972. เทียนหยุนชุดเทา
มังกรสายลมเจ็ดสีและเจ้ากิเลนต่อสู้กันทำให้เกิดเสียงดังสนั่นไปทั่วผืนฟ้า มังกรสายลมเจ็ดสีระเบิดเสียงคำรามออกมา
เจ้ากิเลนดุร้ายยิ่งกว่าเดิมพลางห่อหุ้มด้วยทะเลเพลิง ทะเลเพลิงแพร่กระจายออกมาไม่เพียงแต่สายลมจะไม่ดับเปลวเพลิง มันยังทำให้รุนแรงขึ้นไปอีก
ทว่ามังกรสายลมเจ็ดสีสร้างขึ้นจากสายลม มันจึงไม่ได้มีรูปร่าง แม้ร่างกายจะแตกสลาย มันก็จะสร้างขึ้นมาใหม่ทันที มันคือร่างมังกรที่ทำลายไม่ได้!
เป็นผลให้การต่อสู้ของสองอสูรจึงเท่าเทียม ผลกระทบที่เกิดขึ้นไม่ด้อยไปกว่าเซียนทรงพลังสองคนต่อสู้กัน!
หวังหลินยืนอยู่บนชิ้นส่วนแดนสวรรค์ พอชี้เท้ามันก็จมลงและเริ่มหมุนวนรอบตัวเขาเป็นเกราะป้องกัน ตอบรับคำพูดของเทียนหยุนว่า “ขอบคุณผู้อาวุโสที่ยกย่อง ข้าสงสัยเรื่องในวันนี้ด้วย ไม่รู้ว่าข้าไปทำอะไรให้ อาจารย์ถึงได้ใช้วิชามาฆ่าข้าที่นี่!”
หลิงเทียนโฮวหัวเราะ “ไอ้เฒ่านี่ก็เป็นแบบนี้หลายครั้งแล้ว ตอนนั้น…”
ไม่รอให้หลิงเทียนโฮวเอ่ยจบ น้ำเสียงเก่าแก่ดังผ่านออกมา
“หลิงเทียนโฮวเจ้าพูดมากไปแล้ว! ข้าสามารถทนทุกอย่างที่เจ้าทำได้ แต่เจ้าไม่สามารถมายุ่งย่ามเรื่องของสำนักชะตาสวรรค์โดยไม่มีเหตุผล หากเจ้าไม่จากไปในสามลมหายใจ อย่าหาว่าข้าบังคับเลย!”
หลิงเทียนโฮวกลอกตา พ่นลมหายใจเย็นและร้องตะโกน “เทียนหยุน เจ้าคิดว่าข้าเซียนกระบี่หวาดกลัวเจ้าหรือ? หากเจ้าอยากจะสู้ก็มาสู้กัน ข้าอยากเห็นว่าเจ้าจะแข็งแกร่งสักแค่ไหน!”
หวังหลินฟังการสนทนาของทั้งสองอย่างละเอียด แม้จะไม่มีร่องรอยของเทียนหยุน ด้วยความสามารถของเขาคงก้าวมาหาได้ในพริบตา!
ตอนนั้นหวังหลินสับสนงุนงงเรื่องนี้มาตลอด เขาอ่อนแอจนคิดมากเกินไป แต่ตอนนี้เขาก็ถือว่าเป็นเซียนที่ทรงพลังด้วยเช่นเดียวกัน เขาไม่เห็นว่าระหว่างหลิงเทียนโฮวและเทียนหยุนจะแตกต่างอะไร!
หลิงเทียนโฮวแข็งแกร่งกว่าบรรพชนโลหิต แต่เมื่อเทียบกับปรมาจารย์จงเฉิน ฉิงชุ่ยและคนอื่นๆ เขาถือว่าอ่อนแอกว่ามาก คงไม่เข้าท่าที่จะบอกว่าความแตกต่างระหว่างเซียนกระบี่กับเทียนหยุนจะแตกต่างกันราวฟ้ากับเหว
อย่างไรก็ตามหลิงเทียนโฮวกล้าอยู่ตรงข้ามกับเทียนหยุนมาหมื่นปี หวังหลินงุนงงสับสนเรื่องนี้เป็นอย่างยิ่ง!
พอฟังน้ำเสียของเทียนหยุน ดูเหมือนเขาจะทนหลิงเทียนโฮวมาซ้ำแล้วซ้ำเล่า!
‘ระหว่างสองคนมีความลับอะไรกัน…’ หวังหลินนิ่งเงียบและสังเกตการณ์อย่างละเอียด
“เจ้าไม่ยึดถือตามข้อตกลง!” น้ำเสียงเทียนหยุนค่อยๆปรากฏขึ้นมา แม้จะบอกไม่ได้ว่าโกรธหรือยินดี วินาทีที่เสียงปรากฏขึ้น ท้องฟ้าที่ส่องสว่างพลันมืดมัว!
แสงอาทิตย์ที่ค่อยๆสาดส่องขึ้นมาจากทิศตะวันออกคล้ายกับจะโดนพลังอันแข็งแกร่งปิดบังจนมิด พริบตานั้นโลกก็มืดดำ!
หลิงเทียนโฮวสีหน้าเคร่งขรึมพลางโบกแขนเสื้อ กระบี่ดั้งเดิมด้านหลังแทงเข้าสู่ความว่างเปล่า ปลดปล่อยปราณกระบี่ทะลักออกมา!
“แล้วอย่างไรถ้าข้าไม่ยึดถือตามข้อตกลง? เทียนหยุน แม้เจ้าจะปล่อยชุดเทาออกมา คิดว่าข้าจะหวาดกลัวเจ้าหรือ?” หลิงเทียนโฮวพ่นลมหายใจเย็น จากนั้นแขนขวาสร้างผนึกชี้ใส่ปราณกระบี่ ปราณกระบี่แตกสลายและแพร่กระจายไปทั่วโลก
โลกส่องสว่างขึ้นอีกครั้งภายใต้ปราณกระบี่ ทำให้พื้นที่เบื้องหน้าดูเหมือนแดนสนธยา!
ชุดเทาปรากฏขึ้นบนเส้นขอบฟ้า เงาของเขาส่งสัมผัสแห่งความโดดเดี่ยวแต่ก็มีความโอหังแฝงอยู่ด้วย
เขาค่อยๆก้าวทีละก้าวเข้าหาหลิงเทียนโฮว
ยามที่หวังหลินเห็นเงาสีเทานี้ ความคิดสั่นสะท้าน เขาจำได้ว่าชุดเทาไม่ใช่ใครอื่นแต่เป็นเทียนหยุนชุดเทาที่สอนศาสตร์สังหารเทพให้!
เทียนหยุนชุดเทาดวงตาเยือกเย็นและมีสัมผัสความหยิ่งและโดดเดี่ยวอยู่ภายใน ก่อนที่เขาจะมาถึง พลันยกแขนขวาขึ้นคว้าใส่ความว่างเปล่า ความมืดมิดดูเหมือนจะเคลื่อนไหวรวมกันเข้าหาฝ่ามือ
ฉากเหตุการณ์นี้ประหลาดยิ่ง ความมืดมิดไม่ใช่หมอกควันที่จะเคลื่อนไหวได้ มันเป็นธรรมชาติของแสง แล้วจะรวมความมืดมิดได้อย่างไร?
อย่างไรตอนนี้หวังหลินก็เห็นได้ชัดว่าความมืดมิดนี้เคลื่อนไหวและรวมกันไป!
“ความสามารถในการดูดซับแสง!” แววตาหวังหลินเต็มไปด้วยความตื่นตะลึง
ความมืดมิดไร้ก้นบึ้งรวมกันในฝ่ามือเทียนหยุนชุดเทาและเปลี่ยนกลายเป็นกระบี่ดำกว้างเพียงหนึ่งนิ้ว เทียนหยุนชุดเทาไม่เสียเวลาพูดคุยกับหลิงเทียนโฮว เขาโบกสะบัดกระบี่เข้าโดยตรง
พลังสังหารเข้มข้นรวมกันในโลก ไม่ใช่เพียงเส้นเดียวแต่ถึงสิบสาย!
พลังสังหารเทพของจริงจำนวนสิบสาย! มันไม่ใช่พลังสังหารอันไม่สมบูรณ์แบบของหวังหลินที่เกิดจากการฝึกฝนศาสตร์สังหารเทพ มันคือเส้นพลังสังหารที่แท้จริงซึ่งเกิดขึ้นจากการสังหารเซียนมากกว่าหนึ่งล้าน!
หวังหลินจ้องมองเทียนหยุนชุดเทาและพลังสังหารสิบสายด้วยสีหน้ามืดมนยิ่ง อดคิดไม่ได้ว่าหากเขาไม่ตระหนักรู้ก่อนหน้านี้คงกลายเป็นพลังสังหารอีกเส้นให้แก่เทียนหยุนชุดเทา!
ขณะที่กำลังคิดเช่นนี้ ร่างหวังหลินสั่นเทาราวกับสายฟ้าแล่นผ่านความคิด ดวงตาส่องสว่างวาบราวกับตระหนักรู้อะไรบางอย่าง
‘เดี๋ยวนะ!’
‘ไม่ใช่ว่าเทียนหยุนไม่เคยผิดพลาดมาก่อน มีความหมายลึกซึ้งซ่อนอยู่เบื้องหลังตอนที่เขาสอนศาสตร์สังหารเทพให้ข้า มันคือสัญญาณแรกที่เขาทำไว้ ซึ่งคล้ายกับที่เขาทำกับป๋ายเว่ยจนมาถึงข้า!’
“เทียนหยุนในอดีตคือตัวตนที่สมบูรณ์แบบจนไม่มีข้อผิดพลาด! ทว่าในดินแดนวิญญาณปิศาจ เนื่องจากไปช่วยปิศาจโบราณ ข้าจึงสามารถหาข้อบ่งพร่องของศาสตร์สังหารเทพได้! ด้วยการช่วยเหลือของปิศาจโบราณ จึงทำให้ข้าเบี่ยงแผนของเทียนหยุนได้เล็กน้อย!”
“จากนั้นเจ้าเศษมารก็ปรากฏและขัดขวางแผนเขาอีก อีกทางหนึ่งข้าจึงสามารถมองเห็นเวรกรรมของศาสตร์สังหารเทพและตัดสินใจล้มเลิกพลังสังหารนั่น!”
“นี่เป็นครั้งแรกที่เทียนหยุนทำผิดพลาดตอนที่วางแผนใส่ข้า!” หวังหลินดวงตาส่องสว่างและรู้สึกเข้าใจตอนที่จ้องมองเทียนหยุนชุดเทา แม้จะฟังดูเชื่องช้าแต่ทั้งหมดผ่านแวบในความคิดชั่วครู่
“เทียนหยุนผิดพลาดไปแล้วครั้งนึงตอนที่วางแผนใส่ข้าซึ่งเป็นเหตุผลว่าแม้เขาจะคาดการณ์วันที่ข้ากลับมาได้ เขาก็ไม่สามารถคำนวณระดับบ่มเพาะที่แท้จริงของข้าได้!” หวังหลินดวงตาสงบนิ่งเย็นเยียบ สูดหายใจลึก แววตากระจ่างใส
“แม้ความผิดพลาดนั่นไม่ใช่เรื่องใหญ่ มันก็ถือเป็นความผิดพลาดของเทียนหยุน!”
“ตอนนี้เทียนหยุนไม่ใช่คนสมบูรณ์แบบที่ไม่มีวันผิด! ไม่ใช่หนทางที่ทำลายไม่ได้ เมื่อเขาผิดไปแล้วครั้งนึง เขาก็สามารถผิดครั้งที่สองได้!” หวังหลินดวงตาเย็นเยียบ
เทียนหยุนชุดเทายังคงสงบนิ่งแทบไม่แยแส พลังสังหารสิบสายเคลื่อนไหวด้วยความเร็วสูงเข้าหาหลิงเทียนโฮว
หลิงเทียนโฮวพ่นลมหายใจเย็น ยกแขนขึ้นร้องตะโกน “สังเวย ทะลวง ทำลาย! ทำลายรูปแบบที่สอง คมกระบี่บนแผ่นหลัง!” แขนขวาชูขึ้นชี้ใส่ท้องฟ้า จากนั้นกระบี่ดั้งเดิมด้านหลังหมุนวนอย่างรวดเร็วผสานกลายเป็นหนึ่ง
พริบตานั้นกระบี่ดั้งเดิมสี่เล่มผสานกลายเป็นหนึ่งและเรืองแสงหนักหน่วง เด็กชายอายุเจ็ดถึงแปดขวบก้าวเดินออกมาจากปราณกระบี่อย่างไม่คาดคิด โดยที่มีกระบี่ม่วงอยู่บนหลัง!
รูปร่างกระบี่นั้นประหลาดยิ่ง มันโค้งมนเหมือนอสรพิษ! ปราณกระบี่สวรรค์อันทรงพลังถูกปล่อยออกมาจากกระบี่และก่อตัวเป็นรูปมังกรเลือนลาง
วินาทีที่หวังหลินเห็นกระบี่โค้งมนเล่มนี้ ดวงตาส่องสว่างขึ้น
“กระบี่สวรรค์พิรุณ!” หวังหลินมองกระบี่เล่มนั้นและจดจำได้ทันทีว่ามันคือกระบี่สวรรค์พิรุณ กระบี่สวรรค์พิรุณถูกแบ่งออกเป็นสี่เล่ม สองเล่มถูกขโมยไป ซึ่งกระบี่สวรรค์พิรุณคดเคี้ยวเล่มนี้ถูกหลิงเทียนโฮวเอาไปหนึ่งเล่ม!
เด็กคนนั้นก้าวออกมาเผชิญกับเทียนหยุนชุดเทา หลิงเทียนโฮวสร้างผนึกและชี้ออกไป เด็กชายลืมตาขึ้นส่งสายตาไม่เป็นมิตร
ร่างเด็กชายเคลื่อนไหว กระบี่สวรรค์พิรุณก็พุ่งออกไปเข้าใส่พลังสังหารสิบสายที่เทียนหยุนส่งออกมา
กระบี่สวรรค์พิรุณเรืองแสงสว่าง อสรพิษยักษ์ปรากฏตัวร้องคำรามพร้อมกับปล่อยลมหายใจ สายลมรุนแรงกวาดผ่านไปข้างหน้า
เทียนหยุนชุดเทายังคงไม่แยแสขณะที่พลังสังหารสิบสายปะทะเข้ากับพายุที่อสรพิษพ่นออกมา ขณะที่ทั้งสองปะทะกันจึงเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างไม่คาดคิดจนทำให้สีหน้าหวังหลินเปลี่ยนไป
เกิดแสงสีดำกระพริบวาบ พลังสังหารสิบสายเปลี่ยนกลายเป็นสิบร่าง มีทั้งชายและหญิง แก่และเยาว์วัย ทั้งสิบมีสายตาดุร้ายและแดงฉาน พวกเขาพุ่งเข้าใส่พายุด้วยจิตสังหารเข้มข้นมหาศาล
นอกจากนี้ยังมีพลังสังหารนับไม่ถ้วนพุ่งออกมา แต่ละร่างปลดปล่อยพลังสังหารอย่างน้อยก็หนึ่งล้านสาย
เป็นผลให้พลังสังหารในอากาศมีจำนวนน่าตกตะลึง
มองระยะไกล ท้องฟ้าจะถูกปกคลุมสิ้น ไม่ว่าจะมองไปทางไหนมันก็คือพลังสังหาร!
เส้นสายพลังสังหารหวีดหวิว วินาทีนี้กลิ่นอายและเสียงทั้งหมดถูกขับไล่ออกไป สิ่งเดียวที่เหลืออยู่คือเสียงหวีดหวิวของพลังสังหารและความตกตะลึงที่ปล่อยออกมา
หวังหลินใบหน้าซีดเล็กน้อย ดวงตาส่องสว่างขึ้น ย่างเท้ากลับหลัง เขาเข้าใจพลังสังหารเป็นอย่างดี พลังอำนาจของพลังสังหารมากมายพวกนี้ถือว่าน่าตกตะลึงยิ่ง!