930. กลุ่มผู้อาวุโสพันธมิตรเซียน
หวังหลินเป็นคนแรกที่ตระหนักถึงสถานการณ์นี้ ดังนั้นจึงเตรียมตัวไว้อย่างเต็มที่ ชั่วจังหวะก่อนดัชนีเทพโบราณระเบิด หวังหลินถอยกลับไปก่อนแล้วและกระตุ้นเตาหลอมเทพโบราณ เขาจึงไม่ได้รับผลกระทบมากนัก หวังหลินมองอสรพิษพิฆาตจันทร์และพุ่งหาร่างศพสตรี
วินาทีที่เขาเห็นร่างศพนั้นหวังหลินเกิดความคิดอยากขโมยมา ตอนที่ดัชนีเทพโบราณระเบิดออก หวังหลินจึงตั้งใจปรับทิศทางของตัวเองเพื่อหาร่างศพเงินตัวนี้
สำหรับร่างศพเงินทั้งสองนั้น ร่างบุรุษได้รับความเสียหายหนักเกินไป ดังนั้นหวังหลินจึงไม่สนใจ แม้ร่างศพสตรีจะได้รับบาดเจ็บสาหัสเช่นเดียวกันแต่อยู่ในสภาพดีกว่ามาก
‘เมื่อข้าเข้าร่วมสงคราม ไม่มีใครจะพูดได้ว่าข้าฮุบสมบัติหรอก ยิ่งกับสนามรบที่โกลาหลนี้ด้วยแล้ว’ ดวงตาหวังหลินส่องสว่างฉวยโอกาสแห่งความวุ่นวายจากการระเบิดนี้พุ่งเข้าใส่ร่างศพสตรี
ทว่าหวังหลินไม่ใช่คนเดียวที่ตัดสินใจจับปลาในสายธารแห่งนี้ ยังมีอีกหลายคนให้ความสนใจร่างศพสตรีด้วยเช่นเดียวกัน
มีทั้งเซียนฝ่ายทุกชั้นฟ้าและเซียนฝ่ายพันธมิตร
รวมทั้งสิ้นเจ็ดคนพุ่งเข้าใส่ร่างศพสตรีจากทิศทางที่ต่างกัน หวังหลินไม่ใช่คนที่ใกล้ที่สุดแต่เขาเป็นคนที่เร็วที่สุด
ขณะพุ่งเข้าไป แววตากระพริบเย็นเยียบ สูดลมหายใจไม่กี่ครั้งยื่นมือเข้าหาร่างศพสตรี ดวงตาส่องสว่างและชะลอตัวลงอย่างช้าๆ
วินาทีนั้นมีเซียนฝ่ายทุกชั้นฟ้าคนหนึ่งพุ่งออกมา เข้าใกล้ร่างศพและยื่นมืออกไป
ขณะเดียวกันมีเซียนฝ่ายพันธมิตรอีกคนก้าวออกมาเช่นเดียวกัน เขาอ้าปากและพ่นปราณกระบี่ใส่เซียนทุกชั้นฟ้าคนนั้นแทน
ทั้งสองเริ่มต่อสู้กันระยะประชิด ฟังดูเหมือนนานแต่ทั้งหมดเกิดขึ้นรวดเร็วยิ่ง ขณะที่ทั้งสองสู้กัน เซียนอีกคนใช้โอกาสนี้เข้าไปใกล้ คว้าแขนร่างศพและกำลังจะจากไป
ทว่าวินาทีนั้นเซียนคนนี้พลันหันกลับมา แววตาตื่นตระหนก เขากรีดร้องขึ้นพร้อมกับร่างกายหดเล็กลงจนเหลือแต่เพียงกองโลหิต
การเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้เซียนสองคนที่กำลังสู้กันต่างก็ตกตะลึง พวกเขามองร่างศพสตรีและไม่กล้าคว้าจับมันอีก หลังจากพวกเขาลังเล อีกสามคนพร้อมกับหวังหลินเร่งความเร็วขึ้นและพุ่งเข้ามาหา
ดวงตาหวังหลินส่องสว่าง เตาหลอมเทพโบราณปรากฏขึ้นรอบตัว วินาทีนั้นเขาสลับตำแหน่งกับเซียนฝ่ายทุกชั้นฟ้าที่พุ่งอยู่ตรงหน้า
เซียนคนนั้นตกตะลึงพร้อมกับรู้สึกถึงพลังแข็งแกร่งกำลังดึงเขา เมื่อเขาคืนสติกลับมาได้จึงพบว่าสลับที่กับหวังหลิน เขารู้ตัวตนของหวังหลิน ดังนั้นจึงยิ้มบิดเบี้ยว ยอมแพ้ต่อสมบัติชิ้นนี้และพุ่งหาชิ้นถัดไป
หลังจากใช้วิชาไปหวังหลินจึงเข้าไปใกล้ร่างศพยิ่งขึ้น เซียนสองคนที่อยู่ใกล้ที่สุดเห็นว่าทุกคนกำลังเข้ามาใกล้ พวกเขากัดฟันแน่นและคว้าร่างศพสตรีสาวแทบในจังหวะเดียวกัน
อย่างไรก็ตามวินาทีนั้น เซียนสองคนกรีดร้อง ร่างกายแห้งเหี่ยวจนกลายเป็นกองโลหิตถูกร่างศพดูดซับไป โลหิตควบแน่นกลายเป็นละอองแสงสีแดงระหว่างคิ้วของร่างศพ
เซียนฝ่ายทุกชั้นฟ้าคนหนึ่งเข้าไปใกล้ เขาสวมชุดคลุมอสรพิษ แขนขวายื่นออกมาพลางส่งเสียงหัวเราะ แม้จะดูเหมือนกำลังยื่นมือเข้าใส่นาง ความจริงแล้วฝ่ามือบรรจุวิชาเอาไว้ด้วยเหมือนกำลังจะโจมตี หวังหลินดวงตาส่องสว่าง เขามาถึงแทบในเวลาเดียวกับเซียนคนนี้ สองดัชนีก่อเป็นรูปร่างกระบี่และผลักออกไป “ถอยไปด้านข้าง!”
เซียนทุกชั้นฟ้าคนนั้นหัวเราะ ไม่เพียงจะไม่หยุดเขายังเคลื่อนที่เร็วขึ้นกว่าเดิม เอ่ยเสียงกระซิบ “แม้กระทั่งเทพสายฟ้าซิ่วมู่ยังอยากได้ร่างศพสวยงามตนนี้!”
ในแววตาหวังหลินกระพริบเย็นเยียบ ขณะที่เซียนคนนั้นเข้าไปใกล้ร่างศพสตรี หวังหลินชี้แขนขวาและเอ่ยเสียงเบา “หยุด!”
เซียนคนนั้นสั่นเทา ราวกับมีเส้นด้ายมองไม่เห็นมากมายห่อหุ้มเอาไว้และแน่นิ่งไป
หวังหลินไม่หยุดแค่นั้น พริบตาเดียวก็มาถึงด้านหน้าร่างศพสตรี หวังหลินยื่นมือออกไปฉลาดมาก เขาไม่ได้พยายามคว้าจับนางตั้งแต่เริ่ม วินาทีที่ฝ่ามือเข้าไปใกล้ พลังดั้งเดิมพร้อมกับพลังเทพโบราณและปลาหยินหยางจึงเข้าประทับระหว่างคิ้วของร่างศพ
ปัง!
เกิดเสียงดังปัง ร่างนางสั่นสะท้าน แสงสีแดงซึ่งก่อตัวหลังจากดูดซับเซียนไปหลายคนพลันแตกสลายทันที
จากนั้นหวังหลินไม่หยุดอีก เขาคว้าจับร่างศพสตรีสาวตรงๆและผ่านเซียนทุกชั้นฟ้าก่อนหน้านี้ไป ยามที่ผ่านไปยังเตะเข้าใส่หน้าอกอีกฝ่ายโดยไม่ลังเล
แสงสีขาวกระพริบหนึ่งครา เซียนคนนั้นกระเด็นอย่างรุนแรง ใบหน้าซีดขาวและกระอักโลหิตออกมาคำโต แต่เขาไม่ได้ตาย สายตาจ้องมองหวังหลินอย่างดุร้าย ถอยร่นพร้อมกับกุมหน้าอกตัวเอง
หวังหลินมองร่างศพที่ถือมาด้วย ร่างของนางถูกห่อหุ้มด้วยแสงสีแดงซึ่งกำลังรวมกันเข้าหาใบหน้า เหตุผลที่หวังหลินชะลอตัวก็เพราะสังเกตได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นเป็นไปตามที่เขาคาดการณ์เอาไว้ เพราะมีเซียนหลายคนตายลงไป
หากร่างศพสตรีประหลาดเพียงเท่านี้หวังหลินคงต้องเลิกรา อีกทั้งนี่คือสงคราม การป้องกันตัวเองยังคงมาเป็นอันดับแรก หลังจากร่างศพสตรีดูดซับแกนโลหิตเซียนไปสามคน ยังมีการเปลี่ยนแปลงบางอย่างอยู่อีกซึ่งทำให้เขาเลือกจะต่อสู้เอามันมา
หวังหลินถอยกลับมา แขนซ้ายสร้างผนึกวางกฏเกณฑ์นับไม่ถ้วนบนร่างศพสตรีพร้อมกับแกนพลังดั้งเดิมหนึ่งชิ้น จากนั้นเก็บนางไว้ในกระเป๋า พุ่งออกไปเข้าหาอวกาศที่กำลังแตกสลาย
การแตกสลายก่อเกิดวังวนยักษ์จนสร้างพลังดึงดูดทรงพลังกลืนกินทุกสิ่งทุกอย่าง มีเพียงเจ้าอสรพิษพิฆาตจันทร์เท่านั้นที่สามารถเมินเฉยต่อแรงดึงดูดนี้ได้ขณะที่มันเข่นฆ่าอย่างบ้าคลั่งไปด้วย
ตอนนี้เซียนเฒ่าหลายคนจากฝั่งพันธมิตรเซียนกำลังล้อมรอบอสรพิษพิฆาตจันทร์เพื่อป้องกันไม่ให้มันทำอะไรมากไปกว่านี้ แม้กระทั่งเซียนปิศาจมังกรเมฆาก็ยังเข้าไปใกล้เจ้าอสรพิษ
ทว่าเทพโลหิตและคนอื่นๆต่างโคจรรอบอสรพิษและต่อสู้กับเซียนทุกชั้นฟ้าไปด้วย ร่างโลหิตปรากฏขึ้นมาทีละคนพลันพุ่งออกไปต่อสู้ล้างบางเหล่าพันธมิตร
ระลอกคลื่นดังสนั่นกึกก้องพร้อมกับเสียงคำรามอสรพิษ การต่อสู้ระหว่างปรมาจารย์จงเฉินและหวู่ต้าวซานนับว่าสั่นสะเทือนโลกทั้งใบ เสียงดังสนั่นในสายหมอกทมิฬทำให้การต่อสู้เข้มข้นยิ่งยวด
การปะทะกันของทั้งสองทำให้เกิดความผันผวนเป็นครั้งคราว แม้กระทั่งเทพโลหิตและพรรคพวกยังต้องหลีกเลี่ยง
ห่างออกไปไกล สตรีชุดน้ำเงินไม่มีสีหน้าตื่นตระหนกอันใด นางสังเกตการณ์ทั้งหมดอย่างสงบนิ่ง ด้านข้างมีร่างศพทองยืนอยู่เงียบๆด้วยใบหน้าเย็นชา ยันต์เซียนสีเหลืองห้าใบหมุนรอบศีรษะมันอย่างช้าๆ ลำแสงเคลื่อนผ่านระหว่างยันต์เซียนแต่ละใบทำให้มันถูกผนึกเอาไว้ต่อเนื่อง
สตรีชุดน้ำเงินยกแขนขวาขึ้นมาและเอ่ยเสียงเบา “ข้าขอเชิญชวนผู้อาวุโสแห่งตำหนักซวน ท่านซวนเป่าที่นับถือ”
เสียงหัวเราะดังก้องท่ามกลางดวงดาว ในเสียงหัวเราะนี้ไม่ได้มีระดับบ่มเพาะมากมายนัก แต่สมบัติทั้งหมดสั่นสะท้านชั่วครู่ราวกับต้องการจะหนีออกจากเจ้านายตัวเอง
เซียนมารปิศาจทมิฬที่กำลังหลบหนีพลันถอนหายใจอย่างโล่งอก ไม่เพียงแค่เขาเท่านั้นกระทั่งเซียนปิศาจมังกรเมฆายังผ่อนคลาย เขาล้มเลิกการต่อสู้และถอยร่นอย่างรวดเร็ว
ทั้งสองคนรู้ดีว่าฉายาสี่เซียนไม่ใช่แค่พวกเขา มีแค่จี่เฉียนเทียนเท่านั้นที่เป็นเซียนตัวจริง!
สี่เซียนแห่งพันธมิตรเซียนถูกแบ่งออกเป็น จันทรา เมฆา เฉียนและเหยา! จี่เฉียนเทียนคือเซียนเฉียน แต่ละคนมีลูกน้องอีกสามคน ดังนั้นไม่ว่าจะรวมมันอย่างไรก็จะเกิดเป็นสี่เซียน!
ความจริงแล้วในการต่อสู้ครั้งนี้ พันธมิตรเซียนส่งเซียนเฉียนและลูกน้องอีกสามคนออกมาเท่านั้น!
ซวนเป่ามีสถานะสูงส่งในตำหนักซวน สิ่งที่ผู้คนในพันธมิตรเซียนเคารพและหวาดกลัวเขาก็คือเขาเป็นผู้อาวุโสที่สามารถตัดสินทุกอย่างในพันธมิตรเซียนได้!
ตัวตนเขาจึงโดดเด่นมากขึ้นไปอีก!
นอกจากผู้คนในกลุ่มผู้อาวุโสพันธมิตรเซียน ไม่มีใครรู้จริงๆว่าภายในกลุ่มนี้มีกันอยู่กี่คนแน่ ถึงกระนั้นแต่ละคนก็มีพลังแก่กล้าและสามารถพลิกสวรรค์ได้เลยทีเดียว!
เหตุผลที่เทียนหยุนได้รับความเคารพและพันธมิตรเซียนส่งคนมาให้ของขวัญวันเกิดเขาก็เพราะเขาเป็นหนึ่งในกลุ่มผู้อาวุโสลึกลับนี้! ทว่ามีเรื่องเกิดขึ้นจนทำให้สถานะเขาตกต่ำลง ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังเป็นสมาชิกกลุ่ม!
หากไม่ใช่ว่าเทียนหยุนมีสถานะต่ำต้อย คนแบบหลิงเทียนโฮวคงไม่สามารถยืนหยัดขึ้นมาได้เลย ตราบใดที่เขาต้องการก็สามารถทำให้ทั้งหมดหายไปได้ในพริบตา ทว่าหลังจากเกิดเหตุการณ์บางอย่าง เทียนหยุนยิ่งมีสถานะต่ำลงเรื่อยๆและแทบไม่เข้าร่วมการประชุมเหล่าผู้อาวุโสเลย เขาวางตัวเองออกไปจากกลุ่ม
กล่าวได้ว่าแม้กระทั่งจี่เฉียนเทียนหรือหวู่ต้าวซานที่กำลังต่อสู้อยู่ยังถือว่าเหมาะสมที่จะกลายเป็นผู้อาวุโส แต่เบื้องหน้าซวนเป่า ทั้งสองคนนี้ไม่มีอะไรเลย!
ไม่มีใครรู้ว่าจะต้องมีระดับบ่มเพาะแค่ไหนถึงจะกลายเป็นสมาชิกกลุ่มผู้อาวุโสได้ บางคนสงสัยว่าแม้ระดับบ่มเพาะจะใกล้เคียงแต่ก็ไม่ได้เป็นหนึ่งในนั้น กลุ่มผู้อาวุโสพันธมิตรเซียนคือพลังอำนาจระดับสูงสุดและเป็นความลับภายในพันธมิตร!
สมาชิกข้างในคือผู้คุมกฏตัวจริงของพันธมิตรเซียน!
ซวนเป่าสวมชุดขาว ร่างกายผอมบางเล็กน้อยแต่มีกลิ่นอายดุจเทพ ดวงตาส่องประกายเต็มไปด้วยความล้ำลึกเกินหยั่งถึง หากมีใครมองเข้าไปในตาเขาจะจมดิ่งได้ง่ายๆและอาจจะดึงตัวเองออกมาไม่ได้เป็นเวลานาน
เขามีรูปลักษณ์ของผู้อาวุโสตัวจริง ปรากฏตัวด้านข้างสตรีชุดน้ำเงินพร้อมกับไม้กวาดเล็กๆในมือ
สตรีชุดน้ำเงินเอ่ยเสียงอ่อนนุ่ม “ผู้น้อยขอคารวะอาจารย์ลุง”
ซวนเป่ามองสนามรบตรงหน้าและหัวเราะ “สาวน้อย อาจารย์เจ้าปล่อยให้เจ้าเป็นหัวเรือการรบครั้งนี้และทุกคนต้องฟังคำสั่งเจ้า เขาถึงกับจงใจเลือกสถานที่นี้เป็นสนามรบ ความโชคดีแบบนี้ไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง”
ซวนเป่าเอ่ยยิ้มๆคล้ายไม่สนใจการต่อสู้เลย เพียงแค่เขาเห็นอสรพิษพิฆาตจันทร์ถึงกับรูม่านตาหดเล็กลง เผยรอยยิ้มอย่างมีนัยยะ