพร้อมกับพ่นลมหายใจเย็นเยือกดับชีวิตให้แตกสลาย
วิชาเรียกขานสายลมแข็งแกร่งมาก ภายใต้ผลกระทบจากมังกรดำ ร่างเจ้ายักษ์ถูกผลักออกไปไกลทันที มังกรสองตัวกินร่างยักษ์เข้าไปหลายคำซึ่งทำให้พลังระเบิดตัวเองของมันอ่อนแอลงอย่างมาก
ตู้มมมม!
หลังการระเบิดดังสนั่น ทำให้เกิดผลกระทบมากมายจนทำให้เซียนรอบด้านสนใจ กระทั่งเซียนเฒ่าที่กำลังต่อสู้อยู่ยังต้องหันมามอง
หวังหลินใบหน้าซีดเล็กน้อยพลางเดินโซเซกลับไปหาขอนไม้ยักษ์ราวกับบาดเจ็บ ความจริงแล้วการฆ่าเผ่ามารยักษ์ตนนี้ไม่ยากสำหรับหวังหลินซึ่งมีร่างเป็นเทพโบราณเลยแม้แต่น้อย!
หญิงสาวชุดราตรีสุดสวยยิ้มออกมา “ข้าชื่นชมวิชาของสหายซิ่วยิ่งนัก วิชานั้นทำให้ท่านเพิ่มพูนพลังร่างกายขึ้นได้อย่างน่าตกใจ”
ลี่หยุนจื่อลืมตาขึ้นมาเผยความชื่นชมแต่ไม่ได้พูดอะไร เขาชี้ใส่ม้วนคัมภีร์และส่งสัมผัสวิญญาณเข้าไป
วินาทีต่อมาลั่วฟู่อีกก้อนก็หดลงอย่างรวดเร็ว มันควบแน่นกลายเป็นร่างโลหิตโดยไม่ได้แตกสลาย ร่างเขาคล้ายจะบรรจุวิชาโลหิตที่สามารถสั่นคลอนสวรรค์ได้ มันพุ่งตรงเข้าใส่ชายชราบนดาวเคราะห์เซียนซึ่งกำลังสู้กับร่างโลหิตอีกคน ชายชราชุดำและเด็กหนุ่มชุดขาว
หญิงสาวชุดสีน้ำเงินห่างออกไปไกลพลันขมวดคิ้วหนักขึ้น ชี้นิ้วสั่งการให้ยักษ์อีกสองตัวพุ่งออกไป หนึ่งในนั้นพุ่งตรงเข้าหาลั่วฟู่
ส่วนอีกตัวพุ่งตรงเข้าหาขอนไม้ยักษ์! ขณะที่เจ้ามารยักษ์เข้ามาใกล้ ชายชราบนดาวเคราะห์เซียนลอยตัวขึ้นมา ฝ่ามือสร้างผนึกและกดประทับลงไป!
ดาวเคราะห์เซียนระหว่างชายชราและเจ้ามารยักษ์พลันเริ่มหมุนเป็นวงกลมและเกิดระลอกคลื่น ชายชราเริ่มสวดวิชา ดวงตาส่องสว่าง ฝ่ามือผลักลงไปและร้องตะโกน “ผันผวนดาวเซียน!”
หลังสิ้นเสียง ดาวเคราะห์เซียนหมุนด้วยตัวเองและเร็วมากขึ้น ทว่าขณะที่มันหมดก็หดตัวลงเรื่อยๆจนกระทั่งเหลือขนาดเพียงครึ่งเดียวจากของเดิม
ขณะเดียวกันระลอกคลื่นสีแดงเข้มแพร่กระจายออกมาจากดาวเคราะห์เซียน มันหมุนด้วยความเร็วเต็มพิกัดภายใต้การควบคุมของชายชรา
ระลอกคลื่นสีแดงนี้รวดเร็วยิ่ง ขณะที่มันแพร่กระจายออกมาเซียนฝ่ายทุกชั้นฟ้าบางส่วนได้รับผลกระทบไปด้วย พวกเขาเริ่มสั่นเทา พริบตานั้นร่างกายรวมถึงกระเป๋าพลันแตกสลาย
ระลอกคลื่นพุ่งตรงเข้าหาขอนไม้ยักษ์ หวังหลินสีหน้าเปลี่ยนไป ลี่หยุนจื่อลืมตาและร้องตะโกน “ซิ่วมู่ จื่อหยาน เจ้าสองคนรีบกระจายตัว ทำหน้าที่ของตัวเองและไม่ต้องคุ้มครองข้า!”
แม้ไม่มีลี่หยุนจื่อออกคำสั่ง หวังหลินก็เคลื่อนไหวไปแล้ว เขาพุ่งตัวออกจากขอนไม้ยักษ์และรีบจากที่นี่ทันทีด้วยเคลื่อนที่พริบตา
จื่อหยาน(สตรีคนสวย)ก็ทำเช่นเดียวกันและรีบจากไป
ขณะที่ทั้งสองคนจากไป ระลอกคลื่นสีแดงเข้มก็มาถึง ดวงวิญญาณของลี่หยุนจื่อห่อหุ้มรอบร่างกายตัวเองไว้และสร้างผนึก วินาทีนั้นทั้งวิญญาณและร่างกายเลือนหายเข้าไปในขอนไม้ยักษ์
ระลอกคลื่นร่อนลงขอนไม้และกวาดผ่านไปตามความยาวของมัน
หวังหลินหลบห่างจากระลอกคลื่นออกมาได้ไกล ทว่ารอบด้านตกอยู่ในความโกลาหลอย่างสิ้นเชิง วินาทีที่เขาปรากฏตัวขึ้นมาอีกครั้ง กระบี่เล่มหนึ่งจากเซียนฝ่ายพันธมิตรก็กวาดเข้าหาเขา
แววตาหวังหลินกระพริบเย็นเยียบไม่ได้หลบเลี่ยง ปลายกระบี่แทงใส่ร่างเขาและกระดอนออกไป จากนั้นเขาก็หันมาชี้ใส่
การชี้นี้แฝงพลังดั้งเดิมและมีพลังของเทพโบราณเอาไว้ด้วย มันร่อนใส่คนที่ลอบโจมตีเขาโดยตรง แววตาอีกฝ่ายหวาดกลัวแต่ขณะที่กำลังล่าถอย หมอกโลหิตจำนวนมากระเบิดออกมาจากเขา วิญญาณดั้งเดิมหลบหนีด้วยความตื่นตระหนกแต่หลังจากนั้นมันถูกเซียนทุกชั้นฟ้าอีกคนจับได้และบดขยี้
เซียนทุกชั้นฟ้าคนนั้นมองหวังหลินด้วยจิตสังหาร เขาเลียริมฝีปากและเอ่ยน้ำเสียงแหบพร่า “ซิ่วมู่ ทำไมเราสองคนไม่แข่งขันกันอีกครั้ง? มาดูกันว่าใครจะฆ่าได้มากกว่า!”
เซียนทุกชั้นฟ้าคนนี้คือรองเทพสายฟ้า ซิ่วถิง!
หวังหลินเอ่ยน้ำเสียงนิ่งสีหน้าเฉยเมย “หากเจ้าอยากเอาชนะ ทำไมไม่ดูว่าใครจะฆ่านางคนนั้นได้กันเล่า?” สิ้นเสียงเขาก็ชี้ไปที่สตรีชุดสีน้ำเงิน!
ซิ่วถิงตกตะลึง สีหน้าไม่แน่ใจ เขากัดฟันแน่นและเอ่ยขึ้น “เยี่ยม เช่นนั้นเรามาแข่งขันกัน! เราจะกวาดล้างไปตามทางและดูกันว่าใครจะทำได้สำเร็จ!”
เป็นเรื่องแน่ชัดว่าสตรีตนนั้นมีสถานะสูงส่งมากไม่เช่นนั้นนางคงไม่ได้เป็นแนวหน้าการต่อสู้ครั้งนี้ อย่างไรก็ตามระดับบ่มเพาะของนางไม่ได้สูง ขั้นส่องสวรรค์ระดับกลางเท่านั้น