967. ปล่อยให้เทียนหยุนคาดการณ์ผิดสักครั้ง!
ป๋ายเว่ยมองกฏเกณฑ์ด้านบนหุบเขาและเอ่ยขึ้น “ข้าชื่อป๋ายเว่ย! พี่หวัง ท่านมาที่นี่นั่นหมายความว่าท่านเข้าใจความหมายด้านหลังคำพูดของข้าแล้ว”
หวังหลินขมวดคิ้ว ไม่เพียงแต่พลังงานหยินยังอยู่ในร่างป๋ายเว่ย มันยังแข็งแกร่งเข้มข้นยิ่ง ความจริงแล้วมันบรรลุในระดับที่น่าเหลือเชื่อมาก
พลังงานหยินหนาแน่นนี้ไม่ควรปรากฏขึ้นในร่างเซียน มันแทบจะกลายเป็นรูปร่างขึ้นมา ด้วยระดับบ่มเพาะของป๋ายเว่ย ร่างกายไม่สามารถทนต่อพลังงานหยินแบบนี้ได้ เขาควรจะสิ้นพลังชีวิตทั้งหมดไปแล้วและกลายเป็นศพ
หวังหลินสงบนิ่งพลางเอ่ย “ต้นไม้ขาวเบ่งบาน ดำและขาวกลับตาลปัตร ข้าเข้าใจว่าน้องป๋ายจะบอกอะไร”
ป๋ายเว่ยถอนหายใจและเผยรอยยิ้ม หลังจากเงียบไปสักพักจึงเอ่ยออกมา “ข้ายังไม่สามารถออกจากแผนอาจารย์ได้ ข้าคิดว่าข้ามีเวลาอีกสามเดือนก่อนจะเกิดอันตรายขึ้นจริงๆ ภายในสามเดือนนี้ข้าคิดว่าข้าต้องขอให้พี่หวังช่วย ข้ามีโอกาสหนีรอดเพียงสองในสิบส่วน แต่โชคร้ายนัก…ข้ายังหนีไปจากแผนอาจารย์ไม่รอด”
หวังหลินขมวดคิ้วแต่ไม่ได้เอ่ยอันใด
“พี่หวัง เดิมทีข้าไม่คิดว่าท่านจะเจอข้าเร็วขนาดนี้และข้าเตรียมเบาะแสให้ท่านพรุ่งนี้เอาไว้ แต่ตอนนี้มันไม่จำเป็นแล้ว ตอนนี้อาจารย์ปิดด่านฝึกตน เมื่อเขาออกมาจะรับรู้ถึงความผิดปกติและมาที่นี่”
“ก่อนอาจารย์จะมาถึง พี่หวังยินดีฟังเรื่องราวหนึ่งหรือไม่…” ป๋ายเว่ยยิ้มอย่างขมขื่นพลางหวนรำลึก
“ข้าเกิดขึ้นในตระกูลร่ำรวยบนดาวเทียนหยุน ก่อนที่ข้าจะเกิด ท้องฟ้าเต็มไปด้วยแสงสีแดง หลังจากข้าเกิดมันก็หายไป”
“จนหลังจากข้าเข้าสู่โลกแห่งเซียนจึงเรียนู้ได้ว่าแสงสีแดงนั่นคือหยางแท้จริง และหากคาดคำนวณเวลาเกิดของข้า ช่วงเวลานั้นจะมีพลังหยางเข้มข้นที่สุด”
“มันหายากยิ่งที่วันนั้นจะเกิดขึ้นในช่วงเวลาหลายพันปี ข้ากลับมาและค้นคว้าจึงพบว่าเด็กทุกคนที่เกิดขึ้นวันนั้นจะตายในครรถ์มารดายกเว้นข้า”
“หากมันเป็นเด็กชาย อย่างน้อยจะเหลือไว้เป็นซากศพ แต่หากเป็นหญิงเมื่อนั้นจะหายวับไป ไม่เหลือสิ่งใดไว้เบื้องหลัง” แววตาป๋ายเว่ยเต็มไปด้วยความเจ็บปวดพลางมองไปข้างหน้า ราวกับเขากำลังนึกย้อนไปถึงสิ่งที่ไม่ต้องการจะจำ
“ข้ามีน้องสาว…เราเป็นฝาแฝด ตอนที่พลังหยางพุ่งขึ้นถึงขีดสุด มันก็เป็นจังหวะที่พลังหยินสุดขั้วด้วย ข้าเกิดขึ้นขณะที่มันกำลังจะเปลี่ยนเป็นพลังหยินสุดขั้ว แม้น้องสาวข้าจะหายไป นางดูดซับพลังงานหยินนั่นเล็กน้อย เลือดเนื้อนางจึงหายไปแต่วิญญาณเข้ามาในร่างข้า”
“ปกติแล้วทุกอย่างคงสงบดีและวิญญาณน้องสาวจะไม่ตื่นขึ้นมา นางหลับไหลอย่างเงียบๆ หากเรื่องราวเป็นเช่นนี้คงไม่มีอะไรเกิดขึ้น”
“ตอนข้าเจ็ดขวบ ข้าถูกนำเข้าไปในสำนักชะตาสวรรค์ พรสวรรค์ของข้ายอดเยี่ยมและข้าฝึกฝนได้เร็วยิ่ง ในไม่นานข้าก็หลุดออกจากศิษย์สายนอกและกลายเป็นศิษย์สายใน”
“เวลาผ่านไปในพริบตา หลายร้อยปีผ่านไปข้าบรรลุขั้นวิญญาณแรกกำเนิด ข้าได้รับโอกาสก้าวออกจากศิษย์สายในและกลายเป็นศิษย์สายตรงของเทียนหยุนในกองกำลังสีม่วง”
“ขณะที่ระดับบ่มเพาะของข้าเพิ่มขึ้น ข้าค่อยๆรับรู้ว่าตัวเองแตกต่างแค่ไหน ข้าพบว่าวิญญาณครึ่งนึงของข้าเป็นของน้องสาวและวิญญาณของนางกำลังจะแสดงอาการตื่นขึ้น แผนเดิมคือขอให้อาจารย์ช่วยแยกวิญญาณนางและปล่อยให้นางเข้าสู่วัฏจักรแห่งการเกิดใหม่หลังจากนางตื่นขึ้นนั้น…” ป๋ายเว่ยถอนหายใจอย่างขมขื่น แต่ในไม่นานสีหน้าก็เคร่งขรึม กัดฟันแน่น
“ข้าไม่เคยลืมเลือนวันนั้น ข้าบ่มเพาะอยู่และวิญญาณน้องสาวกำลังจะตื่น จากนั้นจ้าวฉิงชาปรากฏตัวเบื้องหน้าข้าด้วยระดับบ่มเพาะที่สูงลิ่ว ทั้งยังทำร้ายข้าอีก ทำให้วิญญาณน้องสาวได้ผสานเข้ากับข้าตอนที่นางกำลังจะตื่น บังคับให้ข้าตกอยู่สถานการณ์เลวร้ายจนไม่ได้เป็นชายหรือเป็นหญิง” ป๋ายเว่ยเต็มไปด้วยสายตาเกลียดชัง
“ด้วยความหมดหวัง ข้าขอให้อาจารย์ช่วย อาจารย์มอบวิถีปรารถนาสองเทพมาให้ เขาบอกว่าเมื่อข้าฝึกฝนถึงขั้นที่เก้า ข้าและน้องสาวจะแยกออกจากกัน”
“ข้าไม่เคยคิดว่าอาจารย์จะโกหก ต้องขอบคุณวิถีปรารถนาสองเทพ ระดับบ่มเพาะของข้าจึงเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด วิธีฝึกนี้มุ่งเน้นด้านวิญญาณและมีอิทธิพลต่อการเติบโตของข้ายิ่ง อย่างไรก็ตามข้าไม่ได้สนใจมัน ทั้งหมดที่ข้าต้องการคือทำให้วิญญาณน้องสาวกลับเข้าสู่วัฏจักรแห่งการเกิดใหม่เข้าสักวันหนึ่ง”
“หลายร้อยปีผ่านไปในพริบตา ซึ่งเป็นตอนที่เจ้าออกไปจากดาวซูซาคุ ข้าพบว่ามีบางอย่างผิดปกติ แต่มันสายเกินไปแล้ว…” ป๋ายเว่ยเต็มไปด้วยความเศร้าหมอง เขาฉีกเสื้อผ้า เผยหน้าอกตัวเอง มันเป็นเส้นสีเขียวและแดงยื่นออกมาจากแขนแต่ละข้าง ทั้งสองเส้นตัดผ่านกันตรงกลางราวกับเป็นกิ่งก้านต้นไม้
“เห็นนี่ไหม? นี่คือสิ่งลึกลับที่ปรากฏขึ้นบนร่างกายข้าหลังจากฝึกฝนปรารถนาสองเทพ เส้นชีพจรทั้งหมดในร่างกายเปลี่ยนไปหลังจากฝึกฝนมัน” ใบหน้าป๋ายเว่ยเต็มไปด้วยความเจ็บปวด พลังงานหยินในร่างกายเคลื่อนไหวจนรอยประหลาดนั่นปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง
“ทุกครั้งที่ข้าพูดถึงมัน รอยอักขระนี้จะกระตุ้นขึ้นและพลังงานหยินในร่างกายจะเพิ่มพูนขึ้นมหาศาล วิถีปรารถนาสองเทพฝึกฝนด้วยตัวเอง หลุดจากการควบคุมของข้า”
“ข้ารู้ว่าหยางขีดสุดที่เปลี่ยนไปเป็นเพราะอาจารย์ เขาใช้วิชานี้เพื่อทำให้เกิดวันที่มีพลังงานหยางขีดสุด…ทั้งหมดนี้เป็นแผนของเขา…”
“ขณะที่ข้าอยู่ในสำนักชะตาสวรรค์จึงค่อยๆเข้าใจ ระดับบ่มเพาะของอาจารย์มาถึงคอขวด เขาไม่สามารถหนีรอดและโดนมารภายในครอบครอง…ข้าเป็นแค่คนที่อยู่ในการทดลองของเขา…”
“ข้ารู้ว่าอาจารย์กำลังรอให้พลังงานหยินสุดขั้วถึงจุดขีดสุด เหมือนกับวันที่พลังงานหยางเปลี่ยนเป็นหยินแบบวันนั้น เขากำลังรอให้ทั้งหยินและหยางสูงสุดในร่างกายข้า”
“ข้ารู้ว่าอาจารย์พยายามเรื่องพลังงานหยางสุดขีดนี้ทั้งก่อนและหลังข้าหลายครั้ง ทว่าท้ายที่สุดข้าก็คิดว่าตัวเองเหลือรอดเพียงคนเดียว!”
ราวกับหวังหลินโดนสายฟ้าผ่าลงกลางใจเมื่อได้ยินคำพูดของป๋ายเว่ย เขาอ้าปากค้าง สายตาเต็มไปด้วยความตกใจ
‘หยินสุดขีดและหยางสุดขั้วนี่มันคืออะไรกันแน่…ถึงกับทำให้เทียนหยุนทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อได้มันมา?’ หวังหลินมองป๋ายเว่ย จากสัญชาตญาณหวังหลินจึงเชื่อสิ่งที่ป๋ายเว่ยพูดไปเจ็ดในสิบส่วน
ป๋ายเว่ยใบหน้าดุดันและหัวเราะ “หวังหลิน แผนของข้าล้มเกลวและข้าไม่สามารถเทียบกับอาจารย์ได้ เข้าต้องรู้ว่าข้ารู้ทุกอย่างหมด ข้าเป็นแค่หมดในสายตาเขาและไม่ว่ามดจะดิ้นรนมากมายแค่ไหน ข้าก็ไม่สามารถฝืนโชคชะตาไปได้!”
“แต่อย่างไรมดตัวนี้ก็จะทำสิ่งที่ทำให้เขาตกตะลึง! ข้าไม่เชื่อว่าเขาจะคาดการณ์ล่วงหน้าจนเห็นความคิดที่เกิดขึ้นในในข้าได้อย่างชัดเจน!”
“หวังหลิน ข้ารู้สถานการณ์ของตัวเองดีกว่าใครอื่น การช่วยข้าเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ อย่างไรเสียก่อนที่ข้าจะตาย ข้าอยากจะใช้พลังงานหยางสูงสุดที่ข้าบ่มเพาะมานานหลายพันปี ทั้งยังเป็นสิ่งที่เทียนหยุนรอคอยนี้มอบมันไว้ให้กับเจ้า หวังหลินเจ้ากล้ารับมันไหม?”
ป๋ายเว่ยมองหวังหลิน น้ำเสียงดังสะท้อนในหุบเขา คำพูดเดียวกันนี้ดังก้องไปทั่ว เข้าสู่สองหูหวังหลินดุจเสียงสายฟ้า
“เจ้ากล้ารับมันไหม?”
หวังหลินอดไม่ได้ที่จะขบคิด เขาไม่รู้ว่ามันคืออะไรแต่หากเทียนหยุนใส่ใจขนาดนั้นจะต้องเป็นสิ่งที่สำคัญยิ่ง หากเขาได้มันมรตอนนี้จะต้องเผชิญกับความโกรธกริ้วของเทียนหยุนแน่นอน!
“เวลาใกล้จะหมดแล้ว อาจารย์จะมาในไม่ช้า หวังหลินจงมอบคำตอบให้ข้า เจ้ากล้ารับหรือไม่!?” ป๋ายเว่ยรออยู่ชั่วขณะและเผยท่าทางผิดหวัง เขายิ้มบิดเบี้ยวพลางส่ายศีรษะและพึมพำ “เป็นไปได้ว่าอาจารย์จะคำนวณเรื่องทั้งหมดนี้ไว้แล้ว…เขาคำนวณกระทั่งว่าแม้ข้าจะเสนอมันให้เจ้า เจ้าก็จะไม่รับ? และแม้เจ้าจะรับไว้ก็จะคืนมันกลับมาให้ข้า… อาจารย์ ท่านไม่เคยคำนวณผิดพลาดมาตลอดเลยหรือ? ข้าไม่เชื่อ ข้าไม่เชื่อ!!! ข้าไม่เชื่อว่าท่านไม่เคยผิดพลาดสักครั้งในชีวิต!!”
ยามที่คำพูดของป๋ายเว่ยเข้าสู่หูหวังหลิน ดวงตาหวังหลินเริ่มส่องสว่างเจิดจ้า
‘ไม่เคยคาดการณ์สิ่งใดผิดพลาดและมักจะถูดมาเสมอ นั่นเป็นความสมบูรณ์แบบของเทียนหยุน เทียนหยุนเหมือจะไร้จุดอ่อน หากใครต้องการสู้กับเขา ก่อนจะต่อสู้พวกเขาก็เสียเปรียบไปแล้ว! แต่…หากทำให้เขาคำนวณผิดพลาด จะเกิดอะไรขึ้นกัน…’ หัวใจหวังหลินเต้นกระดอนอย่างรวดเร็ว
“เทียนหยุนคำนวณว่าข้าจะไม่กล้ารับมัน หากข้ารับมันเขาจะต้องมีเจตนาสังหารข้าแน่นอน เจตนานี้จะไม่โดนระงับเอาไว้และเขาจะพยายามสังหารข้าให้ตายคาที่!”
“ทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ภายในการคำนวณของเขาแล้ว!”
ไม่ว่าจะรับหรือไม่รับมา!
สายตาหวังหลินเต็มไปด้วยความดิ้นรน เขาลงมืออย่างเด็ดขาดมาเสมอ หายากที่จะลังเล แต่ตอนนี้เขาจะต้องลังเล อีกทั้งการรับมานั่นหมายความว่าเขาจะถูกผลักให้อยู่ในสถานการณ์ที่ยากจะหนีรอดไปได้ หากหวังหลินไม่รับมาก็จะรู้ว่าเทียนหยุนผู้ไม่เคยผิดพลาดประทับอยู่ในใจเขา แม้จะไม่เคยเผชิญประจันหน้ากับเทียนหยุนในการต่อสู้มาก่อน นี่จะถือว่าเป็นการเผชิญหน้าระหว่างเขา!
หากหวังหลินไม่รับมา เช่นนั้นความมั่นใจในการเผชิญหน้ากับเทียนหยุนก็จะตกฮวบฮาบ ไม่ว่าหวังหลินจะทำเช่นไร เขาก็ต้องสงสัยว่าทั้งหมดนี้อยู่ในการคาดคำนวณของเทียนหยุนหรือไม่!
หากเป็นเช่นนี้จิตใจแห่งเต๋าหวังหลินก็จะเกิดความกลัว เขาจะต้องหาเรื่องถกความเข้าใจแห่งเวรกรรม ต้นตอพลังดั้งเดิมหรือเดินบนเส้นทางแห่งเต๋า? ระดับบ่มเพาะจะหยุดชะงักและมีชีวิตอยู่ภายใต้เงาแห่งการคาดการณ์ของเทียนหยุนตลอดกาล!
‘ข้าเป็นเซียนฝืนลิขิตฟ้า!’ หวังหลินดวงตาส่องสว่างและคิดเรื่องที่ตัวเองฝืนลิขิตฟ้าในดินแดนวิญญาณปิศาจ เทียนหยุนจะมาเทียบกับสวรรค์ได้อย่างไร!?
‘ป๋ายเว่ยไม่ได้มีเจตนาดี ก่อนจะตายเขาต้องการลากข้าเข้าไปท้าทายเทียนหยุนด้วยกัน! เขาต้องการเห็นเทียนหยุนผิดพลาดก่อนที่ตัวเองจะตาย!’
หวังหลินดวงตาเยือกเย็น “ทำไมข้าจะไม่กล้า?”
—-
ลำแสงสายหนึ่งล่องผ่านอวกาศนอกดาวเทียนหยุน ข้างในลำแสงเป็นชายชุดม่วงใบหน้าโอหัง
“สงสัยว่าระดับบ่มเพาะของหลินน้อยตอนนี้เป็นอะไรแล้ว บัดซบเอ้ย ข้าไม่คิดว่าหญิงสาวบนดาวเฟิ่งหลวนพวกนั้นจะแข็งแกร่ง พวกนางแกล้งข้าเพราะข้าไม่มีพี่น้องมาช่วย ข้าจะไปหาหลินน้อยและจัดการกับสาวน้อยพวกนั้นให้อยู่หมัด”