Skip to content

Swallowed Star 102

ตอนที่ 102 ผู้ที่มา

ในโรงฝึกอันว่างเปล่าชั้นที่ 6 ของที่ทำการสมาคมขีดสุด

หลัวเฟิงเปิดเครื่องทดสอบพลังหมัดและหน้าจอแสดงผลก็สว่างขึ้น

“เราจะชกโดยยังไม่ต้องใช้เทคนิค ‘ดาบสายฟ้า 9 ขั้น’ ก่อน ใช้แค่พลังหมัดธรรมดาเท่านั้น”

หลัวเฟิงควบคุมลมหายใจ หลังจากนั้น ราวกับกอริลล่าคลั่ง แขนขวาและไหล่ของเขาทิ้งไปข้างหน้าและหมดของเขาก็พุ่งทะยานเป็นเส้นโค้ง

ปัง!

เสียงปะทะดังลั่นและพลังหมัดนั่นก็ทำให้เครื่องสั่นสะเทือนไปเล็กน้อย พลังงานหมัดของเขาแสดงผลอยู่ที่…9,981 กิโลกรัม

“โอ้ เพิ่มขึ้นมากทีเดียว” หลัวเฟิงมองดูที่ตัวเลขแล้วอดยิ้มออกมาไม่ได้ “ครั้งก่อนอยูที่ 6,121 กิโลกรัม เพิ่มขึ้นตั้ง 3,000 กิโลกรัม”

อันที่จริง ตัวเลขนี้หลัวเฟิงก็พอจะคาดเดาเอาไว้แล้ว เพราะโดยปกติ หลังจากที่ฝึกหนักแบบเสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย ความแข็งแกร่งจะเพิ่มขึ้นอย่างไม่ธรรมดาอยู่แล้ว

ดังนั้น ช่วงเวลานับเดือนที่หลัวเฟิงอยู่ในเมือง 003 เขาถึงพัฒนาขึ้นเร็วอย่างมาก

และอีก 2 เดือนที่เขาอยู่บ้าน เนื่องจากเขาสำเร็จขั้นที่ 3 ของวิชา ‘ดาบสายฟ้า 9 ขั้น’ แล้วก่อนที่จะกลับบ้าน อัตราการพัฒนาของเขาจึงพุ่งทะยานยิ่งกว่าเมื่อก่อนเสียอีก

ด้วยเวลา 3 เดือนนี้ ความแข็งแกร่งของเขาจึงเพิ่มขึ้นอย่างมากทีเดียว

“ตามการประเมินสมรรถภาพทางร่างกาย ระดับ 4,000-8,000 กิโลกรัม แสดงถึงระดับนักรบขั้นสูง! ส่วน 8,000-16,000 กิโลกรัม แสดงถึงระดับแม่ทัพขั้นต้น! กล่าวคือ สมรรถภาพทางร่างกายของเราตอนนี้อยู่ในระดับแม่ทัพขั้นต้น”

หลัวเฟิงยิ้มขณะที่เตรียมตั้งท่า

ตอนนี้ หลัวเฟิงกำลังเตรียมจะใช้วิชา ‘ดาบสายฟ้า 9 ขั้น’ แต่น่าเสียดายอยู่อย่าง ถึงแม้ว่าเขาจะซื้อขั้นที่ 4 มาแล้วและฝึกไปเป็นเวลา 2 เดือน แต่เขาก็ยังไม่สามารถฝึกมันได้สำเร็จไม่ว่าเขาจะทำยังไงก็ตาม อย่างมากสุด เขายังแค่ควบคุมพลังของเขาได้แม่นยำขึ้นเท่านั้น

“ฮู่ว์!”

หลัวเฟิงพ่นลมออกมาทางปากราวกับลูกธนูและหมัดขวาของเขาก็พุ่งตรงแหวกอากาศ ทำให้เกิดเสียงดังสนั่นขึ้นมาทันที ผลคือ เกิดโซนิคบูมอันน่ากลัวด้วยความเร็วขีดสุดนั้น…ราวกับค้อนเหล็กที่หวดทุบเข้าใส่เครื่องทดสอบอย่างรุนแรง

ตูมมมม…

เครื่องทดสอบสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงก่อนจะหยุดสนิทลง

“รู้สึกดีจริงแฮะ” หลัวเฟิงมองไปยังหน้าจอแสดงผล

หน้าจอแสดงผลหยุดชะงักเล็กน้อยก่อนจะแสดงตัวเลข…28,081 กิโลกรัม

“ฮึ่มมม… 2.8 เท่า ของ 9,981 ก็ราวๆ…” หลัวเฟิงคำนวณอยู่ในใจ “ราวๆ 27,947 ดังนั้น ถ้าต่อยได้ 28,000 กิโลกรัม ก็ถือว่าใช้ได้ทีเดียว”

หลัวเฟิงค่อนข้างพอใจกับตัวเลขนี้ทีเดียว 28,000 กิโลกรัม หนักไม่ใช่เล่นเลย

นั่นหมายถึงพลังหมัดที่หนักถึง 28 ตัน! แม้แต่รถบรรทุกยังหนักแค่ไม่กี่ตัน ดังนั้น จินตนาการได้ว่าหมัดนี้หนักขนาดไหน

ตามเกณฑ์ประเมินสมรรถภาพทางร่างกาย 16,000-32,000 กิโลกรัมถือว่าเข้าถึงระดับของแม่ทัพขั้นกลางแล้ว แต่อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเป็นแม่ทัพขั้นกลางเหมือนกัน แต่ 16,000 กิโลกรัมกับแม่ทัพขั้นกลางที่คุณสมบัติสูงถือว่ามีความแตกต่างกันมากๆ

ถ้าหลัวเฟิงเหวี่ยงดาบด้วยพลังนี้ เขาจะถูกพิจารณาว่าเป็นแม่ทัพขั้นกลางทันที

…………

ในฐานะอาจารย์ใหญ่แห่งที่ทำการสมาคมขีดสุด อูทงมักจะมาที่ที่ทำการอยู่เสมอๆ

“โซนิคบูมเหรอ?”

อูทงกำลังอยู่ในห้องเงียบสนิทบนชั้นที่ 5 ทันใดนั้น เสียงโซนิคบูมดังสนั่นทำให้เขากระโดดโหยงขึ้นด้วยความประหลาดใจ

“จอมพลังจากที่ไหนมาทำโซนิคบูมอยู่แถวนี้?”

อูทงพุ่งทะยานกลายเป็นเงาและตรงขึ้นไปยังชั้น 6

…โรงฝึกบนชั้นที่ 6 ว่างเปล่าอยู่ตลอด มีเพียงคนๆ เดียวอยู่ที่นี่…หลัวเฟิง!

ในขณะนั้น หลัวเฟิงยังคงยืนนิ่งคิดคำนวณระดับพลังของเขาอยู่ที่หน้าเครื่องทดสอบ

“หือ?” หลัวเฟิงหันกลับหลังมา “อาอู”

“บ้าไปแล้ว…เจ้าหนู นายเหรอเนี่ยที่ทำโซนิคบูม? ไหนมาดูซิพลังหมัดได้เท่าไหร่” อูทงประหลาดใจสุดๆ ก่อนจะเดินตรงมายังหลัวเฟิง แต่พอเขาจ้องไปยังหน้าจอแสดงผลของเครื่อง เขาก็ถึงกับตัวแข็งทื่อ “28,081 กิโลกรัม?”

อูทงมองหน้าหลัวเฟิงราวกับว่าเขากลายเป็นสัตว์ประหลาดไปซะแล้ว “พลังนายเหรอเนี่ย?”

“จะใครได้ล่ะครับ?” หลัวเฟิงหัวเราะ “แต่สมรรถภาพร่างกายของผมยังไม่ได้แกร่งมากนัก”

“วิชาดาบสายฟ้า 9 ขั้นงั้นเหรอ?” อูทงเดาในทันที เขารู้มานานแล้วว่าหลัวเฟิงซื้อวิชาดาบสายฟ้า 9 ขั้นมาฝึก แต่นักสู้จำนวนมากไม่เลือกซื้อวิชานี้มาฝึกแม้ว่าพวกเขาจะมีเงินมากพอ เพราะว่าแค่ขั้นที่ 1 ของวิชานี้ก็มีน้อยคนนักที่จะฝึกสำเร็จได้

“ถึงนายจะซื้อวิชาดาบสายฟ้า 9 ขั้น ก็ไม่น่าจะระเบิดพลังอะไรขนาดนี้ พลังหมัดแบบธรรมดาของนายอยู่เท่าไหร่? แล้วนายฝึกสำเร็จวิชาดาบสายฟ้า 9 ขั้น ไปถึงขั้นไหนแล้ว?” อูทงร่ายคำถามยาว

หลัวเฟิงยิ้มตอบ “พลังหมัดผมแบบธรรมดาจะอยู่ประมาณ 10,000 กิโลกรัม และผมก็สำเร็จขั้นที่ 3 ของวิชาดาบสายฟ้า 9 ขั้นแล้ว แต่ไม่ว่าผมจะฝึกต่อยังไง ผมก็ยังสำเร็จขั้นที่ 4 ไม่ได้อยู่ดี”

หลัวเฟิงไม่ได้กะจะปิดบังเรื่องนี้ เพราะว่าพลังของเขาถูกจับตามองอยู่ตลอดอยู่แล้ว

ถ้าให้ความพิเศษกับบางเรื่อง เขาก็จะได้รับผลประโยชน์จากสิ่งนั้น

สำหรับสถานะนักอ่านจิต หลัวเฟิงไม่ต้องการเปิดเผยมัน ถึงแม้จะเป็นก่อนที่อีแร้งและแมงป่องพิษจะเริ่มทำการตามล่าผู้ร้ายโดยการตั้งค่าหัวอันมหาศาล เขาเองก็ไม่ต้องการเปิดเผยเรื่องนี้อยู่แล้ว…เพราะว่าทั่วทั้งโลก นักอ่านจิตเป็นสิ่งที่หาได้ยากมาก การปรากฎตัวครั้งหนึ่งของนักอ่านจิตจะทำให้เกิดเรื่องวุ่นวายมากมายทีเดียว

“บ้าไปแล้ว นายมันบ้าไปแล้ว สัตว์ประหลาดชัดๆ” อูทงอดทุบไหล่ของหลัวเฟิงเสียไม่ได้ “ฉันรู้ดีว่านายมีพรสวรรค์ เพราะฉันเป็นคนดึงนายมาเข้าร่วมกับสำนักขีดสุด ถึงแม้ว่าสมรรถภาพร่างกายนายจะอยู่ในระดับ ‘แม่ทัพขั้นต้น’ นั่นก็น่าอัศจรรย์แล้ว ฉันจะไม่ประหลาดใจเลย เพราะก็ยังมีคนอื่นๆ ที่เติบโตเร็วกว่านายอยู่บ้าง…แต่ นายสำเร็จขั้นที่ 3 ของวิชาดาบสายฟ้า 9 ขั้นได้ภายในไม่ถึงครึ่งปีเนี่ย! นี่มันบ้าจริงๆ สัตว์ประหลาดชัดๆ!”

มีคนมีพรสวรรค์อยู่ทุกๆ ที่ มีคนอีกจำนวนมากมายที่มีสมรรถภาพร่างกายที่เติบโตเร็วมาก! อย่างเช่น ระหว่างช่วงไม่กี่ปีของยุคมหานิพพาน ยอดนักสู้สุดแกร่ง อาจารย์หง และอันดับสองอย่าง เทพสายฟ้า ก็ยังกลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่เหนือเทพสงคราม ในเพียงแค่ไม่กี่ปีนั้น พวกเขาเติบโตขึ้นมหาศาล กระทั่งบินได้เลยด้วยซ้ำ!

ลองนึกดูว่าจะมีอัจฉริยะซักกี่คนในโลกนี้! แต่อย่างไรก็ตามวิชาดาบสายฟ้า 9 ขั้นนั้น มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับสมรรถภาพร่างกายแต่อย่างใด

ระดับสมรรถภาพร่างกายของหลัวเฟิงพุ่งขึ้นเร็วมาก และเขาก็สามารถสำเร็จขั้นที่ 3 ของวิชาดาบสายฟ้า 9 ขั้นได้ด้วย เขาเป็นสัตว์ประหลาดชัดๆ มีสัตว์ประหลาดเช่นนี้เพียงแค่ 1-2 คนเท่านั้นที่จะเกิดขึ้นในรอบหลายปีทั่วทั้งโลก

“เร็วเข้า ทดสอบความเร็วของนายให้ดูหน่อย” อูทงปราดเข้าไปเปิดเครื่องทดสอบความเร็วให้หลัวเฟิงทันที

หลัวเฟิงหัวเราะ

วูบ!

ร่างกายของเขาพุ่งทะยานราวกับลูกธนูที่พุ่งออกจากคันธนูและหยุดลงหลังจากนั้นแค่อึดใจเดียว

หน้าจอแสดงผลแสดงตัวเลข…128 เมตรต่อวินาที

“ไม่เลวเลย อยู่ในระดับแม่ทัพขั้นต้นทีเดียว” อูทงยิ้มพลางพยักหน้า

หลัวเฟิงพลอยดีใจด้วยเหมือนกัน

เขามีสมรรถภาพร่างกายเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด พลังของเขาจะยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องอีก! พลังอยู่ในขั้นดี แต่ความเร็ว…เมื่อพัฒนาไปมากขึ้น ความเร็วกลับกลายเป็นสิ่งที่เพิ่มขึ้นได้ยากกมากกว่าสิ่งอื่น

เพราะว่ายิ่งวิ่งเร็ว หลบเร็ว และกระโดดเร็วเพิ่มมากขึ้นเท่าไร ความต้านทานของอากาศก็จะยิ่งเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น! ยิ่งเร็วมากก็ยิ่งต้านมาก จึงเป็นสาเหตุที่ความเร็วเป็นสิ่งที่เพิ่มได้ยากกว่าทักษะด้านอื่น

“ความเร็ว 128 เมตรต่อวินาที พลังหมัด 10,000 กิโลกรัม ถ้าใช้วิชาดาบสายฟ้า 9 ขั้น พลังหมัดจะอยู่ที่ราวๆ 28,000 กิโลกรัม และปฏิกิริยาโต้ตอบของผมที่ลองทดสอบแล้วอยู่ในเกรด ‘สุดยอด’ ของระดับ ‘แม่ทัพขั้นกลาง’ ”

หลัวเฟิงทดสอบปฏิกิริยาโต้ตอบอยู่บ่อยครั้ง เขาจึงค่อนข้างชัดเจนเรื่องนี้อยู่แล้ว

ด้วยเทคนิคประณีตและความรู้เรื่อง ‘ระดับสมบูรณ์แบบ’ ความสามารถในการหลบหลีกของหลัวเฟิงจึงน่าทึ่งมากทีเดียว

ขณะที่หลัวเฟิงกับอูทงกำลังสนทนากัน…

ณ สนามบินที่เขตหลักแห่งนครเจียงหนาน

สนามบินเป็นคำศัพท์ที่ไม่คุ้นเคยมาก

ตั้งแต่ยุคมหานิพพาน สัตว์ประหลาดที่บินได้มีเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมหาศาล การยกระดับการบินเพิ่มขึ้นไม่รู้กี่ครั้ง ราคาของการโดยสารทางเครื่องบินนั้นเพิ่มขึ้นกว่าเมื่อก่อนยุคมหานิพพานมาก ดังนั้น สิ่งที่เรียกว่า ‘เครื่องบิน’ จึงเป็นอะไรที่ไม่เกี่ยวข้องกับคนส่วนใหญ่เลย

จริงๆ แล้วเครื่องบินพาณิชย์ยังคงหลงเหลืออยู่ แต่ราคาตั๋วแบบธรรมดานั้นก็แพงหูฉี่แล้ว! ขนาดคนที่รวยๆ ยังทำใจซื้อตั๋วเครื่องบินไม่ไหวเลย

ในพื้นที่สำหรับรอเครื่องบิน ประธานของสำนักงานใหญ่สำนักขีดจุดและผู้รับผิดชอบรองจากเขาอีก 3 คน ‘บิ๊กโฟร์’ แห่งสำนักขีดสุดนครเจียงหนานกำลังรออะไรซักอย่างอยู่…

“เขามาแล้ว!” จูเก่อเทายิ้มขณะที่มองไปยังท้องฟ้า

วูบ!

เงาทะมึนปรากฏโฉมขึ้นบนท้องฟ้าเหนือสนามบินและค่อยๆ ช้าลง บินผ่านระบบป้องกันของเมืองเข้ามา หลังจากนั้นก็ลดเพดานบินลง มันคือเครื่องบินพาณิชย์ลำใหญ่สีน้ำเงินรูปทรง UFO เส้นผ่านศูนย์กลางราวๆ 30-40 เมตร สีน้ำเงินวาววับนั้นสะท้อนแสงสว่างจ้ากับดวงอาทิตย์…

ฝาปิดของอากาศยานลำนั้นเปิดออกและมีบันไดสไลด์ลงมา ทั้ง 4 คนที่รอคอยอยู่ก็ขยับเข้าไปยืนรอที่ด้านข้างของบันไดนั้น มีแต่พวกระดับยักษ์ใหญ่เท่านั้นที่มีสิทธิ์เข้าไปยืนรอที่ข้างบันไดนั้นได้ ซึ่งตอนนี้มีทั้งหมดอยู่ราวๆ 10 คนเห็นจะได้

ผู้โดยสารของยานลำนั้นกำลังเดินลงมาทางบันไดและแต่ละคนบนนั้นต่างมีสถานะพิเศษกันทุกคน

ต้องรู้ไว้ว่า…

ยานเช่นนี้เป็นสิ่งที่ปรากฏออกมาให้เห็นได้ยากมากๆ ในโลกนี้!

เมื่อมันกำลังบินอยู่ในอากาศ ยานลำนี้จะต้องรับรองความปลอดภัยให้กับผู้โดยสารอย่างดีเยี่ยม อย่างแรก พื้นผิววัสดุของยานลำนี้ใช้วัสดุชนิดเดียวกันกับชุดต่อสู้ชุด 9 และอาวุธชุด 9 ถึงแม้จะดูทรงเหมือนจานแบนๆ แต่ก็สามารถต้านทานการโจมตีจากสัตว์ประหลาดระดับจ่าฝูงได้อย่างสบายๆ! ในขณะเดียวกัน อากาศยานลำนี้ยังถูกติดตั้งปืนใหญ่คลื่นแม่เหล็กอันแพงมหาศาลเอาไว้ด้วย! ปืนใหญ่คลื่นแม่เหล็กนี้สามารถบดขยี้สัตว์ประหลาดระดับจักรพรรดิที่บังอาจบินโฉบเข้ามาใกล้ให้ย่อยยับได้ในเพียงชั่วพริบตาเดียว

ด้วยสิ่งเหล่านี้ ความปลอดภัยของผู้โดยสารจึงถูกรับประกันได้เป็นอย่างดี แต่ในขณะเดียวกัน ราคาของการผลิตก็พุ่งทะยานมากขึ้นเช่นกัน! ยกตัวอย่างเช่น ดาบปีศาจชุด 9 ราคาอยู่ที่ 3 พันล้าน ครึ่งราคาคือ 1.5 พันล้าน ที่ถูกที่สุดในปราสาทเทพสงครามก็จะอยู่ที่ 1 พันล้าน และราคาต้นทุนก็อยู่ราวๆ 800-900 ล้าน และถ้านับเฉพาะค่าวัสดุคือเหล็กโครห์นก็จะอยู่ที่ราวๆ 600 ล้าน

และวัสดุที่เป็นพื้นผิวด้านนอกของยานลำนี้ล้วนทำมาจากวัสดุอย่างที่ว่านั่น

เส้นผ่านศูนย์กลางของมันกว้างราวๆ 30-40 เมตร ถึงจะเป็นแค่พื้นผิวด้านนอก แต่ก็มีความหนาไม่ใช่เล่น ด้วยเหตุนี้จึงทำให้หนักถึงราวๆ 30 ตันได้ เพียงแค่ราคาเหล็กโครห์นอย่างเดียวก็น่าจะแตะหลักพันล้านหยวนไปแล้ว! และยังจะเพิ่มอีกหลายพันล้านเมื่อติดตั้งอุปกรณ์อื่นๆ และปืนใหญ่คลื่นแม่เหล็กเข้าไปอีก…

เครื่องบินพาณิชย์…แค่ราคาผลิตของมันก็ต่างกับยานในช่วงก่อนยุคมหานิพพานราวฟ้ากับเหวแล้ว

ยิ่งกว่านั้น อัตราภาษีของยานชนิดนี้ยังพุ่งกระฉูดอีกด้วย! แต่ละครั้งที่มันต้องเผชิญหน้ากับการโจมตีจากฝูงสัตว์ประหลาดบินได้ มันก็จะต้องใช้พลังงานมหาศาลในการต่อต้านกับสัตว์ประหลาดพวกนั้น

จึงเป็นสาเหตุว่าทำไมราคาตั๋วโดยสารถึงได้แพงนักหนา! คนรวยๆ ทั่วๆ ไปทำใจจ่ายค่าตั๋วเที่ยวบินเดียวไม่ได้ด้วยซ้ำ…

“สหายหยาง!” ประธานของสำนักงานใหญ่สำนักขีดสุดยิ้มขณะที่ส่งเสียงทักลั่น

ชายวัยกลางคนในชุดสีเทายิ้มตอบพร้อมกับเดินเข้ามา “มือเหล็ก…ฮ่า ไม่เจอกันซะนานเลย”

“สหายหยาง…นายมาตรวจดูพลังของหลัวเฟิงใช่ไหม? แม่ทัพขั้นต้นอายุ 19 ปี นับว่าไม่เลวเลย มีสิทธิ์เข้าฝึกฝนระดับพิเศษ ไปเถอะ เรื่องนี้เป็นเรื่องเล็ก พวกเราพี่น้องหาที่คุยกันก่อน เกือบ 8 ปีแล้วนะที่ไม่ได้เจอกัน” ประธานของสำนักงานใหญ่สำนักขีดสุดยิ้ม

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!