ตอนที่ 1018 สภาสูงสุด
ข้ารับใช้ที่อยู่ภายในวังของหลัวเฟิงบนเกาะสายฟ้าเป็นระดับห้วงมิติที่ถูกคัดเลือกมาอย่างระมัดระวังทั้ง 12 คน ตระกูลหลัวถูกยกระดับเป็นตระกูลชั้นยอด ด้วยทรัพยากรจำนวนมหาศาล ด้วยสมาชิกที่เข้ารับระบบการฝึกฝน กลายเป็นกลุ่มระดับห้วงมิติขนาดใหญ่ การเป็นระดับห้วงมิติทำได้ง่ายๆ ของเพียงแค่มีทรัพยากรเพียงพอ
สองระดับห้วงมิติทำการทักทายหลัวเฟิงตามทางเดิน
“ผู้นำตระกูล”
“ผู้นำตระกูล”
สายตาของระดับห้วงมิติเปล่งประกายเมื่อมองที่หลัวเฟิง พวกเขาเต็มไปด้วยความเคารพบูชาหลัวเฟิง
“เจ้าออกไปก่อน” หลัวเฟิงเดินออกจากทางเดิน ไปยังลานกว้างตรงหน้าผา
“ครับ” ทั้งสองคนเดินออกไป
หลัวเฟิงมองไปยังเงาที่บินเข้ามาหาเขา เงานั้นคืออัศวินทรูหยัน
“อาจารย์” หลัวเฟิงส่งเสียงเรียกและยิ้ม
“หลัวเฟิง” ทรูหยันบินลงมาที่หิน
“อาจารย์เชิญนั่งก่อน” หลัวเฟิงเดินตามมาข้างๆ ทรูหยัน
มีศาลาหินที่มีโต๊ะและเก้าอี้ทำจากหินอันสวยงามอยู่หลายแห่งในพื้นที่ หลัวเฟิงนั่งหันหน้าเข้าหาทรูหยัน
“เจ้ามานี้ทันทีหลังจากที่ได้รับจดหมาย เจ้าเป็นศิษย์ที่ดีจริงๆ” ทรูหยันกล่าว
“ข้าควรที่จะเคารพอาจารย์”
“หยุดแสดง ข้ารู้ว่าเจ้าต้องการรู้เกี่ยวกับปฏิกิริยาของอัศวินอื่นเป็นยังไง หรือว่าไม่?” ทรูหยันกล่าว
“อาจารย์ช่างเข้าใจจริงๆ” หลัวเฟิงตอบ
มันเป็นเวลาสองวันมาแล้วที่หลัวเฟิงได้ต่อสู้กับจักรพรรดิกระจกเงา บันทึกภาพการต่อสู้ได้ถูกส่งต่อไปทั่วเผ่าพันธุ์มนุษย์ มีอัศวินจำนวนมากได้ดูมัน มันจะต้องมีปฏิกิริยาจำนวนมากกับอัศวินที่แสดงความไม่พอใจก่อนหน้านี้ ต้องมีอัศวินจำนวนมากได้แสดงความประหลาดใจ ทำให้หลัวเฟิงยินดีกับที่เขาคาดไว้ หลัวเฟิงอยากจะเห็นหน้าตาของอัศวินเหล่านั้น
“ฮ่า ฮ่า ข้ารู้ มันไม่มีฝนที่ไม่เคยตก เจ้าได้แสดงภาพการฆ่าจักรพรรดิกระจกเงา…”
หลัวเฟิงหัวเราะด้วย
“อัศวินเหล่านั้นประหลาดใจตามที่เจ้าคาดเอาไว้ ถึงจะไม่รู้เกี่ยวกับคนอื่น แต่เพื่อนของข้าที่ใช้ให้ข้ามาบอกเจ้าต้องการขอโทษเจ้า”
“ขอโทษอะไร” หลัวเฟิงสับสนเล็กๆ
“เจ้าได้พิสูจน์ว่ามีพลังระดับอัศวินชั้นกลางด้วยการฆ่าจักรพรรดิกระจกเงา” มีความประหลาดใจในน้ำเสียงทรูหยัน
“เจ้ามีพลังมากตั้งแต่ระดับอมตะ อัศวินต้องการพบเจ้า เพราะในวันนึงเจ้าจะต้องกลายเป็นเจ้าแห่งจักรวาลได้อย่างแน่นอน ไม่มีอัศวินคนไหนต้องการเป็นศัตรูกับเจ้า”
หลัวเฟิงพยักหน้า
เมื่อเจ้าอ่อนแอ เจ้าก็จะโดนดูถูก แต่เมื่อเจ้าแข็งแกร่งพอๆ กับพวกเขาหรือมากกว่า พวกเขาก็จะต้องการขอโทษและพยายามผูกมิตรกับเจ้า
“ข้าได้รับจดหมายแสดงความยินดีมาบ้างในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาจำนวนมากมาจากอัศวิน” หลัวเฟิงกล่าว
คนที่มีความใกล้ชิดกับหลัวเฟิงก็จะส่งจดหมายแสดงความยินดีในทันที
อัศวินอวกาศบางคนที่ไม่เคยพบเจอหลัวเฟิงก็จะบอกว่าจะมาเยี่ยมในอีกสองสามวันต่อมา แน่นอนว่ายังคงมีอัศวินที่ยังไม่สามารถเปลี่ยนความคิดในทันที คนเหล่านั้นเป็นพวกแสดงความไม่พอใจออกมามากที่สุด
“พบพวกเขาและเป็นเพื่อนให้มากที่สุด” ทรูหยันยิ้ม
“ข้าจะอยู่ที่นี่อีกสองวัน อัศวินที่ทรงพลังบางคนไม่ได้ให้ความสนใจข้า แต่เขาให้ความสำคัญกับเจ้าเป็นอย่างมาก ข้าจะใช้ประโยชน์จากสิ่งนั้น” ทรูหยันกล่าว
“เป็นเกียรติที่มีประโยชน์กับอาจารย์” หลัวเฟิงยิ้ม
———-
ที่วังของหลัวเฟิงเต็มไปด้วยชีวิตชีวา อัศวินหลายคนได้มาเยี่ยมเขาที่วัง
เมื่อข่าวการฆ่าจักรพรรดิกระจกเงาถูกกระจายผ่านสาธารณะ ทำให้หลัวเฟิงเข้าไปอยู่ในกลุ่มผู้มีพลังระดับอัศวิน สิ่งมีชีวิตยิ่งใหญ่มักให้ความสำคัญกับพลังของพวกเขา แม้ว่าหลัวเฟิงจะให้ความสำคัญกับเผ่าพันธุ์ และอัศวินในเผ่าพันธุ์ก็อยากรู้จักเขามากขึ้น สำหรับพวกเขา หลัวเฟิง เป็นผู้มีพรสวรรค์และยังถือว่าเป็นสิ่งมีชีวิตที่ยิ่งใหญ่ เขาอาจจะแข็งแกร่งยิ่งขึ้นไปอีกในอนาคต มีแนวโน้มที่เขาจะได้กลายเป็นเสาหลักของเผ่าพันธุ์
หลัวเฟิงพึมพำ ขณะที่กำลังมอบไปรอบๆ อัศวินและผู้นำจักรวรรดิจักรวาลได้มาหาเขาในช่วงไม่กี่วัน ทั้งหมดที่เขานับได้คือ 163 คน
“ผู้นำตระกูลช่างยิ่งใหญ่” สองระดับห้วงมิติสื่อสารผ่านจิตด้วยความตื่นเต้น พวกเขาได้พบกับผู้นำจักรวรรดิจักรวาลและอัศวินผู้เป็นตำนาน พวกเขาถือเป็นตัวตนที่แม้กับอมตะก็ไม่อาจที่จะได้พบเห็นได้
หลัวเฟิง ทรูหยัน และ ผู้นำจักรวาล 9 เพลิงกำลังพูดคุยกันเสียงดัง
หลัวเฟิงหันไปหาแสงที่บินตรงเข้ามาที่พวกเขา
ผู้นำจักรวาล 9 เพลิงก็หันกลับไปเช่นกัน “อัศวินอีกหนึ่ง?”
ชายสวมชุดคลุมที่ลุกเป็นไฟปรากฎตัว เขาแสดงรอยยิ้มที่ลึกลับและทรงเสน่ห์
ทรูหยันยืนขึ้น “อัศวินกุยยี่”
“อัศวินกุยยี่” ผู้นำจักรวาล 9 เพลิงทำการยืนขึ้นเพื่อทักทายเขา
“ศิษย์พี่” หลัวเฟิงเดินออกไป
อัศวินกุยยี่เป็นศิษย์คนที่สองของผู้นำเมือง เขาได้ทำการรับใช้ผู้นำเมืองมาโดยตลอด ทำให้เขาเป็นหนึ่งในคนที่ใกล้ชิดกับผู้นำเมืองที่สุด ตำนานพลังของเขานั้นเล็กๆ แต่ก็ทำให้ผู้คนต้องประหลาดใจได้ เขาเป็นเหมือนกับปากและลิ้นของผู้นำเมืองที่จะส่งข้อความตามคำสั่ง
“ที่นี่ดูมีชีวิตชีวาดี” อัศวินกุยยี่มองมาที่ผู้นำจักรวาล 9 เพลิง
“ผู้นำจักรวาล 9 เพลิง ข้าคงไม่ได้มาขัดจังหวะการสนทนาของเจ้าใช่ไหม”
“ไม่เลย หลัวเฟิง ทรูหยัน และข้ากำลังคุยกันสบายๆ”
อัศวินกุยยี่พยักหน้าและยิ้ม “ดี ข้ามีเรื่องสำคัญมาส่ง”
“ศิษย์น้อง ข้ามาตามคำสั่ง อาจารย์ให้มาบอกให้เจ้าทราบ เจ้าได้สิทธิ์เข้าร่วมกับสภาสูงสุดของเผ่าพันธุ์เรา และอนุญาติให้เจ้าเข้าร่วมได้นับจากนี้ไป” อัศวินกุยยี่กล่าว
“สภาสูงสุด” หลัวเฟิงตื่นเต้น
ในที่สุดเขาก็ถูกยอมรับจากผู้อาวุโสจากเผ่าพันธุ์มนุษย์
ทรูหยันยิ้ม “ยินดีด้วยหลัวเฟิง”
“อาจารย์และศิษย์ทั้งคู่ได้เข้าร่วมสภาสูงสุดด้วยกัน ฮ่า ฮ่า มันเป็นเรื่องราวที่ยอดเยี่ยมที่จะบอกกับเผ่าพันธุ์ของเรา” ผู้นำจักรวาล 9 เพลิงกล่าว
“ศิษย์น้อง เจ้าได้เข้าร่วมกับสภาสูงสุด แต่การประชุมก็ไม่ค่อยได้เกิดขึ้น ทุกครั้งที่มีการประชุมจะมีความสำคัญต่อเผ่าพันธุ์มนุษย์เรา”
“เท่าที่ข้ารู้ การประชุมสภาสูงสุดจะมาในไม่ช้า ระบบจักรวาลเสมือนควรจะแจ้งเตือนให้เร็วๆ นี้”
ตาหลัวเฟิงเป็นประกาย “เร็วๆ นี้?”
“ใช่”
“ใช่ การประชุมครั้งนี้มีความสำคัญมาก” ผู้นำจักรวาล 9 เพลิงเคร่งขรึม
“มันเกี่ยวกับอะไร” หลัวเฟิงถาม
“มันจะถูกจัดขึ้นไปเร็วๆ นี้ เจ้าจะได้รู้รายละเอียดเกี่ยวกับมันทั้งหมด ข้าคิดว่ามันอาจไม่เกี่ยวกับเรื่องพิเศษใดๆ ก็ได้” ผู้นำจักรวาล 9 เพลิงกล่าว
อัศวินกุยยี่และผู้นำจักรวรรดิจักรวาล 9 เพลิงได้ออกไปโดยที่ไม่ได้บอกรายละเอียดของการประชุมสภาสูงสุด หลัวเฟิงและทรูหยันก็ไม่ถามอะไรเพิ่มเติม เพราะมันกำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตอันสั้น
“ข้อความจากโลกแห่งเกียรติ” หลัวเฟิงกล่าว
หลัวเฟิงนำจิตสำนึกออกจากจักรวาลเสมือนไปโลกแห่งเกียรติ เขาได้รับข้อความบางส่วนจากผู้สืบทอดพันธมิตรหง บางส่วนก็มาจากโลกแห่งเกียรติ
“จักรพรรดิดาบสายน้ำ เจ้าเป็นผู้สืบทอดพิเศษของโรงเรียนเทพอสูรบรรพกาล เจ้าได้พิสูจน์พลังของเจ้า และได้รับความสนใจต่อสัตว์เทพของโรงเรียนเทพอสูรบรรพกาล ในอนาคตอันใกล้สัตว์เทพสายฟ้าจะมามอบของมีค่าให้กับเจ้าในที่สาธารณะบนเกาะโบฮีเนียล”
หลัวเฟิงสับสนกับข้อความ สัตว์เทพสายฟ้าต้องการมอบของมีค่าให้กับเขา แต่ทำไมต้องในที่สาธารณะ
“จำได้ว่าจักรพรรดิกระจกเงาไม่ได้รับมอบสมบัติอะไร มีเพียงจักรพรรดิซูเชียวที่ได้รับมอบสมบัติเป็นการส่วนตัวจากสัตว์เทพ”
หลัวเฟิงตื่นเต้นไปกับข่าวใหม่ทั้งสองที่เขาได้พบ